อพยพ 28:1-38
อพยพ 28:1-38 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
“จงนำอาโรนพี่ชายของเจ้า กับบรรดาบุตรของเขาออกจากท่ามกลางชนชาติอิสราเอลให้มาอยู่ใกล้เจ้า เพื่อจะเป็นปุโรหิตปรนนิบัติเรา คือทั้งอาโรนกับบรรดาบุตรของอาโรนได้แก่นาดับ อาบีฮู เอเลอาซาร์ และอิธามาร์ แล้วจงทำเสื้อตำแหน่งบริสุทธิ์สำหรับอาโรนพี่ชายของเจ้าให้เป็นเกียรติและให้สง่างาม และเจ้าจงกล่าวกับช่างฝีมือทุกคน ซึ่งเราให้พวกเขาเต็มเปี่ยมด้วยสติปัญญา แล้วพวกเขาจะทำเสื้อตำแหน่งเพื่อแยกอาโรนออกมาปรนนิบัติเราในตำแหน่งปุโรหิต ให้พวกเขาทำเสื้อตำแหน่งดังต่อไปนี้คือ ทับทรวง เสื้อเอโฟด เสื้อคลุม เสื้อยาวกรอมเท้า ผ้ามาลา และสายรัดเอว และให้พวกเขาทำเสื้อตำแหน่งบริสุทธิ์สำหรับอาโรนพี่ชายของเจ้าและบรรดาบุตรของเขา เพื่อจะได้เป็นปุโรหิตปรนนิบัติเรา “ให้พวกช่างฝีมือใช้ทองคำ ด้ายสีฟ้า สีม่วง สีแดงเข้ม และผ้าป่านเนื้อดี “ให้พวกเขาทำเสื้อเอโฟดด้วยทองคำ ด้วยด้ายสีฟ้า สีม่วง สีแดงเข้ม และผ้าป่านเนื้อดี ตัดด้วยฝีมือช่างชำนาญงาน ให้มีแถบผูกบ่าสองชิ้นที่ปลายสองข้าง เพื่อผูกเข้าด้วยกัน สายรัดเอวที่ทออย่างประณีตของเอโฟด ก็ให้ทำด้วยฝีมืออย่างเดียวกัน และใช้วัสดุอย่างเดียวกับเอโฟด คือทองคำ ด้ายสีฟ้า สีม่วง สีแดงเข้ม และผ้าป่านเนื้อดี แล้วให้ใช้โอนิกซ์สองแผ่นสำหรับจารึกชื่อเผ่าของอิสราเอลไว้ ที่แก้วแผ่นหนึ่งให้จารึกชื่อหกชื่อ และแผ่นที่สองก็ให้จารึกชื่อที่เหลืออีกหกชื่อตามลำดับการเกิด ให้ช่างแกะสลักจารึกชื่อบรรดาบุตรอิสราเอลไว้ที่แก้วทั้งสองแผ่นนั้นเหมือนอย่างแกะตรา แล้วฝังบนกระเปาะทองคำซึ่งมีลวดลายวิจิตร แก้วทั้งสองแผ่นนั้นให้ติดบนบ่าทั้งสองข้างของเสื้อเอโฟด ให้เป็นที่ระลึกถึงบรรดาบุตรแห่งอิสราเอล และอาโรนจะแบกชื่อเขาทั้งหลายไว้บนบ่าทั้งสองข้าง เฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์เพื่อเป็นที่ระลึก เจ้าจงทำกระเปาะทองคำมีลวดลายวิจิตร กับทำสร้อยสองเส้นด้วยทองคำบริสุทธิ์ เป็นสร้อยถักเกลียว แล้วติดที่กระเปาะนั้น “และเจ้าจงทำทับทรวงสำหรับค้นหาพระทัยพระเจ้า ด้วยฝีมือช่างชำนาญงานเหมือนทำเอโฟด คือทำด้วยทองคำ ด้ายสีฟ้า สีม่วง สีแดงเข้มและผ้าป่านเนื้อดี และให้ทำเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส พับทบกลางยาว 22 เซนติเมตร กว้าง 22 เซนติเมตร จงฝังอัญมณีเป็นสี่แถวบนทับทรวงนั้น แถวที่หนึ่งฝังคาร์เนเลียน เพอริโด และมรกต แถวที่สองฝังเทอร์คอยซ์ ไพลิน และเพชร แถวที่สามฝังเพทาย โมรา และแอเมทิสต์ แถวที่สี่ฝังเบริล โอนิกซ์ และแจสเพอร์ อัญมณีทั้งหมดนี้ให้ฝังในลวดลายอันละเอียดที่ทำด้วยทองคำ อัญมณีทั้งสิบสองอย่างนี้ให้จารึกชื่อแต่ละชื่อของบรรดาบุตรอิสราเอลไว้เหมือนแกะตรา ตามลำดับสิบสองเผ่า และเจ้าจงทำสร้อยถักเกลียวด้วยทองคำบริสุทธิ์สำหรับทับทรวง และเจ้าจงทำห่วงทองคำสองห่วงติดที่มุมบนทั้งสองของทับทรวง ส่วนสร้อยทองคำสองสายนั้น ให้เกี่ยวที่ห่วงสองห่วงตรงมุมทับทรวง และปลายสร้อยทั้งสองข้าง ให้ติดกับกระเปาะที่มีลวดลายวิจิตรทั้งสอง และให้ติดไว้ข้างหน้าที่แถบยึดเอโฟดบนบ่าทั้งสองข้าง จงทำห่วงทองคำสองห่วง ติดที่มุมล่างทั้งสองข้างของทับทรวงข้างในที่ติดเอโฟด จงทำห่วงทองคำอีกสองห่วงใส่ใต้แถบที่ผูกบ่าทั้งสองข้างของเอโฟดเหนือสายรัดเอวซึ่งทออย่างประณีต ให้ผูกทับทรวงนั้นติดกับเสื้อเอโฟดด้วย โดยใช้ด้ายถักสีฟ้าร้อยผูกที่ห่วง ให้ทับทรวงทับสายรัดเอวที่ทำด้วยฝีมือประณีตของเสื้อเอโฟดเพื่อไม่ให้ทับทรวงหลุดไปจากเสื้อเอโฟด อาโรนจึงจะมีชื่อบรรดาบุตรของอิสราเอลจารึกไว้ที่ทับทรวงสำหรับค้นหาพระทัยพระเจ้าติดที่อกของตน ให้เป็นที่ระลึกเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์เสมอ เมื่อเขาเข้าไปในวิสุทธิสถานนั้น จงใส่อูริมและทูมมิมไว้ในทับทรวงสำหรับค้นหาพระทัยพระเจ้า และของสองสิ่งนี้จะอยู่ที่หัวใจของอาโรนเมื่อเข้าเฝ้าพระยาห์เวห์ อาโรนจะรับภาระการพิพากษาชนชาติอิสราเอลไว้ที่หัวใจของตนเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์เสมอ “เจ้าจงทำเสื้อคลุมให้เข้าชุดกับเอโฟดด้วยผ้าสีฟ้าล้วน ให้ทำช่องคอกลางผืนเสื้อ แล้วขลิบรอบคอด้วยผ้าทอ เช่นเดียวกับคอเสื้อทหารเพื่อจะไม่ให้ขาด ที่ชายล่างของเสื้อคลุมให้ปักรูปทับทิมด้วยด้ายสีฟ้า สีม่วง สีแดงเข้มรอบชายเสื้อ และติดลูกพรวนทองคำโดยรอบสลับกับผลทับทิม ลูกพรวนทองคำลูกหนึ่ง ผลทับทิมผลหนึ่ง ลูกพรวนทองคำอีกลูกหนึ่ง ผลทับทิมอีกผลหนึ่ง รอบชายล่างของเสื้อคลุม อาโรนจะสวมเสื้อคลุมตัวนั้นเมื่อทำงานปรนนิบัติ และจะได้ยินเสียงลูกพรวนเมื่อเข้าเฝ้าพระยาห์เวห์ในวิสุทธิสถาน และเมื่อเดินออกมา เพื่อเขาจะไม่ตาย “เจ้าจงทำแผ่นทองคำบริสุทธิ์ จารึกคำว่า ‘บริสุทธิ์แด่พระยาห์เวห์’ ไว้เหมือนอย่างแกะตรา และเจ้าจงเอาด้ายถักสีฟ้าผูกแผ่นทองคำนั้นไว้บนผ้ามาลาให้อยู่ที่ข้างหน้าผ้ามาลา แผ่นทองคำนั้นจะอยู่ที่หน้าผากของอาโรน และอาโรนจะรับความผิดใดๆ ที่คนอิสราเอลทำเมื่อถวายของบูชาอันบริสุทธิ์ และแผ่นทองคำนั้นให้อยู่ที่หน้าผากของอาโรนเสมอ เพื่อพระยาห์เวห์จะทรงรับสิ่งของเหล่านั้นจากเขา
อพยพ 28:1-38 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
ให้นำตัวอาโรนพี่ชายของเจ้าและพวกลูกชายของเขา คือ นาดับ อาบีฮู เอเลอาซาร์ และอิธามาร์ แยกออกมาจากลูกหลานของอิสราเอล เพื่อมาเป็นนักบวชของเรา ให้เจ้าทำชุดศักดิ์สิทธิ์ให้กับอาโรน พี่ชายของเจ้า เพื่อเป็นเกียรติกับเขาและเพื่อความสวยงาม ให้เจ้าไปบอกเรื่องนี้กับช่างพวกนั้นที่มีความชำนาญ เราได้ใส่วิญญาณแห่งผู้เชี่ยวชาญให้กับพวกเขาไว้แล้ว เพื่อพวกเขาจะได้ตัดเย็บเสื้อผ้าให้อาโรน เพื่อทำให้เขาศักดิ์สิทธิ์และเพื่อเขาจะได้เป็นนักบวชของเรา เสื้อผ้าที่พวกเขาจะต้องเย็บมี ถุงผ้าทับอก เอโฟด ชุดกระโปรงยาว ผ้าคลุม ผ้าโพกหัว ผ้ารัดเอว พวกเขาจะต้องเย็บชุดศักดิ์สิทธิ์นี้ให้อาโรน พี่ชายของเจ้า เพื่อเขาจะได้เป็นนักบวชของเรา บอกกับช่าง ให้ใช้ผ้าทอง ผ้าทอจากด้ายสีน้ำเงิน สีม่วง สีแดงเข้ม และผ้าทอลินินเนื้อดี ให้ทำเอโฟดจากผ้าทอง ผ้าที่ทอจากด้ายสีน้ำเงิน สีม่วง สีแดงเข้มและผ้าทอลินินเนื้อดี โดยใช้ช่างเย็บที่มีฝีมือ ที่ไหล่ทั้งสองข้างของเอโฟดนี้ จะมีผ้าสองชิ้นเย็บติดอยู่ทั้งสองข้าง ข้างละชิ้น ผ้าคาดเอวสำหรับเอโฟด จะต้องตัดเย็บอย่างประณีต และใช้วัสดุเดียวกับที่ใช้เย็บเอโฟด คือผ้าทอง ผ้าที่ทอจากด้ายสีน้ำเงิน สีม่วง สีแดงเข้ม และผ้าทอลินินเนื้อดี ให้เอานิลมาสองก้อน มาแกะชื่อพวกลูกชายของอิสราเอลลงไป ให้แกะชื่อหกชื่อลงในนิลก้อนแรก และอีกหกชื่อที่เหลือในนิลก้อนที่สองเรียงตามการเกิด ในการแกะชื่อพวกลูกชายของอิสราเอล ให้ใช้วิธีเดียวกับที่ช่างเจียระไนพลอยแกะตราประทับ แล้วใช้ทองคำทำเป็นตัวเรือน หุ้มนิลทั้งสองก้อนไว้ และให้เอาไปติดไว้บนบ่าทั้งสองข้างของเอโฟด เพื่อให้พระยาห์เวห์ระลึกถึงลูกหลานของอิสราเอล อาโรนจะสวมชื่อของพวกเขาอยู่บนบ่า เมื่ออยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์ เพื่อพระองค์จะได้ระลึกถึงพวกเขา เจ้าต้องทำตัวเรือนทองคำขึ้นมา และให้ทำสายสร้อยทองคำบริสุทธิ์ ขึ้นมาสองเส้น เป็นสร้อยถักเป็นเกลียวเหมือนเชือก แล้วเอาไปติดกับตัวเรือนทองคำนั้น เจ้าต้องทำถุงผ้าทับอกสำหรับตัดสินคดี อย่างประณีตเหมือนกับทำเอโฟด คือใช้ผ้าทอง ผ้าที่ทอจากด้ายสีน้ำเงิน สีม่วง สีแดงเข้ม และผ้าทอลินินเนื้อดี ถุงผ้าทับอกนี้จะต้องพับครึ่งทบกันเป็นถุง เป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส ขนาดยาวหนึ่งคืบ กว้างหนึ่งคืบ ให้เอาพลอยมีค่ามาประดับไว้ที่ถุงผ้าทับอกนี้ เรียงเป็นสี่แถว แถวละสามเม็ด แถวแรกใส่พลอยสีแดง บุษราคัมและมรกต แถวที่สองใส่ทับทิม ไพลิน และแก้วผลึก แถวที่สามใส่เพทาย พลอยสีขุ่น และเขี้ยวแก้วหนุมาน แถวที่สี่ใส่พลอยสีเขียว นิลและหินแจสเพอร์ พลอยประดับพวกนี้จะถูกฝังอยู่ในตัวเรือนที่ทำจากทองคำ จะมีพลอยทั้งหมดสิบสองก้อน เพื่อใส่ชื่อของพวกลูกชายของอิสราเอล พลอยประดับแต่ละก้อนจะเหมือนตราประทับ จะมีชื่อของเผ่าทั้งสิบสองเผ่าแกะสลักไว้ก้อนละเผ่า เจ้าต้องทำสายสร้อยจากทองคำบริสุทธิ์ ที่ถักเป็นเกลียวเหมือนเชือก สำหรับถุงผ้าทับอกนี้ ให้ทำห่วงทองคำสองห่วง ติดไว้ที่มุมด้านบนของถุงผ้าทับอกนี้ มุมละอัน แล้วให้เอาสร้อยทองสองเส้นนั้นมาคล้องเข้ากับห่วงทองคำสองห่วงที่ติดอยู่ที่มุมด้านบนของถุงผ้าทับอกนี้ แล้วเอาอีกปลายของสร้อยทองนั้น ไปคล้องกับตัวเรือนทองคำที่ติดอยู่บนไหล่ทั้งสองของเอโฟด สร้อยทั้งสองนั้นจะติดอยู่ที่ไหล่ของเอโฟดด้านหน้า เจ้าต้องทำห่วงทองคำขึ้นมาอีกสองห่วง แล้วเอามาติดไว้กับปลายด้านในของถุงผ้าทับอกที่ติดกับเอโฟดนี้ เจ้าต้องทำห่วงทองคำอีกสองห่วงและติดห่วงนั้นไว้กับส่วนล่างของไหล่ทั้งสองข้าง ตรงด้านหน้าของเอโฟด ใกล้กับตะเข็บเหนือผ้าคาดเอวขึ้นมา ให้เอาเชือกสีน้ำเงิน มาผูกห่วงทั้งสองอันของถุงผ้าทับอกกับห่วงสองอันของเอโฟดเข้าด้วยกัน เพื่อถุงผ้าทับอกจะได้อยู่ใกล้กับผ้าคาดเอว และจะได้ไม่หลวมหลุดจากเอโฟด อาโรนจะสวมถุงผ้าทับอกแห่งการตัดสินคดี ที่มีชื่อของพวกลูกชายอิสราเอลแกะสลักอยู่ ตรงกับหัวใจของเขา เมื่อเขาเข้ามาในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ถุงผ้าทับอกนี้จะทำให้พระยาห์เวห์ระลึกถึงพวกลูกหลานของอิสราเอลตลอดไป เจ้าต้องเอาอูริมและทูมมิมมาใส่ไว้ในถุงผ้าทับอกแห่งการตัดสินคดีด้วย มันจะอยู่ตรงกับหัวใจของอาโรน เมื่อเขามาอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์ อาโรนจะสวมถุงผ้าทับอกที่มีชื่อพวกลูกชายของอิสราเอลสลักอยู่ ตรงกับหัวใจของเขา ต่อหน้าพระยาห์เวห์ตลอดไป เจ้าต้องใช้ผ้าสีน้ำเงินล้วน มาตัดเป็นเสื้อชุดยาวของเอโฟด ด้านบนให้ทำช่องสวมหัว เย็บขอบรอบๆช่องสวมหัวนี้เพื่อป้องกันไม่ให้มันฉีกขาด เป็นเหมือนช่องสวมหัวของเสื้อทหาร เอาผ้าที่ทอจากด้ายสีน้ำเงิน สีม่วงและสีแดงเข้มมาเย็บเป็นผลทับทิม ติดไว้รอบๆปลายเสื้อชุดยาวนี้ และเอากระดิ่งทองมาติดสลับกับผลทับทิม ปลายเสื้อชุดยาว จะมีกระดิ่งทองและผลทับทิมติดอยู่รอบๆ อาโรนจะสวมมันเมื่อเขาเข้ามารับใช้พระยาห์เวห์ พระยาห์เวห์จะได้ยินเสียงกระดิ่งของอาโรน เมื่อเขาเข้ามาในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ต่อหน้าพระยาห์เวห์ และเมื่อเขาออกไป เขาจะได้ไม่ตาย เจ้าต้องทำแผ่นป้ายจากทองคำบริสุทธิ์ และแกะสลักบนแผ่นป้ายเหมือนแกะสลักบนตราประทับคำว่า “ศักดิ์สิทธิ์สำหรับพระยาห์เวห์” ใช้ผ้าสีน้ำเงิน เย็บแผ่นป้ายทองนั้น แล้วเอาไปมัดติดไว้ด้านหน้าของผ้าโพกหัว มันจะได้อยู่ตรงหน้าผากของอาโรน นี่แสดงว่า อาโรนจะแบกรับความผิดบาปทั้งหลาย ถ้ามีอะไรผิดพลาดเกิดขึ้นกับพวกของขวัญศักดิ์สิทธิ์ที่ลูกหลานของอิสราเอลนำมาถวายให้กับพระยาห์เวห์ แผ่นป้ายนั้นจะอยู่บนหน้าผากของอาโรนตลอดไป เพื่อพระยาห์เวห์จะได้ยอมรับของขวัญศักดิ์สิทธิ์ของประชาชนเหล่านั้น
อพยพ 28:1-38 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
“จงนำอาโรนพี่ชายของเจ้ากับบุตรชายของเขาแยกออกมาจากหมู่ชนชาติอิสราเอลให้มาอยู่ใกล้เจ้า เพื่อจะให้ปรนนิบัติเราในตำแหน่งปุโรหิต คือทั้งอาโรนกับบุตรชายของอาโรน คือนาดับ อาบีฮู เอเลอาซาร์ กับอิธามาร์ แล้วให้ทำเครื่องยศบริสุทธิ์สำหรับอาโรนพี่ชายของเจ้าให้สมเกียรติ และงดงาม ให้กล่าวแก่คนทั้งปวงผู้เฉลียวฉลาดซึ่งเราได้บันดาลให้เขามีจิตใจอันประกอบด้วยสติปัญญานั้น ให้เขาทำเครื่องยศสำหรับสถาปนาอาโรนให้ปรนนิบัติเราในตำแหน่งปุโรหิต ให้เขาทำเครื่องยศดังต่อไปนี้คือทับทรวง เสื้อเอโฟด เสื้อคลุม เสื้อตาสมุก ผ้ามาลาและรัดประคด และให้เขาทำเครื่องยศบริสุทธิ์สำหรับอาโรนพี่ชายของเจ้าและบุตรชายของเขา เพื่อจะให้ปรนนิบัติเราในตำแหน่งปุโรหิต