เอสเธอร์ 2:8-14

เอสเธอร์ 2:8-14 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

เมื่อรับสั่งของกษัตริย์ และกฎหมายของพระองค์ประกาศออกไป หญิงสาวมากมายก็ถูกรวบรวมเข้ามายังสุสาเมืองป้อมในอารักขาของเฮกัย เอสเธอร์ก็ถูกนำเข้ามาไว้ในราชสำนัก อยู่ในอารักขาของเฮกัยผู้ดูแลสตรี หญิงนั้นเป็นที่พอใจและเป็นที่โปรดปรานแก่เขา เขาจึงรีบจัดเครื่องสำอางและอาหารส่วนที่เป็นของเธอ พร้อมกับสาวใช้ที่คัดเลือกแล้วเจ็ดคนจากราชสำนักให้เธอ แล้วก็ย้ายเธอและสาวใช้ของเธอไปยังสถานที่ที่ดีที่สุดในฮาเร็ม เอสเธอร์ไม่ได้เปิดเผยเรื่องชาติกำเนิดของเธอ เพราะโมรเดคัยกำชับเธอไม่ให้บอกใคร ทุกๆ วันโมรเดคัยเดินไปเดินมาหน้าลานของฮาเร็ม เพื่อฟังข่าวคราวของเอสเธอร์ว่าเป็นอย่างไร และมีอะไรเกิดขึ้นกับเธอ เมื่อถึงเวร หญิงสาวทุกคนจะเข้าไปเฝ้ากษัตริย์อาหสุเอรัส หลังจากได้เตรียมตัวตามระเบียบของหญิงเป็นเวลาสิบสองเดือนแล้ว (และนี่เป็นเวลาปกติสำหรับประทินผิว คือชโลมกายด้วยน้ำมันกำยานหกเดือน และด้วยเครื่องเทศและเครื่องสำอางของผู้หญิงอีกหกเดือน) หญิงสาวจะเข้าเฝ้ากษัตริย์อย่างนี้คือ เธอต้องการจะเอาอะไรจากฮาเร็มไปยังพระราชวังก็เอาไปได้ เธอเข้าไปเฝ้าเวลาเย็น และในเวลาเช้าเธอกลับไปยังฮาเร็มที่สองในอารักขาของชาอัชกาส ขันทีของกษัตริย์ผู้ดูแลนางห้าม เธอไม่ได้ไปเข้าเฝ้ากษัตริย์อีก นอกจากกษัตริย์จะพอพระทัยในเธอและทรงเรียกชื่อเธอให้เข้าเฝ้า

เอสเธอร์ 2:8-14 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

เนื่องด้วยพระราชโองการของกษัตริย์ หญิงสาวหลายคนจึงถูกนำมาอยู่ที่ป้อมเมืองสุสาในความดูแลของเฮกัย และเอสเธอร์ก็ถูกนำมาที่พระราชวังของกษัตริย์และอยู่ในความดูแลของเฮกัยผู้ดูแลฮาเร็มเช่นกัน เฮกัยเอ็นดูและพอใจเอสเธอร์มาก เขาจึงรีบจัดหาเครื่องประทินโฉมและอาหารพิเศษให้นางทันที ทั้งจัดเด็กหญิงเจ็ดคนซึ่งคัดเลือกจากพระราชวังมาคอยรับใช้นาง และให้นางกับสาวใช้ย้ายไปอยู่ที่ที่ดีที่สุดในฮาเร็ม เอสเธอร์ไม่ได้เปิดเผยเรื่องเชื้อชาติและภูมิหลังครอบครัวของนางเพราะโมรเดคัยสั่งห้ามไว้ ทุกวันโมรเดคัยจะเดินวนเวียนแถวๆ ลานฮาเร็ม เพื่อถามข่าวคราวและความเป็นไปของเอสเธอร์ ก่อนถึงเวรที่หญิงสาวแต่ละคนเข้าเฝ้ากษัตริย์เซอร์ซีส พวกนางจะต้องรับการประทินโฉมครบสิบสองเดือนตามที่กำหนดไว้คือ หกเดือนแรกบำรุงด้วยน้ำมันมดยอบ จากนั้นบำรุงด้วยน้ำหอมและเครื่องประทินผิวอีกหกเดือน เมื่อถึงรอบที่แต่ละคนจะเข้าเฝ้ากษัตริย์ จะขอนำอะไรจากฮาเร็มไปพระราชวังด้วยก็ได้ ในเวลาเย็นนางจะเข้าวัง และเช้าวันรุ่งขึ้นจะกลับไปอยู่อีกตำหนักหนึ่งในฮาเร็มซึ่งอยู่ในความดูแลของชาอัชกาสขันทีของกษัตริย์ผู้คอยดูแลพวกสนม นางจะไม่ได้เฝ้ากษัตริย์อีกเว้นเสียแต่ว่าพระองค์ทรงโปรดและเอ่ยนามเรียกตัวนางมาเข้าเฝ้า

เอสเธอร์ 2:8-14 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

เมื่อ​คำสั่ง​ของ​กษัตริย์​ถูก​ประกาศ​ออกไป ก็​มี​หญิง​แรกรุ่น​เป็น​จำนวน​มาก​ถูก​รวบรวม​มา​ที่​เขต​วัง​ใน​เมือง​สุสา มา​อยู่​ภายใต้​การ​ดูแล​ของ​เฮกัย เอสเธอร์​ก็​ถูก​พา​มา​ที่​วัง​ของ​กษัตริย์​ด้วย และ​อยู่​ใน​ความ​ดูแล​ของ​เฮกัย ผู้​ดูแล​พวก​ผู้หญิง​ทั้งหลาย​ของ​กษัตริย์ เฮกัย​ชอบ​เอสเธอร์ และ​เธอ​ก็​กลาย​เป็น​คนโปรด​ของเขา ดังนั้น​เฮกัย​จึง​รีบ​บำรุง​ผิวพรรณ​ให้​กับ​เอสเธอร์ และ​ให้​อาหาร​ที่​พิเศษ​กับ​นาง เขา​ยัง​ได้​คัดเลือก​หญิง​รับใช้​เจ็ดคน​จาก​วัง​ของ​กษัตริย์ เพื่อ​ให้​มา​รับใช้​เอสเธอร์ หลัง​จากนั้น​เขา​ได้​ย้าย​เอสเธอร์​และ​สาวใช้​ทั้ง​เจ็ดคน​ไป​อยู่​ในที่​ที่​ดี​ที่สุด​ของ​บริเวณ​ที่​พวก​ผู้หญิง​ของ​กษัตริย์​อยู่กัน เอสเธอร์​ไม่ได้​เปิดเผย​ความ​เป็นมา​ของ​เธอ หรือ​บรรพบุรุษ​ของ​เธอ​ว่า​เป็น​ใคร เพราะ​โมรเดคัย​ได้​สั่ง​ห้าม​เธอ​ไว้ โมรเดคัย​จะ​เดินเล่น​อยู่​หน้าลาน​ที่พัก​ของ​พวก​ผู้หญิง​เหล่านั้น​ทุกวัน เพื่อ​จะได้​รู้​ความ​เป็นอยู่​ของ​เอสเธอร์ และ​ดู​ว่า​เกิด​อะไรขึ้น​กับ​เธอ​บ้าง ก่อน​ที่​หญิงสาว​เหล่านี้​จะได้​เข้าเฝ้า​กษัตริย์ พวกเธอ​จะต้อง​ผ่าน​ขั้นตอน​การ​บำรุง​ผิวพรรณ​เป็น​เวลา​สิบสอง​เดือน​เสียก่อน คือ​ต้อง​อาบ​น้ำมัน​กำยาน​เป็น​เวลา​หก​เดือน และ​อาบ​น้ำหอม​อีก​หก​เดือน พร้อม​กับ​ตกแต่ง​ด้วย​เครื่องสำอาง​ต่างๆ ถึง​ตอนนั้น หญิงสาว​ที่​จะ​ไป​เข้าเฝ้า​กษัตริย์​ก็​มีสิทธิ์​ที่​จะ​ขอ​อะไร​ก็ได้​จาก​ที่พัก​ของ​พวกนาง ติดตัว​ไป​ยัง​วัง​ของ​กษัตริย์ สาวงาม​แต่ละคน​จะ​ถูก​ส่ง​เข้าไป​เฝ้า​กษัตริย์​ใน​ตอน​เย็น และ​กลับ​ออกมา​ใน​ตอนเช้า นาง​จะได้​ไป​อยู่​ใน​ที่พัก​แห่ง​ใหม่ ภายใต้​การ​ดูแล​ของ​ชาอัชกาส ผู้​เป็น​ขันที​ของ​กษัตริย์ เขา​ดูแล​พวก​นางสนม​ของ​กษัตริย์ นาง​จะ​ไม่ได้​เข้าเฝ้า​กษัตริย์​อีก นอกจาก​กษัตริย์​จะ​ถูกใจ​นาง และ​เรียกหา​ชื่อ​นาง​อีก​ครั้งหนึ่ง

