กิจการ 26:1-23

กิจการ 26:1-23 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

กษัตริย์​อากริปปา​พูด​กับ​เปาโล​ว่า “ตอนนี้ เจ้า​พูด​แก้​ต่าง​ให้​กับ​ตัวเอง​ได้​แล้ว” เปาโล​จึง​ยก​มือ​ขึ้น และ​เริ่ม​แก้​ข้อ​กล่าว​หา​ว่า “กษัตริย์ อากริปปา ข้าพเจ้า​ถือ​ว่า​เป็น​เกียรติ​จริงๆ​ที่​ได้​มา​แก้​ต่าง​ให้​กับ​ตัวเอง​ต่อหน้า​ท่าน​ใน​วันนี้ ต่อ​ข้อ​กล่าวหา​ทั้งหมด​ของ​ชาว​ยิว ท่าน​รู้จัก​ประเพณี และ​ปัญหา​ข้อ​โต้แย้ง​ต่างๆ​ของ​ชาว​ยิว​เป็น​อย่าง​ดี ขอ​ให้​ท่าน​ช่วย​อดทน​ฟัง​ข้าพเจ้า​หน่อย ชาว​ยิว​ทุก​คน​รู้​ว่า​ข้าพเจ้า​ใช้​ชีวิต​ยังไง​ตั้ง​แต่​เด็ก​มา​แล้ว ข้าพเจ้า​โต​มา​ท่าม​กลาง​ชนชาติ​ของ​ข้าพเจ้า​ใน​เมือง​เยรูซาเล็ม พวก​เขา​รู้จัก​ข้าพเจ้า​ดี และ​ถ้า​พวก​เขา​อยาก​ทำ พวก​เขา​สามารถ​ยืนยัน​กับ​ท่าน​ได้​ว่า ข้าพเจ้า​เป็น​ฟารีสี เป็น​พวก​ที่​เคร่ง​ศาสนา​ที่สุด​ใน​หมู่​คน​ยิว และ​ที่​ข้าพเจ้า​ยืน​ถูก​สอบสวน​อยู่​ที่​นี่ ก็​เพราะ​ความ​หวัง​ที่​ข้าพเจ้า​มี​ใน​คำ​สัญญา​ที่​พระเจ้า​ให้​ไว้​กับ​บรรพบุรุษ​ของ​พวก​เรา เป็น​คำ​สัญญา​ที่​พวก​เรา​สิบ​สอง​เผ่า​หวัง​ที่​จะ​ได้รับ จึง​ได้รับ​ใช้​พระเจ้า​อย่าง​ขยัน​ขัน​แข็ง​ทั้ง​วัน​ทั้ง​คืน ข้า​แต่​กษัตริย์ ก็​เพราะ​ความหวัง​อันนี้​แหละ ที่​ทำ​ให้​ข้าพเจ้า​ต้อง​ถูก​ชาว​ยิว​กล่าว​หา ทำไม​พวก​ท่าน​ถึง​คิด​ว่า​มัน​เป็น​เรื่อง​เหลือเชื่อ​ที่​พระเจ้า​ทำ​ให้​คน​ตาย​ฟื้น​ขึ้น​มา ข้าพเจ้า​เคย​คิด​เหมือน​กัน​ว่า จะ​ต้อง​ทำ​ทุก​อย่าง​เท่า​ที่​จะ​ทำ​ได้ เพื่อ​ต่อ​ต้าน​เยซู​ชาว​นาซาเร็ธ ข้าพเจ้า​ก็​ได้​ทำ​อย่าง​นั้น​ใน​เยรูซาเล็ม และ​เพราะ​ข้าพเจ้า​ได้รับ​อำนาจ​จาก​พวก​หัวหน้า​นักบวช ข้าพเจ้า​จึง​จับ​คน​ที่​เป็น​ของ​พระเจ้า​ไป​ขัง​คุก เมื่อ​พวก​เขา​ถูก​ฆ่า ข้าพเจ้า​ก็​เห็นดี​เห็น​ชอบ​ด้วย ข้าพเจ้า​เข้า​ไป​จับ​พวก​เขา​ตาม​ที่ประชุม​ต่างๆ​ออก​มา​ลงโทษ​บ่อยๆ​และ​บังคับ​ให้​พวก​เขา​พูด​สาปแช่ง​พระเยซู ข้าพเจ้า​โกรธ​แค้น​พวกนี้​มาก ถึง​กับ​เดิน​ทาง​ไป​ข่มเหง​พวกนี้​ถึง​ต่าง​แดน ครั้ง​หนึ่ง ตอน​ที่​ข้าพเจ้า​กำลัง​เดิน​ทาง​ไป​เมือง​ดามัสกัส โดย​ได้รับ​สิทธิ​อำนาจ​จาก​พวก​หัวหน้า​นักบวช ตอนนั้น​เป็น​เวลา​ประมาณ​เที่ยง ขณะ​ที่​ข้าพเจ้า​กำลัง​เดิน​ทาง​อยู่​นั้น ข้า​แต่​กษัตริย์ ข้าพเจ้า​ก็​เห็น​แสง​จาก​ท้องฟ้า สว่าง​จ้า​กว่า​แสง​อาทิตย์​เสีย​อีก แสง​นั้น​ส่อง​มา​รอบ​ตัว​ข้าพเจ้า​และ​คน​ที่​มา​ด้วย​กัน พวก​เรา​ทั้งหมด​ล้ม​ลง​กับ​พื้น และ​ข้าพเจ้า​ก็​ได้ยิน​เสียง​พูด​กับ​ข้าพเจ้า​เอง​เป็น​ภาษา​อารเมค ว่า ‘เซาโล เซาโล เจ้า​ข่มเหง​เรา​ทำไม เวลา​ที่​เจ้า​ต่อสู้​กับ​เรา ตัว​เจ้า​เอง​นั่นแหละ​ที่​เจ็บ’ ข้าพเจ้า​ถาม​ว่า ‘ท่าน​เป็น​ใคร’ แล้ว​พระองค์​ก็​พูด​ว่า ‘เรา​คือ​เยซู​ผู้ที่​เจ้า​ข่มเหง​นั้น แต่​ลุก​ขึ้น​ยืน​เถอะ เรา​มา​ปรากฏ​ตัว​กับ​เจ้า​เพื่อ​แต่งตั้ง​เจ้า​ให้​เป็น​ผู้รับใช้ เพื่อ​ไป​บอก​คน​อื่น​ถึง​เรื่อง​ที่​เจ้า​ได้​เห็น​เรา และ​บอก​เรื่อง​ที่​เรา​จะ​แสดง​ให้​เจ้า​ดู เรา​จะ​ช่วยเหลือ​เจ้า​ให้​รอด​พ้น​จาก​คน​ยิว​และ​คน​ที่​ไม่​ใช่​ยิว​ที่​เรา​กำลัง​จะ​ส่ง​เจ้า​ไปหา เพื่อ​เปิด​ตา​ของ​พวก​เขา ให้​หัน​จาก​ความ​มืด​สู่​ความ​สว่าง และ​หัน​จาก​อำนาจ​ของ​ซาตาน​มา​สู่​พระเจ้า เพื่อ​พวก​เขา​จะ​ได้รับ​การ​อภัย​ต่อ​บาป และ​เข้า​มี​ส่วน​ใน​คน​เหล่า​นั้น​ที่​เรา​ได้​ทำ​ให้​เป็น​ของ​เรา โดย​ความ​ไว้​วาง​ใจ​ที่​พวก​เขา​มี​ต่อ​เรา’” “ข้า​แต่​กษัตริย์​อากริปปา เมื่อ​เป็น​อย่างนี้ ข้าพเจ้า​จึง​เชื่อฟัง​นิมิต​ที่​มา​จาก​สวรรค์​นั้น ข้าพเจ้า​เริ่ม​สอน​ผู้คน​ใน​เมือง​ดามัสกัส​ก่อน จาก​นั้น​ก็​สั่งสอน​ผู้คน​ใน​เยรูซาเล็ม และ​ตลอด​ทั่ว​แคว้น​ยูเดีย และ​คน​ที่​ไม่​ใช่​ยิว​ด้วย โดย​บอก​ให้​พวก​เขา​กลับ​ตัว​กลับ​ใจ หัน​มาหา​พระเจ้า​และ​ทำการ​งาน​ต่างๆ​ที่​เหมาะ​กับ​คน​ที่​กลับ​ตัว​กลับ​ใจ​แล้ว นี่​เป็น​เหตุ​ที่​พวก​ยิว​ได้​เข้า​มา​จับกุม​ตัว​ข้าพเจ้า​ใน​ขณะ​ที่​อยู่​ใน​วิหาร และ​พยายาม​จะ​ฆ่า​ข้าพเจ้า​ด้วย แต่​พระเจ้า​ก็​ได้​ช่วย​ข้าพเจ้า​มา​จน​ถึง​ทุก​วันนี้ จึง​ทำ​ให้​ข้าพเจ้า​สามารถ​มา​ยืน​เป็น​พยาน​ต่อ​ท่าน​ทั้งหลาย ทั้ง​ผู้น้อย​และ​ผู้ใหญ่​ใน​ที่​นี้​ได้ ข้าพเจ้า​ไม่​ได้​พูด​อะไร​เลย นอก​จาก​สิ่ง​ที่​ผู้​พูด​แทน​พระเจ้า และ​โมเสส​บอก​ไว้​แล้ว​ว่า​จะ​เกิด​ขึ้น นั่น​คือ​กษัตริย์​ผู้​ยิ่งใหญ่​จะ​ต้อง​ทน​ทุกข์ทรมาน และ​พระองค์​จะ​เป็น​คน​แรก​ที่​ฟื้น​ขึ้น​จาก​ความ​ตาย และ​พระองค์​จะ​เป็น​ผู้นำ​แสงสว่าง​มา​สู่​คน​ยิว​และ​คน​ที่​ไม่​ใช่​ยิว”

กิจการ 26:1-23 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

อากริปปาจึงตรัสกับเปาโลว่า “เราอนุญาตให้เจ้าแก้ข้อกล่าวหาให้ตัวเองได้” เปาโลจึงยื่นมือเริ่มแก้คดีว่า “ข้าแต่กษัตริย์อากริปปา ข้าพระบาทถือว่าตัวเองมีโอกาสดียิ่งที่ได้อยู่เฉพาะพระพักตร์ฝ่าพระบาทในวันนี้ เพื่อแก้ข้อกล่าวหาทั้งหมดของพวกยิว เพราะฝ่าพระบาทมีความเชี่ยวชาญในบรรดาขนบธรรมเนียมและปัญหาต่างๆ ของพวกยิวเป็นอย่างยิ่ง เพราะฉะนั้นขอฝ่าพระบาทได้โปรดอดทนฟังข้าพระบาท “พวกยิวรู้วิถีชีวิตของข้าพระบาทตั้งแต่เด็ก คือตั้งแต่เริ่มแรกข้าพระบาทก็อยู่ท่ามกลางชนชาติของข้าพระบาท และอยู่ในกรุงเยรูซาเล็ม เขาทั้งหลายรู้จักข้าพระบาทนานแล้ว ถ้าเขายอมก็เป็นพยานได้ว่าข้าพระบาทดำเนินชีวิตตามลัทธิที่เคร่งที่สุดในศาสนาของพวกข้าพระบาท คือเป็นพวกฟาริสี บัดนี้ข้าพระบาทต้องมายืนให้ฝ่าพระบาทพิพากษาก็เพราะเรื่องความหวังในพระสัญญาซึ่งพระเจ้าตรัสกับบรรพบุรุษของพวกข้าพระบาทนั้น พวกข้าพระบาทสิบสองเผ่าปรนนิบัติด้วยความจริงจังทั้งกลางวันกลางคืน เพราะมีความหวังว่าจะได้รับตามพระสัญญานั้น ข้าแต่กษัตริย์ เพราะความหวังนี้แหละที่พวกยิวฟ้องข้าพระบาท ทำไมท่านทั้งหลายจึงคิดว่าการที่พระเจ้าทรงทำให้คนตายเป็นขึ้นมานั้น เป็นเรื่องเชื่อไม่ได้? “ข้าพระบาทเคยคิดในใจของตนเองว่า ควรจะทำหลายๆ อย่างเพื่อขัดขวางพระนามของพระเยซูชาวนาซาเร็ธ และนี่ก็คือสิ่งที่ข้าพระบาททำในกรุงเยรูซาเล็ม หลังจากได้รับสิทธิอำนาจจากพวกหัวหน้าปุโรหิตแล้ว ข้าพระบาทจับธรรมิกชนจำนวนมากขังคุก และเมื่อพวกเขาถูกลงโทษถึงตาย ข้าพระบาทก็เห็นดีด้วย ข้าพระบาททำโทษเขาบ่อยๆ ในธรรมศาลาทุกแห่ง และบังคับเขาให้กล่าวคำหมิ่นประมาทพระเจ้า และเนื่องจากข้าพระบาทโกรธพวกเขาอย่างยิ่ง ถึงขนาดข้าพระบาทตามไปข่มเหงเขาถึงหัวเมืองต่างๆ ในต่างประเทศ “ดังนั้นขณะที่ข้าพระบาทกำลังไปยังเมืองดามัสกัสโดยอาศัยสิทธิอำนาจและคำสั่งของพวกหัวหน้าปุโรหิต ข้าแต่กษัตริย์ ในเวลาเที่ยงวันขณะกำลังเดินทางไป ข้าพระบาทก็ได้เห็นแสงสว่างกล้ายิ่งกว่าแสงอาทิตย์ส่องลงมาจากท้องฟ้าล้อมรอบข้าพระบาทกับคนทั้งหลายที่ไปกับข้าพระบาท เมื่อข้าพระบาทกับคนทั้งหลายล้มฟุบลงบนพื้น ข้าพระบาทได้ยินพระสุรเสียงตรัสกับข้าพระบาทเป็นภาษาฮีบรูว่า ‘เซาโล เซาโลเอ๋ย เจ้าข่มเหงเราทำไม? การที่เจ้าถีบประตักก็เจ็บตัวเจ้าเอง’ ข้าพระบาทจึงทูลถามว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงเป็นผู้ใด?’ พระองค์ตรัสว่า ‘เราคือเยซูผู้ที่เจ้าข่มเหง แต่จงลุกขึ้นยืนเถิด เพราะว่าเรามาปรากฏแก่เจ้าเพื่อจะตั้งเจ้าให้เป็นผู้รับใช้และเป็นสักขีพยานของเหตุการณ์ที่เจ้าได้เห็นเรา และของสิ่งที่เราจะสำแดงแก่เจ้า เราจะช่วยเจ้าให้พ้นจากชนชาติอิสราเอลและจากคนต่างชาติที่เราจะใช้เจ้าไปนั้น ไปเปิดตาของพวกเขาเพื่อให้พวกเขาหันจากความมืดมาหาความสว่าง จากอำนาจของซาตานมาหาพระเจ้า เพื่อให้พวกเขาได้รับการอภัยบาป และมีส่วนอยู่ท่ามกลางคนที่ได้รับการชำระให้เป็นธรรมิกชนโดยความเชื่อในตัวเรา’ “ข้าแต่กษัตริย์อากริปปา เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว ข้าพระบาทก็ไม่ได้ขัดขืนนิมิตซึ่งมาจากสวรรค์ แต่ข้าพระบาทประกาศให้เขาทั้งหลายทราบ โดยเริ่มต้นในเมืองดามัสกัส ในกรุงเยรูซาเล็ม ทั่วแว่นแคว้นยูเดีย รวมทั้งพวกต่างชาติด้วย เพื่อให้เขาทั้งหลายกลับใจใหม่และหันมาหาพระเจ้า และทำสิ่งที่แสดงถึงการกลับใจใหม่ เพราะเหตุนี้พวกยิวจึงจับข้าพระบาทในพระวิหาร และพยายามที่จะฆ่าข้าพระบาทเสีย แต่เพราะพระเจ้าโปรดช่วยข้าพระบาทมาจนถึงทุกวันนี้ ข้าพระบาทจึงยืนอยู่ที่นี่และเป็นพยานทั้งต่อผู้น้อยและผู้ใหญ่ ข้าพระบาทไม่ขอพูดเรื่องอื่นนอกจากเรื่องที่บรรดาผู้เผยพระวจนะและโมเสสกล่าวไว้ว่าจะเกิดขึ้น คือว่าพระคริสต์จะต้องทนทุกข์ทรมาน และพระองค์จะทรงแสดงความสว่างแก่ชนชาติอิสราเอลและแก่พวกต่างชาติ โดยที่ทรงเป็นผู้แรกที่เป็นขึ้นจากตาย”

กิจการ 26:1-23 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

ฝ่ายอากริปปาจึงตรัสกับเปาโลว่า “เราอนุญาตให้​เจ้​าให้การแก้ข้อหาเองได้” เปาโลจึงยื่​นม​ือออกกล่าวแก้​คดี​ว่า “ท่านกษั​ตริ​ย์​อากร​ิปปาเจ้าข้า ข้าพระองค์ถือว่าเป็นโอกาสดี​ที่​ได้​แก้คดี​ต่อพระพักตร์​พระองค์​วันนี้ ในเรื่องข้อคดีทั้งปวงซึ่งพวกยิวกล่าวหาข้าพระองค์​นั้น โดยเฉพาะเพราะพระองค์​มีความรู้​ชำนาญยิ่งในบรรดาขนบธรรมเนียมและปัญหาต่างๆของพวกยิวแล้ว เหตุ​ฉะนั้นขอพระองค์​ได้​โปรดทนฟังข้าพระองค์ พวกยิ​วท​ั้งหลายก็​รู้​จักความเป็นอยู่ของข้าพระองค์​ตั้งแต่​เป็นเด็กมาแล้ว คือตั้งแต่แรกข้าพระองค์​ได้​อยู่​ท่ามกลางชนชาติของข้าพระองค์ในกรุงเยรูซาเล็ม เขารู้จักข้าพระองค์​แต่​เดิมมา ถ้าเขาจะยอมเป็นพยานก็​เป็นได้​ว่าข้าพระองค์ดำรงชีวิตตามพวกที่ถือเคร่งครัดที่​สุด คือเป็นพวกฟาริ​สี บัดนี้​ข้าพระองค์ต้องมายืนให้พิจารณาพิพากษา ก็​เนื่องด้วยเรื่องมีความหวังใจในพระสัญญาซึ่งพระเจ้าได้ตรัสแก่บรรพบุรุษของพวกข้าพระองค์​นั้น พวกข้าพระองค์​สิ​บสองตระกูลได้​อุตส่าห์​ปรนนิบัติ​พระเจ้าทั้งกลางวันกลางคืน ด้วยหวังใจว่าจะบรรลุถึงความสำเร็จตามพระสัญญานั้น ข้าแต่​กษัตริย์​อากร​ิปปา เพราะความหวังใจอันนี้พวกยิวจึงฟ้องข้าพระองค์ เหตุ​ไฉนท่านทั้งหลายจึงพากันถือว่า การที่พระเจ้าจะทรงให้คนตายเป็นขึ้นมาเป็นการที่เชื่อไม่​ได้ ข้าพระองค์เคยได้คิดในใจของตนเองว่า สมควรจะทำหลายสิ่งซึ่งขัดขวางพระนามของพระเยซูชาวนาซาเร็ธนั้น สิ​่งเหล่านั้นข้าพระองค์​ได้​กระทำในกรุงเยรูซาเล็ม เมื่อข้าพระองค์รับอำนาจจากพวกปุโรหิตใหญ่​แล้ว ข้าพระองค์​ได้​ขังวิ​สุทธิ​ชนหลายคนไว้ในคุก และครั้นเขาถูกลงโทษถึงตาย ข้าพระองค์​ก็​เห็นดี​ด้วย ข้าพระองค์​ได้​ทำโทษเขาบ่อยๆในธรรมศาลาทุกแห่ง และบังคับเขาให้​กล​่าวคำหมิ่นประมาท และเพราะข้าพระองค์โกรธเขายิ่งนัก ข้าพระองค์​ได้​ตามไปข่มเหงถึงเมืองในต่างประเทศ ดังนั้นเมื่อข้าพระองค์กำลังไปยังเมืองดามัสกัส ได้​ถืออำนาจและงานที่​ได้​รับมอบหมายจากพวกปุโรหิตใหญ่ โอ ข้าแต่​กษัตริย์ ในเวลาเที่ยงวันเมื่อกำลังเดินทางไป ข้าพระองค์​ได้​เห​็นแสงสว่างกล้ายิ่งกว่าแสงอาทิตย์ส่องลงมาจากท้องฟ้า ล้อมรอบข้าพระองค์กับคนทั้งหลายที่ไปกับข้าพระองค์ ครั้นข้าพระองค์กับคนทั้งหลายล้มคะมำลงที่​ดิน ข้าพระองค์​ได้​ยินพระสุรเสียงตรัสแก่ข้าพระองค์เป็นภาษาฮีบรู​ว่า ‘เซาโล เซาโลเอ๋ย เจ้​าข่มเหงเราทำไม ซึ่งเจ้าถีบประตั​กก​็ยากนัก’ ข้าพระองค์ทูลถามว่า ‘​พระองค์​เจ้าข้า พระองค์​ทรงเป็นผู้​ใด​’ พระองค์​จึงตรั​สว​่า ‘เราคือเยซูซึ่งเจ้าข่มเหง แต่​ว่าจงลุกขึ้นยืนเถิด ด้วยว่าเราได้ปรากฏแก่​เจ้​าเพื่อจะตั้งเจ้าไว้​ให้​เป็นผู้​รับใช้​และเป็นพยานถึงเหตุ​การณ์​ซึ่งเจ้าเห็น และถึงเหตุ​การณ์​ที่​เราจะแสดงตัวเราเองแก่​เจ้​าในเวลาภายหน้า เราจะช่วยเจ้าให้พ้นจากชนชาติ​นี้​และจากคนต่างชาติ​ที่​เราจะใช้​เจ้​าไปหานั้น เพื่อจะให้​เจ้​าเปิดตาของเขา เพื่อเขาจะกลับจากความมืดมาถึงความสว่าง และจากอำนาจของซาตานมาถึงพระเจ้า เพื่อเขาจะได้รับการยกโทษความผิดบาปของเขา และให้​ได้​รับมรดกด้วยกั​นก​ับคนทั้งหลายซึ่งถูกแยกตั้งไว้​แล​้วโดยความเชื่อในเรา’ โอ ข้าแต่​กษัตริย์​อากร​ิปปา เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว ข้าพระองค์จึงเชื่อฟังนิ​มิ​ตซึ่งมาจากสวรรค์​นั้น แต่​ข้าพระองค์​ได้​กล​่าวสั่งสอนเขา ตั้งต้​นที​่เมืองดามัสกัสและในกรุงเยรูซาเล็ม ทั่วแว่นแคว้นยูเดีย และแก่​ชาวต่างประเทศ ให้​เขากลับใจใหม่ ให้​หันมาหาพระเจ้าและกระทำการซึ่งสมกั​บท​ี่​กล​ับใจใหม่​แล้ว เพราะเหตุนี้​พวกยิวจึงจับข้าพระองค์​ที่​พระวิ​หาร และพยายามหาช่องที่จะฆ่าข้าพระองค์​เสีย เป็นเพราะพระเจ้าได้ทรงโปรดช่วยข้าพระองค์ ข้าพระองค์จึ​งม​ี​ชี​วิตอยู่จนถึงทุกวันนี้และเป็นพยานได้ต่อหน้าผู้​ใหญ่​ผู้น้อย ข้าพระองค์​ไม่​พู​ดเรื่องอื่นนอกจากเรื่องซึ่งบรรดาศาสดาพยากรณ์กับโมเสสได้​กล​่าวไว้ว่าจะมี​ขึ้น คือว่าพระคริสต์จะต้องทนทุกข์​ทรมาน และพระองค์จะทรงแสดงความสว่างแก่ชนอิสราเอลและแก่​คนต่างชาติ โดยที่ทรงเป็นผู้แรกซึ่งคืนพระชนม์”

กิจการ 26:1-23 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

ฝ่ายอากริปปาจึงตรัสกับเปาโลว่า <<เราอนุญาตให้เจ้าให้การแก้ข้อหาเองได้>> เปาโลจึงยื่นมือออกเริ่มแก้คดีว่า <<ท่านกษัตริย์อากริปปาเจ้าข้า ข้าพระบาทถือว่า เป็นลาภใหญ่ที่ได้โอกาสแก้คดีต่อพระพักตร์ฝ่าพระบาทวันนี้ ในเรื่องข้อคดีทั้งปวงซึ่งพวกยิวกล่าวหาข้าพระบาทนั้น เพราะฝ่าพระบาทมีความรู้ชำนาญยิ่งในบรรดาขนบธรรมเนียม และปัญหาต่างๆของพวกยิวแล้ว เหตุฉะนั้นขอฝ่าพระบาทได้โปรดทนฟังข้าพระบาท <<พวกยิวทั้งหลายก็รู้จักความเป็นอยู่ของข้าพระบาท ตั้งแต่เป็นเด็กมาแล้ว คือตั้งแต่แรกข้าพระบาทได้อยู่ท่ามกลางชนชาติของข้าพระบาท และที่ในกรุงเยรูซาเล็ม เขาก็รู้จักข้าพระบาทแต่เดิมมา ถ้าเขาจะยอมเป็นพยานก็เป็นได้ ว่าข้าพระบาทดำรงชีวิตตามพวกที่ถือเคร่งครัดที่สุด คือเป็นพวกฟาริสี บัดนี้ข้าพระบาทต้องมายืนให้ฝ่าพระบาทพิจารณาพิพากษา ก็เนื่องด้วยเรื่องมีความหวังใจในพระสัญญา ซึ่งพระเจ้าได้ตรัสแก่บรรพบุรุษของพวกข้าพระบาทนั้น พวกข้าพระบาทสิบสองเผ่าได้อุตส่าห์ปรนนิบัติทั้งกลางวันกลางคืน ด้วยหวังใจว่าจะบรรลุถึงความสำเร็จตามพระสัญญานั้น ข้าแต่กษัตริย์ เพราะความหวังใจอันนี้ พวกยิวจึงฟ้องข้าพระบาท เหตุไฉนท่านทั้งหลายจึงพากันถือว่า การที่พระเจ้าจะทรงให้คนตายเป็นขึ้นมา เป็นการที่เชื่อไม่ได้ <<ข้าพระบาทเคยได้คิดในใจของตนเองว่า สมควรจะทำหลายสิ่ง ซึ่งขัดขวางพระนามของพระเยซูชาวนาซาเร็ธนั้น สิ่งเหล่านั้นข้าพระบาทได้กระทำในกรุงเยรูซาเล็ม เมื่อข้าพระบาทรับอำนาจจากพวกมหาปุโรหิตแล้ว ข้าพระบาทได้ขังวิสุทธิชนหลายคนไว้ในคุก และครั้นเขาถูกลงโทษถึงตาย ข้าพระบาทก็เห็นดีด้วย ข้าพระบาทได้ทำโทษเขาบ่อยๆในธรรมศาลาทุกแห่ง และบังคับเขาให้กล่าวคำหมิ่นประมาทพระเจ้า และเพราะข้าพระบาทโกรธเขายิ่งนัก ข้าพระบาทได้ตามไปข่มเหงถึงหัวเมืองในต่างประเทศ <<ดังนั้นเมื่อข้าพระบาทกำลังไปยังเมืองดามัสกัส ได้ถืออำนาจจากพวกมหาปุโรหิต ข้าแต่กษัตริย์ ในเวลาเที่ยงวันเมื่อกำลังเดินทางไป ข้าพระบาทได้เห็นแสงสว่างกล้ายิ่งกว่าแสงอาทิตย์ ส่องลงมาจากท้องฟ้า ล้อมรอบข้าพระบาทกับคนทั้งหลายที่ไปกับข้าพระบาท ครั้นข้าพระบาทกับคนทั้งหลายล้มคะมำลงที่ดิน ข้าพระบาทได้ยินพระสุรเสียงตรัสกับข้าพระบาทเป็นภาษาฮีบรูว่า <เซาโล เซาโลเอ๋ย เจ้าข่มเหงเราทำไม ซึ่งเจ้าถีบประตักก็เจ็บตัวเจ้าเอง> ข้าพระบาททูลถามว่า <พระเจ้าข้า พระองค์ทรงเป็นผู้ใด> พระองค์จึงตรัสว่า <เราคือเยซูซึ่งเจ้าข่มเหงนั่นแหละ แต่ว่าจงลุกขึ้นยืนเถิด ด้วยว่าเราได้ปรากฏแก่เจ้าเพื่อจะตั้งเจ้าไว้ให้เป็นผู้รับใช้ และเป็นพยานถึงเหตุการณ์ซึ่งเจ้าเห็น และถึงเหตุการณ์ที่เราจะสำแดงตัวเราเองแก่เจ้าในเวลาภายหน้า เราจะช่วยเจ้าให้พ้นจากชนชาตินี้ และจากคนต่างชาติที่เราจะใช้เจ้าไปหานั้น เพื่อจะให้เจ้าเบิกตาของเขา เพื่อเขาจะกลับจากความมืดมาถึงความสว่าง และจากอำนาจของซาตานมาถึงพระเจ้า เพื่อเขาจะได้รับการยกโทษความบาปผิดของเขา และให้ได้รับที่ซึ่งจะได้ด้วยกันกับคนทั้งหลาย ซึ่งถูกชำระให้เป็นผู้ชอบธรรมแล้วโดยความเชื่อในเรา> <<ข้าแต่กษัตริย์อากริปปา เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว ข้าพระบาทจึงเชื่อฟังนิมิต ซึ่งมาจากสวรรค์นั้น และมิได้ขัดขืน แต่ข้าพระบาทได้กล่าวสั่งสอนเขา ตั้งต้นที่เมืองดามัสกัส และในกรุงเยรูซาเล็ม ทั่วแว่นแคว้นยูเดียและแก่ชาวต่างประเทศ ให้เขากลับใจใหม่ ให้หันมาหาพระเจ้า และกระทำการซึ่งสมกับที่กลับใจใหม่แล้ว เพราะเหตุนี้พวกยิวจึงจับข้าพระบาทที่ในพระวิหาร และพยายามหาช่องที่จะฆ่าข้าพระบาทเสีย เป็นเพราะพระเจ้าได้ทรงโปรดช่วยข้าพระบาท ข้าพระบาทจึงมีชีวิตอยู่จนถึงทุกวันนี้ และอาจเป็นพยานได้ต่อหน้าผู้ใหญ่ผู้น้อย ข้าพระบาทไม่พูดเรื่องอื่น นอกจากเรื่องซึ่งบรรดาผู้เผยพระวจนะกับโมเสสได้กล่าวไว้ว่าจะมีขึ้น คือว่าพระคริสต์จะต้องทนทุกข์ทรมาน และพระองค์จะทรงแสดงความสว่างแก่ชนอิสราเอลและแก่คนต่างชาติ โดยที่ทรงเป็นผู้แรกซึ่งคืนพระชนม์>>

กิจการ 26:1-23 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

แล้วกษัตริย์อากริปปาจึงตรัสกับเปาโลว่า “เจ้าได้รับอนุญาตให้พูดแก้คดีเองได้” ดังนั้นเปาโลจึงโบกมือของตนและเริ่มแก้คดีว่า “ข้าแต่กษัตริย์อากริปปา ข้าพระบาทถือเป็นโอกาสดีที่ได้ยืนแก้ข้อกล่าวหาทั้งปวงของพวกยิวอยู่เฉพาะพระพักตร์ฝ่าพระบาทในวันนี้ ที่ข้าพระบาทรู้สึกเช่นนี้ก็เพราะฝ่าพระบาททรงคุ้นเคยกับขนบธรรมเนียมและข้อขัดแย้งต่างๆ ทั้งมวลของชาวยิวเป็นอย่างดี ฉะนั้นขอทรงอดทนฟังข้าพระบาทเถิด “ชาวยิวล้วนทราบแนวทางการดำเนินชีวิตของข้าพระบาทมาตั้งแต่เด็ก นับแต่ถือกำเนิดในบ้านเมืองของข้าพระบาทเองและทั้งในกรุงเยรูซาเล็มด้วย พวกเขาได้รู้จักข้าพระบาทมาเนิ่นนาน และหากพวกเขายินยอมพวกเขาก็สามารถเป็นพยานได้ว่าข้าพระบาทใช้ชีวิตตามนิกายที่เคร่งครัดที่สุดในศาสนาของพวกข้าพระบาทคือเป็นฟาริสี และบัดนี้ที่ข้าพระบาทถูกไต่สวนในวันนี้ก็เพราะข้าพระบาทมีความหวังในสิ่งที่พระเจ้าได้ทรงสัญญาไว้กับเหล่าบรรพบุรุษ เป็นพระสัญญาที่พวกข้าพระบาทสิบสองตระกูลคาดหวังว่าจะเป็นจริง ขณะพากเพียรปรนนิบัติพระเจ้าทั้งกลางวันกลางคืน ข้าแต่กษัตริย์ เพราะความหวังนี้เองพวกยิวจึงกล่าวหาข้าพระบาท เหตุใดพวกท่านจึงเห็นว่าเป็นไปไม่ได้ที่พระเจ้าจะทรงให้คนตายเป็นขึ้นมา? “ข้าพระบาทเองก็เคยเชื่อว่าควรทำทุกวิถีทางเท่าที่เป็นไปได้เพื่อต่อต้านพระนามของพระเยซูแห่งนาซาเร็ธ และนั่นแหละคือสิ่งที่ข้าพระบาทได้ทำในกรุงเยรูซาเล็ม ข้าพระบาทได้จับประชากรของพระเจ้าหลายคนเข้าคุกโดยอาศัยสิทธิอำนาจของพวกหัวหน้าปุโรหิต และเมื่อพวกนั้นถูกฆ่าข้าพระบาทก็เห็นดีด้วย หลายครั้งข้าพระบาทไปตามธรรมศาลาต่างๆ เพื่อลงโทษคนพวกนั้นและพยายามบีบบังคับให้เขากล่าวคำหมิ่นประมาทพระเยซู ข้าพระบาทโกรธเกลียดเขายิ่งนักถึงกับตามไปข่มเหงพวกเขาที่เมืองต่างๆ ในดินแดนอื่นๆ “ในการเดินทางคราวหนึ่ง ข้าพระบาทกำลังจะไปยังเมืองดามัสกัสโดยได้รับสิทธิอำนาจและการมอบหมายจากพวกหัวหน้าปุโรหิต ข้าแต่กษัตริย์ ประมาณเที่ยงวันขณะอยู่ระหว่างทางข้าพระบาทเห็นแสงสว่างจากฟ้าสวรรค์ แสงนั้นเจิดจ้ายิ่งกว่าแสงอาทิตย์ส่องรอบข้าพระบาทกับเพื่อนร่วมทาง พวกข้าพระบาททั้งหมดล้มลงกับพื้น และข้าพระบาทได้ยินเสียงหนึ่งพูดกับข้าพระบาทเป็นภาษาอารเมคว่า ‘เซาโล เซาโลเอ๋ย เจ้าข่มเหงเราทำไม? เป็นการยากที่เจ้าจะขัดขืนความประสงค์ของเรา’ “แล้วข้าพระบาทถามว่า ‘พระองค์เจ้าข้า พระองค์ทรงเป็นผู้ใด?’ “องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสตอบว่า ‘เราคือเยซูผู้ที่เจ้ากำลังข่มเหง บัดนี้จงลุกขึ้นยืนเถิด เราได้ปรากฏแก่เจ้าก็เพื่อแต่งตั้งเจ้าเป็นผู้รับใช้และเป็นพยานถึงสิ่งที่เจ้าได้เห็นเกี่ยวกับเราและสิ่งที่เราจะสำแดงแก่เจ้า เราจะช่วยเจ้าให้รอดพ้นจากพี่น้องร่วมชาติของเจ้าเองและจากชาวต่างชาติ เราจะส่งเจ้าไปหาพวกเขา เพื่อเปิดตาของพวกเขาและหันพวกเขาจากความมืดมาสู่ความสว่างและจากอำนาจของซาตานมาหาพระเจ้า เพื่อพวกเขาจะได้รับการอภัยโทษบาปและได้อยู่ในหมู่ผู้ที่ได้รับการชำระให้บริสุทธิ์โดยความเชื่อในเรา’ “นับแต่นั้น ข้าแต่กษัตริย์อากริปปา ข้าพระบาทจึงไม่ขัดขืนต่อนิมิตจากสวรรค์นั้น เริ่มแรก ข้าพระบาทประกาศแก่คนทั้งหลายในเมืองดามัสกัส จากนั้นแก่คนทั้งหลายในกรุงเยรูซาเล็มและทั่วแคว้นยูเดียและแก่ชาวต่างชาติด้วย ข้าพระบาทประกาศว่าพวกเขาควรกลับใจใหม่ หันมาหาพระเจ้า และพิสูจน์การกลับใจใหม่ด้วยการกระทำของตน ด้วยเหตุนี้เองพวกยิวจึงจับกุมข้าพระบาทที่ลานพระวิหารและพยายามจะฆ่าข้าพระบาท แต่เพราะพระเจ้าทรงช่วยข้าพระบาทมาจนถึงทุกวันนี้ข้าพระบาทจึงได้มายืนอยู่ที่นี่และเป็นพยานต่อทั้งผู้ใหญ่ผู้น้อย ข้าพระบาทไม่ได้พูดเรื่องอื่นใดนอกเหนือจากสิ่งที่บรรดาผู้เผยพระวจนะและโมเสสกล่าวไว้ว่าจะเกิดขึ้น คือที่พระคริสต์จะต้องทนทุกข์ทรมานและจะทรงสำแดงความสว่างแก่ประชากรของพระองค์เองและแก่คนต่างชาติในฐานะที่ทรงเป็นผู้แรกซึ่งเป็นขึ้นจากตาย”

กิจการ 26:1-23 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

อากริปปา​จึง​กล่าว​กับ​เปาโล​ว่า “ท่าน​ได้​รับ​อนุญาต​ให้​พูด​แก้​คดี​เอง” เปาโล​จึง​ยื่น​มือ​ออก​เป็น​สัญญาณ​แล้ว​เริ่ม​แก้​คดี​ว่า “ข้า​แต่​กษัตริย์​อากริปปา ใน​เรื่อง​ข้อ​กล่าว​หา​ทุก​สิ่ง​ที่​ชาว​ยิว​มี​ต่อ​ข้าพเจ้า ข้าพเจ้า​รู้สึก​ยินดี​ที่​มี​โอกาส​แก้​คดี​ต่อ​หน้า​ใต้เท้า​ใน​วัน​นี้ ข้าพเจ้า​ยินดี​จริงๆ เพราะ​ใต้เท้า​คุ้น​เคย​กับ​ประเพณี​นิยม และ​ปัญหา​โต้​แย้ง​ทุก​อย่าง​ของ​ชาว​ยิว ฉะนั้น​ข้าพเจ้า​ขอ​ให้​ใต้เท้า​ได้​โปรด​ทน​ฟัง​ข้าพเจ้า​เถิด ชาว​ยิว​ทุก​คน​ทราบ​ว่า​ข้าพเจ้า​มี​ความ​เป็น​อยู่​อย่างไร​ตั้งแต่​เป็น​เด็ก​มา เริ่ม​จาก​ชีวิต​ใน​ประเทศ​ของ​ข้าพเจ้า​และ​ใน​เมือง​เยรูซาเล็ม​ด้วย เขา​ทั้ง​หลาย​ก็​รู้จัก​ข้าพเจ้า​เป็น​เวลา​นาน และ​ถ้า​เขา​ยินยอม เขา​จะ​ให้​ปากคำ​ได้​ว่า ข้าพเจ้า​เคย​อยู่​ใน​พรรค​ที่​เคร่ง​ที่​สุด​ใน​ศาสนา​ของ​พวก​เรา คือ​เป็น​อยู่​อย่าง​ฟาริสี และ​มา​บัดนี้​ข้าพเจ้า​ต้อง​ขึ้น​ศาล ก็​เพราะ​ข้าพเจ้า​มี​ความ​หวัง​ใน​พระ​สัญญา​ของ​พระ​เจ้า​ที่​ได้​มอบ​ไว้​แก่​บรรพบุรุษ​ของ​เรา นี่​คือ​พระ​สัญญา​ที่ 12 เผ่า​มี​ความ​หวัง​ว่า​จะ​สำเร็จ​ลุล่วง ขณะ​ที่​พวก​เขา​ได้​นมัสการ​พระ​เจ้า​ทั้ง​วัน​และ​คืน ข้า​แต่​มหา​กษัตริย์ เป็น​เพราะ​ความ​หวัง​นี้​เอง ที่​ชาว​ยิว​กำลัง​กล่าว​หา​ข้าพเจ้า ทำไม​ท่าน​ทั้ง​หลาย​จึง​คิด​ว่า การ​ที่​พระ​เจ้า​ให้​คน​ตาย​ฟื้น​คืน​ชีวิต​นั้น​เป็น​ไป​ไม่​ได้ ข้าพเจ้า​เคย​คิด​ใน​ใจ​ว่า ข้าพเจ้า​ต้อง​กระทำ​ทุก​สิ่ง​ที่​จะ​ขัดขวาง​พระ​นาม​ของ​พระ​เยซู​แห่ง​เมือง​นาซาเร็ธ และ​ข้าพเจ้า​ก็​ได้​กระทำ​ไป​ตาม​นั้น​ใน​เมือง​เยรูซาเล็ม ข้าพเจ้า​จับ​กุม​ผู้​บริสุทธิ์​ของ​พระ​เจ้า​เป็น​จำนวน​มาก​ให้​เข้า​คุก ตาม​ที่​ได้​รับ​สิทธิ​อำนาจ​จาก​บรรดา​มหา​ปุโรหิต และ​เมื่อ​พวก​เขา​ถูก​ฆ่า​แล้ว ข้าพเจ้า​ก็​ออก​คะแนน​เสียง​เห็น​ดี​ด้วย บ่อย​ครั้ง​ที่​ข้าพเจ้า​ได้​ไป​ยัง​ศาลา​ที่​ประชุม​ทุก​แห่งหน เพื่อ​ให้​พวก​เขา​ได้​รับ​โทษ ข้าพเจ้า​พยายาม​บังคับ​ให้​พวก​เขา​กล่าว​คำ​หมิ่น​ประมาท​พระ​เจ้า ข้าพเจ้า​โกรธ​พวก​เขา​มาก จึง​ได้​ไป​ข่มเหง​พวก​เขา​ถึง​ต่าง​แดน ครั้ง​หนึ่ง ข้าพเจ้า​กำลัง​เดิน​ทาง​ไป​ยัง​เมือง​ดามัสกัส โดย​ถือ​สิทธิ​อำนาจ​ของ​พวก​มหา​ปุโรหิต​ที่​มี​คำ​สั่ง​ไป ข้า​แต่​มหา​กษัตริย์ พอ​ประมาณ​ได้​เที่ยง​วัน​ขณะ​ที่​ข้าพเจ้า​เดิน​ทาง​ไป ข้าพเจ้า​เห็น​แสง​จาก​สวรรค์​ซึ่ง​สว่าง​กว่า​ดวง​อาทิตย์​เจิดจ้า​อยู่​รอบ​ตัว​ข้าพเจ้า​และ​พวก​ที่​เดิน​ทาง​ไป​ด้วย พวก​เรา​ทุก​คน​ก็​ทรุด​ตัว​ลง​บน​พื้น และ​ข้าพเจ้า​ได้ยิน​เสียง​กล่าว​เป็น​ภาษา​ฮีบรู​ว่า ‘เซาโล เซาโล​เอ๋ย ทำไม​เจ้า​จึง​กดขี่​ข่มเหง​เรา เจ้า​เตะ​ปฏัก​ก็​เจ็บ​ตัว​เปล่า’ ข้าพเจ้า​ถาม​ว่า ‘พระ​องค์​ท่าน พระ​องค์​เป็น​ผู้​ใด’ พระ​องค์​ท่าน​ตอบ​ว่า ‘เรา​คือ​เยซู​ผู้​ที่​เจ้า​กำลัง​ข่มเหง จง​ลุก​ขึ้น​ยืน​เถิด เรา​ปรากฏ​แก่​เจ้า​เพื่อ​แต่งตั้ง​เจ้า​ให้​เป็น​ผู้​รับใช้ และ​เป็น​ผู้​ให้​คำ​ยืนยัน​ถึง​สิ่ง​ที่​เจ้า​เห็น​แล้ว อีก​ทั้ง​สิ่ง​ที่​เรา​จะ​ปรากฏ​ให้​แก่​เจ้า​อีก​ด้วย เรา​จะ​ช่วย​เจ้า​ให้​รอด​จาก​ชาว​ยิว​และ​จาก​พวก​คนนอก​ที่​เรา​กำลัง​จะ​ใช้​เจ้า​ให้​ไป​หา เพื่อ​ให้​เขา​ลืม​ตา​และ​หัน​จาก​ความ​มืด​สู่​ความ​สว่าง และ​หัน​จาก​อำนาจ​ของ​ซาตาน​เข้าหา​พระ​เจ้า เพื่อ​ว่า​พวก​เขา​จะ​ได้​รับ​การ​ยกโทษ​บาป และ​ได้​รับ​มรดก​ร่วม​กับ​หมู่​คน​ที่​พระ​เจ้า​ชำระ​ให้​บริสุทธิ์​แล้ว​เพราะ​เขา​มี​ความ​เชื่อ​ใน​เรา’ กษัตริย์​อากริปปา ข้าพเจ้า​ไม่​ได้​ขัดขืน​ภาพ​นิมิต​ที่​ปรากฏ​จาก​สวรรค์ ข้าพเจ้า​เริ่ม​ประกาศ​แก่​ผู้​คน​ใน​เมือง​ดามัสกัส เมือง​เยรูซาเล็ม ทั่ว​แคว้น​ยูเดีย​และ​แก่​บรรดา​คนนอก​ด้วย ข้าพเจ้า​ประกาศ​ว่า​เขา​เหล่า​นั้น​ควร​กลับ​ใจ และ​หัน​เข้า​หา​พระ​เจ้า​และ​ปฏิบัติ​ตน​เพื่อ​แสดง​การ​กลับ​ใจ เพราะ​เหตุนี้​ชาว​ยิว​จึง​ได้​จับ​กุม​ข้าพเจ้า​ใน​บริเวณ​พระ​วิหาร และ​พยายาม​จะ​ฆ่า​ข้าพเจ้า แต่​ว่า​พระ​เจ้า​ได้​ช่วยเหลือ​ข้าพเจ้า​มา​จน​ถึง​ทุก​วัน​นี้ ดังนั้น​ข้าพเจ้า​ยืน​อยู่​ที่​นี่​และ​ยืนยัน​กับ​ผู้​ใหญ่​และ​ผู้​น้อย ข้าพเจ้า​ไม่​ได้​พูด​สิ่ง​ใด​นอก​เหนือ​ไป​กว่า​เรื่อง​ที่​เหล่า​ผู้​เผย​คำกล่าว​ของ​พระ​เจ้า​และ​โมเสส​ได้​กล่าว​ไว้​ว่า​จะ​เกิด​ขึ้น คือ​พระ​คริสต์​จะ​ทน​ทุกข์​ทรมาน และ​เป็น​บุคคล​แรก​ที่​ฟื้น​คืน​ชีวิต​จาก​ความ​ตาย พระ​องค์​จะ​ประกาศ​เรื่อง​ความ​สว่าง​แก่​ชน​ชาติ​ของ​พระ​องค์ และ​แก่​บรรดา​คนนอก”