ดาเนียล 3:1-30

ดาเนียล 3:1-30 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

ต่อมา​กษัตริย์​เนบูคัดเนสซาร์​ให้​คน​สร้าง​รูปปั้น​ทองคำ​ขึ้นมา สูง​หกสิบ​ศอก​และ​ยาว​หก​ศอก พระองค์​ตั้ง​มัน​ไว้​ใน​ที่ราบ​ดูรา​ใน​มณฑล​บาบิโลน กษัตริย์​เนบูคัดเนสซาร์​มี​คำสั่ง​ออกไป​ว่า​ให้​พวก​ผู้นำ​ภาค พวก​ผู้นำ​จังหวัด พวก​ผู้นำ​อำเภอ พวก​ที่ปรึกษา พวก​ผู้ดูแล​ด้าน​การเงิน พวก​ผู้พิพากษา พวก​ตำรวจ​ชั้นผู้ใหญ่ รวมทั้ง​เจ้าหน้าที่​อื่นๆ​ทั้งหมด​ที่​อยู่​ตาม​มณฑล​ต่างๆ​จะต้อง​มา​ชุมนุม​กัน​ใน​งานเฉลิม​ฉลอง​รูปปั้น ที่​กษัตริย์​เนบูคัดเนสซาร์​ตั้งขึ้น ดังนั้น พวก​ผู้นำ​ภาค พวก​ผู้นำ​จังหวัด พวก​ผู้นำ​อำเภอ พวก​ที่ปรึกษา พวก​ผู้ดูแล​ด้าน​การเงิน พวก​ผู้พิพากษา พวก​ตำรวจ​ชั้นผู้ใหญ่ รวมทั้ง​เจ้าหน้าที่​อื่นๆ​ทั้งหมด​ที่​อยู่​ตาม​มณฑล​ต่างๆ ก็​ได้​มา​ชุมนุม​ใน​งานเฉลิม​ฉลอง​รูปปั้น​ที่​กษัตริย์​เนบูคัดเนสซาร์​ตั้งขึ้น พวกเขา​มา​ยืน​ชุมนุม​กัน​อยู่​ต่อหน้า​รูปปั้น​ที่​กษัตริย์​เนบูคัดเนสซาร์​ตั้งขึ้นนั้น แล้ว​โฆษก​ก็​ตะโกน​เสียงดัง​ว่า “คน​ทุก​เชื้อชาติ​ทุก​ภาษา เมื่อไร​ก็ตาม​ที่​ท่าน​ได้ยิน​เสียง​ของ​แตรเขาสัตว์ ปี่ พิณเขาคู่ พิณสี่สาย พิณใหญ่ ปี่ถุง หรือ​เครื่อง​ดนตรี​ชนิด​อื่นๆ​ดัง​ขึ้นมา ท่าน​จะ​ต้อง​ก้มกราบ​นมัสการ​รูปปั้น​ทองคำ​ที่​กษัตริย์​เนบูคัดเนสซาร์​ตั้ง​ขึ้นมา ใคร​ที่​ไม่ยอม​ก้มกราบ​ก็​จะ​ถูก​จับ​โยน​ลง​ใน​เตาไฟ​ที่​ร้อนแรง​ทันที” ดังนั้น เมื่อ​คน​ได้ยิน​เสียง​แตรเขาสัตว์ ปี่ พิณเขาคู่ พิณสี่สาย พิณใหญ่ ปี่ถุง หรือ​เครื่อง​ดนตรี​ชนิด​อื่นๆ​ดัง​ขึ้นมา ทุกคน​ไม่ว่า​จะ​มา​จาก​ชนชาติ​ไหน​หรือ​พูด​ภาษา​ใด ต่าง​ก็​พากัน​ก้มกราบ​นมัสการ​ต่อ​รูปเคารพ​ทองคำ​ที่​กษัตริย์​เนบูคัดเนสซาร์​ตั้งขึ้น ทันที​ที่​มี​เรื่องนี้​เกิดขึ้น พวก​คาสดิม​ก็​ไป​เข้าเฝ้า​กษัตริย์ และ​ไป​ฟ้อง​เรื่อง​ของ​คนยูดาห์​บางคน พวกนั้น​ฟ้อง​กษัตริย์​เนบูคัดเนสซาร์​ว่า “ข้าแต่​กษัตริย์ ขอให้​พระองค์​มี​ชีวิต​ยืนยาว ข้าแต่​กษัตริย์ พระองค์​ได้​ออกกฎ​ว่า​เมื่อไหร่​ก็ตาม​ที่​ได้ยิน​เสียง​ของ​แตรเขาสัตว์ ปี่ พิณเขาคู่ พิณสี่สาย พิณใหญ่ ปี่ถุง หรือ​เครื่อง​ดนตรี​ชนิด​อื่นๆ​ดัง​ขึ้นมา ทุกคน​จะ​ต้อง​ก้มกราบ​นมัสการ​ต่อหน้า​รูปปั้น​ทองคำ และ​ใคร​ก็ตาม​ที่​ไม่ยอม​ทำ​ตามนั้น ก็​จะ​ถูก​โยน​ลง​ไป​ใน​เตาไฟ​ที่​ร้อนแรง เรื่อง​มี​อยู่​ว่า มี​คน​พวกหนึ่ง ก็​คือ​พวกยิว​ที่​พระองค์​ได้​แต่งตั้ง​ให้​เป็น​ผู้บริหาร​มณฑล​บาบิโลน ชื่อ​ชัดรัค เมชาค และ​เอเบดเนโก สามคนนี้​ไม่​สนใจ​คำสั่ง​ของ​พระองค์ พวกมัน​ไม่ยอม​นมัสการ​เทพเจ้า​ของ​พระองค์ พวกมัน​ไม่ยอม​ก้มกราบ​รูปปั้น​ทองคำ​ที่​พระองค์​ตั้งขึ้น” เมื่อ​กษัตริย์​เนบูคัดเนสซาร์​ได้ยิน​อย่างนั้น ก็​โกรธจัด สั่ง​ให้​คน​ไป​เอา​ตัว​ชัดรัค เมชาค และ​เอเบดเนโก​มาหา​พระองค์ พวกนั้น​จึง​ไป​พา​ทั้ง​สามคน​มา​เข้าเฝ้า​ต่อหน้า​กษัตริย์ กษัตริย์​เนบูคัดเนสซาร์​ถาม​ว่า “ชัดรัค เมชาค และ​เอเบดเนโก จริง​หรือเปล่า​ที่​เจ้า​ไม่ยอม​นมัสการ​เทพเจ้า​ของเรา และ​ไม่ยอม​ก้มกราบ​รูปปั้น​ทองคำ​ที่​เรา​ตั้ง​ขึ้นมา ฟัง​ให้ดีนะ เจ้า​จะ​ต้อง​พร้อม​ที่​จะ​ก้มกราบ​นมัสการ​ต่อ​รูปปั้น​ที่​เรา​สร้างขึ้น เมื่อ​เจ้า​ได้ยิน​เสียง​แตรเขาสัตว์ ปี่ พิณเขาคู่ พิณสี่สาย พิณใหญ่ ปี่ถุง หรือ​เครื่อง​ดนตรี​ชนิด​อื่นๆ​ดัง​ขึ้นมา เพราะ​ถ้า​เจ้า​ไม่ยอม​ทำ​ละก็ เจ้า​จะ​ถูก​โยน​ลงไป​ใน​เตาไฟ​ที่​ร้อนแรง​ทันที แล้ว​เทพเจ้า​องค์ไหน​จะ​มา​ช่วย​เจ้า​ให้​รอด​จาก​อำนาจ​ของเรา​ได้” ชัดรัค เมชาค และ​เอเบดเนโก​ตอบ​ว่า “พวกเรา​ไม่​จำเป็น​จะ​ต้อง​แก้ตัว​ต่อ​พระองค์​ใน​เรื่องนี้ ข้าแต่​กษัตริย์ เพราะ​พระเจ้า​ของเรา​ที่​พวกเรา​รับใช้​อยู่นี้​มีจริง พระเจ้า​สามารถ​ช่วย​พวกเรา​ให้​รอดพ้น​จาก​เตาไฟ​ที่​ร้อนแรงนั้น และ​พระเจ้า​จะ​ช่วย​ให้​พวกเรา​รอดพ้น​จาก​เงื้อมมือ​ของ​พระองค์​ด้วย แต่​ถ้าหาก​ว่า​พระเจ้า​จะ​ไม่ช่วย​พวกเรา ก็​ขอให้​พระองค์​รู้​ไว้​เถิด​ว่า เรา​ก็​จะ​ไม่​นมัสการ​เทพเจ้า​ของ​พระองค์ และ​เรา​ก็​จะ​ไม่​ก้มลง​กราบ​รูปปั้น​ทองคำ​ที่​พระองค์​ตั้งขึ้น” ถึง​ตอนนี้ กษัตริย์​เนบูคัดเนสซาร์​ก็​ยิ่ง​โกรธจัด หน้าตา​ของ​พระองค์​ก็​บูดเบี้ยวไป​ต่อ​ชัดรัค เมชาค และ​เอเบดเนโก และ​พระองค์​ก็​สั่ง​ให้​เพิ่ม​ไฟ​ใน​เตา​ให้​ร้อนแรง​ขึ้น​กว่า​ของเดิม​เป็น​เจ็ดเท่า และ​พระองค์​สั่ง​ทหาร​บางคน​ที่​แข็งแรง​มาก​ใน​กองทัพ​ของ​พระองค์ มัด​ตัว​ชัดรัค เมชาค และ​เอเบดเนโก และ​ให้​โยน​พวกเขา​ลง​ไป​ใน​เตาไฟ​ที่​กำลัง​ลุกไหม้​อยู่ ทั้ง​สามคน​ก็เลย​ถูก​มัด ใน​ขณะที่​ยัง​มี​เสื้อคลุม กางเกง หมวก รวมทั้ง​เสื้อผ้า​อื่นๆ​สวมใส่อยู่ แล้ว​พวกทหาร​ก็​โยน​ทั้ง​สามคน​ลงไป​ใน​เตาไฟ​ที่​ร้อนแรง เป็น​เพราะ​กษัตริย์​สั่ง​อย่าง​เฉียบขาด ให้​คน​ทำ​เตาไฟ​ให้​ร้อน​กว่าเดิม​มาก พวกทหาร​ที่​โยน​ชัดรัค เมชาค และ​เอเบดเนโก ลง​ไป​ใน​เตา ก็​ถูก​เปลวไฟ​เผาตาย ชาย​ทั้ง​สามคน คือ​ชัดรัค เมชาค และ​เอเบดเนโก หล่น​ลงไป​ใน​เตาไฟ ใน​ขณะที่​ถูก​มัดอยู่ แล้ว​กษัตริย์​เนบูคัดเนสซาร์​ก็​สะดุ้ง​สุดตัว ลุก​พรวดพราด​ขึ้นมา​อย่าง​รวดเร็ว และ​ร้อง​ถาม​พวก​ที่ปรึกษา​ที่​อยู่ข้างๆ​ว่า “เรา​มัด​แค่​สามคน​โยน​ลงไป​ใน​เตาไฟ​ไม่ใช่หรือ” พวกเขา​ตอบ​ว่า “ข้าแต่​กษัตริย์ พระองค์​พูด​ถูกแล้ว” พระองค์​จึง​ถาม​ว่า “แล้ว​ทำไม​เรา​ถึง​เห็น​สี่คน​เดินไป​เดินมา​อยู่​ใน​กองไฟ​นั้นละ แล้ว​ยัง​ไม่​ถูกมัด​อีก​ต่างหาก และ​ไม่​เป็น​อันตราย​อะไรเลย แถม​คน​ที่สี่​ก็​ดู​เหมือน​เป็น​เทพเจ้า​อีกด้วย” แล้ว​กษัตริย์​เนบูคัดเนสซาร์​ก็​เข้าไป​ใกล้ๆ​ประตู​ของ​เตาไฟ​และ​พูด​ว่า “ชัดรัค เมชาค และ​เอเบดเนโก ผู้รับใช้​ของ​พระเจ้า​สูงสุด ออกมาเถิด” จากนั้น​ชัดรัค เมชาค และ​เอเบดเนโก ก็​ออกมา​จาก​เตาไฟ แล้ว​พวก​ผู้นำ​ภาค พวก​ผู้นำ​จังหวัด พวก​ผู้นำ​อำเภอ และ​พวก​ที่ปรึกษา​ของ​กษัตริย์ ต่าง​ก็​เข้ามา​มุงดู แล้ว​ก็​เห็นว่า​ไฟ​ไม่ได้​ทำ​อันตราย​กับ​ร่างกาย​ของ​พวกเขา​เลย ผม​บนหัว​ก็​ไม่ไหม้ เสื้อผ้า​ก็​ไม่ไหม้ ไม่มี​แม้แต่​กลิ่นไหม้​ติดตัว​พวกเขา​เสีย​ด้วยซ้ำ แล้ว​กษัตริย์​เนบูคัดเนสซาร์​ก็​พูด​ว่า “ขอ​สรรเสริญ​พระเจ้า​ของ​ชัดรัค เมชาค และ เอเบดเนโก พระองค์​ได้​ส่ง​ทูตสวรรค์​ลงมา​ช่วย​ผู้รับใช้​ของ​พระองค์ ที่​ไว้วางใจ​ใน​พระองค์ พวกเขา​กล้า​ขัด​คำสั่ง​ของ​กษัตริย์ ถึง​ขนาด​ยอม​เสี่ยงชีวิต​ของ​พวกเขาเอง แทนที่​จะ​รับใช้​หรือ​นมัสการ​เทพเจ้า​องค์ใด​นอกเหนือ​จาก​พระเจ้า​ของ​พวกเขา บัดนี้ เรา​ขอ​สั่ง​ว่า​ใคร​ก็ตาม​ไม่ว่า​จะ​เป็น​คน​เชื้อชาติ​ใด​หรือ​ภาษา​ไหน ที่​ว่าร้าย​พระเจ้า​ของ​ชัดรัค เมชาค และ​เอเบดเนโก จะ​ต้อง​ถูก​หั่น​เป็นชิ้นๆ​และ​บ้าน​ของมัน​ผู้นั้น​จะ​ต้อง​กลาย​เป็น​ส้วม​สาธารณะ เพราะ​ไม่มี​เทพเจ้า​องค์ไหน​ที่​สามารถ​ช่วย​ชีวิต​คน​ของพระองค์​ได้​อย่างนี้​หรอก” จากนั้น​กษัตริย์​ก็​เลื่อนขั้น​ให้กับ​ชัดรัค เมชาค และ​เอเบดเนโก ใน​มณฑล​บาบิโลน

ดาเนียล 3:1-30 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ทรงสร้างปฏิมากรรูปหนึ่งด้วยทองคำ สูง 27 เมตร กว้างเกือบ 3 เมตร ทรงตั้งไว้ ณ ที่ราบดูราในมณฑลบาบิโลน แล้วกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์รับสั่งให้ประชุมพวกอุปราช องคมนตรี ผู้ว่าราชการมณฑล มนตรี นายคลัง ผู้พิพากษา ตุลาการ และบรรดาเจ้าหน้าที่ของมณฑล ให้เข้ามาในงานฉลองปฏิมากรซึ่งกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ได้ทรงตั้งขึ้น แล้วพวกอุปราช องคมนตรี ผู้ว่าราชการมณฑล มนตรี นายคลัง ผู้พิพากษา ตุลาการ และบรรดาเจ้าหน้าที่ทั้งหลายของมณฑลได้เข้ามาประชุมเพื่องานฉลองปฏิมากร ซึ่งกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ได้ทรงตั้งขึ้น เมื่อเขาทั้งหลายมายืนอยู่หน้าปฏิมากร ซึ่งกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ได้ทรงตั้งขึ้น โฆษกก็ประกาศเสียงดังว่า “พระราชามีพระราชโองการมายังชนทุกชาติทุกเผ่าทุกภาษา เมื่อท่านทั้งหลายได้ยินเสียงเขาสัตว์ ปี่ พิณเขาคู่ พิณสี่สาย พิณใหญ่ ปี่ถุง และเครื่องดนตรีทุกชนิด ให้ท่านกราบลงนมัสการปฏิมากรทองคำ ซึ่งกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ได้ทรงตั้งไว้ ผู้ใดไม่กราบนมัสการก็ให้โยนผู้นั้นเข้าไปในเตาที่ไฟลุกอยู่ทันที” เพราะฉะนั้นพอประชาชนได้ยินเสียงเขาสัตว์ ปี่ พิณเขาคู่ พิณสี่สาย พิณใหญ่ ปี่ถุง และเครื่องดนตรีทุกชนิด ชนทุกชาติทุกเผ่าทุกภาษาก็กราบนมัสการปฏิมากรทองคำซึ่งกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ได้ทรงตั้งไว้ ในครั้งนั้นพวกเคลเดียบางคนมาเข้าเฝ้า และฟ้องพวกยิวโดยเจตนาร้าย เขาทูลกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ว่า “ข้าแต่พระราชา ขอทรงพระเจริญเป็นนิตย์ ข้าแต่พระราชา ฝ่าพระบาททรงออกกฤษฎีกาแล้วว่า ทุกคนที่ได้ยินเสียงเขาสัตว์ ปี่ พิณเขาคู่ พิณสี่สาย พิณใหญ่ ปี่ถุง และเครื่องดนตรีทุกชนิด จะต้องกราบนมัสการปฏิมากรทองคำ ผู้ใดไม่กราบนมัสการก็จะถูกโยนเข้าไปในเตาที่ไฟลุกอยู่ มีคนยิวบางคนที่ฝ่าพระบาทแต่งตั้งให้เป็นผู้บริหารมณฑลบาบิโลนคือ ชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโก ข้าแต่พระราชา คนเหล่านี้ไม่เชื่อฟังกฤษฎีกาของฝ่าพระบาท เขาไม่ยอมปรนนิบัติบรรดาพระของฝ่าพระบาท หรือนมัสการปฏิมากรทองคำซึ่งฝ่าพระบาทได้ทรงตั้งไว้” แล้วเนบูคัดเนสซาร์กริ้วจัด มีรับสั่งให้นำตัวชัดรัค เมชาคและอาเบดเนโกเข้ามา แล้วมีผู้พาคนเหล่านี้เข้ามาเฝ้ากษัตริย์ เนบูคัดเนสซาร์ตรัสแก่เขาว่า “ชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกเอ๋ย เป็นความจริงหรือไม่ ที่เจ้าไม่ยอมปรนนิบัติบรรดาพระของเราหรือนมัสการปฏิมากรทองคำซึ่งเราได้ตั้งไว้? เอาเถอะ ถ้าเจ้าพร้อมใจแล้ว พอเจ้าได้ยินเสียงเขาสัตว์ ปี่ พิณเขาคู่ พิณสี่สาย พิณใหญ่ ปี่ถุง และเครื่องดนตรีทุกชนิด เจ้าจงกราบนมัสการปฏิมากรซึ่งเราได้สร้างไว้ แต่ถ้าเจ้าไม่นมัสการ ก็จะต้องโยนเจ้าเข้าไปในเตาที่ไฟลุกอยู่ทันที แล้วพระองค์ไหนจะช่วยกู้เจ้าให้พ้นจากมือของเราได้?” ชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกทูลพระราชาว่า “ข้าแต่เนบูคัดเนสซาร์ ข้าพระบาททั้งหลายไม่จำเป็นจะต้องตอบฝ่าพระบาทในเรื่องนี้ ข้าแต่พระราชา ถ้าพระเจ้าของพวกข้าพระบาท ผู้ซึ่งพวกข้าพระบาทปรนนิบัตินั้น พอพระทัยจะช่วยกู้พวกข้าพระบาทให้พ้นจากเตาที่ไฟลุกอยู่ พระองค์ก็จะทรงช่วยกู้พวกข้าพระบาทให้พ้นจากพระหัตถ์ของฝ่าพระบาท ถึงแม้ไม่เป็นเช่นนั้น ข้าแต่พระราชา ขอฝ่าพระบาททรงทราบว่า พวกข้าพระบาทจะไม่ปรนนิบัติพระของฝ่าพระบาท หรือนมัสการปฏิมากรทองคำซึ่งฝ่าพระบาทได้ทรงตั้งขึ้น” แล้วเนบูคัดเนสซาร์ทรงเกรี้ยวกราดยิ่งนัก พระพักตร์ของพระองค์ก็แสดงความไม่พอพระทัยชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโก พระองค์มีรับสั่งให้ทำเตาไฟให้ร้อนกว่าปกติอีกเจ็ดเท่า และพระองค์มีรับสั่งให้บางคนที่มีกำลังมากในกองทัพมามัดชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโก และให้โยนเข้าไปในเตาที่ไฟลุกอยู่ แล้วคนเหล่านี้ก็ถูกมัดไว้ขณะที่ใส่เสื้อ กางเกง หมวก และเครื่องแต่งกายอื่นๆ และถูกโยนเข้าไปในเตาที่ไฟลุกอยู่ เนื่องจากพระบัญชาของกษัตริย์นั้นเร่งด่วนมาก และเตาไฟก็ร้อนจัด เปลวไฟจึงได้ฆ่าคนที่อุ้มชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโก และชายทั้งสามนี้คือ ชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกก็ตกลงไปในเตาไฟที่ลุกอยู่ทั้งๆ ที่ยังถูกมัด ขณะนั้นกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ประหลาดพระทัย ทรงลุกขึ้นโดยฉับพลัน พระองค์ตรัสกับบรรดาพระสหายของพระองค์ว่า “เรามัดสามคนโยนเข้าไปในไฟไม่ใช่หรือ?” เขาทูลตอบพระราชาว่า “ข้าแต่พระราชา จริง พ่ะย่ะค่ะ” พระองค์ตรัสตอบว่า “แต่เราเห็นสี่คนกำลังเดินอยู่กลางไฟ ไม่ถูกมัดและไม่เป็นอันตราย รูปร่างของคนที่สี่นั้นดูเหมือนองค์เทพบุตร” แล้วเนบูคัดเนสซาร์เสด็จมาใกล้ประตูเตาที่ไฟลุกอยู่นั้น ตรัสว่า “ชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกผู้รับใช้ของพระเจ้าสูงสุด จงออกมาเถิด จงมาที่นี่” แล้วชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกก็เดินออกมาจากไฟ พวกอุปราช องคมนตรี ผู้ว่าราชการมณฑล และพระสหายของกษัตริย์ก็ห้อมล้อมเข้ามา เห็นว่าไฟไม่มีอำนาจอะไรเหนือร่างกายของคนเหล่านี้ ผมบนศีรษะของเขาก็ไม่งอ เสื้อก็ไม่เสียหาย ไม่มีกลิ่นไฟที่ตัวพวกเขาเลย เนบูคัดเนสซาร์ตรัสว่า “สาธุการแด่พระเจ้าของชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโก พระองค์ผู้ทรงใช้ทูตสวรรค์มาช่วยกู้ผู้รับใช้ของพระองค์ ผู้ที่วางใจในพระองค์ ไม่ฟังคำบัญชาของกษัตริย์ และยอมพลีชีวิตของเขาเสียดีกว่าปรนนิบัติและนมัสการพระอื่น นอกจากพระเจ้าของพวกเขาเอง เพราะฉะนั้นเราจึงออกกฤษฎีกาว่า ชนทุกชาติทุกเผ่าทุกภาษาคนใด ที่กล่าวลบหลู่พระเจ้าของชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโก จะถูกทึ้งแขนขาออกเสีย และบ้านเรือนของเขาจะถูกทำให้เป็นเศษเล็กเศษน้อย เพราะไม่มีพระอื่นใดที่สามารถช่วยกู้แบบนี้ได้” แล้วกษัตริย์ทรงเลื่อนยศชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโก ให้สูงขึ้นอีกในมณฑลบาบิโลน

ดาเนียล 3:1-30 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

กษัตริย์​เนบูคัดเนสซาร์​ได้​สร้างปฏิมากรรูปหนึ่​งด​้วยทองคำ สูงหกสิบศอก กว้างหกศอก ทรงตั้งไว้ ณ ที่​ราบดู​รา ในเมืองบาบิ​โลน แล​้วกษั​ตริ​ย์เนบูคัดเนสซาร์รับสั่งให้ประชุ​มอ​ุปราช ข้าหลวงภาค ผู้​ว่าราชการเมือง ผู้พิพากษา นายคลัง มนตรี ตุลาการ และบรรดาเจ้าหน้าที่ทั้งหลายของหัวเมือง ให้​เข​้ามาในงานฉลองปฏิมากรซึ่งกษั​ตริ​ย์เนบูคัดเนสซาร์​ได้​ทรงตั้งขึ้น แล​้​วอ​ุปราช ข้าหลวงภาค ผู้​ว่าราชการเมือง ผู้พิพากษา นายคลัง มนตรี ตุลาการ และบรรดาเจ้าหน้าที่ทั้งหลายของหัวเมืองได้​เข​้ามาประชุมเพื่องานฉลองปฏิมากร ซึ่งกษั​ตริ​ย์เนบูคัดเนสซาร์​ได้​ทรงตั้งขึ้น และเขาทั้งหลายก็​มาย​ืนอยู่​หน​้าปฏิมากรซึ่งกษั​ตริ​ย์เนบูคัดเนสซาร์​ได้​ทรงตั้งขึ้น และโฆษกก็ประกาศเสียงดังว่า “​โอ บรรดาชนชาติ ประชาชาติ​ทั้งปวงและภาษาทั้งหลาย มี​พระบัญชาแก่ท่านทั้งหลายว่า เมื่อท่านได้ยินเสียงแตรทองเหลืองขนาดเล็ก ปี่ พิณเขาคู่ พิณสี่​สาย พิณใหญ่ ปี่​ถุง และเครื่องดนตรี​ทุกชนิด ให้​ท่านทั้งหลายกราบลงนมัสการปฏิมากรทองคำ ซึ่งกษั​ตริ​ย์เนบูคัดเนสซาร์​ได้​ทรงตั้งไว้ ผู้​ใดที่​มิได้​กราบลงนมัสการก็​ให้​โยนผู้นั้นทั​นที​เข​้าไปในเตาที่ไฟลุกอยู่” เพราะฉะนั้นพอประชาชนได้ยินเสียงแตรทองเหลืองขนาดเล็ก ปี่ พิณเขาคู่ พิณสี่​สาย พิณใหญ่และเครื่องดนตรี​ทุกชนิด บรรดาชนชาติ ประชาชาติ​ทั้งปวงและภาษาทั้งหลาย ก็​กราบลงนมัสการปฏิมากรทองคำซึ่งกษั​ตริ​ย์เนบูคัดเนสซาร์​ได้​ทรงตั้งไว้ เพราะฉะนั้น ในครั้งนั้นพวกเคลเดียบางคนมาเข้าเฝ้า และฟ้องพวกยิวด้วยใจคิดร้าย เขาทั้งหลายกราบทูลกษั​ตริ​ย์เนบูคัดเนสซาร์​ว่า “​โอ ข้าแต่​กษัตริย์ ขอทรงพระเจริญเป็นนิตย์ โอ ข้าแต่​กษัตริย์ พระองค์​ทรงออกกฤษฎีกาแล้​วว​่า ทุ​กคนผู้​ได้​ยินเสียงแตรทองเหลืองขนาดเล็ก ปี่ พิณเขาคู่ พิณสี่​สาย พิณใหญ่ ปี่​ถุง และเครื่องดนตรี​ทุกชนิด ก็​ให้​กราบลงนมัสการปฏิมากรทองคำ และผู้ใดที่​ไม่​กราบลงนมัสการก็​ให้​โยนเข้าไปในเตาที่ไฟลุกอยู่ มี​ยิวบางคนที่​พระองค์​ได้​แต่​งตั้งให้จัดราชการในเมืองบาบิ​โลน คือชัดรัค เมชาค และเอเบดเนโก โอ ข้าแต่​กษัตริย์ คนเหล่านี้​ไม่​เชื่อฟังพระองค์ เขามิ​ได้​ปฏิบัติ​พระของพระองค์ หรือนมัสการปฏิมากรทองคำซึ่งพระองค์​ได้​ทรงตั้งไว้” แล​้วเนบูคัดเนสซาร์​ก็​ทรงกริ้วจัดและเดือดพล่าน มี​รับสั่งให้นำตัวชัดรัค เมชาค และเอเบดเนโกเข้ามา แล​้วเขาก็นำคนเหล่านี้​เข​้ามาเฝ้ากษั​ตริ​ย์ เนบูคัดเนสซาร์ทรงกล่าวแก่เขาว่า “​โอ ชัดรัค เมชาค และเอเบดเนโกเอ๋ย เป็นความจริงหรือไม่​ที่​เจ้​ามิ​ได้​ปรนนิบัติ​พระของเรา หรือนมัสการปฏิมากรทองคำซึ่งเราได้ตั้งไว้ บัดนี้​ถ้าเจ้าพร้อมใจแล้ว พอเจ้าได้ยินเสียงแตรทองเหลืองขนาดเล็ก ปี่ พิณเขาคู่ พิณสี่​สาย พิณใหญ่ ปี่​ถุง และเครื่องดนตรี​ทุกชนิด เจ้​าจงกราบลงนมัสการปฏิมากรซึ่งเราได้สร้างไว้ แต่​ถ้าเจ้าไม่​นมัสการ จะต้องโยนเจ้าทั​นที​เข​้าไปในเตาที่ไฟลุกอยู่ และผู้ใดเล่าจะเป็นพระเจ้าที่จะช่วยให้​เจ้​าพ้นจากมือของเราได้” ชัดรัค เมชาค และเอเบดเนโกกราบทูลกษั​ตริ​ย์​ว่า “​โอ ข้าแต่เนบูคัดเนสซาร์ ข้าพระองค์ทั้งหลายไม่จำเป็นจะต้องตอบพระองค์ในเรื่องนี้ ถ้าพระเจ้าของพวกข้าพระองค์​ผู้​ซึ่งพวกข้าพระองค์​ปรนนิบัติ สามารถช่วยพวกข้าพระองค์​ให้​พ้นจากเตาที่ไฟลุกอยู่ โอ ข้าแต่​กษัตริย์ พระองค์​ก็​จะทรงช่วยพวกข้าพระองค์​ให้​พ้นพระหัตถ์ของพระองค์ แต่​ถ้าไม่เป็นเช่นนั้น โอ ข้าแต่​กษัตริย์ ขอพระองค์ทรงทราบว่า พวกข้าพระองค์จะไม่​ปรนนิบัติ​พระของพระองค์ หรือนมัสการปฏิมากรทองคำซึ่งพระองค์​ได้​ทรงตั้งขึ้น” แล​้วเนบูคัดเนสซาร์ทรงเกรี้ยวกราดยิ่งนัก พระพักตร์​ของพระองค์​ก็​เปล​ี่ยนไปไม่พอพระทัยชัดรัค เมชาค และเอเบดเนโก พระองค์​จึงรับสั่งให้ทำเตาไฟให้ร้อนกว่าที่เคยอีกเจ็ดเท่า และพระองค์รับสั่งให้บางคนที่​มี​กำลังมากที่สุดในกองทัพมามัดชัดรัค เมชาค และเอเบดเนโก และให้โยนเขาเข้าไปในเตาที่ไฟลุกอยู่ แล​้วคนเหล่านี้​ก็​ถู​กมัดไว้ทั้งเสื้อ กางเกง หมวก และเครื่องแต่งกายอื่นๆ และเขาก็​ถู​กโยนเข้าไปในเตาที่ไฟลุกอยู่ ฉะนั้นเพราะว่าคำรับสั่งของกษั​ตริ​ย์นั้นเข้มงวดมากและเตาไฟก็ร้อนจัด เปลวไฟจึงได้ฆ่าคนที่โยนชัดรัค เมชาค และเอเบดเนโก และชายทั้งสามนี้ คือชัดรัค เมชาค และเอเบดเนโกก็ตกลงไปกลางเตาไฟที่​ลุ​กอยู่ทั้งยั​งม​ั​ดอย​ู่ ขณะนั้นกษั​ตริ​ย์เนบูคัดเนสซาร์ประหลาดพระทัยทรงลุกขึ้นโดยฉับพลัน พระองค์​ตรัสกับองคมนตรีของพระองค์​ว่า “เรามัดสามคนโยนเข้าไปกลางไฟมิ​ใช่​หรือ​” เขาทูลตอบกษั​ตริ​ย์​ว่า “​โอ ข้าแต่​กษัตริย์ จร​ิงพระเจ้าข้า” พระองค์​ตรัสตอบว่า “​ดู​เถิด เราเห็นสี่คนถูกปล่อย กำลังเดินอยู่กลางไฟ และเขาทั้งหลายก็​ไม่เป็นอันตราย รู​ปร่างของคนที่​สี​่นั้นคล้ายคลึ​งก​ับพระบุตรของพระเจ้า” แล​้วเนบูคัดเนสซาร์เสด็จมาใกล้​ประตู​เตาที่ไฟลุกอยู่​นั้น ทรงกล่าวว่า “ชัดรัค เมชาค และเอเบดเนโก ผู้รับใช้​ของพระเจ้าสูงสุด จงออกมาเถิด จงมาที่​นี่​” แล​้วชัดรัค เมชาค และเอเบดเนโกก็เดินออกมาจากกลางไฟ ฝ่ายอุปราช ข้าหลวงภาค ผู้​ว่าราชการเมือง และองคมนตรีของกษั​ตริ​ย์​ก็​ห้อมล้อมเข้ามา เห​็​นว​่าไฟไม่​มี​อำนาจอะไรเหนือร่างกายของคนเหล่านี้ ผมที่ศีรษะของเขาก็​ไม่​งอ เสื้​อก​็​มิได้​เป็นอันตราย ไม่มี​กล​ิ่นไฟที่ตัวเขาทั้งหลายเลย เนบูคัดเนสซาร์ตรั​สว​่า “​สาธุ​การแด่พระเจ้าของชัดรัค เมชาค และเอเบดเนโก ผู้​ได้​ส่งทูตสวรรค์ของพระองค์มาช่วยผู้​รับใช้​ของพระองค์​ให้​พ้น ผู้​วางใจในพระองค์ กระทำให้พระบัญชาของกษั​ตริ​ย์เหลวไป และยอมพลีร่างกายของเขาเสียดีกว่าที่จะปรนนิบั​ติ​และนมัสการพระอื่น นอกจากพระเจ้าของเขาเอง เพราะฉะนั้นเราจึงออกกฤษฎี​กาว​่า ชนชาติ ประชาชาติ หรือภาษาใดๆที่​กล​่าวมิ​ดี​มิ​ร้ายต่อพระเจ้าของชัดรัค เมชาค และเอเบดเนโก จะถู​กห​ั่นเป็นชิ้นๆ และบ้านเรือนของเขาจะต้องเป็นกองขยะ เพราะว่าไม่​มี​พระเจ้าอื่​นที​่จะสามารถช่วยให้พ้นในทางนี้​ได้​” แล​้วกษั​ตริ​ย์​ได้​ทรงเลื่อนยศให้ชัดรัค เมชาค และเอเบดเนโกสูงขึ้​นอ​ีกในเมืองบาบิ​โลน

ดาเนียล 3:1-30 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ได้สร้างปฏิมากรรูปหนึ่งด้วยทองคำ สูงหกสิบศอก กว้างหกศอก ทรงตั้งไว้ ณ ที่ราบดูราในเมืองบาบิโลน แล้วกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์รับสั่งให้ประชุมอุปราช ข้าหลวงภาค ผู้ว่าราชการเมือง มนตรี นายคลัง ผู้พิพากษา ตุลาการ และบรรดาเจ้าหน้าที่ทั้งหลายของหัวเมือง ให้เข้ามาในงานฉลองปฏิมากรซึ่งกษัตริย์ เนบูคัดเนสซาร์ได้ทรงตั้งขึ้น แล้วอุปราช ข้าหลวงภาค ผู้ว่าราชการเมือง มนตรี นายคลัง ผู้พิพากษา ตุลาการ และบรรดาเจ้าหน้าที่ทั้งหลายของหัวเมือง ได้เข้ามาประชุมเพื่องานฉลองปฏิมากร ซึ่งกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ได้ทรงตั้งขึ้น และเขาทั้งหลายก็มายืนอยู่หน้าปฏิมากร ซึ่งกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ได้ทรงตั้งขึ้น และโฆษกก็ประกาศเสียงดังว่า <<ดูก่อนบรรดาชนชาติ ประชาชาติทั้งปวงและภาษาทั้งหลาย เมื่อท่านได้ยินเสียงเขาสัตว์ ปี่ พิณเขาคู่ พิณสี่สาย พิณใหญ่ ปี่ถุง และเครื่องดนตรีทุกชนิด ให้ท่านทั้งหลายกราบลงนมัสการปฏิมากรทองคำ ซึ่งกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ ได้ทรงตั้งไว้ ผู้ใดที่มิได้กราบลงนมัสการก็ ให้โยนผู้นั้นทันทีเข้าไปในเตาที่ไฟลุกอยู่>> เพราะฉะนั้นพอประชาชนได้ยินเสียงเขาสัตว์ ปี่ พิณเขาคู่ พิณสี่สาย พิณใหญ่ ปี่ถุง และเครื่องดนตรีทุกชนิด บรรดาชนชาติ ประชาชาติทั้งปวงและภาษาทั้งหลาย ก็กราบลงนมัสการปฏิมากรทองคำ ซึ่งกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ได้ทรงตั้งไว้ เพราะฉะนั้นในครั้งนั้นพวกเคลเดียบางคนมาเข้าเฝ้า และฟ้องพวกยิวด้วยใจคิดร้าย เขาทั้งหลายกราบทูลกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ว่า <<ข้าแต่พระราชา ขอทรงพระเจริญเป็นนิตย์ ข้าแต่พระราชา ฝ่าพระบาททรงออกกฤษฎีกาแล้วว่า ทุกคนผู้ได้ยินเสียงเขาสัตว์ ปี่ พิณเขาคู่ พิณสี่สาย พิณใหญ่ ปี่ถุง และเครื่องดนตรีทุกชนิด ก็ให้กราบลงนมัสการปฏิมากรทองคำ และผู้ใดที่ไม่กราบลงนมัสการก็ให้โยนเข้าไป ในเตาที่ไฟลุกอยู่ มียิวบางคนที่ฝ่าพระบาทได้แต่งตั้งให้จัด ธุรกิจในเมืองบาบิโลน คือชัดรัค เมชาคและเอเบดเนโก ข้าแต่พระราชา คนเหล่านี้ไม่เชื่อฟังฝ่าพระบาท เขามิได้ปฏิบัติพระของฝ่าพระบาท หรือนมัสการปฏิมากรทองคำซึ่งฝ่าพระบาทได้ทรงตั้งไว้>> แล้วเนบูคัดเนสซาร์ก็ทรงกริ้วจัด มีรับสั่งให้นำตัว ชัดรัค เมชาคและเอเบดเนโกเข้ามา แล้วเขาก็นำคนเหล่านี้ เข้ามาเฝ้าพระราชา เนบูคัดเนสซาร์ทรงกล่าวแก่เขาว่า <<ชัดรัค เมชาค และเอเบดเนโกเอ๋ย เป็นความจริงหรือไม่ ที่เจ้ามิได้ปรนนิบัติพระของเราหรือนมัสการปฏิมากร ทองคำซึ่งเราได้ตั้งไว้ เอาเถอะถ้าเจ้าพร้อมใจแล้ว พอเจ้าได้ยินเสียงเขาสัตว์ ปี่ พิณเขาคู่ พิณสี่สาย พิณใหญ่ ปี่ถุงและเครื่องดนตรีทุกชนิด เจ้าจงกราบลงนมัสการปฏิมากรซึ่งเราได้สร้างไว้ แต่ถ้าเจ้าไม่นมัสการ จะต้องโยนเจ้าทันทีเข้าไปในเตาที่ไฟลุกอยู่ และผู้ใดเล่าจะเป็นพระที่จะช่วยกู้ให้เจ้า พ้นจากมือของเราได้>> ชัดรัค เมชาค และเอเบดเนโกกราบทูลพระราชาว่า <<ข้าแต่เนบูคัดเนสซาร์ ข้าพระบาททั้งหลายไม่จำเป็นจะต้องตอบ ฝ่าพระบาทในเรื่องนี้ ถ้าพระเจ้าของพวกข้าพระบาทผู้ซึ่งพวกข้าพระบาท ปรนนิบัติ พอพระทัยจะช่วยกู้พวกข้าพระบาทให้พ้นจากเตาที่ไฟลุกอยู่ ข้าแต่พระราชา พระองค์ก็จะทรงช่วยกู้พวกข้าพระบาท ให้พ้นพระหัตถ์ของฝ่าพระบาท ถึงแม้ไม่เป็นเช่นนั้น ข้าแต่พระราชา ขอฝ่าพระบาททรงทราบว่าพวกข้าพระบาทก็ไม่ปรนนิบัติ พระของฝ่าพระบาท หรือนมัสการปฏิมากรทองคำซึ่งฝ่าพระบาทได้ทรงตั้งขึ้น>> แล้วเนบูคัดเนสซาร์ทรงเกรี้ยวกราดยิ่งนัก พระพักตร์ของพระองค์ก็เปลี่ยนไปไม่พอพระทัยชัดรัค เมชาคและเอเบดเนโก พระองค์รับสั่งให้ทำเตาไฟให้ร้อนกว่าที่เคยอีกเจ็ดเท่า และพระองค์รับสั่งให้บางคนที่มีกำลังมากใน กองทัพมามัดชัดรัค เมชาคและเอเบดเนโก และให้โยนเขาเข้าไปในเตาที่ไฟลุกอยู่ แล้วคนเหล่านี้ก็ถูกมัดไว้ทั้งเสื้อ กางเกง หมวก และเครื่องแต่งกายอื่นๆ และเขาก็ถูกโยนเข้าไปในเตาที่ไฟลุกอยู่ เพราะว่าคำรับสั่งของกษัตริย์นั้น เข้มงวดมากและเตาไฟก็ร้อนจัด เปลวไฟจึงได้ฆ่าคนที่โยนชัดรัค เมชาค และเอเบดเนโก และชายทั้งสามนี้ คือ ชัดรัค เมชาค และเอเบดเนโกก็ตกลงไปในเตาไฟที่ลุกอยู่ทั้งยังมัดอยู่ ขณะนั้นกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ประหลาด พระทัยทรงลุกขึ้นโดยฉับพลัน พระองค์ตรัสกับองคมนตรีของพระองค์ว่า <<เรามัดสามคนโยนเข้าไปในไฟมิใช่หรือ>> เขาทูลตอบพระราชาว่า <<ข้าแต่พระราชา จริงพระเจ้าข้า>> พระองค์ตรัสตอบว่า <<แต่เราเห็นสี่คนปล่อยหลุด กำลังเดินอยู่กลางไฟ และเขาทั้งหลายก็ไม่เป็นอันตราย รูปร่างของคนที่สี่นั้นคล้ายคลึงกับองค์เทพบุตร>> แล้วเนบูคัดเนสซาร์เสด็จมาใกล้ประตูเตาที่ไฟลุกอยู่นั้น ทรงกล่าวว่า <<ชัดรัค เมชาค และเอเบดเนโกผู้รับใช้ของพระเจ้าสูงสุด จงออกมาเถิด จงมาที่นี่>> แล้วชัดรัค เมชาคและเอเบดเนโกก็เดินออกมาจากไฟ ฝ่ายอุปราช และผู้ว่าราชการเมืองและองคมนตรีของพระราชาก็ ห้อมล้อมเข้ามา เห็นว่าไฟไม่มีอำนาจอะไรเหนือร่างกายของคนเหล่านี้ ผมที่ศีรษะของเขาก็ไม่งอ เสื้อก็มิได้เป็นอันตราย ไม่มีกลิ่นไฟที่ตัวเขาทั้งหลายเลย เนบูคัดเนสซาร์ตรัสว่า <<สาธุการแด่พระเจ้าของชัดรัค เมชาค และเอเบดเนโก ผู้ได้ส่งทูตสวรรค์ของพระองค์มาช่วยกู้ผู้รับใช้ของพระองค์ ผู้ที่วางใจในพระองค์ กระทำให้พระบัญชาของพระราชาเหลวไป และยอมพลีร่างกายของเขาเสียดีกว่าที่จะ ปรนนิบัติและนมัสการพระอื่น นอกจากพระเจ้าของเขาเอง เพราะฉะนั้นเราจึงออกกฤษฎีกาว่า ชนชาติ ประชาชาติ หรือภาษาใดๆที่กล่าวมิดีมิร้ายต่อพระเจ้าของชัดรัค เมชาค และเอเบดเนโก แขนขาต้องถูกทึ้งออกเสีย และบ้านเรือนของเขาจะต้องถูกทำลาย เพราะว่าไม่มีพระองค์อื่นที่จะสามารถช่วยกู้ในทางนี้ได้>> แล้วพระราชาได้ทรงเลื่อนยศให้ชัดรัค เมชาค และเอเบดเนโก สูงขึ้นอีกในเมืองบาบิโลน

ดาเนียล 3:1-30 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ ทรงสร้างเทวรูปทองคำสูงถึง 60 ศอก กว้าง 6 ศอกตั้งไว้ในที่ราบดูราในมณฑลบาบิโลน แล้วทรงให้เรียกเสนาบดี ข้าหลวงภาค ผู้ว่าการ ราชมนตรี ขุนคลัง ผู้พิพากษา ตุลาการ และเจ้าหน้าที่ของทุกมณฑลมาชุมนุมเพื่อร่วมงานฉลองเทวรูปซึ่งสถาปนาขึ้นนั้น คนเหล่านั้นก็มาร่วมฉลองและยืนอยู่หน้าเทวรูปที่กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ทรงสร้างขึ้น แล้วมีเสียงป่าวประกาศว่า “บรรดาพลเมืองทุกชาติทุกภาษา มีพระราชโองการว่า ทันทีที่พวกเจ้าได้ยินเสียงเขาสัตว์ ขลุ่ย พิณ พิณเขาคู่ พิณใหญ่ ปี่ และเสียงดนตรีทุกชนิด จงหมอบกราบลงนมัสการเทวรูปทองคำที่กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์สร้างขึ้น ผู้ใดก็ตามที่ไม่ยอมหมอบกราบลงนมัสการ จะถูกโยนเข้าไปในเตาไฟลุกโชนทันที” ฉะนั้นทันทีที่คนทั้งหลายได้ยินเสียงเขาสัตว์ ขลุ่ย พิณ พิณเขาคู่ พิณใหญ่ และเสียงดนตรีทุกชนิด พลเมืองทั้งปวงจากทุกชาติทุกภาษาก็หมอบกราบลงนมัสการเทวรูปทองคำที่กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ทรงสร้างขึ้น ในครั้งนั้นมีโหราจารย์บางคนมาทูลฟ้องกษัตริย์เรื่องชาวยิว พวกเขามาทูลเนบูคัดเนสซาร์ว่า “ข้าแต่กษัตริย์ ขอจงทรงพระเจริญ! ฝ่าพระบาททรงประกาศพระราชกฤษฎีกาว่า ทุกคนที่ได้ยินเสียงเขาสัตว์ ขลุ่ย พิณ พิณเขาคู่ พิณใหญ่ ปี่ และเสียงดนตรีทุกชนิด ให้หมอบกราบลงนมัสการเทวรูปทองคำ และผู้ใดที่ไม่ยอมหมอบกราบลงนมัสการจะถูกโยนเข้าไปในเตาไฟลุกโชนทันที แต่มีชาวยิวบางคนคือ ชัดรัค เมชาคและอาเบดเนโกที่ฝ่าพระบาททรงแต่งตั้งให้ดูแลมณฑลบาบิโลนนั้นไม่ยอมทำตามพระบัญชา เขาเหล่านั้นไม่กราบไหว้เทพเจ้าต่างๆ ของฝ่าพระบาท และไม่ยอมนมัสการเทวรูปทองคำที่ฝ่าพระบาททรงสร้างขึ้น” เนบูคัดเนสซาร์จึงทรงพระพิโรธยิ่งนัก และตรัสสั่งให้นำตัวชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกมาเข้าเฝ้า แล้วตรัสกับพวกเขาว่า “ชัดรัค เมชาคและอาเบดเนโก จริงหรือที่พวกเจ้าไม่ยอมปรนนิบัติเทพเจ้าของเรา หรือนมัสการเทวรูปทองคำที่เราสร้างขึ้น บัดนี้หากพวกเจ้าได้ยินเสียงเขาสัตว์ ขลุ่ย พิณ พิณเขาคู่ พิณใหญ่ ปี่ และเสียงดนตรีทุกชนิดประโคมขึ้นแล้ว ถ้าพวกเจ้าพร้อมที่จะหมอบกราบนมัสการเทวรูปที่เราสร้างขึ้นก็ดี แต่หากพวกเจ้าไม่นมัสการจะถูกโยนเข้าไปในเตาไฟลุกโชนทันที แล้วเทพเจ้าองค์ใดเล่าจะสามารถช่วยพวกเจ้าให้พ้นจากมือเราไปได้?” ชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกทูลกษัตริย์ว่า “ข้าแต่เนบูคัดเนสซาร์ ข้าพระบาททั้งหลายไม่จำเป็นต้องทูลแก้ต่างให้ตนเองต่อฝ่าพระบาทในเรื่องนี้ หากข้าพระบาทถูกโยนเข้าไปในเตาไฟลุกโชน ข้าแต่กษัตริย์ พระเจ้าที่ข้าพระบาททั้งหลายปรนนิบัตินั้นจะทรงกอบกู้และทรงช่วยข้าพระบาททั้งหลายให้พ้นจากเงื้อมพระหัตถ์ของฝ่าพระบาทได้ แต่ถึงแม้พระองค์ไม่ทรงช่วย ข้าแต่กษัตริย์ ก็ขอฝ่าพระบาททรงทราบเถิดว่า ข้าพระบาทจะไม่ยอมปรนนิบัติเทพเจ้าของฝ่าพระบาทหรือนมัสการเทวรูปทองคำที่ทรงตั้งขึ้นเป็นอันขาด” เนบูคัดเนสซาร์จึงทรงพระพิโรธชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกยิ่งนัก พระทัยที่เคยปรานีต่อพวกเขาก็เปลี่ยนไป และตรัสสั่งให้โหมไฟในเตาให้ร้อนแรงขึ้นอีกเจ็ดเท่า แล้วสั่งให้ทหารที่กำยำที่สุดในกองทัพจับชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกมามัดและโยนเข้าไปในเตาไฟลุกโชน พวกทหารจึงจับคนทั้งสามมัดและโยนเข้าไปในเตาไฟร้อนแรง ทั้งๆ ที่คนทั้งสามยังโพกผ้า สวมเสื้อ กางเกง และเครื่องแต่งกายอื่นๆ อยู่ คำสั่งของกษัตริย์เร่งด่วนมาก และเตาไฟก็ร้อนแรงจนเปลวไฟแลบออกมา แผดเผาเหล่าทหารที่จับชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกโยนเข้าไปในเตานั้นสิ้นชีวิต คนทั้งสามที่ถูกมัดไว้อย่างแน่นหนาก็ถูกโยนเข้าไปในเตาไฟลุกโชน แล้วกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ก็ทรงลุกขึ้นทันทีด้วยความประหลาดพระทัย และตรัสถามบรรดาราชมนตรีว่า “เรามัดสามคนโยนเข้าไปในเตาไฟไม่ใช่หรือ?” ราชมนตรีทูลว่า “ใช่แล้วพระเจ้าข้า” กษัตริย์ตรัสว่า “แต่ดูสิ เราเห็นสี่คนเดินอยู่ในเตาไฟ ไม่ได้ถูกมัดหรือเป็นอันตรายแต่อย่างใด และคนที่สี่นั้นก็ดูเหมือนเทพบุตร” เนบูคัดเนสซาร์จึงเสด็จไปที่ประตูของเตาไฟอันร้อนแรงนั้น และทรงร้องเรียกว่า “ชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกผู้รับใช้ของพระเจ้าสูงสุดเอ๋ย จงออกมาเถิด! จงออกมานี่!” ดังนั้นชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกจึงออกมาจากไฟ บรรดาเสนาบดี ข้าหลวงภาค ผู้ว่าการ และราชมนตรีต่างมาห้อมล้อมคนทั้งสาม เห็นว่าไฟไม่ได้ทำอันตรายร่างกายของเขาเลย ผมก็ไม่ได้ไหม้ไปแม้สักเส้น เสื้อผ้าก็ไม่ได้ถูกเผาไหม้ ไม่มีแม้แต่กลิ่นไหม้ เนบูคัดเนสซาร์จึงตรัสว่า “ขอสรรเสริญพระเจ้าของชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโก ผู้ทรงส่งทูตสวรรค์ของพระองค์มาช่วยผู้รับใช้ของพระองค์! พวกเขาไว้วางใจในพระเจ้า ละเมิดคำสั่งของกษัตริย์ และยอมตายเสียดีกว่ายอมปรนนิบัตินมัสการพระอื่นใดเว้นแต่พระเจ้าของตน ฉะนั้นเราขอประกาศกฤษฎีกาว่า ไม่ว่าพลเมืองชาติใดภาษาใดกล่าววาจาล่วงเกินพระเจ้าของชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกจะถูกฟันเป็นท่อนๆ และบ้านเรือนของเขาจะถูกพังทลายเป็นกองขยะ เพราะไม่มีเทพเจ้าอื่นใดสามารถช่วยได้ถึงเพียงนี้” แล้วกษัตริย์ทรงเลื่อนตำแหน่งให้ชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกให้สูงขึ้นในมณฑลบาบิโลน

ดาเนียล 3:1-30 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

กษัตริย์​เนบูคัดเนสซาร์​บัญชา​ให้​หล่อ​รูป​เคารพ​ทองคำ ซึ่ง​สูง 60 ศอก และ​กว้าง 6 ศอก และ​ให้​ตั้ง​ไว้​ที่​ที่​ราบ​ดูรา ใน​แคว้น​บาบิโลน และ​กษัตริย์​เนบูคัดเนสซาร์​เรียก​ประชุม​ผู้​ปกครอง​แคว้น เจ้าหน้าที่​ชั้น​สูง ผู้ว่า​ราชการ ที่​ปรึกษา ผู้​ดูแล​กอง​คลัง ผู้​ตัดสิน​ความ เจ้าหน้าที่​บังคับ​คดี และ​บรรดา​เจ้าหน้าที่​ของ​แคว้น​ต่างๆ เพื่อ​มา​งาน​ถวาย​รูป​เคารพ​ที่​กษัตริย์​เนบูคัดเนสซาร์​ตั้ง​ขึ้น ครั้น​แล้ว ผู้​ปกครอง​แคว้น เจ้าหน้าที่​ชั้น​สูง ผู้ว่า​ราชการ ที่​ปรึกษา ผู้​ดูแล​กอง​คลัง ผู้​ตัดสิน​ความ เจ้าหน้าที่​บังคับ​คดี และ​บรรดา​เจ้าหน้าที่​ของ​แคว้น​ต่างๆ จึง​มา​ร่วม​ประชุม​ใน​งาน​ถวาย​รูป​เคารพ​ที่​กษัตริย์​ได้​ตั้ง​ขึ้น และ​พวก​เขา​ก็​ยืน​ที่​เบื้อง​หน้า​รูป​เคารพ​นั้น ผู้​ประกาศ​ออก​เสียง​ดัง​ประกาศ​ว่า “โอ ทุก​ชน​ชาติ ทุก​ประชา​ชาติ และ​ทุก​ภาษา​เอ๋ย ท่าน​ได้​รับ​คำ​บัญชา​ดัง​นี้​คือ เมื่อ​ท่าน​ได้ยิน​เสียง​แตร​งอน ปี่ พิณ​เล็ก เครื่อง​สาย​รูป​สาม​เหลี่ยม พิณ​สิบ​สาย ปี่​สกอต และ​เสียง​ดนตรี​ทุก​ชนิด พวก​ท่าน​จะ​ต้อง​หมอบ​ลง​นมัสการ​รูป​เคารพ​ทองคำ​ที่​กษัตริย์​เนบูคัดเนสซาร์​ตั้ง​ขึ้น และ​ใคร​ก็​ตาม​ที่​ไม่​หมอบ​ลง​นมัสการ ก็​จะ​ถูก​โยน​ใน​เตา​เผา​ที่​มี​ไฟ​ลุก​โพลง” ดังนั้น ทันที​ที่​ชน​ชาติ​ทั้ง​ปวง​ได้ยิน​เสียง​แตร​งอน ปี่ พิณ​เล็ก เครื่อง​สาย​รูป​สาม​เหลี่ยม พิณ​สิบ​สาย ปี่​สกอต และ​เสียง​ดนตรี​ทุก​ชนิด ทุก​ชน​ชาติ ทุก​ประชา​ชาติ และ​ทุก​ภาษา​ก็​หมอบ​ลง​นมัสการ​รูป​เคารพ​ทองคำ​ที่​กษัตริย์​เนบูคัดเนสซาร์​ได้​ตั้ง​ขึ้น ขณะ​นั้น ชาว​เคลเดีย​บาง​คน​ถือ​โอกาส​กล่าว​หา​ว่า​ร้าย​ชาว​ยิว พวก​เขา​พูด​ว่า “โอ กษัตริย์ ขอ​ให้​ท่าน​มี​ชีวิต​ยิ่ง​ยืน​นาน​เถิด โอ กษัตริย์ ท่าน​ได้​ตั้ง​กฤษฎีกา​ไว้​ว่า ทุก​คน​ที่​ได้ยิน​เสียง​แตร​งอน ปี่ พิณ​เล็ก เครื่อง​สาย​รูป​สาม​เหลี่ยม พิณ​สิบ​สาย ปี่​สกอต และ​เสียง​ดนตรี​ทุก​ชนิด จะ​ต้อง​หมอบ​ลง​นมัสการ​รูป​เคารพ​ทองคำ​นั้น และ​ใคร​ก็​ตาม​ที่​ไม่​หมอบ​ลง​นมัสการ ก็​จะ​ถูก​โยน​ใน​เตา​เผา​ที่​มี​ไฟ​ลุก​โพลง มี​ชาว​ยิว​บาง​คน​ที่​ท่าน​ได้​แต่ง​ตั้ง​ให้​เป็น​ผู้​บริหาร​งาน​ของ​แคว้น​บาบิโลน​คือ ชัดรัค เมชาค และ​อาเบดเนโก โอ กษัตริย์ ชาย​เหล่า​นี้​ไม่​ได้​เชื่อฟัง​ท่าน พวก​เขา​ไม่​ได้​นมัสการ​ปวง​เทพเจ้า​ของ​ท่าน หรือ​นมัสการ​รูป​เคารพ​ทองคำ​ที่​ท่าน​ได้​ตั้ง​ขึ้น” เนบูคัดเนสซาร์​โกรธ​มาก จึง​สั่ง​ให้​นำ​ชัดรัค เมชาค และ​อาเบดเนโก มา​หา​ท่าน พวก​เขา​ถูก​นำ​มา​ยืน​ที่​เบื้อง​หน้า​กษัตริย์ เนบูคัดเนสซาร์​ถาม​พวก​เขา​ว่า “ชัดรัค เมชาค และ​อาเบดเนโก จริง​หรือ​นี่ ที่​พวก​เจ้า​ไม่​นมัสการ​บรรดา​เทพเจ้า​ของ​เรา และ​ไม่​นมัสการ​รูป​เคารพ​ทองคำ​ที่​เรา​ได้​ตั้ง​ขึ้น ต่อ​ไป​นี้ เมื่อ​ได้ยิน​เสียง​แตร​งอน ปี่ พิณ​เล็ก เครื่อง​สาย​รูป​สาม​เหลี่ยม พิณ​สิบ​สาย ปี่​สกอต และ​เสียง​ดนตรี​ทุก​ชนิด ถ้า​พวก​เจ้า​พร้อม​ที่​จะ​หมอบ​ลง​นมัสการ​รูป​เคารพ​ทองคำ​ที่​เรา​ให้​หล่อ​ไว้ ก็​จะ​ดี​มาก แต่​ถ้า​พวก​เจ้า​ไม่​นมัสการ เจ้า​จะ​ถูก​โยน​ใน​เตา​เผา​ที่​มี​ไฟ​ลุก​โพลง แล้ว​ผู้​ใด​เป็น​พระ​เจ้า​ที่​จะ​ช่วย​พวก​เจ้า​ให้​รอด​จาก​มือ​ของ​เรา​ได้” ชัดรัค เมชาค และ​อาเบดเนโก​ตอบ​กษัตริย์​ว่า “โอ เนบูคัดเนสซาร์ พวก​เรา​ไม่​จำเป็น​ต้อง​ตอบ​ท่าน​ใน​เรื่อง​ดัง​กล่าว ถ้า​จะ​ต้อง​เป็น​ไป​เช่น​นั้น พระ​เจ้า​ของ​พวก​เรา​ที่​เรา​นมัสการ​สามารถ​ช่วย​พวก​เรา​จาก​ไฟ​ที่​ลุก​โพลง และ​พระ​องค์​จะ​ช่วย​พวก​เรา​ให้​รอด​จาก​มือ​ของ​ท่าน​ผู้​เป็น​กษัตริย์ แต่​ว่า​ถ้า​ไม่​เป็น​อย่าง​นั้น โอ กษัตริย์ ขอ​ท่าน​รับ​ทราบ​ว่า พวก​เรา​จะ​ไม่​นมัสการ​บรรดา​เทพเจ้า​ของ​ท่าน และ​ไม่​นมัสการ​รูป​เคารพ​ทองคำ​ที่​ท่าน​ได้​ตั้ง​ขึ้น​แน่” แล้ว​เนบูคัดเนสซาร์​จึง​โกรธ ชัดรัค เมชาค และ​อาเบดเนโก​ยิ่ง​นัก ความ​รู้สึก​ที่​มี​ต่อ​พวก​เขา​ก็​เปลี่ยน​ไป ท่าน​สั่ง​ให้​ติด​ไฟ​ที่​เตา​เผา​ให้​ร้อน​กว่า​ปกติ​เป็น 7 เท่า และ​ท่าน​สั่ง​บรรดา​นัก​รบ​ผู้​กล้า​หาญ​ให้​มัด​ตัว​ชัดรัค เมชาค และ​อาเบดเนโก และ​โยน​ทั้ง​สาม​คน​ลง​ใน​เตา​เผา​ที่​มี​ไฟ​ลุก​โพลง ดังนั้น ชาย​เหล่า​นั้น​ถูก​มัด​ทั้ง​ยัง​สวม​เสื้อ​คลุม เสื้อ​ยาว​ชั้น​ใน หมวก และ​เครื่อง​แต่ง​กาย​ชิ้น​อื่น แล้ว​ก็​ถูก​โยน​ลง​ใน​เตา​เผา​ที่​ลุก​โพลง เพราะ​คำ​สั่ง​ของ​กษัตริย์​เด็ดขาด เตา​เผา​จึง​ร้อน​จัด​มาก เปลว​ไฟ​เผา​ไหม้​ตัว​นัก​รบ​ที่​คุม​ตัว​ชัดรัค เมชาค และ​อาเบดเนโก​จน​สิ้น​ชีวิต ส่วน​ชาย​ทั้ง​สาม​คน​คือ ชัดรัค เมชาค และ​อาเบดเนโก​ที่​ถูก​มัด​ตัว​ก็​ตก​ลง​ใน​เตา​เผา​ที่​มี​ไฟ​ลุก​โพลง กษัตริย์​เนบูคัดเนสซาร์​ตก​ตะลึง​ถึง​กับ​ลุก​ขึ้น​ยืน​ทันที ท่าน​ถาม​บรรดา​ที่​ปรึกษา​ของ​ท่าน​ว่า “พวก​เรา​โยน​ชาย 3 คน​ที่​ถูก​มัด​ตัว​ลง​ใน​เตา​ไฟ​มิ​ใช่​หรือ” พวก​เขา​ตอบ​กษัตริย์​ว่า “เป็น​เช่น​นั้น​จริงๆ โอ กษัตริย์” ท่าน​ตอบ​ว่า “แต่​ว่า​เรา​เห็น​ชาย 4 คน​เดิน​อยู่​กลาง​เปลว​ไฟ แก้​มัด​แล้ว​ด้วย ทั้ง​สี่​คน​ก็​ไม่​เป็น​อันตราย และ​ดู​เหมือน​ว่า คน​ที่​สี่​ดู​ราว​กับ​บุตร​ของ​เทพเจ้า” ดังนั้น เนบูคัดเนสซาร์​จึง​ไป​ใกล้​ประตู​เตา​เผา​ที่​มี​ไฟ​ลุก​โพลง และ​พูด​ว่า “ชัดรัค เมชาค และ​อาเบดเนโก​บรรดา​ผู้​รับใช้​ของ​พระ​เจ้า​ผู้​สูง​สุด จง​ออก​มา​ที่​นี่​เถิด” ชัดรัค เมชาค และ​อาเบดเนโก​จึง​ออก​มา​จาก​กอง​ไฟ ฝ่าย​ผู้​ปกครอง​แคว้น เจ้าหน้าที่​ชั้น​สูง ผู้ว่า​ราชการ และ​ที่​ปรึกษา​ของ​กษัตริย์ ต่าง​ก็​มา​ห้อมล้อม​และ​เห็น​ว่า​ไฟ​ไม่​ได้​ทำ​อันตราย​ต่อ​ร่าง​กาย​ของ​ชาย​ทั้ง​สาม ผม​ก็​ไม่​ไหม้ เสื้อ​คลุม​ไม่​ถูก​ไฟ​เผา และ​ไม่​มี​แม้​แต่​กลิ่น​ควัน​ไฟ​ติด​ตัว​พวก​เขา​เลย เนบูคัดเนสซาร์​พูด​ว่า “ขอ​พระ​เจ้า​ของ​ชัดรัค เมชาค และ​อาเบดเนโก​ได้​รับ​พระ​พร​เถิด พระ​องค์​ได้​ส่ง​ทูต​สวรรค์​มา​ช่วย​บรรดา​ผู้​รับใช้​ที่​วาง​ใจ​ใน​พระ​องค์ พวก​เขา​ไม่​ปฏิบัติ​ตาม​คำ​สั่ง​ของ​ข้าพเจ้า และ​ยอม​สละ​ชีวิต​แทน​ที่​จะ​นมัสการ​เทพเจ้า​ใดๆ นอก​จาก​พระ​เจ้า​ของ​พวก​เขา​เท่า​นั้น ฉะนั้น ข้าพเจ้า​ออก​กฤษฎีกา​ว่า ทุก​ชน​ชาติ ทุก​ประชา​ชาติ และ​ภาษา​ใด​ก็​ตาม​ที่​พูด​ถึง​สิ่ง​ที่​ขัด​แย้ง​ต่อ​พระ​เจ้า​ของ​ชัดรัค เมชาค และ​อาเบดเนโก จะ​ถูก​ตัด​เป็น​ท่อนๆ และ​บ้าน​เรือน​ของ​พวก​เขา​ก็​จะ​ถูก​พัง​ทลาย​ไป เพราะ​ว่า​ไม่​มี​เทพเจ้า​ใดๆ ที่​สามารถ​ช่วย​ให้​พ้น​ภัย​อย่าง​นี้​ได้” แล้ว​กษัตริย์​ก็​เลื่อน​ตำแหน่ง​ให้​แก่​ชัดรัค เมชาค และ​อาเบดเนโก ใน​แคว้น​บาบิโลน