กิจการ 1:6-26
กิจการ 1:6-26 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
ดังนั้นเมื่อมาประชุมพร้อมหน้ากันพวกเขาจึงทูลถามพระองค์ว่า “พระองค์เจ้าข้า บัดนี้พระองค์จะทรงกอบกู้อาณาจักรอิสราเอลขึ้นใหม่หรือ?” พระองค์ตรัสกับพวกเขาว่า “ไม่ใช่ธุระของพวกท่านที่จะรู้วันเวลาซึ่งพระบิดาทรงกำหนดไว้ตามสิทธิอำนาจของพระองค์ แต่ท่านทั้งหลายจะได้รับฤทธิ์อำนาจเมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์เสด็จมาเหนือพวกท่าน และพวกท่านจะเป็นพยานฝ่ายเราในกรุงเยรูซาเล็ม และทั่วแคว้นยูเดียกับสะมาเรียจนถึงสุดปลายแผ่นดินโลก” หลังจากตรัสดังนี้แล้วพระองค์ก็ทรงถูกรับขึ้นไปต่อหน้าต่อตาพวกเขาและมีเมฆมาปกคลุมพระองค์จนพวกเขามองไม่เห็นพระองค์ พวกเขากำลังแหงนหน้าเขม้นดูฟ้าขณะที่พระองค์เสด็จไป ทันใดนั้นมีชายสองคนสวมชุดขาวมายืนอยู่ข้างๆ พวกเขา และกล่าวว่า “ชนชาวกาลิลีเอ๋ย เหตุใดพวกท่านจึงยืนมองท้องฟ้าอยู่ที่นี่? พระเยซูองค์นี้ซึ่งถูกรับไปจากพวกท่านเข้าสู่สวรรค์นั้นจะเสด็จกลับมาอีกในแบบเดียวกันกับที่พวกท่านเห็นพระองค์เสด็จเข้าสู่สวรรค์” จากนั้นพวกเขาก็ลงมาจากภูเขามะกอกเทศแล้วกลับไปยังกรุงเยรูซาเล็มซึ่งอยู่ห่างออกไปเท่ากับระยะทางที่อนุญาตให้เดินในวันสะบาโต เมื่อมาถึงพวกเขาก็ขึ้นไปยังห้องชั้นบนที่พักกันอยู่มีเปโตร ยอห์น ยากอบ อันดรูว์ ฟีลิป โธมัส บารโธโลมิว มัทธิว ยากอบบุตรอัลเฟอัส ซีโมนพรรคชาตินิยม และยูดาสบุตรยากอบ พวกเขาทั้งหมดร่วมใจกันขะมักเขม้นอธิษฐานพร้อมกับพวกผู้หญิง กับมารีย์มารดาของพระเยซู และพวกน้องชายของพระองค์ ครั้งนั้นเปโตรยืนขึ้นท่ามกลางเหล่าผู้เชื่อ (ประมาณ 120 คน) และกล่าวว่า “พี่น้องทั้งหลาย พระคัมภีร์ต้องเป็นจริงตามที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ตรัสไว้เมื่อนานมาแล้วผ่านพระโอษฐ์ของกษัตริย์ดาวิดเกี่ยวกับยูดาสผู้ซึ่งนำพวกเขามาจับพระเยซู เขาได้เป็นคนหนึ่งในพวกเราและมีส่วนร่วมในพันธกิจนี้” (ยูดาสนำเงินรางวัลที่ได้จากความชั่วช้าของตนไปซื้อที่ดิน ที่นั่นเขาล้มลงศีรษะกระแทกพื้น ลำตัวแตกไส้พุงทะลักออกมาหมด ทุกคนในเยรูซาเล็มได้ยินเรื่องนี้ จึงเรียกที่ดินแปลงนั้นตามภาษาของตนว่า อาเคลดามา คือทุ่งโลหิต) เปโตรกล่าวว่า “เพราะมีเขียนไว้ในพระธรรมสดุดีว่า “ ‘ขอให้ที่อยู่ของเขาเริศร้าง อย่าให้มีผู้ใดอาศัยอยู่ที่นั่น’ และ “ ‘ให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำแทนตำแหน่งของเขา’ ฉะนั้นจึงจำเป็นต้องเลือกคนหนึ่งซึ่งได้อยู่กับพวกเราตลอดช่วงที่องค์พระเยซูเจ้าทรงดำเนินอยู่ท่ามกลางพวกเรา ตั้งแต่บัพติศมาของยอห์นจนถึงเวลาที่พระเยซูถูกรับขึ้นไปจากเรา เพราะคนนี้จะต้องเป็นพยานร่วมกับเราว่าพระองค์ได้คืนพระชนม์แล้ว” ดังนั้นพวกเขาจึงเสนอชื่อชายสองคนคือ โยเซฟที่เรียกกันว่าบารซับบาส (และอีกชื่อหนึ่งคือยุสทัส) กับมัทธีอัส จากนั้นพวกเขาอธิษฐานว่า “พระองค์เจ้าข้า พระองค์ทรงทราบจิตใจของทุกคน ขอทรงสำแดงว่าทรงเลือกคนไหนในสองคนนี้ ให้รับพันธกิจแห่งอัครทูตแทนยูดาสผู้ได้ละทิ้งไปสู่ที่ของตน” แล้วพวกเขาจับฉลากได้มัทธีอัสดังนั้นจึงรวมเขาเข้ากับอัครทูตสิบเอ็ดคน
กิจการ 1:6-26 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
