เฉลยธรรมบัญญัติ 4:9-14
เฉลยธรรมบัญญัติ 4:9-14 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
แต่ให้ระวังตัวเองไว้ให้ดี เพื่อท่านจะได้ไม่ลืมสิ่งที่ตาของท่านได้เห็นมา เพื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะได้ไม่จางหายไปจากใจของท่านจนตลอดชีวิต ท่านต้องสั่งสอนลูกและหลานของท่านต่อด้วย ท่านต้องไม่ลืมสิ่งที่ท่านได้เห็นมา วันที่ท่านยืนอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านที่ภูเขาซีนาย เมื่อพระยาห์เวห์พูดกับเราว่า ‘ให้รวบรวมประชาชนมาหาเรา เพื่อเราจะได้ให้พวกเขาฟังสิ่งที่เราจะบอก เพื่อพวกเขาจะได้เกรงกลัวเราตลอดเวลาที่ยังมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ และพวกเขาจะได้สอนสิ่งเหล่านี้ให้กับลูกๆของพวกเขาต่อไป’ พวกท่านเข้ามาใกล้และยืนอยู่ที่ตีนเขา ภูเขานั้นลุกไหม้เป็นไฟสูงเสียดฟ้า และเกิดความมืด เมฆและหมอกหนาทึบเข้ามาปกคลุม แล้วพระยาห์เวห์ได้พูดกับพวกท่านจากท่ามกลางไฟนั้น พวกท่านได้ยินแต่เสียงพูด แต่มองไม่เห็นรูปร่างอะไรเลย มีแต่เสียงเท่านั้น พระองค์ได้ประกาศคำสอนของพระองค์ และพระองค์ได้สั่งให้พวกท่านทำตามคำสอนเหล่านั้น ซึ่งก็คือบัญญัติสิบประการ และพระองค์ได้เขียนมันไว้บนแผ่นหินสองแผ่น เวลานั้นพระยาห์เวห์ได้สั่งให้เราสอนพวกท่าน ถึงกฎและข้อบังคับต่างๆเพื่อพวกท่านจะได้ทำตามคำสอนเหล่านั้นในดินแดนอีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำจอร์แดนที่พวกท่านกำลังจะข้ามไปยึดเป็นเจ้าของ
เฉลยธรรมบัญญัติ 4:9-14 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
แต่จงรักษาตัวรักษาใจของท่านให้ดีเพื่อท่านจะไม่หลงลืมสิ่งที่ท่านเห็นกับตา ไม่ปล่อยให้สิ่งเหล่านี้เลือนรางจากใจตราบชั่วชีวิต จงสอนลูกหลานสืบต่อกันไป จงรำลึกถึงวันที่ท่านยืนอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทั้งหลายที่ภูเขาโฮเรบ เมื่อพระองค์ได้ตรัสกับข้าพเจ้าว่า “จงเรียกประชากรมาชุมนุมต่อหน้าเรา เพื่อฟังถ้อยคำของเรา เพื่อเขาจะเรียนรู้ที่จะยำเกรงเราตราบเท่าที่เขายังมีชีวิตอยู่บนแผ่นดินนี้ และเพื่อเขาจะสอนบัญญัติของเราแก่ลูกหลาน” ท่านทั้งหลายได้เข้ามาใกล้และยืนอยู่ที่เชิงเขาซึ่งมีไฟลุกโชติช่วงขึ้นสู่ท้องฟ้า รายรอบด้วยเมฆดำและความมืดทึบ แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับท่านจากเปลวไฟ ท่านได้ยินพระดำรัสแต่ไม่ได้เห็นรูปพรรณสัณฐานของพระองค์ มีแต่พระสุรเสียงเท่านั้น พระองค์ทรงประกาศพันธสัญญาของพระองค์ คือบัญญัติสิบประการซึ่งพระองค์ทรงบัญชาให้ท่านปฏิบัติตาม แล้วทรงจารึกบัญญัตินั้นไว้บนศิลาสองแผ่น ครั้งนั้นเององค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาให้ข้าพเจ้าสอนกฎหมายและบทบัญญัติซึ่งท่านจะต้องปฏิบัติตามในดินแดนที่ท่านกำลังจะข้ามแม่น้ำจอร์แดนเข้าไปยึดครอง
