อพยพ 3:1-22
อพยพ 3:1-22 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
เยโธรพ่อตาของโมเสสเป็นนักบวชของชาวมีเดียน ครั้งหนึ่งเมื่อโมเสสกำลังเลี้ยงแกะของเยโธรอยู่ เขาต้อนแกะไปด้านหลังของที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้ง จนไปถึงภูเขาโฮเรบ ซึ่งเป็นภูเขาที่พระเจ้ามาปรากฏให้ประชาชนเห็น ทูตสวรรค์ของพระยาห์เวห์ได้มาปรากฏให้เขาเห็น ในเปลวไฟที่กำลังลุกไหม้กลางพุ่มไม้พุ่มหนึ่ง โมเสสเข้าไปดูใกล้ๆ เขาเห็นพุ่มไม้กำลังลุกไหม้เป็นไฟ แต่พุ่มไม้กลับไม่ถูกเผาแม้แต่น้อย โมเสสคิดในใจว่า “เราจะเข้าไปดูสิ่งมหัศจรรย์นี้สักหน่อยว่า ทำไมพุ่มไม้นี้ถึงไม่ไหม้ไฟ” เมื่อพระยาห์เวห์เห็นโมเสสกำลังเดินเข้ามาเพื่อดูใกล้ๆ พระองค์จึงเรียกเขาจากพุ่มไม้ว่า “โมเสส โมเสส” โมเสสจึงตอบว่า “ครับท่าน” พระองค์พูดว่า “อย่าเข้ามาใกล้เรามากกว่านี้ ถอดรองเท้าออกซะ เพราะเจ้ากำลังยืนอยู่บนพื้นดินที่ศักดิ์สิทธิ์” พระองค์พูดว่า “เราคือพระเจ้าของพ่อเจ้า พระเจ้าของอับราฮัม พระเจ้าของอิสอัคและพระเจ้าของยาโคบ” โมเสสปิดหน้าของเขาไว้เพราะกลัวที่จะมองดูพระเจ้า แต่พระยาห์เวห์พูดว่า “เราเห็นความทุกข์ยากของประชาชนของเราในอียิปต์ และเราก็ได้ยินเสียงร่ำร้องให้ช่วยเหลือให้พ้นจากผู้ที่กดขี่พวกเขา เรารับรู้ถึงความทุกข์ทรมานของพวกเขา เราจึงลงมาเพื่อช่วยเหลือพวกเขาให้พ้นจากเงื้อมมือของคนอียิปต์ และนำพวกเขาออกจากแผ่นดินนั้น ไปสู่แผ่นดินที่ดีและกว้างขวาง ไปสู่แผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ ไปยังดินแดนของชาวคานาอัน ชาวฮิตไทต์ ชาวอาโมไรต์ ชาวเปริสซี ชาวฮีไวต์ และชาวเยบุส ตอนนี้เราได้ยินเสียงร่ำร้องของลูกหลานของอิสราเอลแล้ว และได้เห็นพวกชาวอียิปต์กดขี่ข่มเหงพวกเขาด้วย ดังนั้นเจ้าจะต้องกลับไปที่นั่น เราจะส่งเจ้าไปหาฟาโรห์ เพื่อเจ้าจะได้นำคนของเรา คือพวกลูกหลานชาวอิสราเอลออกจากอียิปต์” โมเสสพูดกับพระเจ้าว่า “ข้าพเจ้าเป็นใครกัน ถึงบังอาจจะไปเข้าพบฟาโรห์ และนำลูกหลานอิสราเอลออกจากอียิปต์” พระเจ้าพูดกับเขาว่า “เจ้าควรไป เราจะอยู่กับเจ้า และนี่จะเป็นสิ่งที่พิสูจน์ว่า เราได้ส่งเจ้าไป คือเมื่อเจ้านำประชาชนออกมาจากอียิปต์แล้ว พวกเจ้าจะมานมัสการพระเจ้าบนภูเขาลูกนี้” โมเสสพูดกับพระเจ้าว่า “ถ้าข้าพเจ้าไปพบลูกหลานชาวอิสราเอลและบอกกับพวกเขาว่า ‘พระเจ้าของบรรพบุรุษพวกท่าน ได้ส่งผมมาช่วยพวกท่าน’ แล้วพวกเขาย้อนถามข้าพเจ้าว่า ‘พระองค์ชื่ออะไร’ แล้วจะให้ข้าพเจ้าตอบพวกเขาว่าอย่างไร” พระเจ้าตอบโมเสสว่า “เราเป็นผู้ที่เราเป็น” พระองค์พูดว่า “ให้บอกกับลูกหลานอิสราเอลว่า ‘เราเป็น ส่งผมมาหาพวกท่าน’” พระองค์พูดกับโมเสสอีกว่า “ให้บอกกับลูกหลานอิสราเอลว่า ‘พระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษพวกท่าน พระเจ้าของอับราฮัม พระเจ้าของอิสอัคและพระเจ้าของยาโคบ ส่งผมมาหาพวกท่าน’ ยาห์เวห์จะเป็นชื่อของเราตลอดไป คนทุกรุ่นจะรู้จักเราในชื่อนี้ ให้ไปและเรียกผู้อาวุโสชาวอิสราเอลมาประชุมกัน และบอกกับพวกเขาว่า ‘พระยาห์เวห์ พระเจ้าของบรรพบุรุษพวกท่านได้มาปรากฏกับผม พระเจ้าของอับราฮัม ของอิสอัค และของยาโคบ พูดว่า เราใส่ใจกับพวกเจ้าและสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเจ้าในอียิปต์ เราได้ตัดสินใจที่จะนำพวกเจ้าไปให้พ้นจากความทุกข์ยากในอียิปต์ ไปยังแผ่นดินของชาวคานาอัน ชาวฮิตไทต์ ชาวอาโมไรต์ ชาวเปริสซี ชาวฮีไวต์ และชาวเยบุส ไปยังแผ่นดินที่เต็มไปด้วยสิ่งดีๆมากมาย’ พวกเขาจะฟังเจ้า เจ้ากับพวกผู้อาวุโสอิสราเอลจะไปพบกษัตริย์ของอียิปต์ และพูดกับเขาว่า ‘พระยาห์เวห์ พระเจ้าของชาวฮีบรู ได้มาพบพวกข้าพเจ้า ตอนนี้ขออนุญาตให้พวกข้าพเจ้าเดินทางเป็นเวลาสามวัน เข้าไปยังที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้ง เพื่อฆ่าสัตว์บูชาให้กับพระยาห์เวห์ พระเจ้าของพวกข้าพเจ้าด้วยเถิด’ แต่เรารู้ว่ากษัตริย์อียิปต์จะไม่ยอมปล่อยพวกเจ้าไป นอกจากเขาจะถูกบังคับให้ต้องปล่อยพวกเจ้าไป เราจะยื่นมือของเราออกทำลายอียิปต์ ด้วยสิ่งมหัศจรรย์ทั้งหมดที่เราจะทำในแผ่นดินนั้น แล้วหลังจากนั้นเขาก็จะปล่อยพวกเจ้าไป เราจะทำให้คนอียิปต์มีเมตตาต่อคนอิสราเอล เพื่อว่าเมื่อพวกเจ้าจากไป จะได้ไม่ไปมือเปล่า พวกผู้หญิงแต่ละคนจะขอเงินทอง เครื่องเพชร และเสื้อผ้า จากเพื่อนบ้าน หรือคนที่อาศัยอยู่ในบ้านของพวกเขา พวกเจ้าจะเอาของพวกนี้ใส่ให้กับพวกลูกชายลูกสาวของพวกเจ้า จะเป็นการปล้นสะดมชาวอียิปต์ทางหนึ่ง”
อพยพ 3:1-22 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
ขณะโมเสสกำลังเลี้ยงฝูงแพะแกะของพ่อตาคือเยโธรผู้เป็นปุโรหิตของคนมีเดียน ท่านได้พาฝูงแพะแกะข้ามถิ่นทุรกันดาร จนมาถึงภูเขาของพระเจ้าคือ โฮเรบ ทูตของพระยาห์เวห์ก็ปรากฏแก่โมเสส เป็นเปลวไฟท่ามกลางพุ่มไม้ โมเสสมองดู เห็นพุ่มไม้นั้นมีไฟลุกโชนอยู่ แต่มิได้ไหม้ โมเสสจึงว่า “ข้าจะแวะเข้าไปดูสิ่งแปลกประหลาดนี้ ว่าทำไมพุ่มไม้จึงมิได้ไหม้” เมื่อพระยาห์เวห์ทอดพระเนตรเห็นท่านหันมาดู พระองค์จึงตรัสเรียกท่านจากพุ่มไม้นั้นว่า “โมเสส โมเสสเอ๋ย” โมเสสทูลตอบว่า “ข้าพระองค์อยู่ที่นี่” พระองค์ตรัสว่า “อย่าเข้ามาใกล้ที่นี่ ถอดรองเท้าของเจ้าออกเสีย เพราะว่าตรงที่เจ้ายืนอยู่นี้เป็นที่ศักดิ์สิทธิ์” แล้วพระองค์ตรัสอีกว่า “เราเป็นพระเจ้าของบิดาเจ้า เป็นพระเจ้าของอับราฮัม พระเจ้าของอิสอัค และพระเจ้าของยาโคบ” โมเสสปิดหน้าเพราะกลัว ไม่กล้ามองดูพระเจ้า พระยาห์เวห์ตรัสว่า “เราเห็นความทุกข์ของประชากรของเราที่อยู่ในอียิปต์แล้ว เราได้ยินเสียงร้องของพวกเขา เพราะการกดขี่ของพวกนายทาส เรารู้ถึงความทุกข์ร้อนต่างๆ ของเขา เราลงมาเพื่อจะช่วยเขาให้รอดจากมือชาวอียิปต์ และนำเขาออกจากแผ่นดินนั้น ไปยังแผ่นดินที่อุดม กว้างขวาง เป็นแผ่นดินที่มีน้ำนมและน้ำผึ้งไหลบริบูรณ์ คือไปยังที่อยู่ของคนคานาอัน คนฮิตไทต์ คนอาโมไรต์ คนเปริสซี คนฮีไวต์ และคนเยบุส บัดนี้เสียงร้องของชนชาติอิสราเอลมาถึงเราแล้ว ทั้งเราได้เห็นการบีบคั้นซึ่งคนอียิปต์ทำต่อพวกเขา และบัดนี้จงไปเถิด เราจะใช้เจ้าไปเข้าเฝ้าฟาโรห์ เพื่อจะได้พาประชากรของเราคือชนชาติอิสราเอลออกจากอียิปต์” โมเสสจึงทูลพระเจ้าว่า “ข้าพระองค์เป็นใคร? ที่จะไปเข้าเฝ้าฟาโรห์และนำชนชาติอิสราเอลออกจากอียิปต์” พระองค์ตรัสว่า “เราจะอยู่กับเจ้าแน่ นี่เป็นหมายสำคัญให้เจ้ารู้ว่าเราใช้เจ้าไป คือเมื่อเจ้านำประชากรออกจากอียิปต์แล้ว เจ้าทั้งหลายจะมานมัสการพระเจ้าบนภูเขานี้” โมเสสทูลพระเจ้าว่า “เมื่อข้าพระองค์ไปหาชนชาติอิสราเอล และบอกพวกเขาว่า ‘พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของท่านทั้งหลายทรงใช้ให้ข้าพเจ้ามาหาพวกท่าน’ และพวกเขาจะถามข้าพระองค์ว่า ‘พระองค์ทรงพระนามว่าอะไร?’ ข้าพระองค์จะตอบพวกเขาอย่างไร?” พระเจ้าจึงตรัสกับโมเสสว่า “เราเป็นผู้ซึ่งเราเป็น” แล้วพระองค์ตรัสว่า “ไปบอกชนชาติอิสราเอลดังนี้ว่า ‘พระองค์ผู้ทรงพระนามว่า เราเป็นทรงใช้ข้าพเจ้ามาหาท่านทั้งหลาย’ ” พระเจ้าจึงตรัสกับโมเสสอีกว่า “เจ้าจงกล่าวแก่ชนชาติอิสราเอลดังนี้ว่า ‘พระยาห์เวห์ พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของพวกท่าน คือพระเจ้าของอับราฮัม พระเจ้าของอิสอัค และพระเจ้าของยาโคบ ทรงใช้ให้ข้าพเจ้ามาหาพวกท่าน’ นี่เป็นนามของเราตลอดไปเป็นนิตย์ เป็นอนุสรณ์ของเราตลอดทุกชั่วชาติพันธุ์ เจ้าจงไปรวบรวมพวกผู้ใหญ่ของอิสราเอลให้มาประชุมพร้อมกัน แล้วกล่าวกับพวกเขาว่า ‘พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของพวกท่าน พระเจ้าของอับราฮัม ของอิสอัค และของยาโคบ ทรงปรากฏแก่ข้าพเจ้า ตรัสว่า “เราเฝ้าดูเจ้าทั้งหลายแล้ว และได้เห็นสิ่งที่พวกเขาได้ทำต่อพวกเจ้าในอียิปต์ เราสัญญาไว้แล้วว่า เราจะพาเจ้าทั้งหลายไปให้พ้นจากความทุกข์ในอียิปต์ ไปยังแผ่นดินของคนคานาอัน คนฮิตไทต์ คนอาโมไรต์ คนเปริสซี คนฮีไวต์ และคนเยบุส ไปยังแผ่นดินซึ่งมีน้ำนมและน้ำผึ้งบริบูรณ์” ’ พวกเขาจะเชื่อฟังคำของเจ้า แล้วเจ้ากับพวกผู้ใหญ่ของคนอิสราเอลจะพากันไปเข้าเฝ้ากษัตริย์อียิปต์ทูลว่า ‘พระยาห์เวห์พระเจ้าของคนฮีบรู ทรงปรากฏแก่พวกข้าพระบาท บัดนี้ ขอได้โปรดให้พวกข้าพระบาทเดินทางไปในถิ่นทุรกันดารเป็นระยะทางสามวัน เพื่อจะถวายสัตวบูชาแด่พระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกข้าพระบาท’ เรารู้แล้วว่ากษัตริย์อียิปต์จะไม่ยอมให้พวกเจ้าไป เว้นแต่จะถูกบังคับด้วยมืออันเข้มแข็งของเรา เราจะเหยียดมือออกทำลายอียิปต์ด้วยการอัศจรรย์ทุกอย่าง ที่เราจะทำท่ามกลางประเทศนั้น หลังจากนั้น กษัตริย์ก็จะยอมปล่อยพวกเจ้าไป เราจะให้ประชากรเหล่านี้เป็นที่โปรดปรานของคนอียิปต์ เมื่อเจ้าทั้งหลายออกไปก็จะไม่ต้องไปมือเปล่า ให้ผู้หญิงทุกคนขอเครื่องเงินเครื่องทองและเสื้อผ้าจากเพื่อนบ้าน และจากหญิงที่อาศัยอยู่ในบ้านของเพื่อนบ้าน แล้วเอาเครื่องแต่งตัวนั้นไปแต่งให้บุตรชายบุตรหญิงของพวกเจ้า ด้วยวิธีนี้แหละ พวกเจ้าจะได้ริบเอาสิ่งของของคนอียิปต์”
อพยพ 3:1-22 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
ฝ่ายโมเสสเลี้ยงฝูงแพะแกะของเยโธรพ่อตาของเขา ผู้เป็นปุโรหิตของคนมีเดียน และท่านได้พาฝูงแพะแกะไปด้านหลังของถิ่นทุรกันดาร และมาถึงภูเขาของพระเจ้า คือโฮเรบ ทูตสวรรค์ของพระเยโฮวาห์ก็ปรากฏแก่โมเสสในเปลวไฟซึ่งอยู่ท่ามกลางพุ่มไม้ โมเสสจึงมองดูและดูเถิด พุ่มไม้นั้นมีไฟลุกโชนอยู่ แต่พุ่มไม้นั้นมิได้ไหม้โทรมไป โมเสสจึงกล่าวว่า “ข้าจะแวะเข้าไปดูสิ่งแปลกประหลาดนี้ ว่าเหตุไฉนพุ่มไม้จึงไม่ไหม้” และเมื่อพระเยโฮวาห์ทอดพระเนตรเห็นเขาเดินเข้ามาดู พระเจ้าจึงตรัสแก่เขาออกมาจากท่ามกลางพุ่มไม้นั้นว่า “โมเสส โมเสส” และโมเสสทูลตอบว่า “ข้าพระองค์อยู่ที่นี่” พระองค์จึงตรัสว่า “อย่าเข้ามาใกล้ที่นี่ จงถอดรองเท้าของเจ้าออกเสีย เพราะว่าที่ซึ่งเจ้ายืนอยู่นี้เป็นที่บริสุทธิ์” แล้วพระองค์ตรัสอีกว่า “เราเป็นพระเจ้าของบิดาเจ้า เป็นพระเจ้าของอับราฮัม เป็นพระเจ้าของอิสอัค และเป็นพระเจ้าของยาโคบ” และโมเสสปิดหน้าเสีย เพราะกลัวไม่กล้ามองดูพระเจ้า