เฉลยธรรมบัญญัติ 32:10-11
เฉลยธรรมบัญญัติ 32:10-11 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
พระองค์ทรงพบเขาในถิ่นกันดารอันเริศร้าง และเต็มไปด้วยเสียงโหยหวน พระองค์ทรงปกป้องและดูแลเขา พระองค์ทรงพิทักษ์เขาดั่งแก้วพระเนตรของพระองค์ เหมือนนกอินทรีตะกุยรังของมัน และบินร่อนอยู่เหนือลูกอ่อน กางปีกออกรองรับ ประคับประคองพาลูกบินไป
เฉลยธรรมบัญญัติ 32:10-11 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
พระองค์พบเขาในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้ง ในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งที่ร้าง และลมแรง พระองค์อยู่รอบๆตัวเขาและดูแลเขา พระองค์ปกป้องเขาเหมือนแก้วตาของพระองค์ เหมือนนกอินทรีที่คอยขยับรัง ของมัน และบินโฉบไปที่ลูกของมัน ดังนั้น พระยาห์เวห์กางปีกของพระองค์ออกและจับพวกเขาไว้ และแบกพวกเขาไว้บนปีกของพระองค์
เฉลยธรรมบัญญัติ 32:10-11 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
“พระองค์ทรงพบเขาในแผ่นดินทุรกันดาร ในที่ร้างเปล่าวังเวง พระองค์ทรงโอบล้อมเขา และทรงดูแลเขา ทรงรักษาเขาไว้ดังแก้วพระเนตรของพระองค์ เหมือนนกอินทรีที่กวนรังของมัน กระพือปีกเหนือลูกนก กางปีกออกรองรับลูกไว้ให้เกาะอยู่บนปีก
เฉลยธรรมบัญญัติ 32:10-11 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
พระองค์ทรงพบเขาในแผ่นดินทุรกันดาร ในที่เปลี่ยวเปล่าซึ่งมีแต่เสียงเห่าหอน พระองค์ทรงนำเขาไปทั่ว และทรงสอนเขาอยู่ ทรงรักษาเขาไว้ดังแก้วพระเนตรของพระองค์ เหมือนนกอินทรีที่กวนรังของมัน กระพือปีกอยู่เหนือลูกโต กางปีกออกรองรับลูกไว้ให้เกาะอยู่บนปีก
เฉลยธรรมบัญญัติ 32:10-11 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
<<พระองค์ทรงพบเขาในแผ่นดินทุรกันดาร ในที่เปลี่ยวเปล่ามีแต่เสียงเห่าหอน พระองค์ทรงโอบล้อมเขาไว้ และทรงดูแลเขาอยู่ ทรงรักษาเขาไว้ดังแก้วพระเนตรของพระองค์ เหมือนนกอินทรีที่กวนรังของมันกระพือปีกอยู่เหนือลูกโต กางปีกออกรองรับลูกไว้ให้เกาะอยู่บนปีก
เฉลยธรรมบัญญัติ 32:10-11 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
พระองค์พบพวกเขาในถิ่นทุรกันดาร ในที่ร้างอันแร้นแค้นปราศจากผู้คน พระองค์อารักขาและดูแลเขา พระองค์ปกปักรักษาเขาดั่งแก้วตาของพระองค์ ดั่งนกอินทรีที่เขี่ยกระตุ้นรังของมัน ที่บินวนเวียนอยู่ใกล้ลูกน้อย กางปีกของมันออกคอยโอบ ประคับประคองให้ลูกๆ พักพิงบนปีกของมัน