ให้เขาเหล่านั้นรับเอาทองคำ ด้ายสีฟ้า สีม่วง สีแดงเข้ม และผ้าป่านเนื้อละเอียด ให้เขาทำเอโฟดด้วยทองคำ ด้วยด้ายสีฟ้า สีม่วง สีแดงเข้มและผ้าป่านเนื้อละเอียด ตัดด้วยฝีมือช่างออกแบบ แถบที่ผูกบ่าของเอโฟดนั้น ให้ติดกับริมตอนบนทั้งสองชิ้น เพื่อจะติดเป็นอันเดียวกัน รัดประคดทออย่างประณีต สำหรับคาดทับเอโฟด ให้ทำด้วยฝีมืออย่างเดียวกัน และใช้วัตถุอย่างเดียวกับเอโฟด คือทำด้วยทองคำ ด้ายสีฟ้า สีม่วง สีแดงเข้ม และผ้าป่านเนื้อละเอียด แล้วให้ใช้พลอยสีน้ำข้าวสองแผ่น สำหรับจารึกชื่อบุตรของอิสราเอลไว้ ที่พลอยแผ่นหนึ่งให้จารึกชื่อหกชื่อ และแผ่นที่สองก็ให้จารึกชื่อไว้อีกหกชื่อที่เหลืออยู่ตามกำเนิด ให้ช่างแกะจารึกชื่อเหล่าบุตรอิสราเอลไว้ที่พลอยทั้งสองแผ่นนั้น เช่นอย่างแกะตราแล้วฝังไว้บนกระเปาะทองคำซึ่งมีลวดลายละเอียด พลอยทั้งสองแผ่นนั้นให้ติดไว้กับเอโฟดบนบ่าทั้งสองข้าง พลอยนั้นจะเป็นที่ระลึกถึงบรรดาบุตรแห่งอิสราเอล และอาโรนจะแบกชื่อเขาทั้งหลายไว้บนบ่าทั้งสองเฉพาะพระพักตร์พระเยโฮวาห์เป็นที่ระลึก เจ้าจงทำกระเปาะทองคำมีลวดลายละเอียด กับทำสร้อยสองสายด้วยทองคำบริสุทธิ์ เป็นสร้อยถักเกลียวแล้วติดไว้ที่กระเปาะนั้น จงทำทับทรวงแห่งการพิพากษา ด้วยฝีมือช่างออกแบบฝีมือเหมือนทำเอโฟดคือทำด้วยทองคำ ด้ายสีฟ้า สีม่วง สีแดงเข้มและผ้าป่านเนื้อละเอียด ให้ทำทับทรวงเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส พับทบกลาง ยาวคืบหนึ่ง กว้างคืบหนึ่ง จงฝังพลอยสี่แถวบนทับทรวงนั้น แถวที่หนึ่งฝังทับทิม บุษราคัมและพลอยสีแดงเข้ม แถวที่สองฝังมรกต ไพทูรย์ และเพชร แถวที่สามฝังนิล โมรา และพลอยสีม่วง แถวที่สี่ฝังพลอยเขียว พลอยสีน้ำข้าวและหยก พลอยทั้งหมดนี้ให้ฝังในลวดลายอันละเอียดที่ทำด้วยทองคำ พลอยเหล่านั้นให้มีชื่อเหล่าบุตรอิสราเอลสิบสองชื่อจารึกไว้เหมือนแกะตรา จะมีชื่อตระกูลทุกตระกูลตามลำดับสิบสองตระกูล และเจ้าจงทำสร้อยถักเกลียวด้วยทองคำบริสุทธิ์สำหรับทับทรวง และเจ้าจงทำห่วงทองคำสองห่วงติดไว้ที่มุมบนทั้งสองของทับทรวง ส่วนสร้อยที่ทำด้วยทองคำนั้น ให้เกี่ยวด้วยห่วงที่มุมทับทรวง และปลายสร้อยอีกสองข้าง ให้ติดกับกระเปาะที่มีลวดลายละเอียดทั้งสอง ให้ติดไว้ข้างหน้าที่แถบยึดเอโฟดทั้งสองข้างบนบ่า จงทำห่วงทองคำสองอันติดไว้ที่มุมล่างทั้งสองข้างของทับทรวงข้างในที่ติดเอโฟด จงทำห่วงสองอันด้วยทองคำใส่ไว้ริมเอโฟดเบื้องหน้า ใต้แถบที่ตะเข็บเหนือรัดประคดซึ่งทอด้วยฝีมือประณีตของเอโฟด ให้ผูกทับทรวงนั้นติดกับเอโฟดด้วย ใช้ด้ายถักสีฟ้าร้อยผูกที่ห่วง ให้ทับทรวงทับรัดประคดที่ทำด้วยฝีมือประณีตของเอโฟด เพื่อมิให้ทับทรวงหลุดไปจากเอโฟด อาโรนจึงจะมีชื่อเหล่าบุตรอิสราเอลจารึกไว้ที่ทับทรวงแห่งการพิพากษาติดไว้ที่หัวใจของตน ให้เป็นที่ระลึกต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์เสมอ เมื่อเขาเข้าไปในที่บริสุทธิ์นั้น จงใส่อูริมและทูมมิมไว้ในทับทรวงแห่งการพิพากษา และของสองสิ่งนี้จะอยู่ที่หัวใจของอาโรนเมื่อเข้าเฝ้าพระเยโฮวาห์ อาโรนจะรับภาระการพิพากษาเหล่าบุตรอิสราเอลไว้ที่หัวใจของตนเสมอเฉพาะพระพักตร์พระเยโฮวาห์ เจ้าจงทำเสื้อคลุมให้เข้าชุดกับเอโฟดด้วยผ้าสีฟ้าล้วน ให้ทำช่องคอกลางผืนเสื้อ แล้วขลิบรอบคอด้วยผ้าทอ เช่นเดียวกับคอเสื้อทหาร เพื่อจะมิให้ขาด ที่ชายล่างของเสื้อคลุมให้ปักรูปทับทิม ใช้ด้ายสีฟ้า สีม่วง สีแดงเข้มรอบชายเสื้อ และติดลูกพรวนทองคำสลับกับผลทับทิม ลูกพรวนทองคำลูกหนึ่ง ผลทับทิมผลหนึ่ง ลูกพรวนทองคำอีกลูกหนึ่ง ผลทับทิมอีกผลหนึ่งรอบชายล่างของเสื้อคลุม อาโรนจะสวมเสื้อตัวนั้นเมื่อทำงานปรนนิบัติ และจะได้ยินเสียงลูกพรวนเมื่อเข้าเฝ้าพระเยโฮวาห์ในที่บริสุทธิ์ และเมื่อเดินออกมา ด้วยเกรงว่าเขาจะต้องตาย เจ้าจงทำแผ่นทองคำบริสุทธิ์จารึกคำว่า ‘บริสุทธิ์แด่พระเยโฮวาห์’ ไว้เหมือนอย่างแกะตรา และเจ้าจงเอาด้ายถักสีฟ้า ผูกแผ่นทองคำนั้นไว้บนมาลาให้อยู่ที่ข้างมาลาด้านหน้า แผ่นทองคำนั้นจะอยู่ที่หน้าผากของอาโรน และอาโรนจะรับความชั่วช้าอันเกิดแก่ชนชาติอิสราเอลเนื่องจากของถวายอันบริสุทธิ์ ซึ่งนำมาชำระให้เป็นของถวายอันบริสุทธิ์ และแผ่นทองคำนั้นให้อยู่ที่หน้าผากของอาโรนเสมอ เพื่อสิ่งของเหล่านั้นจะเป็นที่โปรดปรานต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์