และพระเยโฮวาห์ตรัสว่า “เราเห็นความทุกข์ของพลไพร่ของเราที่อยู่ในประเทศอียิปต์แล้ว และได้ยินเสียงร้องของเขา เพราะเหตุพวกนายงานของเขา ด้วยเรารู้ถึงความทุกข์ร้อนต่างๆของเขา และเราลงมาเพื่อจะช่วยเขาให้รอดพ้นจากมือของชาวอียิปต์ และนำเขาออกจากประเทศนั้น ไปยังแผ่นดินที่อุดมกว้างขวาง เป็นแผ่นดินที่มีน้ำนมและน้ำผึ้งไหลบริบูรณ์ คือไปยังที่อยู่ของชาวคานาอัน คนฮิตไทต์ คนอาโมไรต์ คนเปริสซี คนฮีไวต์ และคนเยบุส เพราะฉะนั้น ดูเถิด บัดนี้คำร่ำร้องของชนชาติอิสราเอลมาถึงเราแล้ว ทั้งเราได้เห็นการข่มเหงซึ่งชาวอียิปต์กระทำต่อเขาแล้ว เพราะฉะนั้น จงมาเถิด บัดนี้เราจะใช้เจ้าไปเฝ้าฟาโรห์ เพื่อเจ้าจะได้พาพลไพร่ของเรา คือชนชาติอิสราเอล ออกจากอียิปต์” ฝ่ายโมเสสจึงทูลพระเจ้าว่า “ข้าพระองค์เป็นผู้ใดเล่า ซึ่งข้าพระองค์จะไปเฝ้าฟาโรห์และจะนำชนชาติอิสราเอลออกจากอียิปต์” พระองค์จึงตรัสว่า “เราจะอยู่กับเจ้าแน่ และนี่จะเป็นหมายสำคัญให้เจ้ารู้ว่าเราใช้ให้เจ้าไป คือเมื่อเจ้านำพลไพร่ออกจากอียิปต์แล้ว เจ้าทั้งหลายจะมาปรนนิบัติพระเจ้าบนภูเขานี้” และโมเสสทูลพระเจ้าว่า “ดูเถิด เมื่อข้าพระองค์ไปหาชนชาติอิสราเอล และบอกพวกเขาว่า ‘พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของท่านทั้งหลายทรงใช้ข้าพเจ้ามาหาท่าน’ และเขาจะพูดกับข้าพเจ้าว่า ‘พระองค์ทรงพระนามว่ากระไร’ ข้าพระองค์จะกล่าวแก่เขาอย่างไร” พระเจ้าจึงตรัสกับโมเสสว่า “เราเป็นผู้ซึ่งเราเป็น” แล้วพระองค์ตรัสว่า “เจ้าจงไปบอกชนชาติอิสราเอลว่า ‘เราเป็น ได้ทรงใช้ข้าพเจ้ามาหาท่านทั้งหลาย’” พระเจ้าจึงตรัสกับโมเสสอีกว่า “เจ้าจงกล่าวแก่ชนชาติอิสราเอลว่าดังนี้ ‘พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของท่าน คือพระเจ้าของอับราฮัม พระเจ้าของอิสอัคและพระเจ้าของยาโคบ ทรงใช้ให้ข้าพเจ้ามาหาท่าน’ นี่เป็นนามของเราตลอดไปเป็นนิตย์ และนี่เป็นที่ระลึกของเราตลอดทุกชั่วอายุ จงไปรวบรวมพวกผู้ใหญ่ของอิสราเอลให้มาประชุมพร้อมกัน แล้วกล่าวแก่เขาว่า ‘พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของท่าน คือพระเจ้าของอับราฮัม ของอิสอัค และของยาโคบ ปรากฏแก่ข้าพเจ้า ตรัสว่า “แท้จริงเราลงมาเยี่ยมเจ้าทั้งหลายแล้ว และได้เห็นสิ่งซึ่งเขาได้กระทำแก่เจ้าในอียิปต์ และเราได้กล่าวไว้แล้วว่า เราจะพาเจ้าทั้งหลายไปให้พ้นจากความทุกข์ในประเทศอียิปต์ ไปยังแผ่นดินของชาวคานาอัน คนฮิตไทต์ คนอาโมไรต์ คนเปริสซี คนฮีไวต์และคนเยบุส ไปยังแผ่นดินซึ่งมีน้ำนมและน้ำผึ้งไหลบริบูรณ์”’ และเขาก็จะเชื่อฟังคำของเจ้า แล้วพวกเจ้า ทั้งเจ้ากับพวกผู้ใหญ่ของคนอิสราเอล จงพากันไปเฝ้ากษัตริย์ของอียิปต์ และเจ้าจงทูลพระองค์ว่า ‘พระเยโฮวาห์พระเจ้าของคนฮีบรู ทรงปรากฏแก่ข้าพระองค์ทั้งหลาย บัดนี้ ขอได้โปรดให้ข้าพระองค์เดินทางไปในถิ่นทุรกันดารสักสามวันเพื่อจะถวายเครื่องบูชาแด่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเรา’ เรารู้แน่แล้วว่า กษัตริย์แห่งอียิปต์จะไม่ยอมให้พวกเจ้าไป แม้กระทั่งโดยหัตถ์อันทรงฤทธิ์ และเราจะเหยียดมือของเราออกประหารอียิปต์ด้วยมหัศจรรย์ต่างๆของเราที่เราจะกระทำในท่ามกลางประเทศนั้น แล้วหลังจากนั้น กษัตริย์ก็จะยอมปล่อยพวกเจ้าไป และเราจะให้พลไพร่นี้เป็นที่โปรดปรานในสายตาของชาวอียิปต์ และต่อมา เมื่อเจ้าทั้งหลายออกไปก็จะไม่ต้องไปมือเปล่า แต่ผู้หญิงทุกคนจะขอเครื่องเงินเครื่องทองและเสื้อผ้าจากเพื่อนบ้านของเขา และจากหญิงที่อาศัยอยู่ในเรือนของเขา และเจ้าจงเอาของเหล่านั้นไปแต่งให้บุตรชายหญิงของเจ้า และเจ้าจะได้ริบเอาสิ่งของของชาวอียิปต์”
