เอเฟซัส 4:7-14

เอเฟซัส 4:7-14 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

แต่พระคุณนั้นประทานแก่เราแต่ละคนตามที่พระคริสต์ทรงแบ่งสรร ฉะนั้นจึงมีกล่าวไว้ว่า “เมื่อพระองค์เสด็จขึ้นสู่เบื้องสูง ทรงนำเชลยไปด้วย และประทานของประทานแก่มนุษย์” (ที่ว่า “พระองค์เสด็จขึ้น” นั้นย่อมไม่อาจหมายความเป็นอื่น นอกจากว่าพระองค์ได้เสด็จลงสู่เบื้องต่ำของโลกด้วย พระองค์ผู้เสด็จลงคือองค์เดียวกับที่เสด็จขึ้นสูงเหนือฟ้าสวรรค์ทั้งมวล เพื่อทรงเติมทั่วทั้งจักรวาลให้สมบูรณ์) พระองค์เองทรงให้บางคนเป็นอัครทูต บางคนเป็นผู้เผยพระวจนะ บางคนเป็นผู้เผยแพร่ข่าวประเสริฐ บางคนเป็นศิษยาภิบาลและอาจารย์ เพื่อเตรียมประชากรของพระเจ้าสำหรับงานรับใช้ เพื่อว่าพระกายของพระคริสต์จะได้รับการเสริมสร้างขึ้น จนกว่าเราทั้งหมดจะบรรลุความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในความเชื่อและในความรู้ถึงพระบุตรของพระเจ้า จนเราเติบโตเป็นผู้ใหญ่คือเต็มถึงขนาดความไพบูลย์ของพระคริสต์ เมื่อนั้นเราจะไม่เป็นทารกอีกต่อไป ถูกกระแสซัดไปซัดมา ถูกพัดไปทางโน้นทางนี้โดยลมปากแห่งคำสอนและโดยกลลวงอันฉ้อฉลแยบยลของมนุษย์

เอเฟซัส 4:7-14 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

พวกเรา​แต่ละ​คน​ได้รับ​ของขวัญ​ต่างๆ​ตาม​ความ​เมตตา​ของ​พระคริสต์ นั่น​เป็น​เหตุ​ที่​พระคัมภีร์​ถึง​ได้​พูดว่า “เมื่อ​พระองค์​ขึ้นไป​อยู่​ที่สูง พระองค์​ก็​เอา​เชลย​สงคราม​ไปด้วย​และ​พระองค์​ก็​ได้​แจก​ของขวัญ​ให้กับ​มนุษย์” ที่​พูดว่า “พระองค์​ขึ้นไป” ก็​แสดงว่า​พระองค์​เคย​ลงมา​ที่​โลก​เบื้องล่าง​นี้ พระองค์​ที่​ลงมา​ก็​เป็น​องค์เดียว​กับ​ที่​ขึ้น​ไป​สูงกว่า​สวรรค์​ทั้งปวง เพื่อ​พระองค์​จะ​ได้​เต็ม​ไปด้วย​ทุกสิ่ง​ทุกอย่าง พระเยซู​ได้​แจก​ของขวัญ​คือ พวก​ศิษย์เอก​ของ​พระองค์ พวก​ผู้​พูดแทน​พระเจ้า พวก​ผู้ประกาศ​ข่าวดี​และ​พวก​ผู้เลี้ยง​ที่​สอน เพื่อ​คน​พวกนี้ จะได้​เตรียม​คน​ของ​พระเจ้า​ให้​สามารถ​ทำงาน​รับใช้ ซึ่ง​จะ​เสริมสร้าง​กาย​ของ​พระคริสต์​ให้​แข็งแกร่ง​ขึ้น​เรื่อยๆ จนกว่า​พวกเรา​ทั้งหมด​จะ​เป็น​น้ำหนึ่ง​ใจเดียว​กัน​ใน​ความเชื่อ และ​ใน​ความรู้​เกี่ยวกับ​พระบุตร​ของ​พระเจ้า แล้ว​เรา​จะได้​โต​เป็น​ผู้ใหญ่​เต็มที่ คือ​เป็น​เหมือนกับ​พระคริสต์​ทุกประการ ทั้งนี้​ก็​เพื่อ​เรา​จะได้​ไม่เป็น​เหมือน​เด็กเล็กๆ​อีกต่อไป หรือ​เหมือน​คลื่น​ที่​ถูก​ซัดไป​ซัดมา หรือ​ถูก​พัดไป​ทางโน้น​ที​ทางนี้​ที ด้วย​คำสอน​ใหม่ๆ​และ​ด้วย​เล่ห์เหลี่ยม​และ​กลอุบาย​ต่างๆ​ของ​พวก​ผู้สอนเท็จ

เอเฟซัส 4:7-14 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

แต่ว่าพระคุณนั้นประทานแก่เราแต่ละคนตามขนาดที่พระคริสต์ประทาน ดังนั้นจึงมีพระวจนะว่า “เมื่อพระองค์เสด็จขึ้นไปสู่ที่สูง พระองค์ทรงนำเชลยกลุ่มใหญ่ไป และประทานของประทานแก่มนุษย์” (การที่กล่าวว่า “พระองค์เสด็จขึ้นไป” นั้น จะมีความหมายว่าอะไร ถ้าไม่ใช่ว่าพระองค์ได้เสด็จลงไปสู่เบื้องต่ำของแผ่นดินโลกแล้วด้วย? พระองค์ผู้เสด็จลงไปนั้นก็คือผู้ที่เสด็จขึ้นไปสู่ที่สูงเหนือฟ้าสวรรค์ทั้งหมดนั่นเอง เพื่อจะเติมทุกสิ่งให้เต็มบริบูรณ์) และพระองค์เองประทานให้บางคนเป็นอัครทูต บางคนเป็นผู้เผยพระวจนะ บางคนเป็นผู้ประกาศข่าวประเสริฐ บางคนเป็นศิษยาภิบาลและอาจารย์ เพื่อเตรียมธรรมิกชนสำหรับการปรนนิบัติและการเสริมสร้างพระกายของพระคริสต์ จนกว่าเราทุกคนจะบรรลุถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในความเชื่อและในความรู้ถึงพระบุตรของพระเจ้า บรรลุถึงความเป็นผู้ใหญ่ คือโตเต็มถึงขนาดความบริบูรณ์ของพระคริสต์ เพื่อเราจะไม่เป็นเด็กอีกต่อไป ถูกซัดไปซัดมาและพัดไปพัดมาด้วยลมคำสั่งสอนทุกอย่าง ด้วยเล่ห์กลของมนุษย์ ตามอุบายที่ฉลาดในการล่อลวง

เอเฟซัส 4:7-14 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

แต่​ว่าพระคุณนั้นทรงโปรดประทานแก่เราทุกๆคนตามขนาดที่พระคริสต์ทรงประทานให้ เหตุ​ฉะนั้นพระองค์ตรัสไว้​แล​้​วว​่า ‘ครั้นพระองค์เสด็จขึ้นสู่​เบื้องสูง พระองค์​ทรงนำพวกเชลยไปเป็นเชลยอีก และประทานของประทานแก่​มนุษย์​’ (​ที่​กล​่าวว่าพระองค์เสด็จขึ้นไปนั้น จะหมายความอย่างอื่นประการใดเล่า นอกจากว่าพระองค์​ได้​เสด็จลงไปสู่เบื้องต่ำของแผ่นดินโลกก่อนด้วย พระองค์​ผู้​เสด็จลงไปนั้น ก็​คือพระองค์​ผู้​ที่​เสด็จขึ้นไปสู่เบื้องสูงเหนือฟ้าสวรรค์ทั้งปวงนั่นเอง เพื่อจะได้​ทำให้​สิ​่งสารพัดสำเร็จ) พระองค์​จึงให้บางคนเป็​นอ​ัครสาวก บางคนเป็นศาสดาพยากรณ์ บางคนเป็นผู้ประกาศข่าวประเสริฐ บางคนเป็นศิษยาภิบาล และอาจารย์ เพื่อเตรียมวิ​สุทธิ​ชนให้​ดี​รอบคอบ เพื่อช่วยในการรับใช้ เพื่อเสริมสร้างพระกายของพระคริสต์​ให้​จำเริญขึ้น จนกว่าเราทุกคนจะบรรลุถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในความเชื่อและในความรู้ถึงพระบุตรของพระเจ้า จนกว่าเราจะโตเป็นผู้​ใหญ่​เต็มที่​คือเต็มถึงขนาดความไพบูลย์ของพระคริสต์ เพื่อเราจะไม่เป็นเด็​กอ​ีกต่อไปถูกซัดไปซัดมาและหันไปเหมาด้วยลมปากแห่งคำสั่งสอนทุกอย่าง และด้วยเล่ห์กลของมนุษย์ตามอุบายฉลาดอันเป็นการล่อลวง

เอเฟซัส 4:7-14 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

แต่ว่าพระคุณนั้นทรงโปรดประทานแก่เราทุกๆคน ตามขนาดที่พระคริสต์ประทานให้ เหตุฉะนั้นจึงมีพระวจนะว่า ครั้นพระองค์เสด็จขึ้นไปสู่ที่สูง พระองค์ก็ทรงนำพวกเชลยไป และประทานของประทานแก่มนุษย์ (ที่กล่าวว่าพระองค์เสด็จขึ้นไปนั้น จะหมายความอย่างอื่นไปไม่ได้ นอกจากว่าพระองค์ได้เสด็จลงไปสู่เบื้องต่ำของแผ่นดินโลกแล้วด้วย องค์ผู้เสด็จลงไปนั้นก็คือพระองค์ผู้ที่เสด็จขึ้นไปสู่ที่สูงเหนือฟ้าสวรรค์ทั้งปวงนั่นเอง เพื่อจะได้สถิตอยู่ทั่วในสิ่งสารพัด) ของประทานของพระองค์ ก็คือให้บางคนเป็นอัครทูต บางคนเป็นผู้เผยพระวจนะ บางคนเป็นผู้เผยแพร่ข่าวประเสริฐ บางคนเป็นศิษยาภิบาลและอาจารย์ เพื่อเตรียมธรรมิกชนให้เป็นคนที่จะรับใช้ เพื่อเสริมสร้างพระกายของพระคริสต์ให้จำเริญขึ้น จนกว่าเราทุกคนจะบรรลุถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในความเชื่อ และในความรู้ถึงพระบุตรของพระเจ้า จนกว่าเราจะโตเป็นผู้ใหญ่เต็มที่ คือเต็มถึงขนาดความไพบูลย์ของพระคริสต์ เพื่อเราจะไม่เป็นเด็กอีกต่อไป ถูกซัดไปซัดมาและหันไปเหมาด้วยลมปากแห่งคำสั่งสอนทุกอย่าง และด้วยเล่ห์กลของมนุษย์ตามอุบายฉลาดอันเป็นการล่อลวง

เอเฟซัส 4:7-14 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

ทว่า​พระ​คุณ​ที่​เรา​แต่​ละ​คน​ได้​รับ​นั้น​มาก​น้อย​ตาม​แต่​ของ​ประทาน​ที่​พระ​คริสต์​มอบ​ให้ จึง​มี​บันทึก​ไว้​ว่า “เมื่อ​พระ​องค์​ได้​ขึ้น​ไป​สู่​ที่​สูง พระ​องค์​นำ​พวก​เชลย​ไป และ​มนุษย์​ได้​รับ​สิ่ง​ที่​พระ​องค์​มอบ​ให้” (ที่​กล่าว​ว่า “พระ​องค์​ขึ้น​ไป” หมาย​ความ​ว่า​อย่างไร​บ้าง นอก​จาก​จะ​หมายถึง​ว่า​พระ​องค์​ได้​ลง​ไป​สู่​เบื้อง​ต่ำ​กว่า​ใน​แผ่นดิน​โลก​ด้วย องค์​ที่​ลง​ไป​สู่​เบื้อง​ล่าง คือ​องค์​ที่​ได้​ขึ้น​ไป​สู่​ที่​สูง​เหนือ​ฟ้า​สวรรค์ เพื่อ​พระ​องค์​จะ​ได้​โปรด​ให้​ทุก​สิ่ง​เต็ม​เปี่ยม) และ​พระ​องค์​โปรด​ให้​บาง​คน​เป็น​อัครทูต บ้าง​ก็​เป็น​ผู้​เผย​คำกล่าว​ของ​พระ​เจ้า เป็น​ผู้​ประกาศ​ข่าว​ประเสริฐ บาง​คน​เป็น​ศิษยาภิบาล หรือ​ครู​อาจารย์ เพื่อ​เตรียม​บรรดา​ผู้​บริสุทธิ์​ของ​พระ​เจ้า​ให้​พรักพร้อม​ใน​การ​รับใช้ เพื่อ​เสริมสร้าง​กาย​ของ​พระ​คริสต์ จน​กว่า​เรา​ทุก​คน​จะ​บรรลุ​ถึง​ความ​เป็น​หนึ่ง​เดียว​กัน​ใน​ความ​เชื่อ​และ​ความ​รู้​ใน​เรื่อง​พระ​บุตร​ของ​พระ​เจ้า คือ​เติบโต​เป็น​ผู้​ใหญ่​ใน​ความ​เชื่อ เจริญ​เต็ม​ที่​ด้วย​ความ​บริบูรณ์​ของ​พระ​คริสต์ แล้ว​เรา​จะ​ได้​ไม่​เป็น​เด็ก​ทารก​ที่​ถูก​ซัด​ไป​มา​เหมือน​คลื่น และ​ถูก​พัด​ให้​ไหว​ปลิว​ไป​มา​ด้วย​ลม​แห่ง​ลัทธิ​ทั้ง​ปวง ด้วย​เล่ห์กล​ของ​มนุษย์ ด้วย​อุบาย​หลอกลวง​ของ​พวก​เขา​อีก​ต่อ​ไป