เอเฟซัส 5:5-18

เอเฟซัส 5:5-18 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

ท่านจงรู้แน่ว่า คนล่วงประเวณี คนลามก คนละโมบ (ที่เป็นเหมือนคนที่นับถือรูปเคารพ) จะมีส่วนในแผ่นดินของพระคริสต์และพระเจ้าเป็นมรดกก็หามิได้ อย่าให้ผู้ใดล่อลวงท่านด้วยคำพูดที่เหลวไหล เพราะการกระทำเหล่านั้นเอง พระเจ้าจะทรงลงพระอาชญาแก่ผู้ที่ไม่เชื่อฟัง เหตุฉะนั้นท่านอย่าคบหาสมาคมกับคนเหล่านั้นเลย เพราะว่าเมื่อก่อนท่านเป็นความมืด แต่บัดนี้ท่านเป็นความสว่างแล้วในองค์พระผู้เป็นเจ้า จงดำเนินชีวิตอย่างลูกของความสว่าง (ด้วยว่าผลของความสว่างนั้น คือความดีทุกอย่างและความชอบธรรมทั้งมวลและความจริงทั้งสิ้น) ท่านจงพิสูจน์ดูว่า ทำประการใดจึงจะเป็นที่ชอบพระทัยองค์พระผู้เป็นเจ้า และอย่าเข้าส่วนกับกิจการของความมืดอันไร้ผล แต่จงเผยกิจการนั้นให้ปรากฏดีกว่า เพราะว่าแม้แต่จะพูดถึงการเหล่านั้น ซึ่งพวกเขากระทำในที่ลับก็ยังเป็นที่น่าละอาย แต่เมื่อสิ่งสารพัดที่ได้แสดงเปิดเผยออกโดยความสว่าง สิ่งนั้นก็ปรากฏแจ้ง เพราะว่าทุกๆสิ่งที่ปรากฏแจ้ง ก็คือความสว่าง เหตุฉะนั้นจึงมีคำกล่าวว่า นี่แน่ะคนที่หลับอยู่ จงตื่นขึ้น และจงฟื้นขึ้นมาจากความตาย และพระคริสต์จะทรงส่องสว่างแก่ท่าน เหตุฉะนั้นท่านจงระมัดระวังในการดำเนินชีวิตให้ดี อย่าให้เหมือนคนไร้ปัญญา แต่ให้เหมือนคนมีปัญญา จงฉวยโอกาส เพราะว่าทุกวันนี้เป็นกาลที่ชั่ว เหตุฉะนั้นอย่าเป็นคนโง่เขลา แต่จงเข้าใจน้ำพระทัยขององค์พระผู้เป็นเจ้าว่าเป็นอย่างไร และอย่าเมาเหล้าองุ่นซึ่งจะทำให้เสียคน แต่จงประกอบด้วยพระวิญญาณ

เอเฟซัส 5:5-18 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

ให้​พวกคุณ​รู้​เอาไว้​เลยว่า​ทุกคน​ที่​ทำ​ผิดบาป​ทาง​เพศ ไม่​บริสุทธิ์ หรือ​มักมาก​ใน​กาม ซึ่ง​เป็น​การ​บูชา​รูปเคารพ จะ​ไม่มี​ส่วน​ใน​อาณาจักร​ของ​พระคริสต์​และ​ของ​พระเจ้า อย่า​ให้​ใคร​มา​หลอกลวง​พวกคุณ​ด้วย​คำพูด​ที่​เหลวไหล เพราะ​เรื่อง​อย่าง​นี้​แหละ​ที่​ทำให้​พระเจ้า​ลงโทษ​คน​พวกนั้น​ที่​ไม่​เชื่อฟัง เมื่อ​รู้​อย่าง​นี้​แล้ว ก็​อย่าไป​มี​ส่วนร่วม​กับ​คน​พวกนั้น​เลย เมื่อก่อนนี้​พวกคุณ​เคย​เป็น​ความมืด แต่​เดี๋ยวนี้​เป็น​ความสว่าง​แล้ว เพราะ​มีส่วน​ใน​องค์​เจ้า​ชีวิต อย่างนั้น​ก็​ให้​ใช้ชีวิต​ให้​สม​กับ​ที่​เป็น​ลูก​ของ​ความสว่าง​นั้น (เพราะ​ผล​ของ​ความสว่าง​คือ​ความดี​ทุกอย่าง ชีวิต​ที่​พระเจ้า​ชอบใจ และ​การ​พูด​ความจริง) ให้​พยายาม​ค้นหา​ว่า​องค์​เจ้า​ชีวิต​ชอบใจ​อะไรบ้าง อย่า​มีส่วน​กับ​การ​กระทำ​ต่างๆ​ของ​ความมืด​ที่​ไร้​ประโยชน์​นั้น แต่​ให้​ชีวิต​บริสุทธิ์​ของ​พวกคุณ​เปิดโปง​เรื่อง​พวกนั้น​ออกมา​ดีกว่า เพราะ​แม้แต่​จะ​พูดถึง​เรื่อง​ลับๆ​ที่​พวกเขา​ทำกัน ก็​ยัง​น่าละอาย​เลย แต่​ความสว่าง​นั้น​ทำให้​เห็น​ทุกสิ่ง​ทุกอย่าง​ชัดเจน เพราะ​ความสว่าง​จะ​ทำให้​ทุกสิ่ง​ทุกอย่าง​ที่​มัน​ส่อง​นั้น​กลาย​เป็น​ความสว่าง​ไปด้วย นั่น​เป็นเหตุ​ที่มี​คำพูด​ว่า “ตื่น​ได้แล้ว เจ้า​ที่​หลับ​อยู่ ลุกขึ้น​มา​จาก​ความตาย​สิ แล้ว​พระคริสต์​จะ​ส่องสว่าง​ใส่​เจ้า” ถ้า​อย่างนั้น ระวัง​ให้ดี​ว่า​พวกคุณ​ใช้ชีวิต​อย่างไร อย่า​เป็น​เหมือน​คนโง่ แต่​ให้​เป็น​เหมือน​คนฉลาด ให้​ฉวย​โอกาส​ที่​จะ​ทำดี เพราะ​ทุก​วันนี้​มี​แต่​ความ​ชั่วร้าย ฉะนั้น​อย่า​เป็น​คนโง่ แต่​ให้​เข้าใจ​ว่า​องค์​เจ้า​ชีวิต​ต้องการ​ให้​คุณ​ทำ​อะไร อย่า​เมา​เหล้า​องุ่น มัน​จะ​ทำให้​คุณ​เสียคน​ได้ แต่​ให้​เต็ม​ไป​ด้วย​พระวิญญาณ​ดีกว่า

เอเฟซัส 5:5-18 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

ขอจงรู้ชัดถึงเรื่องนี้ว่า ทุกคนที่ล่วงประเวณีหรือที่ทำการโสโครกหรือที่ละโมบ (ซึ่งก็คือคนนับถือรูปเคารพ) จะไม่มีมรดกในแผ่นดินของพระคริสต์และพระเจ้า อย่าให้ใครล่อลวงท่านทั้งหลายด้วยคำพูดที่เหลวไหล เพราะสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนี้พระพิโรธของพระเจ้าจึงมาถึงพวกที่ไม่เชื่อฟัง เพราะฉะนั้นอย่ามีส่วนร่วมกับเขาทั้งหลาย เพราะเมื่อก่อนท่านทั้งหลายเป็นความมืด แต่บัดนี้ท่านเป็นความสว่างในองค์พระผู้เป็นเจ้า จงดำเนินชีวิตอย่างคนของความสว่าง (เพราะว่าผลของความสว่างคือทุกอย่างที่เป็นความดี ความชอบธรรม และความจริง) จงค้นดูว่าอะไรเป็นสิ่งที่พอพระทัยองค์พระผู้เป็นเจ้า และอย่ามีส่วนในกิจการของความมืดที่ไร้ผล แต่จงเปิดเผยกิจการนั้นให้ปรากฏดีกว่า เพราะว่าแม้แต่จะพูดถึงสิ่งเหล่านั้นที่พวกเขาทำอย่างลับๆ ก็ยังเป็นเรื่องน่าละอาย แต่ทุกๆ สิ่งที่ได้รับการเปิดเผยโดยความสว่างก็ปรากฏให้เห็น เพราะว่าทุกๆ สิ่งที่ปรากฏให้เห็นก็เป็นความสว่าง ดังนั้นจึงมีคำกล่าวว่า คนที่หลับอยู่ จงตื่นขึ้น และจงเป็นขึ้นจากตาย แล้วพระคริสต์จะทรงส่องสว่างแก่ท่าน เพราะฉะนั้น จงระวังในการดำเนินชีวิตให้ดี อย่าเหมือนคนไร้ปัญญา แต่ให้เหมือนคนมีปัญญา จงใช้โอกาสให้เป็นประโยชน์ เพราะว่าทุกวันนี้เป็นยุคสมัยที่ชั่วร้าย เพราะเหตุนี้ อย่าเป็นคนโง่เขลา แต่จงเข้าใจว่าอะไรคือพระประสงค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า และอย่าเมาเหล้าองุ่นซึ่งจะทำให้เสียคน แต่จงเต็มเปี่ยมด้วยพระวิญญาณ

เอเฟซัส 5:5-18 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

เพราะท่านรู้​แน่ว​่า คนล่วงประเวณี คนโสโครก คนโลภ ที่​เป็นคนไหว้​รู​ปเคารพ จะได้อาณาจักรของพระคริสต์และของพระเจ้าเป็นมรดกก็​หามิได้ อย่าให้​ผู้​ใดล่อลวงท่านด้วยคำที่​ไม่มี​สาระ เพราะการกระทำเหล่านั้นเอง พระเจ้าจึงทรงลงพระอาชญาแก่​บุ​ตรแห่งการไม่​เชื่อฟัง เหตุ​ฉะนั้นท่านอย่าคบหาสมาคมกับคนเหล่านั้นเลย เพราะว่าเมื่​อก​่อนท่านเป็นความมืด แต่​บัดนี้​ท่านเป็นความสว่างแล้วในองค์​พระผู้เป็นเจ้า จงดำเนินชีวิตอย่างลูกของความสว่าง (ด้วยว่าผลของพระวิญญาณคือ ความดี​ทุ​กอย่างและความชอบธรรมทั้งมวลและความจริงทั้งสิ้น) ท่านจงพิสู​จน​์​ดู​ว่า ทำประการใดจึงจะเป็​นที​่ชอบพระทัยองค์​พระผู้เป็นเจ้า และอย่าเข้าส่วนกั​บก​ิจการของความมืดอันไร้​ผล แต่​จงติเตียนกิจการเหล่านั้นดี​กว่า เพราะว่าแม้​แต่​จะพูดถึงการเหล่านั้น ซึ่งพวกเขากระทำในที่ลั​บก​็ยังเป็​นที​่​น่าละอาย แต่​สิ​่งสารพัดที่​ถู​กติเตียนแล้ว ก็​จะปรากฏแจ้งโดยความสว่าง เพราะว่าทุกๆสิ่งที่​ให้​ปรากฏแจ้​งก​็คือความสว่าง เหตุ​ฉะนั้นพระองค์ตรัสแล้​วว​่า ‘​คนที​่หลั​บอย​ู่จงตื่นขึ้นและจงฟื้นขึ้นมาจากความตาย และพระคริสต์จะทรงส่องสว่างแก่​ท่าน​’ เหตุ​ฉะนั้นท่านจงระมัดระวังในการดำเนินชีวิตให้​ดี อย่าให้เหมือนคนไร้​ปัญญา แต่​ให้​เหมือนคนมี​ปัญญา จงฉวยโอกาสเพราะว่าทุกวันนี้เป็นกาลที่​ชั่ว เหตุ​ฉะนั้นอย่าเป็นคนโง่​เขลา แต่​จงเข้าใจน้ำพระทัยขององค์พระผู้เป็นเจ้าว่าเป็นอย่างไร และอย่าเมาเหล้าองุ่นซึ่งจะทำให้​เสียคน แต่​จงประกอบด้วยพระวิญญาณ

เอเฟซัส 5:5-18 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

ท่านแน่ใจได้เลยว่าคนผิดศีลธรรม คนไม่บริสุทธิ์ หรือคนโลภ คนเช่นนี้เป็นผู้กราบไหว้รูปเคารพ เขาจะไม่ได้รับมรดกใดๆ ในอาณาจักรของพระคริสต์และของพระเจ้า อย่าให้ผู้ใดล่อลวงท่านด้วยวาจาไร้สาระ เพราะเนื่องด้วยสิ่งเหล่านั้นพระพิโรธของพระเจ้าจึงมาถึงบรรดาผู้ที่ไม่เชื่อฟัง ฉะนั้นอย่าเป็นหุ้นส่วนกับคนเหล่านั้นเลย เพราะเมื่อก่อนท่านเป็นความมืด แต่เดี๋ยวนี้ท่านเป็นความสว่างในองค์พระผู้เป็นเจ้า จงดำเนินชีวิตอย่างลูกของความสว่าง (เพราะผลของความสว่างประกอบด้วยความดีทั้งปวง ความชอบธรรมทั้งมวลและความจริงทั้งสิ้น) จงหาให้พบว่าอะไรเป็นที่ชอบพระทัยองค์พระผู้เป็นเจ้า อย่าเข้าส่วนใดๆ กับกิจกรรมของความมืดอันไร้ผล แต่จงเปิดเผยการเหล่านั้นดีกว่า เพราะเพียงเอ่ยถึงสิ่งซึ่งพวกที่ไม่ยอมเชื่อฟังแอบทำกันนั้นก็ยังน่าอาย แต่ทุกสิ่งที่ถูกเปิดเผยโดยความสว่างก็เห็นกันแจ่มแจ้ง เนื่องจากความสว่างทำให้เห็นทุกสิ่งชัดแจ้ง ด้วยเหตุนี้จึงกล่าวกันว่า “โอ ผู้ที่หลับอยู่ จงตื่นขึ้น จงฟื้นขึ้นจากความตาย และพระคริสต์จะทรงส่องสว่างแก่ท่าน” เพราะฉะนั้นท่านจงระมัดระวังในการดำเนินชีวิต อย่าดำเนินชีวิตแบบคนไร้ปัญญา แต่จงดำเนินชีวิตแบบคนมีปัญญา จงรู้จักใช้ทุกโอกาสเพราะเวลานี้เป็นยุคอันเลวร้าย ฉะนั้นจงอย่าโง่เขลา แต่จงเข้าใจพระประสงค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าว่าเป็นเช่นใด และอย่าเมาเหล้าองุ่นซึ่งจะทำให้เสียคน แต่จงเปี่ยมด้วยพระวิญญาณ

เอเฟซัส 5:5-18 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

ท่าน​มั่นใจ​อย่าง​แน่​นอน​ได้​ว่า คน​ที่​ประพฤติ​ผิด​ทาง​เพศ​หรือ​ยุ่ง​กับ​ความ​สกปรก​โสมม​หรือ​ความ​โลภ (คน​โลภ​นับ​ว่า​เป็น​คน​ประเภท​บูชา​รูป​เคารพ) ไม่​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​อาณาจักร​ของ​พระ​คริสต์​และ​พระ​เจ้า อย่า​ให้​ใคร​หลอกลวง​ท่าน​ด้วย​คำ​พูด​เหลวไหล เพราะ​ด้วย​เหตุ​เหล่า​นี้ การ​ลง​โทษ​ของ​พระ​เจ้า​จึง​ตก​อยู่​กับ​คน​ที่​ไม่​เชื่อ​ฟัง ฉะนั้น​อย่า​ข้อง​เกี่ยว​กับ​คน​เหล่า​นั้น ด้วย​ว่า​แต่​ก่อน​ท่าน​เคย​อยู่​ใน​ความ​มืด แต่​เดี๋ยว​นี้​ท่าน​อยู่​ใน​ความ​สว่าง​ใน​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า จง​ดำเนิน​ชีวิต​เหมือน​บรรดา​บุตร​แห่ง​ความ​สว่าง​เถิด ด้วย​ว่า​ผล​แห่ง​ความ​สว่าง​คือ​ความ​ดี​ทุก​ประการ ความ​ชอบธรรม และ​ความ​จริง จง​พยายาม​เรียน​ให้​รู้​ว่า​สิ่ง​ใด​เป็น​ที่​พอ​ใจ​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า อย่า​มี​ส่วน​เกี่ยวข้อง​กับ​การ​กระทำ​ของ​ความ​มืด​อัน​ไร้​ประโยชน์ แต่​จง​เปิดโปง​ให้​คน​รู้ ด้วย​ว่า เป็น​ที่​น่า​ละอาย​แม้​จะ​มี​ผู้​ใด​กล่าว​ถึง​พวก​ที่​ไม่​เชื่อ​ฟัง​ว่า​เขา​กระทำ​อะไร​บ้าง​ใน​ที่​ลับ แต่​เมื่อ​สิ่ง​ใด​ถูก​เปิดโปง​ออก​โดย​ความ​สว่าง สิ่ง​นั้น​ก็​จะ​เป็น​ที่​รู้​แจ้ง​เห็น​จริง ด้วย​ว่า​ความ​สว่าง​ทำ​ให้​เห็น​ทุก​สิ่ง จึง​มี​คำกล่าว​ว่า “ผู้​หลับใหล​เอ๋ย จง​ตื่น​เถิด จง​ฟื้น​ขึ้น​จาก​ความ​ตาย และ​พระ​คริสต์​จะ​ส่อง​ความ​สว่าง​ให้​แก่​ท่าน” ฉะนั้น จง​ระวัง​ให้​ดี​ว่า​ท่าน​ใช้​ชีวิต​อย่างไร อย่า​เป็น​เหมือน​คน​ไร้​ปัญญา​แต่​เป็น​เช่น​คน​มี​ปัญญา จง​ทำ​ดี​ที่​สุด​ใน​ทุก​โอกาส​เพราะ​ยาม​นี้​เป็น​เวลา​แห่ง​ความ​ชั่ว ดังนั้น อย่า​โง่​เขลา แต่​จง​เข้าใจ​ว่า​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​มี​ความ​ประสงค์​อย่างไร อย่า​เมา​เหล้า​องุ่น​ซึ่ง​นำ​ไป​สู่​ราคะ​ตัณหา แต่​จง​เปี่ยม​ล้น​ด้วย​พระ​วิญญาณ