อพยพ 3:1-22 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
ฝ่ายโมเสสเมื่อเลี้ยงฝูงแพะแกะของเยโธรพ่อตา ผู้เป็นปุโรหิตของคนมีเดียน ได้พาฝูงแพะแกะไปทางตะวันตกของถิ่นทุรกันดาร จนมาถึงภูเขาของพระเจ้าคือ โฮเรบ ทูตของพระเจ้าก็ปรากฏแก่โมเสส ท่ามกลางพุ่มไม้เป็นเปลวไฟ โมเสสมองดู เห็นพุ่มไม้นั้นมีไฟลุกโชนอยู่ แต่มิได้ไหม้โทรมไป โมเสสจึงว่า <<ข้าจะแวะเข้าไปดูสิ่งแปลกประหลาดนี้ ว่าเหตุไฉนพุ่มไม้จึงไม่ไหม้>> ครั้นพระเจ้าทอดพระเนตรเห็นเขาเดินเข้ามาดู จึงตรัสออกมาจากพุ่มไม้นั้นว่า <<โมเสส โมเสสเอ๋ย>> โมเสสทูลตอบว่า <<ข้าพระองค์อยู่ที่นี่>> พระองค์จึงตรัสว่า <<อย่าเข้ามาใกล้ที่นี่ ถอดรองเท้าของเจ้าออกเสีย เพราะว่าที่ซึ่งเจ้ายืนอยู่นี้เป็นที่ศักดิ์สิทธิ์>> แล้วพระองค์ตรัสอีกว่า <<เราเป็นพระเจ้าของบิดาเจ้า เป็นพระเจ้าของอับราฮัม พระเจ้าของอิสอัค และพระเจ้าของยาโคบ>> โมเสสปิดหน้าเสีย เพราะกลัวไม่กล้ามองดูพระเจ้า พระเจ้าตรัสว่า <<เราเห็นความทุกข์ของประชากรของเราที่อยู่ในประเทศ อียิปต์แล้ว เราได้ยินเสียงร้องของเขา เพราะการกดขี่ของพวกนายงาน เรารู้ถึงความทุกข์ร้อนต่างๆของเขา เราลงมาเพื่อจะช่วยเขาให้รอดจากมือชาวอียิปต์ และนำเขาออกจากประเทศนั้น ไปยังแผ่นดินที่อุดมกว้างขวาง เป็นแผ่นดินที่มีน้ำนม และน้ำผึ้งไหลบริบูรณ์ คือไปยังที่อยู่ของชาวคานาอัน คนฮิตไทต์ คนอาโมไรต์ คนเปริสซี คนฮีไวต์ และคนเยบุส บัดนี้คำร่ำร้องของชนชาติอิสราเอลมาถึงเราแล้ว ทั้งเราได้เห็นการบีบคั้นซึ่งชาวอียิปต์กระทำต่อเขาแล้ว เราจะใช้เจ้าไปเฝ้าฟาโรห์ เพื่อจะได้พาประชากรของเรา คือชนชาติอิสราเอลออกจากอียิปต์>> ฝ่ายโมเสสจึงทูลพระเจ้าว่า <<ข้าพระองค์เป็นผู้ใดเล่า จึงจะไปเฝ้าฟาโรห์และนำคนอิสราเอลออกจากอียิปต์>> พระองค์จึงตรัสว่า <<เราจะอยู่กับเจ้าแน่ นี่เป็นหมายสำคัญให้เจ้ารู้ว่าเราใช้ให้เจ้าไป คือเมื่อเจ้านำประชากรออกจากอียิปต์แล้ว เจ้าทั้งหลายจะมานมัสการพระเจ้าบนภูเขานี้>> ฝ่ายโมเสสทูลพระเจ้าว่า <<เมื่อข้าพระองค์ไปหาชนชาติอิสราเอล และบอกพวกเขาว่า <พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของท่านทั้งหลาย ทรงสั่งข้าพเจ้ามาหาท่าน> และเขาจะถามข้าพระองค์ว่า <พระองค์ทรงพระนามว่ากระไร> ข้าพระองค์จะตอบเขาอย่างไร>> พระเจ้าจึงตรัสกับโมเสสว่า <<เราเป็นผู้ซึ่งเราเป็น>> แล้วพระองค์ตรัสว่า <<ไปบอกชนชาติอิสราเอลว่า <พระองค์ผู้ทรงพระนามว่าเราเป็น ทรงใช้ข้าพเจ้ามาหาท่านทั้งหลาย> >> พระเจ้าจึงตรัสกับโมเสสอีกว่า <<เจ้าจงกล่าวแก่ประชากรอิสราเอลว่า ดังนี้<พระเยโฮวาห์ พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของท่าน คือพระเจ้าของอับราฮัม พระเจ้าของอิสอัค และพระเจ้าของยาโคบ ทรงใช้ให้ข้าพเจ้ามาหาท่าน> นี่แหละเป็นนามของเราตลอดไปเป็นนิตย์ นี่แหละเป็นอนุสรณ์ของเราตลอดทุกชั่วชาติพันธุ์ เจ้าจงไปรวบรวมพวกผู้ใหญ่ของอิสราเอล ให้มาประชุมพร้อมกัน แล้วกล่าวแก่เขาว่า <พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของท่าน พระเจ้าของอับราฮัม