2 ซามูเอล 22:1-51
2 ซามูเอล 22:1-51 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
ดาวิดทรงขับร้องเพลงบทนี้ถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า หลังจากที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงช่วยเหลือเขาจากเงื้อมมือของซาอูลและศัตรูอื่นๆ ทั้งปวง เขากล่าวว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นศิลา เป็นป้อมปราการ และผู้กอบกู้ของข้าพเจ้า พระเจ้าของข้าพเจ้าทรงเป็นศิลาที่ข้าพเจ้าเข้าไปลี้ภัย ทรงเป็นโล่ เป็นกำลังแห่งความรอดของข้าพเจ้า พระองค์ทรงเป็นที่มั่น เป็นที่ลี้ภัย เป็นองค์พระผู้ช่วยให้รอดของข้าพเจ้า ทรงช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากคนอำมหิต ข้าพเจ้าร้องทูลต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงสมควรแก่การสรรเสริญ แล้วข้าพเจ้าก็ได้รับการช่วยให้รอดพ้นจากเหล่าศัตรู “คลื่นแห่งความตายถาโถมใส่ข้าพเจ้า กระแสแห่งความหายนะท่วมท้นข้าพเจ้า บ่วงแห่งแดนผู้ตายรัดรอบตัวข้าพเจ้า บ่วงแร้วแห่งความตายอยู่ตรงหน้าข้าพเจ้า ในยามทุกข์โศก ข้าพเจ้าร้องทูลองค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าทูลเรียกพระเจ้าของข้าพเจ้า พระองค์ทรงสดับเสียงของข้าพเจ้าจากพระวิหารของพระองค์ เสียงร่ำร้องของข้าพเจ้าดังไปถึงพระกรรณของพระองค์ “แผ่นดินโลกสะเทือนเลื่อนลั่น ฐานของสวรรค์สั่นคลอน สวรรค์สั่นสะเทือนเพราะพระองค์ทรงพระพิโรธ ควันพุ่งออกมาจากพระนาสิก เปลวไฟเผาผลาญและถ่านไฟลุกโชน ออกมาจากพระโอษฐ์ของพระองค์ พระองค์ทรงแหวกฟ้าสวรรค์และเสด็จลงมา เมฆมืดทึบอยู่ใต้พระบาทของพระองค์ พระองค์ทรงประทับเหนือเครูบ เสด็จมาด้วยปีกแห่งกระแสลม พระองค์ทรงทำให้ความมืดปกคลุมอยู่รายรอบพระองค์ ทรงให้เมฆฝนดำทะมึนในท้องฟ้าอยู่รอบพระองค์ สายฟ้าแลบแปลบปลาบออกมา จากแสงสว่างเจิดจ้าแห่งการปรากฏของพระองค์ องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเปล่งกัมปนาทจากฟ้าสวรรค์ พระสุรเสียงขององค์ผู้สูงสุดดังก้อง พระองค์ทรงยิงลูกศร ทำให้เหล่าศัตรูกระเจิดกระเจิงไป ทรงส่งฟ้าแลบ ทำให้พวกเขาแตกพ่ายไป เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกำราบ เมื่อลมพวยพุ่งออกจากพระนาสิกของพระองค์ หุบเขาในท้องทะเลก็เผยออก รากฐานของโลกก็ปรากฏ “พระองค์ทรงเอื้อมพระหัตถ์จากเบื้องบนลงมายึดข้าพเจ้าไว้ ทรงดึงข้าพเจ้าขึ้นจากห้วงน้ำลึก พระองค์ทรงช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากศัตรูผู้ทรงอำนาจ จากปฏิปักษ์ผู้แข็งแกร่งกว่าข้าพเจ้า พวกเขาบุกโจมตีในยามที่ข้าพเจ้าประสบภัยพิบัติ แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงค้ำชูข้าพเจ้าไว้ พระองค์ทรงนำข้าพเจ้าออกมายังที่กว้างขวาง ทรงช่วยข้าพเจ้าไว้เพราะทรงปีติยินดีในตัวข้าพเจ้า “องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงตอบแทนข้าพเจ้าตามความชอบธรรมของข้าพเจ้า ทรงปูนบำเหน็จแก่ข้าพเจ้า เนื่องจากข้าพเจ้าเป็นคนมือสะอาด เพราะข้าพเจ้ารักษาทางขององค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าไม่ได้ทำชั่วโดยหันไปจากพระเจ้าของข้าพเจ้า บทบัญญัติทั้งสิ้นของพระองค์อยู่ต่อหน้าข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่ได้หันไปจากกฎหมายของพระองค์ ข้าพเจ้าไร้ตำหนิต่อหน้าพระองค์ และได้รักษาตนให้พ้นจากบาป องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงปูนบำเหน็จแก่ข้าพเจ้าตามความชอบธรรมของข้าพเจ้า ตามที่ทรงเห็นว่าข้าพเจ้าสะอาดบริสุทธิ์ “ต่อผู้ที่ซื่อสัตย์ ทรงสำแดงพระองค์ว่าซื่อสัตย์ ต่อผู้ที่ไร้ที่ติ ทรงสำแดงพระองค์ว่าไร้ที่ติ ์ต่อผู้ที่บริสุทธิ์ ทรงสำแดงพระองค์ว่าบริสุทธิ์ แต่กับผู้ที่คดโกง ทรงสำแดงพระองค์ว่าฉลาดหลักแหลม พระองค์ทรงช่วยผู้ที่ถ่อมใจให้รอดพ้น แต่ทรงจับตาดูคนหยิ่งผยองเพื่อทำให้เขาตกต่ำลง ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าพระองค์ทรงเป็นประทีปของข้าพระองค์ องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเปลี่ยนความมืดมนของข้าพระองค์ให้กลายเป็นความสว่าง ข้าพระองค์สามารถตะลุยกองทัพได้ด้วยความช่วยเหลือจากพระองค์ ข้าพระองค์ปีนข้ามกำแพงเมืองได้โดยพระเจ้าของข้าพระองค์ “สำหรับพระเจ้า วิถีของพระองค์นั้นดีพร้อม พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าไม่มีข้อผิดพลาด พระองค์ทรงเป็นโล่ สำหรับทุกคนที่เข้าลี้ภัยในพระองค์ ใครเล่าเป็นพระเจ้า นอกจากพระยาห์เวห์? ผู้ใดเล่าคือพระศิลา เว้นแต่พระเจ้าของเรา? พระเจ้านี่แหละ ทรงเป็นผู้ประทานกำลังแก่ข้าพเจ้า ทรงกระทำให้หนทางของข้าพเจ้าดีพร้อม พระองค์ทรงกระทำให้เท้าของข้าพเจ้าเป็นเหมือนเท้ากวาง ทรงทำให้ข้าพเจ้ายืนอยู่บนที่สูงได้ พระองค์ทรงฝึกมือของข้าพเจ้าให้พร้อมรบ แขนของข้าพเจ้าจึงสามารถโก่งคันธนูทองสัมฤทธิ์ได้ พระองค์ประทานโล่แห่งชัยชนะของพระองค์แก่ข้าพระองค์ ทรงน้อมพระองค์ลงเพื่อกระทำให้ข้าพระองค์ยิ่งใหญ่ พระองค์ทรงกระทำให้ทางที่ข้าพระองค์เดินนั้นกว้างขวาง เพื่อข้าพระองค์จะไม่พลาดล้ม “ข้าพระองค์รุกไล่ศัตรูและบดขยี้พวกเขา ข้าพระองค์ไม่ได้หันหลังกลับจนกระทั่งพวกเขาถูกทำลาย ข้าพระองค์บดขยี้พวกเขาจนแหลกลาญ และไม่อาจลุกขึ้นมาได้อีก พวกเขาสยบอยู่ใต้เท้าของข้าพระองค์ พระองค์ประทานกำลังให้ข้าพระองค์แข็งแกร่งพร้อมรบ ทรงกระทำให้บรรดาปฏิปักษ์ของข้าพระองค์หมอบแทบเท้าข้าพระองค์ พระองค์ทรงกระทำให้ศัตรูของข้าพระองค์ถอยหนีไป ข้าพระองค์ทำลายล้างปฏิปักษ์ของข้าพระองค์ พวกเขาร้องขอความช่วยเหลือ แต่ไม่มีใครช่วย เขาร้องทูลต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า แต่พระองค์ไม่ทรงตอบ ข้าพระองค์จึงบดขยี้พวกเขาแหลกละเอียดเป็นผงธุลี ข้าพระองค์เหยียบย่ำพวกเขาเหมือนเหยียบโคลนตามถนน “พระองค์ทรงช่วยข้าพระองค์จากการโจมตีของประชากรของข้าพระองค์ ทรงสงวนข้าพระองค์ไว้ให้เป็นประมุขของประชาชาติทั้งหลาย ผู้คนที่ข้าพระองค์ไม่รู้จักมาสวามิภักดิ์ต่อข้าพระองค์ คนต่างชาติมาสยบต่อข้าพระองค์ ทันทีที่ได้ยินถึงข้าพระองค์ พวกเขาก็เชื่อฟังข้าพระองค์ พวกเขาล้วนเสียขวัญ ต่างก็ตัวสั่นออกมาจากที่มั่น “องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระชนม์อยู่! ขอถวายสรรเสริญแด่พระศิลาของข้าพระองค์! ขอพระเจ้า พระศิลา พระผู้ช่วยให้รอดของข้าพระองค์ทรงเป็นที่ยกย่องเทิดทูน! พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงแก้แค้นให้ข้าพเจ้า ผู้ทรงปราบประชาชาติต่างๆ ไว้ภายใต้ข้าพเจ้า ผู้ทรงช่วยข้าพเจ้าพ้นจากเหล่าศัตรู พระองค์ทรงเชิดชูข้าพเจ้าไว้เหนือข้าศึกทั้งหลาย ทรงกอบกู้ข้าพเจ้าจากหมู่คนอำมหิต ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า เพราะเหตุนี้ข้าพระองค์จะสรรเสริญพระองค์ในหมู่ประชาชาติทั้งหลาย จะร้องเพลงสรรเสริญพระนามของพระองค์ พระองค์ประทานชัยชนะยิ่งใหญ่แก่กษัตริย์ที่ทรงเลือกสรรไว้ ทรงสำแดงความกรุณาอย่างไม่หยุดยั้งต่อผู้ที่พระองค์ทรงเจิมตั้งไว้ คือดาวิดและวงศ์วานของเขาสืบไปเป็นนิตย์”
2 ซามูเอล 22:1-51 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
ดาวิดร้องเพลงบทนี้ให้กับพระยาห์เวห์ ในวันที่พระองค์ช่วยท่านให้พ้นจากเงื้อมมือของพวกศัตรูทั้งหมด และจากเงื้อมมือของซาอูล ดาวิดพูดว่า “พระยาห์เวห์คือหินกำบังของข้าพเจ้า คือป้อมปราการของข้าพเจ้า คือผู้ช่วยชีวิตของข้าพเจ้า พระเจ้าของข้าพเจ้า คือหินกำบังที่ข้าพเจ้าเข้าไปลี้ภัย คือโล่กำบังของข้าพเจ้า คือฤทธิ์อำนาจ ที่ช่วยกู้ชีวิตข้าพเจ้า คือที่ซ่อนที่ปลอดภัยของข้าพเจ้า และเป็นที่ลี้ภัยของข้าพเจ้า เป็นพระผู้ช่วยให้รอด พระองค์เจ้าข้า พระองค์ได้ช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากคนป่าเถื่อน ข้าพเจ้าร้องขอความช่วยเหลือจากพระยาห์เวห์ผู้ที่ควรค่าแก่การสรรเสริญ แล้วพระองค์ก็ช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากพวกศัตรู เพราะว่าพวกคลื่นแห่งความตายได้ล้อมข้าพเจ้าอยู่ และกระแสน้ำแห่งความตายกำลังจะทำให้ข้าพเจ้าจม เชือกแห่งแดนคนตายพันอยู่รอบๆตัวข้าพเจ้า กับดักแห่งความตายอยู่ตรงหน้าข้าพเจ้า เมื่อข้าพเจ้าตกอยู่ในความทุกข์ยาก ข้าพเจ้าร้องเรียกพระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าเรียกพระเจ้าของข้าพเจ้า พระองค์ได้ยินเสียงของข้าพเจ้าจากวังของพระองค์นั้น เสียงร้องของข้าพเจ้าได้ยินไปถึงหูของพระองค์ แล้วแผ่นดินโลกก็สั่นสะเทือน พวกเสาค้ำฟ้าสวรรค์ก็สั่นไหว เพราะพระเจ้าโกรธ มีควันพุ่งออกจากจมูกของพระองค์ ไฟที่เผาผลาญพุ่งออกมาจากปากของพระองค์ ถ่านหินลุกแดงพุ่งออกมา พระองค์แหวกท้องฟ้า และเสด็จลงมา พร้อมด้วยเมฆทึบสีดำใต้เท้าของพระองค์ แล้วพระองค์ก็ขึ้นขี่ทูตสวรรค์ที่มีปีก แล้วเหาะลงมา เห็นพระองค์อยู่บนปีกของลม พระองค์ทำความมืดรอบพระองค์เหมือนเต็นท์ เป็นเมฆหนาทึบ เป็นที่รวบรวมของน้ำ รัศมีอันเจิดจ้าของพระองค์อยู่เบื้องหน้าพระองค์ และมีสายฟ้าพุ่งออกไป พระยาห์เวห์ทำให้เกิดฟ้าร้อง พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สูงสุดก็เปล่งเสียงดังไปทั่ว พระเจ้ายิงธนูออกไป ซึ่งทำให้พวกศัตรูแตกกระเจิง พระองค์ทำสายฟ้าผ่าจนพวกนั้นแตกกระเจิง สับสนวุ่นวายไปทั่ว เมื่อพระองค์ตะโกนคำสั่งของพระองค์ออกไป เมื่อลมที่พวยพุ่งออกมาจากจมูกของพระองค์ ทำให้น้ำทะเลก็ถอยร่นกลับไป ก้นทะเลและรากฐานของโลกก็ปรากฏขึ้น พระองค์เอื้อมมือลงมาจากเบื้องบนมาฉวยข้าพเจ้าไว้ พระองค์ดึงข้าพเจ้าขึ้นมาจากกระแสน้ำเชี่ยวกรากนั้น พระองค์ช่วยให้ข้าพเจ้ารอดพ้นจากศัตรูที่มีพลัง พระองค์ช่วยให้ข้าพเจ้ารอดพ้นจากพวกศัตรูที่แข็งแรงกว่าข้าพเจ้า พวกเขาปะทะกับข้าพเจ้าตอนที่ข้าพเจ้าเจอกับภัยพิบัติ แต่พระยาห์เวห์ช่วยสนับสนุนค้ำจุนข้าพเจ้า พระองค์นำข้าพเจ้าออกไปยังที่โล่งกว้าง พระองค์ช่วยชีวิตข้าพเจ้า เพราะพระองค์ชื่นชอบข้าพเจ้า พระยาห์เวห์ให้รางวัลกับข้าพเจ้าเพราะข้าพเจ้าทำสิ่งที่ถูกต้อง พระองค์ตอบแทนข้าพเจ้าเพราะมือของข้าพเจ้าสะอาดบริสุทธิ์ ข้าพเจ้าได้ใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังอย่างที่พระยาห์เวห์ต้องการให้ข้าพเจ้าเป็น ข้าพเจ้าไม่ได้หันเหไปจากพระเจ้าของข้าพเจ้าเพื่อจะได้ไปทำสิ่งที่ชั่วร้าย เพราะข้าพเจ้าคิดถึงกฏเกณฑ์และข้อบังคับต่างๆของพระองค์อยู่เสมอ ข้าพเจ้าไม่ได้หันเหไปจากพวกกฎของพระองค์ ข้าพเจ้าไม่มีที่ติต่อหน้าพระองค์ และข้าพเจ้าได้รักษาตัวเองให้พ้นจากบาป พระยาห์เวห์ได้ตอบแทนข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้าได้ทำสิ่งที่ถูกต้อง เพราะพระองค์ได้เห็นว่าข้าพเจ้านั้นสะอาดบริสุทธิ์ พระองค์จะจงรักภักดีกับคนที่จงรักภักดีกับพระองค์ และพระองค์จะไร้ที่ติกับคนที่ไร้ที่ติ พระองค์จะบริสุทธิ์กับคนที่บริสุทธิ์กับพระองค์ แต่กับคนที่เหลี่ยมจัด พระองค์จะรู้ทัน และลงโทษเขาอย่างที่เขาคาดไม่ถึง พระองค์ช่วยกู้คนต่ำต้อย แต่พระองค์มองคนหยิ่งยโสเพื่อทำให้เขาตกต่ำลง ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์เป็นตะเกียงของข้าพเจ้า พระเจ้าของข้าพเจ้า ตอนที่ข้าพเจ้าอยู่ในความมืด พระองค์นำความสว่างมาให้ พระองค์ช่วยให้ข้าพเจ้าสามารถลุยเข้าไปสู้กับกองทัพได้ พระเจ้าของข้าพเจ้า ช่วยให้ข้าพเจ้าสามารถกระโดดข้ามกำแพงของศัตรูไปได้ ทางของพระเจ้าไม่มีที่ติ สัญญาของพระยาห์เวห์นั้นได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเชื่อถือได้ พระองค์เป็นโล่ให้กับทุกคนที่ลี้ภัยในพระองค์ ใครเป็นพระเจ้า นอกจากพระยาห์เวห์ ใครเป็นหินกำบัง นอกจากพระเจ้าของพวกเรา พระเจ้าองค์นี้เป็นที่ลี้ภัยอันเข้มแข็งของข้าพเจ้า พระองค์ทำให้ทางของข้าพเจ้าไม่มีอุปสรรคขัดขวาง พระองค์ช่วยให้เท้าข้าพเจ้ามั่นคงเหมือนเท้ากวาง พระองค์ทำให้ข้าพเจ้าสามารถยืนหยัดมั่นคงได้แม้บนที่สูง พระองค์ฝึกมือของข้าพเจ้าสำหรับสงคราม พระองค์ใส่พลังเข้าไปในแขนของข้าพเจ้า เพื่อจะง้างคันธนูที่แข็งแกร่งที่สุดได้ พระองค์ได้มอบโล่ของพระองค์ที่ช่วยปกป้องข้าพเจ้า ความช่วยเหลือของพระองค์ทำให้ข้าพเจ้ามีชัยชนะ พระองค์ทำให้ทางของข้าพเจ้ากว้างขวาง เท้าของข้าพเจ้าจึงไม่พลาดล้ม ข้าพเจ้าได้ไล่ตามจับศัตรูและทำลายพวกเขา และไม่ได้หันกลับจนได้ทำลายพวกเขาจนหมดสิ้น ข้าพเจ้าได้ทำลายพวกเขาจนหมดสิ้น ข้าพเจ้าได้บดขยี้พวกเขา จนพวกเขาลุกขึ้นมาไม่ได้อีก พวกเขาล้มลงอยู่แทบเท้าของข้าพเจ้า พระองค์ได้ทำให้ข้าพเจ้าแข็งแกร่งพร้อมออกรบ พระองค์ทำให้คนเหล่านั้นที่ลุกขึ้นมาต่อสู้กับข้าพเจ้าต้องยอมหมอบลงต่อข้าพเจ้า พระองค์ทำให้ศัตรูของข้าพเจ้าหันหลังหนีไป ข้าพเจ้าก็โค่นคนพวกนั้นที่เกลียดชังข้าพเจ้าลง พวกเขามองหาแต่ไม่มีใครช่วยให้รอด พวกเขาร้องต่อพระยาห์เวห์แต่พระองค์ไม่ตอบพวกเขา ข้าพเจ้าทุบตีพวกเขาแหลกละเอียดเหมือนฝุ่นของแผ่นดินโลก ข้าพเจ้าบดขยี้พวกเขาและเหยียบย่ำพวกเขาเหมือนโคลนตามท้องถนน พระองค์ช่วยให้ข้าพเจ้ารอดพ้นจากกองทัพศัตรูที่เข้ามาโจมตี พระองค์ยังคงให้ข้าพเจ้าเป็นหัวหน้าของชนชาติต่างๆเหล่านั้น แม้แต่คนที่ข้าพเจ้าไม่รู้จัก ก็รับใช้ข้าพเจ้า พวกคนต่างชาติมาหมอบอยู่ต่อหน้าข้าพเจ้า ทันทีที่พวกเขาได้ยินเรื่องของข้าพเจ้า พวกเขาต่างยอมสยบต่อข้าพเจ้า คนต่างชาติพวกนั้นขวัญหนีดีฝ่อ พากันออกมาจากที่ซ่อน ตัวสั่นงันงกด้วยความกลัว ใช่แล้ว พระยาห์เวห์มีชีวิตอยู่ ให้สรรเสริญพระเจ้าผู้เป็นหินกำบังของข้าพเจ้า ให้ยกย่องพระเจ้าของข้าพเจ้า ผู้เป็นหินกำบังที่ช่วยให้ข้าพเจ้ารอดพ้น พระองค์ เป็นพระเจ้าผู้ลงโทษศัตรูของข้าพเจ้า และนำให้ชนชาติต่างๆลงมาอยู่ใต้ข้าพเจ้า พระองค์นำข้าพเจ้าออกมาจากพวกศัตรูของข้าพเจ้า พระองค์ยกข้าพเจ้าขึ้นเหนือคนเหล่านั้นที่ลุกขึ้นมาต่อสู้กับข้าพเจ้า พระองค์ช่วยให้ข้าพเจ้ารอดจากศัตรูที่โหดร้าย ดังนั้น ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระองค์ท่ามกลางชนชาติทั้งหลาย ข้าพเจ้าจะร้องเพลงสรรเสริญชื่อของพระองค์ พระองค์ให้ชัยชนะอันยิ่งใหญ่กับกษัตริย์ของพระองค์ พระองค์ให้ความรักอันมั่นคงกับกษัตริย์ที่พระองค์ได้เลือกไว้ ซึ่งก็คือดาวิดและลูกหลานของเขาตลอดไป”
2 ซามูเอล 22:1-51 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
ดาวิดถวายถ้อยคำของเพลงบทนี้แด่พระยาห์เวห์ ในวันที่พระยาห์เวห์ทรงช่วยกู้ท่านให้พ้นจากมือศัตรูทั้งสิ้นของท่าน และจากเงื้อมพระหัตถ์ของซาอูล ท่านกล่าวว่า “พระยาห์เวห์ทรงเป็นศิลา ป้อมปราการ และผู้ช่วยกู้ของข้าพเจ้า พระเจ้าแห่งศิลาของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเข้าลี้ภัยอยู่ในพระองค์ พระองค์ทรงเป็นโล่ เป็นพลังแห่งความรอดของข้าพเจ้า ทรงเป็นที่กำบังอันแข็งแกร่งและที่ลี้ภัยของข้าพเจ้า พระผู้ช่วยของข้าพเจ้า พระองค์ทรงช่วยข้าพระองค์ให้รอดจากความทารุณ ข้าพเจ้าร้องทูลพระยาห์เวห์ ผู้ทรงสมควรแก่การสรรเสริญ และข้าพเจ้ารับการช่วยให้พ้นจากบรรดาศัตรูของข้าพเจ้า “เพราะคลื่นมรณะล้อมข้าพเจ้า กระแสแห่งความหายนะท่วมทับข้าพเจ้า สายใยของแดนคนตายพันตัวข้าพเจ้า บ่วงมัจจุราชอยู่ต่อหน้าข้าพเจ้า “เมื่อมีความทุกข์ลำบาก ข้าพเจ้าร้องทูลพระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าทูลขอความช่วยเหลือจากพระเจ้าของข้าพเจ้า จากพระวิหารของพระองค์ พระองค์ทรงสดับเสียงของข้าพเจ้า และเสียงร้องของข้าพเจ้าได้ยินไปถึงพระกรรณของพระองค์ “แล้วแผ่นดินก็สั่นสะเทือนและโคลงเคลง รากฐานของฟ้าสวรรค์ก็หวั่นไหว และสั่นสะเทือนเพราะพระองค์กริ้ว ควันออกไปตามช่องพระนาสิกของพระองค์ และเพลิงผลาญออกมาจากพระโอษฐ์ของพระองค์ ถ่านก็ติดเปลวไฟมาจากพระองค์ พระองค์ทรงโน้มฟ้าสวรรค์ลงด้วยและเสด็จลงมา ความมืดทึบอยู่ใต้พระบาทของพระองค์ พระองค์ทรงเครูบตนหนึ่ง แล้วทรงเหาะไป เขาเห็นพระองค์เสด็จโดยปีกของลม พระองค์ทรงทำให้ความมืดปกคลุมพระองค์ คือเมฆทึบ อันเป็นที่รวมน้ำ ถ่านลุกเป็นเพลิง จากความสว่างสุกใสข้างหน้าพระองค์ พระยาห์เวห์ทรงคำรนครืนครั่นจากฟ้าสวรรค์ และองค์ผู้สูงสุดก็เปล่งพระสุรเสียงของพระองค์ และพระองค์ทรงแผลงศร ทำให้พวกเขากระจัดกระจาย ทรงทำให้เกิดฟ้าแลบ ทำให้พวกเขาแตกหนี และก้นทะเลก็ปรากฏ อีกทั้งรากของพิภพก็เผยโฉม ตามการกำราบของพระยาห์เวห์ ตามลมที่พวยพุ่งจากช่องพระนาสิกของพระองค์ “พระองค์ทรงเอื้อมมาจากที่สูง ทรงจับข้าพเจ้า ทรงดึงข้าพเจ้าออกมาจากน้ำมากหลาย พระองค์ทรงช่วยกู้ข้าพเจ้าจากศัตรูเข้มแข็ง จากบรรดาผู้ที่เกลียดชังข้าพเจ้า เพราะพวกเขาแข็งแรงกว่าข้าพเจ้ายิ่งนัก พวกเขาปะทะข้าพเจ้าในวันที่ข้าพเจ้าประสบภัยพิบัติ แต่พระยาห์เวห์ทรงเป็นที่พึ่งของข้าพเจ้า พระองค์ทรงนำข้าพเจ้าออกมายังที่กว้างใหญ่ และทรงช่วยกู้ข้าพเจ้าไว้เพราะพระองค์พอพระทัยข้าพเจ้า “พระยาห์เวห์ประทานรางวัลแก่ข้าพเจ้าตามความชอบธรรมของข้าพเจ้า พระองค์ทรงตอบแทนข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้าเป็นคนมือสะอาด เพราะข้าพเจ้ารักษาพระมรรคาของพระยาห์เวห์ และไม่ได้ทำบาปโดยหันจากพระเจ้าของข้าพเจ้า เพราะกฎหมายทั้งสิ้นของพระองค์อยู่ต่อหน้าข้าพเจ้า และข้าพเจ้าไม่ได้หันจากกฎเกณฑ์ของพระองค์ ข้าพเจ้าไร้ตำหนิต่อพระองค์ และข้าพเจ้ารักษาตัวไว้ไม่ทำชั่ว เพราะฉะนั้น พระยาห์เวห์ทรงตอบแทนข้าพเจ้าตามความชอบธรรมของข้าพเจ้า ตามความสะอาดของข้าพเจ้าในสายพระเนตรของพระองค์ “พระองค์ทรงสำแดงพระองค์ว่าซื่อสัตย์ต่อผู้ที่ซื่อสัตย์ พระองค์ทรงสำแดงพระองค์ว่าไร้ตำหนิต่อผู้ที่ไร้ตำหนิ พระองค์ทรงสำแดงพระองค์ว่าบริสุทธิ์ต่อผู้ที่บริสุทธิ์ พระองค์ทรงสำแดงเป็นปฏิปักษ์ต่อผู้ที่คดโกง พระองค์ทรงช่วยประชาชนที่ถ่อมตัวให้รอด แต่ดวงตาที่หยิ่งยโสนั้น พระองค์ทรงทำให้ต่ำลง ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์ทรงเป็นประทีปของข้าพระองค์ พระยาห์เวห์ทรงทำความมืดของข้าพระองค์ให้สว่าง เพราะโดยพระองค์ ข้าพระองค์ตะลุยกองทัพได้ และโดยพระเจ้าของข้าพระองค์ ข้าพระองค์กระโดดข้ามกำแพงได้ สำหรับพระเจ้าพระองค์นี้ พระมรรคาของพระองค์ไร้ตำหนิ พระดำรัสของพระยาห์เวห์พิสูจน์จนเห็นจริงแล้ว พระองค์ทรงเป็นโล่ของทุกคนที่ลี้ภัยอยู่ในพระองค์ “เพราะผู้ใดเป็นพระเจ้า นอกจากพระยาห์เวห์? และผู้ใดเล่าเป็นพระศิลา เว้นแต่พระเจ้าของเรา? คือพระเจ้าผู้ทรงทำให้ข้าพเจ้าแข็งแรง และทรงทำให้ทางของข้าพเจ้าปลอดภัย พระองค์ทรงทำให้เท้าของข้าพเจ้าเหมือนอย่างตีนกวางตัวเมีย และทรงวางข้าพเจ้าไว้บนที่สูง พระองค์ทรงฝึกมือข้าพเจ้าให้ทำสงคราม แขนข้าพเจ้าจึงโก่งคันธนูทองสัมฤทธิ์ได้ พระองค์ประทานโล่แห่งความรอดของพระองค์แก่ข้าพระองค์ และการถ่อมพระองค์ลงก็ทำให้ข้าพระองค์เป็นใหญ่ขึ้น พระองค์ประทานที่กว้างขวางสำหรับย่างเท้าของข้าพระองค์ เท้าของข้าพระองค์จึงไม่พลาด ข้าพระองค์ไล่ตามพวกศัตรูของข้าพระองค์และได้ทำลายพวกเขาเสีย และไม่หันกลับจนกว่าพวกเขาถูกผลาญเสียสิ้น ข้าพระองค์ทำลายพวกเขาหมดสิ้น ข้าพระองค์แทงพวกเขาทะลุ เขาจึงไม่สามารถลุกขึ้นอีก เขาล้มลงใต้เท้าของข้าพระองค์ เพราะพระองค์ประทานกำลังแก่ข้าพระองค์เพื่อทำสงคราม พระองค์ทรงทำให้บรรดาผู้ที่ลุกขึ้นสู้ข้าพระองค์สยบลงอย่างราบคาบ พระองค์ทรงทำให้บรรดาศัตรูของข้าพระองค์หันหลังให้ข้าพระองค์ บรรดาผู้ที่เกลียดชังข้าพระองค์ ข้าพระองค์ก็ทำลายเสียสิ้น พวกเขามองหา แต่ไม่มีใครช่วยให้รอดได้ เขาร้องทูลพระยาห์เวห์ แต่พระองค์มิได้ทรงตอบพวกเขา ข้าพระองค์จึงทุบเขาแหลกละเอียดอย่างผงคลีดิน ข้าพระองค์ขยี้พวกเขาและกระจายพวกเขาออกไปเหมือนโคลนตามถนน “พระองค์ทรงช่วยข้าพระองค์ให้พ้นจากการทะเลาะวิวาทกับประชาชนของข้าพระองค์ พระองค์ทรงรักษาข้าพระองค์ไว้ให้เป็นหัวหน้าของบรรดาประชาชาติ ชนชาติที่ข้าพระองค์ไม่เคยรู้จักก็จะปรนนิบัติข้าพระองค์ ชนต่างด้าวจะหมอบราบต่อข้าพระองค์ พอพวกเขาได้ยินถึงข้าพระองค์ พวกเขาก็จะเชื่อฟังข้าพระองค์ คนต่างด้าวเสียขวัญ และตัวสั่นออกมาจากที่กำบังแข็งแกร่งของเขา “พระยาห์เวห์ทรงพระชนม์อยู่ และพระศิลาของข้าพระองค์เป็นที่ควรสรรเสริญ พระเจ้า พระศิลาแห่งความรอดของข้าพระองค์เป็นที่ยกย่อง คือพระเจ้าผู้ทรงแก้แค้นให้ข้าพระองค์ และนำชนชาติทั้งหลายลงให้อยู่ใต้ข้าพระองค์ ผู้ทรงนำข้าพระองค์ออกมาจากบรรดาศัตรูของข้าพระองค์ พระองค์ทรงยกข้าพระองค์อยู่เหนือบรรดาผู้ลุกขึ้นสู้ข้าพระองค์ พระองค์ทรงช่วยกู้ข้าพระองค์จากคนโหดร้าย “เพราะฉะนั้น ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพระองค์จึงยกย่องพระองค์ท่ามกลางบรรดาประชาชาติ และร้องเพลงสดุดีพระนามของพระองค์ พระองค์ประทานชัยชนะยิ่งใหญ่แก่กษัตริย์ของพระองค์ และทรงสำแดงความรักมั่นคงแก่ผู้ที่พระองค์ทรงเจิมไว้นั้น คือดาวิดและพงศ์พันธุ์ของท่านเป็นนิตย์”
2 ซามูเอล 22:1-51 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
ในวันที่พระเยโฮวาห์ทรงช่วยดาวิดให้พ้นจากมือของศัตรูทั้งสิ้นของพระองค์ ท่านและให้พ้นจากพระหัตถ์ของซาอูล ดาวิดก็ถวายถ้อยคำของเพลงบทนี้แด่พระเยโฮวาห์ พระองค์ท่านตรัสว่า “พระเยโฮวาห์ทรงเป็นศิลา ป้อมปราการ และผู้ช่วยให้รอดพ้นของข้าพเจ้า เป็นพระเจ้าซึ่งทรงเป็นศิลาของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะวางใจในพระองค์ พระองค์เป็นโล่และเป็นเขาแห่งความรอดของข้าพเจ้า เป็นที่กำบังเข้มแข็งและเป็นที่ลี้ภัยของข้าพเจ้า องค์พระผู้ช่วยของข้าพระองค์เจ้าข้า พระองค์ทรงช่วยข้าพระองค์ให้รอดจากความทารุณ ข้าพเจ้าร้องทูลต่อพระเยโฮวาห์ ผู้ทรงสมควรแก่การสรรเสริญ และข้าพเจ้าจะได้รับการช่วยให้พ้นจากศัตรูของข้าพเจ้า เมื่อคลื่นแห่งความตายล้อมข้าพเจ้า กระแสแห่งคนอธรรมที่ท่วมทับข้าพเจ้าทำให้ข้าพเจ้ากลัว ความเศร้าโศกแห่งนรกอยู่รอบตัวข้าพเจ้า บ่วงแห่งความตายขัดขวางข้าพเจ้า ในยามทุกข์ใจข้าพเจ้าร้องทูลต่อพระเยโฮวาห์ ข้าพเจ้าร้องทูลต่อพระเจ้าของข้าพเจ้า พระองค์ทรงสดับเสียงของข้าพเจ้าจากพระวิหารของพระองค์ และเสียงร้องของข้าพเจ้ามาถึงพระกรรณของพระองค์ แล้วแผ่นดินโลกก็สั่นสะเทือนและโคลงเคลง รากฐานของฟ้าสวรรค์ก็หวั่นไหวและสั่นสะเทือน เพราะพระองค์ทรงกริ้ว ควันออกไปตามช่องพระนาสิกของพระองค์ และเพลิงผลาญออกมาจากพระโอษฐ์ของพระองค์ ถ่านก็ติดเปลวไฟนั้น พระองค์ทรงโน้มฟ้าสวรรค์ลงด้วย และเสด็จลงมา ความมืดทึบอยู่ใต้พระบาทของพระองค์ พระองค์ทรงเครูบตนหนึ่ง และทรงเหาะไป เออ เห็นพระองค์เสด็จโดยปีกของลม พระองค์ทรงกระทำความมืดเป็นพลับพลาอยู่รอบพระองค์ ที่รวบรวมบรรดาน้ำและเมฆทึบแห่งฟ้า ถ่านลุกเป็นเพลิงจากความสุกใสข้างหน้าพระองค์ พระเยโฮวาห์ทรงคะนองกึกก้องจากฟ้าสวรรค์ และองค์ผู้สูงสุดก็เปล่งพระสุรเสียงของพระองค์ และพระองค์ทรงใช้ลูกธนูของพระองค์ออกมา ทำให้เขากระจายไป พระองค์ทรงปล่อยฟ้าแลบและทำให้เขาโกลาหล แล้วก็เห็นท้องธาร รากฐานของพิภพก็ปรากฏแจ้งตามการขนาบของพระเยโฮวาห์ ตามที่ลมพวยพุ่งจากช่องพระนาสิกของพระองค์ พระองค์ทรงเอื้อมมาจากที่สูงทรงจับข้าพเจ้า พระองค์ทรงดึงข้าพเจ้าออกมาจากน้ำมากหลาย พระองค์ทรงช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้นจากศัตรูที่เข้มแข็งของข้าพเจ้า จากบรรดาผู้ที่เกลียดชังข้าพเจ้า เพราะเขามีกำลังมากกว่าข้าพเจ้า เขาขัดขวางข้าพเจ้าในวันที่ข้าพเจ้าประสบหายนะ แต่พระเยโฮวาห์ทรงเป็นที่พักพิงของข้าพเจ้า พระองค์ทรงนำข้าพเจ้าออกมายังที่กว้างใหญ่ด้วย พระองค์ทรงช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้น เพราะพระองค์ทรงยินดีในข้าพเจ้า พระเยโฮวาห์ทรงประทานรางวัลแก่ข้าพเจ้าตามความชอบธรรมของข้าพเจ้า พระองค์ทรงตอบแทนข้าพเจ้าตามความสะอาดแห่งมือของข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้ารักษาบรรดาพระมรรคาของพระเยโฮวาห์ และไม่ได้พรากจากพระเจ้าของข้าพเจ้าอย่างชั่วร้าย เพราะคำตัดสินทั้งสิ้นของพระองค์อยู่ต่อหน้าข้าพเจ้า และข้าพเจ้ามิได้หันจากกฎเกณฑ์ของพระองค์ ต่อพระพักตร์พระองค์ข้าพเจ้าไร้ตำหนิ และข้าพเจ้ารักษาตัวไว้ให้พ้นจากความชั่วช้าของข้าพเจ้า เพราะฉะนั้นพระเยโฮวาห์ทรงตอบแทนข้าพเจ้าตามความชอบธรรมของข้าพเจ้า ตามความสะอาดของข้าพเจ้าในสายพระเนตรของพระองค์ พระองค์ทรงสำแดงความเมตตาต่อผู้ที่เต็มไปด้วยความเมตตา พระองค์ทรงสำแดงพระองค์ไร้ตำหนิต่อผู้ที่ไร้ตำหนิ พระองค์ทรงสำแดงพระองค์บริสุทธิ์ต่อผู้ที่บริสุทธิ์ พระองค์ทรงสำแดงพระองค์เป็นปฏิปักษ์ต่อผู้ที่คดโกง พระองค์ทรงช่วยประชาชนที่ลำบากให้รอดพ้น แต่พระองค์ทอดพระเนตรผู้ที่ยโสเพื่อนำเขาให้ต่ำลง โอ ข้าแต่พระเยโฮวาห์ พระองค์ทรงเป็นประทีปของข้าพระองค์ พระเยโฮวาห์จะทรงกระทำให้ความมืดของข้าพเจ้าสว่าง พ่ะย่ะค่ะ ข้าพระองค์ตะลุยกองทัพได้โดยพระองค์ โดยพระเจ้าของข้าพเจ้าข้าพเจ้ากระโดดข้ามกำแพงได้ ฝ่ายพระเจ้า พระมรรคาของพระองค์บริสุทธิ์หมดจด พระวจนะของพระเยโฮวาห์พิสูจน์แล้ว พระองค์ทรงเป็นดั้งของบรรดาผู้ที่วางใจในพระองค์ เพราะผู้ใดเป็นพระเจ้านอกจากพระเยโฮวาห์ และผู้ใดเล่าเป็นศิลานอกจากพระเจ้าของเรา พระเจ้าทรงเป็นป้อมเข้มแข็งของข้าพเจ้า และพระองค์ทรงทำให้ทางของข้าพเจ้าสมบูรณ์ พระองค์ทรงกระทำให้เท้าของข้าพเจ้าเหมือนอย่างตีนกวางตัวเมีย และทรงวางข้าพเจ้าไว้บนที่สูงของข้าพเจ้า พระองค์ทรงหัดมือของข้าพเจ้าให้ทำสงคราม แขนของข้าพเจ้าจึงโก่งคันธนูเหล็กกล้าได้ พระองค์ประทานโล่แห่งความรอดของพระองค์ให้ข้าพระองค์ และซึ่งพระองค์ทรงน้อมพระทัยลงก็กระทำให้ข้าพระองค์เป็นใหญ่ขึ้น พระองค์ประทานที่กว้างขวางสำหรับเท้าของข้าพระองค์ เท้าของข้าพระองค์จึงไม่พลาด ข้าพระองค์ไล่ตามศัตรูของข้าพระองค์และได้ทำลายเขาเสีย และไม่หันกลับจนกว่าเขาถูกผลาญเสียสิ้น ข้าพระองค์ผลาญเขา ข้าพระองค์แทงเขาทะลุ เขาจึงไม่สามารถลุกขึ้นอีกได้พ่ะย่ะค่ะ เขาล้มลงใต้เท้าของข้าพระองค์แล้ว เพราะพระองค์ทรงคาดเอวข้าพระองค์ไว้ด้วยกำลังเพื่อทำสงคราม พระองค์ทรงกระทำให้พวกที่ลุกขึ้นต่อสู้ข้าพระองค์จมลงใต้ข้าพระองค์ พระองค์ทรงโปรดประทานคอของศัตรูของข้าพระองค์แก่ข้าพระองค์ บรรดาผู้ที่เกลียดชังข้าพระองค์ ข้าพระองค์ก็ทำลายเสีย เขามองหา แต่ไม่มีใครช่วยให้รอดได้ เขาร้องทูลต่อพระเยโฮวาห์ แต่พระองค์มิได้ทรงตอบเขา ข้าพระองค์ทุบตีเขาแหลกละเอียดอย่างผงคลีดิน ข้าพระองค์เหยียบเขาลงเหมือนโคลนตามถนน และกระจายเขาออกไปทั่ว พระองค์ทรงช่วยข้าพระองค์ให้รอดพ้นจากการเกี่ยงแย่งประชาชนของข้าพระองค์ พระองค์ทรงรักษาข้าพระองค์ไว้ให้เป็นหัวหน้าของบรรดาประชาชาติ ชนชาติที่ข้าพระองค์ไม่เคยรู้จักก็จะปรนนิบัติข้าพระองค์ ชนต่างด้าวจะมาจำนนต่อข้าพระองค์ พอเขาได้ยินถึงข้าพระองค์เขาก็จะเชื่อฟังข้าพระองค์ ชนต่างด้าวเสียกำลังใจ และตัวสั่นออกมาจากที่กำบังของเขาทั้งหลาย พระเยโฮวาห์ทรงพระชนม์อยู่ และศิลาของข้าพระองค์เป็นที่สรรเสริญ พระเจ้าของศิลาแห่งความรอดของข้าพระองค์เป็นที่ยกย่อง พระเจ้าเป็นผู้ทรงกระทำการแก้แค้นให้แก่ข้าพระองค์ และนำชนชาติทั้งหลายลงให้อยู่ใต้ข้าพระองค์ ผู้ทรงนำข้าพระองค์ออกมาจากศัตรูของข้าพระองค์พ่ะย่ะค่ะ พระองค์ทรงยกข้าพระองค์ให้เหนือผู้ที่ลุกขึ้นต่อสู้ข้าพระองค์ พระองค์ทรงช่วยข้าพระองค์ให้รอดพ้นจากคนทารุณ โอ ข้าแต่พระเยโฮวาห์ เพราะเหตุนี้ข้าพระองค์ขอขอบพระคุณพระองค์ในหมู่ประชาชาติทั้งหลาย และจะร้องเพลงสรรเสริญพระนามของพระองค์ พระองค์ทรงเป็นป้อมแห่งความรอดแก่กษัตริย์ของพระองค์ และทรงสำแดงความเมตตาแก่ผู้ที่ทรงเจิมของพระองค์ แก่ดาวิดและเชื้อสายของท่านเป็นนิตย์”
2 ซามูเอล 22:1-51 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
เมื่อพระเจ้าทรงช่วยกู้ดาวิด ให้พ้นจากมือของศัตรูทั้งสิ้นของพระองค์ท่าน และให้พ้นจากพระหัตถ์ของซาอูล ดาวิดก็ถวายถ้อยคำของเพลงบทนี้แด่พระเจ้า พระองค์ท่านตรัสว่า <<พระเจ้าทรงเป็นพระศิลา ป้อม ปราการ และผู้ช่วยกู้ของข้าพเจ้า เป็นพระเจ้า ซึ่งทรงเป็นพระศิลาของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเข้าลี้ภัยอยู่ในพระองค์ เป็นโล่ และเป็นพลังแห่งความรอดของข้าพเจ้า เป็นที่กำบังเข้มแข็งและเป็นที่ลี้ภัยของข้าพเจ้า องค์พระผู้ช่วยของข้าพระองค์เจ้าข้า พระองค์ทรงช่วยข้าพระองค์ให้รอดจากความทารุณ ข้าพเจ้าร้องทูลต่อพระเจ้า ผู้ทรงสมควรแก่การสรรเสริญ และข้าพเจ้าได้รับการช่วยให้พ้นจากศัตรูของข้าพเจ้า <<เพราะคลื่นมัจจุราชล้อมข้าพเจ้า กระแสแห่งความหายนะท่วมทับข้าพเจ้า กระทำให้กลัว สายใยของแดนคนตายพันตัวข้าพเจ้า บ่วงมัจจุราชปะทะข้าพเจ้า <<ในยามทุกข์ใจข้าพเจ้าร้องทูลต่อพระเจ้า ข้าพเจ้าร้องทูลต่อพระเจ้าของข้าพเจ้า จากพระวิหารของพระองค์ พระองค์ทรงสดับเสียงของข้าพเจ้า และเสียงร้องของข้าพเจ้ามาถึงพระกรรณของพระองค์ <<แล้วแผ่นดินโลกก็สั่นสะเทือนและโคลงเคลง รากฐานของฟ้าสวรรค์ก็หวั่นไหว และสั่นสะเทือนเพราะพระองค์ทรงกริ้ว ควันออกไปตามช่องพระนาสิกของพระองค์ และเพลิงผลาญออกมาจากพระโอษฐ์ของพระองค์ ถ่านก็ติดเปลวไฟนั้น พระองค์ทรงโน้มฟ้าสวรรค์ลงด้วยและเสด็จลงมา ความมืดทึบอยู่ใต้พระบาทของพระองค์ พระองค์ทรงเครูบตนหนึ่ง และทรงเหาะไป เออ เห็นพระองค์เสด็จโดยปีกของลม พระองค์ทรงกระทำความมืดเป็นปะรำของพระองค์ คือที่รวบรวมบรรดาน้ำ เมฆทึบแห่งฟ้า ถ่านลุกเป็นเพลิง จากความสุกใสข้างหน้าพระองค์ พระเจ้าทรงคะนองกึกก้องจากฟ้าสวรรค์ และองค์ผู้สูงสุดก็เปล่งพระสุรเสียงของพระองค์ และพระองค์ทรงใช้ลูกธนูของพระองค์ออกมา ทำให้เขากระจายไป พระองค์ทรงปล่อยฟ้าแลบและทำให้เขาโกลาหล แล้วก็เห็นท้องธาร รากฐานของพิภพก็ปรากฏแจ้ง ตามการขนาบของพระเจ้า ตามที่ลมพวยพุ่งจากช่องพระนาสิกของพระองค์ <<พระองค์ทรงเอื้อมมาจากที่สูง ทรงจับข้าพเจ้า พระองค์ทรงดึงข้าพเจ้าออกมาจากน้ำมากหลาย พระองค์ทรงช่วยกู้ข้าพเจ้าจากศัตรู ที่เข้มแข็งของข้าพเจ้า จากบรรดาผู้ที่เกลียดชังข้าพเจ้า เพราะเขามีอานุภาพเกินกว่าข้าพเจ้า เขาปะทะข้าพเจ้าในวันที่ข้าพเจ้าเกิดภัยพิบัติ แต่พระเจ้าทรงเป็นที่พึ่งของข้าพเจ้า พระองค์ทรงนำข้าพเจ้า ออกมายังที่กว้างใหญ่ด้วย พระองค์ทรงช่วยกู้ข้าพเจ้าเพราะพระองค์ทรงยินดีในข้าพเจ้า <<พระเจ้าทรงประทานรางวัลแก่ข้าพเจ้าตามความชอบธรรม ของข้าพเจ้า พระองค์ทรงตอบข้าพเจ้าตามความสะอาดแห่งมือของข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้ารักษาบรรดาพระมรรคาของพระเจ้า และไม่ได้พรากจากพระเจ้าของข้าพเจ้าอย่างอธรรม เพราะกฎหมายทั้งสิ้นของพระองค์อยู่ต่อหน้าข้าพเจ้า และข้าพเจ้ามิได้หันจากกฎเกณฑ์ของพระองค์ ต่อพระพักตร์พระองค์ข้าพเจ้าไร้ตำหนิ และข้าพเจ้ารักษาตัวไว้ให้พ้นจากกรรมชั่วของข้าพเจ้า เพราะฉะนั้นพระเจ้าทรงตอบแทนข้าพเจ้าตามความชอบธรรม ของข้าพเจ้า ตามความสะอาดของข้าพเจ้าในสายพระเนตรของพระองค์ <<พระองค์ทรงสำแดงความรักมั่นคงต่อผู้ที่จงรักภักดี พระองค์ทรงสำแดงพระองค์ไร้ตำหนิต่อผู้ที่ไร้ตำหนิ พระองค์ทรงสำแดงพระองค์บริสุทธิ์ต่อผู้ที่บริสุทธิ์ พระองค์ทรงสำแดงพระองค์เป็นปฏิปักษ์ต่อผู้ที่คดโกง พระองค์ทรงช่วยกู้ประชาชนที่อนาถ แต่พระองค์ทอดพระเนตรผู้ที่ยโสเพื่อนำเขาให้ต่ำลง ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ทรงเป็นประทีปของข้าพระองค์ พระเจ้าทรงกระทำให้ความมืดของข้าพเจ้าสว่าง พ่ะย่ะค่ะ ข้าพระองค์ตะลุยกองทัพได้โดยพระองค์ โดยพระเจ้าของข้าพเจ้า ข้าพเจ้ากระโดดข้ามกำแพงได้ ฝ่ายพระเจ้า พระมรรคาของพระองค์บริสุทธิ์หมดจด พระสัญญาของพระเจ้า พิสูจน์แล้วเป็นความจริง พระองค์ทรงเป็นโล่ของบรรดาผู้ที่ลี้ภัยอยู่ในพระองค์ <<เพราะผู้ใดจะเป็นพระเจ้า นอกจากพระเยโฮวาห์ และผู้ใดเล่าเป็นพระศิลา นอกจากพระเจ้าของเรา พระเจ้าทรงเป็นป้อมเข้มแข็งของข้าพเจ้า และพระองค์ทรงนำผู้ไร้ตำหนิในพระมรรคาของพระองค์ พระองค์ทรงกระทำให้เท้าของข้าพเจ้าเหมือนอย่าง ตีนกวางตัวเมีย และทรงวางข้าพเจ้าไว้บนที่สูงของข้าพเจ้า พระองค์ทรงหัดมือของข้าพเจ้าให้ทำสงคราม แขนของข้าพเจ้าจึงโก่งคันธนูทองสัมฤทธิ์ได้ พระองค์ประทานโล่ความรอดของพระองค์ให้ข้าพระองค์ และซึ่งพระองค์ทรงน้อมพระทัยลง ก็กระทำให้ข้าพระองค์เป็นใหญ่ขึ้น พระองค์ประทานที่กว้างขวางสำหรับเท้าของข้าพระองค์ เท้าของข้าพระองค์จึงไม่พลาด ข้าพระองค์ไล่ตามศัตรูของข้าพระองค์และได้ทำลายเขาเสีย และไม่หันกลับจนกว่าเขาจะถูกผลาญเสียสิ้น ข้าพระองค์ผลาญเขา ข้าพระองค์แทงเขาทะลุ เขาจึงไม่สามารถลุกขึ้นอีกได้ พ่ะย่ะค่ะ เขาล้มลงใต้เท้าของข้าพระองค์แล้ว เพราะพระองค์ทรงคาดเอวข้าพระองค์ไว้ด้วยกำลัง เพื่อทำสงคราม พระองค์ทรงกระทำให้พวกที่ลุกขึ้นต่อสู้ข้าพระองค์ จมลงใต้ข้าพระองค์ พระองค์ทรงกระทำให้ศัตรูของ ข้าพระองค์หันหลังหนีข้าพระองค์ บรรดาผู้ที่เกลียดชังข้าพระองค์ ข้าพระองค์ก็ทำลายเสีย เขามองหา แต่ไม่มีใครช่วยให้รอดได้ เขาร้องทูลต่อพระเจ้า แต่พระองค์มิได้ทรงตอบเขา ข้าพระองค์ทุบตีเขาแหลกละเอียดอย่างผงคลีดิน ข้าพระองค์เหยียบเขาลงเหมือนโคลนตามถนนและกระจายเขาออกไปทั่ว <<พระองค์ทรงช่วยกู้ข้าพระองค์จากการเกี่ยงแย่งประชาชนของข้าพระองค์ พระองค์ทรงรักษาข้าพระองค์ไว้ให้เป็นหัวหน้าของบรรดาประชาชาติ ชนชาติที่ข้าพระองค์ไม่เคยรู้จักก็จะปรนนิบัติข้าพระองค์ ชนต่างด้าวจะมาหมอบราบต่อข้าพระองค์ พอเขาได้ยินถึงข้าพระองค์เขาก็จะเชื่อฟังข้าพระองค์ ชนต่างด้าวเสียกำลังใจ และตัวสั่นออกมาจากที่กำบังของเขาทั้งหลาย <<พระเจ้าทรงพระชนม์อยู่ และพระศิลาของข้าพระองค์เป็นที่สรรเสริญ พระเจ้า พระศิลาแห่งความรอดของข้าพระองค์เป็นที่ยกย่อง คือพระเจ้าผู้ทรงกระทำการแก้แค้นให้แก่ข้าพระองค์ และนำชนชาติทั้งหลายลงให้อยู่ใต้ข้าพระองค์ ผู้ทรงนำข้าพระองค์ออกมาจากศัตรูของข้าพระองค์ พ่ะย่ะค่ะ พระองค์ทรงยกข้าพระองค์ให้เหนือปฏิปักษ์ของข้าพระองค์ พระองค์ทรงช่วยกู้ข้าพระองค์จากคนทารุณ <<ข้าแต่พระเจ้า เพราะ เหตุนี้ข้าพระองค์ขอเชิดชูพระองค์ ในหมู่ประชาชาติทั้งหลาย และร้องเพลงสรรเสริญพระนามของพระองค์ พระองค์ประทานชัยชนะยิ่งใหญ่แก่พระราชาของพระองค์ และทรงสำแดงความรักมั่นคง แก่ผู้ที่ทรงเจิมของพระองค์แก่ดาวิด และพงศ์พันธุ์ของท่านเป็นนิตย์
2 ซามูเอล 22:1-51 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
ดาวิดกล่าวกับพระผู้เป็นเจ้าเป็นเนื้อร้องในบทเพลงนี้ ในวันที่พระผู้เป็นเจ้าช่วยท่านให้หลุดพ้นจากเงื้อมมือของพวกศัตรูและจากซาอูล ท่านกล่าวว่า “พระผู้เป็นเจ้าเป็นศิลาและป้อมปราการของข้าพเจ้า และเป็นผู้ช่วยข้าพเจ้าให้พ้นภัย พระเจ้าของข้าพเจ้าเป็นศิลาของข้าพเจ้าที่อาศัยพักพิงได้ พระองค์เป็นโล่ป้องกันและเขาแห่งความรอดพ้น เป็นหลักยึดอันมั่นคงของข้าพเจ้า ที่พึ่งพิง และผู้ช่วยให้รอดพ้น พระองค์ช่วยข้าพเจ้าให้รอดจากคนที่ประทุษร้าย ข้าพเจ้าร้องเรียกถึงพระผู้เป็นเจ้า ผู้สมควรแก่การสรรเสริญ และข้าพเจ้ารอดพ้นจากพวกศัตรูของข้าพเจ้า เพราะคลื่นแห่งความตายล้อมรอบตัวข้าพเจ้า กระแสน้ำแห่งความพินาศท่วมท้นเกินทน สายรัดแห่งแดนคนตายขดรอบตัวข้าพเจ้า กับดักแห่งความตายเผชิญหน้าข้าพเจ้า ในห้วงแห่งความทุกข์ยากข้าพเจ้าร้องเรียกถึงพระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าร้องเรียกถึงพระเจ้าของข้าพเจ้า พระองค์ได้ยินเสียงข้าพเจ้าจากพระวิหารของพระองค์ เสียงร้องของข้าพเจ้าดังไปถึงหูของพระองค์ แผ่นดินสั่นสะเทือน และฐานรากของฟ้าสวรรค์โยกคลอนและสั่นไหวได้ เพราะพระองค์โกรธ ควันพลุ่งจากช่องจมูกของพระองค์ และไฟเผาผลาญออกจากปากของพระองค์ ถ่านลุกโพลงขึ้นเป็นเปลวไฟโชติช่วงจากพระองค์ พระองค์เบิกฟ้าสวรรค์ลงมา เมฆดำอยู่ใต้เท้าพระองค์ พระองค์ขึ้นนั่งบนตัวเครูบแล้วโผบิน พระองค์ล่องไปกับสายลมอย่างรวดเร็ว พระองค์ใช้ความมืดกำบังดั่งปะรำโอบล้อมพระองค์ เมฆฝนดำทะมึนในท้องฟ้า ณ เบื้องหน้าพระองค์มีแสงสว่างเจิดจ้า ทำให้ถ่านลุกโพลงขึ้นเป็นเปลวไฟ พระผู้เป็นเจ้าเปล่งเสียงเป็นฟ้าร้องจากเบื้องสวรรค์ องค์ผู้สูงสุดเปล่งเสียง พระองค์ยิงลูกธนู และทำให้ศัตรูกระเจิดกระเจิงไป พระองค์ทำให้เกิดฟ้าแลบ และพวกเขาก็เตลิดเปิดเปิงไป เมื่อพระผู้เป็นเจ้าบอกห้าม เมื่อลมหายใจพ่นออกจากจมูกของพระองค์ น้ำในทะเลก็เปิดออกจนเห็นก้นบึ้งแห่งท้องทะเล และฐานรากของแผ่นดินโลกโล่งโถง พระองค์เอื้อมลงจากที่สูงคว้าตัวข้าพเจ้าไว้ได้ แล้วพระองค์ก็ดึงตัวข้าพเจ้าขึ้นจากห้วงน้ำลึก พระองค์ช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากศัตรูผู้มีอำนาจยิ่ง และจากพวกที่เกลียดชังข้าพเจ้า ด้วยว่า เขามีกำลังเกินกว่าข้าพเจ้า เขาเหล่านั้นประจันหน้าข้าพเจ้าในยามวิบัติ แต่พระผู้เป็นเจ้าเป็นหลักค้ำจุนของข้าพเจ้า พระองค์ช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากบ่วงอันตราย พระองค์ช่วยเหลือข้าพเจ้าไว้ก็เพราะพระองค์พอใจในตัวข้าพเจ้า พระผู้เป็นเจ้ากระทำต่อข้าพเจ้าตามความชอบธรรมของข้าพเจ้า พระองค์ให้รางวัลข้าพเจ้าตามความสะอาดของมือข้าพเจ้า ด้วยว่า ข้าพเจ้าเดินตามทางของพระผู้เป็นเจ้า และไม่ได้ทำความชั่วโดยหันเหไปจากพระเจ้าของข้าพเจ้า ข้าพเจ้านึกถึงคำบัญชาของพระองค์เป็นที่ตั้ง ข้าพเจ้าไม่ได้เพิกเฉยต่อกฎเกณฑ์ของพระองค์ ข้าพเจ้าปราศจากข้อตำหนิใดๆ ณ เบื้องหน้าพระองค์ และข้าพเจ้าระวังไม่กระทำบาป พระผู้เป็นเจ้าได้ให้รางวัลข้าพเจ้าตามความชอบธรรมของข้าพเจ้า ตามความบริสุทธิ์ของข้าพเจ้าต่อหน้าพระองค์ พระองค์แสดงความรักอันมั่นคงต่อคนที่มีความภักดี พระองค์แสดงความไร้ข้อตำหนิของพระองค์ต่อคนที่ไร้ข้อตำหนิ พระองค์แสดงความบริสุทธิ์ของพระองค์ต่อคนบริสุทธิ์ และพระองค์แสดงต่อคนคดโกงอย่างปราดเปรื่อง พระองค์ช่วยคนถ่อมตัวให้รอดพ้น และพระองค์จับจ้องที่คนใจยโสเพื่อทำให้พวกเขาเจียมตัว โอ พระผู้เป็นเจ้า ด้วยว่า พระองค์เป็นดั่งตะเกียงของข้าพเจ้า และพระผู้เป็นเจ้าทำให้ความมืดของข้าพเจ้าสว่างไสว ข้าพเจ้าเหยียบย่ำกองทัพได้ก็ด้วยพระองค์ ข้าพเจ้าข้ามกำแพงได้ก็ด้วยพระเจ้า พระเจ้านี้แหละ วิถีทางของพระองค์บริบูรณ์ทุกประการ คำพูดของพระผู้เป็นเจ้าบริสุทธิ์ พระองค์เป็นโล่ป้องกันสำหรับทุกคนที่แสวงหาพระองค์เป็นที่พึ่ง ใครเล่าคือพระเจ้านอกเหนือจากพระผู้เป็นเจ้า และใครคือศิลานอกเหนือจากพระเจ้าของเรา พระเจ้าเป็นที่พึ่งพิงของข้าพเจ้า และทำให้วิถีทางของข้าพเจ้าบริบูรณ์ทุกประการ พระองค์ทำให้เท้าของข้าพเจ้าเป็นดั่งเท้ากวาง พระองค์ทำให้ข้าพเจ้ายืนในที่สูงได้ พระองค์ฝึกมือข้าพเจ้าให้พร้อมเพื่อการสงคราม เพื่อแขนข้าพเจ้าจะได้น้าวคันธนูทองสัมฤทธิ์ และพระองค์ให้โล่แห่งความรอดพ้นแก่ข้าพเจ้า และความช่วยเหลือของพระองค์ทำให้ข้าพเจ้ายิ่งใหญ่ พระองค์ทำให้ทางเดินที่ข้าพเจ้าเหยียบก้าวไปกว้างขึ้น เพื่อเท้าของข้าพเจ้าจะไม่ลื่นล้ม ข้าพเจ้าไล่ล่าศัตรูและปราบเขาได้ ข้าพเจ้าไม่ได้หวนกลับจนกระทั่งศัตรูพินาศไป ข้าพเจ้าทำให้เขาพินาศไป ข้าพเจ้าทำให้เขาทรุดตัวลงจนลุกไม่ขึ้น เขาล้มลงอยู่ใต้เท้าของข้าพเจ้า และพระองค์ช่วยให้ข้าพเจ้าพรั่งพร้อมด้วยกำลังเพื่อศึกสงคราม พระองค์ทำให้ฝ่ายตรงข้ามจมอยู่เบื้องล่าง พระองค์ทำให้ศัตรูหันหลังหนีไปจากข้าพเจ้า และข้าพเจ้าทำให้คนที่เกลียดชังข้าพเจ้าพินาศ พวกเขาร้องขอความช่วยเหลือ แต่ไม่มีใครช่วยชีวิตไว้ได้ เขาร้องขอต่อพระผู้เป็นเจ้า แต่พระองค์ไม่ตอบ ข้าพเจ้าเหยียบขยี้พวกเขาจนแหลกละเอียดเป็นผงธุลีบนพื้นดิน ข้าพเจ้าโจมตีและเหยียบย่ำพวกเขาที่ถนนดั่งโคลนตม พระองค์ได้ช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากการโต้แย้งกับชนชาติของข้าพเจ้า พระองค์ได้ให้ข้าพเจ้าเป็นหัวหน้าของบรรดาประชาชาติ ชนชาติที่ข้าพเจ้าไม่เคยรู้จักก็รับใช้ข้าพเจ้า ชนต่างชาติยอมสยบต่อหน้าข้าพเจ้า ทันทีที่พวกเขาได้ยินเสียงข้าพเจ้า เขาก็เชื่อฟังข้าพเจ้า คนแปลกหน้าใจเสีย และตัวสั่นเทาออกมาจากป้อมปราการของเขา พระผู้เป็นเจ้ามีชีวิตอยู่ ให้ศิลาของข้าพเจ้าได้รับการสรรเสริญเถิด และให้พระเจ้า ศิลาผู้ช่วยให้รอดพ้นของข้าพเจ้าได้รับการยกย่องเถิด พระองค์เป็นพระเจ้าผู้แก้แค้นแทนข้าพเจ้า และนำบรรดาชนชาติให้อยู่ใต้การปกครองของข้าพเจ้า พระองค์ช่วยข้าพเจ้าให้มีอิสระจากศัตรู พระองค์ยกข้าพเจ้าอยู่เหนือข้าศึก พระองค์ให้ข้าพเจ้ารอดพ้นจากคนปองร้าย ฉะนั้น ข้าพเจ้าจะขอบคุณพระองค์ท่ามกลางบรรดาประชาชาติ โอ พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าจะร้องเพลงสรรเสริญพระนามของพระองค์ พระองค์ให้ชัยชนะอันยิ่งใหญ่แก่กษัตริย์ของพระองค์ และแสดงความรักอันมั่นคงแก่ผู้ได้รับการเจิมของพระองค์ แก่ดาวิดและผู้สืบเชื้อสายของท่านชั่วนิรันดร์กาล”