อพยพ 28:1-38 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
<<จงนำอาโรนพี่ชายของเจ้ากับบุตรของเขา แยกออกมาจากหมู่ชนชาติอิสราเอลให้มาอยู่ใกล้เจ้า เพื่อจะได้เป็นปุโรหิตปรนนิบัติเรา คือทั้งอาโรนกับบุตรของอาโรน คือนาดับ อาบีฮู เอเลอาซาร์ อิธามาร์ แล้วให้ทำเครื่องยศบริสุทธิ์สำหรับ อาโรนพี่ชายของเจ้าให้สมเกียรติและงดงาม ให้กล่าวแก่คนทั้งปวงผู้มีสมรรถภาพ ซึ่งเราได้บันดาลให้เขามีจิตใจอันสามารถนั้น ให้เขาทำเครื่องยศสำหรับสถาปนาอาโรนให้ ปรนนิบัติเราในตำแหน่งปุโรหิต ให้เขาทำเครื่องยศดังต่อไปนี้คือ ทับทรวง เสื้อเอโฟด เสื้อคลุม เสื้อตาสมุก ผ้ามาลา และรัดประคด และให้เขาทำเครื่องยศบริสุทธิ์สำหรับอาโรนพี่ชายของเจ้า และบุตรของเขา เพื่อจะได้เป็นปุโรหิตปรนนิบัติเรา <<ให้เขาเหล่านั้นรับเอาทองคำ ด้ายสีฟ้า สีม่วง สีแดงเข้ม และผ้าป่านเนื้อดี ให้เขาทำเอโฟดด้วยทองคำ ด้วยด้ายสีฟ้า สีม่วง สีแดงเข้ม และผ้าป่านเนื้อดี ตัดด้วยฝีมือช่างออกแบบ แถบที่ผูกบ่าของเอโฟดนั้น ให้ติดกับริมตอนบนทั้งสองชิ้น เพื่อจะติดเป็นอันเดียวกัน รัดประคดทออย่างประณีต สำหรับคาดทับเอโฟด ให้ทำด้วยฝีมืออย่างเดียวกัน และใช้วัตถุอย่างเดียวกับเอโฟด คือทำด้วยทองคำ ด้ายสีฟ้า สีม่วง สีแดงเข้ม และผ้าป่านเนื้อดี แล้วให้ใช้แก้วโกเมนสองแผ่น สำหรับจารึกชื่อบุตรชายของอิสราเอลไว้ ที่แก้วแผ่นหนึ่งให้จารึกชื่อหกชื่อ และแผ่นที่สองก็ให้จารึกชื่อไว้อีกหก ชื่อที่เหลืออยู่ตามกำเนิด ให้ช่างแกะจารึกชื่อเหล่าบุตรอิสราเอลไว้ ที่แก้วทั้งสองแผ่นนั้น เช่นอย่างแกะตราแล้วฝังไว้บนกระเปาะทองคำซึ่งมี ลวดลายละเอียด แก้วทั้งสองแผ่นนั้นให้ติดไว้กับเอโฟดบนบ่าทั้งสองข้าง แก้วนั้นจะเป็นที่ระลึกถึงบรรดาบุตรแห่งอิสราเอล และอาโรนจะแบกชื่อเขาทั้งหลายไว้บนบ่าทั้งสอง เฉพาะพระพักตร์พระเจ้าเป็นที่ระลึก เจ้าจงทำกระเปาะทองคำมีลวดลายละเอียด กับทำสร้อยสองสายด้วยทองคำบริสุทธิ์ เป็นสร้อยถักเกลียว แล้วติดไว้ที่กระเปาะนั้น <<จงทำทับทรวงสำหรับแต่งเวลาพิพากษา ด้วยฝีมือช่างออกแบบฝีมือเหมือนทำเอโฟด คือทำด้วยทองคำ ด้ายสีฟ้า สีม่วง สีแดงเข้มและผ้าป่านเนื้อดี ให้ทำทับทรวงเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส พับทบกลางยาวคืบหนึ่ง กว้างคืบหนึ่ง จงฝังแก้วสี่แถวบนทับทรวงนั้น แถวที่หนึ่งฝังทับทิม บุษราคัมน้ำอ่อน และมรกต แถวที่สองฝังพลอยขี้นกการเวก ไพฑูรย์ และเพชร แถวที่สาม ฝังนิลโมรา และเพทายม่วง แถวที่สี่ฝังเพทาย โกเมนและมณีโชติ แก้วทั้งหมดนี้ให้ฝังในลวดลายอันละเอียดที่ทำด้วยทองคำ แก้วเหล่านั้นให้มีชื่อเหล่าบุตรอิสราเอลสิบสองชื่อ จารึกไว้เหมือนแกะตรา จะมีชื่อเผ่าทุกเผ่าตามลำดับสิบสองเผ่า และเจ้าจงทำสร้อยถักเกลียวด้วย ทองคำบริสุทธิ์สำหรับทับทรวง และเจ้าจงทำห่วงทองคำสองห่วง ติดไว้ที่มุมบนทั้งสองของทับทรวง ส่วนสร้อยที่ทำด้วยทองคำนั้น ให้เกี่ยวด้วยห่วงที่มุมทับทรวง และปลายสร้อยอีกสองข้าง ให้ติดกับกระเปาะที่มีลวดลายละเอียดทั้งสอง ให้ติดไว้ข้างหน้าที่แถบยึดเอโฟดทั้งสองข้างบนบ่า จงทำห่วงทองคำสองอัน ติดไว้ที่มุมล่างทั้งสองข้างของทับทรวงข้างในที่ติดเอโฟด จงทำห่วงสองอันด้วยทองคำใส่ไว้ริมเอโฟดเบื้องหน้า ใต้แถบที่ตะเข็บเหนือรัดประคดซึ่งทอด้วยฝีมือประณีต ให้ผูกทับทรวงนั้นติดกับเอโฟดด้วย ใช้ด้ายถักสีฟ้าร้อยผูกที่ห่วง ให้ทับทรวงทับรัดประคด ที่ทำด้วยฝีมือประณีตของเอโฟดเพื่อมิให้ ทับทรวงหลุดไปจากเอโฟด อาโรนจึงจะมีชื่อเหล่าบุตรอิสราเอล