ของอิสอัค และของยาโคบ ปรากฏแก่ข้าพเจ้า ตรัสว่า <<เราสังเกตเห็นเจ้าทั้งหลายแล้ว และได้เห็นความทารุณ ซึ่งเขาได้กระทำแก่เจ้าในอียิปต์ เราสัญญาไว้แล้วว่า เราจะพาเจ้าทั้งหลายไปให้พ้นจากความทุกข์ในประเทศอียิปต์ ไปยังแผ่นดินของชาวคานาอัน คนฮิตไทต์ คนอาโมไรต์ คนเปริสซี คนฮีไวต์ และคนเยบุส ไปยังแผ่นดินซึ่งมีน้ำนมและน้ำผึ้งบริบูรณ์> >> เขาจะเชื่อฟังคำของเจ้า แล้วเจ้ากับพวกผู้ใหญ่ของคนอิสราเอล จงพากันไปเฝ้ากษัตริย์ของอียิปต์ทูลว่า <พระเยโฮวาห์พระเจ้าของคนฮีบรู ทรงปรากฏแก่ข้าพระบาททั้งหลาย บัดนี้ ขอได้โปรดให้ข้าพระบาทเดินทางไปในถิ่นทุรกันดารสัก สามวัน เพื่อจะถวายสัตวบูชาแด่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของข้าพระบาท> เรารู้แล้วว่ากษัตริย์แห่งอียิปต์จะไม่ยอมให้พวกเจ้าไป แม้จะถูกประหารด้วยพระหัตถ์อันทรงฤทธิ์ เราจะเหยียดมือออกประหารอียิปต์ด้วยอัศจรรย์ต่างๆ ที่เราจะกระทำในท่ามกลางประเทศนั้น หลังจากนั้น กษัตริย์ก็จะทรงยอมปล่อยพวกเจ้าไป เราจะให้ประชากรเหล่านี้เป็นที่ชอบพอของชาวอียิปต์ เมื่อเจ้าทั้งหลายออกไปก็จะไม่ต้องไปมือเปล่า ให้ผู้หญิงทุกคนขอเครื่องเงินเครื่องทองและเสื้อผ้าจากเพื่อนบ้าน และจากหญิงที่อาศัยอยู่ในเรือนของเขา เอาเครื่องแต่งตัวนั้นไปแต่งให้บุตรีของเจ้า ด้วยวิธีนี้แหละ เจ้าจะได้ริบเอาสิ่งของของชาวอียิปต์>>
อพยพ 3:1-22 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
ขณะที่โมเสสกำลังเลี้ยงฝูงแกะของเยโธรผู้เป็นพ่อตาซึ่งเป็นปุโรหิตแห่งมีเดียน เขาต้อนฝูงแกะไปยังอีกด้านหนึ่งของถิ่นกันดารและมาถึงโฮเรบภูเขาของพระเจ้า ทูตขององค์พระผู้เป็นเจ้าปรากฏแก่เขาเป็นเปลวไฟลุกโชนในพุ่มไม้ โมเสสเห็นว่าแม้ต้นไม้นั้นมีไฟลุกโชนก็ไม่ได้มอดไหม้ ดังนั้นโมเสสจึงคิดว่า “เราจะเข้าไปดูสิ่งประหลาดนี้ ว่าทำไมพุ่มไม้นั้นจึงไม่มอดไหม้” เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าทอดพระเนตรเห็นโมเสสเดินเข้ามาดู พระเจ้าจึงทรงเรียกเขาจากพุ่มไม้นั้นว่า “โมเสส! โมเสส!” โมเสสทูลว่า “ข้าพระองค์อยู่ที่นี่” พระเจ้าตรัสว่า “อย่าเข้ามาใกล้กว่านี้ จงถอดรองเท้าออกเพราะเจ้ากำลังยืนอยู่บนที่บริสุทธิ์” จากนั้นพระองค์ตรัสว่า “เราเป็นพระเจ้าของบรรพบุรุษของเจ้า พระเจ้าของอับราฮัม พระเจ้าของอิสอัค และพระเจ้าของยาโคบ” เมื่อได้ฟังดังนั้นโมเสสจึงปิดหน้าตนเอง เพราะเขากลัวที่จะมองดูพระเจ้า องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “เราได้เห็นความทุกข์เข็ญของประชากรของเราในอียิปต์แล้ว เราได้ยินเสียงร่ำร้องเนื่องจากนายงานอำมหิตของพวกเขา และเราห่วงใยในความทุกข์ทรมานของพวกเขา ดังนั้นเราจึงลงมาเพื่อช่วยพวกเขาให้พ้นจากเงื้อมมือชาวอียิปต์ และนำพวกเขาออกไปยังดินแดนกว้างใหญ่ อุดมไปด้วยน้ำนมและน้ำผึ้ง ซึ่งเป็นที่อาศัยของชาวคานาอัน ชาวฮิตไทต์ ชาวอาโมไรต์ ชาวเปริสซี ชาวฮีไวต์ และชาวเยบุส ขณะนี้เสียงคร่ำครวญของชนอิสราเอลมาถึงเรา เราได้เห็นวิธีการที่ชาวอียิปต์กำลังกดขี่ข่มเหงพวกเขา บัดนี้จงไปเถิด เราจะส่งเจ้าไปหาฟาโรห์เพื่อนำอิสราเอลประชากรของเราออกจากอียิปต์” แต่โมเสสทูลพระเจ้าว่า “ข้าพระองค์เป็นใครเล่าที่จะไปเฝ้าฟาโรห์ และนำคนอิสราเอลออกจากอียิปต์?” และพระเจ้าตรัสว่า “เราจะอยู่กับเจ้า นี่จะเป็นหมายสำคัญแก่เจ้าว่า เราคือผู้ที่ส่งเจ้าไป คือเมื่อเจ้านำเหล่าประชากรออกจากอียิปต์แล้ว พวกเจ้าจะมานมัสการพระเจ้าบนภูเขานี้” โมเสสทูลพระเจ้าว่า “หากข้าพระองค์ไปบอกชนอิสราเอลว่า ‘พระเจ้าของบรรพบุรุษของพวกท่านได้ส่งข้าพเจ้ามาหาพวกท่าน’ และพวกเขาจะย้อนถามว่า ‘พระเจ้าทรงพระนามว่าอะไร?’ ข้าพระองค์จะตอบเขาว่าอย่างไร?” พระเจ้าตรัสตอบโมเสสว่า “เราเป็นผู้ที่เราเป็น เจ้าจงบอกชาวอิสราเอลว่า ‘เราผู้เป็น ได้ส่งข้าพเจ้ามาหาพวกท่าน’ ” พระเจ้าตรัสกับโมเสสด้วยว่า “จงบอกชนอิสราเอลว่า ‘พระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษของท่าน พระเจ้าของอับราฮัม พระเจ้าของอิสอัค และพระเจ้าของยาโคบ ได้ส่งข้าพเจ้ามาหาพวกท่าน’ “นี่เป็นนามของเราชั่วนิรันดร์ เป็นนามที่พวกเจ้าจะเรียกเรา ตลอดทุกชั่วอายุ “จงเรียกบรรดาผู้อาวุโสของอิสราเอลมาประชุม และบอกพวกเขาว่า ‘พระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษของท่าน พระเจ้าของอับราฮัม อิสอัค และยาโคบมาปรากฏแก่ข้าพเจ้าและตรัสดังนี้ว่า เราได้เฝ้าดูพวกเจ้าและได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเจ้าในอียิปต์แล้ว และเราได้สัญญาว่าจะนำพวกเจ้าออกมาจากความทุกข์เข็ญในอียิปต์ไปยังดินแดนของชาวคานาอัน ชาวฮิตไทต์ ชาวอาโมไรต์ ชาวเปริสซี ชาวฮีไวต์ และชาวเยบุส ดินแดนอันอุดมด้วยน้ำนมและน้ำผึ้ง’ “เหล่าผู้อาวุโสของอิสราเอลจะฟังเจ้า แล้วเจ้ากับผู้อาวุโสเหล่านั้นจะต้องไปพบกษัตริย์อียิปต์ และบอกเขาว่า ‘พระยาห์เวห์พระเจ้าของชาวฮีบรูปรากฏแก่พวกเรา พวกเราจึงขอเดินทางเป็นเวลาสามวันเข้าไปในถิ่นกันดารเพื่อถวายเครื่องบูชาแด่พระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา’ แต่เรารู้ว่ากษัตริย์อียิปต์จะไม่ยอมปล่อยพวกเจ้าไปจนกว่ามืออันทรงฤทธิ์จะบีบบังคับเขา ฉะนั้นเราจะเหยียดมือออกเล่นงานชาวอียิปต์ด้วยการอัศจรรย์ต่างๆ ที่เราจะทำท่ามกลางพวกเขา หลังจากนั้นเขาจะยอมปล่อยเจ้าทั้งหลายไป “และเราจะทำให้ชาวอียิปต์ชื่นชอบและให้ของกำนัลแก่พวกเจ้าเพื่อเจ้าจะไม่ออกมามือเปล่า ผู้หญิงทุกคนจะขอเครื่องเงินเครื่องทองและเสื้อผ้าจากเพื่อนบ้านและจากผู้หญิงที่อยู่ในบ้านของนาง เอามาแต่งให้บุตรชายบุตรสาวของพวกเจ้า พวกเจ้าจะริบข้าวของของชาวอียิปต์มาด้วยวิธีนี้”
อพยพ 3:1-22 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
ขณะที่โมเสสกำลังเฝ้าฝูงแพะแกะของเยโธรพ่อตาผู้เป็นปุโรหิตของมีเดียน ท่านพาฝูงแพะแกะไปทางด้านหลังของถิ่นทุรกันดาร ครั้นมาถึงภูเขาของพระเจ้า คือโฮเรบ ทูตสวรรค์ของพระผู้เป็นเจ้าก็ปรากฏแก่ท่านกลางพุ่มไม้ซึ่งเป็นเปลวไฟลุกอยู่ ท่านมองเห็นว่า แม้พุ่มไม้จะลุกเป็นไฟ แต่ก็ไม่ไหม้ โมเสสพูดว่า “เราจะต้องเข้าไปดูภาพที่เห็นซิว่าทำไมพุ่มไม้นั้นไม่ไหม้” ครั้นพระผู้เป็นเจ้าเห็นว่าท่านกำลังจะเข้าไปดู พระเจ้าจึงเปล่งเสียงจากพุ่มไม้ เรียกท่านว่า “โมเสส โมเสส” และท่านตอบว่า “ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่” พระองค์กล่าวว่า “อย่าเข้ามาใกล้ จงถอดรองเท้าออกจากเท้าเสียเถิด เพราะว่าที่ซึ่งเจ้ายืนอยู่นี้เป็นสถานที่บริสุทธิ์” และพระองค์กล่าวอีกว่า “เราเป็นพระเจ้าของบรรพบุรุษของเจ้า พระเจ้าของอับราฮัม พระเจ้าของอิสอัค และพระเจ้าของยาโคบ” แล้วโมเสสก็ปิดหน้าตนเอง เพราะท่านไม่กล้ามองพระเจ้า พระผู้เป็นเจ้ากล่าวว่า “เราเห็นจริงแล้วว่า ชนชาติของเราถูกข่มเหงในประเทศอียิปต์ เราได้ยินเสียงร้องของพวกเขาเพราะพวกหัวหน้าคุมทาสของเขา เรารู้ว่าพวกเขาต้องทนทุกข์ และเราลงมาเพื่อปลดปล่อยเขาเหล่านั้นให้พ้นจากมือของชาวอียิปต์ และพาเขาออกไปจากดินแดนนั้นสู่ดินแดนอันสมบูรณ์และกว้างใหญ่ไพศาล ดินแดนอันอุดมด้วยน้ำนมและน้ำผึ้ง สู่สถานที่ของชาวคานาอัน ชาวฮิต ชาวอาโมร์ ชาวเปริส ชาวฮีว และชาวเยบุส บัดนี้ เสียงร้องของชาวอิสราเอลดังมาถึงเรา และเราเห็นชาวอียิปต์บีบบังคับพวกเขา จงไปเดี๋ยวนี้ เราจะให้เจ้าไปหาฟาโรห์ เพื่อนำคนของเราคือชาวอิสราเอลออกไปจากอียิปต์” แต่โมเสสพูดกับพระเจ้าว่า “ข้าพเจ้าเป็นใครที่จะไปพบฟาโรห์ และนำชาวอิสราเอลออกไปจากอียิปต์” พระองค์กล่าวว่า “เราจะอยู่กับเจ้า สิ่งที่จะพิสูจน์ให้เจ้าเห็นได้ว่าเราเป็นผู้ส่งเจ้าไปก็คือ เมื่อเจ้าได้นำคนออกจากอียิปต์แล้ว เจ้าจะกลับมานมัสการพระเจ้าบนภูเขานี้” โมเสสพูดกับพระเจ้าว่า “ถ้าข้าพเจ้าไปหาชาวอิสราเอล และพูดกับพวกเขาว่า ‘พระเจ้าของบรรพบุรุษของท่านได้ให้เรามาหาท่าน’ และพวกเขาถามข้าพเจ้าว่า ‘พระองค์มีนามว่าอะไร’ ข้าพเจ้าควรบอกเขาว่าอย่างไร” พระเจ้ากล่าวกับโมเสสว่า “เราเป็นผู้ดำรงอยู่ก่อนแล้ว” และพระองค์กล่าวว่า “จงพูดกับชาวอิสราเอลตามนี้ว่า ‘ผู้ดำรงอยู่ก่อนแล้วได้ส่งข้าพเจ้ามาหาพวกท่าน’” พระเจ้ากล่าวกับโมเสสด้วยว่า “จงบอกชาวอิสราเอลตามนี้ว่า ‘พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของบรรพบุรุษของท่าน พระเจ้าของอับราฮัม พระเจ้าของอิสอัค และพระเจ้าของยาโคบได้ให้ข้าพเจ้ามาหาพวกท่าน’ นี่คือชื่อของเราตั้งแต่นี้ไปจนชั่วนิรันดร์กาล และจะเป็นชื่อที่ระลึกถึงเราทุกชั่วอายุคน เจ้าจงไปรวบรวมบรรดาหัวหน้าชั้นผู้ใหญ่ของอิสราเอลมา และบอกพวกเขาว่า ‘พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของบรรพบุรุษของพวกท่าน พระเจ้าของอับราฮัม ของอิสอัค และของยาโคบได้ปรากฏแก่ข้าพเจ้าโดยกล่าวดังนี้ว่า “เราเฝ้าดูพวกเจ้าด้วยความห่วงใยถึงสิ่งที่พวกเจ้าถูกกระทำในอียิปต์ และเราสัญญาว่า เราจะพาเจ้าขึ้นไปให้พ้นจากความทุกข์ทรมานที่มีในอียิปต์ และไปยังดินแดนของชาวคานาอัน ชาวฮิต ชาวอาโมร์ ชาวเปริส ชาวฮีว และชาวเยบุส ซึ่งเป็นดินแดนอันอุดมด้วยน้ำนมและน้ำผึ้ง”’ พวกเขาจะฟังเสียงเจ้า และเจ้าจงไปกับบรรดาหัวหน้าชั้นผู้ใหญ่ของอิสราเอล เพื่อไปเฝ้ากษัตริย์แห่งอียิปต์และบอกเขาว่า ‘พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของชาวฮีบรูได้ปรากฏแก่พวกเรา และบัดนี้ ได้โปรดเถิด ให้พวกเราเดินทาง 3 วันไปในถิ่นทุรกันดาร เพื่อถวายเครื่องสักการะแด่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรา’ เรารู้ว่ากษัตริย์แห่งอียิปต์จะไม่ยอมให้เจ้าไป นอกจากว่าจะถูกบังคับจากผู้มีอานุภาพอันยิ่งใหญ่ ฉะนั้นเราจึงยื่นมือของเราออกไป และจะลงโทษชาวอียิปต์ด้วยการกระทำอันมหัศจรรย์สารพัดอย่างในอียิปต์ หลังจากนั้นเขาก็จะปล่อยให้เจ้าไป แล้วเราจะทำให้ชาวอียิปต์เห็นว่าเราโปรดปรานชาวอิสราเอล และเวลาเจ้าไป เจ้าจะไม่ไปมือเปล่า คือหญิงทุกคนจะขอเครื่องประดับกายทำด้วยเงินและทองคำ และเสื้อผ้าจากเพื่อนบ้านและจากผู้ที่อาศัยอยู่กับเพื่อนบ้านด้วย และเจ้าจะสวมให้กับบุตรชายบุตรหญิงของเจ้า เจ้าจะริบเอาสิ่งของไปจากชาวอียิปต์ด้วยวิธีนี้”