กิจการ 18:1-28

กิจการ 18:1-28 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

หลังจาก​นั้น​เปาโล​ก็​ออก​จาก​เมือง​เอเธนส์​ไป​ที่​เมือง​โครินธ์ เขา​ได้​พบ​กับ​คน​ยิว​ชื่อ อาควิลลา​ที่​เกิด​ใน​แคว้น​ปอนทัส อาควิลลา​กับ​ภรรยา​ที่​ชื่อ ปริสสิลลา เพิ่ง​มา​จาก​อิตาลี เพราะ​จักรพรรดิ​คลาวดิอัส สั่ง​ให้​ชาว​ยิว​ทุก​คน​ออก​จาก​กรุง​โรม เปาโล​ไป​หา​พวก​เขา เพราะ​เปาโล​และ​อาควิลลา​เป็น​ช่าง​เย็บ​หนัง​เหมือน​กัน เปาโล​ก็​เลย​ทำ​งาน​อยู่​กับ​พวก​เขา ทุก​วัน​หยุด​ทาง​ศาสนา เปาโล​ก็​จะ​ไป​พูด​โต้ตอบ​กัน​ใน​ที่​ประชุม​ชาว​ยิว เพื่อ​พยายาม​ชักชวน​ชาว​ยิว​และ​ชาว​กรีก​ให้​มา​เชื่อ​ใน​พระเยซู เมื่อ​สิลาส​และ​ทิโมธีมา​จาก​แคว้น​มาซิโดเนีย เปาโล​ทุ่มเท​เวลา​ทั้งหมด​ของ​เขา​ประกาศ​พระคำ​และ​พยายาม​จะ​ให้​ชาวยิว​รู้​ว่า พระเยซู​คือ​กษัตริย์​ผู้​ยิ่งใหญ่ เมื่อ​พวก​นั้น​ต่อต้าน​และ​พูดจา​หยาบคาย​กับ​เปาโล เปาโล​ก็​สะบัด​เสื้อผ้า ของ​เขา และ​พูด​ว่า “ชีวิต​ใคร​ก็​รับผิดชอบ​กัน​เอา​เอง​ก็​แล้ว​กัน ผม​ทำ​ดี​ที่สุด​แล้ว ต่อ​ไปนี้​ผม​จะ​ไปหา​คน​ที่​ไม่​ใช่​ยิว” เปาโล​ก็​ออก​จาก​ที่​ประชุม​ชาว​ยิว​ตรง​ไป​ที่​บ้าน​ของ​ชาย​ชื่อ ทิทิอัส​ยุสทัส ซึ่ง​ไม่​ใช่​คน​ยิว แต่​นับถือ​พระเจ้า บ้าน​ของ​เขา​อยู่​ถัด​จาก​ที่​ประชุม​ชาว​ยิว คริสปัส ซึ่ง​เป็น​หัวหน้า​ที่​ประชุม​ชาว​ยิว พร้อม​กับ​สมาชิก​ใน​ครอบครัว​ทุก​คน ก็​หัน​มา​ไว้วางใจ​ใน​องค์​เจ้า​ชีวิต ชาว​โครินธ์​อีก​จำนวน​มาก​ที่​ได้​ฟัง​เปาโล​พูด​ก็​ได้​ไว้วางใจ​ด้วย และ​เข้า​พิธี​จุ่มน้ำ คืน​หนึ่ง​องค์​เจ้า​ชีวิต​พูด​กับ​เปาโล​ใน​นิมิต​ว่า “ไม่​ต้อง​กลัว ประกาศ​ต่อ​ไป อย่า​เงียบ​เฉย เพราะ​เรา​อยู่​กับ​เจ้า จะ​ไม่​มี​ใคร​เข้า​มา​จู่โจม​ทำร้าย​เจ้า​ได้ เพราะ​เรา​มี​คน​อยู่​มากมาย​ใน​เมืองนี้” เปาโล​สั่งสอน​พระคำ​ของ​พระเจ้า​อยู่​ที่​เมือง​นั้น​ต่อไป​อีก​หนึ่ง​ปี​ครึ่ง ตอน​ที่​กัลลิโอ เป็น​ผู้ว่า​แคว้น​อาคายา ชาวยิว​รวม​ตัว​กัน​เข้า​ทำร้าย​เปาโล และ​พา​เขา​ไป​ที่​ศาล พวก​เขา​บอก​ว่า “ชาย​คนนี้​ชัก​ชวน​ให้​คน​ไป​กราบ​ไหว้​พระเจ้า​ใน​ทาง​ที่​ขัด​กับ​กฎ​ของ​เรา” พอ​เปาโล​จะ​อ้า​ปาก​พูด กัลลิโอ​ก็​พูด​กับ​ชาว​ยิว​ว่า “ถ้า​เรื่องนี้​มัน​เกี่ยวกับ​ความ​ผิด​หรือ​คดี​ร้ายแรง เรา​ก็​จะ​ฟัง​พวก​ท่าน แต่​นี่​มัน​เป็น​เรื่อง​โต้แย้ง​เกี่ยว​กับ​คำสอน​ต่างๆ ชื่อ​ต่างๆ​และ​กฎ​ปฏิบัติ​ของ​พวก​ท่าน ไป​จัดการ​กัน​เอา​เอง​ก็​แล้ว​กัน เรา​ไม่​ขอ​ยุ่ง​เกี่ยวกับ​เรื่อง​อย่างนี้” แล้ว​กัลลิโอ​ก็​ไล่​คน​ทั้งหมด​ออก​ไป​จาก​ศาล พวก​ฝูงชน​จึง​ไป​คว้า​ตัว​โสสเธเนส ซึ่ง​เป็น​หัวหน้า​ที่​ประชุม​ชาว​ยิว​มา​ทุบ​ตี​ต่อหน้า​ศาล แต่​กัลลิโอ​ก็​ไม่​สนใจ​ใยดี​อะไร​ทั้งสิ้น เปาโล​อยู่​ที่​นั่น​ต่อไป​อีก​หลาย​วัน แล้ว​จึง​ลาพวก​พี่น้อง​ลง​เรือ​ไป​ที่​แคว้น​ซีเรีย ปริสสิลลา​และ​อาควิลลา​ก็​ไปกับ​เขา​ด้วย แต่​ก่อน​ที่​เปาโล​จะ​จาก​ไป เขา​โกน​หัว เพราะ​ได้​สาบาน​ตน​เอา​ไว้​กับ​พระเจ้า​ที่​เมือง​เคนเครีย เมื่อ​พวก​เขา​มา​ถึง​เมือง​เอเฟซัส เปาโล​ก็​ปล่อย​ปริสสิลลา​และ​อาควิลลา​ไว้​ที่​นั่น ใน​ระหว่าง​ที่​เปาโล​อยู่​ที่​นั่น เขา​เข้า​ไป​ใน​ที่​ประชุม​ชาว​ยิว และ​พูด​โต้ตอบ​กับ​พวก​ชาว​ยิว​ใน​นั้น เมื่อ​พวก​นั้น​ขอร้อง​ให้​เปาโล​พัก​อยู่​ที่​นั่น​ต่อ​ไป​อีก เปาโล​ไม่​ยอม แต่​ก่อน​ที่​เขา​จะ​จาก​ไป​เขา​ได้​พูด​ว่า “ถ้า​เป็น​ความ​ต้องการ​ของ​พระเจ้า ผม​จะ​กลับ​มาหา​พวก​คุณ​อีก” แล้ว​เปาโล​ก็​นั่ง​เรือ​ไป​จาก​เมือง​เอเฟซัส เมื่อ​มา​ถึง​เมือง​ซีซารียา เปาโล​ไป​ทักทาย​หมู่​ประชุม​ของ​พระเจ้า​ที่​เมือง​เยรูซาเล็ม​แล้ว​จึง​ลง​ไป​ที่​เมือง​อันทิโอก หลัง​จาก​อยู่​ที่​นั่น​ระยะ​หนึ่ง เปาโล​ก็​เดิน​ทาง​ไป​เยี่ยม​ตาม​ที่​ต่างๆ​ทั่ว​แคว้น​กาลาเทีย และ​แคว้น​ฟรีเจีย เพื่อ​ช่วย​พวก​ศิษย์​ของ​พระเยซู​ให้​มี​ความเชื่อ​เข้มแข็ง​ขึ้น มี​ชาว​ยิว​คน​หนึ่ง​ชื่อ อปอลโล เกิด​ที่​เมือง​อเล็กซานเดรีย เป็น​ชาย​ที่​มี​การ​ศึกษา​ดี​และ​อ้าง​ข้อ​พระคัมภีร์​ได้​อย่าง​คล่องแคล่ว เขา​ได้รับ​การ​สั่งสอน​ให้​รู้​ถึง​แนว​ทาง​ของ​องค์​เจ้า​ชีวิต และ​เขา​ได้​พูด​และ​สั่งสอน​เรื่อง​ของ​พระเยซู ด้วย​ความ​กระตือรือร้น​และ​ถูกต้อง​แม่นยำ ถึง​แม้ว่า​เขา​จะ​รู้​แค่​เรื่อง​การ​ทำ​พิธี​จุ่มน้ำ​ของ​ยอห์น​เท่า​นั้น อปอลโล เริ่ม​พูด​เรื่อง​ของ​พระเยซู​อย่าง​กล้าหาญ​ใน​ที่​ประชุม​ชาว​ยิว เมื่อ​ปริสสิลลา​และ​อาควิลลา​มา​ได้ยิน​เข้า ก็​พา​อปอลโล​หลบ​มา​ข้างๆ​และ​อธิบาย​เรื่อง​แนว​ทาง​ของ​พระเจ้า​ให้​เขา​รู้​อย่าง​ถูกต้อง​ยิ่ง​ขึ้น เมื่อ​อปอลโล​อยาก​จะ​ไป​ที่​แคว้น​อาคายา พวก​พี่น้อง​ก็​ให้​กำลังใจ​เขา และ​เขียน​จดหมาย​ไป​ถึง​พวก​ศิษย์​ของ​พระเยซู​ที่​อยู่​ที่​นั่น​ให้​ต้อนรับ​เขา​ด้วย เมื่อ​อปอลโล​ไป​ถึง​แคว้น​อาคายา เขา​ได้​ช่วยเหลือ​คน​พวก​นั้น​ที่​ได้​มา​ไว้วางใจ​ใน​พระเยซู​เพราะ​ความ​เมตตา​กรุณา​ของ​พระเจ้า จาก​การ​โต้แย้ง​กัน​ใน​ที่​สาธารณะ อปอลโล​ได้​ทำ​ให้​พวก​ยิว​พ่ายแพ้​หมด​ท่า เขา​ยก​ข้อ​พระคัมภีร์​มา​แสดง​ให้​เห็น​ว่า พระเยซู​คือ​กษัตริย์​ผู้​ยิ่งใหญ่

กิจการ 18:1-28 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

หลังจากนั้น เปาโลจึงออกจากกรุงเอเธนส์ไปยังเมืองโครินธ์ ท่านพบยิวคนหนึ่งที่นั่นชื่ออาควิลลาซึ่งเกิดในแคว้นปอนทัส แต่พึ่งมาจากประเทศอิตาลีกับภรรยาที่ชื่อปริสสิลลา เพราะจักรพรรดิคลาวดิอัสมีรับสั่งให้พวกยิวทั้งหมดออกไปจากกรุงโรม เปาโลจึงไปหาคนทั้งสอง ท่านอาศัยและทำงานอยู่กับเขาทั้งสอง เพราะว่าทั้งสองฝ่ายเป็นช่างทำเต็นท์ด้วยกัน เปาโลนั้นถกปัญหาในธรรมศาลาทุกวันสะบาโต และชักชวนทั้งพวกยิวและพวกกรีกให้เชื่อ พอสิลาสกับทิโมธีมาจากแคว้นมาซิโดเนีย เปาโลก็ทุ่มเทกับการประกาศพระวจนะและเป็นพยานกับพวกยิวว่า พระคริสต์นั้นคือพระเยซู แต่เมื่อพวกเขาต่อต้านและกล่าวคำหยาบช้า เปาโลจึงสะบัดเสื้อผ้ากล่าวกับพวกเขาว่า “โทษที่ท่านทั้งหลายต้องตายนั้น พวกท่านต้องรับผิดชอบเอง ข้าพเจ้าไม่มีโทษแล้ว ตั้งแต่นี้ไปข้าพเจ้าจะไปหาคนต่างชาติ” ท่านจึงออกจากที่นั่น แล้วเข้าไปในบ้านของชายคนหนึ่งชื่อทิทิอัสยุสทัสซึ่งเป็นคนที่นับถือพระเจ้า บ้านของเขาอยู่ติดกับธรรมศาลา คริสปัสนายธรรมศาลากับทั้งครัวเรือนของท่านก็มาเชื่อถือในองค์พระผู้เป็นเจ้า และชาวโครินธ์หลายคนเมื่อฟังเปาโลแล้วก็เชื่อถือและรับบัพติศมา และองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับเปาโลทางนิมิตในคืนหนึ่งว่า “อย่ากลัวเลย แต่จงกล่าวต่อไป อย่านิ่งเสีย เพราะว่าเราอยู่กับเจ้าและจะไม่มีใครต่อสู้ทำร้ายเจ้า