เอสเธอร์ 2:8-14 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

ต่อมาเมื่อพระบัญชาของกษั​ตริ​ย์และกฤษฎีกาของพระองค์ประกาศออกไป และเมื่อเขารวบรวมหญิงสาวเป็​นอ​ันมากเข้ามาในสุสาปราสาทให้​อยู่​ภายใต้​อารักขาของเฮกัย เอสเธอร์​ก็​ถู​กนำเข้ามาไว้ในราชสำนักภายใต้อารักขาของเฮกัยผู้​ดู​แลสตรี หญิงนั้นเป็​นที​่พอใจเขาและเธอก็เป็​นที​่โปรดปรานแก่​เขา เขาจึงรีบจัดหาเครื่องประเทืองผิว และส่วนของเธอให้​เธอ พร​้อมกับสาวใช้​ที่​คัดเลือกแล้วเจ็ดคนจากราชสำนัก แล้วก็​เลื่อนเธอและสาวใช้ของเธอขึ้นไปยังสถานที่​ที่​ดี​ที่​สุดในฮาเร็ม เอสเธอร์​มิได้​บอกให้ทราบถึงชาติและญาติของเธอ เพราะโมรเดคัยกำชับเธอไม่​ให้​ใครรู้ ทุ​กๆวันโมรเดคัยเดินมาหน้าลานของฮาเร็ม เพื่อฟังข่าวเอสเธอร์เป็นอย่างไร และมีอะไรเกิดขึ้นแก่​เธอ เมื่อถึงเวรที่สาวๆทุกคนจะเข้าไปเฝ้ากษั​ตริ​ย์อาหสุเอรัส หลังจากได้เตรียมตัวตามระเบียบของหญิงสิบสองเดือนแล้ว (และนี่เป็นเวลาปกติสำหรับประเทืองผิว คือชโลมกายหญิ​งด​้วยน้ำมันกำยานหกเดือน และหกเดือนด้วยเครื่องเทศและน้ำมันประเทืองผิวผู้​หญิง​) เมื่อสาวๆทุกคนจะเข้าไปเฝ้ากษั​ตริ​ย์​อย่างนี้ เธอจะต้องการเอาอะไรจากฮาเร็มไปยังราชสำนัก ก็​เอาไปได้ เธอเข้าไปเฝ้าเวลาเย็น และในเวลาเช้าเธอกลับออกมาในฮาเร็​มท​ี่สองในอารักขาของชาอัชกาสขั​นที​ของกษั​ตริ​ย์​ผู้ดู​แลนางห้าม เธอไม่​ได้​เข​้าไปเฝ้ากษั​ตริ​ย์​อีก นอกจากกษั​ตริ​ย์จะพอพระทัยในเธอ และทรงเรียกชื่อเธอให้​เข้าเฝ้า

เอสเธอร์ 2:8-14 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

เมื่อรับสั่งของพระราชา และกฤษฎีกาของพระองค์ประกาศออกไป และเมื่อเขารวบรวมหญิงสาวทั้งหลายเข้ามาในสุสาเมืองป้อม เอสเธอร์ก็ถูกนำเข้ามาไว้ในราชสำนัก อยู่ในอารักขาของเฮกัยผู้ดูแลสตรี หญิงนั้นเป็นที่พอใจเขาและเธอก็เป็นที่โปรดปรานแก่เขา เขาจึงรีบจัดหาเครื่องประเทืองผิว และส่วนอาหารของเธอให้เธอ พร้อมกับสาวใช้ที่คัดเลือกแล้วเจ็ดคนจากราชสำนัก แล้วก็เลื่อนเธอและสาวใช้ของเธอขึ้นไปยังสถานที่ ที่ดีที่สุดในฮาเร็ม เอสเธอร์มิได้บอกให้ทราบถึงชาติและญาติของเธอ เพราะโมรเดคัยกำชับเธอไม่ให้ใครรู้ ทุกๆวันโมรเดคัยเดินมาหน้าลานของฮาเร็ม เพื่อฟังข่าวเอสเธอร์เป็นอย่างไร และมีอะไรเกิดขึ้นแก่เธอ เมื่อถึงเวรที่สาวๆทุกคนจะเข้าไปเฝ้ากษัตริย์อาหสุเอรัส หลังจากได้เตรียมตัวตามระเบียบของหญิงสิบสองเดือนแล้ว (และนี่เป็นเวลาปกติสำหรับประเทืองผิว คือชโลมกายหญิงด้วยน้ำมันกำยานหกเดือน และหกเดือนด้วยเครื่องเทศและน้ำมันประเทืองผิว) เมื่อผู้หญิงจะเข้าไปเฝ้าพระราชาอย่างนี้ เธอจะต้องการเอาอะไรจากฮาเร็มไปยังราชสำนัก ก็เอาไปได้ เธอเข้าไปเฝ้าเวลาเย็น และในเวลาเช้าเธอกลับออกมาใน ฮาเร็มที่สองในอารักขาของชาอัชกาส ขันทีของพระราชาผู้ดูแลนางห้าม เธอไม่ได้เข้าไปเฝ้าพระราชาอีก นอกจากพระราชาจะพอพระทัยในเธอ และทรงเรียกชื่อเธอให้เข้าเฝ้า

เอสเธอร์ 2:8-14 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

ฉะนั้น เมื่อ​มี​คำ​สั่ง​และ​ประกาศ​กฤษฎีกา​ของ​กษัตริย์ และ​เมื่อ​หญิง​สาว​มาก​มาย​มา​รวม​กัน​ที่​สุสา​เมือง​ป้อม​ปราการ ภาย​ใต้​การ​ดูแล​ของ​เฮกัย เอสเธอร์​ก็​ถูก​นำ​มา​ยัง​ราชวัง และ​อยู่​ภาย​ใต้​การ​ดูแล​ของ​เฮกัย​ผู้​ควบคุม​ดูแล​ผู้​หญิง​ทั้ง​หลาย เอสเธอร์​เป็น​ที่​พึงใจ​และ​ทำ​ให้​เขา​ชอบใจ​เธอ​เป็น​พิเศษ เขา​จึง​เตรียม​เสริม​ความ​งาม​และ​จัด​หา​อาหาร​ให้​แก่​เธอ​เพิ่ม​เติม อีก​ทั้ง​จัด​หา​หญิง​สาว 7 คน​ที่​ได้​คัดเลือก​จาก​ราชวัง เพื่อ​มา​รับใช้​เธอ และ​ย้าย​เอสเธอร์​กับ​หญิง​รับใช้​เข้า​ไป​อยู่​ใน​สถาน​ที่​ดี​ที่​สุด​ใน​ฮาเร็ม เอสเธอร์​ยัง​ไม่​ได้​เปิดเผย​สัญชาติ​และ​ประวัติ​ครอบครัว​ของ​เธอ เพราะ​โมร์เดคัย​ได้​สั่ง​ห้าม​ไว้ ทุกๆ วัน โมร์เดคัย​เดิน​อยู่​ที่​หน้า​ลาน​ฮาเร็ม เพื่อ​ดู​ว่า​เอสเธอร์​เป็น​อยู่​อย่างไร และ​เธอ​ทำ​อะไร​บ้าง หลัง​จาก​ที่​บรรดา​หญิง​สาว​ผ่าน​การ​เสริม​ความ​งาม​เป็น​เวลา 12 เดือน​ตาม​กำหนด คือ ชโลม​กาย​ด้วย​น้ำมัน​มดยอบ 6 เดือน และ​ด้วย​น้ำมัน​กับ​เครื่อง​หอม​อีก 6 เดือน​ก็​จะ​ถึง​เวร​ที่​หญิง​สาว​แต่​ละ​คน​จะ​ได้​เข้า​เฝ้า​กษัตริย์​อาหสุเอรัส เมื่อ​หญิง​สาว​เข้า​เฝ้า​กษัตริย์​ใน​กรณี​ดัง​กล่าว เธอ​จะ​ได้​รับ​สิ่ง​ที่​เธอ​ปรารถนา​จาก​ฮาเร็ม และ​นำ​ติด​ตัว​ไป​ที่​ราชวัง ใน​เวลา​เย็น เธอ​จะ​ไป​ที่​ราชวัง และ​ใน​เวลา​เช้า เธอ​จะ​กลับ​ไป​ยัง​ฮาเร็ม​ที่​สอง​ภาย​ใต้​การ​ดูแล​ของ​ชาอัชกัซ​ขันที​ของ​กษัตริย์ ผู้​เป็น​ผู้​ควบคุม​ดูแล​บรรดา​ภรรยา​น้อย เธอ​จะ​ไม่​เข้า​เฝ้า​กษัตริย์​อีก เว้น​เสีย​แต่​ว่า​กษัตริย์​จะ​พึง​พอใจ​เธอ และ​เรียก​ชื่อ​เธอ​ให้​มา​เข้า​เฝ้า