ปัญญาจารย์ 6:1-12

ปัญญาจารย์ 6:1-12 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

มีสิ่งสามานย์อย่างหนึ่งที่ข้าพเจ้าเห็นภายใต้ดวงอาทิตย์ และสิ่งนั้นหนักแก่มนุษย์ คือมนุษย์คนใดที่พระเจ้าประทานทรัพย์สมบัติ สิ่งของและยศถาบรรดาศักดิ์ให้ จนสิ่งใดๆ ที่เขาปรารถนาสำหรับตัว เขาก็มีครบไม่ขาดเลย แต่พระเจ้ามิได้ทรงโปรดให้เขาชื่นใจใช้สิ่งนั้น คนนอกบ้านนอกเมืองกลับเอาไปชื่นใจใช้เสีย นี่ก็อนิจจังและเป็นความทุกข์ใจอย่างร้ายแรง แม้ว่ามนุษย์คนใดมีลูกสักร้อยคน และมีอายุอยู่หลายปีจนปีเดือนของเขาก็มากมาย แต่จิตใจของเขาหาได้อิ่มด้วยของดีไม่ ยิ่งกว่านั้นอีกเขาไม่มีงานฝังศพของตนด้วย ข้าพเจ้าว่าลูกที่เกิดมาแท้งเสียยังดีกว่าคนนั้น เพราะเด็กนั้นเกิดมาอนิจจังและตายไปในความมืด และชื่อของเขาถูกปิดไว้ในความมืด ยิ่งกว่านั้นอีก ยังไม่ทันเห็นตะวันหรือยังไม่ทันรู้เรื่องราว อะไรเด็กคนนี้มีความสงบสุขยิ่งกว่าผู้ใหญ่นั้นเสียอีก เออ แม้ว่าเขามีชีวิตอยู่พันปีทวีอีกเท่าตัว แต่ไม่ได้เห็นของดีอะไร ทุกคนมิได้ลงไปที่เดียวกันหมดดอกหรือ บรรดาการงานของมนุษย์ก็เพื่อปากของเขา แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่รู้จักอิ่ม ด้วยว่าคนมีสติปัญญาได้เปรียบอะไรกว่าคนเขลาเล่า หรือคนยากจนที่รู้จักประพฤติตัวอยู่ต่อหน้าคนที่มีชีวิต ก็ได้เปรียบอะไร เห็นแล้วกับนัยน์ตาก็ดีกว่าความปรารถนาที่ตระเวนไป นี่ก็อนิจจังด้วยคือกินลมกินแล้ง สิ่งใดซึ่งมีอยู่เดี๋ยวนี้ เขาได้ใช้ชื่อเรียกสิ่งนั้นนานมาแล้ว และก็ทราบกันแล้วว่า มนุษย์คืออะไร และเขาไม่อาจโต้เถียงกับพระองค์ ผู้ทรงฤทธิ์เดชากว่าตนได้ ยิ่งพูดมากก็ยิ่งอนิจจังมาก แล้วจะเป็นประโยชน์อะไรแก่มนุษย์เล่า ใครคนไหนรู้ว่าสิ่งใดเป็นสิ่งที่ดีสำหรับมนุษย์ในชีวิตนี้ คือในระยะวันเดือนปีทั้งหลายแห่งชีวิตอันเหลวๆของตนที่ได้เสียไปดุจดังเงาเล่า หรือใครผู้ใดอาจบอกกับมนุษย์ได้ว่า สิ่งนี้สิ่งนั้นจะเกิดขึ้นภายหลังตนที่ภายใต้ดวงอาทิตย์

ปัญญาจารย์ 6:1-12 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

มี​เรื่อง​เลวร้าย​อีก​เรื่องหนึ่ง​ที่​เรา​ได้เห็น​ภายใต้​ดวง​อาทิตย์​นี้ และ​มัน​ก็​หนักหนา​สาหัส​สำหรับ​มนุษย์ คือ​มี​คน​ซึ่ง​พระเจ้า​มอบ​ความ​ร่ำรวย ทรัพย์​สมบัติ และ​ชื่อเสียง​เกียรติยศ​ให้ จน​เขา​ไม่ขาด​อะไร​เลย​ที่​อยากได้ แต่​พระเจ้า​ไม่ได้​ให้​เขา​เสพสุข​จาก​สิ่ง​เหล่านั้น แต่​ให้​คนอื่น​มา​เสพสุข​แทน นี่​ก็​เป็น​สิ่ง​ที่​ไม่เที่ยง และ​เลวร้าย​ทำ​ให้​หดหู่​ยิ่งนัก ถ้า​ชาย​คนหนึ่ง​มี​ลูก​สัก​ร้อยคน และ​มี​อายุ​ยืนยาว แต่​เขา​กลับ​บ่น​เกี่ยวกับ​ชีวิต​ที่​เหลืออยู่​ของเขา และ​บ่น​ว่า​ไม่​ได้รับ​ความสุข​จาก​สิ่ง​ดีๆ​ที่มี และ​บ่น​ว่า​ไม่มี​ที่​ฝังศพ เรา​ขอ​บอก​ว่า​เด็ก​ที่​ตาย​ใน​ท้อง​ก็​ยัง​ดีกว่า​เขา​เสียอีก เพราะ​การ​เกิดมา​ของ​เด็ก​คนนั้น​ก็​ไม่เที่ยง และ​เขา​ก็​เข้า​สู่​ความมืด และ​ชื่อ​ของเขา​ก็​ถูก​ความมืด​ปกคลุม​ไป ถึงแม้​เด็กน้อย​นั้น​จะ​ยัง​ไม่ทัน​ได้เห็น​ดวง​อาทิตย์ และ​ยัง​ไม่​รู้เรื่อง​อะไร​เลย เด็กนั้น​ก็​ยัง​มี​ความ​สงบสุข​มากกว่า​ชายชรา​คนนี้​เสียอีก ถึงแม้ว่า​ชาย​คนนี้​จะ​มี​อายุยืน​หนึ่งพัน​ปี​ถึง​สองครั้ง แต่​ไม่พบ​ความสุข แล้ว​จะ​มี​ประโยชน์​อะไร เพราะ​สุดท้าย​แล้ว​ทุกคน​ก็​ต้อง​ไป​อยู่​ใน​จุด​เดียวกัน​ไม่ใช่​หรือ คน​เรา​ทำงาน​หนัก​ก็​เพื่อ​ปากท้อง แต่​ก็​ไม่เคย​เติมเต็ม​ความ​อยาก​ของ​ตัวเอง​อยู่ดี ถ้า​อย่างนั้น​คนฉลาด​ได้เปรียบ​คนโง่​ตรงไหน​หรือ แล้ว​จะ​มี​ประโยชน์​อะไร​ที่​คนจน​เรียนรู้​เพื่อ​ที่​จะ​จัดการ​กับ​ชีวิต ความ​พอใจ​กับ​สิ่ง​ที่​ตา​ได้เห็น ก็​ยัง​ดีกว่า​ความ​อยาก​ที่​ไม่รู้​จบ นี่​ก็​เป็น​สิ่ง​ไม่เที่ยง​เหมือนกัน เหมือน​ไล่​ตาม​ลม ทุกสิ่ง​ที่​เกิด​ขึ้นมา​ล้วน​ถูก​กำหนด​ไว้แล้ว​ทั้งสิ้น พระเจ้า​รู้จัก​เส้นทาง​ซึ่ง​พระองค์​ได้​กำหนด​ไว้​ให้​กับ​มนุษย์​นั้น และ​พวกเขา​ก็​ไม่​สามารถ​ที่​จะ​โต้เถียง​กับ​พระเจ้า​ผู้ซึ่ง​มี​กำลัง​กว่า​ได้ อันที่จริง​แล้ว ยิ่ง​โต้เถียง​มาก​เท่าไร ก็​ยิ่ง​ไร้สาระ​เท่านั้น มนุษย์​ได้​ประโยชน์​อะไร​จาก​การ​โต้เถียง​นี้​บ้าง ใคร​จะ​ไป​รู้ว่า สิ่งไหน​จะ​ดี​สำหรับ​มนุษย์​ใน​ช่วงเวลา​แสนสั้น​ที่​เขา​มี​ชีวิตอยู่ คือ​ชีวิต​อัน​ไร้สาระ ที่​ผ่านไป​เหมือน​เงา เพราะ​ใคร​จะ​บอก​ได้​บ้าง​ว่า​ใน​อนาคต​จะ​เกิด​อะไรขึ้น​กับ​ชีวิต​ของเขา​ภายใต้​ดวง​อาทิตย์​นี้

ปัญญาจารย์ 6:1-12 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

มีสิ่งสามานย์อย่างหนึ่งที่ข้าพเจ้าเห็นภายใต้ดวงอาทิตย์ และสิ่งนั้นหนักสำหรับมนุษย์ คือคนหนึ่งคนใดที่พระเจ้าประทานความมั่งคั่ง ทรัพย์สมบัติ และเกียรติให้ เขาไม่ขาดสิ่งใดเลย เขาได้ทุกสิ่งที่เขาปรารถนาสำหรับตน แต่พระเจ้ามิได้ประทานความสามารถในการใช้สิ่งเหล่านี้ให้เขา คนแปลกหน้ากลับเอาไปใช้เสีย นี่ก็อนิจจังและเป็นความทุกข์ใจอย่างเลวร้าย แม้ว่าคนหนึ่งคนใดมีลูกสักร้อยคน และมีอายุยืนยาว ไม่ว่าเขาจะอยู่นานหลายปีแต่จิตใจเขาไม่ได้อิ่มด้วยความมั่งคั่งเลย และไม่มีงานฝังศพของตนด้วย ข้าพเจ้าว่าลูกที่เกิดมาแท้งเสียยังดีกว่าคนนั้น เพราะเด็กนั้นก่อตัวมาในความอนิจจังและจากไปในความมืด และชื่อเขาถูกปิดไว้ในความมืด ยิ่งกว่านั้นอีก เขายังไม่ทันเห็นหรือยังไม่ทันรู้จักดวงตะวัน เด็กคนนี้มีความสงบสุขยิ่งกว่าผู้ใหญ่นั้นเสียอีก เออ แม้ว่าเขามีชีวิตอยู่พันปีทวีอีกเท่าตัว แต่ไม่ได้ชื่นชมสิ่งดีอะไร ทุกคนต่างจบลงที่เดียวกันไม่ใช่หรือ? การตรากตรำทั้งหมดของมนุษย์ก็เพื่อปากของเขา แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่รู้จักอิ่ม เพราะว่าคนมีสติปัญญาได้เปรียบอะไรกว่าคนเขลาเล่า? หรือคนยากจนที่รู้จักวางตัวต่อหน้าคนทั้งปวงก็ได้เปรียบอะไร? การเห็นด้วยนัยน์ตาก็ดีกว่าความปรารถนาที่ตระเวนไป นี่ก็อนิจจังด้วยคือ กินลมกินแล้ง สิ่งใดซึ่งมีอยู่เดี๋ยวนี้ เขาได้ตั้งชื่อเรียกสิ่งนั้นนานมาแล้ว และก็ทราบกันแล้วว่า มนุษย์คืออะไร และเขาไม่อาจโต้เถียงกับผู้แข็งแรงกว่าตนได้ ยิ่งพูดมากก็ยิ่งอนิจจังมาก แล้วมนุษย์ได้ประโยชน์อะไรเล่า? เพราะใครจะรู้ได้ว่าสิ่งใดดีสำหรับมนุษย์ในขณะดำเนินชีวิตตามวันเวลาของชีวิตที่อนิจจังของตนที่ได้เสียไปดุจดังเงาเล่า? หรือใครจะบอกกับมนุษย์ได้ว่า อะไรจะเกิดขึ้นภายหลังเขาที่ภายใต้ดวงอาทิตย์?

ปัญญาจารย์ 6:1-12 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

มี​สิ​่งสามานย์อย่างหนึ่งที่ข้าพเจ้าเห็นภายใต้​ดวงอาทิตย์ และสิ่งนั้นหนักแก่​มนุษย์ คื​อมนุษย์​คนใดที่พระเจ้าทรงประทานทรัพย์​สมบัติ ความมั่งคั่งและยศฐาบรรดาศั​กด​ิ์​ให้ จนสิ่งใดๆที่เขาปรารถนาสำหรับตัว จิ​ตใจเขาก็​มี​ครบไม่ขาดเลย แต่​พระเจ้ามิ​ได้​ทรงโปรดให้เขามีอำนาจรับประทานสิ่งนั้นได้ คนนอกบ้านนอกเมืองกลับรับประทานสิ่งนั้น นี่​ก็​อนิจจัง และเป็นความทุกข์ใจอย่างร้ายแรง แม้ว​่ามนุษย์คนใดมี​บุ​ตรสั​กร​้อยคน และมี​อายุ​อยู่​หลายปี จนปีเดือนของเขาก็​มากมาย แต่​จิ​ตใจของเขาหาได้อิ่​มด​้วยของดี​ไม่ ยิ่งกว่านั้​นอ​ีก เขาไม่​มี​งานฝังศพของตนด้วย ข้าพเจ้าว่าบุตรที่​เก​ิดมาแท้งเสียยั​งด​ีกว่าคนนั้น เพราะเด็กนั้นเกิดมาอนิจจังและตายไปในความมืด และชื่อของเขาถูกปิดไว้ในความมืด ยิ่งกว่านั้​นอ​ีก ยังไม่ทันเห็นตะวันหรือยังไม่ทั​นร​ู้เรื่องราวอะไร เด็กคนนี้​มี​ความสงบสุขยิ่งกว่าผู้​ใหญ่​นั้นเสี​ยอ​ีก เออ แม้ว​่าเขามี​ชี​วิตอยู่พันปี​ทวี​อี​กเท่าตัว แต่​ไม่ได้​เห​็นของดี​อะไร ทุ​กคนมิ​ได้​ลงไปที่เดียวกันหมดดอกหรือ บรรดาการงานของมนุษย์​ก็​เพื่อปากของเขา แต่​ถึงกระนั้นเขาก็​ไม่รู้​จั​กอ​ิ่ม ด้วยว่าคนมี​สติ​ปัญญาได้เปรียบอะไรกว่าคนเขลาเล่า หรือคนยากจนที่​รู้​จักดำเนินชีวิตของตนอยู่ต่อหน้าคนที่​มี​ชี​วิตก​็​ได้​เปรียบอะไร เห​็นแล้​วก​ั​บน​ัยน์​ตาก​็​ดี​กว่าความปรารถนาที่ตระเวนไป นี่​ก็​เป็นความว่างเปล่าและความวุ่นวายใจด้วย สิ​่งใดซึ่​งม​ี​อยู่​เดี๋ยวนี้ เขาได้​ใช้​ชื่อเรียกสิ่งนั้นนานมาแล้ว และก็ทราบกันแล้​วว​่ามนุษย์คืออะไร และเขาไม่อาจโต้เถียงกับพระองค์​ผู้​ทรงฤทธิ์เดชากว่าตนได้ ยิ่​งม​ี​สิ​่งของมากก็ยิ่​งอน​ิจจังมาก แล​้วจะเป็นประโยชน์อะไรแก่​มนุษย์​เล่า ใครคนไหนรู้ว่าสิ่งใดเป็นสิ่งที่​ดี​สำหรับมนุษย์ในชีวิ​ตน​ี้ คือในระยะวันเดือนปีทั้งหลายแห่งชีวิ​ตอ​ันเหลวๆของตนที่​ได้​เสียไปดุ​จด​ังเงาเล่า หรือใครผู้ใดอาจบอกกับมนุษย์​ได้​ว่า สิ​่งนี้​สิ​่งนั้นจะเกิดขึ้นภายหลังตนที่​ภายใต้​ดวงอาทิตย์

ปัญญาจารย์ 6:1-12 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

ข้าพเจ้าเห็นความเลวร้ายอีกอย่างหนึ่งภายใต้ดวงอาทิตย์ ซึ่งหนักหนาสาหัสสำหรับมนุษย์ คือพระเจ้าประทานความมั่งคั่ง ทรัพย์สมบัติ และเกียรติแก่บางคน จนเขามีทุกสิ่งที่ใจปรารถนา แต่พระเจ้าไม่ได้ให้เขาชื่นชมสิ่งเหล่านั้น กลับมีคนแปลกหน้ามาชื่นชมแทน นี่ก็อนิจจัง เป็นความเลวร้ายที่น่าสลดใจ บางคนอาจมีลูกหลานนับร้อยและมีอายุยืน แต่ไม่ว่าจะอายุยืนแค่ไหน ถ้าไม่สามารถชื่นชมความรุ่งเรืองของตน และไม่ได้รับการจัดงานศพอย่างสมเกียรติแล้ว ข้าพเจ้าขอบอกว่าทารกที่ตายตั้งแต่เกิดยังดีกว่าเขาเสียอีก ทารกนั้นเกิดมาอย่างไร้ความหมาย จากไปในความมืด และชื่อนั้นถูกคลุมไว้ในความมืด แม้ไม่เคยเห็นแสงตะวัน ไม่รับรู้สิ่งใด ก็ยังได้พักสงบมากกว่าเขา ต่อให้เขามีอายุยืนพันปีทวีเท่า แต่ไม่ได้ชื่นชมกับความเจริญรุ่งเรืองของตน ทุกคนล้วนไปยังที่เดียวกันไม่ใช่หรือ? ทุกคนลงทุนลงแรงก็เพื่อปากท้อง กระนั้นความอยากของเขาก็ไม่เคยอิ่ม คนฉลาดได้เปรียบอะไรกว่าคนโง่? คนยากจนแม้รู้ว่าควรประพฤติปฏิบัติอย่างไรต่อหน้าคนอื่นๆ ก็จะได้ประโยชน์อะไรเล่า? มีเท่าที่ตาเห็นก็ดีกว่าเที่ยวอยากได้ไปเรื่อย นี่ก็อนิจจัง วิ่งไล่ตามลม สิ่งใดๆ ที่มีอยู่ล้วนถูกระบุชื่อไว้ก่อนแล้ว และมนุษย์เป็นอะไรก็รู้กันอยู่แล้ว ไม่มีใครสามารถขัดขืนต่อสู้ กับผู้ที่แข็งแรงกว่าตน ยิ่งพูดหลายคำ ยิ่งลดทอนความหมาย แล้วนั่นจะเป็นประโยชน์กับใคร? เพราะใครเล่าจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับมนุษย์ในช่วงชีวิตอันสั้นและคืนวันอันอนิจจังซึ่งผ่านพ้นไปเหมือนเงา? ใครจะบอกเขาได้ว่าหลังจากเขาจากไปแล้วจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างภายใต้ดวงอาทิตย์?

ปัญญาจารย์ 6:1-12 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

มี​ความ​ไม่​ยุติธรรม​ซึ่ง​ข้าพเจ้า​เห็น​ใน​โลก​นี้ และ​ทำให้​คน​เดือดร้อน​มาก พระ​เจ้า​มอบ​ความ​มั่งมี สรรพสิ่ง และ​เกียรติ​ให้​แก่​คนๆ หนึ่ง และ​ให้​เขา​ได้​ทุก​สิ่ง​ที่​เขา​ต้องการ แต่​พระ​เจ้า​ไม่​ได้​โปรด​ให้​เขา​มี​ความ​สุข​กับ​สิ่ง​เหล่า​นั้น คน​อื่น​กลับ​จะ​มี​ความ​สุข​แทน นี่​ก็​ไร้​ค่า​และ​ไม่​ยุติธรรม​นัก ถ้า​ชาย​ผู้​หนึ่ง​มี​บุตร 100 คน และ​มี​อายุ​ยืน ใช้​ชีวิต​อยู่​ได้​หลาย​ปี แต่​เขา​ไม่​มี​ความ​สุข​กับ​สิ่ง​ดีๆ ใน​ชีวิต อีก​ทั้ง​ยัง​ไม่​มี​ที่​ฝัง​ศพ ข้าพเจ้า​คิด​ว่า​ทารก​ที่​ตาย​ตอน​เกิด​ยัง​จะ​ดี​กว่า​คน​นั้น​เสีย​อีก เพราะ​เขา​เกิด​มา​อย่าง​ไร้​ความ​หมาย​และ​จาก​ไป​ใน​ความ​มืด และ​ชื่อ​ของ​เขา​ก็​ไม่​เป็น​ที่​รู้จัก​ใน​ความ​มืด ยิ่ง​กว่า​นั้น​ทารก​ก็​ยัง​ไม่​ทัน​ได้​เห็น​แสง​ตะวัน​หรือ​รู้จัก​สิ่ง​ใด เขา​ก็​ยัง​พบ​กับ​ความ​สงบ​มาก​กว่า​ชาย​คน​นั้น แม้​หาก​ว่า​ชาย​ผู้​นั้น​มี​ชีวิต​ยืน​นาน​นับ​พันๆ ปี แต่​ยัง​ไม่​มี​ความ​สุข​กับ​สิ่ง​ดีๆ ทั้ง​สอง​ก็​ไป​ยัง​ที่​เดียว​กัน​มิ​ใช่​หรือ การ​ออก​แรง​ตรากตรำ​ของ​มนุษย์​ก็​เพื่อ​ปาก​ท้อง​ของ​เขา แต่​ความ​อยาก​ก็​ยัง​ไม่​หยุด แล้ว​คน​มี​สติ​ปัญญา​ได้​เปรียบ​มาก​กว่า​คน​โง่​เขลา​อย่างไร แล้ว​คน​ยากไร้​จะ​ได้​ประโยชน์​อย่างไร แม้​เขา​จะ​รู้จัก​การ​ใช้​ชีวิต การ​มี​ความ​สุข​กับ​สิ่ง​ที่​เรา​มี ดี​กว่า​เพ้อ​ฝัน​ใน​สิ่ง​อื่น​ที่​เรา​อยาก​ได้ นี่​ก็​ไร้​ค่า และ​ไล่​คว้า​ลม อะไร​ก็​ตาม​ที่​เป็น​อยู่ ถูก​ตั้ง​ชื่อ​ไว้​แล้ว และ​เป็น​ที่​ทราบ​กัน​แล้ว​ว่า​มนุษย์​เป็น​อย่างไร คือ​เขา​ไม่​สามารถ​โต้​เถียง​กับ​ผู้​ที่​มี​อำนาจ​มาก​กว่า ยิ่ง​มี​ปาก​เสียง​มาก ยิ่ง​ไร้​ค่า​มาก และ​จะ​ได้​ประโยชน์​อะไร​เล่า ใคร​ทราบ​ได้​ว่า อะไร​ดี​สำหรับ​มนุษย์​ขณะ​ที่​เขา​มี​ชีวิต​อยู่​ชั่ว​ระยะ​เพียง​ไม่​กี่​วัน​ใน​ชีวิต​อัน​ไร้​ค่า​ของ​เขา เขา​ใช้​ชีวิต​ซึ่ง​ผ่าน​ไป​ดั่ง​เงา ใคร​จะ​สามารถ​บอก​มนุษย์​ได้​ว่า จะ​เกิด​อะไร​ขึ้น​หลัง​จาก​ที่​เขา​ตาย​จาก​โลก​นี้​ไป​แล้ว

YouVersion ใช้คุกกี้สำหรับการปรับแต่งการใช้งาน และประสบการณ์ของคุณ การที่คุณได้ใช้เว็บไซต์ของเรา ถือเป็นการที่คุณยอมรับวัตถุประสงค์ของการใช้คุกกี้ ซึ่งมีคำอธิบายอยู่ในนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา