กิจการ 7:20-43

กิจการ 7:20-43 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

โมเสส​เกิด​มา​ใน​ช่วง​นั้น เขา​เป็น​เด็ก​ที่​พิเศษ​มาก เขา​ได้รับ​การ​เลี้ยงดู​อยู่​ใน​บ้าน​พ่อ​ของ​เขา​จน​อายุ​ครบ​สาม​เดือน แล้ว​ก็​ถูก​นำ​ไป​ทิ้ง​ข้าง​นอก ลูกสาว​ของ​ฟาโรห์​เก็บ​เขา​ได้ และ​เอา​ไป​เลี้ยง​เป็น​ลูก โมเสส​จึง​ได้รับ​การ​สั่งสอน​วิชา​ความรู้​ทั้งหมด​ของ​ชาว​อียิปต์ และ​เขา​ก็​เป็น​คน​ที่​เก่งกาจ​มาก​ทั้ง​ใน​ด้าน​คำ​พูด​และ​การ​กระทำ​ต่างๆ เมื่อ​โมเสส​มี​อายุ​ได้​สี่สิบ​ปี เขา​ตัดสิน​ใจ​ไป​เยี่ยม​เยียน​พี่น้อง​ชาว​อิสราเอล​ของ​เขา เมื่อ​เขา​เห็น​ชาว​อิสราเอล​คน​หนึ่ง​ถูก​ชาว​อียิปต์​คน​หนึ่ง​รังแก เขา​ก็​เข้า​ไป​ช่วย​และ​ได้​ฆ่า​ชาย​ชาว​อียิปต์​คน​นั้น​เป็น​การ​แก้แค้น โมเสส​คิด​ว่า​พี่น้อง​ชาว​อิสราเอล​คง​รู้​แล้ว​ว่า​พระเจ้า​จะ​ใช้​เขา​มา​ปลดปล่อย​ให้​พวก​เขา​เป็น​อิสระ แต่​กลาย​เป็น​ว่า​ชาว​อิสราเอล​ไม่​รู้​เรื่อง​เลย พอ​วันรุ่งขึ้น​โมเสส​ผ่าน​มา​เห็น​ชาว​อิสราเอล​สอง​คน​กำลัง​ทะเลาะ​กัน เขา​พยายาม​เข้า​ไป​ไกล่เกลี่ย​ให้​คืน​ดี​กัน โดย​พูด​ว่า ‘นี่ คุณ​เป็น​พี่น้อง​กัน ทำไม​ถึง​ทำร้าย​กัน​ล่ะ’ แต่​ชาย​คน​ที่​ทำร้าย​เพื่อน​บ้าน​ของ​ตน​ได้​ผลัก​โมเสส​ออก​ไป แล้ว​พูด​ว่า ‘ใคร​ตั้ง​ให้​แก​เป็น​ผู้ปกครอง​และ​ผู้ตัดสิน​เรา แก​จะ​ฆ่า​เรา​เหมือน​ที่​ฆ่า​คน​อียิปต์​เมื่อวานนี้​หรือ’ เมื่อ​โมเสส​ได้ยิน​อย่าง​นั้น ก็​หนี​ไป​อาศัย​อยู่​ใน​ดินแดน​มีเดียน​ใน​ฐานะ​คน​ต่าง​ชาติ และ​เขา​ก็​มี​ลูกชาย​สอง​คน​ที่​นั่น สี่สิบ​ปี​ผ่าน​ไป ทูตสวรรค์​มา​ปรากฏ​ให้​โมเสส​เห็น​ใน​เปลว​ไฟ​ที่​ลุก​อยู่​ใน​พุ่มไม้​ใน​ที่​เปล่า​เปลี่ยว​แห้งแล้ง ใกล้​ภูเขา​ซีนาย เมื่อ​โมเสส​เห็น​ก็​แทบ​ไม่​เชื่อ​สายตา​ตัวเอง เมื่อ​เขา​เดิน​เข้า​ไป​ใกล้ๆ​เพื่อ​จะ​ได้​เห็น​ชัดๆ​ก็​ได้ยิน​เสียง​ของ​องค์​เจ้า​ชีวิต​พูด​ว่า ‘เรา​คือ​พระเจ้า​ของ​บรรพบุรุษ​ของ​เจ้า พระเจ้า​ของ​อับราฮัม อิสอัค และ​ยาโคบ’ โมเสส​กลัว​จน​ตัว​สั่น​ไม่​กล้า​มอง​ที่​พุ่มไม้ แล้ว​องค์​เจ้า​ชีวิต พูด​กับ​โมเสส​อีก​ว่า ‘ถอด​รองเท้า เพราะ​ที่​ที่​เจ้า​ยืน​อยู่นี้​เป็น​พื้นที่​ศักดิ์สิทธิ์ เรา​ได้​เห็น​ชาว​อียิปต์​ข่มเหง​ประชาชน​ของ​เรา และ​ได้ยิน​เสียง​ร้อง​คร่ำครวญ​ของ​พวก​เขา เรา​จึง​ลง​มา​เพื่อ​ปลดปล่อย​ให้​พวก​เขา​เป็น​อิสระ มา​สิ เรา​จะ​ส่ง​เจ้า​ไป​อียิปต์’ โมเสส​คนนี้​แหละ​ที่​ถูก​ชาว​อิสราเอล​พูด​ตอก​หน้า​มา​ว่า ‘ใคร​ตั้ง​แก​ให้​เป็น​ผู้ปกครอง​และ​ผู้ตัดสิน​เรา’ เขา​เป็น​คน​ที่​พระเจ้า​ส่ง​มา​ให้​เป็น​ผู้ปกครอง​และ​ผู้ช่วย​ชีวิต​ชาว​อิสราเอล โดย​พระเจ้า​ได้​พูด​ผ่าน​ทาง​ทูตสวรรค์​ที่​ได้​มา​ปรากฏ​ให้​เขา​เห็น​ใน​พุ่มไม้​ไฟ โมเสส​คือ​คน​ที่​นำ​ชาว​อิสราเอล​ออก​มา เขา​ทำ​สิ่ง​อัศจรรย์​และ​ปาฏิหาริย์​ต่างๆ​ใน​ดิน​แดน​อียิปต์​ที่​ทะเล​แดง และ​ใน​ที่​เปล่า​เปลี่ยว​แห้งแล้ง​เป็น​เวลา​ถึง​สี่สิบ​ปี เขา​คือ​โมเสส​คน​นั้น​ที่​พูด​กับ​ประชาชน​ชาว​อิสราเอล​ว่า ‘พระเจ้า​จะ​ส่ง​ผู้​พูด​แทน​พระเจ้า​เหมือน​อย่าง​ผม​ให้​กับ​ท่าน​ทั้งหลาย ผู้​พูด​แทน​พระเจ้า​คนนี้​จะ​มา​จาก​ท่าม​กลาง​พี่​น้อง​ของ​ท่าน’ เขา​คือ​โมเสส​คน​นั้น​ที่​อยู่​กับ​หมู่​ชน​ชาว​อิสราเอล​ใน​ที่​เปล่า​เปลี่ยว​แห้งแล้ง เขา​อยู่​กับ​บรรพบุรุษ​ของ​เรา​และ​อยู่​กับ​ทูตสวรรค์​ที่​พูด​กับ​เขา​บน​ภูเขา​ซีนาย เขา​เป็น​คน​รับ​ถ้อยคำ​แห่ง​ชีวิต​ของ​พระเจ้า​มา​ให้​เรา แต่​บรรพบุรุษ​ของ​เรา​ไม่​ยอม​เชื่อฟัง​เขา และ​ไม่​ยอมรับ​เขา ใน​จิตใจ​บรรพบุรุษ​เรา​คิด​แต่​จะ​กลับ​ไป​อียิปต์ พวก​เขา​พูด​กับ​อาโรน​ว่า ‘ช่วย​สร้าง​พวก​เทพเจ้า​ให้​มา​นำทาง​เรา​ด้วย เพราะ​ไม่​รู้​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น​กับ​โมเสส​คน​ที่​นำ​เรา​ออก​มา​จาก​อียิปต์’ ใน​เวลา​นั้น​พวก​เขา​ปั้น​รูป​ลูก​วัว​ขึ้น​มา และ​เซ่น​ไหว้​รูปปั้น​นั้น พวก​เขา​เฉลิม​ฉลอง​สิ่ง​ที่​พวก​เขา​ปั้น​ขึ้น​มา​กับ​มือ แต่​พระเจ้า​หัน​หน้า​หนี​พวก​เขา และ​พระองค์​ปล่อย​ให้​พวก​เขา​กราบ​ไหว้​หมู่​ดาว​ใน​ท้องฟ้า​ตาม​ที่​มี​เขียน​ไว้​แล้ว​ใน​หนังสือ​ของ​ผู้​พูด​แทน​พระเจ้า​ว่า ‘ประชาชน​ชาว​อิสราเอล​ทั้งหลาย สัตว์​ที่​พวก​เจ้า​ฆ่า​แล้ว​เอา​มา​บูชายัญ​ใน​ที่​เปล่า​เปลี่ยว​แห้งแล้ง​เป็น​เวลา​ถึง​สี่สิบ​ปี​นั้น พวก​เจ้า​ไม่​ได้​บูชา​ให้​กับ​เรา​หรอก พวก​เจ้า​แบก​เต็นท์​ของ​พระโมเลค และ​เอา​ดวง​ดาว​ของ​เทพเจ้า​เรฟาน​ของ​พวก​เจ้า​มา​ด้วย ของ​พวกนี้​เป็น​รูป​บูชา​ที่​พวก​เจ้า​ทำ​ขึ้น​มา​กราบ​ไหว้ ดังนั้น​เรา​จะ​ส่ง​พวก​เจ้า​ให้​ไป​เป็น​เชลย​ไกล​พ้น​เมือง​บาบิโลน​ไป​อีก’

กิจการ 7:20-43 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

เป็นเวลาเดียวกับที่โมเสสเกิดมา มีรูปร่างงดงามเฉพาะพระพักตร์พระเจ้า เขาจึงถูกเลี้ยงไว้ในบ้านบิดาจนครบสามเดือน แต่หลังจากถูกทิ้งไว้นอกบ้านแล้ว ราชธิดาของฟาโรห์ก็รับมาเลี้ยงเสมือนเป็นบุตรของตน โมเสสจึงได้รับการสอนในเรื่องวิชาการทุกอย่างของชาวอียิปต์ มีสมรรถภาพในการพูดและในกิจการต่างๆ “เมื่อโมเสสมีอายุย่างเข้าสี่สิบปี ก็นึกอยากไปเยี่ยมญาติพี่น้องของตนคือชนชาติอิสราเอล เมื่อท่านเห็นคนหนึ่งถูกข่มเหง จึงเข้าไปช่วยโดยฆ่าชาวอียิปต์ซึ่งเป็นผู้ข่มเหงนั้นเพื่อแก้แค้น เพราะคิดว่าญาติพี่น้องคงเข้าใจดีว่า พระเจ้าจะทรงช่วยพวกเขาให้รอดด้วยมือของตน แต่พวกเขาไม่เข้าใจอย่างนั้น วันรุ่งขึ้นโมเสสเข้ามาพบเขาทั้งสองขณะวิวาทกัน ก็อยากให้เขาทั้งสองกลับคืนดีกัน จึงกล่าวว่า ‘เพื่อนเอ๋ยพวกท่านเป็นพี่น้องกัน ทำไมถึงทำร้ายกัน?’ คนที่ข่มเหงเพื่อนก็ผลักโมเสสออกไป และกล่าวว่า ‘ใครตั้งเจ้าให้เป็นผู้ครอบครองและผู้พิพากษาของเรา? เจ้าจะฆ่าข้าเหมือนกับที่ฆ่าชาวอียิปต์เมื่อวานนี้หรือ?’ เมื่อโมเสสได้ยินคำพูดนั้น จึงหนีไปอาศัยอยู่ที่แผ่นดินมีเดียนและมีบุตรสองคนที่นั่น “เมื่อเวลาผ่านไปได้สี่สิบปี ทูตสวรรค์องค์หนึ่งมาปรากฏแก่โมเสสในเปลวไฟที่พุ่มไม้ในถิ่นทุรกันดารของภูเขาซีนาย เมื่อโมเสสเห็นก็อัศจรรย์ใจเพราะนิมิตนั้น เมื่อเข้าไปดูใกล้ๆ ก็ได้ยินพระสุรเสียงของพระเจ้าตรัสว่า ‘เราเป็นพระเจ้าของบรรพบุรุษของเจ้า คือพระเจ้าของอับราฮัม ของอิสอัค และของยาโคบ’ โมเสสจึงกลัวจนตัวสั่นไม่กล้ามองดู พระเจ้าตรัสกับโมเสสว่า ‘จงถอดรองเท้าออก เพราะที่ที่เจ้ายืนอยู่นี้เป็นที่ศักดิ์สิทธิ์ อันที่จริงเราเห็นความทุกข์ของชนชาติของเราที่อยู่ในประเทศอียิปต์แล้ว และเราได้ยินเสียงคร่ำครวญของเขาทั้งหลาย เราจึงลงมาเพื่อช่วยพวกเขาให้รอด มาเถอะ เราจะใช้เจ้าไปยังประเทศอียิปต์’ “โมเสสคนนี้ที่เคยถูกพวกเขาปฏิเสธ โดยกล่าวว่า ‘ใครตั้งเจ้าให้เป็นผู้ครอบครองและผู้พิพากษาของเรา’ นั้นเอง โดยมือของทูตสวรรค์ผู้ซึ่งปรากฏแก่ท่านที่พุ่มไม้ พระเจ้าทรงใช้โมเสสคนนี้แหละ ไปเป็นผู้ครอบครองและผู้ช่วยกู้ คนนี้แหละที่เป็นผู้นำพวกเขาออกมา และทำการอัศจรรย์และหมายสำคัญต่างๆ ในแผ่นดินอียิปต์ ที่ทะเลแดง และในถิ่นทุรกันดารสี่สิบปี โมเสสคนนี้แหละที่กล่าวกับชนชาติอิสราเอลว่า ‘พระเจ้าจะประทานผู้เผยพระวจนะผู้หนึ่งเกิดมาเพื่อท่านทั้งหลาย จากพี่น้องของพวกท่าน เหมือนอย่างข้าพเจ้า’ โมเสสคนนี้แหละที่อยู่ในชุมนุมชนในถิ่นทุรกันดาร อยู่กับทูตสวรรค์ผู้พูดกับท่านที่ภูเขาซีนาย และอยู่กับบรรพบุรุษของเรา ท่านได้รับพระดำรัสอันทรงชีวิตเพื่อส่งต่อมาให้เรา บรรพบุรุษของเราไม่ยอมฟังโมเสส แต่ผลักไสท่านออกไป และหันเหจิตใจกลับไปยังแผ่นดินอียิปต์ พวกเขากล่าวกับอาโรนว่า ‘ขอสร้างพระให้แก่เรา เป็นพระที่จะนำเราไป เพราะว่าโมเสสคนนี้ ที่เป็นคนนำเราออกจากประเทศอียิปต์นั้น เราไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไรไป’ ในเวลานั้นพวกเขาทำรูปโคหนุ่ม และนำเครื่องสัตวบูชามาถวายแก่รูปนั้น และมีใจยินดีในสิ่งที่พวกเขาทำขึ้นด้วยมือ แต่พระเจ้าเบือนพระพักตร์และทรงปล่อยให้พวกเขานมัสการหมู่ดาวในท้องฟ้า ตามที่มีเขียนไว้ในหนังสือของบรรดาผู้เผยพระวจนะว่า ‘โอ พงศ์พันธุ์อิสราเอล พวกเจ้าฆ่าสัตว์บูชาเรา ในถิ่นทุรกันดารถึงสี่สิบปีหรือ? พวกเจ้าขนเต็นท์ของพระโมเลค และนำดาวพระเรฟาน รูปพระต่างๆ ที่พวกเจ้าทำขึ้น เพื่อกราบนมัสการรูปนั้นต่างหาก เราจะกวาดพวกเจ้าไปไกลจนพ้น เมืองบาบิโลน’

กิจการ 7:20-43 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

คราวนั้นโมเสสเกิดมามี​รู​ปร่างงดงาม เขาจึงได้เลี้ยงไว้ในบ้านบิดาจนครบสามเดือน และเมื่อลู​กอ​่อนนั้นถูกทิ้งไว้นอกบ้านแล้ว ราชธิดาของฟาโรห์จึงรับมาเลี้ยงไว้ต่างบุตรชายของตน ฝ่ายโมเสสจึงได้​เรียนรู้​ในวิชาการทุกอย่างของชาวอียิปต์ มี​ความเฉียบแหลมมากในการพูดและกิจการต่างๆ แต่​ครั้นโมเสสมี​อายุ​ได้​สี​่​สิ​บปีเต็มแล้ว ก็​นึกอยากจะไปเยี่ยมญาติ​พี่​น้องของตน คือชนชาติ​อิสราเอล เมื่อท่านได้​เห​็นคนหนึ่งถูกข่มเหงจึงเข้าไปช่วย โดยฆ่าชาวอียิปต์ซึ่งเป็นผู้​กดขี่​นั้นเป็นการแก้​แค้น ด้วยคาดว่าญาติ​พี่​น้องคงเข้าใจว่า พระเจ้าจะทรงช่วยเขาให้รอดด้วยมือของตน แต่​เขาหาเข้าใจดังนั้นไม่ วั​นร​ุ่งขึ้นโมเสสได้​เข​้ามาพบเขาขณะวิ​วาทก​ัน ก็​อยากจะให้เขากลั​บด​ีกั​นอ​ีก จึงกล่าวว่า ‘เพื่อนเอ๋ย ท่านเป็นพี่น้องกัน ไฉนจึงทำร้ายกันเล่า’ ฝ่ายคนที่ข่มเหงเพื่อนนั้นจึงผลักโมเสสออกไปและกล่าวว่า ‘ใครแต่งตั้งเจ้าให้เป็นผู้ครอบครองและผู้พิพากษาพวกเรา เจ้​าจะฆ่าเราเสียเหมือนฆ่าชาวอียิปต์เมื่อวานนี้​หรือ​’ เมื่อโมเสสได้ยินคำนั้นจึงหนีไปอาศัยอยู่​ที่​แผ่​นดิ​นม​ีเดียน และให้กำเนิดบุตรชายสองคนที่​นั่น ครั้นล่วงไปได้​สี​่​สิ​บปี​แล้ว ทูตสวรรค์​องค์​หน​ึ่งขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาปรากฏแก่โมเสสในเปลวไฟที่​พุ่มไม้ ในถิ่นทุ​รก​ันดารแห่งภูเขาซี​นาย เมื่อโมเสสเห็​นก​็ประหลาดใจด้วยเรื่องนิ​มิ​ตน​ั้น ครั้นเข้าไปดู​ใกล้​ๆก็​มี​พระสุรเสียงขององค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับเขา ว่า ‘เราเป็นพระเจ้าของบรรพบุรุษของเจ้า เป็นพระเจ้าของอับราฮัม เป็นพระเจ้าของอิสอัค และเป็นพระเจ้าของยาโคบ’ โมเสสจึงกลัวจนตัวสั่นไม่อาจมองดู ฝ่ายองค์พระผู้เป็นเจ้าจึงตรัสกับโมเสสว่า ‘จงถอดรองเท้าของเจ้าออกเสีย เพราะว่าที่ซึ่งเจ้ายืนอยู่​นี้​เป็​นที​่​บริสุทธิ์ ดู​เถิด เราได้​เห​็นความทุกข์ของชนชาติของเราที่​อยู่​ในประเทศอียิปต์​แล้ว และเราได้ยินเสียงคร่ำครวญของเขา และเราลงมาเพื่อจะช่วยเขาให้​รอด จงมาเถิด เราจะใช้​เจ้​าไปยังประเทศอียิปต์’ โมเสสผู้​นี้​ซึ่งถูกเขาปฏิเสธโดยกล่าวว่า ‘ใครแต่งตั้งเจ้าให้เป็นผู้ครอบครองและผู้พิพากษาพวกเรา’ โดยมือของทูตสวรรค์ซึ่งได้ปรากฏแก่ท่านที่​พุ่มไม้ พระเจ้าทรงใช้โมเสสคนนี้แหละให้เป็นทั้งผู้ครอบครองและผู้ช่วยให้​พ้น คนนี้​แหละ เป็นผู้นำเขาทั้งหลายออกมา โดยที่​ได้​ทำการมหัศจรรย์และหมายสำคัญต่างๆในแผ่นดิ​นอ​ียิปต์ ที่​ทะเลแดงและในถิ่นทุ​รก​ันดารสี่​สิ​บปี โมเสสคนนี้แหละได้​กล​่าวแก่​ชนชาติ​อิสราเอลว่า ‘​องค์​พระผู้เป็นเจ้าผู้เป็นพระเจ้าของท่านทั้งหลายจะทรงโปรดประทานศาสดาพยากรณ์​ผู้​หนึ่ง เหมือนอย่างเราให้​แก่​ท่านจากจำพวกพี่น้องของท่าน ท่านทั้งหลายจงเชื่อฟังผู้​นั้น​’ โมเสสนี้แหละได้​อยู่​กับพลไพร่ในถิ่นทุ​รก​ันดารกั​บท​ูตสวรรค์ซึ่งได้ตรัสแก่ท่านที่​ภู​เขาซี​นาย และอยู่กับบรรพบุรุษของเรา ที่​ได้​รับพระดำรัสอันทรงชีวิตมาให้เราทั้งหลาย บรรพบุรุษของเราไม่ยอมเชื่อฟังโมเสสผู้​นี้ แต่​ได้ผล​ักไสท่านให้ไปจากเขา ด้วยมีใจปรารถนาจะกลับไปยังแผ่นดิ​นอ​ียิปต์ จึงกล่าวแก่อาโรนว่า ‘ขอสร้างพระให้​แก่​พวกข้าพเจ้า ซึ่งจะนำพวกข้าพเจ้าไป ด้วยว่าโมเสสคนนี้​ที่​ได้​นำข้าพเจ้าออกมาจากประเทศอียิปต์เป็นอะไรไปเสียแล้ว ข้าพเจ้าไม่​ทราบ​’ ในคราวนั้นเขาทั้งหลายได้ทำรูปโคหนุ่ม และได้นำเครื่องสัตวบูชามาถวายแก่​รู​ปน​ั้น และมีใจยินดีในสิ่งซึ่​งม​ือของตนเองได้ทำขึ้น แต่​พระเจ้าทรงหันพระพักตร์ไปเสียและปล่อยให้เขานมัสการหมู่ดาวในท้องฟ้า ตามที่​มี​เข​ียนไว้ในพระคัมภีร์​แห่​งศาสดาพยากรณ์​ว่า ‘​โอ วงศ์​วานอิสราเอลเอ๋ย เจ้​าได้ฆ่าสัตวบูชาเราและถวายเครื่องบูชาให้​แก่​เราในถิ่นทุ​รก​ันดารถึงสี่​สิ​บปี​หรือ แล​้วเจ้าทั้งหลายได้หามพลับพลาของพระโมเลค และได้เอาดาวพระเรฟาน รู​ปพระที่​เจ้​าได้กระทำขึ้นเพื่อกราบนมัสการรู​ปน​ั้นต่างหาก เราจึงจะกวาดเจ้าทั้งหลายให้ไปอยู่พ้นเมืองบาบิโลนอีก’

กิจการ 7:20-43 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

คราวนั้นโมเสสเกิดมามีรูปร่างงดงามเฉพาะพระพักตร์พระเจ้า เขาจึงได้เลี้ยงไว้ในบ้านบิดาจนครบสามเดือน และเมื่อลูกอ่อนคนนั้นถูกทิ้งไว้นอกบ้านแล้ว ราชธิดาของฟาโรห์จึงรับมาเลี้ยงไว้ต่างบุตรของตน ฝ่ายโมเสสจึงได้รับการสอนในวิชาการทุกอย่างของชาวอียิปต์ มีสมรรถภาพในการพูดและกิจการต่างๆ <<แต่ครั้นโมเสสมีอายุย่างเข้าสี่สิบปี ก็นึกอยากจะไปเยี่ยมญาติพี่น้องของตน คือชนชาติอิสราเอล เมื่อท่านได้เห็นคนหนึ่งถูกข่มเหง จึงเข้าไปช่วยโดยฆ่าชาวอียิปต์ซึ่งเป็นผู้กดขี่นั้น เป็นการแก้แค้น ด้วยคาดว่าญาติพี่น้องคงเข้าใจว่า พระเจ้าจะทรงช่วยเขาให้รอดด้วยมือของตน แต่เขาหาเข้าใจดังนั้นไม่ วันรุ่งขึ้นโมเสสได้เข้ามาพบเขาขณะวิวาทกัน ก็อยากจะให้เขากลับดีกันอีก จึงกล่าวว่า <เพื่อนเอ๋ย ท่านเป็นพี่น้องกัน ไฉนจึงทำร้ายกันเล่า> ฝ่ายคนที่ข่มเหงเพื่อนนั้น จึงผลักโมเสสออกไป และกล่าวว่า <ใครได้ตั้งเจ้าให้เป็นผู้ครอบครองและผู้พิพากษาพวกเรา เจ้าจะฆ่าเราเสียเหมือนฆ่าชาวอียิปต์เมื่อวานนี้หรือ> เมื่อโมเสสได้ยินคำนั้น จึงหนีไปอาศัยอยู่ที่แผ่นดินมีเดียน และมีบุตรสองคนที่นั่น <<ครั้นล่วงไปได้สี่สิบปี ทูตองค์หนึ่งของพระเจ้ามาปรากฏแก่โมเสสในเปลวไฟที่พุ่มไม้ ในถิ่นทุรกันดารแห่งภูเขาซีนาย เมื่อโมเสสเห็นก็ประหลาดใจด้วยเรื่องนิมิตนั้น ครั้นเข้าไปดูใกล้ๆก็มีพระสุรเสียงของพระเจ้าตรัสว่า <เราเป็นพระเจ้าของบรรพบุรุษของเจ้า คือพระเจ้าของอับราฮัม ของอิสอัคและของยาโคบ> โมเสสจึงกลัวจนตัวสั่นไม่อาจมองดู ฝ่ายพระเจ้าตรัสกับโมเสสว่า <จงถอดรองเท้าออกเสียเถิด เพราะที่ซึ่งเจ้ายืนอยู่นี้เป็นที่ศักดิ์สิทธิ์ แท้จริงเราได้เห็นความทุกข์ของชนชาติของเราที่อยู่ในประเทศอียิปต์แล้ว และเราได้ยินเสียงคร่ำครวญของเขา เราจึงลงมาเพื่อจะได้ช่วยเขาให้รอด มาเถิด เราจะให้เจ้าไปยังประเทศอียิปต์> <<โมเสสผู้นี้ซึ่งถูกเขาปฏิเสธ โดยกล่าวว่า <ใครได้ตั้งเจ้าให้เป็นผู้ครอบครองและผู้พิพากษาพวกเรา> โดยมือของทูตสวรรค์ ซึ่งได้ปรากฏแก่ท่านที่พุ่มไม้ พระเจ้าทรงใช้โมเสสคนนี้แหละ ให้เป็นทั้งผู้ครอบครองและผู้ช่วยให้พ้น คนนี้แหละเป็นผู้นำเขาทั้งหลายออกมา โดยที่ได้ทำการอัศจรรย์และทำการเป็นนิมิตในแผ่นดินอียิปต์ ที่ทะเลแดง และในถิ่นทุรกันดารสี่สิบปี โมเสสคนนี้แหละได้กล่าวแก่ชนชาติอิสราเอลว่า <พระเจ้าจะทรงประทานผู้เผยพระวจนะผู้หนึ่งให้เกิดมาเพื่อท่าน จากพี่น้องของท่าน เหมือนอย่างที่ให้ข้าพเจ้าเกิดมา> โมเสสนี้แหละได้อยู่ในชุมนุมชนในถิ่นทุรกันดาร กับทูตสวรรค์ซึ่งได้บอกแก่ท่านที่ภูเขาซีนายและอยู่กับบรรพบุรุษของเรา ที่ได้รับพระดำรัสอันทรงชีวิตมาให้เราทั้งหลาย บรรพบุรุษของเราไม่ยอมฟังโมเสสผู้นี้ แต่ได้ผลักไสท่านให้ไปจากเขา ด้วยมีใจปรารถนาจะกลับไปยังแผ่นดินอียิปต์ จึงกล่าวแก่อาโรนว่า <ขอสร้างพระให้แก่พวกข้าพเจ้า ซึ่งจะนำพวกข้าพเจ้าไป ด้วยว่าโมเสสคนนี้ ที่ได้นำข้าพเจ้าออกจากประเทศอียิปต์ เป็นอะไรไปเสียแล้วข้าพเจ้าไม่ทราบ> ในคราวนั้นเขาทั้งหลายได้ทำรูปโคหนุ่ม และได้นำเครื่องสัตวบูชามาถวายแก่รูปนั้น และมีใจยินดีในสิ่งซึ่งมือของตนเองได้ทำขึ้น แต่พระเจ้าทรงหันพระพักตร์ไปเสีย และปล่อยให้เขานมัสการหมู่ดาวในท้องฟ้า ตามที่มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์แห่งผู้เผยพระวจนะว่า โอ พงศ์พันธุ์อิสราเอล เจ้าได้ฆ่าสัตว์บูชาเรา ในถิ่นทุรกันดารถึงสี่สิบปีหรือ พวกเจ้าได้ขนเอาเต็นท์ของพระโมเลค และได้เอาดาวพระเรฟาน รูปพระที่เจ้าได้กระทำขึ้นเพื่อกราบนมัสการรูปนั้นต่างหาก เราจึงจะกวาดเจ้าทั้งหลายให้ไปอยู่พ้นเมืองบาบิโลนอีก

กิจการ 7:20-43 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

“ครั้งนั้นโมเสสเกิดมามีลักษณะพิเศษกว่าเด็กทั่วไป จึงได้รับการเลี้ยงดูในบ้านบิดาของเขาจนอายุสามเดือน เมื่อถูกนำไปทิ้งไว้นอกบ้านพระธิดาของฟาโรห์ก็ได้รับไปเลี้ยงดูเป็นโอรสของตน โมเสสได้รับการศึกษาในวิชาความรู้ทั้งปวงของอียิปต์ ทรงอำนาจทั้งด้านวาจาและการกระทำ “เมื่อโมเสสอายุสี่สิบปีก็ตัดสินใจไปเยี่ยมเยียนอิสราเอลพี่น้องร่วมชาติ เขาเห็นชาวอิสราเอลคนหนึ่งถูกชาวอียิปต์รังแกก็เข้าไปป้องกันและแก้แค้นแทนโดยฆ่าชาวอียิปต์คนนั้น โมเสสคิดว่าพี่น้องร่วมชาติของตนจะตระหนักว่าพระเจ้าทรงใช้เขาให้มาช่วยพวกเขาแต่พวกเขาไม่ได้ตระหนักเช่นนั้น วันรุ่งขึ้นโมเสสพบชาวอิสราเอลสองคนกำลังต่อสู้กันจึงพยายามไกล่เกลี่ยโดยกล่าวว่า ‘เพื่อนเอ๋ย พวกท่านเป็นพี่น้องกัน มาทำร้ายกันเองทำไม?’ “แต่คนที่กำลังทำร้ายอีกคนหนึ่งอยู่กลับผลักโมเสสออกไปและกล่าวว่า ‘ใครตั้งเจ้าเป็นเจ้านายปกครองและเป็นตุลาการตัดสินพวกเรา? เจ้าอยากจะฆ่าฉันอย่างที่ฆ่าชาวอียิปต์เมื่อวานนี้หรือ?’ เมื่อโมเสสได้ยินเช่นนั้นจึงหนีไปมีเดียน เขาตั้งรกรากที่นั่นในฐานะคนต่างด้าวและมีบุตรชายสองคน “สี่สิบปีผ่านไป ทูตสวรรค์องค์หนึ่งมาปรากฏแก่โมเสสในพุ่มไม้ที่ลุกเป็นไฟในถิ่นกันดารใกล้ภูเขาซีนาย โมเสสเห็นแล้วก็อัศจรรย์ใจ ขณะเข้าไปดูใกล้ๆ ก็ได้ยินพระสุรเสียงขององค์พระผู้เป็นเจ้าว่า ‘เราเป็นพระเจ้าของบรรพบุรุษของเจ้า พระเจ้าของอับราฮัม อิสอัค และยาโคบ’ โมเสสกลัวจนตัวสั่นและไม่กล้าที่จะมอง “แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับเขาว่า ‘จงถอดรองเท้าออกเพราะเจ้ากำลังยืนอยู่บนที่บริสุทธิ์ เราได้เห็นความทุกข์เข็ญของประชากรของเราในอียิปต์แล้ว เราได้ยินเสียงคร่ำครวญของเขา เราจึงลงมาเพื่อปลดปล่อยเขาทั้งหลายให้เป็นอิสระ มาเถิด บัดนี้เราจะส่งเจ้ากลับไปยังอียิปต์’ “โมเสสคนเดียวกันนี้ที่ถูกพวกเขาปฏิเสธว่า ‘ใครตั้งเจ้าให้เป็นผู้ปกครองและเป็นตุลาการ?’ พระเจ้าเองได้ทรงส่งเขามาเป็นผู้ปกครองและเป็นผู้ปลดปล่อยของพวกเขาผ่านทางทูตสวรรค์ผู้ได้ปรากฏแก่เขาในพุ่มไม้ โมเสสนำพวกเขาออกจากอียิปต์ และได้ทำหมายสำคัญและปาฏิหาริย์ต่างๆ ในอียิปต์ที่ทะเลแดงและตลอดสี่สิบปีในถิ่นทุรกันดาร “โมเสสคนนี้เองที่บอกชนอิสราเอลว่า ‘พระเจ้าจะทรงส่งผู้เผยพระวจนะเช่นข้าพเจ้ามาคนหนึ่งสำหรับท่านจากหมู่ประชากรของพวกท่านเอง’ เขาอยู่กับชุมนุมชนในถิ่นกันดาร อยู่กับทูตสวรรค์ที่กล่าวกับเขาบนภูเขาซีนาย และอยู่กับบรรพบุรุษของเราทั้งหลาย และเขาได้รับพระวจนะอันทรงชีวิตซึ่งสืบทอดมาถึงเรา “แต่เหล่าบรรพบุรุษไม่ยอมเชื่อฟัง กลับปฏิเสธเขา และมีใจปรารถนาจะกลับไปอียิปต์ พวกเขาบอกอาโรนว่า ‘ช่วยสร้างเทพเจ้าขึ้นมานำพวกเราไป เพราะเราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับโมเสสผู้ที่พาพวกเราออกมาจากอียิปต์!’ ครั้งนั้นเหล่าประชากรได้ทำเทวรูปลูกวัว พวกเขาถวายเครื่องบูชาแก่เทวรูปนั้นและเฉลิมฉลองเพื่อเป็นเกียรติแก่สิ่งที่สร้างขึ้นด้วยน้ำมือของตน แต่พระเจ้าทรงหันหลังให้พวกเขาและทรงปล่อยให้พวกเขานมัสการสิ่งต่างๆ ในท้องฟ้า เป็นจริงตามที่เขียนไว้ในหนังสือของบรรดาผู้เผยพระวจนะว่า “ ‘พงศ์พันธุ์อิสราเอลเอ๋ย ตลอดสี่สิบปีในถิ่นกันดาร เจ้าได้ถวายเครื่องบูชาและมอบของถวายแก่เราหรือ? เจ้าตั้งสถานศักดิ์สิทธิ์แห่งพระโมเลค และดวงดาวแห่งเรฟานเทพเจ้าของเจ้า คือรูปเคารพต่างๆ ซึ่งเจ้าสร้างขึ้นกราบไหว้ ฉะนั้นเราจะส่งเจ้าไปเป็นเชลย’ในดินแดนที่ไกลยิ่งกว่าบาบิโลน

กิจการ 7:20-43 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

ใน​เวลา​นั้น​โมเสส​ได้​กำเนิด​ขึ้น และ​เป็น​ที่​เอ็นดู​ของ​พระ​เจ้า หลัง​จาก​ที่​ได้​รับ​การ​เลี้ยง​ดู​ใน​บ้าน​ของ​บิดา​ได้ 3 เดือน ก็​ถูก​ทิ้ง​ไว้​นอก​บ้าน ธิดา​ของ​ฟาโรห์​จึง​รับ​ตัว​ไป​เลี้ยง​เป็น​บุตร​ของ​ตน แล้ว​ให้​โมเสส​ศึกษา​เรียน​รู้​วิชา​การ​ทุก​แขนง​ของ​ชาว​อียิปต์ และ​โมเสส​มี​อิทธิพล​ทั้ง​การ​พูด​และ​การ​กระทำ เมื่อ​โมเสส​มี​อายุ​ได้ 40 ปี ก็​ใคร่​จะ​ไป​เยี่ยม​เยียน​พี่​น้อง​คือ​ชน​ชาติ​อิสราเอล โมเสส​เห็น​คน​ถูก​ข่มเหง​จึง​เข้า​ช่วยเหลือ และ​ได้​ฆ่า​คน​ร้าย​ซึ่ง​เป็น​ชาว​อียิปต์​เสีย โมเสส​คิด​ไป​ว่า ชาว​อิสราเอล​จะ​ตระหนัก​ถึง​การ​ที่​พระ​เจ้า​ใช้​ท่าน​มา​ช่วย​ชาว​อิสราเอล​ให้​รอด​พ้น แต่​เขา​เหล่า​นั้น​หา​ได้​เข้า​ใจ​ตาม​นั้น​ไม่ วัน​รุ่ง​ขึ้น​เมื่อ​โมเสส​เห็น​ชาว​อิสราเอล 2 คน​กำลัง​ต่อ​สู้​กัน ก็​พยายาม​ที่​จะ​ให้​เขา​คืน​ดี​กัน​โดย​พูด​ว่า ‘บุรุษ​เอ๋ย ท่าน​เป็น​พี่​น้อง​กัน ทำไม​จึง​ทำ​ร้าย​กัน​เอง’ แต่​อันธพาล​คน​นั้น​ผลัก​โมเสส​ออก​ไป​และ​พูด​ว่า ‘ใคร​แต่งตั้ง​ให้​ท่าน​เป็น​ผู้​ปกครอง​และ​ผู้​ตัดสิน​ความ​ของ​เรา ท่าน​อยาก​จะ​ฆ่า​เรา​อย่าง​ที่​ท่าน​ได้​ฆ่า​ชาว​อียิปต์​เมื่อ​วาน​นี้​หรือ’ เมื่อ​โมเสส​ได้ยิน​ดังนั้น​จึง​ลี้ภัย​ไป​อยู่​ใน​ดิน​แดน​ของ​มีเดียน และ​มี​บุตร​ที่​นั่น 2 คน เวลา​ผ่าน​ไป 40 ปี ทูต​สวรรค์​ได้​มา​ปรากฏ​แก่​โมเสส​ใน​ถิ่น​ทุรกันดาร​ใกล้​ภูเขา​ซีนาย ใน​พุ่ม​ไม้​ที่​ลุก​เป็น​ไฟ เมื่อ​ท่าน​เห็น​สิ่ง​ที่​ปรากฏ​ขึ้น​ก็​แปลก​ใจ ขณะ​ที่​เข้า​ไป​ดู​ใกล้ๆ ท่าน​ก็​ได้ยิน​เสียง​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ว่า ‘เรา​เป็น​พระ​เจ้า​ของ​บรรพบุรุษ​ของ​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​อับราฮัม พระ​เจ้า​ของ​อิสอัค และ​พระ​เจ้า​ของ​ยาโคบ’ โมเสส​ตกใจ​กลัว​จน​ตัว​สั่น​ไม่​กล้า​แม้​แต่​จะ​ชำเลือง​ดู แล้ว​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​กล่าว​กับ​ท่าน​ว่า ‘จง​ถอด​รองเท้า​ออก​เสีย​เถิด เพราะ​ว่า​ที่​ที่​เจ้า​ยืน​อยู่​นี้​เป็น​สถาน​ที่​บริสุทธิ์ เรา​เห็น​จริง​แล้ว​ว่า​คน​ของ​เรา​ถูก​ข่มเหง​ใน​ประเทศ​อียิปต์ เรา​ได้ยิน​เสียง​ร้อง​คร่ำครวญ​ของ​พวก​เขา และ​ได้​ลง​มา​เพื่อ​ปล่อย​เขา​เหล่า​นั้น​ให้​มี​อิสระ มา​เถิด เรา​จะ​ส่ง​เจ้า​กลับ​ไป​ประเทศ​อียิปต์’ นี่​คือ​โมเสส​คน​เดิม​ที่​คน​เหล่า​นั้น​ได้​ปฏิเสธ​ท่าน​ว่า ‘ใคร​แต่งตั้ง​ให้​ท่าน​เป็น​ผู้​ปกครอง​และ​ผู้​ตัดสิน​ความ’ พระ​เจ้า​ได้​แต่งตั้ง​โมเสส​ให้​เป็น​ผู้​ปกครอง​และ​ผู้​ช่วย​ปลดปล่อย ด้วย​ความ​ช่วยเหลือ​ของ​ทูต​สวรรค์​ที่​ปรากฏ​แก่​ท่าน​ใน​พุ่ม​ไม้ โมเสส​ได้​นำ​ผู้​คน​ออก​ไป​จาก​ประเทศ​อียิปต์ และ​กระทำ​สิ่ง​มหัศจรรย์ รวม​ทั้ง​ปรากฏการณ์​อัศจรรย์​ใน​ประเทศ​อียิปต์ ที่​ทะเล​แดง​และ​ใน​ถิ่น​ทุรกันดาร​เป็น​เวลา 40 ปี นี่​คือ​โมเสส​ผู้​ที่​บอก​ชาว​อิสราเอล​ว่า ‘พระ​เจ้า​จะ​กำหนด​ผู้​เผย​คำกล่าว​ของ​พระ​เจ้า​ผู้​หนึ่ง​ดัง​เช่น​เรา​จาก​หมู่​พี่​น้อง​ของ​ท่าน​เอง’ ท่าน​เป็น​ผู้​ที่​อยู่​ใน​หมู่​ชน​ใน​ถิ่น​ทุรกันดาร​พร้อม​ด้วย​ทูต​สวรรค์​ผู้​ได้​กล่าว​กับ​ท่าน​บน​ภูเขา​ซีนาย​และ​บรรพบุรุษ​ของ​เรา​ด้วย ท่าน​ได้​รับ​คำกล่าว​แห่ง​ชีวิต​มา​เพื่อ​ถ่าย​ทอด​ให้​แก่​พวก​เรา บรรพบุรุษ​ของ​เรา​ไม่​ยอม​เชื่อ​ฟัง​ท่าน นอก​จาก​จะ​ไม่​ยอม​รับ​ท่าน​แล้ว ใจ​ของ​เขา​เหล่า​นั้น​ก็​หวน​ระลึก​ถึง​ประเทศ​อียิปต์​อีก​ด้วย พวก​เขา​บอก​อาโรน​ว่า ‘ช่วย​สร้าง​บรรดา​เทพเจ้า​ให้​เป็น​ผู้​นำ​หน้า​พวก​เรา​ไป​เถิด ไม่​รู้​ว่า​โมเสส​คน​ที่​ได้​นำ​เรา​ออก​มา​จาก​ประเทศ​อียิปต์​เป็น​อะไร​ไป​แล้ว’ ขณะ​นั้น​พวก​เขา​ได้​ปั้น​รูป​ลูก​โค​ขึ้น และ​นำ​เครื่อง​สักการะ​มา​ถวาย ทั้ง​จัด​งาน​ฉลอง​เพื่อ​แสดง​ความ​เคารพ​ต่อ​สิ่ง​ที่​ทำ​ขึ้น​ด้วย​มือ​ของ​พวก​เขา​เอง พระ​เจ้า​จึง​หัน​จาก​ไป​โดย​ปล่อย​ให้​เขา​ไป​นมัสการ​หมู่​ดาว​ใน​ท้อง​ฟ้า ดัง​ที่​ปรากฏ​เป็น​บันทึก​ใน​หมวด​ผู้​เผย​คำกล่าว​ของ​พระ​เจ้า​ว่า ‘โอ พงศ์​พันธุ์​อิสราเอล​เอ๋ย เจ้า​นำ​เครื่อง​สักการะ​และ​ของ​ถวาย มา​เซ่น​สรวง​เรา 40 ปี​ใน​ถิ่น​ทุรกันดาร​หรือ พวก​เจ้า​ได้​ยก​กระโจม​ของ​เทพเจ้า​โมเลค และ​ดาว​ของ​เทพเจ้า​เรฟาน​ของ​เจ้า รูป​เคารพ​ต่างๆ ที่​เจ้า​สร้าง​ขึ้น​เพื่อ​นมัสการ ฉะนั้น​เรา​จะ​ให้​เจ้า​ถูก​เนรเทศ​ออก​ไป​จน​เลย​เขต​บาบิโลน’