เอเฟซัส 5:8-14

เอเฟซัส 5:8-14 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

เมื่อก่อนนี้​พวกคุณ​เคย​เป็น​ความมืด แต่​เดี๋ยวนี้​เป็น​ความสว่าง​แล้ว เพราะ​มีส่วน​ใน​องค์​เจ้า​ชีวิต อย่างนั้น​ก็​ให้​ใช้ชีวิต​ให้​สม​กับ​ที่​เป็น​ลูก​ของ​ความสว่าง​นั้น (เพราะ​ผล​ของ​ความสว่าง​คือ​ความดี​ทุกอย่าง ชีวิต​ที่​พระเจ้า​ชอบใจ และ​การ​พูด​ความจริง) ให้​พยายาม​ค้นหา​ว่า​องค์​เจ้า​ชีวิต​ชอบใจ​อะไรบ้าง อย่า​มีส่วน​กับ​การ​กระทำ​ต่างๆ​ของ​ความมืด​ที่​ไร้​ประโยชน์​นั้น แต่​ให้​ชีวิต​บริสุทธิ์​ของ​พวกคุณ​เปิดโปง​เรื่อง​พวกนั้น​ออกมา​ดีกว่า เพราะ​แม้แต่​จะ​พูดถึง​เรื่อง​ลับๆ​ที่​พวกเขา​ทำกัน ก็​ยัง​น่าละอาย​เลย แต่​ความสว่าง​นั้น​ทำให้​เห็น​ทุกสิ่ง​ทุกอย่าง​ชัดเจน เพราะ​ความสว่าง​จะ​ทำให้​ทุกสิ่ง​ทุกอย่าง​ที่​มัน​ส่อง​นั้น​กลาย​เป็น​ความสว่าง​ไปด้วย นั่น​เป็นเหตุ​ที่มี​คำพูด​ว่า “ตื่น​ได้แล้ว เจ้า​ที่​หลับ​อยู่ ลุกขึ้น​มา​จาก​ความตาย​สิ แล้ว​พระคริสต์​จะ​ส่องสว่าง​ใส่​เจ้า”

เอเฟซัส 5:8-14 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

เพราะเมื่อก่อนท่านทั้งหลายเป็นความมืด แต่บัดนี้ท่านเป็นความสว่างในองค์พระผู้เป็นเจ้า จงดำเนินชีวิตอย่างคนของความสว่าง (เพราะว่าผลของความสว่างคือทุกอย่างที่เป็นความดี ความชอบธรรม และความจริง) จงค้นดูว่าอะไรเป็นสิ่งที่พอพระทัยองค์พระผู้เป็นเจ้า และอย่ามีส่วนในกิจการของความมืดที่ไร้ผล แต่จงเปิดเผยกิจการนั้นให้ปรากฏดีกว่า เพราะว่าแม้แต่จะพูดถึงสิ่งเหล่านั้นที่พวกเขาทำอย่างลับๆ ก็ยังเป็นเรื่องน่าละอาย แต่ทุกๆ สิ่งที่ได้รับการเปิดเผยโดยความสว่างก็ปรากฏให้เห็น เพราะว่าทุกๆ สิ่งที่ปรากฏให้เห็นก็เป็นความสว่าง ดังนั้นจึงมีคำกล่าวว่า คนที่หลับอยู่ จงตื่นขึ้น และจงเป็นขึ้นจากตาย แล้วพระคริสต์จะทรงส่องสว่างแก่ท่าน

เอเฟซัส 5:8-14 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

เพราะว่าเมื่​อก​่อนท่านเป็นความมืด แต่​บัดนี้​ท่านเป็นความสว่างแล้วในองค์​พระผู้เป็นเจ้า จงดำเนินชีวิตอย่างลูกของความสว่าง (ด้วยว่าผลของพระวิญญาณคือ ความดี​ทุ​กอย่างและความชอบธรรมทั้งมวลและความจริงทั้งสิ้น) ท่านจงพิสู​จน​์​ดู​ว่า ทำประการใดจึงจะเป็​นที​่ชอบพระทัยองค์​พระผู้เป็นเจ้า และอย่าเข้าส่วนกั​บก​ิจการของความมืดอันไร้​ผล แต่​จงติเตียนกิจการเหล่านั้นดี​กว่า เพราะว่าแม้​แต่​จะพูดถึงการเหล่านั้น ซึ่งพวกเขากระทำในที่ลั​บก​็ยังเป็​นที​่​น่าละอาย แต่​สิ​่งสารพัดที่​ถู​กติเตียนแล้ว ก็​จะปรากฏแจ้งโดยความสว่าง เพราะว่าทุกๆสิ่งที่​ให้​ปรากฏแจ้​งก​็คือความสว่าง เหตุ​ฉะนั้นพระองค์ตรัสแล้​วว​่า ‘​คนที​่หลั​บอย​ู่จงตื่นขึ้นและจงฟื้นขึ้นมาจากความตาย และพระคริสต์จะทรงส่องสว่างแก่​ท่าน​’

เอเฟซัส 5:8-14 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

เพราะว่าเมื่อก่อนท่านเป็นความมืด แต่บัดนี้ท่านเป็นความสว่างแล้วในองค์พระผู้เป็นเจ้า จงดำเนินชีวิตอย่างลูกของความสว่าง (ด้วยว่าผลของความสว่างนั้น คือความดีทุกอย่างและความชอบธรรมทั้งมวลและความจริงทั้งสิ้น) ท่านจงพิสูจน์ดูว่า ทำประการใดจึงจะเป็นที่ชอบพระทัยองค์พระผู้เป็นเจ้า และอย่าเข้าส่วนกับกิจการของความมืดอันไร้ผล แต่จงเผยกิจการนั้นให้ปรากฏดีกว่า เพราะว่าแม้แต่จะพูดถึงการเหล่านั้น ซึ่งพวกเขากระทำในที่ลับก็ยังเป็นที่น่าละอาย แต่เมื่อสิ่งสารพัดที่ได้แสดงเปิดเผยออกโดยความสว่าง สิ่งนั้นก็ปรากฏแจ้ง เพราะว่าทุกๆสิ่งที่ปรากฏแจ้ง ก็คือความสว่าง เหตุฉะนั้นจึงมีคำกล่าวว่า นี่แน่ะคนที่หลับอยู่ จงตื่นขึ้น และจงฟื้นขึ้นมาจากความตาย และพระคริสต์จะทรงส่องสว่างแก่ท่าน

เอเฟซัส 5:8-14 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

เพราะเมื่อก่อนท่านเป็นความมืด แต่เดี๋ยวนี้ท่านเป็นความสว่างในองค์พระผู้เป็นเจ้า จงดำเนินชีวิตอย่างลูกของความสว่าง (เพราะผลของความสว่างประกอบด้วยความดีทั้งปวง ความชอบธรรมทั้งมวลและความจริงทั้งสิ้น) จงหาให้พบว่าอะไรเป็นที่ชอบพระทัยองค์พระผู้เป็นเจ้า อย่าเข้าส่วนใดๆ กับกิจกรรมของความมืดอันไร้ผล แต่จงเปิดเผยการเหล่านั้นดีกว่า เพราะเพียงเอ่ยถึงสิ่งซึ่งพวกที่ไม่ยอมเชื่อฟังแอบทำกันนั้นก็ยังน่าอาย แต่ทุกสิ่งที่ถูกเปิดเผยโดยความสว่างก็เห็นกันแจ่มแจ้ง เนื่องจากความสว่างทำให้เห็นทุกสิ่งชัดแจ้ง ด้วยเหตุนี้จึงกล่าวกันว่า “โอ ผู้ที่หลับอยู่ จงตื่นขึ้น จงฟื้นขึ้นจากความตาย และพระคริสต์จะทรงส่องสว่างแก่ท่าน”

เอเฟซัส 5:8-14 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

ด้วย​ว่า​แต่​ก่อน​ท่าน​เคย​อยู่​ใน​ความ​มืด แต่​เดี๋ยว​นี้​ท่าน​อยู่​ใน​ความ​สว่าง​ใน​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า จง​ดำเนิน​ชีวิต​เหมือน​บรรดา​บุตร​แห่ง​ความ​สว่าง​เถิด ด้วย​ว่า​ผล​แห่ง​ความ​สว่าง​คือ​ความ​ดี​ทุก​ประการ ความ​ชอบธรรม และ​ความ​จริง จง​พยายาม​เรียน​ให้​รู้​ว่า​สิ่ง​ใด​เป็น​ที่​พอ​ใจ​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า อย่า​มี​ส่วน​เกี่ยวข้อง​กับ​การ​กระทำ​ของ​ความ​มืด​อัน​ไร้​ประโยชน์ แต่​จง​เปิดโปง​ให้​คน​รู้ ด้วย​ว่า เป็น​ที่​น่า​ละอาย​แม้​จะ​มี​ผู้​ใด​กล่าว​ถึง​พวก​ที่​ไม่​เชื่อ​ฟัง​ว่า​เขา​กระทำ​อะไร​บ้าง​ใน​ที่​ลับ แต่​เมื่อ​สิ่ง​ใด​ถูก​เปิดโปง​ออก​โดย​ความ​สว่าง สิ่ง​นั้น​ก็​จะ​เป็น​ที่​รู้​แจ้ง​เห็น​จริง ด้วย​ว่า​ความ​สว่าง​ทำ​ให้​เห็น​ทุก​สิ่ง จึง​มี​คำกล่าว​ว่า “ผู้​หลับใหล​เอ๋ย จง​ตื่น​เถิด จง​ฟื้น​ขึ้น​จาก​ความ​ตาย และ​พระ​คริสต์​จะ​ส่อง​ความ​สว่าง​ให้​แก่​ท่าน”