เฉลยธรรมบัญญัติ 10:1-22

เฉลยธรรมบัญญัติ 10:1-22 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

ใน​เวลานั้น พระยาห์เวห์​พูด​กับ​เรา​ว่า ‘ตัด​หิน​มา​ใหม่​อีก​สองแผ่น​ให้​เหมือน​กับ​สอง​แผ่น​แรก แล้ว​ขึ้น​มา​หา​เรา​บน​ภูเขานี้ และ​ให้​ทำ​หีบ​ไม้​มา​ด้วย เรา​จะ​เขียน​บัญญัติ​บน​แผ่น​หินนี้ เป็น​บัญญัติ​เดียว​กับ​ที่​ได้​เขียน​ไป​แล้ว​บน​แผ่นหิน​ชุดแรก​ที่​เจ้า​ทำ​แตก​ไปนั้น แล้ว​เจ้า​จะ​ได้​วาง​พวกมัน​ลง​ใน​หีบไม้’ เรา​จึง​ทำ​หีบ​ไม้​ขึ้น​หนึ่ง​ใบ​จาก​ไม้​กระถินเทศ และ​ตัด​หิน​ใหม่​สองแผ่น​ที่​เหมือน​กับ​หิน​สอง​แผ่น​แรก แล้ว​เรา​ก็​ขึ้น​ไป​บน​ภูเขา​พร้อม​กับ​หิน​สอง​แผ่นนั้น​ใน​มือ พระยาห์เวห์​ได้​เขียน​คำพูด​เดิม​ที่​เคย​เขียน​ไป​แล้ว​ครั้ง​ก่อน​ลง​บน​หิน​สอง​แผ่นนี้ คือ​บัญญัติ​สิบ​ประการ​ที่​พระยาห์เวห์​ได้​พูด​กับ​พวกท่าน​บน​ภูเขา ที่​พระองค์​พูด​ออก​มา​จาก​ไฟ​ใน​วัน​ที่​พวกท่าน​ไป​อยู่​รวม​กัน​ที่นั่น แล้ว​พระองค์​ก็​ให้​แผ่น​หินนั้น​กับ​เรา เรา​ก็​กลับ​ลง​มา​จาก​บน​เขา เรา​ได้​วาง​แผ่น​หินนั้น​ไว้​ใน​หีบ​ไม้​ที่​เรา​ได้​ทำ​ขึ้น และ​แผ่น​หิน​พวกนั้น​ก็​ยัง​คง​อยู่​ที่นั่น เหมือน​กับ​ที่​พระยาห์เวห์​ได้​สั่ง​เรา​ไว้ (ประชาชน​ชาว​อิสราเอล​ได้​เดิน​ทาง​จาก​บ่อน้ำ​เบเอโรท-เบเน-ยาอะคัน ไป​ที่​โมเสราห์ อาโรน​ตาย​และ​ถูก​ฝัง​ไว้​ที่นั่น เอเลอาซาร์​ลูกชาย​ของ​เขา​ได้​เป็น​นักบวช​แทน​เขา ประชาชน​ชาว​อิสราเอล​ได้​เดิน​ทาง​จาก​ที่นั่น​ไป​ที่​กุดโกดาห์ จาก​กุดโกดาห์ พวกเขา​เดิน​ทาง​ไป​ถึง​โยทบาธาห์ เป็น​สถานที่​ที่​มี​ลำธาร​มากมาย ใน​เวลานั้น​พระยาห์เวห์​ได้​แต่งตั้ง​เผ่า​เลวี​ให้​เป็น​ผู้​แบก​หีบ​ข้อตกลง​ของ​พระยาห์เวห์ ให้​ยืน​รับใช้​อยู่​ต่อหน้า​พระยาห์เวห์ และ​ให้​อวยพร​ประชาชน​ใน​นาม​ของ​พระองค์ เหมือน​ที่​พวกเขา​ได้​ทำ​อยู่​จน​ถึง​ทุก​วันนี้ เพราะ​เหตุนี้​คน​เผ่า​เลวี​ถึง​ไม่​ได้รับ​ส่วน​แบ่ง​ที่ดิน​เป็น​ของ​ตัวเอง​เหมือน​เผ่า​อื่นๆ พระยาห์เวห์​คือ​ส่วน​แบ่ง​ของ​ชาว​เลวี ตาม​ที่​พระยาห์เวห์​พระเจ้า​ของ​ท่าน​ได้​สัญญา​ไว้​กับ​คน​เผ่า​เลวี) เรา​ได้​อยู่​บน​ภูเขา​เป็น​เวลา​สี่สิบ​วัน​สี่สิบ​คืน​เหมือน​ครั้งแรก​และ​พระยาห์เวห์​ได้​ฟัง​เรา​อีก​ครั้ง​หนึ่ง​ใน​เวลานั้น พระองค์​ไม่​ต้องการ​ทำลาย​ท่าน พระยาห์เวห์​พูด​กับ​เรา​ว่า ‘ลุกขึ้น ไป​เดิน​นำ​หน้า​ประชาชน เพื่อ​พวกเขา​จะ​ได้​เข้า​ไป​เป็น​เจ้า​ของ​แผ่นดิน​ที่​เรา​ได้​สัญญา​ไว้​กับ​บรรพบุรุษ​ของ​พวกเขา​ว่า​จะ​ยก​ให้​กับ​พวกเขา’ ชาว​อิสราเอล​เอ๋ย พระยาห์เวห์​พระเจ้า​ของ​ท่าน​ขอ​อะไร​จาก​ท่านหรือ พระองค์​ขอ​เพียง​แต่​ให้​เกรง​กลัว​พระยาห์เวห์​พระเจ้า​ของ​ท่าน ให้​เดิน​ใน​ทาง​ของ​พระองค์ ให้​รัก​พระองค์ ให้​รับใช้​พระองค์​ด้วย​สุดใจ​สุดจิต​ของ​ท่าน และ​ให้​เชื่อฟัง​บัญญัติ​และ​กฎ​ของ​พระองค์ ที่​เรา​ได้​สั่ง​ท่าน​ใน​วันนี้​เพื่อ​ประโยชน์​ของ​ตัว​ท่าน​เอง ดูสิ พระยาห์เวห์​พระเจ้า​ของ​ท่าน​เป็น​เจ้า​ของ​สวรรค์​ทั้งสิ้น แม้แต่​สวรรค์​ชั้น​สูงสุด รวมทั้ง​โลก​และ​ทุกสิ่ง​ทุกอย่าง​ใน​โลก แต่​พระยาห์เวห์​ยัง​เอา​ใจ​ใส่​บรรพบุรุษ​ของ​ท่าน​และ​รัก​พวกเขา พระองค์​ได้​เลือก​พวกท่าน​ซึ่ง​เป็น​ลูกหลาน​ของ​พวกเขา​ออก​มา​จาก​ชนชาติ​ทั้งหลาย และ​พวกท่าน​ก็​ยัง​คง​เป็น​คนพิเศษ​สำหรับ​พระองค์​ถึง​ทุก​วันนี้ ให้​มอบ​ตัว​ท่าน​ทั้งหมด​กับ​พระยาห์เวห์ และ​อย่า​ดื้อดึง​อีก​ต่อ​ไป เพราะ​พระยาห์เวห์​พระเจ้า​ของ​พวกท่าน​คือ​พระเจ้า​เหนือ​พระ​ทั้งปวง และ​เป็น​องค์​เจ้า​ชีวิต​เหนือ​องค์​เจ้า​ชีวิต​อื่นๆ​ทั้งหมด พระองค์​เป็น​พระเจ้า​ที่​ยิ่งใหญ่ ทรงพลัง​และ​น่ากลัว พระองค์​ไม่​เลือก​หน้า​และ​ไม่​รับ​สินบน พระองค์​ทำ​ให้​แม่หม้าย​และ​เด็ก​กำพร้า​ได้รับ​การ​ตัดสิน​อย่าง​ยุติธรรม พระองค์​รัก​ชาว​ต่างชาติ​ที่​อยู่​ท่ามกลาง​เรา​และ​ให้​อาหาร​และ​เสื้อผ้า​กับ​เขา พวกท่าน​ต้อง​รัก​ชาว​ต่างชาติ​ด้วย เพราะ​พวกท่าน​ก็​เคย​เป็น​ชาว​ต่างชาติ​ใน​แผ่นดิน​อียิปต์​มา​ก่อน ท่าน​ต้อง​เกรง​กลัว​พระยาห์เวห์​พระเจ้า​ของ​ท่าน ท่าน​ต้อง​รับใช้​พระองค์​เท่านั้น ท่าน​ต้อง​ผูกพัน​อยู่​กับ​พระองค์​และ​ท่าน​ต้อง​สาบาน​โดย​อ้าง​ชื่อ​ของ​พระองค์ พระองค์​คือ​ผู้ที่​ท่าน​ควร​จะ​ยกย่อง​สรรเสริญ พระองค์​คือ​พระเจ้า​ของ​ท่าน พระองค์​ได้​ทำ​สิ่ง​ที่​ยิ่งใหญ่​และ​น่ากลัว​ต่างๆนี้​เพื่อ​ท่าน ที่​ท่าน​ได้​เห็น​มา​แล้ว​กับ​ตา​ตัวเอง ตอน​ที่​บรรพบุรุษ​ของ​ท่าน​เข้า​ไป​อยู่​ที่​ประเทศ​อียิปต์นั้น มี​แค่​เจ็ดสิบ​คน​เท่านั้น แต่​ตอนนี้ พระยาห์เวห์​พระเจ้า​ของ​ท่าน​ได้​ทำ​ให้​ท่าน​มี​จำนวน​มากมาย​เหมือน​กับ​ดวงดาว​บน​ท้องฟ้า

เฉลยธรรมบัญญัติ 10:1-22 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

“ในเวลานั้นพระยาห์เวห์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า ‘จงสกัดศิลาสองแผ่นให้เหมือนอย่างเดิม แล้วขึ้นมาหาเราบนภูเขาและทำหีบไม้ไว้ด้วย แล้วเราจะจารึกบนศิลานั้นด้วยถ้อยคำที่อยู่ในศิลาชุดเดิมที่เจ้าทำแตก และจงเก็บมันไว้ในหีบ’ ข้าพเจ้าจึงทำหีบด้วยไม้กระถินเทศ และสกัดศิลาสองแผ่นเหมือนอย่างเดิม และขึ้นไปบนภูเขา มีศิลาสองแผ่นอยู่ในมือของข้าพเจ้า แล้วพระองค์จึงทรงจารึกพระบัญญัติสิบประการลงบนศิลาอย่างครั้งก่อน ซึ่งเป็นพระวจนะที่พระยาห์เวห์ตรัสกับพวกท่านบนภูเขาจากท่ามกลางเพลิงในวันที่ประชุมนั้น และพระยาห์เวห์ประทานศิลานั้นแก่ข้าพเจ้า แล้วข้าพเจ้าก็กลับลงมาจากภูเขา และเก็บศิลานั้นไว้ในหีบที่ข้าพเจ้าทำขึ้นและศิลาก็ยังอยู่ในหีบนั้น ดังที่พระยาห์เวห์ทรงบัญชาข้าพเจ้าไว้ (คนอิสราเอลเดินทางจากเบเอโรทเบเนยาอะคันมาถึงโมเสราห์ อาโรนก็สิ้นชีวิต และฝังไว้ที่นั่น และเอเลอาซาร์บุตรของเขาจึงปฏิบัติหน้าที่ปุโรหิตแทนเขา เขาทั้งหลายเดินทางออกจากที่นั่นมาถึงกุดโกดาห์และจากกุดโกดาห์ถึงโยทบาธาห์ เป็นแผ่นดินที่มีลำธารหลายสาย ในเวลานั้นพระยาห์เวห์ทรงแยกเผ่าเลวีออกมาให้หามหีบพันธสัญญาแห่งพระยาห์เวห์ ให้ยืนอยู่เฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์เพื่อปรนนิบัติพระองค์ และให้อวยพรในพระนามของพระองค์ จนถึงทุกวันนี้ เพราะฉะนั้นคนเลวีจึงไม่มีส่วนแบ่งหรือมรดกกับพวกพี่น้องของตน พระยาห์เวห์เองทรงเป็นมรดกของเขา ดังที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านตรัสแก่เขานั้น) “ข้าพเจ้าก็อยู่บนภูเขาอย่างครั้งก่อนสี่สิบวันสี่สิบคืน ในเวลานั้นพระยาห์เวห์ทรงสดับฟังข้าพเจ้าด้วย พระยาห์เวห์ไม่พอพระทัยที่จะทรงทำลายท่าน พระยาห์เวห์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า ‘จงลุกขึ้นเดินทางนำหน้าประชาชนต่อไปเถิด เพื่อเขาทั้งหลายจะได้เข้ายึดแผ่นดิน ซึ่งเราปฏิญาณไว้แก่บรรพบุรุษของพวกเขาว่าจะให้เขานั้น’ “และบัดนี้ คนอิสราเอล พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านมีพระประสงค์อะไรจากท่าน? นอกจากให้ยำเกรงพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ให้ดำเนินตามทางทั้งสิ้นของพระองค์ ให้รักพระองค์ ให้ปรนนิบัติพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านด้วยสุดจิตสุดใจของท่าน และให้รักษาพระบัญญัติของพระยาห์เวห์และกฎเกณฑ์ของพระองค์ ซึ่งข้าพเจ้ากำลังบัญชาท่านในวันนี้ เพื่อประโยชน์ของท่าน ดูสิ ฟ้าสวรรค์และฟ้าสวรรค์อันสูงสุด และโลกกับทุกสิ่งที่อยู่ในโลกเป็นของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน แต่พระยาห์เวห์ทรงผูกพันกับบรรพบุรุษของท่าน และทรงรักพวกเขา และทรงเลือกลูกหลานของเขาคือพวกท่านจากชนชาติทั้งหลาย ดังที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ เพราะฉะนั้นจงมีใจเชื่อฟัง อย่าหัวแข็งอีกต่อไป เพราะว่าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงเป็นพระเจ้าของพระทั้งปวง และทรงเป็นจอมเจ้านาย ทรงเป็นพระเจ้าที่ยิ่งใหญ่ ทรงฤทธิ์และน่าเกรงกลัว ทรงปราศจากอคติ และไม่ทรงรับสินบน พระองค์ประทานความยุติธรรมแก่ลูกกำพร้าและแม่ม่าย และทรงรักคนต่างด้าว จึงประทานอาหารและเครื่องนุ่งห่มแก่เขา เพราะฉะนั้นพวกท่านจงรักคนต่างด้าว เพราะท่านก็เคยเป็นคนต่างด้าวในแผ่นดินอียิปต์ ท่านจงยำเกรงพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน จงปรนนิบัติพระองค์และติดสนิทกับพระองค์ จงสาบานโดยพระนามของพระองค์ พระองค์ทรงเป็นที่สรรเสริญของท่าน พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของท่าน ผู้ทรงทำการใหญ่และน่าเกรงกลัวซึ่งนัยน์ตาของท่านได้เห็นนี้ บรรพบุรุษของท่านลงไปอียิปต์เจ็ดสิบคน และบัดนี้พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงทำให้ท่านมีจำนวนมากดังดวงดาวในท้องฟ้า

เฉลยธรรมบัญญัติ 10:1-22 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

“ครั้งนั้นพระเยโฮวาห์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า ‘จงสกัดศิลาสองแผ่นให้เหมือนอย่างเดิม และขึ้นมาหาเราที่บนภูเขาและทำหีบไม้​ไว้​ด้วย และเราจะจารึกถ้อยคำที่​อยู่​ในแผ่นศิลาแผ่นเดิ​มท​ี่​เจ้​าทำแตกเสียนั้น จงเก็บศิ​ลาน​ั้นไว้ในหีบไม้’ ข้าพเจ้าจึงทำหี​บด​้วยไม้กระถินเทศ และสกัดศิลาสองแผ่นเหมือนอย่างเดิม ขึ้นไปบนภู​เขา มี​ศิลาสองแผ่นอยู่ในมือของข้าพเจ้า แล​้วพระองค์จึงทรงจารึกพระบัญญั​ติ​สิ​บประการลงบนแผ่นศิลาอย่างครั้​งก​่อน ซึ่งเป็นพระวจนะที่พระเยโฮวาห์ตรัสกั​บท​่านบนภูเขาจากท่ามกลางเพลิงในวั​นที​่ประชุ​มน​ั้น และพระเยโฮวาห์ทรงประทานแผ่นศิ​ลาน​ั้นแก่​ข้าพเจ้า แล​้วข้าพเจ้าก็​กล​ับลงมาจากภู​เขา และเก็บแผ่นศิ​ลาน​ั้นไว้ในหีบซึ่งข้าพเจ้าได้ทำขึ้นและแผ่นศิ​ลาก​็ยังอยู่ในหี​บน​ั้น ดังที่​พระเยโฮวาห์ทรงบัญชาข้าพเจ้าไว้ คนอิสราเอลเดินทางจากเบเอโรทของคนยาอาคัน มาถึงโมเสราห์ อาโรนก็​สิ​้นชีวิตและฝังไว้​ที่นั่น และเอเลอาซาร์​บุ​ตรชายของเขาจึงปฏิบั​ติ​หน้าที่​ปุ​โรหิตแทนเขา เขาทั้งหลายเดินทางออกจากที่นั่นมาถึ​งก​ุดโกดาห์ และจากกุดโกดาห์ถึงโยทบาธาห์เป็นแผ่นดิ​นที​่​มี​แม่น​้ำลำธารมาก ครั้งนั้นพระเยโฮวาห์​ได้​แยกตระกูลเลวี ให้​หามหีบพันธสัญญาแห่งพระเยโฮวาห์ ให้​เฝ้าพระเยโฮวาห์เพื่อปรนนิบั​ติ​พระองค์ และให้อำนวยพรในพระนามของพระองค์ จนถึงทุกวันนี้ เหตุ​ฉะนี้​คนเลว​ีจึงหามีส่วนแบ่งหรือมรดกกับพวกพี่น้องของตนไม่ พระเยโฮวาห์ทรงเป็นส่วนมรดกของเขา ดังที่​พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลายทรงสัญญากับเขานั้น ข้าพเจ้าก็​อยู่​บนภูเขาอย่างครั้​งก​่อนสี่​สิ​บวันสี่​สิ​บคืน ครั้งนั้นพระเยโฮวาห์ทรงฟังข้าพเจ้าด้วย พระเยโฮวาห์​ไม่​พอพระทัยที่จะทำลายท่านทั้งหลาย พระเยโฮวาห์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า ‘จงลุกขึ้นเดินทางนำหน้าประชาชนต่อไปเถิด เพื่อเขาทั้งหลายจะได้​เข​้าไปยึดแผ่นดินซึ่งเราปฏิญาณไว้​แก่​บรรพบุรุษว่าจะให้​แก่​เขานั้น’ และบัดนี้ คนอิสราเอล พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทรงประสงค์​ให้​ท่านกระทำอย่างไร คือให้ยำเกรงพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ให้​ดำเนินตามพระมรรคาทั้งปวงของพระองค์ ให้​รักพระองค์ ให้​ปรนนิบัติ​พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านด้วยสุดจิตสุดใจของท่านทั้งหลาย และให้รักษาพระบัญญั​ติ​และกฎเกณฑ์ของพระเยโฮวาห์ ซึ่งข้าพเจ้าบัญชาท่านในวันนี้ เพื่อประโยชน์ของท่านทั้งหลาย ดู​เถิด ฟ้าสวรรค์และฟ้าสวรรค์อันสูงสุด และโลกกับบรรดาสิ่งสารพัดที่​อยู่​ในโลกเป็นของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน แต่​พระเยโฮวาห์ทรงฝังพระทัยในบรรพบุรุษของท่านและทรงรักเขา และทรงเลือกเชื้อสายของเขาที่มาภายหลังเขาคือ ท่านทั้งหลายจากชนชาติ​ทั้งหลาย อย่างเป็นอยู่​ทุกวันนี้ เพราะฉะนั้นจงตัดหนังปลายหัวใจของท่านเสีย อย่าคอแข็​งอ​ีกต่อไป เพราะว่าพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านเป็นพระเจ้าของพระทั้งหลาย และเป็นจอมของเจ้าทั้งปวง เป็นพระเจ้าที่​ยิ่งใหญ่ ทรงฤทธิ์และน่ากลัว ทรงปราศจากอคติ และมิ​ได้​ทรงเห็นแก่อามิษสินบน พระองค์​ประทานความยุ​ติ​ธรรมแก่ลูกกำพร้าพ่อและแม่​ม่าย และทรงรักคนต่างด้าวประทานอาหารและเครื่องนุ่งห่มแก่​เขา เพราะฉะนั้นท่านจงมีความรักต่อคนต่างด้าว เพราะท่านทั้งหลายก็เป็นคนต่างด้าวในแผ่นดิ​นอ​ียิปต์ ท่านทั้งหลายจงยำเกรงพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน จงปรนนิบั​ติ​พระองค์​และติดพันอยู่กับพระองค์ จงปฏิญาณด้วยออกพระนามของพระองค์ พระองค์​ทรงเป็​นที​่สรรเสริญของท่านทั้งหลาย พระองค์​ทรงเป็นพระเจ้าของท่าน ผู้​ทรงกระทำการใหญ่และน่ากลัวซึ่งนัยน์ตาของท่านได้​เห​็นนี้ บรรพบุรุษของท่านลงไปในอียิปต์​เจ​็ดสิบคน และบัดนี้พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทรงกระทำให้ท่านทั้งหลายมีมากดังดวงดาวในท้องฟ้า”

เฉลยธรรมบัญญัติ 10:1-22 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

<<ครั้งนั้นพระเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า <จงสกัดศิลาสองแผ่นให้เหมือนอย่างเดิม และขึ้นมาหาเราที่บนภูเขาและทำหีบไม้ไว้ด้วย และเราจะจารึกถ้อยคำที่อยู่ในศิลาจารึก แผ่นเดิมที่เจ้าทำแตกเสียนั้น จงเก็บศิลานั้นไว้ในหีบไม้> ข้าพเจ้าจึงทำหีบด้วยไม้กระถินเทศ และสกัดศิลาสองแผ่นเหมือนอย่างเดิม ขึ้นไปบนภูเขา มีศิลาสองแผ่นอยู่ในมือของข้าพเจ้า แล้วพระองค์จึงทรงจารึกพระบัญญัติ สิบประการลงบนศิลาอย่างครั้งก่อน ซึ่งเป็นพระวจนะที่พระเจ้าตรัสกับ ท่านบนภูเขาจากท่ามกลางเพลิง ในวันที่ประชุมนั้น และพระเจ้าทรงประทานศิลานั้นแก่ข้าพเจ้า แล้วข้าพเจ้าก็กลับลงมาจากภูเขา และเก็บศิลานั้นไว้ในหีบซึ่งข้าพเจ้า ได้ทำขึ้นและศิลาก็ยังอยู่ในหีบนั้น ดังที่พระเจ้าทรงบัญชาข้าพเจ้าไว้ (คนอิสราเอลเดินทางจากเบเอโรทเบเนยาอะคัน มาถึงโมเสราห์อาโรนก็สิ้นชีวิต และฝังไว้ที่นั่นและเอเลอาซาร์บุตรของเขาจึงปฏิบัติ หน้าที่ปุโรหิตแทนเขา เขาทั้งหลายเดินทางออกจากที่นั่นมาถึง กุดโกดาห์และจากกุดโกดาห์ถึงโยทบาธาห์ เป็นแผ่นดินที่มีลำธารมาก ครั้งนั้นพระเจ้าได้แยกเผ่าเลวี ให้หามหีบพันธสัญญาแห่งพระเจ้า ให้เฝ้าพระเจ้าเพื่อปรนนิบัติพระองค์ และให้อำนวยพรในพระนามของพระองค์ จนถึงทุกวันนี้ เหตุฉะนี้คนเลวีจึงหามีส่วนแบ่งหรือมรดกกับพวก พี่น้องของตนไม่ พระเจ้าทรงเป็นส่วนมรดกของเขา ดังที่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลายตรัสแก่เขานั้น) <<ข้าพเจ้าก็อยู่บนภูเขาอย่างครั้งก่อนสี่สิบวัน สี่สิบคืน ครั้งนั้นพระเจ้าทรงฟังข้าพเจ้าด้วย พระเจ้าไม่พอพระทัยที่จะทำลายท่านทั้งหลาย พระเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า <จงลุกขึ้นเดินทางนำหน้าประชาชนต่อไปเถิด เพื่อเขาทั้งหลายจะได้เข้าไปยึดแผ่นดิน ซึ่งเราปฏิญาณไว้แก่บรรพบุรุษว่าจะให้แก่เขานั้น> <<ดูก่อน คนอิสราเอล พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทรงประสงค์ ให้ท่านกระทำอย่างไร คือให้ยำเกรงพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ให้ดำเนินตามทางทั้งปวงของพระองค์ ให้รักพระองค์ ให้ปรนนิบัติพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านด้วยสุดจิต สุดใจของท่านทั้งหลาย และให้รักษาพระบัญญัติและกฎเกณฑ์ของพระเจ้า ซึ่งข้าพเจ้าบัญชาท่านในวันนี้ เพื่อประโยชน์ของท่านทั้งหลาย ดูเถิด ฟ้าสวรรค์และฟ้าสวรรค์อันสูงสุด และโลกกับบรรดาสิ่งสารพัดที่อยู่ใน โลกเป็นของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน แต่พระเยโฮวาห์ทรงฝังพระทัยในบรรพบุรุษของท่าน และทรงรักเขา และทรงเลือกเผ่าพันธุ์ ของเขาคือท่านทั้งหลายจากชนชาติทั้งหลาย อย่างเป็นอยู่ทุกวันนี้ เพราะฉะนั้นจงตัดใจ อย่าดื้อดึงอีกต่อไป เพราะว่าพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านเป็นพระเจ้า ของพระทั้งหลาย และเป็นจอมของเจ้าทั้งปวง เป็นพระเจ้าที่ยิ่งใหญ่ ทรงฤทธิ์และน่ากลัว ทรงปราศจากอคติ และมิได้ทรงเห็นแก่อามิษสินบน พระองค์ประทานความยุติธรรมแก่ลูกกำพร้าและแม่ม่าย และทรงรักคนต่างด้าว ประทานอาหารและเครื่องนุ่งห่มแก่เขา เพราะฉะนั้นท่านจงมีความรักต่อคนต่างด้าว เพราะท่านทั้งหลายก็เป็นคนต่างด้าวในแผ่นดินอียิปต์ ท่านทั้งหลายจงยำเกรงพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน จงปรนนิบัติพระองค์และติดพันอยู่กับพระองค์ จงปฏิญาณด้วยออกพระนามของพระองค์ พระองค์ทรงเป็นที่สรรเสริญของท่านทั้งหลาย พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของท่าน ผู้ทรงกระทำการใหญ่และน่ากลัวซึ่งนัยน์ตาของท่านได้เห็นนี้ บรรพบุรุษของท่านลงไปในอียิปต์เจ็ดสิบคน และบัดนี้พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทรงกระทำให้ ท่านทั้งหลายมีมากดังดวงดาวในท้องฟ้า

เฉลยธรรมบัญญัติ 10:1-22 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

ครั้งนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสสั่งข้าพเจ้าว่า “จงสกัดศิลาสองแผ่นเหมือนชุดแรกและทำหีบไม้สำหรับเก็บรักษา แล้วกลับขึ้นมาหาเราบนภูเขา เราจะจารึกข้อความเหมือนกับศิลาชุดแรกซึ่งเจ้าทำแตกไปแล้วนั้น และให้เจ้าเก็บรักษาแผ่นศิลาชุดใหม่นี้ไว้ในหีบ” ข้าพเจ้าจึงใช้ไม้กระถินเทศทำหีบและสกัดศิลาสองแผ่นเหมือนชุดแรก และข้าพเจ้าถือศิลาสองแผ่นขึ้นไปเข้าเฝ้าพระเจ้าบนภูเขา องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงจารึกข้อความเดียวกันกับครั้งก่อน คือบัญญัติสิบประการซึ่งทรงประกาศแก่ท่านจากเปลวไฟบนภูเขาในวันชุมนุมนั้น และองค์พระผู้เป็นเจ้าประทานศิลานั้นแก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าก็ลงมาจากภูเขา แล้วเก็บแผ่นศิลาไว้ในหีบที่ข้าพเจ้าทำขึ้น ตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาข้าพเจ้าไว้ ซึ่งศิลานั้นยังคงอยู่ในหีบนั้นตราบจนบัดนี้ (ชนอิสราเอลเดินทางจากบ่อน้ำของชาวยาอาคานมายังโมเสราห์ ที่ซึ่งอาโรนสิ้นชีวิตลงและถูกฝังไว้ เอเลอาซาร์บุตรของเขาดำรงตำแหน่งปุโรหิตสืบต่อมา จากที่นั่นพวกเขาเดินทางต่อมาถึงกุดโกดาห์และต่อมาถึงโยทบาธาห์ซึ่งเป็นดินแดนแห่งธารน้ำ ครั้งนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงคัดเลือกเผ่าเลวีให้หามหีบพันธสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้าให้เข้าเฝ้ารับใช้ต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าและกล่าวอวยพรในพระนามของพระองค์ดังที่พวกเขายังทำอยู่ตราบจนทุกวันนี้ ฉะนั้นเผ่าเลวีจึงไม่ได้รับส่วนแบ่งที่ดินเป็นกรรมสิทธิ์ในหมู่พี่น้อง องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นกรรมสิทธิ์ของเขาตามที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านรับสั่งกับเขา) ส่วนข้าพเจ้าได้อยู่บนภูเขาสี่สิบวันสี่สิบคืนเหมือนคราวแรก ครั้งนี้องค์พระผู้เป็นเจ้าก็ทรงรับฟังข้าพเจ้าอีกเช่นกัน พระองค์ไม่ได้ทรงประสงค์จะทำลายท่าน องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า “ลุกขึ้นเถิด นำประชากรไปตามทางของเขา เพื่อเขาจะได้เข้าครอบครองดินแดนที่เราปฏิญาณไว้กับบรรพบุรุษของเขาว่าจะยกให้เขา” บัดนี้อิสราเอลเอ๋ย พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านไม่ได้ทรงประสงค์สิ่งอื่นใด นอกเสียจากให้ท่านยำเกรงพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ให้ดำเนินในวิถีทั้งปวงของพระองค์ รักพระองค์ ปรนนิบัติพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านด้วยสุดจิตสุดใจ และยึดถือปฏิบัติตามพระบัญชาและกฎหมายขององค์พระผู้เป็นเจ้าซึ่งข้าพเจ้าแจ้งท่านในวันนี้ เพื่อประโยชน์สุขของท่านเอง พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงเป็นเจ้าของฟ้าสวรรค์ ทั้งฟ้าสวรรค์อันสูงสุดและโลกกับสรรพสิ่งในนั้นด้วย แต่ถึงอย่างนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้ายังทรงรักและโปรดปรานบรรพบุรุษของท่าน จึงได้เลือกสรรท่านทั้งหลายผู้เป็นวงศ์วานให้อยู่เหนือชนชาติอื่นทั้งปวงดังเช่นทุกวันนี้ ฉะนั้นจงเข้าสุหนัตใจของท่าน อย่าดื้อรั้นหัวแข็งอีกต่อไป เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าเหนือพระทั้งปวง ทรงเป็นจอมเจ้านายเหนือเจ้านายทั้งหลาย ทรงเป็นพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ ทรงฤทธิ์และน่าเกรงขาม ผู้ทรงปราศจากอคติและไม่ทรงเห็นแก่อามิสสินจ้าง พระองค์ทรงดูแลปกป้องลูกกำพร้าพ่อและหญิงม่าย ทรงรักคนต่างด้าว ประทานอาหารและเครื่องนุ่งห่มแก่พวกเขา ดังนั้นพวกท่านจงรักคนต่างด้าว เพราะพวกท่านเองเคยเป็นคนต่างด้าวในอียิปต์ จงยำเกรงพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านและปรนนิบัติพระองค์ จงยึดมั่นในพระองค์และปฏิญาณโดยอ้างพระนามของพระองค์ จงสรรเสริญพระองค์ผู้ทรงเป็นพระเจ้าของท่าน ผู้ทรงสำแดงปาฏิหาริย์อันยิ่งใหญ่และน่าครั่นคร้ามเพื่อท่าน ซึ่งท่านเองได้เห็นกับตาแล้ว เมื่อบรรพบุรุษของท่านลงไปอียิปต์นั้นมีเพียงเจ็ดสิบคน แต่เดี๋ยวนี้พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงให้ท่านมีจำนวนมากมายดุจดวงดาวในท้องฟ้า

เฉลยธรรมบัญญัติ 10:1-22 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

ใน​เวลา​นั้น​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​กล่าว​กับ​เรา​ว่า ‘จง​สกัด​ศิลา 2 แผ่น​เหมือน​ครั้ง​แรก แล้ว​ขึ้น​มา​หา​เรา​บน​ภูเขา จง​สร้าง​หีบ​ไม้​ไว้​ด้วย เรา​จะ​เขียน​คำ​เหมือน​กับ​ที่​จารึก​ใน 2 แผ่น​แรก​ที่​เจ้า​ทำ​แตก​ไป แล้ว​เจ้า​จง​เก็บ​มัน​ไว้​ใน​หีบ’ ดังนั้น เรา​จึง​สร้าง​หีบ​ด้วย​ไม้​สี​เสียด สลัก​แผ่น​ศิลา 2 แผ่น​เหมือน​กับ​ครั้ง​แรก เรา​ขึ้น​ไป​บน​ภูเขา มือ​ถือ​ศิลา 2 แผ่น แล้ว​พระ​องค์​เขียน​พระ​บัญญัติ​ลง​บน​แผ่น​ศิลา​เหมือน​กับ​ครั้ง​แรก​ซึ่ง​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ได้​กล่าว​กับ​พวก​ท่าน​ที่​ภูเขา​จาก​ใจกลาง​เพลิง​ใน​วัน​ที่​มี​การ​ประชุม แล้ว​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ก็​มอบ​แผ่น​ศิลา​ให้​กับ​เรา แล้ว​เรา​กลับ​ลง​มา​จาก​ภูเขา และ​เก็บ​แผ่น​ศิลา​ไว้​ใน​หีบ​ที่​เรา​สร้าง​ขึ้น แผ่น​ศิลา​ก็​ยัง​อยู่​ที่​นั่น​ตาม​ที่​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​บัญชา​เรา​ไว้ (ชาว​อิสราเอล​เดินทาง​จาก​เบเอโรท-เบเนยาอะคาน ถึง​โมเสราห์ ที่​นั่น​แหละ​ที่​อาโรน​เสีย​ชีวิต​และ​ถูก​ฝัง​ไว้​ที่​นั่น และ​เอเลอาซาร์​บุตร​ชาย​เป็น​ปุโรหิต​แทน​ท่าน จาก​ที่​นั่น​พวก​เขา​เดินทาง​ไป​ยัง​กุดโกดาห์ และ​จาก​กุดโกดาห์​ก็​ไป​โยทบาธาห์​ซึ่ง​เป็น​แผ่นดิน​ที่​มี​ธารน้ำ​หลาย​สาย ใน​เวลา​นั้น​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​แยก​เผ่า​พันธุ์​เลวี​ออก​ไป​เป็น​ผู้​หาม​หีบ​พันธ​สัญญา​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า เพื่อ​ประจำการ ณ เบื้อง​หน้า​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​และ​รับใช้​พระ​องค์ และ​ขอ​พร​ใน​พระ​นาม​ของ​พระ​องค์​มา​จน​ถึง​ทุก​วัน​นี้ ฉะนั้น​เผ่า​เลวี​จึง​ไม่​ได้​รับ​ส่วนแบ่ง​หรือ​มรดก​ร่วม​กับ​พี่​น้อง​เผ่า​อื่นๆ พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​เป็น​มรดก​ของ​พวก​เขา ตาม​ที่​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​ท่าน​กล่าว​แก่​ชาว​เลวี) เรา​อยู่​บน​ภูเขา 40 วัน 40 คืน​เหมือน​กับ​ครั้ง​แรก และ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ฟัง​เรา​ครั้ง​นั้น​เช่น​กัน พระ​ผู้​เป็น​เจ้ายินยอม​ที่​จะ​ไม่​ทำลาย​พวก​ท่าน และ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​กล่าว​กับ​เรา​ว่า ‘จง​ลุก​ขึ้น และ​เดินทาง​นำ​หน้า​ประชาชน​ไป เพื่อ​เข้า​ไป​ยึดครอง​แผ่นดิน​ที่​เรา​ปฏิญาณ​ต่อ​บรรดา​บรรพบุรุษ​ของ​พวก​เขา​ว่า​จะ​ยก​ให้​เขา’ มา​บัดนี้ โอ อิสราเอล​เอ๋ย พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​ท่าน​ให้​ท่าน​พึง​ปฏิบัติ​ตน​อย่างไร​เล่า มี​แต่​ให้​ท่าน​ยำเกรง​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​ท่าน ให้​ดำเนิน​ตาม​ทุก​วิถี​ทาง​ของ​พระ​องค์ ให้​รัก​พระ​องค์ ให้​รับใช้​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​ท่าน​อย่าง​สุด​ดวงใจ​และ​สุด​ดวงจิต อีก​ทั้ง​รักษา​พระ​บัญญัติ​และ​กฎเกณฑ์​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า ตาม​ที่​เรา​บัญชา​ท่าน​ใน​วัน​นี้​เพื่อ​ประโยชน์​ของ​ท่าน ดู​เถิด สวรรค์​เบื้อง​บน​และ​ฟ้า​สวรรค์​ที่​อยู่​เกิน​เอื้อม โลก​และ​ทุก​สิ่ง​ที่​มี​อยู่​ใน​นั้น​เป็น​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​ท่าน กระนั้น​ก็​ตาม พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​มี​ความ​ผูกพัน​ต่อ​บรรพบุรุษ​ของ​ท่าน มี​ความ​รัก​ต่อ​พวก​ท่าน พระ​องค์​จึง​ได้​เลือก​ผู้​สืบ​เชื้อสาย​ที่​มา​ภาย​หลัง​พวก​เขา ให้​พวก​ท่าน​อยู่​เหนือ​ชน​ชาติ​ทั้ง​ปวง อย่าง​ที่​เป็น​อยู่​ทุก​วัน​นี้ ฉะนั้น​จง​ปฏิบัติ​ตาม​พระ​บัญญัติ​ใน​ใจ​ด้วย และ​อย่า​ดื้อ​รั้น​อีก​ต่อ​ไป เพราะ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​ท่าน เป็น​พระ​เจ้า​เหนือ​บรรดา​เทพเจ้า และ​เป็น​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​เหนือ​บรรดา​เจ้า เป็น​ผู้​ยิ่งใหญ่​และ​กอปร​ด้วย​อานุภาพ และ​เป็น​พระ​เจ้า​ที่​น่า​เกรงขาม พระ​องค์​ไม่​ลำเอียง​และ​ไม่​รับ​สินบน พระ​องค์​ปกป้อง​สิทธิ​ของ​เด็ก​กำพร้า​และ​หญิง​ม่าย พระ​องค์​รัก​คน​ต่าง​ด้าว ให้​อาหาร​และ​เครื่อง​นุ่ง​ห่ม​แก่​เขา ฉะนั้น​พวก​ท่าน​จง​รัก​คน​ต่าง​ด้าว เพราะ​ท่าน​เคย​เป็น​คน​ต่าง​ด้าว​ใน​แผ่นดิน​อียิปต์ ท่าน​จง​เกรงกลัว​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​ท่าน จง​รับใช้​พระ​องค์​และ​ผูกพัน​อยู่​กับ​พระ​องค์ และ​จง​สาบาน​ด้วย​พระ​นาม​ของ​พระ​องค์ พระ​องค์​คือ​ผู้​ที่​ท่าน​ควร​สรรเสริญ พระ​องค์​เป็น​พระ​เจ้า​ของ​ท่าน พระ​องค์​ได้​กระทำ​สิ่ง​ต่างๆ อัน​ยิ่งใหญ่​และ​น่า​เกรงขาม​ซึ่ง​ท่าน​เห็น​ด้วย​ตา​ของ​ท่าน​เอง​แล้ว เมื่อ​บรรพบุรุษ​ของ​ท่าน​ลง​ไป​อาศัย​อยู่​ที่​อียิปต์​นั้น มี​จำนวน​เพียง 70 คน และ​บัดนี้​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​ท่าน​ให้​ท่าน​มี​จำนวน​มาก​ดุจ​ดวง​ดาว​บน​ท้องฟ้า