เฉลยธรรมบัญญัติ 4:9-14 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
“แต่จงระวังตัว และรักษาจิตวิญญาณของตนให้ดี เกรงว่าท่านจะลืมสิ่งที่นัยน์ตาได้เห็นนั้น และเกรงว่าสิ่งเหล่านั้นจะสูญไปจากใจของท่านตลอดชีวิตของท่าน จงทำให้ลูกและหลานของท่านทราบเรื่องเหล่านี้ ในวันนั้นที่ท่านยืนอยู่เฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่านที่โฮเรบ พระยาห์เวห์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า ‘จงรวบรวมประชากรให้มาหาเรา เพื่อเราจะให้เขาได้ยินถ้อยคำของเรา เพื่อเขาทั้งหลายจะได้เรียนรู้ที่จะยำเกรงเราตลอดวันคืนที่เขามีชีวิตอยู่ในโลก และเพื่อเขาจะสอนลูกหลานของเขาด้วย’ ท่านทั้งหลายได้เข้ามาใกล้และยืนอยู่ที่เชิงเขา และภูเขานั้นมีไฟลุกขึ้นถึงท้องฟ้า มีความมืด เมฆ และความมืดทึบคลุมอยู่ แล้วพระยาห์เวห์ตรัสกับท่านทั้งหลายออกมาจากท่ามกลางไฟ ท่านได้ยินเสียงพระดำรัสแต่ไม่เห็นรูปสัณฐาน มีแต่พระสุรเสียงเท่านั้น และพระองค์ทรงประกาศพันธสัญญาของพระองค์ต่อท่าน ซึ่งทรงบัญชาท่านทั้งหลายให้ปฏิบัติตามคือ พระบัญญัติสิบประการ และพระองค์ทรงจารึกลงบนศิลาสองแผ่น ในเวลานั้นพระยาห์เวห์ทรงบัญชาให้ข้าพเจ้าสั่งสอนกฎเกณฑ์และกฎหมายแก่ท่านทั้งหลาย เพื่อท่านจะได้ทำตามในแผ่นดินซึ่งท่านกำลังจะข้ามไปยึดครองนั้น
เฉลยธรรมบัญญัติ 4:9-14 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
แต่จงระวังตัว และรักษาจิตวิญญาณของตัวให้ดี เกรงว่าพวกท่านจะลืมสิ่งซึ่งนัยน์ตาได้เห็นนั้น และเกรงว่าสิ่งเหล่านั้นจะหันไปเสียจากใจของท่านตลอดวันคืนแห่งชีวิตของพวกท่าน จงสอนเรื่องเหล่านี้ให้แก่ลูกของพวกท่านและหลานของพวกท่านว่า ในวันนั้นที่พวกท่านได้ยืนอยู่ต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกท่านที่โฮเรบ พระเยโฮวาห์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า ‘จงรวบรวมประชาชนให้เข้ามาต่อหน้าเรา เพื่อเราจะให้เขาได้ยินคำของเรา เพื่อเขาทั้งหลายจะได้ฝึกตนที่จะยำเกรงเราตลอดวันคืนที่เขามีชีวิตอยู่ในโลก และเพื่อว่าเขาจะได้สอนลูกหลานของเขาด้วย’ ท่านทั้งหลายได้เข้ามาใกล้ยืนอยู่ที่เชิงภูเขา และภูเขานั้นมีเพลิงลุกขึ้นถึงท้องฟ้า มีความมืด เมฆ และความมืดคลุ้มคลุมอยู่ แล้วพระเยโฮวาห์ตรัสกับท่านทั้งหลายออกมาจากท่ามกลางเพลิง ท่านทั้งหลายได้ยินสำเนียงพระวจนะ แต่ไม่เห็นรูปสัณฐาน มีแต่ได้ยินพระสุรเสียงเท่านั้น และพระองค์ทรงประกาศพันธสัญญาของพระองค์แก่ท่าน ซึ่งพระองค์ทรงบัญชาให้ท่านทั้งหลายปฏิบัติตามคือ พระบัญญัติสิบประการ และพระองค์ทรงจารึกพระบัญญัตินั้นไว้บนศิลาสองแผ่น ในครั้งนั้นพระเยโฮวาห์ทรงบัญชาให้ข้าพเจ้าสั่งสอนกฎเกณฑ์และคำตัดสินแก่ท่านทั้งหลาย เพื่อท่านทั้งหลายจะได้กระทำตามในแผ่นดินซึ่งท่านกำลังจะข้ามไปยึดครองนั้น