เมื่อเขาทั้งหลายประชุมพร้อมกัน พวกเขาจึงทูลถามพระองค์ว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์จะทรงตั้งราชอาณาจักรขึ้นใหม่ ให้ชนชาติอิสราเอลในครั้งนี้หรือ?” พระองค์ตรัสตอบเขาทั้งหลายว่า “ไม่ใช่ธุระของพวกท่านที่จะรู้เวลาและวาระที่พระบิดาทรงกำหนดไว้โดยสิทธิอำนาจของพระองค์ แต่พวกท่านจะได้รับพระราชทานฤทธานุภาพ เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์เสด็จมาเหนือท่าน และท่านทั้งหลายจะเป็นสักขีพยานของเราในกรุงเยรูซาเล็ม ทั่วแคว้นยูเดีย ทั่วแคว้นสะมาเรีย และจนถึงที่สุดปลายแผ่นดินโลก” เมื่อพระองค์ตรัสเช่นนั้นแล้ว พระเจ้าทรงรับพระองค์ขึ้นไปต่อหน้าต่อตาพวกเขา และมีเมฆคลุมพระองค์ให้พ้นสายตาของเขา เมื่อพวกเขากำลังเขม้นมองดูฟ้า ในขณะที่พระองค์เสด็จขึ้นไป มีชายสองคนสวมเสื้อขาวมายืนอยู่ข้างๆ พวกเขา สองคนนั้นกล่าวว่า “ชาวกาลิลีเอ๋ย ทำไมพวกท่านถึงยืนจ้องมองฟ้าสวรรค์? พระเยซูองค์นี้ที่ทรงรับไปจากท่านทั้งหลายขึ้นไปยังสวรรค์นั้น จะเสด็จมาอีกในลักษณะเดียวกับที่ท่านทั้งหลายได้เห็นพระองค์เสด็จไปยังสวรรค์นั้น” แล้วอัครทูตจึงลงจากภูเขามะกอกเทศซึ่งอยู่ใกล้กรุงเยรูซาเล็ม (ระยะทางเท่ากับระยะที่อนุญาตให้คนเดินในวันสะบาโต) แล้วกลับไปกรุงเยรูซาเล็ม เมื่อเข้ากรุงแล้วเขาเหล่านั้นจึงขึ้นไปยังห้องชั้นบนที่เคยพักอยู่นั้น มีเปโตร ยอห์น ยากอบกับอันดรูว์ ฟีลิปกับโธมัส บารโธโลมิวกับมัทธิว ยากอบบุตรอัลเฟอัส ซีโมนพรรคชาตินิยม กับยูดาสบุตรยากอบ พวกเขาอุทิศตัวอธิษฐานด้วยกัน พร้อมกับพวกผู้หญิงและมารีย์มารดาของพระเยซูทั้งพวกน้องชายของพระองค์ด้วย ในเวลานั้นเปโตรยืนขึ้นท่ามกลางพวกพี่น้อง (ซึ่งอยู่รวมกันประมาณร้อยยี่สิบคน) และกล่าวว่า “นี่แน่ะ พี่น้องทั้งหลาย จำเป็นจะต้องสำเร็จตามพระคัมภีร์ซึ่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ตรัสไว้โดยปากของดาวิด เกี่ยวกับยูดาสผู้นำทางให้กับพวกที่ไปจับพระเยซู เพราะเขานับยูดาสเข้าในกลุ่มเรา และได้รับส่วนในพันธกิจนี้ (คนนี้ได้นำค่าตอบแทนที่ได้จากการอธรรมของตนไปซื้อที่ดิน แล้วก็คะมำตกและแตกกลางลำตัวไส้พุงทะลักออกมาหมด เหตุการณ์นี้ทุกคนที่อยู่ในกรุงเยรูซาเล็มก็รู้ ที่ดินแปลงนี้จึงถูกเรียกตามภาษาของพวกเขาว่า อาเคลดามา คือนาเลือด) เพราะมีคำเขียนไว้ในพระธรรมสดุดีว่า ‘ขอให้ที่อยู่ของเขาร้างเปล่า และอย่าให้มีใครอยู่ที่นั่น’ และ ‘ขอให้อีกคนหนึ่งมายึดตำแหน่งของเขา’ เพราะฉะนั้น คนหนึ่งในบรรดาคนที่อยู่กับเราตลอดเวลาที่พระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จเข้าออกท่ามกลางเรา คือตั้งแต่บัพติศมาของยอห์น จนถึงวันที่พระเจ้าทรงรับพระองค์ขึ้นไปจากเรา คนหนึ่งในคนเหล่านี้จะต้องเป็นพยานร่วมกับเราเกี่ยวกับการคืนพระชนม์ของพระองค์” เขาทั้งหลายจึงเสนอชื่อสองคนคือโยเซฟที่เรียกว่าบารซับบาส ที่มีนามสกุลว่ายุสทัส และมัทธีอัส แล้วพวกสาวกจึงอธิษฐานว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงทราบใจของมนุษย์ทุกคน ขอทรงสำแดงว่าในสองคนนี้พระองค์ทรงเลือกคนไหน ให้รับส่วนในพันธกิจนี้และรับหน้าที่เป็นอัครทูตแทนยูดาสผู้ทิ้งหน้าที่นี้หันไปสู่ที่ของตนเอง” เขาทั้งหลายจึงจับฉลากกัน และฉลากนั้นได้แก่มัทธีอัส เขาจึงได้รับเลือกให้อยู่ในกลุ่มอัครทูตสิบเอ็ดคนนั้น
กิจการ 1:6-26 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
เมื่อพระเยซูกับพวกศิษย์เอกมาอยู่กันพร้อมหน้า พวกศิษย์เอกถามพระองค์ว่า “พระองค์เจ้าข้า ตอนนี้พระองค์กำลังจะคืนแผ่นดินให้กับอิสราเอลแล้วใช่ไหมครับ” พระองค์ตอบว่า “มันไม่ใช่เรื่องของคุณ พระบิดาเองได้ตัดสินวันเวลานั้นไว้ก่อนแล้ว เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์มาอยู่กับพวกคุณ พวกคุณก็จะได้รับฤทธิ์เดช และจะเป็นพยานเล่าเรื่องของเราให้คนฟัง ทั่วเมืองเยรูซาเล็ม ในแคว้นยูเดีย ในแคว้นสะมาเรีย และทุกหนแห่งในโลกนี้” เมื่อพระเยซูพูดเสร็จ พระเจ้าก็ได้รับพระองค์ขึ้นไปสวรรค์ต่อหน้าต่อตาพวกเขา แล้วก้อนเมฆก็บังพระองค์จากสายตาของพวกเขา ในขณะที่พวกเขากำลังเพ่งดูพระองค์จากไปในท้องฟ้านั้น จู่ๆก็มีชายชุดขาวสองคนมายืนอยู่ข้างๆพวกเขา แล้วพูดว่า “ชาวกาลิลี พวกคุณยังยืนเพ่งดูท้องฟ้าอยู่ทำไม พระเจ้ารับพระเยซูขึ้นไปบนสวรรค์แล้ว และพระองค์จะเสด็จกลับมาอีกครั้งเหมือนอย่างที่คุณเห็นพระองค์ถูกรับขึ้นไปนี่แหละ” จากนั้นพวกเขาก็ลงจากภูเขามะกอกเทศ กลับไปที่เมืองเยรูซาเล็ม ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณหนึ่งกิโลเมตร เมื่อมาถึงเมืองเยรูซาเล็ม พวกศิษย์ซึ่งมีเปโตร ยอห์น ยากอบกับอันดรูว์ ฟีลิปกับโธมัส บารโธโลมิวกับมัทธิว ยากอบบุตรชายของอัลเฟอัส ซีโมนผู้มีใจจดจ่อกับพระเจ้า กับยูดาสลูกชายยากอบ ก็ได้ขึ้นไปห้องชั้นบนที่พวกเขาเคยอยู่ พวกเขาทั้งสิบเอ็ดคน รวมทั้งผู้หญิงบางคนและมารีย์แม่ของพระเยซู ตลอดจนน้องๆของพระองค์ ก็มาพบกันเพื่ออธิษฐานอยู่เสมอ มีอยู่วันหนึ่ง เปโตรยืนขึ้นในกลุ่มศิษย์ที่มาพบกัน ซึ่งมีอยู่ประมาณหนึ่งร้อยยี่สิบคน แล้วเขาพูดว่า “พี่น้องทั้งหลาย ข้อความในพระคัมภีร์จะต้องเป็นจริงตามที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้พูดผ่านทางปากของกษัตริย์ดาวิด เมื่อนานมาแล้วเกี่ยวกับยูดาสที่นำคนพวกนั้นไปจับพระเยซู ยูดาสเป็นคนหนึ่งในกลุ่มของพวกเราและมีส่วนร่วมในการงานนี้ด้วย” (ยูดาส เอาเงินที่ได้จากการทำชั่วครั้งนี้ไปซื้อที่ดินไว้ แต่เขาหกล้มหัวฟาดพื้น พุงแตกไส้ทะลักตายบนที่ดินนั้น เรื่องนี้รู้กันทั่วเมืองเยรูซาเล็ม พวกเขาจึงเรียกที่ดินตรงนั้นตามภาษาท้องถิ่นว่า อาเคลดามา ซึ่งหมายถึง “ที่ดินเลือด”) เปโตรพูดต่อว่า “เรื่องนี้มีเขียนไว้แล้วในหนังสือสดุดีว่า ‘ขอให้ที่อยู่ของเขารกร้างว่างเปล่า อย่ามีใครเข้าไปอยู่เลย’ ‘ให้มีคนอื่นมารับตำแหน่งผู้นำแทนเขาด้วย’ ดังนั้นเราจำเป็นจะต้องเลือกชายคนหนึ่งขึ้นมาแทนยูดาส และเขาจะต้องเป็นคนที่อยู่กับเราตลอดเวลาในช่วงที่พวกเราติดสอยห้อยตามพระเยซูด้วย เริ่มตั้งแต่ยอห์นทำพิธีจุ่มน้ำ จนถึงวันที่พระเจ้ารับพระเยซูขึ้นไปสวรรค์ คนคนนี้จะต้องเป็นพยานร่วมกับพวกเราที่จะบอกให้คนอื่นๆรู้ว่า พระเยซูฟื้นจากความตายแล้ว” พวกเขาจึงได้เสนอชื่อชายสองคนคือ โยเซฟ บารซับบาส (หรือที่รู้จักกันว่ายุสทัส) และอีกคนคือมัทธีอัส แล้วพวกเขาก็อธิษฐานว่า “พระองค์เจ้าข้า พระองค์รู้จักจิตใจของมนุษย์ทุกคนดี ช่วยแสดงให้พวกเราเห็นว่า ในสองคนนี้พระองค์ได้เลือกใคร ให้มาทำหน้าที่รับใช้เป็นศิษย์เอกแทนยูดาสคนที่ละทิ้งหน้าที่ และได้ไปอยู่ในที่ที่เขาสมควรไปอยู่แล้ว” แล้วพวกเขาก็จับสลากกัน และได้ชื่อมัทธีอัส เขาจึงถูกนับรวมเข้ากับศิษย์เอกทั้งสิบเอ็ดคนนั้นด้วย
กิจการ 1:6-26 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
เมื่อเขาทั้งหลายประชุมพร้อมกัน พวกเขาจึงทูลถามพระองค์ว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์จะทรงตั้งราชอาณาจักรขึ้นใหม่ ให้ชนชาติอิสราเอลในครั้งนี้หรือ?” พระองค์ตรัสตอบเขาทั้งหลายว่า “ไม่ใช่ธุระของพวกท่านที่จะรู้เวลาและวาระที่พระบิดาทรงกำหนดไว้โดยสิทธิอำนาจของพระองค์ แต่พวกท่านจะได้รับพระราชทานฤทธานุภาพ เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์เสด็จมาเหนือท่าน และท่านทั้งหลายจะเป็นสักขีพยานของเราในกรุงเยรูซาเล็ม ทั่วแคว้นยูเดีย ทั่วแคว้นสะมาเรีย และจนถึงที่สุดปลายแผ่นดินโลก” เมื่อพระองค์ตรัสเช่นนั้นแล้ว พระเจ้าทรงรับพระองค์ขึ้นไปต่อหน้าต่อตาพวกเขา และมีเมฆคลุมพระองค์ให้พ้นสายตาของเขา เมื่อพวกเขากำลังเขม้นมองดูฟ้า ในขณะที่พระองค์เสด็จขึ้นไป มีชายสองคนสวมเสื้อขาวมายืนอยู่ข้างๆ พวกเขา สองคนนั้นกล่าวว่า “ชาวกาลิลีเอ๋ย ทำไมพวกท่านถึงยืนจ้องมองฟ้าสวรรค์? พระเยซูองค์นี้ที่ทรงรับไปจากท่านทั้งหลายขึ้นไปยังสวรรค์นั้น จะเสด็จมาอีกในลักษณะเดียวกับที่ท่านทั้งหลายได้เห็นพระองค์เสด็จไปยังสวรรค์นั้น” แล้วอัครทูตจึงลงจากภูเขามะกอกเทศซึ่งอยู่ใกล้กรุงเยรูซาเล็ม (ระยะทางเท่ากับระยะที่อนุญาตให้คนเดินในวันสะบาโต) แล้วกลับไปกรุงเยรูซาเล็ม เมื่อเข้ากรุงแล้วเขาเหล่านั้นจึงขึ้นไปยังห้องชั้นบนที่เคยพักอยู่นั้น มีเปโตร ยอห์น ยากอบกับอันดรูว์ ฟีลิปกับโธมัส บารโธโลมิวกับมัทธิว ยากอบบุตรอัลเฟอัส ซีโมนพรรคชาตินิยม กับยูดาสบุตรยากอบ พวกเขาอุทิศตัวอธิษฐานด้วยกัน พร้อมกับพวกผู้หญิงและมารีย์มารดาของพระเยซูทั้งพวกน้องชายของพระองค์ด้วย ในเวลานั้นเปโตรยืนขึ้นท่ามกลางพวกพี่น้อง (ซึ่งอยู่รวมกันประมาณร้อยยี่สิบคน) และกล่าวว่า “นี่แน่ะ พี่น้องทั้งหลาย จำเป็นจะต้องสำเร็จตามพระคัมภีร์ซึ่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ตรัสไว้โดยปากของดาวิด เกี่ยวกับยูดาสผู้นำทางให้กับพวกที่ไปจับพระเยซู เพราะเขานับยูดาสเข้าในกลุ่มเรา และได้รับส่วนในพันธกิจนี้ (คนนี้ได้นำค่าตอบแทนที่ได้จากการอธรรมของตนไปซื้อที่ดิน แล้วก็คะมำตกและแตกกลางลำตัวไส้พุงทะลักออกมาหมด เหตุการณ์นี้ทุกคนที่อยู่ในกรุงเยรูซาเล็มก็รู้ ที่ดินแปลงนี้จึงถูกเรียกตามภาษาของพวกเขาว่า อาเคลดามา คือนาเลือด) เพราะมีคำเขียนไว้ในพระธรรมสดุดีว่า ‘ขอให้ที่อยู่ของเขาร้างเปล่า และอย่าให้มีใครอยู่ที่นั่น’ และ ‘ขอให้อีกคนหนึ่งมายึดตำแหน่งของเขา’ เพราะฉะนั้น คนหนึ่งในบรรดาคนที่อยู่กับเราตลอดเวลาที่พระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จเข้าออกท่ามกลางเรา คือตั้งแต่บัพติศมาของยอห์น จนถึงวันที่พระเจ้าทรงรับพระองค์ขึ้นไปจากเรา คนหนึ่งในคนเหล่านี้จะต้องเป็นพยานร่วมกับเราเกี่ยวกับการคืนพระชนม์ของพระองค์” เขาทั้งหลายจึงเสนอชื่อสองคนคือโยเซฟที่เรียกว่าบารซับบาส ที่มีนามสกุลว่ายุสทัส และมัทธีอัส แล้วพวกสาวกจึงอธิษฐานว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงทราบใจของมนุษย์ทุกคน ขอทรงสำแดงว่าในสองคนนี้พระองค์ทรงเลือกคนไหน ให้รับส่วนในพันธกิจนี้และรับหน้าที่เป็นอัครทูตแทนยูดาสผู้ทิ้งหน้าที่นี้หันไปสู่ที่ของตนเอง” เขาทั้งหลายจึงจับฉลากกัน และฉลากนั้นได้แก่มัทธีอัส เขาจึงได้รับเลือกให้อยู่ในกลุ่มอัครทูตสิบเอ็ดคนนั้น
กิจการ 1:6-26 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
เมื่อเขาทั้งหลายได้ประชุมพร้อมกัน เขาจึงทูลถามพระองค์ว่า “พระองค์เจ้าข้า พระองค์จะทรงตั้งราชอาณาจักรขึ้นใหม่ให้แก่อิสราเอลในครั้งนี้หรือ” พระองค์ตรัสตอบเขาว่า “ไม่ใช่ธุระของท่านที่จะรู้เวลาและวาระซึ่งพระบิดาได้ทรงกำหนดไว้โดยสิทธิอำนาจของพระองค์ แต่ท่านทั้งหลายจะได้รับพระราชทานฤทธิ์เดช เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์จะเสด็จมาเหนือท่าน และท่านทั้งหลายจะเป็นพยานฝ่ายเราทั้งในกรุงเยรูซาเล็ม ทั่วแคว้นยูเดีย แคว้นสะมาเรีย และจนถึงที่สุดปลายแผ่นดินโลก” เมื่อพระองค์ตรัสเช่นนั้นแล้ว ในขณะที่เขาทั้งหลายกำลังพินิจดู พระองค์ก็ถูกรับขึ้นไป และมีเมฆคลุมพระองค์ให้พ้นสายตาของเขา เมื่อเขากำลังเขม้นดูฟ้าเวลาที่พระองค์เสด็จขึ้นไปนั้น ดูเถิด มีชายสองคนสวมเสื้อขาวมายืนอยู่ข้างๆเขา สองคนนั้นกล่าวว่า “ชาวกาลิลีเอ๋ย เหตุไฉนท่านจึงยืนเขม้นดูฟ้าสวรรค์ พระเยซูองค์นี้ซึ่งทรงรับไปจากท่านขึ้นไปยังสวรรค์นั้น จะเสด็จมาอีกเหมือนอย่างที่ท่านทั้งหลายได้เห็นพระองค์เสด็จไปยังสวรรค์นั้น” แล้วอัครสาวกจึงลงจากภูเขามะกอกเทศ ซึ่งอยู่ใกล้กรุงเยรูซาเล็มระยะทางเท่ากับระยะที่อนุญาตให้คนเดินในวันสะบาโต กลับไปกรุงเยรูซาเล็ม เมื่อเข้ากรุงแล้วเขาเหล่านั้นจึงขึ้นไปยังห้องชั้นบน ซึ่งมีทั้งเปโตร ยากอบ ยอห์นกับอันดรูว์ ฟีลิปกับโธมัส บารโธโลมิวกับมัทธิว ยากอบบุตรชายอัลเฟอัส ซีโมนเศโลเท กับยูดาสน้องชายของยากอบ พักอยู่นั้น พวกเขาร่วมใจกันอธิษฐานอ้อนวอนต่อเนื่องพร้อมกับพวกผู้หญิง และมารีย์มารดาของพระเยซูและพวกน้องชายของพระองค์ด้วย คราวนั้นเปโตรจึงได้ยืนขึ้นท่ามกลางเหล่าสาวก (ที่ประชุมกันอยู่นั้นมีรวมทั้งสิ้นประมาณร้อยยี่สิบชื่อ) และกล่าวว่า “ท่านพี่น้องทั้งหลาย จำเป็นจะต้องสำเร็จตามพระคัมภีร์ ซึ่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ตรัสไว้โดยโอษฐ์ของดาวิด ด้วยเรื่องยูดาส ซึ่งเป็นผู้นำทางคนที่ไปจับพระเยซู เพราะยูดาสนั้นได้นับเข้าในพวกเรา และได้รับส่วนในภารกิจนี้ ฝ่ายผู้นี้ได้เอาบำเหน็จแห่งการชั่วช้าของตนไปซื้อที่ดิน แล้วก็ล้มคะมำลงแตกกลางตัวไส้พุงทะลักออกมาหมด เหตุการณ์นี้คนทั้งปวงที่อยู่ในกรุงเยรูซาเล็มก็รู้ เขาจึงเรียกที่ดินแปลงนั้นตามภาษาของเขาว่า อาเคลดามา คือทุ่งโลหิต ด้วยมีคำเขียนไว้ในหนังสือสดุดีว่า ‘ขอให้ที่อาศัยของเขารกร้างและอย่าให้ผู้ใดอาศัยอยู่ที่นั่น’ และ ‘ขอให้อีกผู้หนึ่งมายึดตำแหน่งของเขา’ เหตุฉะนั้นในบรรดาชายเหล่านี้ที่เป็นพวกเดียวกับเราเสมอตลอดเวลาที่พระเยซูเจ้าได้เสด็จเข้าออกกับเรา คือตั้งแต่บัพติศมาของยอห์น จนถึงวันที่พระองค์ทรงถูกรับขึ้นไปจากเรา คนหนึ่งในพวกนี้จะต้องตั้งไว้ให้เป็นพยานกับเราถึงการคืนพระชนม์ของพระองค์” เขาทั้งหลายจึงเสนอชื่อคนสองคน คือโยเซฟที่เรียกว่าบารซับบาส มีนามสกุลว่ายุสทัส และมัทธีอัส แล้วพวกสาวกจึงอธิษฐานว่า “พระองค์เจ้าข้า ผู้ทรงทราบใจของมนุษย์ทั้งปวง ขอทรงสำแดงว่าในสองคนนี้พระองค์ทรงเลือกคนไหน ให้รับส่วนในการปรนนิบัตินี้ และรับตำแหน่งเป็นอัครสาวกแทนยูดาส ซึ่งโดยการละเมิดนั้นได้หลงจากหน้าที่ไปยังที่ของตน” เขาทั้งหลายจึงจับสลากกัน และสลากนั้นได้แก่มัทธีอัสจึงนับเขาเข้ากับอัครสาวกสิบเอ็ดคนนั้น
กิจการ 1:6-26 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
เมื่อเขาทั้งหลายได้ประชุมพร้อมกัน เขาจึงทูลถามพระองค์ว่า <<พระองค์เจ้าข้า พระองค์จะทรงตั้งราชอาณาจักรขึ้นใหม่ ให้แก่ชนอิสราเอลในครั้งนี้หรือ>> พระองค์ตรัสตอบเขาว่า <<ไม่ใช่ธุระของท่าน ที่จะรู้เวลาและวาระซึ่งพระบิดาได้ทรงกำหนดไว้ โดยสิทธิอำนาจของพระองค์ แต่ท่านทั้งหลายจะได้รับพระราชทานฤทธิ์เดช เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์จะเสด็จมาเหนือท่าน และท่านทั้งหลายจะเป็นพยานฝ่ายเราในกรุงเยรูซาเล็ม ทั่วแคว้นยูเดีย แคว้นสะมาเรีย และจนถึงที่สุดปลายแผ่นดินโลก>> เมื่อพระองค์ตรัสเช่นนั้นแล้ว พระเจ้าก็ทรงรับพระองค์ขึ้นไปต่อหน้าต่อตาเขา และมีเมฆคลุมพระองค์ให้พ้นสายตาของเขา เมื่อเขากำลังเขม้นดูฟ้า เวลาที่พระองค์เสด็จขึ้นไปนั้น มีสองคนสวมเสื้อขาวมายืนอยู่ข้างๆเขา สองคนนั้นกล่าวว่า <<ชาวกาลิลีเอ๋ย เหตุไฉนท่านจึงเขม้นดูฟ้าสวรรค์ พระเยซูองค์นี้ซึ่งทรงรับไปจากท่านขึ้นไปยังสวรรค์นั้น จะเสด็จมาอีกเหมือนอย่างที่ท่านทั้งหลายได้เห็นพระองค์เสด็จไปยังสวรรค์นั้น>> แล้วอัครทูตจึงลงจากภูเขามะกอกเทศซึ่งอยู่ใกล้กรุงเยรูซาเล็ม ระยะทางเท่ากับระยะที่อนุญาตให้คนเดินในวันสะบาโต กลับไปกรุงเยรูซาเล็ม เมื่อเข้ากรุงแล้วเขาเหล่านั้นจึงขึ้นไปยังห้องชั้นบนที่เคยพักอยู่นั้น มีเปโตร ยอห์น ยากอบกับอันดรูว์ ฟีลิปกับโธมัส บารโธโลมิวกับมัทธิว ยากอบบุตรอัลเฟอัส ซีโมน พรรคชาตินิยม กับยูดาสบุตรยากอบ พวกเขาร่วมใจกันขะมักเขม้นอธิษฐานพร้อมกับพวกผู้หญิง และมารีย์มารดาของพระเยซูและพวกน้องชายของพระองค์ด้วย คราวนั้นเปโตรจึงได้ยืนขึ้นท่ามกลางพี่น้องทั้งหลาย ซึ่งประชุมกันอยู่ มีรวมทั้งสิ้นประมาณร้อยยี่สิบคนและกล่าวว่า <<ดูก่อนพี่น้องทั้งหลาย จำเป็นจะต้องสำเร็จตามพระคัมภีร์ ซึ่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ตรัสไว้โดยโอษฐ์ของกษัตริย์ดาวิด ด้วยเรื่องยูดาส ซึ่งเป็นผู้นำทางคนที่ไปจับพระเยซู เพราะเขานับยูดาสเข้าในพวกเรา และได้รับส่วนในภารกิจนี้ ฝ่ายผู้นี้ได้เอาบำเหน็จแห่งการผิดของตนไปซื้อที่ดิน แล้วก็ล้มคะมำลงแตกกลางตัวไส้พุงทะลักออกมาหมด เหตุการณ์นี้คนทั้งปวงที่อยู่ในกรุงเยรูซาเล็มก็รู้ เขาจึงเรียกที่ดินแปลงนั้นตามภาษาของเขาว่า อาเคลดามา คือนาเลือด ด้วยมีคำเขียนไว้ในพระธรรมเพลงสดุดีว่า ขอให้ที่อยู่ของเขาร้างเปล่า และอย่าให้มีผู้ใดอยู่ที่นั่น และ ขอให้อีกผู้หนึ่งมายึดตำแหน่งของเขา เหตุฉะนั้น ในบรรดาคนที่เป็นพวกเดียวกับเราเสมอตลอดเวลาที่พระเยซูเจ้าได้เสด็จเข้าออกกับเรา คือตั้งแต่บัพติศมาของยอห์น จนถึงวันที่พระเจ้าทรงรับพระองค์ขึ้นไปจากเรา คนหนึ่งในพวกนี้จะต้องเป็นพยานกับเรา ว่าพระองค์ได้ทรงคืนพระชนม์แล้ว>> เขาทั้งหลายจึงเสนอชื่อคนสองคนคือ โยเซฟที่เรียกว่าบารซับบาส มีนามสกุลว่ายุสทัสและมัทธีอัส แล้วพวกศิษย์จึงอธิษฐานว่า <<พระองค์ผู้ทรงทราบใจของมนุษย์ทั้งปวงเจ้าข้า ขอทรงสำแดงว่าในสองคนนี้พระองค์ทรงเลือกคนไหน ให้รับส่วนในการปรนนิบัตินี้ และรับตำแหน่งเป็นอัครทูตแทนยูดาส ซึ่งได้หลงจากหน้าที่ไปยังที่ของตน>> เขาทั้งหลายจึงจับฉลากกัน และสลากนั้นได้แก่มัทธีอัสจึงนับเขาเข้ากับอัครทูตสิบเอ็ดคนนั้น
กิจการ 1:6-26 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
ดังนั้นเมื่อมาประชุมพร้อมหน้ากันพวกเขาจึงทูลถามพระองค์ว่า “พระองค์เจ้าข้า บัดนี้พระองค์จะทรงกอบกู้อาณาจักรอิสราเอลขึ้นใหม่หรือ?” พระองค์ตรัสกับพวกเขาว่า “ไม่ใช่ธุระของพวกท่านที่จะรู้วันเวลาซึ่งพระบิดาทรงกำหนดไว้ตามสิทธิอำนาจของพระองค์ แต่ท่านทั้งหลายจะได้รับฤทธิ์อำนาจเมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์เสด็จมาเหนือพวกท่าน และพวกท่านจะเป็นพยานฝ่ายเราในกรุงเยรูซาเล็ม และทั่วแคว้นยูเดียกับสะมาเรียจนถึงสุดปลายแผ่นดินโลก” หลังจากตรัสดังนี้แล้วพระองค์ก็ทรงถูกรับขึ้นไปต่อหน้าต่อตาพวกเขาและมีเมฆมาปกคลุมพระองค์จนพวกเขามองไม่เห็นพระองค์ พวกเขากำลังแหงนหน้าเขม้นดูฟ้าขณะที่พระองค์เสด็จไป ทันใดนั้นมีชายสองคนสวมชุดขาวมายืนอยู่ข้างๆ พวกเขา และกล่าวว่า “ชนชาวกาลิลีเอ๋ย เหตุใดพวกท่านจึงยืนมองท้องฟ้าอยู่ที่นี่? พระเยซูองค์นี้ซึ่งถูกรับไปจากพวกท่านเข้าสู่สวรรค์นั้นจะเสด็จกลับมาอีกในแบบเดียวกันกับที่พวกท่านเห็นพระองค์เสด็จเข้าสู่สวรรค์” จากนั้นพวกเขาก็ลงมาจากภูเขามะกอกเทศแล้วกลับไปยังกรุงเยรูซาเล็มซึ่งอยู่ห่างออกไปเท่ากับระยะทางที่อนุญาตให้เดินในวันสะบาโต เมื่อมาถึงพวกเขาก็ขึ้นไปยังห้องชั้นบนที่พักกันอยู่มีเปโตร ยอห์น ยากอบ อันดรูว์ ฟีลิป โธมัส บารโธโลมิว มัทธิว ยากอบบุตรอัลเฟอัส ซีโมนพรรคชาตินิยม และยูดาสบุตรยากอบ พวกเขาทั้งหมดร่วมใจกันขะมักเขม้นอธิษฐานพร้อมกับพวกผู้หญิง กับมารีย์มารดาของพระเยซู และพวกน้องชายของพระองค์ ครั้งนั้นเปโตรยืนขึ้นท่ามกลางเหล่าผู้เชื่อ (ประมาณ 120 คน) และกล่าวว่า “พี่น้องทั้งหลาย พระคัมภีร์ต้องเป็นจริงตามที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ตรัสไว้เมื่อนานมาแล้วผ่านพระโอษฐ์ของกษัตริย์ดาวิดเกี่ยวกับยูดาสผู้ซึ่งนำพวกเขามาจับพระเยซู เขาได้เป็นคนหนึ่งในพวกเราและมีส่วนร่วมในพันธกิจนี้” (ยูดาสนำเงินรางวัลที่ได้จากความชั่วช้าของตนไปซื้อที่ดิน ที่นั่นเขาล้มลงศีรษะกระแทกพื้น ลำตัวแตกไส้พุงทะลักออกมาหมด ทุกคนในเยรูซาเล็มได้ยินเรื่องนี้ จึงเรียกที่ดินแปลงนั้นตามภาษาของตนว่า อาเคลดามา คือทุ่งโลหิต) เปโตรกล่าวว่า “เพราะมีเขียนไว้ในพระธรรมสดุดีว่า “ ‘ขอให้ที่อยู่ของเขาเริศร้าง อย่าให้มีผู้ใดอาศัยอยู่ที่นั่น’ และ “ ‘ให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำแทนตำแหน่งของเขา’ ฉะนั้นจึงจำเป็นต้องเลือกคนหนึ่งซึ่งได้อยู่กับพวกเราตลอดช่วงที่องค์พระเยซูเจ้าทรงดำเนินอยู่ท่ามกลางพวกเรา ตั้งแต่บัพติศมาของยอห์นจนถึงเวลาที่พระเยซูถูกรับขึ้นไปจากเรา เพราะคนนี้จะต้องเป็นพยานร่วมกับเราว่าพระองค์ได้คืนพระชนม์แล้ว” ดังนั้นพวกเขาจึงเสนอชื่อชายสองคนคือ โยเซฟที่เรียกกันว่าบารซับบาส (และอีกชื่อหนึ่งคือยุสทัส) กับมัทธีอัส จากนั้นพวกเขาอธิษฐานว่า “พระองค์เจ้าข้า พระองค์ทรงทราบจิตใจของทุกคน ขอทรงสำแดงว่าทรงเลือกคนไหนในสองคนนี้ ให้รับพันธกิจแห่งอัครทูตแทนยูดาสผู้ได้ละทิ้งไปสู่ที่ของตน” แล้วพวกเขาจับฉลากได้มัทธีอัสดังนั้นจึงรวมเขาเข้ากับอัครทูตสิบเอ็ดคน
กิจการ 1:6-26 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
ดังนั้นเมื่อเหล่าสาวกมาประชุมร่วมกันแล้วก็ได้ถามพระองค์ว่า “พระองค์ท่าน พระองค์จะให้อิสราเอลกลับมาปกครองอาณาจักรในไม่ช้าหรือ” พระองค์กล่าวกับเขาเหล่านั้นว่า “ไม่ใช่เรื่องที่เจ้าจะได้รู้วันเวลาที่พระบิดาได้กำหนดขึ้นด้วยสิทธิอำนาจของพระองค์เอง แต่เจ้าจะได้รับฤทธานุภาพ เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์สถิตกับเจ้า และเจ้าจะเป็นบรรดาพยานของเราในเมืองเยรูซาเล็ม ทั่วแคว้นยูเดีย แคว้นสะมาเรีย และสุดขอบโลก” สิ้นคำกล่าวแล้ว พระองค์ก็ถูกรับขึ้นไปต่อหน้าคนเหล่านั้น ครั้นแล้วก็มีเมฆก้อนหนึ่งมาบังพระองค์พ้นจากสายตาพวกเขา ขณะที่คนเหล่านั้นแหงนหน้ามองพระเยซูจากไป โดยไม่กะพริบตาอยู่นั้นเอง ดูเถิด มีชาย 2 คนสวมเสื้อผ้าสีขาวมายืนอยู่ข้างๆ ชายทั้งสองกล่าวขึ้นว่า “ชาวกาลิลีเอ๋ย ทำไมท่านจึงยืนแหงนดูฟ้าอยู่ที่นี่ พระเยซูถูกรับไปจากท่านขึ้นสู่สวรรค์ พระองค์จะกลับมาในแบบเดียวกันกับที่ท่านเห็นพระองค์คืนสู่สวรรค์” พวกเขาเดินกลับจากภูเขามะกอกไปยังเมืองเยรูซาเล็ม ซึ่งเป็นระยะทางเดินสำหรับวันสะบาโต เมื่อถึงแล้วก็ขึ้นไปยังห้องชั้นบนที่กำลังพักอยู่ ซึ่งขณะนั้นมีเปโตร ยอห์น ยากอบ อันดรูว์ ฟีลิป โธมัส บาร์โธโลมิว มัทธิว ยากอบบุตรของอัลเฟอัส ซีโมนผู้เป็นพรรคชาตินิยม และยูดาสบุตรของยากอบ เขาเหล่านี้อธิษฐานร่วมกัน พร้อมกับกลุ่มสตรีและมารีย์มารดาของพระเยซู และกับเหล่าน้องชายของพระองค์อยู่เสมอ แล้วเปโตรก็ยืนขึ้นท่ามกลางหมู่พี่น้อง (รวมทั้งกลุ่มได้ประมาณ 120 คน) พูดขึ้นว่า “พี่น้องทั้งหลาย เรื่องของยูดาสผู้นำคนไปจับพระเยซู ต้องเป็นไปตามที่พระคัมภีร์ระบุไว้ ดังที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้กล่าวถึงโดยผ่านดาวิดนานมาแล้ว เขาเป็นคนหนึ่งในพวกเรา และทำงานรับใช้ร่วมกัน” (ยูดาสได้นำเงินรางวัลที่ได้จากการทำความชั่วของตนไปซื้อที่ดินแปลงหนึ่ง แล้วเขาล้มคะมำลง ท้องแตกและไส้ทะลัก ณ ที่นั้น เมื่อทุกคนในเมืองเยรูซาเล็มได้ยินเรื่องนี้ ก็เรียกที่ดินนั้นตามภาษาของตนว่า อาเคลดามา คือที่ดินเลือด) เปโตรพูดว่า “ด้วยเหตุว่ามีบันทึกไว้ในฉบับสดุดีดังนี้ ‘ขอให้ค่ายของเขาร้าง และอย่าได้มีผู้ใดอาศัยอยู่เลย’ และ ‘ขอให้คนอื่นมาเป็นผู้นำ แทนในตำแหน่งของเขา’ ฉะนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเลือกคนใดคนหนึ่งในบรรดาผู้ชายที่ได้อยู่กับพวกเรา ตลอดระยะเวลาที่พระเยซู องค์พระผู้เป็นเจ้าเข้านอกออกในท่ามกลางพวกเรา นับตั้งแต่เวลาที่ยอห์นทำพิธีบัพติศมาให้แก่พระเยซู จนถึงเวลาที่พระองค์ถูกรับขึ้นไปจากเรา เพราะผู้ที่จะได้รับเลือกต้องเป็นพยานร่วมกับเราถึงการฟื้นคืนชีวิตของพระองค์” ดังนั้น พวกเขาจึงเสนอชื่อชาย 2 คนคือ โยเซฟที่บางคนเรียกว่าบาร์ซับบาส (มีอีกชื่อหนึ่งด้วยว่า ยุสทัส) และมัทธีอัส แล้วก็อธิษฐานว่า “ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทราบถึงจิตใจของทุกๆ คน ขอพระองค์ได้โปรดชี้ให้พวกเราเห็นว่า ในระหว่าง 2 คนนี้ ผู้ใดคือผู้ที่พระองค์เลือก ให้ปฏิบัติงานรับใช้ของอัครทูตแทนยูดาส ซึ่งได้จากไปยังที่ๆ เขาสมควรอยู่” จากนั้นพวกเขาก็จับฉลาก ซึ่งได้เป็นชื่อของมัทธีอัส ฉะนั้นเขาจึงเป็นคนที่เพิ่มเข้ามาในหมู่อัครทูตทั้งสิบเอ็ด