เพราะว่ามีคนจำนวนมากในนครนี้ที่เป็นประชากรของเรา” เปาโลจึงอยู่ต่อไป และสั่งสอนพระวจนะของพระเจ้าตลอดปีหนึ่งกับหกเดือน แต่เมื่อกัลลิโอเป็นผู้สำเร็จราชการแคว้นอาคายา พวกยิวรวมตัวกันขึ้นต่อสู้เปาโลและนำตัวท่านไปศาล ฟ้องว่า “คนนี้ชักชวนคนทั้งหลายให้นับถือพระเจ้าในทางที่ผิดกฎหมาย” เมื่อเปาโลกำลังจะพูด กัลลิโอก็กล่าวกับพวกยิวว่า “นี่แน่ะพวกยิว ถ้าเป็นเรื่องการอธรรมหรือเรื่องอาชญากรรม ข้าก็เห็นสมควรที่จะฟังพวกเจ้า แต่ในเมื่อเป็นการโต้แย้งกันเรื่องถ้อยคำกับเรื่องชื่อและธรรมบัญญัติของพวกเจ้า พวกเจ้าก็จงวินิจฉัยกันเอาเองเถิด ข้าไม่อยากเป็นผู้พิพากษาตัดสินข้อความเหล่านั้น” ท่านจึงไล่พวกนั้นไปจากศาล เขาทั้งหลายจึงจับโสสเธเนสนายธรรมศาลามาเฆี่ยนข้างหน้าศาล แต่กัลลิโอไม่สนใจเรื่องนี้เลย เปาโลพักอยู่ที่นั่นอีกหลายวัน แล้วท่านจึงลาพวกพี่น้องลงเรือไปยังแคว้นซีเรีย และปริสสิลลากับอาควิลลาก็ไปด้วย เปาโลกล้อนผมที่เมืองเคนเครียเพราะท่านบนตัวไว้ เมื่อมาถึงเมืองเอเฟซัส เปาโลก็ละปริสสิลลากับอาควิลลาไว้ที่นั่น ตัวท่านเองเข้าไปในธรรมศาลาและถกปัญหากับพวกยิว เมื่อคนเหล่านั้นขอให้ท่านอยู่กับพวกเขาต่อไปอีก ท่านก็ไม่ยอม แต่ลาพวกเขาไปโดยกล่าวว่า “ถ้าเป็นที่พอพระทัยพระเจ้า ข้าพเจ้าจะกลับมาหาพวกท่านอีก” แล้วเปาโลก็ลงเรือแล่นออกจากเมืองเอเฟซัส เมื่อมาถึงเมืองซีซารียา ท่านขึ้นไปคำนับคริสตจักรแล้วลงไปยังเมืองอันทิโอก เมื่อพักอยู่ที่นั่นระยะหนึ่ง ท่านจึงจากที่นั่นและเดินทางต่อไปจนทั่วแคว้นกาลาเทียและฟรีเจียเพื่อจะช่วยชูกำลังพวกสาวก มียิวคนหนึ่งชื่ออปอลโล เกิดในเมืองอเล็กซานเดรีย เป็นคนมีโวหารดีและชำนาญมากในเรื่องพระคัมภีร์ ท่านมายังเมืองเอเฟซัส อปอลโลคนนี้ได้รับการอบรมในทางขององค์พระผู้เป็นเจ้า และมีใจกระตือรือร้นกล่าวสั่งสอนอย่างถูกต้องในเรื่องเกี่ยวกับพระเยซู แม้ว่าท่านจะรู้แต่เพียงบัพติศมาของยอห์นเท่านั้น ท่านเข้าไปในธรรมศาลาสั่งสอนด้วยความกล้าหาญ แต่เมื่อปริสสิลลากับอาควิลลาฟังท่านแล้ว ก็รับท่านมาสั่งสอนให้รู้ทางของพระเจ้าให้ถูกต้องยิ่งขึ้น เมื่ออปอลโลต้องการจะข้ามไปยังแคว้นอาคายา พี่น้องก็หนุนใจท่านและเขียนจดหมายฝากไปถึงสาวกที่นั่นให้รับรองท่านไว้ เมื่อไปถึงแล้วท่านก็ได้ช่วยเหลือคนทั้งหลายที่เชื่อโดยพระคุณของพระเจ้าอย่างมากมาย เพราะท่านโต้แย้งกับพวกยิวอย่างแข็งขันต่อหน้าคนทั้งปวง และอ้างพระคัมภีร์ชี้ให้เห็นว่าพระเยซูคือพระคริสต์

กิจการ 18:1-28 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

ภายหลังเหตุ​การณ์​เหล่านี้​เปาโลจึงออกจากกรุงเอเธนส์ไปยังเมืองโครินธ์ ท่านได้พบยิวคนหนึ่งชื่ออาควิลลา ซึ่งเกิดในแคว้นปอนทัส แต่​พึ่งมาจากประเทศอิ​ตาล​ีกับภรรยาชื่อปริ​สส​ิลลา (เพราะคลาวดิอั​สม​ีรับสั่งให้พวกยิ​วท​ั้งปวงออกไปจากกรุงโรม) เปาโลจึงไปหาคนทั้งสองนั้น และเพราะเขามีอาชีพอย่างเดียวกันจึงได้อาศัยทำการอยู่กับเขา เพราะว่าทั้งสองฝ่ายเป็นช่างทำเต็นท์​ด้วยกัน เปาโลได้​โต้​เถียงในธรรมศาลาทุกวันสะบาโต ได้​ชักชวนทั้งพวกยิวและพวกกรีก พอสิลาสกั​บท​ิโมธีมาจากแคว้นมาซิโดเนีย เปาโลก็​ได้​รับการดลใจ และเป็นพยานแก่พวกยิ​วว​่าพระเยซูเป็นพระคริสต์ แต่​เมื่อพวกเหล่านั้นขัดขวางตัวเองและกล่าวคำหมิ่นประมาท เปาโลจึงได้สะบัดเสื้อผ้ากล่าวแก่เขาว่า “​ให้​เลือดของท่านทั้งหลายตกบนศีรษะของท่านเองเถิด ข้าพเจ้าก็ปราศจากเลือดนั้นแล้ว ตั้งแต่​นี้​ไปข้าพเจ้าจะไปหาคนต่างชาติ” ท่านจึงออกจากที่​นั่น แล​้วเข้าไปในบ้านของชายคนหนึ่งชื่อยุสทัส ซึ่งเป็นผู้​นม​ัสการพระเจ้า บ้านของเขาอยู่​ติ​ดก​ับธรรมศาลา ฝ่ายคริสปัสนายธรรมศาลากั​บท​ั้งครัวเรือนของท่านได้เชื่อในองค์​พระผู้เป็นเจ้า และชาวโครินธ์หลายคนเมื่อได้ฟังแล้​วก​็​ได้​เชื่อถือและรับบัพติศมา และองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ตรัสกับเปาโลทางนิ​มิ​ตในคื​นว​ันหนึ่งว่า “อย่ากลัวเลย แต่​จงกล่าวต่อไป อย่านิ่งเสีย เพราะว่าเราอยู่กับเจ้าและจะไม่​มี​ผู้​หน​ึ่งผู้ใดอาจต่อสู้ทำร้ายเจ้า ด้วยว่าคนของเราในนครนี้​มี​มาก​” เปาโลจึงยับยั้งอยู่กับเขาและสั่งสอนพระวจนะของพระเจ้าตลอดหนึ่งปีกับหกเดือน แต่​คราวเมื่​อก​ัลลิโอเป็นผู้สำเร็จราชการแคว้นอาคายา พวกยิวได้ฮื​อก​ันขึ้นต่อสู้เปาโล และพาท่านไปบัลลั​งก​์​พิพากษา ฟ้องว่า “คนนี้ชักชวนคนทั้งหลายให้​นม​ัสการพระเจ้าตามทางที่​ผิดกฎหมาย​” เมื่อเปาโลจะอ้าปากพูด กัลลิ​โอก​็​กล​่าวแก่พวกยิ​วว​่า “​โอ พวกยิว ถ้าเป็นเรื่องความชั่วหรือเป็นเรื่องอาชญากรรม สมควรเราจะฟังท่านทั้งหลาย แต่​ถ้าเป็นการโต้​แย้​งก​ันถึงเรื่องถ้อยคำกับชื่อและพระราชบัญญั​ติ​ของพวกท่านแล้ว ท่านทั้งหลายจงวินิจฉั​ยก​ันเอาเองเถิด เราไม่อยากเป็นผู้พิพากษาตัดสินข้อความเหล่านั้น” ท่านจึงไล่พวกนั้นไปจากบัลลั​งก​์​พิพากษา บรรดาชาติ​กร​ีกจึงจับโสสเธเนสนายธรรมศาลามา เฆี่ยนข้างหน้าบัลลั​งก​์​พิพากษา แต่​กัลลิโอไม่เอาธุระเลย ต่อมาเปาโลได้พักอยู่​ที่​นั่​นอ​ีกหลายวัน แล​้​วท​่านจึงลาพวกพี่น้องแล่นเรือไปยังแคว้นซีเรีย และปริ​สส​ิลลากับอาควิลลาก็ไปด้วย เปาโลได้โกนศีรษะที่เมืองเคนเครีย เพราะท่านได้ปฏิญาณตัวไว้ ครั้นมายังเมืองเอเฟซัส เปาโลได้ละปริ​สส​ิลลากับอาควิลลาไว้​ที่นั่น แต่​ท่านเองได้​เข​้าไปโต้เถียงกับพวกยิวในธรรมศาลา เมื่อคนเหล่านั้นขอให้ท่านอยู่กับเขาต่อไป ท่านก็​ไม่ยอม แต่​ได้​ลาเขาไปกล่าวว่า “ข้าพเจ้าจะพยายามรักษาเทศกาลเลี้ยงที่จะถึงในกรุงเยรูซาเล็มโดยทุกวิถี​ทาง แต่​ถ้าเป็​นที​่ชอบพระทัยพระเจ้า ข้าพเจ้าจะกลับมาหาท่านทั้งหลายอีก” แล​้วเปาโลได้ลงเรือแล่นออกจากเมืองเอเฟซัส ครั้นมาถึงเมืองซีซารี​ยา ท่านได้ขึ้นไปคำนับคริสตจักรแล้วลงไปยังเมืองอันทิ​โอก ครั้นยับยั้งอยู่​ที่​นั่นหน่อยหนึ่ง ท่านจึงไปตลอดแว่นแคว้นกาลาเทียและฟรี​เจ​ียตามลำดั​บก​ันไปเรื่อยๆ เพื่อจะช่วยชูกำลังพวกสาวก มี​ยิวคนหนึ่งชื่ออปอลโล เก​ิดในเมืองอเล็กซานเดรีย เป็นคนมีโวหารดี และชำนาญมากในทางพระคัมภีร์ ท่านมายังเมืองเอเฟซัส อปอลโลคนนี้​ได้​รับการอบรมในทางขององค์​พระผู้เป็นเจ้า และมีใจร้อนรนกล่าวสั่งสอนโดยละเอียดถึงเรื่ององค์​พระผู้เป็นเจ้า ถึงแม้​ว่าท่านรู้​แต่​เพียงบัพติศมาของยอห์นเท่านั้น ท่านได้ตั้งต้นสั่งสอนโดยใจกล้าในธรรมศาลา แต่​เมื่ออาควิลลากับปริ​สส​ิลลาได้ฟังท่านแล้ว เขาจึงรั​บท​่านมาสั่งสอนให้​รู้​ทางของพระเจ้าให้​ถู​กต้องยิ่งขึ้น ครั้นอปอลโลใคร่จะไปยังแคว้นอาคายา พวกพี่น้องก็​เข​ียนจดหมายฝากไปถึงสาวกที่นั่นให้เขารับรองท่านไว้ ครั้นท่านไปถึงแล้ว ท่านได้ช่วยเหลือคนทั้งหลายที่​ได้​เชื่อโดยพระคุณนั้นอย่างมากมาย เพราะท่านโต้​แย้​งก​ับพวกยิวอย่างแข็งแรงต่อหน้าคนทั้งปวง และชี้แจงยกหลักในพระคัมภีร์อ้างให้​เห​็​นว​่า พระเยซู​คือพระคริสต์

กิจการ 18:1-28 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

หลังจากนั้น เปาโลจึงออกจากกรุงเอเธนส์ไปยังเมืองโครินธ์ ท่านได้พบยิวคนหนึ่งที่นั่นชื่ออาควิลลา ซึ่งเกิดในแคว้นปอนทัส แต่พึ่งมาจากประเทศอิตาลีกับภรรยาชื่อ ปริสสิลลา เพราะจักรพรรดิคลาวดิอัสมีรับสั่งให้พวกยิวทั้งปวง ออกไปจากกรุงโรม เปาโลจึงไปหาคนทั้งสองนั้น และได้อาศัยทำการอยู่กับเขา เพราะว่าทั้งสองฝ่ายเป็นช่างทำเต็นท์ด้วยกัน เปาโลได้สนทนาธรรมในธรรมศาลาทุกวันสะบาโต ได้ชักชวนทั้งพวกยิวและพวกกรีกให้เชื่อ พอสิลาสกับทิโมธีมาจากแคว้นมาซิโดเนีย เปาโลก็เริ่มฝักใฝ่ในการประกาศพระวจนะ และเป็นพยานแก่พวกยิวว่า พระคริสต์นั้นคือพระเยซู แต่เมื่อพวกเหล่านั้นขัดขวาง กล่าวคำหยาบช้า เปาโลจึงได้สะบัดเสื้อผ้า กล่าวแก่เขาว่า <<โทษที่ท่านทั้งหลายต้องตายนั้น ท่านเองต้องรับผิดชอบ ข้าพเจ้าไม่มีโทษแล้ว ตั้งแต่นี้ไปข้าพเจ้าจะไปหาคนต่างชาติ>> ท่านจึงออกจากที่นั่น แล้วเข้าไปในบ้านของชายคนหนึ่งชื่อทิทิอัสยุสทัส ซึ่งเป็นคนถือพระเจ้า บ้านของเขาอยู่ติดกับธรรมศาลา ฝ่ายคริสปัสนายธรรมศาลา กับทั้งครัวเรือนของท่านได้เชื่อถือพระเจ้า และชาวโครินธ์หลายคนเมื่อได้ฟังเปาโลแล้ว ก็ได้เชื่อถือและรับบัพติศมา และองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ตรัสกับเปาโลทางนิมิต ในคืนหนึ่งว่า <<อย่ากลัวเลย แต่จงกล่าวต่อไป อย่านิ่งเสีย เพราะว่าเราอยู่กับเจ้าและจะไม่มีผู้หนึ่งผู้ใดอาจต่อสู้ทำร้ายเจ้า ด้วยว่าคนของเราในนครนี้มีมาก>> เปาโลจึงยับยั้งอยู่กับเขา และสั่งสอนพระวจนะของพระเจ้าตลอดปีหนึ่งกับหกเดือน แต่คราวเมื่อกัลลิโอเป็นผู้สำเร็จราชการแคว้นอาคายา พวกยิวได้ฮือกันขึ้นต่อสู้เปาโล และพาท่านไปศาล ฟ้องว่า <<คนนี้ชักชวนคนทั้งหลายให้นมัสการพระเจ้าตามทางที่ผิดกฎหมาย>> เมื่อเปาโลจะอ้าปากพูด กัลลิโอก็กล่าวแก่พวกยิวว่า <<ดูก่อนพวกยิว ถ้าเป็นเรื่องการอธรรมหรือเป็นเรื่องอาชญากรรม สมควรเราจะฟังท่านทั้งหลาย แต่เมื่อเป็นการโต้แย้งกันถึงเรื่องถ้อยคำกับชื่อ และธรรมบัญญัติของพวกท่านแล้ว ท่านทั้งหลายจงวินิจฉัยกันเอาเองเถิด เราไม่อยากเป็นผู้พิพากษาตัดสินข้อความเหล่านั้น>> ท่านจึงไล่พวกนั้นไปจากศาล เขาทั้งหลายจึงจับโสสเธเนส นายธรรมศาลามาเฆี่ยนข้างหน้าศาล แต่กัลลิโอไม่เอาธุระเลย ต่อมาเปาโลได้พักอยู่ที่นั่นอีกหลายวัน แล้วท่านจึงลาพวกพี่น้องแล่นไปยังแคว้นซีเรีย และปริสสิลลากับอาควิลลาก็ไปด้วย เปาโลได้กล้อนผมที่เมืองเคนเครีย เพราะท่านได้บนตัวไว้ ครั้นมายังเมืองเอเฟซัส เปาโลได้ละปริสสิลลากับอาควิลลาไว้ที่นั่น แต่ท่านเองได้เข้าไปพูดกับพวกยิวในธรรมศาลา เมื่อคนเหล่านั้นขอให้ท่านอยู่กับเขาต่อไป ท่านก็ไม่ยอม แต่ได้ลาเขาไปกล่าวว่า <<ถ้าเป็นที่ชอบพระทัยพระเจ้า ข้าพเจ้าจะกลับมาหาท่านทั้งหลายอีก>> แล้วเปาโลได้ลงเรือแล่นออกจากเมืองเอเฟซัส ครั้นมาถึงเมืองซีซารียา ท่านได้ขึ้นไปคำนับคริสตจักรแล้วลงไปยังเมืองอันทิโอก ครั้นยับยั้งอยู่ที่นั่นหน่อยหนึ่ง ท่านจึงไปตลอดแว่นแคว้นกาลาเทียและฟรีเจีย เพื่อจะช่วยชูกำลังพวกสาวก มียิวคนหนึ่งชื่ออปอลโล เกิดในเมืองอเล็กซานเดรีย เป็นคนมีโวหารดี และชำนาญมากในทางพระคัมภีร์ ท่านมายังเมืองเอเฟซัส อปอลโลคนนี้ได้รับการอบรมในทางขององค์พระผู้เป็นเจ้า และมีใจร้อนรนกล่าวสั่งสอนอย่างถูกต้องถึงเรื่องพระเยซู ถึงแม้ท่านรู้แต่เพียงบัพติศมาของยอห์นเท่านั้น ท่านได้เข้าไปในธรรมศาลาสั่งสอนโดยใจกล้า แต่เมื่อปริสสิลลากับอาควิลลาได้ฟังท่านแล้ว เขาจึงรับท่านมาสั่งสอนให้รู้ทางของพระเจ้าให้ถูกต้องยิ่งขึ้น ครั้นอปอลโลจะใคร่ข้ามไปยังแคว้นอาคายา พวกพี่น้องก็หนุนใจเขา และได้เขียนจดหมายฝากไปถึงสาวกที่นั่นให้เขารับรองท่านไว้ ครั้นท่านไปถึงแล้ว ท่านได้ช่วยเหลือคนทั้งหลายที่ได้เชื่อโดยพระคุณของพระเจ้าอย่างมากมาย เพราะท่านโต้แย้งกับพวกยิวอย่างแข็งแรงต่อหน้าคนทั้งปวง และชี้แจงยกหลักในพระคัมภีร์อ้างให้เห็นว่า พระคริสต์คือพระเยซู

กิจการ 18:1-28 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

หลังจากนั้นเปาโลออกจากกรุงเอเธนส์ ไปยังเมืองโครินธ์ ที่นั่น เขาพบชาวยิวคนหนึ่งชื่ออาควิลลาชาวแคว้นปอนทัส เพิ่งมา จากอิตาลีพร้อมกับภรรยาชื่อปริสสิลลา เนื่องจากจักรพรรดิคลาวดิอัสออกคำสั่งให้ชาวยิวทั้งปวงออกจากกรุงโรม เปาโลไปพบคนทั้งสอง และเนื่องจากเปาโลเป็นช่างทำเต็นท์เช่นเดียวกับพวกเขา จึงได้พักอาศัยและทำงานอยู่กับพวกเขา ทุกวันสะบาโต เปาโลยกเหตุผลมาอภิปรายในธรรมศาลาเพื่อชักชวนทั้งชาวยิวและชาวกรีก เมื่อสิลาสกับทิโมธีมาจากแคว้นมาซิโดเนียเปาโลก็อุทิศตัวทั้งหมดให้กับการเทศนาเป็นพยานแก่ชาวยิวว่าพระเยซูทรงเป็นพระคริสต์ แต่เมื่อพวกยิวต่อต้านและทำต่อเปาโลอย่างหยาบช้า เขาก็สะบัดเสื้อผ้าแสดงการประท้วงและกล่าวว่า “ให้พวกท่านรับผิดชอบการตัดสินใจของท่านเองเถิด! ข้าพเจ้าพ้นความรับผิดชอบแล้วตั้งแต่นี้ต่อไปข้าพเจ้าจะไปหาคนต่างชาติ” แล้วเปาโลก็ออกจากธรรมศาลาไปยังบ้านของทิทีอัสยุสทัสซึ่งอยู่ถัดไป เขาเป็นคนหนึ่งที่นมัสการพระเจ้า ฝ่าย คริสปัสนายธรรมศาลากับทั้งครัวเรือนได้เชื่อในองค์พระผู้เป็นเจ้าและชาวโครินธ์หลายคนที่ได้ฟังเขาก็เชื่อและรับบัพติศมา คืนหนึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับเปาโลในนิมิตว่า “อย่ากลัวเลย จงประกาศต่อไป อย่าเงียบเลย เพราะเราอยู่กับเจ้า และไม่มีใครจะเล่นงานและทำร้ายเจ้าได้เพราะคนของเราในเมืองนี้มีมาก” ดังนั้นเปาโลจึงอยู่สั่งสอนพระวจนะของพระเจ้าที่นั่นตลอดปีครึ่ง ขณะที่กัลลิโอเป็นผู้ตรวจการแคว้นอาคายา พวกยิวรวมตัวกันโจมตีเปาโลและนำเขาขึ้นศาล พวกเขาฟ้องร้องว่า “ชายผู้นี้ชักจูงให้ผู้คนนมัสการพระเจ้าในทางที่ขัดต่อกฎหมาย” พอเปาโลจะเอ่ยปากกัลลิโอก็กล่าวกับพวกยิวว่า “หากท่านชาวยิวจะร้องทุกข์คดีอาญาไม่ว่าสถานหนักหรือสถานเบาก็สมควรที่เราจะรับฟังพวกท่าน แต่นี่เป็นปัญหาเรื่องถ้อยคำ เรื่องชื่อ และบทบัญญัติของพวกท่านเอง ไปตกลงกันเองเถิด เราจะไม่ตัดสินในเรื่องเหล่านี้” ว่าแล้วก็ให้พวกเขาออกไปจากศาล เขาทั้งหลายจึงจับโสสเธเนสนายธรรมศาลาไปโบยตีหน้าศาลแต่กัลลิโอก็ไม่สนใจ เปาโลพักอยู่ในเมืองโครินธ์ชั่วระยะหนึ่งแล้วก็จากพวกพี่น้องลงเรือไปแคว้นซีเรียโดยมีปริสสิลลากับอาควิลลาไปด้วย ก่อนที่จะลงเรือเขากล้อนผมที่เมืองเคนเครียเพราะได้สาบานตนไว้ เมื่อมาถึงเมืองเอเฟซัสเปาโลก็ละปริสสิลลากับอาควิลลา ส่วนเขาเองเข้าไปในธรรมศาลาและยกเหตุผลมาอภิปรายกับพวกยิว เมื่อพวกนั้นขอให้เขาอยู่ต่อไปอีกเขาก็ปฏิเสธ แต่ตอนจากกันเปาโลสัญญาว่า “หากเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า ข้าพเจ้าจะกลับมาอีก” แล้วเขาก็ลงเรือไปจากเมืองเอเฟซัส เมื่อขึ้นฝั่งที่เมืองซีซารียา เขาขึ้นไปทักทายคริสตจักรจากนั้นลงไปที่เมืองอันทิโอก หลังจากอยู่ที่เมืองอันทิโอกชั่วระยะหนึ่งเปาโลเดินทางจากที่นั่นไปยังที่ต่างๆ ทั่วแคว้นกาลาเทียและฟรีเจียเพื่อเสริมสร้างสาวกทั้งปวงให้เข้มแข็งขึ้น ขณะเดียวกันมีชาวยิวคนหนึ่งชื่ออปอลโลพื้นเพเป็นชาวอเล็กซานเดรียมาที่เมืองเอเฟซัส เขาเป็นผู้คงแก่เรียนและรู้พระคัมภีร์อย่างดี เขาได้รับการอบรมในทางขององค์พระผู้เป็นเจ้า เขาพูดด้วยใจร้อนรนและสอนเรื่องพระเยซูอย่างถูกต้อง แม้ว่าเขาจะรู้จักแต่เพียงบัพติศมาของยอห์น เขาพูดในธรรมศาลาด้วยใจกล้า เมื่อปริสสิลลากับอาควิลลาได้ฟังเขาแล้วก็เชิญมาที่บ้านและอธิบายเรื่องทางของพระเจ้าให้เขาเข้าใจมากยิ่งขึ้น เมื่ออปอลโลอยากจะไปแคว้นอาคายาพวกพี่น้องก็ให้กำลังใจเขาและเขียนจดหมายถึงสาวกที่นั่นให้ต้อนรับเขา เมื่อเขาไปถึงก็ได้ให้ความช่วยเหลืออย่างมากมายแก่บรรดาผู้ที่ได้มาเชื่อโดยพระคุณของพระเจ้า เพราะเขาโต้แย้งอย่างแข็งขันกับพวกยิวต่อหน้าสาธารณชนโดยยกข้อพระคัมภีร์มาพิสูจน์ว่าพระเยซูทรงเป็นพระคริสต์

กิจการ 18:1-28 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

หลัง​จาก​นั้น​เปาโล​ก็​ออก​จาก​เมือง​เอเธนส์ แล้ว​ไป​ยัง​เมือง​โครินธ์ ท่าน​พบ​ชาว​ยิว​ชื่อ​อาควิลลา​ซึ่ง​มี​พื้นเพ​ดั้งเดิม​มา​จาก​แคว้น​ปอนทัส เขา​เพิ่ง​มา​จาก​ประเทศ​อิตาลี​กับ​ภรรยา​ชื่อ​ปริสสิลลา เพราะ​จักรพรรดิ​คลาวดิอัส​ได้​ออก​คำ​สั่ง​ให้​ชาว​ยิว​ทุก​คน​ออก​จาก​เมือง​โรม เปาโล​จึง​ไป​หา​เขา​ทั้ง​สอง และ​ด้วย​เหตุที่​ท่าน​มี​อาชีพ​สร้าง​กระโจม​เหมือน​กัน ท่าน​จึง​พัก​และ​ทำ​งาน​อยู่​ด้วย​กับ​เขา ทุก​วัน​สะบาโต​ท่าน​จะ​อภิปราย​ใน​ศาลา​ที่​ประชุม​เพื่อ​ชัก​ชวน​กลุ่ม​ชาว​ยิว​และ​กรีก เมื่อ​สิลาส​และ​ทิโมธี​มา​จาก​แคว้น​มาซิโดเนีย เปาโล​อุทิศ​ตน​อย่าง​เต็ม​ที่​ใน​การ​ประกาศ​คำกล่าว และ​ยืนยัน​แก่​ชาว​ยิว​ว่า​พระ​เยซู​คือ​พระ​คริสต์ แต่​เมื่อ​ชาว​ยิว​ต่อต้าน​เปาโล​จน​กลาย​เป็น​การ​ว่า​ร้าย ท่าน​ก็​สลัด​เสื้อ​ออก​เพื่อ​แสดง​ความ​ผิด​ของ​พวก​เขา และ​กล่าว​กับ​เขา​เหล่า​นั้น​ว่า “ถ้า​พวก​ท่าน​ตัดสิน​ใจ​รับ​ผิดชอบ​กับ​ชีวิต​อัน​เป็น​นิรันดร์ ก็​เป็น​การ​เลือก​ของ​ท่าน​เอง ข้าพเจ้า​ไม่​รับ​ผิดชอบ​ด้วย ตั้งแต่​นี้​ไป​ข้าพเจ้า​จะ​ไป​ประกาศ​แก่​บรรดา​คนนอก” ครั้น​แล้ว​เปาโล​ก็​ออก​จาก​ศาลา​ที่​ประชุม​ไป​ยัง​บ้าน​ที่​อยู่​ถัด​ไป ซึ่ง​เป็น​ของ​ทิทิอัส​ยุสทัส​ผู้​นมัสการ​พระ​เจ้า และ​คริสปัส​ผู้​อยู่​ใน​ระดับ​ปกครอง​ศาลา​ที่​ประชุม​กับ​ทุก​คน​ใน​บ้าน​ก็​เชื่อ​ใน​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า อีก​ทั้ง​ชาว​โครินธ์​จำนวน​มาก​ที่​ได้ยิน​ท่าน​พูด​ก็​เชื่อ​และ​ได้​รับ​บัพติศมา คืน​หนึ่ง​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ปรากฏ​ใน​ภาพ​นิมิต​และ​กล่าว​กับ​เปาโล​ว่า “อย่า​กลัว​เลย จง​พูด​ต่อ​ไป​เถิด และ​อย่า​นิ่ง​เงียบ​เสีย เรา​อยู่​กับ​เจ้า จะ​ไม่​มี​ผู้​ใด​โจมตี​และ​ทำ​ร้าย​เจ้า​ได้ เพราะ​ว่า​เรา​มี​คน​ของ​เรา​จำนวน​มาก​ที่​อยู่​ใน​เมือง​นี้” ดังนั้น​เปาโล​จึง​พัก​อยู่​เป็น​เวลา​ปี​ครึ่ง เพื่อ​สั่ง​สอน​คำกล่าว​ของ​พระ​เจ้า​แก่​คน​เหล่า​นั้น ขณะ​ที่​กัลลิโอ​เป็น​ผู้ว่า​ราชการ​แคว้น​อาคายา ชาว​ยิว​ร่วม​กัน​ระดม​จับ​เปาโล​และ​นำ​ท่าน​ไป​ขึ้น​ศาล โดย​กล่าว​หา​ว่า “ชาย​ผู้​นี้​ชัก​จูง​ให้​ผู้​คน​นมัสการ​พระ​เจ้า​ใน​ทาง​ที่​ขัดแย้ง​กับ​กฎ​บัญญัติ” เมื่อ​เปาโล​จะ​เปิด​ปาก​ขึ้น​โต้​แย้ง กัลลิโอ​ก็​พูด​กับ​ชาว​ยิว​ว่า “ถ้า​พวก​ท่าน​ที่​เป็น​ชาว​ยิว​กล่าว​ว่า​เป็น​การ​ทำ​ผิด​หรือ​เป็น​อาชญากรรม​แล้ว ข้าพเจ้า​ก็​คิด​ว่า​มี​เหตุผล​ดี​พอ​ที่​จะ​ฟัง​ท่าน แต่​ใน​เมื่อ​เป็น​เรื่อง​ที่​โต้​แย้ง​เกี่ยว​กับ​คำ​พูด เกี่ยว​กับ​ชื่อ​และ​กฎ​ของ​พวก​ท่าน​เอง ก็​จง​ตกลง​กัน​เอง​เถิด เรา​จะ​ไม่​เป็น​ผู้​ตัดสิน​ความ​ใน​เรื่อง​เหล่า​นั้น” แล้ว​ก็​ไล่​พวก​เขา​ออก​ไป​จาก​ศาล เขา​ทั้ง​หลาย​จึง​จับ​ตัว​โสสเธเนส​ผู้​ปกครอง​ศาลา​ที่​ประชุม​ไป แล้ว​ทุบ​ตี​เขา​ที่​หน้า​ศาล แต่​กัลลิโอ​กลับ​ไม่​เอา​ธุระ เปาโล​อยู่​ต่อ​ที่​เมือง​โครินธ์​สัก​พักนึ่ง แล้ว​จึง​จาก​พวก​พี่​น้อง​ไป โดย​แล่น​เรือ​ไป​ยัง​แคว้น​ซีเรีย ปริสสิลลา​และ​อาควิลลา​ก็​ไป​ด้วย ก่อน​ที่​ท่าน​จะ​ไป ก็​ได้​ตัด​ผม​ที่​เมือง​เคนเครีย​ตาม​ที่​ท่าน​ได้​สาบาน​ไว้ เมื่อ​ไป​ถึง​เมือง​เอเฟซัส เปาโล​ได้​เข้า​ไป​ใน​ศาลา​ที่​ประชุม​เพื่อ​อภิปราย​กับ​ชาว​ยิว และ​ที่​เมือง​นั้น​เอง​เปาโล​ได้​แยก​ทาง​กับ​ปริสสิลลา​และ​อาควิลลา และ​ปฏิเสธ​ที่​จะ​อยู่​ต่อ​เมื่อ​ชาว​ยิว​พา​กัน​ขอ​ร้อง แต่​ก่อน​จะ​จาก​ไป​ก็​ได้​สัญญา​ว่า “ข้าพเจ้า​จะ​กลับ​มา​อีก​หาก​เป็น​ความ​ประสงค์​ของ​พระ​เจ้า” แล้ว​ท่าน​ก็​แล่น​เรือ​ออก​ไป​จาก​เมือง​เอเฟซัส เมื่อ​ท่าน​มา​ถึง​เมือง​ซีซารียา ก็​ได้​ขึ้น​ไป​ทักทาย​บรรดา​พี่​น้อง​ใน​คริสตจักร แล้ว​จึง​ลง​ไป​ยัง​เมือง​อันทิโอก หลัง​จาก​ที่​ได้​อยู่​ที่​เมือง​อันทิโอก​ชั่ว​ระยะ​หนึ่ง เปาโล​ก็​เดิน​ทาง​ต่อ​ไป​เรื่อยๆ จน​ทั่ว​แว่น​แคว้น​กาลาเทีย​และ​ฟรีเจีย​เพื่อ​ให้​กำลัง​ใจ​สาวก​ทุก​คน ใน​เวลา​นั้น​มี​ชาว​ยิว​คน​หนึ่ง​ชื่อ​อปอลโล บ้าน​เกิด​อยู่​ที่​เมือง​อเล็กซานเดรีย ท่าน​ได้​มา​ที่​เมือง​เอเฟซัส นอก​จาก​จะ​มี​โวหาร​ดี​แล้ว​ก็​ยัง​รอบรู้​ใน​พระ​คัมภีร์​ด้วย ท่าน​ได้​เรียน​รู้​วิถี​ทาง​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า ท่าน​ได้​กล่าว​ด้วย​จิต​วิญญาณ​ที่​กระตือรือร้น และ​สั่ง​สอน​ใน​เรื่อง​ของ​พระ​เยซู​อย่าง​ถูก​ต้อง แม้​ว่า​ท่าน​ทราบ​แต่​เพียง​บัพติศมา​ของ​ยอห์น​ก็​ตาม ท่าน​เริ่ม​พูด​ใน​ศาลา​ที่​ประชุม​ด้วย​ใจ​กล้าหาญ เมื่อ​ปริสสิลลา​กับ​อาควิลลา​ได้ยิน​ท่าน​พูด​แล้ว​ก็​ได้​เชิญ​ท่าน​ไป​ที่​บ้าน เพื่อ​อธิบาย​วิถี​ทาง​ของ​พระ​เจ้า​ให้​ชัดเจน​ยิ่ง​ขึ้น เมื่อ​อปอลโล​ต้อง​การ​ที่​จะ​ไป​ยัง​แคว้น​อาคายา พวก​พี่​น้อง​ก็​สนับสนุน​และ​เขียน​ถึง​พวก​สาวก​ที่​นั่น​ให้​ต้อนรับ​ท่าน เมื่อ​ไป​ถึง​ก็​ได้​ช่วย​พวก​ที่​เชื่อ​โดย​พระ​คุณ​ของ​พระ​เจ้า​อย่าง​มากมาย ท่าน​โต้​แย้ง​อย่าง​รุนแรง​กับ​ชาว​ยิว​ต่อ​หน้า​คน​ทั้ง​ปวง เพื่อ​ชี้แจง​ให้​เห็น​จริง​จาก​พระ​คัมภีร์​ว่า พระ​เยซู​คือ​พระ​คริสต์

YouVersion ใช้คุกกี้สำหรับการปรับแต่งการใช้งาน และประสบการณ์ของคุณ การที่คุณได้ใช้เว็บไซต์ของเรา ถือเป็นการที่คุณยอมรับวัตถุประสงค์ของการใช้คุกกี้ ซึ่งมีคำอธิบายอยู่ในนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา