อาโมส 8:1-14
อาโมส 8:1-14 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
พระยาห์เวห์แสดงสิ่งนี้ให้ผมเห็น คือผลไม้ที่สุกงอมตะกร้าหนึ่ง พระยาห์เวห์พูดว่า “อาโมส เจ้าเห็นอะไร” ผมตอบว่า “ผลไม้ที่สุกงอมตะกร้าหนึ่งครับ” แล้วพระยาห์เวห์ก็พูดกับผมว่า “จุดจบ มาถึงอิสราเอลคนของเราแล้ว เราจะไม่ยอมยกโทษให้กับพวกเขาอีกต่อไป ในวันนั้น เสียงร้องเพลงต่างๆในวิหารจะกลายเป็นเสียงร้องไห้คร่ำครวญ” พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนั้น “จะมีซากศพมากมาย และผู้คนก็จะมาขนพวกมันไปทิ้งอย่างเงียบๆในที่ทุกหนแห่ง” ฟังให้ดีเจ้าที่ชอบเหยียบย่ำคนจน และพยายามกำจัดพวกเขาให้หมดไปจากแผ่นดิน เจ้าพูดว่า “เมื่อไหร่เทศกาลพระจันทร์ใหม่จะหมดนะ เราจะได้ไปขายข้าวสารของเราซะที เมื่อไหร่วันหยุดทางศาสนาจะหมดนะ เราจะได้เปิดคลังข้าวสารของเราออกขาย เราจะทำถ้วยตวงให้เล็กกว่าปกติ ทำลูกตุ้มให้หนักกว่ามาตรฐานและโกงตราชั่ง เราจะเอาแกลบมาผสมข้าวสารขาย แล้วเราจะเอาเงินซื้อคนจนมาเป็นทาส และซื้อคนที่ขัดสนด้วยราคาเท่ากับรองเท้าสานคู่เดียว” พระยาห์เวห์ ที่คนอิสราเอลภาคภูมิใจนั้น พระองค์สาบานโดยอ้างชื่อของพระองค์เองว่า “เราจะไม่มีวันลืมความชั่วร้ายทั้งหลายที่พวกเขาทำลงไป แผ่นดินจะสะท้านเพราะสิ่งที่เจ้าทำนี้ และทุกคนที่อยู่บนแผ่นดินนั้นก็จะเศร้าโศกเสียใจ ทั้งแผ่นดินก็จะเอ่อท่วมท้นขึ้นมาเหมือนแม่น้ำไนล์ และจะซัดไปซัดมา สุดท้ายก็จมลงเหมือนแม่น้ำไนล์ในอียิปต์” พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิตพูดว่า “ในวันนั้นเราจะทำให้ดวงอาทิตย์ตกในตอนเที่ยงวัน และจะทำให้โลกนี้มืดมนไปตอนกลางวัน เราจะเปลี่ยนการเฉลิมฉลองของเจ้าให้กลายเป็นเวลาเศร้าหมอง และเปลี่ยนเสียงเพลงของเจ้าให้กลายเป็นเพลงไว้ทุกข์ เราจะทำให้เจ้าต้องสวมใส่ผ้ากระสอบรอบเอวของเจ้าทุกคน และจะทำให้พวกเจ้าต้องโกนหัวเพราะเศร้าโศกเสียใจ เราจะทำให้ความเศร้าโศกนั้นเหมือนเศร้าโศกที่สูญเสียลูกชายเพียงคนเดียวไป วันเวลานั้นจะขมขื่นถึงที่สุด” พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิตพูดว่า “ดูสิ วันเหล่านั้นกำลังจะมาแล้ว เป็นวันที่เราจะส่งความอดอยากหิวโหยมาในแผ่นดินนี้ มันไม่ใช่ความอดอยากหิวโหยอาหารและก็ไม่ใช่ความกระหายน้ำด้วย แต่จะเป็นความอดอยากหิวโหยโอกาสที่จะได้ฟังพระคำของพระยาห์เวห์ พวกเขาท่องไปจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียนไปจนถึงทะเลตาย และท่องจากเหนือจดตะวันออก พวกเขาจะท่องกลับไปกลับมาเพื่อแสวงหาพระคำของพระยาห์เวห์ แต่พวกเขาก็จะหาไม่เจอ ในวันนั้น หญิงสาวสวยๆและคนหนุ่มๆ ก็จะเป็นลมล้มพับไปเพราะความกระหาย และพวกนั้นที่สาบานว่าจะทำโน่นทำนี่โดยอ้างพระรูปปั้นของสะมาเรีย อ้างพระเจ้าของดาน อ้างพระเจ้าของเบเออร์เชบา คนที่สาบานพวกนี้จะล้มลงและจะไม่ได้ลุกขึ้นมาอีกเลย”
อาโมส 8:1-14 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
พระเจ้าทรงสำแดงแก่ข้าพเจ้าดังนี้ว่า ดูเถิด มีกระจาดผลไม้ฤดูร้อนกระจาดหนึ่ง และพระองค์ตรัสว่า <<อาโมส เจ้าเห็นอะไร>> และข้าพเจ้าทูลว่า <<ผลไม้ฤดูร้อนกระจาดหนึ่งพระเจ้าข้า>> แล้วพระเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า <<วันสิ้นสุดมาถึงอิสราเอลประชากรของเราแล้ว เราจะไม่ผ่านเขาไปอีกเลย>> พระเจ้าตรัสว่า <<ในวันนั้น เสียงเพลงในพระวิหารจะเป็นเสียงร่ำไห้ จะมีศพมากมายทุกแห่ง ทิ้งไว้เงียบๆ>> ท่านผู้เหยียบย่ำคนขัดสน ท่านผู้ทำลายคนยากจนแห่งแผ่นดิน จงฟังถ้อยคำนี้ โดยกล่าวว่า <<เมื่อไรหนอ วันขึ้นค่ำจะหมดไป เราจะได้ขายข้าวของเรา เมื่อไรหนอวันสะบาโตจะพ้นไป เราจะได้เอาข้าวสาลีออกขาย เราจะได้กระทำทะนานให้ย่อมลงและกระทำเชเขลให้โตขึ้น และหลอกค้าด้วยตาชั่งขี้ฉ้อ เพื่อเราจะได้ซื้อคนจนด้วยเงิน และซื้อคนขัดสนด้วยรองเท้าสานคู่หนึ่ง และขายกากข้าวสาลี>> โดยศักดิ์ศรีของยาโคบ พระเจ้าทรงปฏิญาณว่า <<แน่นอนทีเดียว เราจะไม่ลืมการกระทำของเขาสักอย่างเดียวเป็นนิตย์ แผ่นดินจะไม่หวั่นไหวเพราะเรื่องนี้หรือ ทุกคนที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินนั้นจะไม่ไว้ทุกข์หรือ และแผ่นดินนั้นทั้งหมดก็เอ่อขึ้นมาอย่างแม่น้ำไนล์ ถูกซัดไปซัดมาและยุบลงอีกเหมือนแม่น้ำไนล์แห่งอียิปต์มิใช่หรือ>> พระเจ้าตรัสว่า <<และในวันนั้น เราจะกระทำให้ดวงอาทิตย์ตกในเวลาเที่ยงวัน กระทำให้โลกมืดไปในกลางวันแสกๆ เราจะให้การเลี้ยงของเจ้าทั้งหลายกลับเป็นการไว้ทุกข์ และให้เสียงเพลงทั้งสิ้นของเจ้าเป็นคำคร่ำครวญ เราจะนำผ้ากระสอบมาที่เอวของคนทั้งหลาย และศีรษะทั่วไปก็จะล้าน และเราจะกระทำให้เป็นเหมือนการไว้ทุกข์ให้ บุตรชายคนเดียวของเขา และวาระสุดท้ายก็จะให้เหมือนวันที่ขมขื่น พระเจ้าตรัสว่า <<ดูเถิด วันเวลาก็มาถึง เมื่อเราจะส่งทุพภิกขภัยมาที่แผ่นดิน ไม่ใช่การอดอาหาร หรือการกระหายน้ำ แต่จะอดฟังพระวจนะของพระเจ้า เขาทั้งหลายจะท่องเที่ยวจากทะเลนี้ไปทะเลโน้น และจากทิศเหนือไปทิศตะวันออก เขาทั้งหลายจะวิ่งไปวิ่งมา เพื่อแสวงหาพระวจนะของพระเจ้า แต่เขาจะหาไม่พบ <<ในวันนั้น สาวพรหมจารีสวยๆ และคนหนุ่ม จะสลบไสลเพราะความกระหาย บรรดาผู้ที่สาบานออกนามพระอาชิมาห์แห่งสะมาเรีย และกล่าวว่า <โอ ดานเอ๋ย พระของท่านมีชีวิตอยู่แน่ฉันใด> และว่า <พระมรรคาของเบเออร์เชบามีชีวิตอยู่แน่ฉันใด> เขาเหล่านี้จะล้มลง และจะไม่ลุกขึ้นอีกเลย>>
อาโมส 8:1-14 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
พระยาห์เวห์องค์เจ้านายทรงสำแดงแก่ข้าพเจ้า นี่แน่ะ มีกระจาดผลไม้ฤดูร้อนกระจาดหนึ่ง และพระองค์ตรัสว่า “อาโมสเอ๋ย เจ้าเห็นอะไร?” และข้าพเจ้าทูลว่า “ผลไม้ฤดูร้อน กระจาดหนึ่งพระเจ้าข้า” แล้วพระยาห์เวห์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า “วันสิ้นสุดมาถึงอิสราเอลประชากรของเราแล้ว เราจะไม่อภัยโทษเขาอีก” พระยาห์เวห์องค์เจ้านายตรัสว่า “ในวันนั้น เสียงเพลงในพระวิหารจะเป็นเสียงร่ำไห้ จะมีศพมากมายทิ้งไว้ทุกแห่ง จุ๊ จุ๊ จงเงียบ เจ้าผู้เหยียบย่ำคนขัดสน เจ้าผู้ทำลายคนยากจนแห่งแผ่นดิน จงฟังถ้อยคำนี้ เจ้ากล่าวว่า ‘เมื่อไรหนอ วันขึ้นค่ำจะหมดไป? เราจะได้ขายข้าวของเรา เมื่อไรหนอ วันสะบาโตจะพ้นไป? เราจะได้เอาข้าวออกขาย เราจะได้โกงตาชั่งและโกงเงิน และปรับแต่งเครื่องชั่งให้ฉ้อโกง เพื่อเราจะซื้อคนจนด้วยเงิน และซื้อคนขัดสนด้วยรองเท้าคู่เดียว และขายกากข้าว’ ” พระยาห์เวห์ผู้ซึ่งยาโคบเทิดทูน ทรงปฏิญาณโดยพระองค์เองว่า “เราจะไม่มีวันลืมการกระทำทุกอย่างของเขาแน่นอน แผ่นดินจะไม่หวั่นไหวเพราะเรื่องนี้หรือ? ทุกคนที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินนั้นจะไม่ไว้ทุกข์หรือ? และแผ่นดินนั้นทั้งหมดก็ยกตัวขึ้นมาอย่างแม่น้ำไนล์ ถูกซัดไปซัดมาและยุบลงอีกเหมือนแม่น้ำไนล์แห่งอียิปต์ไม่ใช่หรือ?” พระยาห์เวห์องค์เจ้านายตรัสว่า “ในวันนั้น เราจะทำให้ดวงอาทิตย์ตกในเวลาเที่ยงวัน ทำให้โลกมืดไปในเวลากลางวันแสกๆ เราจะให้งานเลี้ยงของเจ้าทั้งหลายกลับเป็นการไว้ทุกข์ และให้เสียงเพลงทั้งสิ้นของเจ้าเป็นเพลงคร่ำครวญ เราจะให้พวกเจ้าสวมผ้ากระสอบ และโกนศีรษะกันทุกคน และเราจะทำให้เป็นเหมือนคนไว้ทุกข์ให้บุตรชายคนเดียวของเขา และวาระสุดท้ายก็จะให้เหมือนวันที่ขมขื่น” พระยาห์เวห์องค์เจ้านายตรัสว่า “นี่แน่ะ วันเวลาก็มาถึง เมื่อเราจะส่งความกันดารมาที่แผ่นดิน ไม่ใช่กันดารอาหาร หรือกระหายน้ำ แต่จะเป็นการกันดารพระวจนะของพระยาห์เวห์ พวกเขาจะเดินโซเซจากทะเลนี้ไปทะเลโน้น และจากทิศเหนือไปทิศตะวันออก เขาจะวิ่งไปวิ่งมา เพื่อแสวงหาพระวจนะของพระยาห์เวห์ แต่จะหาไม่พบ “ในวันนั้น สาวพรหมจารีที่งดงามและคนหนุ่ม จะสลบไสลเพราะความกระหาย บรรดาผู้ที่สาบานออกนามพระอาชิมาห์แห่งสะมาเรีย และกล่าวว่า ‘โอ ดานเอ๋ย พระของท่านมีชีวิตอยู่แน่ฉันใด’ และว่า ‘พระแห่งเบเออร์เชบามีชีวิตอยู่แน่ฉันใด’ เขาเหล่านี้จะล้มลง และจะลุกขึ้นไม่ได้อีกเลย”
อาโมส 8:1-14 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าทรงสำแดงแก่ข้าพเจ้าดังนี้ว่า ดูเถิด มีกระจาดผลไม้ฤดูร้อนกระจาดหนึ่ง และพระองค์ตรัสว่า “อาโมส เจ้าเห็นอะไร” และข้าพเจ้าทูลว่า “ผลไม้ฤดูร้อนกระจาดหนึ่ง พระเจ้าข้า” แล้วพระเยโฮวาห์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า “วันสิ้นสุดมาถึงอิสราเอลประชาชนของเราแล้ว เราจะไม่ผ่านเขาไปอีกเลย” องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าตรัสว่า “ในวันนั้น เสียงเพลงในพระวิหารจะเป็นเสียงร่ำไห้ จะมีศพมากมายทุกแห่งทิ้งไว้เงียบๆ” โอ ท่านผู้เหยียบย่ำคนขัดสน ท่านผู้ทำลายคนยากจนแห่งแผ่นดิน จงฟังถ้อยคำนี้ โดยกล่าวว่า “เมื่อไรหนอวันขึ้นค่ำจะหมดไป เราจะได้ขายข้าวของเรา เมื่อไรหนอวันสะบาโตจะพ้นไป เราจะได้เอาข้าวสาลีออกขาย เราจะได้กระทำเอฟาห์ให้ย่อมลง และกระทำเชเขลให้โตขึ้น และหลอกค้าด้วยตาชั่งขี้ฉ้อ เพื่อเราจะได้ซื้อคนจนด้วยเงิน และซื้อคนขัดสนด้วยรองเท้าสานคู่หนึ่ง เออ และขายกากข้าวสาลี” โดยศักดิ์ศรีของยาโคบ พระเยโฮวาห์ทรงปฏิญาณว่า “แน่นอนทีเดียว เราจะไม่ลืมการกระทำของเขาสักอย่างเดียวเป็นนิตย์ แผ่นดินจะไม่หวั่นไหวเพราะเรื่องนี้หรือ ทุกคนที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินนั้นจะไม่ไว้ทุกข์หรือ และแผ่นดินนั้นทั้งหมดก็เอ่อขึ้นมาอย่างแม่น้ำ ถูกซัดไปซัดมาและยุบลงอีก เหมือนแม่น้ำแห่งอียิปต์มิใช่หรือ” องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าตรัสว่า “และต่อมาในวันนั้นเราจะกระทำให้ดวงอาทิตย์ตกในเวลาเที่ยงวัน กระทำให้โลกมืดไปในกลางวันแสกๆ เราจะให้การเลี้ยงของเจ้าทั้งหลายกลับเป็นการไว้ทุกข์ และให้เสียงเพลงทั้งสิ้นของเจ้าเป็นคำคร่ำครวญ เราจะนำผ้ากระสอบมาที่เอวของคนทั้งหลาย และศีรษะทั่วไปก็จะล้าน และเราจะกระทำให้เป็นเหมือนการไว้ทุกข์ให้บุตรชายคนเดียวของเขา และวาระสุดท้ายก็จะให้เหมือนวันที่ขมขื่น” องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าตรัสว่า “ดูเถิด วันเวลาก็มาถึง เมื่อเราจะส่งทุพภิกขภัยมาที่แผ่นดิน ไม่ใช่การอดอาหาร หรือการกระหายน้ำ แต่จะอดฟังพระวจะของพระเยโฮวาห์ เขาทั้งหลายจะท่องเที่ยวจากทะเลนี้ไปทะเลโน้น และจากทิศเหนือไปทิศตะวันออก เขาทั้งหลายจะวิ่งไปวิ่งมาเพื่อแสวงหาพระวจนะของพระเยโฮวาห์ แต่เขาจะหาไม่พบ ในวันนั้น สาวพรหมจารีสวยๆและคนหนุ่มจะสลบไสลเพราะความกระหาย บรรดาผู้ที่ปฏิญาณโดยความบาปแห่งสะมาเรีย และกล่าวว่า ‘โอ ดานเอ๋ย พระของท่านมีชีวิตอยู่แน่ฉันใด’ และว่า ‘พระมรรคาของเบเออร์เชบามีชีวิตอยู่แน่ฉันใด’ เขาเหล่านี้จะล้มลง และจะไม่ลุกขึ้นอีกเลย”
อาโมส 8:1-14 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตทรงสำแดงให้ข้าพเจ้าเห็นผลไม้สุกกระจาดหนึ่ง พระองค์ตรัสถามว่า “อาโมส เจ้าเห็นอะไร?” ข้าพเจ้าทูลว่า “ผลไม้สุกงอมกระจาดหนึ่งพระเจ้าข้า” แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า “วันเวลาสุกงอมแล้วสำหรับอิสราเอลประชากรของเรา เราจะไม่ละเว้นพวกเขาอีกต่อไป” พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศว่า “ในวันนั้นบทเพลงต่างๆ ในพระวิหารจะเปลี่ยนเป็นเสียงร่ำไห้ ซากศพจะเกลื่อนกลาดอยู่ทุกแห่ง! และมีแต่ความเงียบสงัด!” ฟังเถิดเจ้าผู้เหยียบย่ำคนขัดสน และกำจัดคนยากไร้ในดินแดน เจ้ากล่าวว่า “เมื่อใดหนอจะหมดวันขึ้นหนึ่งค่ำ เราจะได้ขายข้าวเสียที เมื่อใดหนอจะหมดวันสะบาโต เราจะได้ขายข้าวสาลีเสียที?” เจ้าโกงด้วยการทำให้ตาชั่งหย่อน โก่งราคา และโกงตาชั่ง เจ้าซื้อคนยากไร้ด้วยเงิน แลกคนขัดสนด้วยรองเท้าคู่เดียว และขายข้าวสาลีปนข้าวเลว องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงปฏิญาณโดยอ้างองค์ศักดิ์สิริแห่งยาโคบว่า “เราจะไม่มีวันลืมสิ่งที่เขาทำแม้แต่อย่างเดียว “ด้วยเหตุนี้แผ่นดินจะไม่สั่นสะท้าน และผู้คนในนั้นจะไม่ไว้ทุกข์หรือ? ทั่วทั้งแผ่นดินจะเอ่อท้นขึ้นเหมือนแม่น้ำไนล์ ถูกกวนให้เกิดความปั่นป่วน แล้วก็จมลงเหมือนแม่น้ำอียิปต์” พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศว่า “ในวันนั้น เราจะทำให้ดวงอาทิตย์ตกตอนเที่ยงวัน และโลกมืดมิดทั้งๆ ที่ยังกลางวันแสกๆ เราจะเปลี่ยนเทศกาลทางศาสนาของเจ้าให้เป็นการไว้ทุกข์ และการร้องเพลงทั้งปวงของเจ้าให้เป็นการร่ำไห้ เราจะทำให้พวกเจ้าทุกคนสวมเสื้อผ้ากระสอบ และโกนผม เราจะทำให้ช่วงเวลานั้นเป็นเหมือนช่วงไว้ทุกข์ให้ลูกโทน และให้วาระสุดท้ายเป็นดั่งวันอันขมขื่น” พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศว่า “วันเวลานั้นจะมาถึง เมื่อเราจะให้เกิดการกันดารอาหารทั่วแผ่นดิน ไม่ใช่หิวหาอาหารหรือกระหายหาน้ำ แต่หิวกระหายอยากฟังพระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้า ผู้คนจะซมซานจากทะเลนี้ไปทะเลนั้น และระเหเร่ร่อนจากเหนือไปตะวันออก เสาะแสวงหาพระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้า แต่พวกเขาจะไม่พบ “ในวันนั้น “หญิงสาวน่ารักและชายหนุ่มแข็งแรง จะเป็นลมเพราะความกระหาย ผู้ที่สาบานโดยอ้างรูปเคารพอันน่าละอายของสะมาเรีย หรือพูดว่า ‘ดานเอ๋ย พระของเจ้ามีชีวิตอยู่แน่ฉันใด’ หรือ ‘เทพเจ้าแห่งเบเออร์เชบามีชีวิตอยู่แน่ฉันใด’ พวกเขาจะล้มลง และไม่ได้ลุกขึ้นมาอีกเลย”
อาโมส 8:1-14 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
นี่คือภาพที่พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ให้ข้าพเจ้าแลเห็น ตะกร้าผลไม้สุก 1 ตะกร้า พระองค์กล่าวดังนี้ว่า “อาโมส เจ้ามองเห็นอะไร” ข้าพเจ้าตอบว่า “ตะกร้าผลไม้สุก” และพระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับข้าพเจ้าดังนี้ว่า “การสิ้นสุดได้มาถึงอิสราเอล ชนชาติของเราแล้ว เราจะไม่ปล่อยพวกเขาไว้อีกต่อไป ในวันนั้น เพลงในวิหาร จะกลายเป็นการร้องไห้ฟูมฟาย” พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนี้ “มีร่างคนตายมากมาย พวกเขาถูกโยนไว้เกลื่อนกลาด จงเงียบเถิด” ฉะนั้น จงฟังเถิด พวกท่านที่เหยียบย่ำผู้ยากไร้ และทำให้ผู้ถูกข่มเหงของแผ่นดินจบชีวิตลง พวกท่านคิดในใจดังนี้ว่า “เมื่อไหร่ยามข้างขึ้นจะผ่านพ้นไปเสียที พวกเราจะได้ขายธัญพืช และเมื่อไหร่วันสะบาโตจะผ่านพ้นไปเสียที พวกเราจะได้ประกาศขายข้าวสาลี เพื่อพวกเราจะได้ลดปริมาณน้ำหนักเอฟาห์ให้น้อยลง เพิ่มราคาเชเขลให้มากขึ้น และโกงด้วยตาชั่งที่ไม่เที่ยงตรง เพื่อเราจะได้ซื้อผู้ขัดสนด้วยเงิน และซื้อผู้ยากไร้ด้วยรองเท้าคู่เดียว และขายได้แม้แต่เศษข้าวสาลี” พระผู้เป็นเจ้าปฏิญาณด้วยความภูมิใจของยาโคบดังนี้ว่า “เราจะไม่มีวันลืมการกระทำของพวกเขาอย่างแน่นอน แผ่นดินจะไม่สั่นสะเทือนเพราะเหตุนี้หรือ ทุกคนที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินจะไม่ร้องคร่ำครวญหรือ ทั้งแผ่นดินจะเอ่อขึ้นอย่างแม่น้ำไนล์ และจะถูกซัดและจมดิ่งลงอีกอย่างแม่น้ำของอียิปต์” พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนี้ “ในวันนั้น เราจะทำให้ดวงอาทิตย์ตกเวลาเที่ยงวัน และทำให้โลกมืดลงในเวลากลางวัน เราจะทำให้งานฉลองเทศกาลกลับกลายเป็นการร้องคร่ำครวญ และการร้องเพลงของพวกเจ้ากลับกลายเป็นการร้องรำพัน เราจะให้พวกเจ้าทุกคนคาดเอวด้วยผ้ากระสอบ และให้ศีรษะของพวกเจ้าทุกคนล้าน เราจะทำให้เวลานั้นเป็นเหมือนการร้องคร่ำครวญถึงบุตรชายเพียงคนเดียว และจบสิ้นด้วยวันอันขมขื่น” พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนี้ “ดูเถิด วันเวลาดังกล่าวกำลังจะมาถึง เมื่อเราจะก่อให้เกิดการอดอยากทั่วทั้งแผ่นดิน ไม่ใช่อดอยากอาหารหรือกระหายน้ำ แต่จะอดอยากเรื่องการได้ยินคำกล่าวของพระผู้เป็นเจ้า ผู้คนจะเร่ร่อนจากทะเลแห่งหนึ่งจรดทะเลอีกแห่งหนึ่ง และจากทิศเหนือจนถึงทิศตะวันออก พวกเขาจะวิ่งไปมาเพื่อแสวงหาคำกล่าวของพระผู้เป็นเจ้า แต่พวกเขาก็จะไม่พบ ในวันนั้น พรหมจาริณีรูปงามและชายหนุ่มร่างกำยำ จะสลบจากการกระหายน้ำ บรรดาผู้ที่สาบานด้วยรูปเคารพ ที่น่าอับอายของสะมาเรีย หรือผู้ที่พูดว่า ‘โอ เมืองดานเอ๋ย ตราบที่เทพเจ้าของเจ้ามีชีวิตอยู่’ หรือพูดว่า ‘ตราบที่เทพเจ้าของเบเออร์เช-บามีชีวิตอยู่’ พวกเขาจะล้มลงและไม่มีวันลุกขึ้นอีก”