จารึกไว้ที่ทับทรวง สำหรับแต่งเวลาพิพากษาติดไว้ที่อกของตน ให้เป็นที่ระลึกต่อพระพักตร์พระเจ้าเสมอ เมื่อเขาเข้าไปในวิสุทธิสถานนั้น จงใส่อูริมและทูมมิม ไว้ในทับทรวง และของสองสิ่งนี้จะอยู่ที่หัวใจของอาโรน เมื่อเข้าเฝ้าพระเจ้า อาโรนจะรับภาระการพิพากษาเหล่าบุตรอิสราเอลไว้ที่ หัวใจของตนเสมอเฉพาะพระพักตร์พระเจ้า <<เจ้าจงทำเสื้อคลุมให้เข้าชุดกับเอโฟดด้วย ผ้าสีฟ้าล้วน ให้ทำช่องคอกลางผืนเสื้อ แล้วขลิบรอบคอด้วยผ้าทอ เช่นเดียวกับคอเสื้อทหาร เพื่อจะมิให้ขาด ที่ชายล่างของเสื้อคลุมให้ปักรูปทับทิม ใช้ด้ายสีฟ้า สีม่วง สีแดงเข้มรอบชายเสื้อ และติดลูกพรวนทองคำ สลับกับผลทับทิม ลูกพรวนทองคำลูกหนึ่ง ผลทับทิมผลหนึ่ง ลูกพรวนทองคำอีกลูกหนึ่ง ผลทับทิมอีกผลหนึ่ง รอบชายล่างของเสื้อคลุม อาโรนจะสวมเสื้อตัวนั้นเมื่อทำงานปรนนิบัติ และจะได้ยินเสียงลูกพรวนเมื่อเข้าเฝ้าพระเจ้าในวิสุทธิสถาน และเมื่อเดินออกมา ด้วยเกรงว่าเขาจะต้องตาย <<เจ้าจงทำแผ่นทองคำบริสุทธิ์ จารึกคำว่า <บริสุทธิ์แด่พระเจ้า> ไว้เหมือนอย่างแกะตรา และเจ้าจงเอาด้ายถักสีฟ้า ผูกแผ่นทองคำนั้นไว้บนมาลาให้อยู่ที่ข้างมาลาด้านหน้า แผ่นทองคำนั้นจะอยู่ที่หน้าผากของอาโรน และอาโรนจะรับความผิดอันเกิดแก่ชนชาติอิสราเอล เนื่องจากของถวายอันบริสุทธิ์ ซึ่งนำมาชำระให้เป็นของถวายอันบริสุทธิ์ และแผ่นทองคำนั้นให้อยู่ที่หน้าผากของอาโรนเสมอ เพื่อพระเจ้าจะได้ทรงรับสิ่งของเหล่านั้นจากเขา
อพยพ 28:1-38 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
“จงสถาปนาอาโรนพี่ชายของเจ้าและบรรดาบุตรชายของเขาคือ นาดับ อาบีฮู เอเลอาซาร์ และอิธามาร์ ให้ทำหน้าที่ปุโรหิตรับใช้เรา จงทำเครื่องแต่งกายบริสุทธิ์สำหรับอาโรนให้งดงามและสมเกียรติ จงกำชับช่างผู้ชำนาญทุกคนซึ่งเราให้สติปัญญาในเชิงช่างแก่เขา ให้ทำเครื่องแต่งกายสำหรับอาโรน สำหรับการชำระเขาให้บริสุทธิ์และแยกเขาไว้เพื่อเขาจะปฏิบัติหน้าที่ปุโรหิตรับใช้เรา เครื่องแต่งกายที่ให้ทำได้แก่ ทับทรวง เอโฟด เสื้อคลุม เสื้อตัวในที่ทอขึ้น ผ้าโพกศีรษะ และสายคาดเอว และจงทำเครื่องแต่งกายบริสุทธิ์พิเศษสำหรับอาโรนพี่ชายของเจ้าและบรรดาบุตรชายของเขาด้วย เพื่อเขาจะได้รับใช้เราในฐานะปุโรหิต โดยให้ช่างใช้ทองคำ ด้ายสีน้ำเงิน ม่วง และแดง และผ้าลินินเนื้อดี “จงให้ช่างฝีมือผู้ชำนาญทำเอโฟดโดยใช้ทองคำ ด้ายสีน้ำเงิน ม่วง และแดง และผ้าลินินเนื้อดี ประกอบด้วยชิ้นหน้าและชิ้นหลัง มีแถบสองชิ้นที่บ่าโยงมุมสำหรับผูกเข้าด้วยกัน ทำสายคาดเอวอย่างประณีตด้วยทองคำ ด้ายสีน้ำเงิน ม่วง และแดง และผ้าลินินเนื้อดีทอเข้าเป็นชิ้นเดียวกับเอโฟด “จงเอาโกเมนสองชิ้นจารึกชื่อบุตรชายทั้งหลายของอิสราเอล จารึกชิ้นละหกชื่อตามลำดับการกำเนิดของพวกเขา จงจารึกชื่อบุตรชายทั้งหลายของอิสราเอลลงบนโกเมนทั้งสองชิ้นนั้นด้วยวิธีเดียวกันกับที่ช่างเจียระไนสลักตรา แล้วฝังโกเมนสองชิ้นนั้นบนเรือนทอง จงร้อยโกเมนทั้งสองชิ้นนี้เข้ากับแถบบ่าเอโฟด เพื่อเป็นหินอนุสรณ์ถึงประชากรอิสราเอล อาโรนจะต้องแบกชื่อของพวกเขา เพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงระลึกถึงพวกเขาเสมอ จงทำเรือนทองสองเรือน และทำสร้อยเกลียวสองเส้นลักษณะคล้ายเชือกด้วยทองคำบริสุทธิ์และติดสร้อยนั้นเข้ากับเรือนทองทั้งสอง “แล้วจงให้ช่างฝีมือผู้ชำนาญทำทับทรวงสำหรับการตัดสินโดยใช้ทองคำ ด้ายสีน้ำเงิน ม่วง และแดง และผ้าลินินเนื้อดีเหมือนกับที่ใช้ทำเอโฟด ทับทรวงนี้จะเป็นผ้าสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดหนึ่งคืบพับสองทบ แล้วฝังอัญมณีสี่แถวเข้ากับทับทรวง แถวแรกได้แก่ ทับทิม บุษราคัม และนิล แถวที่สองได้แก่ พลอยขี้นกการเวก ไพฑูรย์ และมรกต แถวที่สามได้แก่ พลอยสีม่วง โมรา และเพทายม่วง แถวที่สี่ได้แก่ เพทาย โกเมน และมณีโชติ ทั้งหมดนี้ฝังไว้บนเรือนทอง อัญมณีสิบสองเม็ดนี้ แต่ละเม็ดสลักชื่อบุตรชายแต่ละคนของอิสราเอลแทนทั้งสิบสองเผ่าเหมือนสลักตรา “จงทำสร้อยเกลียวทองคำบริสุทธิ์ลักษณะคล้ายเชือกสำหรับทับทรวง ทำห่วงทองคำสองห่วงคล้องสร้อยเกลียวเข้ากับมุมทั้งสองของทับทรวง ผูกสร้อยเกลียวทองคำทั้งสองเส้นเข้ากับห่วงที่มุมทับทรวง ส่วนปลายอีกด้านของสร้อยเกลียวติดเข้ากับเรือนทองทั้งสอง แล้วติดเข้ากับแถบบ่าทั้งสองของเอโฟดตรงด้านหน้า ทำห่วงทองคำสองห่วงติดกับอีกสองมุมของทับทรวงตรงขอบด้านในชิดกับเอโฟด ทำห่วงทองคำอีกสองห่วงติดที่ปลายล่างของแถบบ่าตรงด้านหน้าของเอโฟด ชิดกับตะเข็บเหนือสายคาดเอวของเอโฟด ห่วงของทับทรวงจะผูกเข้ากับห่วงของเอโฟดโดยใช้ด้ายถักสีน้ำเงินติดเข้ากับสายคาดเอว เพื่อไม่ให้ทับทรวงเลื่อนหลุดจากเอโฟด “เมื่อใดก็ตามที่อาโรนเข้าไปในวิสุทธิสถาน เขาจะแบกชื่อบุตรทั้งหลายของอิสราเอลแนบหัวใจของเขาบนทับทรวงแห่งการตัดสิน แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงระลึกถึงพวกเขาอยู่เสมอ จงสอดอูริมและทูมมิมไว้ในช่องระหว่างทบของทับทรวงด้วย เพื่อสองสิ่งนี้จะได้แนบใจของอาโรนเวลาเข้าเฝ้าองค์พระผู้เป็นเจ้าดังนั้นอาโรนจะมีเครื่องมือในการตัดสินสำหรับชนอิสราเอลแนบใจเสมอต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า “จงทำเสื้อคลุมเข้าชุดกับเอโฟดด้วยผ้าสีน้ำเงินทั้งตัว มีช่องตรงกลางสำหรับสวมเข้าทางศีรษะและมีแถบทอรอบคอเสื้อเพื่อไม่ให้เสื้อขาด จงทำผลทับทิมด้วยด้ายสีน้ำเงิน ม่วง และแดงไว้รอบชายเสื้อคลุม ติดลูกพรวนทองคำสลับกับผลทับทิม ลูกพรวนทองคำจะต้องสลับกับผลทับทิมรอบชายเสื้อคลุม อาโรนต้องสวมเสื้อนี้ทุกครั้งที่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ คนจะได้ยินเสียงลูกพรวนขณะที่เขาเข้าออกต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าในวิสุทธิสถาน เพื่อเขาจะไม่ตาย “จงทำแผ่นทองคำบริสุทธิ์และสลักว่า ‘บริสุทธิ์แด่องค์พระผู้เป็นเจ้า’ จงร้อยแผ่นทองนี้เข้ากับด้านหน้าของผ้าโพกศีรษะของอาโรนโดยใช้ด้ายถักสีน้ำเงิน เพื่ออาโรนจะได้คาดแผ่นทองนี้บนหน้าผาก และแบกมลทินความผิดซึ่งเกี่ยวเนื่องกับเครื่องบูชาศักดิ์สิทธิ์ที่ประชากรอิสราเอลนำมาถวาย เขาจะต้องคาดไว้เสมอเพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงยอมรับประชากร
อพยพ 28:1-38 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
ให้คนพาอาโรนพี่ชายของเจ้าพร้อมกับบรรดาบุตรของเขาคือ นาดับ อาบีฮู เอเลอาซาร์ และอิธามาร์ แยกพวกเขาออกจากหมู่ชนชาวอิสราเอลและให้มาอยู่ใกล้เจ้า เพื่อเป็นปุโรหิตรับใช้เรา เจ้าจงจัดหาเครื่องแต่งกายอันบริสุทธิ์ งดงาม และสมเกียรติให้อาโรนพี่ชายของเจ้า เจ้าจงบอกกับทุกคนที่มีความชำนาญและเป็นคนที่เราได้มอบจิตวิญญาณอันพรั่งพร้อมด้วยสติปัญญา เพื่อให้พวกเขาตัดเย็บเครื่องแต่งกายให้อาโรน ถวายตัวเขาให้รับตำแหน่งปุโรหิตสำหรับเรา ให้พวกเขาจัดหาเครื่องแต่งกายตามนี้คือ ทับทรวง ชุดคลุม เสื้อคลุมยาว เสื้อยาวชั้นในปักลวดลาย ผ้าโพกศีรษะ และผ้าคาดเอว พวกเขาต้องจัดเตรียมเครื่องแต่งกายอันบริสุทธิ์ให้อาโรนพี่ชายของเจ้าและบรรดาบุตรของเขาเพื่อรับใช้เราเช่นปุโรหิต ให้พวกเขาตัดเย็บเครื่องแต่งกายนั้นด้วยด้ายทอง ด้ายทอขนแกะย้อมสีน้ำเงิน ม่วง และแดงสด อีกทั้งผ้าป่านทอเนื้อดี ให้พวกเขาเย็บชุดคลุมด้วยด้ายทอง ด้ายทอขนแกะย้อมสีน้ำเงิน ม่วง และแดงสด และผ้าป่านทอเนื้อดีปักอย่างงดงามด้วยช่างผู้ชำนาญ ติดแถบผ้าพาดบ่า 2 ชิ้นกับขอบชุดคลุมให้เป็นผืนเดียวกัน ตอนบนเป็นผ้าคาดเอวซึ่งทอด้วยฝีมือชั้นดีสำหรับสวมให้กระชับกับชุดคลุม ใช้ผ้าและด้ายชนิดเดียวกันกับชุดคลุม ใช้ด้ายทอง ด้ายทอขนแกะย้อมสีน้ำเงิน ม่วง และแดงสด อีกทั้งผ้าป่านทอเนื้อดี เจ้าจงสลักชื่อของบรรดาบุตรของอิสราเอลไว้บนแผ่นพลอยหลากสีจำนวน 2 แผ่น แผ่นที่หนึ่งสลักชื่อ 6 ชื่อ อีก 6 ชื่อที่เหลือบนศิลาอีกแผ่น ให้เรียงตามลำดับอายุ ให้ช่างแกะสลักเพชรสลักชื่อของบรรดาบุตรของอิสราเอลที่หน้าพลอย 2 แผ่นนี้ดังเช่นสลักตราประทับ และทำกรอบทองคำฉลุลวดลายโปร่งล้อมแผ่นพลอย จงติดแผ่นพลอยดังกล่าวไว้ที่แถบผ้าพาดบ่าที่เชื่อมอยู่กับชุดคลุม เป็นดั่งพลอยแห่งการรำลึกถึงพงศ์พันธุ์อิสราเอล และอาโรนจะแบกชื่อพวกเขาไว้บนบ่าทั้งสอง ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้าเพื่อเป็นเครื่องเตือนใจ เจ้าจงตีกรอบทองคำฉลุลวดลายโปร่ง ตีสร้อยทองคำบริสุทธิ์ถักเป็นเกลียว 2 เส้น แล้วจงติดสร้อยทองไว้กับกรอบทองคำ เจ้าจงตัดเย็บทับทรวงแห่งการตัดสินใจ 1 ผืนด้วยช่างผู้ชำนาญ ทำให้งดงามเหมือนกับที่ตัดเย็บชุดคลุม ด้วยด้ายทอง ด้ายทอขนแกะย้อมสีน้ำเงิน ม่วง และแดงสด อีกทั้งผ้าป่านทอเนื้อดี ทับทรวงเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส และพับทบเป็น 2 ชั้น ความยาว 1 คืบและกว้าง 1 คืบ เจ้าจงฝังเพชรพลอย 4 แถวที่ทับทรวง แถวแรกเป็นทับทิม บุษราคัม และแก้วผลึกสีเขียวปนน้ำเงิน แถวที่สองฝังพลอยสีฟ้า นิลสีคราม และเพชร แถวที่สามฝังแก้วผลึกสีส้มปนแดง โมรา และพลอยสีม่วง และแถวที่สี่ฝังโกเมน พลอยหลากสี และมณีสีเขียว จงฝังเพชรพลอยเหล่านี้ลงในกรอบทองคำฉลุลวดลายโปร่ง ต้องมีเพชรพลอย 12 เม็ด แต่ละเม็ดสลักชื่อบุตรแต่ละคนของอิสราเอล สลักชื่อทุกชื่อดังเช่นสลักตราประทับ เป็นชื่อสำหรับ 12 เผ่า เจ้าจงตีสายคล้องถักเป็นเกลียวด้วยทองคำบริสุทธิ์สำหรับโยงติดกับทับทรวง และตีห่วงทองคำ 2 อันติดไว้ที่ทับทรวงทั้ง 2 มุม จงติดสายคล้องทองคำทั้งสองไว้กับห่วง 2 อันที่มุมของทับทรวง ปลายสายคล้องอีก 2 ข้างให้โยงไว้กับกรอบฉลุลวดลายโปร่งที่ด้านหน้าซึ่งติดอยู่กับแถบผ้าพาดบ่าที่เชื่อมกับชุดคลุม เจ้าจงตีห่วงทองคำ 2 อันติดเข้ากับมุมล่างทั้งสองของทับทรวงที่ริมด้านในที่ติดกับชุดคลุม ตีห่วงทองคำ 2 อันติดไว้ที่ด้านหน้าตอนล่างของแถบผ้าพาดบ่าที่ติดกับขอบชุดคลุมเหนือผ้าคาดเอวที่ทอขึ้นอย่างงดงาม จงผูกห่วงที่ทับทรวงให้ติดกับห่วงที่ชุดคลุมด้วยสายเกลียวสีน้ำเงิน เพื่อให้ทับทรวงโยงติดกับผ้าคาดเอว และไม่หลุดจากชุดคลุม ดังนั้น อาโรนจึงมีชื่อของบรรดาบุตรของอิสราเอลอยู่บนทับทรวงแห่งการตัดสินใจแนบอยู่กับใจเวลาเขาเข้าไปในวิสุทธิสถาน เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจ ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้าเสมอไป เจ้าจงแนบอูริมและทูมมิมไว้กับทับทรวงแห่งการตัดสินใจ เพื่อให้แนบใจของอาโรนเวลาเขาเข้าไปอยู่ ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า การปฏิบัติเช่นนี้ทำให้อาโรนระลึกอยู่ในใจของเขาเสมอว่า เขามอบการตัดสินใจสำหรับชาวอิสราเอลไว้ ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า เจ้าจงเย็บเสื้อคลุมยาวจากผ้าสีน้ำเงินสำหรับสวมไว้ใต้ชุดคลุม เป็นเสื้อสวมหัว ขลิบรอบคอเสื้อด้วยผ้าทอเช่นเดียวกับเสื้อสวมชั้นใน เพื่อกันการขาดรุ่ย โดยรอบชายเสื้อคลุมให้ใช้ด้ายทอขนแกะย้อมสีน้ำเงิน ม่วง และแดงสดทำเป็นรูปทับทิม ติดลูกพรวนทองคำไว้ระหว่างลูกทับทิม คือติดลูกพรวนทองคำ 1 ลูกสลับกันไปกับลูกทับทิม 1 ลูกโดยรอบชายเสื้อคลุม อาโรนจะสวมเสื้อตัวนี้ในเวลาปฏิบัติงาน และเสียงลูกพรวนทองคำจะดังขณะที่เขาเข้าไปในวิสุทธิสถาน ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า และขณะที่เขาเดินออกมา เพื่อว่าเขาจะไม่ตายในสถานที่นั้น เจ้าจงตีแผ่นทองคำบริสุทธิ์ และสลักด้วยคำว่า ‘บริสุทธิ์สำหรับพระผู้เป็นเจ้า’ ดังเช่นสลักตราประทับ แล้วเจ้าจงผูกสายเกลียวสีน้ำเงินที่แผ่นทองคำให้ติดกับด้านหน้าของผ้าโพกศีรษะ แผ่นทองคำที่อยู่ที่หน้าผากของอาโรน เสมือนหนึ่งอาโรนได้แบกความผิดต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับของถวายอันบริสุทธิ์ซึ่งชาวอิสราเอลมอบให้ แผ่นทองคำจะอยู่ที่หน้าผากของเขาเสมอไป และพระผู้เป็นเจ้าได้รับของถวายจากเขา