เฉลยธรรมบัญญัติ 4:9-14 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
<<แต่จงระวังตัว และรักษาจิตวิญญาณของตัวให้ดี เกรงว่าพวกท่านจะลืมสิ่งซึ่งนัยน์ตาได้เห็นนั้น และเกรงว่าสิ่งเหล่านั้นจะประลาตเสียจากใจของ ท่านตลอดวันคืนแห่งชีวิตของพวกท่าน จงกระทำให้ลูกของพวกท่านและหลานของพวกท่าน ทราบเรื่องเหล่านี้ว่า ในวันนั้นที่พวกท่าน ได้ยืนอยู่ต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกท่านที่โฮเรบ พระเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า <จงรวมประชากรให้เข้ามาหน้าเรา เพื่อเราจะให้เขาได้ยินคำของเรา เพื่อเขาทั้งหลายจะได้ฝึกตนที่จะ ยำเกรงเราตลอดวันคืนที่เขามีชีวิตอยู่ในโลก และเพื่อว่าเขาจะได้สอนลูกหลานของเขาด้วย> ท่านทั้งหลายได้เข้ามาใกล้ยืนอยู่ที่เชิงภูเขา และภูเขานั้นมีเพลิงลุกขึ้นถึงท้องฟ้ามีความมืด เมฆ และความมืดคลุ้มคลุมอยู่ แล้วพระเจ้าตรัสกับท่านทั้งหลายออกมาจาก ท่ามกลางเพลิง ท่านทั้งหลายได้ยินสำเนียงพระวจนะแต่ไม่เห็นรูปสัณฐาน มีแต่พระสุรเสียงเท่านั้น และพระองค์ทรงประกาศพันธสัญญาของพระองค์แก่ท่าน ซึ่งพระองค์ทรงบัญชาให้ท่านทั้งหลายปฏิบัติตามคือ พระบัญญัติสิบประการ และพระองค์ทรงจารึกไว้บนศิลาสองแผ่น ในครั้งนั้นพระเจ้าทรงบัญชาให้ข้าพเจ้า สั่งสอนกฎเกณฑ์และกฎหมายแก่ท่านทั้งหลาย เพื่อท่านทั้งหลายจะได้กระทำตาม ในแผ่นดินซึ่งท่านกำลังจะข้ามไปยึดครองนั้น
เฉลยธรรมบัญญัติ 4:9-14 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
จงระวังเถิด ระวังชีวิตของท่านให้ดี มิฉะนั้นท่านจะลืมสิ่งที่ท่านเห็นด้วยตาของท่าน และมันจะเหินห่างจากใจท่านไปจนชั่วชีวิต จงบอกเรื่องราวนี้ต่อๆ กันไปตราบชั่วลูกชั่วหลาน ถึงวันที่ท่านได้ยืนอยู่ ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านที่ภูเขาโฮเรบ พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับเราว่า ‘จงพาประชาชนมาหาเรา เพื่อให้เขาได้ยินคำพูดของเรา เขาจะได้รู้จักเกรงกลัวเราตลอดชีวิตของเขาในโลก และให้เขาสอนลูกหลานของเขาด้วยเช่นกัน’ แล้วพวกท่านก็เข้าไปใกล้ ยืนกันอยู่ที่เชิงเขา ขณะนั้นภูเขาลุกเป็นไฟ เปลวเพลิงพลุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าในความมืด เมฆทึบ อีกทั้งมีความมืดมน ครั้นแล้วพระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับพวกท่านจากกลางเพลิง ท่านก็ได้ยินเสียงพูดแต่ไม่เห็นรูปลักษณ์ของพระองค์ มีเพียงแต่เสียงเท่านั้น พระองค์ประกาศพันธสัญญาแก่ท่าน และให้ท่านปฏิบัติตามคือบัญญัติสิบประการ แล้วพระองค์เขียนไว้บนศิลา 2 แผ่น ในครั้งนั้นพระผู้เป็นเจ้าบัญชาให้เราสอนกฎเกณฑ์และคำสั่งแก่พวกท่าน เพื่อให้ท่านปฏิบัติตามในแผ่นดินที่พวกท่านกำลังข้ามไปยึดครอง