ดาเนียล 9:1-27

ดาเนียล 9:1-27 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

ใน​ช่วง​ปีแรก​ของ​ดาริอัส (ดาริอัส​คนนี้​เป็น​ลูก​ของ​เซอร์เซสผู้สืบ​เชื้อสาย​มา​จาก​ชาว​มีเดียน ดาริอัส​ได้รับ​การแต่งตั้ง​ให้​เป็น​กษัตริย์​ของ​พวก​คาสดิม) ใน​ช่วง​ปีแรก​ที่​ดาริอัส​ปกครองนั้น ผม ดาเนียล​ได้​สังเกต​ใน​เอกสาร​ต่างๆ​เกี่ยวกับ​เรื่อง​ที่​พระยาห์เวห์​บอก​กับ​เยเรมียาห์ ผู้พูด​แทน​พระองค์ ที่ว่า “เมือง​เยรูซาเล็ม​จะ​ต้อง​เป็น​ซาก​ปรัก​หักพัง​อยู่​อย่างนั้น​ไป​จนกว่า​จะ​ครบ​เจ็ดสิบ​ปี ถึง​จะ​มี​การสร้าง​ขึ้นมา​ใหม่” ดังนั้น​ผม​จึง​ตัดสินใจ​แสวงหา​พระเจ้า​องค์​เจ้า​ชีวิต​ของผม ด้วย​การอธิษฐาน ขอ​ความเมตตา​จาก​พระองค์ ใน​ขณะที่​ผม​อดอาหาร สวมใส่​ผ้า​กระสอบ​ไว้ทุกข์ และ​โรย​ขี้เถ้า​บนหัว ผม​อธิษฐาน​กับ​พระยาห์เวห์ พระเจ้า​ของ​ผม และ​สารภาพ​บาป ผม​พูด​ว่า “ได้โปรด​เถิด องค์​เจ้า​ชีวิต​ของ​ข้าพเจ้า พระเจ้า​ผู้ยิ่งใหญ่​และ​น่าเกรง​ขาม ผู้ที่​รักษา​ข้อตกลง​ของ​พระองค์ และ​แสดง​ความรัก​ที่​ซื่อสัตย์​ของ​พระองค์ กับ​คน​ที่รัก​พระองค์ ซึ่ง​ก็​คือ​คน​ที่​ทำ​ตาม​คำสั่ง​ของ​พระองค์ พวกเรา​ทำบาป ทำผิด และ​ทำ​สิ่ง​ที่​ชั่วร้าย เรา​ได้​กบฏ​และ​เบือนหน้า​หนี​จาก​คำสั่ง​และ​กฎเกณฑ์​ของ​พระองค์ เรา​ไม่ยอม​ฟัง​พวกผู้รับใช้​ของ​พระองค์ พวก​ผู้พูดแทนพระเจ้า ที่​มา​พูด​ตาม​คำสั่ง​ของ​พระองค์ ที่​พระองค์​สั่ง​ให้​มา​พูด​กับ​กษัตริย์​ของเรา พวก​ผู้นำ พวก​พ่อ​ของเรา และ​ทุกคน​ใน​ประเทศ องค์​เจ้า​ชีวิต​เจ้าข้า พระองค์​ทำ​ถูกต้อง​แล้ว แต่​เรา​นำ​ความอับอาย​ขายหน้า​มาสู่​พวกเราเอง​จนถึง​ทุกวันนี้ คือ​มา​สู่​คน​ยูดาห์ พลเมือง​ของ​เยรูซาเล็ม และ​ชาว​อิสราเอล​ทุกคน ทั้ง​ใกล้​และ​ไกล มา​สู่​คน​ใน​ทุก​ประเทศ​ที่​พระองค์​ทำ​ให้​พวกเขา​กระจัด​กระจาย​ไปนั้น หลังจาก​ที่​พวกเขา​ทรยศ​ต่อ​พระองค์ ใช่แล้ว​พระยาห์เวห์ เรา​ได้​นำ​ความอับอาย​มา​สู่​พวกเราเอง ทั้ง​พวกเรา พวก​กษัตริย์ พวก​ผู้นำ และ​พวกพ่อ​ของเรา เพราะ​พวกเรา​ทุกคน​ได้​ทำบาป​ต่อ​พระองค์ แต่​องค์​เจ้า​ชีวิต​พระเจ้า​ของเรา​มี​ความเมตตา​และ​ให้อภัย​พวกเรา​ที่​ได้​กบฏ​ต่อ​พระองค์ เรา​ไม่​เชื่อฟัง​พระยาห์เวห์​พระเจ้า​ของเรา นั่นคือ​เรา​ไม่ได้​ใช้​ชีวิต​ตาม​คำสอน​ของ​พระองค์ ที่​พระองค์​ให้​กับเรา ผ่านมา​ทาง​พวก​ผู้รับใช้​ของ​พระองค์ คือ​พวก​ผู้พูดแทนพระเจ้า​นั่นเอง คน​อิสราเอล​ทุกคน​ละเมิด​คำ​สั่งสอน​ของ​พระองค์ และ​ทำผิด​ที่​ไม่ฟัง​พระองค์ ดังนั้น​คำสาปแช่ง​และ​คำปฏิญาณ ที่​เขียน​ไว้​ใน​กฎ​ของ​โมเสส ผู้รับใช้​ของ​พระเจ้า ได้​ตก​อยู่​บนเรา เพราะ​เรา​ได้​ทำบาป​ต่อ​พระองค์ พระองค์​ก็​เลย​ทำ​ตาม​ที่​พระองค์​ขู่ไว้​ว่า จะ​ให้​เกิดขึ้น​กับ​พวกเรา และ​กับ​พวก​ผู้นำ​ของ​เรา พระองค์​นำ​ความ​หายนะ​ครั้งใหญ่​มา​ใส่เรา ความหายนะ​ที่​เกิดขึ้น​กับ​เยรูซาเล็ม​นั้น​ร้ายแรง​มาก ไม่​เหมือน​กับ​ความหายนะ​อันไหนเลย​ที่​เคย​เกิดขึ้น​มาก่อน​ทั่ว​ใต้ฟ้านี้ ความ​ทุกข์ยาก​ที่​ได้​เขียนไว้​ใน​กฎ​ของ​โมเสส ก็​ได้​เกิดขึ้น​กับเรา เหมือน​กับ​ที่​ได้​เขียนไว้​ใน​กฎ​ทุกอย่าง แต่​พวกเรา​ก็​ไม่ได้​พยายาม​ที่​จะ​ทำ​ให้​พระยาห์เวห์​พระเจ้า​ของเรา​พอใจ ด้วย​การหัน​จาก​การทำชั่ว​ของเรา และ​เรียนรู้​จาก​ความซื่อสัตย์​ของ​พระองค์ พระยาห์เวห์​ได้​เตรียม​ความหายนะ​นี้​สำหรับ​เวลา​ที่​เหมาะสม แล้ว​พระองค์​ก็​ให้​มัน​ตกลงมา​บนเรา ทุกอย่าง​ที่​พระยาห์เวห์​พระเจ้า​ได้​ทำ​ไปนั้น​ยุติธรรมแล้ว แต่​เรา​ไม่ยอม​เชื่อฟัง​พระองค์ และ​บัดนี้ ข้าแต่​องค์​เจ้า​ชีวิต พระเจ้า​ของเรา พระองค์​เป็น​ผู้ที่​นำ​คน​ของ​พระองค์​ออก​จาก​อียิปต์ ด้วย​มือ​อัน​ทรงพลัง​ของ​พระองค์ ด้วย​พลัง​อำนาจ​ที่​พระองค์​ได้​แสดง​ให้​เห็น​นั้น ทำให้​พระองค์​มี​ชื่อเสียง​ดัง​กระฉ่อน​ไปทั่ว​จนถึง​ทุกวันนี้ เรา​ได้​ทำบาป​และ​ทำ​สิ่ง​ที่​ชั่วร้าย องค์​เจ้า​ชีวิต​ของ​ข้าพระองค์ เพื่อ​เห็นแก่​ความเมตตา​ปรานี ขอ​ได้โปรด​เลิก​โกรธ​เยรูซาเล็ม​เมือง​ของ​พระองค์ ภูเขา​อัน​ศักดิ์สิทธิ์​ของ​พระองค์​ด้วยเถิด เพราะ​ความเลวทราม​ของ​บรรพบุรุษ​ของเรา​และ​ความบาป​ของ​พวกเรา​นี่เอง​ที่​ทำให้​ชนชาติ​อื่นๆ​ทั้งหมด​ที่​อยู่​รอบข้าง​เกลียดชัง​เยรูซาเล็ม​และ​คน​ของ​พระองค์ บัดนี้ พระเจ้า​ของ​พวกเรา​ได้โปรด​ฟัง​คำ​อธิษฐาน​ของ​ผู้รับใช้​ของ​พระองค์ และ​คำ​อ้อนวอน​ขอ​ความเมตตา​ของเขา​ด้วยเถิด ขอให้​ใบหน้า​ของ​พระองค์​ส่องสว่าง​ลงมา​บน​วิหาร​ที่​ปรัก​หักพัง​นี้ด้วย เพื่อ​เห็นแก่​พระองค์​เอง พระเจ้า​ของ​ข้าพระองค์ โปรด​เงี่ยหูฟัง โปรด​เปิดตา​ดู ซากปรัก​หักพัง​ของ​เมือง​ที่​ผู้คน​รู้​ว่า​เป็น​ของ​พระองค์ ที่​เรา​ขอ​ความเมตตา​ต่อ​พระองค์​นี้ ไม่ใช่​เพราะ​เราดี​และ​สมควร​จะ​ได้รับ แต่​เพราะ​พระองค์​มี​ความเมตตา​สงสาร​ต่างหาก องค์​เจ้า​ชีวิต​ของผม ได้โปรด​ฟังด้วย องค์​เจ้า​ชีวิต​ของ​ข้าพเจ้า ได้โปรด​ยกโทษ​ให้ด้วย องค์​เจ้า​ชีวิต​ของ​ข้าพเจ้า ได้โปรด​สนใจด้วย พระเจ้า​ของ​ข้าพเจ้า โปรด​ทำตาม​ที่​ขอ​ด้วย เพื่อ​เห็นแก่​พระองค์​เอง และ​โปรด​อย่า​รอช้าเลย ได้โปรด​ทำ​สิ่งนี้ เพราะ​ผู้คน​รู้ว่า​ทั้ง​คนพวกนี้​และ​เมืองนี้​เป็น​ของพระองค์” ใน​ขณะที่​ผม​กำลัง​พูด อธิษฐาน และ​สารภาพ​ความผิดบาป​ของ​ผมเอง​และ​ของ​ชาว​อิสราเอล​คน​ของผมนั้น ขณะที่​กำลัง​วิงวอน​ขอ​ความเมตตา​ต่อหน้า​พระยาห์เวห์ พระเจ้า​ของผม ให้​กับ​ภูเขา​อัน​ศักดิ์สิทธิ์​ของ​พระองค์นั้น ใน​ขณะที่​ผม​กำลัง​ร้อง​อธิษฐาน​นั้นเอง กาเบรียล ผู้ชาย​คน​ที่​ผม​เห็น​ใน​นิมิต​ของ​ผม​ก่อน​หน้านี้ ก็​ลอย​มาหา​ผม ใน​ช่วง​การถวาย​เครื่อง​บูชา​ตอนเย็น เขา​มา​พูด​กับ​ผม เพื่อ​ช่วย​ให้​ผม​เข้าใจ เขา​พูด​ว่า “ดาเนียล เรา​ได้​มา​ที่​นี่​เดี๋ยวนี้ เพื่อ​ช่วย​ให้​เจ้า​เข้าใจ ใน​ตอน​ที่​เจ้า​เริ่ม​อธิษฐาน​ขอ​ความเมตตานั้น พระเจ้า​ให้​คำตอบ และ​เรา​ก็​ได้​มา​บอก​มัน เพราะ​พระเจ้า​รัก​เจ้า​มาก ดังนั้น​ตั้งใจ​ฟัง​คำตอบ​ให้ดี และ​ให้​เข้าใจ​นิมิตนั้น พระเจ้า​ให้​เวลา​กับ​คน​ของเจ้า​และ​เมือง​ศักดิ์สิทธิ์​ของเจ้า​เจ็ดสิบ​อาทิตย์ เจ็ดสิบ​อาทิตย์นี้​มี​ไว้​เพื่อ​ให้​พวกเจ้า​หยุด​การกบฏ ทำให้​บาปนั้น​สิ้นสุดลง ชำระ​ความผิดบาป​ของ​พวกเจ้า และ​นำ​ความยุติธรรม​อัน​ถาวร​กลับมา ทำให้​คน​เห็น​ว่า​นิมิต​ที่​ผู้พูดแทนพระเจ้า​มา​บอก​นั้น​เป็น​จริง และ​เพื่อ​จะ​เจิม​สถานที่​ที่​ศักดิ์สิทธิ์​ที่สุด ดาเนียล ให้​รู้​และ​เข้าใจ​ไว้​ด้วย​ว่า นับ​ตั้งแต่​เวลา​ที่​ได้​ออก​คำสั่ง ให้​ฟื้นฟู​และ​สร้าง​เยรูซาเล็ม​ขึ้น​มา​ใหม่ ไป​จนถึง​เวลา​ที่​ผู้นำ​ที่​ถูก​เจิมไว้​มานั้น มี​เจ็ด​อาทิตย์ แล้ว​เวลา​ที่​ใช้​สร้าง​เยรูซาเล็ม​ขึ้น​มา​ใหม่ รวมทั้ง​ใน​ลาน​กลางเมือง พร้อม​กับ​คู​ป้องกัน​เมือง จะ​ใช้​เวลา​หกสิบสอง​อาทิตย์ ใน​ช่วงนี้​จะ​เต็ม​ไปด้วย​ปัญหา​มากมาย และ​ผู้นำ​ที่​ถูก​เจิมไว้​ก็​จะ​ถูก​กำจัดไป​และ​ผู้นำ​คนนั้น​จะ​ไม่มี​อำนาจ​เหนือ​เมือง​และ​วิหาร​อีกต่อไป คน​ที่​ติดตาม​ผู้นำ​คนใหม่​ใน​อนาคต​ก็​จะ​ทำตัว​เลวร้าย จุดจบ​ของ​ผู้นำ​คนใหม่​นั้น​จะ​มา​เหมือน​กับ​น้ำท่วม​ทะลัก พระเจ้า​ได้​ออก​คำสั่ง​ให้​เกิด​การทำลาย​มากมาย​จนกว่า​สงคราม​จะ​สิ้นสุดลง ผู้นำ​คนใหม่​นั้น​จะ​ทำ​สนธิสัญญา​ที่​เข็มแข็ง​กับ​คน​จำนวน​มาก และ​ใน​กลาง​อาทิตย์นั้น การถวาย​เครื่อง​บูชา​และ​เซ่นไหว้​จะ​ถูก​หยุดไป และ​จะ​มี​สิ่ง​ที่​น่าขยะแขยง​มา​แทนที่ จนถึง​จุดจบ​ที่​พระเจ้า​สั่ง​ให้​มา​ท่วมท้น​ผู้ทำลาย​คนนั้น”

ดาเนียล 9:1-27 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

ในปีที่หนึ่งแห่งรัชกาลดาริอัส โอรสกษัตริย์อาหสุเอรัส คนมีเดียโดยกำเนิด ผู้ได้เป็นกษัตริย์เหนืออาณาจักรของคนเคลเดีย ในปีที่หนึ่งแห่งรัชกาลของท่าน ข้าพเจ้าดาเนียล ได้ดูในหนังสือพบจำนวนปี ซึ่งตามพระวจนะของพระยาห์เวห์ที่ทรงมีถึงเยเรมีย์ผู้เผยพระวจนะ จะต้องผ่านพ้นไปก่อนสิ้นวันกรุงเยรูซาเล็มร้างเปล่าคือจำนวน 70 ปี แล้วข้าพเจ้าก็หันหน้าไปหาพระเจ้าองค์เจ้านาย แสวงหาด้วยการอธิษฐานและการวิงวอน ทั้งด้วยการอดอาหาร และนุ่งห่มผ้ากระสอบและนั่งบนขี้เถ้า ข้าพเจ้าได้อธิษฐานต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพเจ้า และสารภาพว่า “ข้าแต่องค์เจ้านาย พระเจ้าผู้ใหญ่ยิ่งและน่าเกรงขาม ผู้ทรงรักษาพันธสัญญาและความรักมั่นคงต่อผู้ที่รักพระองค์และปฏิบัติตามพระบัญญัติของพระองค์ ข้าพระองค์ทั้งหลายได้ทำบาป และได้ทำผิด ได้ก่อการอธรรมและการกบฏ ได้หันจากพระบัญญัติและกฎหมายของพระองค์ ข้าพระองค์ไม่ได้ฟังบรรดาผู้เผยพระวจนะผู้รับใช้ของพระองค์ ผู้กล่าวในพระนามของพระองค์ต่อบรรดากษัตริย์ของข้าพระองค์ทั้งหลาย ทั้งต่อบรรดาผู้นำและบรรพบุรุษของข้าพระองค์ รวมทั้งประชาชนทุกคนของแผ่นดิน ข้าแต่องค์เจ้านาย ความชอบธรรมเป็นของพระองค์ แต่ความอับอายควรแก่พวกข้าพระองค์จนถึงทุกวันนี้ คือควรแก่คนยูดาห์ ชาวกรุงเยรูซาเล็ม และคนอิสราเอลทั้งหมด ทั้งผู้อยู่ใกล้และอยู่ไกลออกไป ในแผ่นดินทั้งหลายซึ่งพระองค์ทรงขับไล่พวกเขาไปนั้น เพราะพวกเขาได้ทรยศต่อพระองค์ ข้าแต่พระยาห์เวห์ ความอับอายควรแก่ข้าพระองค์ทั้งหลาย แก่พระราชา เจ้านาย และบรรพบุรุษของพวกข้าพระองค์ เพราะข้าพระองค์ทั้งหลายได้ทำบาปต่อพระองค์ พระกรุณาและการอภัยโทษเป็นขององค์เจ้านายพระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย เพราะว่าพวกข้าพระองค์ได้กบฏต่อพระองค์ และไม่เชื่อฟังพระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลายที่ให้ทำตามธรรมบัญญัติของพระองค์ ซึ่งทรงตั้งไว้ต่อหน้าข้าพระองค์ทั้งหลาย ผ่านบรรดาผู้เผยพระวจนะผู้รับใช้ของพระองค์ อิสราเอลทั้งชาติได้ทำผิดต่อธรรมบัญญัติของพระองค์และได้หันไปเสีย ไม่เชื่อฟังพระองค์ ดังนั้นคำสาปแช่งและคำปฏิญาณซึ่งจารึกไว้ในธรรมบัญญัติของโมเสสผู้รับใช้ของพระเจ้า จึงเทลงเหนือข้าพระองค์ทั้งหลาย เพราะพวกข้าพระองค์ได้ทำบาปต่อพระองค์ พระองค์ได้ทรงยืนยันถ้อยคำของพระองค์ ซึ่งพระองค์ตรัสกล่าวโทษข้าพระองค์ทั้งหลาย และกล่าวโทษผู้ซึ่งปกครองพวกข้าพระองค์ โดยนำวิบัติอย่างใหญ่หลวงมาเหนือข้าพระองค์ทั้งหลาย ซึ่งภายใต้สวรรค์ทั้งสิ้น ไม่มีสิ่งใดที่ได้ทำเหมือนที่ได้ทำแก่เยรูซาเล็ม ดังที่ได้จารึกไว้ในธรรมบัญญัติของโมเสสแล้ว วิบัติทั้งสิ้นก็ได้ตกอยู่เหนือข้าพระองค์ทั้งหลายแล้ว แต่พวกข้าพระองค์ยังไม่ได้ทูลวิงวอนขอพระกรุณาจากพระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย ด้วยการหันจากความผิดของข้าพระองค์ทั้งหลาย หรือใส่ใจในความจริงของพระองค์ เพราะฉะนั้นพระยาห์เวห์ทรงเตรียมความวิบัติไว้พร้อม และได้ทรงนำมาเหนือข้าพระองค์ทั้งหลาย เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลายทรงเป็นผู้ชอบธรรมในพระราชกิจทั้งสิ้นซึ่งพระองค์ได้ทรงทำ และพวกข้าพระองค์ไม่ได้เชื่อฟังพระองค์ ข้าแต่องค์เจ้านายพระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย ผู้ทรงนำชนชาติของพระองค์ออกจากแผ่นดินอียิปต์ด้วยพระหัตถ์อันทรงฤทธิ์ และได้ทำให้พระนามเลื่องลือมาจนทุกวันนี้ ข้าพระองค์ทั้งหลายได้ทำบาปและทำความอธรรม ข้าแต่องค์เจ้านาย ตามการกระทำอันชอบธรรมทั้งสิ้นของพระองค์ ขอให้ความกริ้วและพระพิโรธของพระองค์หันกลับจากเยรูซาเล็มนครของพระองค์ ภูเขาบริสุทธิ์ของพระองค์ เพราะบาปของข้าพระองค์ทั้งหลาย และความผิดของบรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลาย เยรูซาเล็มและประชากรของพระองค์จึงกลายเป็นที่เยาะเย้ยในชนชาติทั้งสิ้นที่อยู่รอบข้าง ฉะนั้น ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย ขอพระองค์ทรงสดับคำอธิษฐานของผู้รับใช้ของพระองค์และคำวิงวอนของเขา ข้าแต่องค์เจ้านาย เพื่อเห็นแก่พระองค์ ขอพระพักตร์ของพระองค์ทอแสงเหนือสถานนมัสการของพระองค์ซึ่งร้างเปล่านั้น ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอเงี่ยพระกรรณสดับ ขอลืมพระเนตรดูความร้างเปล่าของข้าพระองค์ทั้งหลาย ทั้งนครซึ่งมีชื่อตามพระนามของพระองค์ เพราะว่าข้าพระองค์ทั้งหลายไม่ได้ถวายคำวิงวอนต่อพระองค์ ด้วยอ้างความชอบธรรมของข้าพระองค์ทั้งหลายเป็นเหตุ แต่ได้อ้างพระกรุณายิ่งใหญ่ของพระองค์ ข้าแต่องค์เจ้านาย ขอทรงฟัง ข้าแต่องค์เจ้านาย ขอทรงให้อภัย ข้าแต่องค์เจ้านาย ขอใส่พระทัยและทรงจัดการ ขออย่าทรงเนิ่นช้าเลยเพื่อเห็นแก่พระนามของพระองค์ ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ เพราะว่านครของพระองค์ และประชากรของพระองค์ก็มีชื่อตามพระนามของพระองค์” ขณะที่ข้าพเจ้ากำลังพูด อธิษฐานสารภาพบาปของข้าพเจ้าและบาปของอิสราเอลประชากรของข้าพเจ้า และเสนอคำวิงวอนต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพเจ้าเพื่อภูเขาบริสุทธิ์ของพระองค์ ขณะเมื่อข้าพเจ้ากล่าวคำอธิษฐาน ชายที่ชื่อกาเบรียล ซึ่งข้าพเจ้าได้เห็นในนิมิตครั้งแรกนั้น ได้บินอย่างเร็วมาใกล้ข้าพเจ้า ในเวลาถวายเครื่องบูชาตอนเย็น ท่านได้กล่าวอธิบายแก่ข้าพเจ้าว่า “โอ ดาเนียล ข้าพเจ้าออกมา ณ บัดนี้ เพื่อจะให้ความกระจ่างและความเข้าใจแก่ท่าน เมื่อท่านเริ่มวิงวอนคำตอบก็ปรากฏทันที ข้าพเจ้าจึงมาบอกให้ท่านทราบ เพราะท่านเป็นผู้ที่ทรงรักมาก เพราะฉะนั้นจงพิจารณาคำตอบและเข้าใจนิมิตนั้น “มี 70 สัปดาห์แห่งปีกำหนดไว้สำหรับชนชาติของท่านและนครบริสุทธิ์ของท่าน เพื่อให้ยุติการละเมิด ให้บาปจบสิ้น และให้ลบมลทิน เพื่อนำความชอบธรรมนิรันดร์เข้ามา เพื่อประทับตราทั้งนิมิตและคำของผู้เผยพระวจนะไว้ และเพื่อจะเจิมอภิสุทธิสถาน เพราะฉะนั้นจงสังเกตและเข้าใจว่า นับตั้งแต่การที่ถ้อยคำนั้นออกไป ให้สร้างกรุงเยรูซาเล็มขึ้นใหม่ จนถึงสมัยประมุขผู้ถูกเจิมไว้ก็เป็นเวลา 7 สัปดาห์ และเยรูซาเล็มจะถูกสร้างขึ้นพร้อมด้วยคูและลานเมืองเป็นเวลา 62 สัปดาห์ แต่จะเกิดขึ้นในช่วงเวลายากลำบาก หลังจาก 62 สัปดาห์แล้ว ท่านผู้ถูกเจิมจะต้องถูกตัดออกและจะไม่มีอะไรเหลือ และคนของประมุขผู้ที่จะมานั้นจะทำลายเมืองและสถานนมัสการ แต่ที่สุดปลายของมันจะมาถึงอย่างน้ำท่วม จนกระทั่งในที่สุดจะมีสงคราม การร้างเปล่าได้ถูกกำหนดไว้แล้ว ท่านจะทำพันธสัญญาอย่างมั่นคงกับคนเป็นอันมากอยู่หนึ่งสัปดาห์ ท่านจะทำให้การถวายสัตวบูชา และเครื่องบูชาอื่นๆ หยุดไปครึ่งสัปดาห์ สิ่งน่าสะอิดสะเอียนที่ทำให้ร้างเปล่าตั้งอยู่บนหัวมุมของแท่นบูชา จนความอวสานที่ได้กำหนดไว้จะถูกเทลงเหนือผู้ทำให้เกิดความวิบัตินั้น”

ดาเนียล 9:1-27 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

ในปีต้​นร​ัชกาลดาริอัส โอรสกษั​ตริ​ย์อาหสุเอรัส เชื้อสายคนมีเดีย ผู้​ได้​เป็นกษั​ตริ​ย์เหนื​อด​ินแดนเคลเดีย ในปีแรกแห่งรัชกาลของท่าน ข้าพเจ้าดาเนียลได้​เข​้าใจถึงจำนวนปีจากหนังสือ ซึ่งพระวจนะของพระเยโฮวาห์​ได้​มี​มาถึงเยเรมีย์​ผู้​พยากรณ์​ว่า พระองค์​จะทรงกระทำให้ครบกำหนดเจ็ดสิบปีในการรกร้างของกรุงเยรูซาเล็ม แล​้วข้าพเจ้าก็หันหน้าไปหาองค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้า แสวงหาด้วยการอธิษฐานและการวิงวอน ทั้​งด​้วยการอดอาหาร และนุ่งห่มผ้ากระสอบและนั่งบนมูลเถ้า ข้าพเจ้าได้อธิษฐานต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของข้าพเจ้าและสารภาพว่า “​โอ ข้าแต่​องค์​พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าผู้​ใหญ่​ยิ่งและที่​น่าสะพรึงกลัว ผู้​ทรงรักษาพันธสัญญาและความเมตตาต่อผู้​ที่​รักพระองค์และรักษาพระบัญญั​ติ​ของพระองค์ ข้าพระองค์ทั้งหลายได้กระทำบาป และได้กระทำความชั่วช้า และได้ประกอบความชั่วและการกบฏ หันเสียจากข้​อบ​ังคับและคำตัดสินของพระองค์ ข้าพระองค์​มิได้​ฟังบรรดาผู้​พยากรณ์ ผู้รับใช้​ของพระองค์ ผู้​กล​่าวในพระนามของพระองค์ต่อกษั​ตริ​ย์ของข้าพระองค์​ทั้งหลาย ทั้งต่อเจ้านาย บรรพบุรุษและประชาชนทั้งสิ้นแห่งแผ่นดิน โอ ข้าแต่​องค์​พระผู้เป็นเจ้า ความชอบธรรมเป็นของพระองค์ แต่​ความขายหน้าควรแก่พวกข้าพระองค์ ดังทุกวันนี้ ที่​ควรแก่คนยูดาห์ ชาวกรุงเยรูซาเล็ม และอิสราเอลทั้งหมด ทั้งผู้​ที่อยู่​ใกล้​และอยู่ไกลออกไป ในแผ่นดินทั้งหลายซึ่งพระองค์ทรงขับไล่เขาไปนั้น เพราะความละเมิดซึ่งเขาได้กระทำต่อพระองค์ โอ ข้าแต่​องค์​พระผู้เป็นเจ้า ความขายหน้าควรแก่พวกข้าพระองค์ แก่​กษัตริย์​ของข้าพระองค์​ทั้งหลาย เจ้านาย และบรรพบุรุษ เพราะข้าพระองค์ทั้งหลายได้กระทำบาปต่อพระองค์ พระกรุณา และการอภัยโทษเป็นขององค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าของข้าพระองค์​ทั้งหลาย ถึงแม้​ข้าพระองค์ทั้งหลายได้กบฏต่อพระองค์ และมิ​ได้​เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของข้าพระองค์ ด้วยการดำเนินตามพระราชบัญญั​ติ​ของพระองค์ ซึ่งพระองค์ทรงตั้งไว้ต่อหน้าข้าพระองค์​ทั้งหลาย โดยบรรดาผู้​พยากรณ์​ผู้รับใช้​ของพระองค์ เออ อิสราเอลทั้งผองได้ละเมิดต่อพระราชบัญญั​ติ​ของพระองค์ และได้หันไปเสียไม่เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระองค์ และการสาปแช่งและการปฏิ​ญาณ ซึ่งจารึกไว้ในพระราชบัญญั​ติ​ของโมเสสผู้​รับใช้​ของพระเจ้า จึงถูกเทลงเหนือข้าพระองค์​ทั้งหลาย เพราะว่าข้าพระองค์ทั้งหลายได้กระทำบาปต่อพระองค์ พระองค์​ได้​ทรงยืนยันถ้อยคำของพระองค์ ซึ่งพระองค์​ได้​ตรัสกล่าวโทษข้าพระองค์​ทั้งหลาย และกล่าวโทษผู้ปกครองซึ่งปกครองข้าพระองค์ โดยนำให้ข้าพระองค์​เก​ิดวิบั​ติ​อย่างใหญ่หลวง เพราะว่าภายใต้​สวรรค์​ทั้งสิ้นไม่​มี​ที่​ใดที่​ได้​กระทำเหมือนที่​ได้​กระทำแก่​เยรูซาเล็ม ดังที่​ได้​จาร​ึกไว้ในพระราชบัญญั​ติ​ของโมเสสแล้ว วิบัติ​ทั้งสิ้​นก​็​ได้​ตกอยู่เหนือข้าพระองค์ทั้งหลายแล้ว แต่​ข้าพระองค์ทั้งหลายยั​งม​ิ​ได้​อธิษฐานต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์พระเจ้าของข้าพระองค์​ทั้งหลาย โดยหันเสียจากความชั่วช้าของข้าพระองค์ และเข้าใจความจริงของพระองค์ เพราะฉะนั้นพระเยโฮวาห์ทรงเก็บความวิบั​ติ​ไว้​พร​้อมและได้ทรงนำมาเหนือข้าพระองค์​ทั้งหลาย เพราะพระเยโฮวาห์พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลายทรงเป็นผู้ชอบธรรมในสรรพกิจ ซึ่งพระองค์​ได้​ทรงกระทำ เพราะข้าพระองค์ทั้งหลายมิ​ได้​เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระองค์ แล​้วบัดนี้ โอ ข้าแต่​องค์​พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าของข้าพระองค์​ทั้งหลาย ผู้​ทรงนำชนชาติของพระองค์ออกจากแผ่นดิ​นอ​ียิปต์ด้วยพระหัตถ์อันทรงฤทธิ์ และได้​ทำให้​พระนามลือมาจนทุกวันนี้ ข้าพระองค์ทั้งหลายได้กระทำบาป และข้าพระองค์ทั้งหลายกระทำความชั่ว โอ ข้าแต่​องค์​พระผู้เป็นเจ้า ตามความชอบธรรมทั้งสิ้นของพระองค์ ขอให้​ความกริ้วและพระพิโรธของพระองค์หันกลับเสียจากเยรูซาเล็มนครของพระองค์ ภู​เขาบริ​สุทธิ​์ของพระองค์ เพราะบาปของข้าพระองค์​ทั้งหลาย และความชั่วช้าของบรรพบุรุษของข้าพระองค์​ทั้งหลาย เยรูซาเล็มและประชาชนของพระองค์จึงกลายเป็​นที​่เยาะเย้ยในหมู่คนทั้งสิ้​นที​่​อยู่​รอบข้าพระองค์ ฉะนั้น โอ ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์​ทั้งหลาย บัดนี้ ขอทรงสดับฟังคำอธิษฐานของผู้​รับใช้​ของพระองค์ และคำวิงวอนของเขา และขอทรงให้​พระพักตร์​ของพระองค์ทอแสงเหนือสถานบริ​สุทธิ​์ของพระองค์ซึ่งรกร้างนั้นเพื่อเห็นแก่​องค์​พระผู้เป็นเจ้า โอ ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอทรงเงี่ยพระกรรณสดับฟัง ขอทรงลืมพระเนตรดูความรกร้างของข้าพระองค์​ทั้งหลาย ทั้งนครซึ่งเรียกขานกันตามพระนามของพระองค์ เพราะว่าข้าพระองค์ทั้งหลายมิ​ได้​ถวายคำวิงวอนต่อพระพักตร์​พระองค์ โดยอาศัยความชอบธรรมของข้าพระองค์​ทั้งหลาย แต่​โดยอาศัยพระเมตตาอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ โอ ข้าแต่​องค์​พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงฟัง โอ ข้าแต่​องค์​พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงให้​อภัย โอ ข้าแต่​องค์​พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงใส่พระทัยและทรงกระทำ ขออย่าเนิ่นช้าเลยพระเจ้าค่ะ เพื่อเห็นแก่พระนามของพระองค์ โอ ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ เพราะว่านครของพระองค์ และประชาชนของพระองค์​ก็​มี​ชื่อตามพระนามของพระองค์” ขณะที่​ข้าพเจ้ากำลังพูด กำลังอธิษฐานและสารภาพบาปของข้าพเจ้าและบาปของอิสราเอลประชาชนของข้าพเจ้า และเสนอคำวิงวอนของข้าพเจ้าต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์พระเจ้าของข้าพเจ้า เพื่อภูเขาบริ​สุทธิ​์​แห่​งพระเจ้าของข้าพเจ้าอยู่​นั้น เออ ขณะเมื่อข้าพเจ้ากล่าวคำอธิษฐานอยู่ ชายชื่อกาเบรี​ยล ซึ่งข้าพเจ้าได้​เห​็นในนิ​มิ​ตครั้งแรกนั้น ได้​บิ​นอย่างเร็วมาใกล้​ข้าพเจ้า แตะต้องข้าพเจ้าในเวลาถวายเครื่องบูชาตอนเย็น ท่านได้​ให้ความรู้​และกล่าวแก่ข้าพเจ้าว่า “​โอ ดาเนี​ยล ข้าพเจ้าออกมา ณ บัดนี้ เพื่อจะให้ปัญญาและความเข้าใจแก่​ท่าน ในตอนต้นแห่งคำวิงวอนของท่านก็​มี​พระบัญชาออกไป ข้าพเจ้าจึงมาบอกให้ท่านทราบเพราะท่านเป็นผู้​ที่​ทรงรักมาก เพราะฉะนั้นจงเข้าใจพระบัญชานั้นและพิจารณานิ​มิ​ตน​ั้น มี​เจ​็ดสิบสัปดาห์กำหนดไว้สำหรับชนชาติของท่าน และนครบริ​สุทธิ​์ของท่าน เพื่อให้​เสร็จสิ้นการละเมิด ให้​บาปจบสิ้น และให้ลบความชั่วช้าเพื่อนำความชอบธรรมนิรันดร์​เข้ามา เพื่อประทับตราทั้งนิ​มิ​ตและคำพยากรณ์​ไว้ และเพื่อจะเจิมสถานบริ​สุทธิ​์​ที่สุด เพราะฉะนั้นจงทราบและเข้าใจว่า นับตั้งแต่​การที่พระบัญชานั้นออกไปให้สร้างกรุงเยรูซาเล็มขึ้นใหม่ จนถึงสมัยพระเมสสิยาห์ ผู้​เป็นประมุขก็เป็นเวลาเจ็ดสัปดาห์และเป็นเวลาหกสิบสองสัปดาห์ และถนนจะถูกสร้างขึ้นพร้อมด้วยกำแพงเมือง แต่​ในยุคลำบาก หลังจากหกสิบสองสัปดาห์​แล้ว พระเมสสิยาห์​ก็​จะถูกตัดออก แต่​มิใช่​เพื่อตั​วท​่านเอง และประชาชนของประมุขผู้​หน​ึ่งที่จะมานั้นจะทำลายกรุงและสถานบริ​สุทธิ​์​เสีย ที่​สุดปลายของมันจะมาถึ​งด​้วยน้ำท่วม และจนสงครามสิ้นสุดลงก็​มี​การรกร้างกำหนดไว้ ท่านจะยืนยันพันธสัญญากับคนเป็​นอ​ันมากอยู่​หน​ึ่งสัปดาห์ และในระหว่างกลางสัปดาห์นั้นท่านจะกระทำให้การถวายสัตวบู​ชา และเครื่องบูชาอื่นๆหยุดไป และเพราะเหตุ​มี​ความสะอิดสะเอียนแพร่กระจายไปทั่ว ท่านจะกระทำให้มั​นร​้างเปล่าจนสำเร็จเสร็จสิ้น และสิ่งที่กำหนดไว้จะถูกเทลงเหนือผู้​ที่​ร้างเปล่านั้น”

ดาเนียล 9:1-27 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

ในปีต้นรัชกาลดาริอัส โอรสกษัตริย์อาหสุเอรัส คนมีเดียโดยกำเนิดผู้ได้เป็นพระราชาเหนือดินแดนเคลเดีย ในปีแรกแห่งรัชกาลของท่านข้าพเจ้าดาเนียล ได้ดูในหนังสือพบจำนวนปี ซึ่งตามพระวจนะของพระเจ้าที่ทรงมีถึงเยเรมีย์ผู้ เผยพระวจนะ จะต้องผ่านพ้นไปก่อนสิ้นวันกรุงเยรูซาเล็มร้างเปล่า คือ จำนวนเจ็ดสิบปี แล้วข้าพเจ้าก็หันหน้าไปหาพระเจ้า แสวงหาด้วยการอธิษฐานและการวิงวอน ทั้งด้วยการอดอาหาร และนุ่งห่มผ้ากระสอบและนั่งบนมูลเถ้า ข้าพเจ้าได้อธิษฐานต่อพระเยโฮวาห์ พระเจ้าของข้าพเจ้าและสารภาพว่า <<ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าผู้ใหญ่ยิ่งและที่น่าสะพรึงกลัว ผู้ทรงรักษาพันธสัญญาและความรัก มั่นคงต่อผู้ที่รักพระองค์และรักษาพระบัญญัติของพระองค์ ข้าพระองค์ทั้งหลายได้กระทำบาป และได้กระทำความผิด และได้ประกอบการอธรรมและการกบฏ หันเสียจากพระบัญญัติและกฎหมายของพระองค์ ข้าพระองค์มิได้ฟังบรรดาผู้เผยพระวจนะ ผู้รับใช้ของพระองค์ผู้กล่าวในพระนามของ พระองค์ต่อพระราชาของข้าพระองค์ทั้งหลาย ทั้งต่อเจ้านายบรรพบุรุษ และราษฎรทั้งสิ้น ข้าแต่พระเจ้า ความชอบธรรมเป็นของพระองค์ แต่ความขายหน้าควรแก่พวกข้าพระองค์ ดังทุกวันนี้ ที่ควรแก่คนยูดาห์ ชาวกรุงเยรูซาเล็ม และอิสราเอลทั้งหมด ทั้งผู้ที่อยู่ใกล้และอยู่ไกลออกไป ในแผ่นดินทั้งหลายซึ่งพระองค์ทรงขับไล่เขาไปนั้น เพราะความทรยศซึ่งเขาได้กระทำต่อพระองค์ ข้าแต่พระเจ้า ความขายหน้าควรแก่พวกข้าพระองค์ แก่พระราชาของข้าพระองค์ทั้งหลาย เจ้านาย และบรรพบุรุษ เพราะข้าพระองค์ทั้งหลายได้กระทำบาปต่อพระองค์ พระกรุณา และการอภัยโทษเป็นของพระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย เพราะว่าข้าพระองค์ทั้งหลายได้กบฏต่อพระองค์ และมิได้ฟังพระสุรเสียงของพระเยโฮวาห์พระเจ้า ของข้าพระองค์ ด้วยการกระทำตามบทบัญญัติของพระองค์ ซึ่งพระองค์ทรงตั้งไว้ต่อหน้าข้าพระองค์ทั้งหลาย โดยบรรดาผู้เผยพระวจนะผู้รับใช้ของพระองค์ เออ อิสราเอลทั้งผองได้กระทำผิดต่อธรรม บัญญัติของพระองค์และได้หันไปเสีย ไม่เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระองค์ และการสาปแช่งและการปฏิญาณ ซึ่งจารึกไว้ในธรรมบัญญัติของโมเสสผู้รับใช้ของพระเจ้า จึงถูกเทลงเหนือข้าพระองค์ทั้งหลาย เพราะว่าข้าพระองค์ทั้งหลายได้กระทำบาปต่อพระองค์ พระองค์ได้ทรงยืนยันถ้อยคำของพระองค์ ซึ่งพระองค์ได้ตรัสกล่าวโทษข้าพระองค์ทั้งหลาย และกล่าวโทษผู้ปกครองซึ่งปกครองข้าพระองค์ โดยนำให้ข้าพระองค์เกิดวิบัติอย่างใหญ่หลวง เพราะว่าภายใต้สวรรค์ทั้งสิ้น ไม่มีที่ใดที่ได้ถูกกระทำเหมือนที่ได้กระทำแก่เยรูซาเล็ม ดังที่ได้จารึกไว้ในบัญญัติของโมเสสแล้ว วิบัติทั้งสิ้นก็ได้ตกอยู่เหนือข้าพระองค์ทั้งหลายแล้ว แต่ข้าพระองค์ทั้งหลายยังมิได้ทูลวิงวอนขอ พระกรุณาจากพระเยโฮวาห์พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย โดยหันเสียจากความบาปชั่วของข้าพระองค์ และเชื่อฟังความจริงของพระองค์ เพราะฉะนั้นพระเจ้าทรงเก็บความวิบัติไว้พร้อมและได้ทรง นำมาเหนือเราทั้งหลาย เพราะพระเยโฮวาห์พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลายทรงเป็น ผู้ชอบธรรมในสรรพกิจ ซึ่งพระองค์ได้ทรงกระทำ และข้าพระองค์ทั้งหลายมิได้เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระองค์ ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย ผู้ทรงนำชนชาติของพระองค์ออกจากแผ่นดินอียิปต์ ด้วยพระหัตถ์อันทรงฤทธิ์ และได้ทำให้พระนามลือมาจนทุกวันนี้ ข้าพระองค์ทั้งหลายได้กระทำบาป และข้าพระองค์ ทั้งหลายกระทำความอธรรม ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ตามการกระทำอันชอบธรรมทั้งสิ้นของพระองค์ ขอให้ความกริ้วและพิโรธของพระองค์หันกลับ เสียจากเยรูซาเล็มนครของพระองค์ ภูเขาบริสุทธิ์ของพระองค์ เพราะบาปของข้าพระองค์ทั้งหลาย และความบาปชั่วของบรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลาย เยรูซาเล็มและประชากรของพระองค์จึงกลาย เป็นที่เยาะเย้ยในหมู่คนทั้งสิ้นที่อยู่รอบข้าพระองค์ ฉะนั้น ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย ขอพระองค์ทรงสดับคำอธิษฐานของผู้รับใช้ของพระองค์ และคำวิงวอนของเขา ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า เพื่อเห็นแก่พระองค์ ขอพระพักตร์ของพระองค์ทอแสง ที่สถานศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ซึ่งร้างเปล่านั้น ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอทรงเงี่ยพระกรรณสดับ ขอทรงลืมพระเนตรดูความร้างเปล่าของข้าพระองค์ทั้งหลาย ทั้งนครซึ่งมีชื่อตามพระนามของพระองค์ เพราะว่าข้าพระองค์ทั้งหลายมิได้ถวายคำวิงวอนต่อพระองค์ ด้วยอ้างความชอบธรรมของข้าพระองค์ทั้งหลายเป็นเหตุ แต่ได้อ้างพระกรุณายิ่งใหญ่ของพระองค์ ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงฟัง ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงให้อภัย ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงใส่พระทัยและทรงกระทำ ขออย่าเนิ่นช้าเลยพระเจ้าค่ะ เพื่อเห็นแก่พระนามของพระองค์ ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ เพราะว่านครของพระองค์ และประชากรของพระองค์ก็มีชื่อตามพระนามของพระองค์>> ขณะที่ข้าพเจ้ากำลังพูด กำลังอธิษฐานและสารภาพบาปของข้าพเจ้า และบาปของอิสราเอล ประชากรของข้าพเจ้า และเสนอคำวิงวอนของข้าพเจ้าต่อพระเยโฮวาห์ พระเจ้าของข้าพเจ้า เพื่อภูเขาบริสุทธิ์แห่งพระเจ้าของข้าพเจ้าอยู่นั้น เออ ขณะเมื่อข้าพเจ้ากล่าวคำอธิษฐานอยู่ ชายที่ชื่อ กาเบรียลซึ่งข้าพเจ้าได้เห็นในนิมิตครั้งแรกนั้น ได้บินอย่างเร็วมาใกล้ข้าพเจ้าในเวลาถวายเครื่องบูชาตอนเย็น ท่านได้มาและกล่าวแก่ข้าพเจ้าว่า <<โอ ดาเนียล ข้าพเจ้าออกมา ณ บัดนี้ เพื่อจะให้ปัญญาและความเข้าใจแก่ท่าน ในตอนต้นแห่งคำวิงวอนของท่านก็มีคำหนึ่งออกไป ข้าพเจ้าจึงมาบอกให้ท่านทราบ เพราะท่านเป็นผู้ที่ทรงรักมาก เพราะฉะนั้นจงพิจารณาคำนั้นและเข้าใจนิมิตนั้น <<มีเจ็ดสิบสัปตะแห่งปีกำหนดไว้สำหรับชนชาติของ ท่านและนครบริสุทธิ์ของท่าน เพื่อให้เสร็จสิ้นการทรยศ ให้บาปจบสิ้น และให้ลบมลทิน เพื่อนำความชอบธรรมนิรันดร์เข้ามา เพื่อประทับตราทั้งนิมิตและคำของผู้เผยพระวจนะไว้ และเพื่อจะเจิมสถานศักดิ์สิทธิ์ที่สุด เพราะฉะนั้นจงทราบและเข้าใจว่า นับตั้งแต่การที่ถ้อยคำนั้นออกไป ให้สร้างกรุงเยรูซาเล็มขึ้นใหม่จน ถึงสมัยผู้ถูกเจิมไว้ ผู้เป็นประมุขก็เป็นเวลาเจ็ดสัปตะ และเยรูซาเล็มจะถูกสร้างขึ้นพร้อมด้วยลานเมืองและคู เป็นเวลาหกสิบสองสัปตะแต่ในยุคลำบาก หลังจากหกสิบสองสัปตะแล้ว ท่านผู้หนึ่งที่ถูกเจิมไว้จะต้องถูกตัดออกและจะไม่มีอะไรสำหรับท่าน และประชาชนของประมุขผู้หนึ่งที่จะมานั้น จะทำลายกรุง และสถานศักดิ์สิทธิ์เสีย ที่สุดปลายของมันจะมาถึงด้วยน้ำท่วม จนกระทั่งที่สุดจะมีสงคราม มีความวิบัติกำหนดไว้ ท่านจะทำพันธสัญญาเข้มแข็งกับคนเป็นอัน มากอยู่หนึ่งสัปตะ ท่านจะกระทำให้การถวายสัตวบูชา และเครื่องบูชาอื่นๆ หยุดไปครึ่งสัปตะ ผู้ที่จะกระทำให้เกิดความวิบัตินั้น จะมาบนปีกของสิ่งน่าสะอิดสะเอียน จนความอวสานที่ได้กำหนดไว้จะถูก เทลงเหนือผู้กระทำให้เกิดความวิบัตินั้น>>

ดาเนียล 9:1-27 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

ในปีที่หนึ่งแห่งรัชกาลกษัตริย์ดาริอัสโอรสของเซอร์ซีส (ทรงมีเชื้อสายมีเดีย) ซึ่งได้ครองอาณาจักรบาบิโลน ในปีแรกแห่งรัชกาล ข้าพเจ้าดาเนียลเข้าใจจากพระคัมภีร์เกี่ยวกับพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าซึ่งตรัสกับผู้เผยพระวจนะเยเรมีย์ว่ากรุงเยรูซาเล็มจะเริศร้างอยู่เจ็ดสิบปี ข้าพเจ้าจึงขะมักเขม้นอธิษฐานวิงวอนต่อพระเจ้าองค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยการถืออดอาหาร สวมเสื้อผ้ากระสอบ และคลุกขี้เถ้า ข้าพเจ้าอธิษฐานต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพเจ้าและทูลสารภาพบาปว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าผู้ทรงยิ่งใหญ่และน่าครั่นคร้าม ผู้ทรงรักษาพันธสัญญาแห่งความรักต่อบรรดาผู้ที่รักพระองค์และเชื่อฟังพระบัญชาของพระองค์ ข้าพระองค์ทั้งหลายได้ทำผิดทำบาป ทำชั่วและกบฏต่อพระองค์ หันหนีจากบทบัญญัติและพระบัญชาของพระองค์ ข้าพระองค์ทั้งหลายไม่ได้เชื่อฟังเหล่าผู้เผยพระวจนะผู้รับใช้ของพระองค์ ซึ่งกล่าวในพระนามของพระองค์แก่บรรดากษัตริย์ เจ้านาย บรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายตลอดจนประชากรของแผ่นดิน “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงชอบธรรม แต่ทุกวันนี้ข้าพระองค์ทั้งหลายต้องอับอายขายหน้า ไม่ว่าชาวยูดาห์ ชาวกรุงเยรูซาเล็ม และปวงชนอิสราเอลทั้งใกล้และไกลในประเทศต่างๆ ซึ่งพระองค์ทรงทำให้ข้าพระองค์ทั้งหลายกระจัดกระจายไป เพราะเราไม่ได้ซื่อสัตย์ต่อพระองค์ ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์ทั้งหลายตลอดจนบรรดากษัตริย์ เจ้านาย และบรรพบุรุษต้องอัปยศอดสูเพราะได้ทำบาปต่อพระองค์ องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลายทรงเปี่ยมด้วยความเมตตาและทรงให้อภัย แม้ว่าข้าพระองค์ทั้งหลายกบฏต่อพระองค์ ข้าพระองค์ทั้งหลายไม่ได้เชื่อฟังพระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย และไม่ได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติที่พระองค์ประทานผ่านทางผู้เผยพระวจนะผู้รับใช้ของพระองค์ อิสราเอลทั้งปวงได้ล่วงละเมิดบทบัญญัติของพระองค์ และหลงเตลิดไป ไม่ยอมเชื่อฟังพระองค์ “ฉะนั้นคำสาปแช่งและโทษทัณฑ์ทั้งปวงซึ่งบันทึกไว้ในบทบัญญัติของโมเสสผู้รับใช้ของพระเจ้าจึงตกแก่ข้าพระองค์ทั้งหลายเพราะข้าพระองค์ทั้งหลายได้ทำบาปต่อพระองค์ พระองค์ทรงทำตามที่ตรัสไว้แล้วว่าจะนำภัยพิบัติยิ่งใหญ่มายังข้าพระองค์ทั้งหลายและผู้ครอบครอง ทั่วใต้ฟ้าไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นเสมอเหมือนที่เกิดกับเยรูซาเล็ม ภัยพิบัติทั้งปวงนี้เกิดกับข้าพระองค์ทั้งหลาย ตามที่บันทึกไว้แล้วในบทบัญญัติของโมเสส ถึงกระนั้นข้าพระองค์ทั้งหลายก็ไม่ได้แสวงหาความเมตตาจากพระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลายโดยหันกลับจากบาป และไม่ได้ใส่ใจในความจริงของพระองค์เลย องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ทรงรีรอที่จะนำภัยพิบัตินี้มายังข้าพระองค์ทั้งหลายเพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลายทรงชอบธรรมในทุกสิ่งที่ทรงกระทำ ถึงเพียงนี้แล้วข้าพระองค์ทั้งหลายยังไม่ยอมเชื่อฟังพระองค์ “ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย ผู้ทรงนำประชากรของพระองค์ออกจากอียิปต์ด้วยพระหัตถ์อันทรงอานุภาพและผู้สถาปนานามของพระองค์ซึ่งยืนยงตราบเท่าทุกวันนี้ ข้าพระองค์ทั้งหลายได้ทำผิดทำบาปไปแล้ว ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า เพื่อให้สอดคล้องกับการกระทำอันชอบธรรมทั้งปวงของพระองค์ ขอโปรดทรงหันเหพระพิโรธจากเยรูซาเล็มเมืองของพระองค์ ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ เพราะบาปของข้าพระองค์ทั้งหลายและความชั่วช้าของบรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลาย เป็นเหตุให้เยรูซาเล็มและประชากรของพระองค์กลายเป็นที่เหยียดหยามของคนทั้งปวงที่อยู่โดยรอบ “ข้าแต่พระเจ้า บัดนี้ขอทรงสดับคำอธิษฐานวิงวอนของผู้รับใช้ของพระองค์ ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า เพื่อเห็นแก่พระองค์เอง โปรดเหลียวแลสถานนมัสการอันเริศร้างของพระองค์ด้วยความโปรดปรานเถิด ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงเอียงพระกรรณสดับฟัง โปรดทอดพระเนตรความเริศร้างของกรุงซึ่งใช้พระนามของพระองค์ ข้าพระองค์ทั้งหลายทูลวิงวอนต่อพระองค์ ไม่ใช่เพราะข้าพระองค์ทั้งหลายชอบธรรม แต่เพราะพระเมตตายิ่งใหญ่ของพระองค์ ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอทรงสดับ! ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอทรงอภัย! ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอทรงสดับและทรงช่วย! ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขออย่าทรงล่าช้าเพื่อเห็นแก่พระองค์เอง เพราะนครของพระองค์และประชากรของพระองค์ใช้พระนามของพระองค์” ขณะข้าพเจ้าอธิษฐานสารภาพบาปของตัวเองและของชนอิสราเอลพี่น้องร่วมชาติและทูลอ้อนวอนพระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพเจ้าเพื่อภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ ขณะที่ข้าพเจ้ายังอธิษฐานอยู่นั้น กาเบรียลผู้ซึ่งข้าพเจ้าเห็นในนิมิตครั้งก่อนเหาะมาหาข้าพเจ้าอย่างรวดเร็วในเวลาถวายเครื่องบูชายามเย็น เขากล่าวแก่ข้าพเจ้าว่า “ดาเนียลเอ๋ย เรามาเพื่อให้ท่านประจักษ์แจ้งและเข้าใจ ทันทีที่ท่านเริ่มอธิษฐาน พระเจ้าก็ประทานคำตอบซึ่งเราได้นำมาบอกท่านเพราะท่านเป็นผู้ที่ทรงรักยิ่ง ฉะนั้นจงใคร่ครวญเนื้อความและเข้าใจนิมิตนั้น “เจ็ดสิบของ ‘เจ็ด’ ทรงกำหนดไว้แล้วสำหรับพี่น้องร่วมชาติและนครศักดิ์สิทธิ์ของท่าน ให้เลิกการล่วงละเมิด เลิกทำบาป ลบล้างความชั่ว และนำความชอบธรรมอันมั่นคงนิรันดร์มาให้ เพื่อประทับตรานิมิตและคำพยากรณ์และเพื่อเจิมสถานที่บริสุทธิ์ที่สุด “จงรับรู้และเข้าใจข้อนี้เถิด คือตั้งแต่มีพระราชกฤษฎีกาให้กอบกู้และสร้างเยรูซาเล็มขึ้นใหม่ จวบจนผู้ที่พระเจ้าทรงเจิมตั้งให้เป็นผู้ครอบครองนั้นจะมาถึง จะมีเจ็ดของ ‘เจ็ด’ และหกสิบสองของ ‘เจ็ด’ จะมีการสร้างถนนหนทางและคูเมือง แต่ทำในช่วงทุกข์ยากลำบาก หลังจากหกสิบสองของ ‘เจ็ด’ ผู้ที่พระเจ้าทรงเจิมตั้งไว้จะถูกประหารและจะไม่เหลืออะไร ประชาชนของผู้ครอบครองจะมาทำลายกรุงนั้นและสถานนมัสการ วาระสุดท้ายจะมาเหมือนน้ำท่วม สงครามจะขับเคี่ยวกันไปจนถึงจุดจบ และมีวิบัติตามที่กำหนดไว้ ผู้นั้นจะยืนยันคำมั่นสัญญากับคนเป็นอันมากเป็นเวลาหนึ่งของ ‘เจ็ด’ แต่กลางของ ‘เจ็ด’ นั้นเอง เขาจะสั่งยุติการถวายเครื่องบูชาและของถวายต่างๆ แล้วผู้ที่ก่อให้เกิดวิบัติจะตั้งสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนอันเป็นต้นเหตุของวิบัติไว้ที่ด้านหนึ่งของพระวิหารซึ่งเป็นเหตุให้เกิดความเริศร้าง จวบจนวาระสุดท้ายมาถึงเขาตามที่กำหนดไว้”

YouVersion ใช้คุกกี้สำหรับการปรับแต่งการใช้งาน และประสบการณ์ของคุณ การที่คุณได้ใช้เว็บไซต์ของเรา ถือเป็นการที่คุณยอมรับวัตถุประสงค์ของการใช้คุกกี้ ซึ่งมีคำอธิบายอยู่ในนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา