2 ซามูเอล 2:6-32
2 ซามูเอล 2:6-32 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
ตอนนี้ขอให้พระยาห์เวห์แสดงความรักและความสัตย์ซื่อต่อพวกท่าน และเราก็จะดีกับพวกท่านเหมือนกัน เพราะสิ่งที่พวกท่านได้ทำไปนั้น อย่างนั้น ขอให้เข้มแข็งและกล้าหาญไว้ ซาอูลนายของท่านได้ตายไปแล้ว แต่ครอบครัวยูดาห์ได้แต่งตั้งเราเป็นกษัตริย์เหนือพวกเขาแล้ว” ในขณะนั้น อับเนอร์ลูกชายของเนอร์แม่ทัพของซาอูล ได้พาอิชโบเชท ลูกชายของซาอูลไปที่เมืองมาหะนาอิม และเขาได้แต่งตั้งอิชโบเชทขึ้นเป็นกษัตริย์ปกครองเหนือกิเลอาด อาชูร์ ยิสเรเอล เอฟราอิม เบนยามินและเหนืออิสราเอลทั้งหมด อิชโบเชทลูกชายของซาอูลมีอายุสี่สิบปี เมื่อเขาได้เป็นกษัตริย์ปกครองอิสราเอล และเขาได้ปกครองอยู่สองปี ส่วนครอบครัวของชาวยูดาห์ได้ติดตามดาวิดไป ดาวิดได้เป็นกษัตริย์ปกครองชาวยูดาห์ในเมืองเฮโบรน เป็นเวลาเจ็ดปีหกเดือน อับเนอร์ลูกชายของเนอร์ รวมทั้งคนของอิชโบเชทลูกชายซาอูล ได้ออกจากเมืองมาหะนาอิมและไปที่เมืองกิเบโอน โยอาบลูกชายนางเศรุยาห์และคนของดาวิดได้ออกไปพบพวกเขาที่สระน้ำของเมืองกิเบโอน คนสองกลุ่มนี้ นั่งกันอยู่คนละฝั่งของสระน้ำ แล้วอับเนอร์ก็พูดกับโยอาบว่า “ให้คนหนุ่มๆมาต่อสู้กันตัวต่อตัวให้พวกเราดู” แล้วโยอาบพูดว่า “ตกลง ให้พวกเขาต่อสู้กัน” ดังนั้นพวกเขาจึงยืนขึ้นและเดินออกมาตามที่ได้นับไว้ เป็นคนจากเผ่าของเบนยามินสิบสองคนที่อยู่ฝ่ายอิชโบเชทลูกชายของซาอูล และเป็นคนของดาวิดสิบสองคน แล้วแต่ละคนต่างก็จับหัวของคู่ต่อสู้ของตนไว้และใช้ดาบแทงไปที่สีข้างของแต่ละฝ่าย แล้วทั้งคู่ก็ล้มลงตายด้วยกัน ดังนั้น สถานที่นั้นในเมืองกิเบโอนจึงถูกเรียกว่า เฮลขัท ฮัสซูริม การสู้รบกันในวันนั้นดุเดือดมาก อับเนอร์กับพวกคนของอิสราเอลต่างก็พ่ายแพ้ต่อพวกของดาวิด ลูกชายสามคนของนางเศรุยาห์ก็อยู่ที่นั่นด้วย คือโยอาบ อาบีชัยและอาสาเฮล ขณะนั้น อาสาเฮลวิ่งอย่างว่องไวเหมือนเนื้อทรายป่า เขาวิ่งไล่ตามอับเนอร์ไปอย่างแน่วแน่ ตรงไปไม่หันขวาหันซ้าย อับเนอร์หันกลับมามองข้างหลังและถามออกมาว่า “อาสาเฮล นั่นเจ้าหรือ” เขาตอบว่า “ใช่แล้ว” แล้วอับเนอร์ก็พูดกับเขาว่า “หันไปทางขวาหรือทางซ้ายสิ จับเอาชายหนุ่มคนใดก็ได้แล้วปลดอาวุธเขาไปเสีย” แต่อาสาเฮลยังไม่หยุดไล่ตามเขา อับเนอร์เตือนอาสาเฮลอีกว่า “หยุดไล่ตามเราได้แล้ว จะให้เราทำร้ายเจ้าหรือยังไง แล้วเราจะมองหน้าโยอาบพี่ชายของเจ้าได้ยังไง” แต่อาสาเฮลปฏิเสธไม่ยอมเลิกไล่ตาม ดังนั้นอับเนอร์จึงเอาด้ามหอกแทงเข้าที่ท้องของอาสาเฮล ด้ามหอกทะลุออกกลางหลัง เขาล้มลงที่นั่น ตายคาที่ และทุกๆคนก็หยุดเมื่อมาถึงที่ที่อาสาเฮลล้มลงตาย แต่โยอาบและอาบีชัย ยังคงไล่ตามอับเนอร์ต่อไป และดวงอาทิตย์กำลังจะตกดิน พวกเขามาถึงเนินเขาอัมมาห์ใกล้กับกียาห์ ระหว่างทางที่จะไปที่รกร้างของเมืองกิเบโอน แล้วคนของเบนยามินก็เข้ามาร่วมกับอับเนอร์ พวกเขารวมตัวกันเป็นกลุ่มเดียวและตั้งรับอยู่บนยอดเขานั้น อับเนอร์ร้องเรียกโยอาบว่า “จะต้องให้มีการฆ่าฟันกันตลอดไปหรือ ท่านไม่คิดหรือว่ามันจะต้องจบลงด้วยความเศร้า เมื่อไรท่านจะสั่งให้คนของท่านหยุดไล่ตามพี่น้องของพวกเขาเสียที” โยอาบตอบว่า “พระเจ้ามีชีวิตอยู่แน่ขนาดไหน ก็ให้แน่ใจขนาดนั้นเลยว่า ถ้าท่านไม่พูดขึ้นมา คนเหล่านี้ก็จะยังคงไล่ตามพี่น้องของพวกเขาเองไปจนกระทั่งถึงเช้าแน่นอน” ดังนั้นโยอาบจึงเป่าแตร และคนทั้งหมดก็หยุด พวกเขาไม่ไล่ตามอิสราเอลอีก และไม่ต่อสู้อีกต่อไป ตลอดคืนนั้น อับเนอร์และคนของเขาเดินทางผ่านอาราบาห์ พวกเขาข้ามแม่น้ำจอร์แดน และเดินทางผ่านหุบเขาบิทโรน และมาถึงเมืองมาหะนาอิม เมื่อโยอาบกลับมาจากการไล่ตามอับเนอร์ และเรียกชุมนุมคนของเขาทั้งหมด ถ้าไม่รวมอาสาเฮล คนของดาวิดหายไปสิบเก้าคน แต่คนของดาวิดก็ได้ฆ่าชาวเบนยามินซึ่งอยู่กับอับเนอร์ไปถึงสามร้อยหกสิบคน พวกเขาได้เอาศพของอาสาเฮลมาและฝังเขาไว้ในหลุมฝังศพของพ่อเขาที่เมืองเบธเลเฮม แล้วโยอาบและคนของเขาก็เดินทางตลอดทั้งคืนจนมาถึงเมืองเฮโบรนเมื่อเริ่มสว่าง
2 ซามูเอล 2:6-32 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
บัดนี้ขอพระยาห์เวห์สำแดงความรักมั่นคงและความซื่อสัตย์ต่อพวกท่าน และข้าพเจ้าจะทำความดีนี้ต่อพวกท่านเพราะสิ่งนี้ที่ท่านได้ทำ เพราะฉะนั้น ขอให้มือของพวกท่านเข้มแข็ง และขอให้พวกท่านกล้าหาญเถิด เพราะว่าซาอูลเจ้านายของพวกท่านสิ้นพระชนม์แล้ว และพงศ์พันธุ์ยูดาห์ได้เจิมตั้งข้าพเจ้าไว้เป็นกษัตริย์เหนือพวกเขา” ฝ่ายอับเนอร์บุตรเนอร์แม่ทัพของกองทัพซาอูลได้พาอิชโบเชทราชโอรสของซาอูลข้ามไปที่เมืองมาหะนาอิม และได้สถาปนาท่านให้เป็นกษัตริย์เหนือเมืองกิเลอาด และเหนือคนอาชูร์ คนยิสเรเอล คนเอฟราอิม คนเบนยามิน และคนอิสราเอลทั้งหมด เมื่ออิชโบเชทราชโอรสของซาอูลทรงเริ่มเป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอลนั้น มีพระชนมายุ 40 ปี และทรงครองราชย์อยู่ 2 ปี แต่พงศ์พันธุ์ยูดาห์ติดตามดาวิด เวลาที่ดาวิดทรงเป็นกษัตริย์เหนือพงศ์พันธุ์ยูดาห์ในเฮโบรนนั้นเป็นจำนวน 7 ปีกับ 6 เดือน อับเนอร์บุตรเนอร์และทหารของอิชโบเชทราชโอรสของซาอูล ได้ออกจากมาหะนาอิมไปยังเมืองกิเบโอน และโยอาบบุตรนางเศรุยาห์กับทหารของดาวิด ก็ออกไปพบกับพวกเขาที่สระเมืองกิเบโอน และพวกเขาก็นั่งที่ขอบสระข้างนี้ อีกพวกหนึ่งข้างโน้น อับเนอร์จึงพูดกับโยอาบว่า “ขอให้พวกคนหนุ่มลุกขึ้นรบกันเล่นให้เราดูสิ” และโยอาบตอบว่า “ให้พวกเขาลุกขึ้นซี” พวกเขาก็ลุกขึ้นข้ามไปตามจำนวนที่นับไว้ ฝ่ายเบนยามินและฝ่ายอิชโบเชทราชโอรสของซาอูลมี 12 คน ฝ่ายพวกมหาดเล็กของดาวิดก็มี 12 คน ต่างก็จับศีรษะคู่ต่อสู้แน่น และปักดาบเข้าที่สีข้างของคู่ต่อสู้ล้มตายด้วยกัน เขาจึงเรียกที่นั่นว่า เฮลขัทฮัสซูริม ซึ่งอยู่ในกิเบโอน การสู้รบในวันนั้นดุเดือดยิ่งนัก อับเนอร์และพวกคนอิสราเอลก็แพ้ทหารของดาวิด บุตรทั้งสามของนางเศรุยาห์ก็อยู่ที่นั่นคือ โยอาบ อาบีชัย และอาสาเฮล ฝ่ายอาสาเฮลนั้นฝีเท้าเร็วอย่างกับละมั่งป่า และอาสาเฮลก็ไล่ตามอับเนอร์ไป เมื่อตามไปนั้นก็ไม่ได้เลี้ยวไปทางขวา หรือทางซ้ายจากการตามอับเนอร์ อับเนอร์เหลียวหลังมาพูดว่า “นั่นอาสาเฮลหรือ?” เขาตอบว่า “ข้าเอง” อับเนอร์จึงบอกเขาว่า “จงเลี้ยวไปทางขวาหรือทางซ้าย และจับเอาคนหนุ่มคนหนึ่ง แล้วก็ริบเอาของของเขาไป” แต่อาสาเฮลไม่ยอมละจากการไล่ตามอับเนอร์ อับเนอร์จึงบอกอาสาเฮลอีกครั้งหนึ่งว่า “จงหันกลับจากตามข้า จะให้ข้าฟาดเจ้าล้มลงดินทำไมเล่า? แล้วข้าจะเงยหน้าดูโยอาบพี่ของเจ้าได้อย่างไร?” แต่เขาก็ปฏิเสธที่จะหันกลับ เพราะฉะนั้น อับเนอร์ก็เอาโคนหอกแทงท้องอาสาเฮล หอกก็ทะลุออกข้างหลังของเขา เขาก็ล้มลงตายอยู่ที่นั่น และทุกคนซึ่งมาเห็นที่อาสาเฮลล้มตายที่นั่นก็ยืนนิ่ง แต่โยอาบกับอาบีชัยไล่ตามอับเนอร์ไป ดวงอาทิตย์ก็ตกเมื่อเขาทั้งสองมาถึงเนินเขาอัมมาห์ ซึ่งอยู่ข้างหน้ากียาห์ตามทางไปถิ่นทุรกันดารเมืองกิเบโอน และคนเบนยามินก็รวมกันตามอับเนอร์ไป เป็นกลุ่มหนึ่ง ยืนอยู่บนยอดเขา แล้วอับเนอร์ร้องถามโยอาบว่า “จะให้ดาบกินเรื่อยไปหรือ? ท่านไม่ทราบหรือที่สุดจะกลายเป็นความขมขื่น? อีกนานสักเท่าใดท่านจึงจะสั่งพวกทหารของท่านให้หันกลับจากการไล่ตามพี่น้องของพวกเขา?” และโยอาบจึงกล่าวว่า “พระเจ้าทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด ถ้าท่านไม่พูดขึ้น พวกทหารก็จะไล่ตามพวกพี่น้องของเขาจนพรุ่งนี้เช้า” โยอาบจึงเป่าเขาสัตว์ขึ้น พวกทหารทั้งปวงก็ไม่ไล่ตามอิสราเอล และไม่สู้รบกันอีกต่อไป อับเนอร์กับพวกของท่านก็เดินทางตลอดคืนนั้นในอาราบาห์ เขาข้ามแม่น้ำจอร์แดน ไปทั่วบิทโรน และมาถึงมาหะนาอิม โยอาบก็กลับจากการไล่ตามอับเนอร์ และเมื่อท่านรวบรวมทหารทั้งหมด ทหารของดาวิดก็ขาดไป 19 คนไม่นับอาสาเฮล แต่ทหารของดาวิดฆ่าคนเบนยามินและคนของอับเนอร์ตายไป 360 คน และพวกเขายกศพอาสาเฮลไปฝังไว้ในอุโมงค์ของบิดาของเขา ซึ่งอยู่ที่เมืองเบธเลเฮม โยอาบและพวกของท่านก็เดินทางตลอดคืนและมาถึงเมืองเฮโบรนเมื่อรุ่งสาง
2 ซามูเอล 2:6-32 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
บัดนี้ขอพระเยโฮวาห์ทรงสำแดงความกรุณาและความจริงแก่ท่าน และข้าพเจ้าจะกระทำความดีต่อท่านทั้งหลายเพราะท่านได้กระทำการนี้ เพราะฉะนั้น บัดนี้ขอให้มือของท่านทั้งหลายเข้มแข็ง และขอให้ท่านกล้าหาญเถิด เพราะว่าซาอูลเจ้านายของท่านสิ้นพระชนม์เสียแล้ว และวงศ์วานยูดาห์ได้เจิมตั้งข้าพเจ้าไว้เป็นกษัตริย์เหนือเขาทั้งหลาย” ฝ่ายอับเนอร์บุตรชายเนอร์แม่ทัพของกองทัพซาอูลได้พาอิชโบเชทราชโอรสของซาอูลข้ามไปที่เมืองมาหะนาอิม และได้สถาปนาท่านให้เป็นกษัตริย์เหนือเมืองกิเลอาด และคนอาเชอร์ และคนยิสเรเอล และคนเอฟราอิม และคนเบนยามิน และคนอิสราเอลทั้งหมด เมื่ออิชโบเชทราชโอรสของซาอูลเริ่มปกครองเหนืออิสราเอลนั้นมีพระชนมายุสี่สิบพรรษา ทรงครอบครองอยู่สองปี แต่วงศ์วานยูดาห์ก็ติดตามดาวิด เวลาที่ดาวิดทรงเป็นกษัตริย์เหนือวงศ์วานยูดาห์ในเฮโบรนนั้นเป็นจำนวนเจ็ดปีกับหกเดือน อับเนอร์บุตรชายเนอร์และพวกข้าราชการทหารของอิชโบเชทราชโอรสของซาอูลได้ออกจากมาหะนาอิมไปยังเมืองกิเบโอน และโยอาบบุตรชายนางเศรุยาห์กับพวกข้าราชการทหารของดาวิดก็ออกไปพบกับเขาที่สระเมืองกิเบโอน และเขาทั้งหลายก็นั่งอยู่ที่ขอบสระ พวกหนึ่งอยู่ที่ขอบสระข้างนี้ อีกพวกหนึ่งข้างโน้น อับเนอร์จึงพูดกับโยอาบว่า “ขอให้พวกคนหนุ่มลุกขึ้นรบเล่นกันให้เราดูเถิด” และโยอาบตอบว่า “ให้เขาลุกขึ้นเล่นซี” เขาก็ลุกขึ้นไปตามที่นับไว้ฝ่ายเบนยามินและฝ่ายอิชโบเชทราชโอรสของซาอูลมีสิบสองคน และข้าราชการทหารของดาวิดก็มีสิบสองคน ต่างก็จับศีรษะคู่ต่อสู้ และปักดาบเข้าที่สีข้างของคู่ต่อสู้ ล้มตายด้วยกันหมด เขาจึงเรียกที่นั่นว่า เฮลขัทฮัสซูริม ซึ่งอยู่ในกิเบโอน การสู้รบในวันนั้นดุเดือดยิ่งนัก อับเนอร์และพวกคนอิสราเอลก็พ่ายแพ้ต่อหน้าข้าราชการทหารของดาวิด บุตรชายทั้งสามของนางเศรุยาห์ก็อยู่ที่นั่น คือ โยอาบ อาบีชัย และอาสาเฮล ฝ่ายอาสาเฮลนั้นฝีเท้าเร็วอย่างกับละมั่ง และอาสาเฮลก็ไล่ตามอับเนอร์ไป เมื่อตามไปนั้นก็มิได้เลี้ยวทางขวามือหรือทางซ้ายมือจากการไล่ตามอับเนอร์ อับเนอร์เหลียวมาดูจึงพูดว่า “นั่นอาสาเฮลหรือ” เขาตอบว่า “ข้าเอง” อับเนอร์จึงบอกเขาว่า “จงเลี้ยวไปทางขวาหรือทางซ้าย และจับเอาคนหนุ่มคนใดคนหนึ่ง แล้วก็ริบเอาอาวุธของเขาไป” แต่อาสาเฮลไม่เลี้ยวจากไล่ตามอับเนอร์ อับเนอร์จึงบอกอาสาเฮลอีกครั้งหนึ่งว่า “จงหันกลับจากตามข้าเสียเถิด จะให้ข้าฟาดเจ้าให้ล้มลงดินทำไมเล่า แล้วข้าจะเงยหน้าขึ้นดูโยอาบพี่ของเจ้าได้อย่างไร” แต่เขาก็ปฏิเสธไม่ยอมหันกลับ เพราะฉะนั้นอับเนอร์ก็เอาโคนหอกแทงท้องอาสาเฮล หอกก็ทะลุออกข้างหลังของเขา เขาก็ล้มลงตายอยู่ที่นั่น และอยู่มาทุกคนซึ่งมาเห็นที่ที่อาสาเฮลล้มตายอยู่ก็ยืนนิ่ง แต่โยอาบกับอาบีชัยไล่ตามอับเนอร์ไป ดวงอาทิตย์ก็ตกเมื่อเขามาถึงเนินเขาอัมมาห์ ซึ่งอยู่ตรงกียาห์ตามทางที่จะไปถิ่นทุรกันดารเมืองกิเบโอน และคนเบนยามินก็รวมกันตามอับเนอร์ไปเป็นกลุ่มเดียวกันตั้งอยู่ที่ยอดเขาแห่งหนึ่ง แล้วอับเนอร์ร้องถามโยอาบว่า “จะให้ดาบกินเรื่อยไปหรือ ท่านไม่ทราบหรือว่าตอนปลายมือก็ขม อีกนานสักเท่าใดท่านจึงจะสั่งคนของท่านให้หยุดไล่ตามพี่น้องของเขา” และโยอาบจึงกล่าวว่า “พระเจ้าทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด ถ้าท่านไม่พูดขึ้นพวกทหารก็จะเลิกไล่ตามพวกพี่น้องของเขาพรุ่งนี้เช้า” โยอาบจึงเป่าแตรขึ้น คนทั้งปวงก็หยุด ไม่ไล่ตามอิสราเอลอีก และไม่สู้รบกันอีก อับเนอร์กับคนของท่านก็เดินทางตลอดคืนนั้นในที่ราบ เขาข้ามแม่น้ำจอร์แดนและเดินไปตามหุบเขาบิทโรน เขาก็มาถึงมาหะนาอิม โยอาบก็กลับจากไล่ตามอับเนอร์ และเมื่อท่านรวบรวมพลเข้าด้วยกันแล้ว ข้าราชการทหารของดาวิดก็ขาดไปสิบเก้าคนไม่นับอาสาเฮล แต่ข้าราชการทหารของดาวิดได้ฆ่าคนเบนยามินและคนของอับเนอร์ตายไปสามร้อยหกสิบคน และเขาก็ยกศพอาสาเฮลไปฝังไว้ในอุโมงค์บิดาของเขาซึ่งอยู่ที่เมืองเบธเลเฮม โยอาบและคนของท่านก็เดินทางตลอดคืนไปสว่างที่เมืองเฮโบรน
2 ซามูเอล 2:6-32 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
บัดนี้ขอพระเจ้าทรงสำแดงความรักมั่นคง และความเที่ยงธรรมแก่ท่าน และข้าพเจ้าจะกระทำความดีต่อท่านทั้งหลาย เพราะท่านได้กระทำการนี้ เพราะฉะนั้น ขอให้มือของท่านทั้งหลายเข้มแข็ง และขอให้ท่านกล้าหาญเถิด เพราะว่าซาอูลเจ้านายของท่านสิ้นพระชนม์เสียแล้ว และพงศ์พันธุ์ยูดาห์ได้เจิมตั้งข้าพเจ้าไว้เป็นกษัตริย์ เหนือเขาทั้งหลาย>> ฝ่ายอับเนอร์บุตรเนอร์แม่ทัพของกองทัพซาอูลได้พา อิชโบเชทราชโอรสของซาอูลข้ามไปที่เมืองมาหะนาอิม และได้สถาปนาท่านให้เป็นกษัตริย์เหนือ เมืองกิเลอาดและคนอาชูร์ และคนยิสเรเอล และคนเอฟราอิม และคนเบนยามิน และคนอิสราเอลทั้งหมด เมื่ออิชโบเชทราชบุตร ของซาอูลเริ่มปกครองเหนืออิสราเอลนั้น มีพระชนมายุสี่สิบปี ทรงครอบครองอยู่สองปี แต่พงศ์พันธุ์ยูดาห์ก็ติดตามดาวิด เวลาที่ดาวิดทรงเป็น กษัตริย์เหนือพงศ์พันธุ์ยูดาห์ในเฮโบรนนั้นเป็นจำนวนเจ็ดปีกับหกเดือน อับเนอร์บุตรเนอร์ และพวกข้าราชการทหารของอิชโบเชทราชบุตรของซาอูล ได้ออกจากมาหะนาอิมไปยังเมืองกิเบโอน และโยอาบบุตรนางเศรุยาห์กับพวกข้าราชการ ทหารของดาวิด ก็ออกไปพบกับเขาที่สระเมืองกิเบโอนและเขา ทั้งหลายก็นั่งอยู่ที่ขอบสระ พวกหนึ่งอยู่ที่ขอบสระข้างนี้อีกพวกหนึ่งข้างโน้น อับเนอร์จึงพูดกับโยอาบว่า <<ขอให้พวกคนหนุ่มลุกขึ้นรบเล่นกันให้เราดูเถิด>> และโยอาบตอบว่า <<ให้เขาลุกขึ้นเล่นซี>> เขาก็ลุกขึ้นไปตามที่นับไว้ ฝ่ายเบนยามินและฝ่ายอิชโบเชทราชโอรสของ ซาอูลมีสิบสองคน และข้าราชการทหารของดาวิดก็มีสิบสองคน ต่างก็จับศีรษะคู่ต่อสู้ และปักดาบเข้าที่สีข้างของคู่ต่อสู้ล้มตายด้วยกันหมด เขาจึงเรียกที่นั่นว่าเฮลขัทฮัสซูริมซึ่งอยู่ในกิเบโอน การสู้รบในวันนั้นดุเดือดยิ่งนัก อับเนอร์และพวกคนอิสราเอลก็พ่ายแพ้ ต่อข้าราชการทหารของดาวิด บุตรทั้งสามของนางเศรุยาห์ก็อยู่ที่นั่นคือ โยอาบ อาบีชัย และอาสาเฮล ฝ่ายอาสาเฮลนั้นฝีเท้าเร็วอย่างกับละมั่ง และอาสาเฮลก็ไล่ตามอับเนอร์ไป เมื่อตามไปนั้นก็มิได้เลี้ยวทางขวามือ หรือทางซ้ายมือจากการไล่ตามอับเนอร์ อับเนอร์เหลียวมาดูจึงพูดว่า <<นั่นอาสาเฮลหรือ>> เขาตอบว่า <<ข้าเอง>> อับเนอร์จึงบอกเขาว่า <<จงเลี้ยวไปทางขวาหรือทางซ้าย และจับเอาคนหนุ่มคนใดคนหนึ่ง แล้วก็ริบเอาของของเขาไป>> แต่อาสาเฮลไม่เลี้ยวจากไล่ตามอับเนอร์ อับเนอร์จึงบอกอาสาเฮลอีกครั้งหนึ่งว่า <<จงหันกลับจากตามข้าเสียเถิด จะให้ข้าฟาดเจ้าให้ล้มลงดินทำไมเล่า แล้วข้าจะเงยหน้าขึ้นดูโยอาบพี่ของเจ้าได้อย่างไร>> แต่เขาก็ปฏิเสธไม่ยอมหันกลับ เพราะฉะนั้น อับเนอร์ก็เอาโคนหอกแทงท้องอาสาเฮล หอกก็ทะลุออกข้างหลังของเขา เขาก็ล้มลงตายอยู่ที่นั่น และทุกคนซึ่งมาเห็นที่ที่อาสาเฮลล้มตายอยู่ก็ยืนนิ่ง แต่โยอาบกับอาบีชัยไล่ตามอับเนอร์ไป ดวงอาทิตย์ก็ตกเมื่อเขามาถึงเนินเขาอัมมาห์ ซึ่งอยู่ตรงกียาห์ตามทางที่จะไปถิ่นทุรกันดารเมืองกิเบโอน และคนเบนยามินก็รวมกันตามอับเนอร์ไป เป็นกลุ่มเดียวกันตั้งอยู่ที่ยอดเขาแห่งหนึ่ง แล้วอับเนอร์ร้องถามโยอาบว่า <<จะให้ดาบกินเรื่อยไปหรือ ท่านไม่ทราบหรือว่าตอนปลายมือก็ขม อีกนานสักเท่าใดท่านจึงจะสั่งคน ของท่านให้หยุดไล่ตามพี่น้องของเขา>> และโยอาบจึงกล่าวว่า <<พระเจ้าทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด ถ้าท่านไม่พูดขึ้นพวกทหารก็จะ เลิกไล่ตามพวกพี่น้องของเขาพรุ่งนี้เช้า>> โยอาบจึงเป่าเขาสัตว์ขึ้น คนทั้งปวงก็หยุดไม่ไล่ตามอิสราเอลอีก และไม่สู้รบกันอีก อับเนอร์กับคนของท่านก็เดินทางตลอดคืนนั้นในอาราบาห์ เขาข้ามแม่น้ำจอร์แดน และเดินไปตามหุบเขาบิทโรน เขาก็มาถึงมาหะนาอิม โยอาบก็กลับจากไล่ตามอับเนอร์ และเมื่อท่านรวบรวมพลเข้าด้วยกันแล้ว ข้าราชการทหารของดาวิดก็ขาดไป สิบเก้าคนไม่นับอาสาเฮล แต่ข้าราชการทหารของดาวิดได้ฆ่าคน เบนยามินและคนของอับเนอร์ตายไปสามร้อยหกสิบคน และเขาก็ยกศพอาสาเฮลไปฝังไว้ในอุโมงค์บิดาของเขา ซึ่งอยู่ที่เมืองเบธเลเฮม โยอาบและคนของท่านก็ เดินทางตลอดคืนไปสว่างที่เมืองเฮโบรน
2 ซามูเอล 2:6-32 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
บัดนี้ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสำแดงความกรุณาและความซื่อสัตย์ต่อท่าน ข้าพเจ้าเองก็จะเอื้ออารีต่อท่านเนื่องด้วยการกระทำครั้งนี้ของท่าน บัดนี้จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิดเพราะซาอูลนายของท่านสิ้นพระชนม์แล้ว และชาวยูดาห์ได้แต่งตั้งข้าพเจ้าขึ้นเป็นกษัตริย์ของพวกเขา” ฝ่ายอับเนอร์บุตรเนอร์แม่ทัพของซาอูลได้พาอิชโบเชทโอรสของซาอูลไปยังเมืองมาหะนาอิม และแต่งตั้งอิชโบเชทขึ้นเป็นกษัตริย์ครองกิเลอาด อาชูร์ ยิสเรเอล เอฟราอิม เบนยามิน และทั่วทั้งอิสราเอล อิชโบเชทราชโอรสของซาอูลมีพระชนมายุสี่สิบพรรษาเมื่อขึ้นเป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอล ทรงครองราชย์อยู่สองปี แต่ชนยูดาห์ติดตามดาวิด ดาวิดเป็นกษัตริย์อยู่เหนือวงศ์วานยูดาห์ในเมืองเฮโบรนอยู่เจ็ดปีกับหกเดือน อับเนอร์บุตรเนอร์กับคนของอิชโบเชทราชโอรสของซาอูลออกจากมาหะนาอิมมายังกิเบโอน ฝ่ายโยอาบบุตรนางเศรุยาห์และคนของดาวิดออกมาเผชิญหน้ากับพวกเขาที่สระกิเบโอน โดยอยู่กันคนละฟากของสระ อับเนอร์จึงบอกโยอาบว่า “ให้ทหารมาประลองฝีมือกันต่อหน้าเราดีกว่า” โยอาบตอบว่า “ตกลงให้พวกเขาสู้กัน” ฉะนั้นฝ่ายเบนยามินและอิชโบเชทราชโอรสของซาอูลจึงเลือกทหารมาสิบสองคนและฝ่ายดาวิดก็เลือกสิบสองคนเช่นกัน แต่ละฝ่ายจับศีรษะของคู่ต่อสู้และเอาดาบสั้นแทงสีข้างของอีกฝ่าย ต่างก็ล้มตายด้วยกันทั้งคู่ สถานที่แห่งนั้นในกิเบโอนจึงได้ชื่อว่า เฮลขัทฮัสซูริม ทั้งสองฝ่ายสู้รบกันอย่างดุเดือดในวันนั้น ผลปรากฏว่าอับเนอร์และคนอิสราเอลพ่ายแพ้คนของดาวิด บุตรทั้งสามของนางเศรุยาห์คือ โยอาบ อาบีชัย และอาสาเฮลอยู่ที่นั่น อาสาเฮลนั้นฝีเท้าเร็วเหมือนละมั่ง เขาวิ่งไล่อับเนอร์โดยไม่หันซ้ายหันขวา อับเนอร์เหลียวมาเห็นก็ถามว่า “นั่นเจ้าหรืออาสาเฮล?” อาสาเฮลตอบว่า “ใช่แล้ว” อับเนอร์เตือนว่า “หันไปทางซ้ายหรือขวาก็ได้ เล่นงานคนอื่นแล้วปลดอาวุธเขาไปดีกว่า” แต่อาสาเฮลไม่ฟัง ยังคงวิ่งตามมาอย่างไม่ลดละ อับเนอร์ตะโกนย้ำว่า “อย่าตามมาเลย! จะให้เราฆ่าเจ้าทำไม? เราจะไปสู้หน้าโยอาบพี่ชายของเจ้าได้อย่างไร?” แต่อาสาเฮลยังคงวิ่งตาม อับเนอร์จึงใช้หอกแทงท้องอาสาเฮลทะลุหลัง เขาล้มลงตายคาที่ ทุกคนซึ่งมาถึงตรงที่อาสาเฮลนอนตายอยู่ก็ตะลึงงัน แต่โยอาบกับอาบีชัยไล่ตามอับเนอร์ไป ดวงอาทิตย์เพิ่งลับขอบฟ้า เมื่อเขามาถึงเนินเขาอัมมาห์ใกล้กียาห์ ตามเส้นทางไปสู่ถิ่นกันดารกิเบโอน คนเบนยามินวิ่งตามหลังอับเนอร์มาและรวมพลตั้งแถวบนยอดเนินเขา อับเนอร์ตะโกนลงไปบอกโยอาบว่า “เราจะต้องเข่นฆ่ากันตลอดไปหรือ? ท่านไม่รู้หรือว่าเรื่องนี้จะจบลงอย่างเศร้าโศก? อีกนานแค่ไหนเจ้าถึงจะสั่งคนของเจ้าให้เลิกตามฆ่าพี่น้องกันเอง?” โยอาบตะโกนกลับไปว่า “พระเจ้าทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด ถ้าท่านไม่ได้พูดขึ้นมา พวกเราคงตามล่าพี่น้องจนถึงพรุ่งนี้เช้าฉันนั้น” แล้วโยอาบก็เป่าแตรเขาสัตว์ ทหารทั้งปวงจึงหยุดต่อสู้ หยุดไล่ตามฝ่ายอิสราเอล ตลอดคืนนั้นอับเนอร์กับพรรคพวกเดินทางผ่านอาราบาห์ ข้ามแม่น้ำจอร์แดน และเดินทางผ่านหุบเขาบิทโรนต่อไปจนถึงเมืองมาหะนาอิม โยอาบก็เลิกตามล่าอับเนอร์และสั่งรวมพล นอกจากอาสาเฮลแล้วมีคนของดาวิดอีกเพียงสิบเก้าคนที่ขาดหายไป แต่คนของดาวิดฆ่าคนเบนยามินที่อยู่กับอับเนอร์ไปถึงสามร้อยคน พวกเขานำร่างของอาสาเฮลไปฝังไว้ในอุโมงค์ของบิดาเขาที่เบธเลเฮม จากนั้นโยอาบกับคนของเขาเดินทางตลอดคืนและมาถึงเมืองเฮโบรนเมื่อรุ่งสาง
2 ซามูเอล 2:6-32 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
บัดนี้ขอให้พระผู้เป็นเจ้าแสดงความรักอันมั่นคงและความสัตย์จริงแก่ท่าน และเราจะกระทำดีต่อท่าน เพราะท่านปฏิบัติเช่นนั้น ฉะนั้นขอให้ท่านเข้มแข็งและกล้าหาญ เพราะว่าซาอูลนายของท่านสิ้นชีวิตแล้ว และพงศ์พันธุ์ยูดาห์ได้เจิมเราให้เป็นกษัตริย์ปกครองพวกเขา” อับเนอร์บุตรของเนอร์ผู้บังคับกองพันทหารของซาอูลได้พาอิชโบเชทบุตรของซาอูล ข้ามแม่น้ำไปยังเมืองมาหะนาอิม และแต่งตั้งท่านให้เป็นกษัตริย์ปกครองอาณาเขตของกิเลอาด อาเชอร์ ยิสเรเอล เอฟราอิม และเบนยามิน คือนับว่าทั่วทั้งอิสราเอล อิชโบเชทบุตรของซาอูลมีอายุ 40 ปีเมื่อท่านเริ่มปกครองทั่วอิสราเอล ท่านปกครองได้ 2 ปี แต่พงศ์พันธุ์ยูดาห์ติดตามดาวิด รวมเวลาที่ดาวิดเป็นกษัตริย์ปกครองพงศ์พันธุ์ยูดาห์ในเฮโบรนได้ 7 ปี 6 เดือน อับเนอร์บุตรของเนอร์ กับบรรดาผู้รับใช้ของอิชโบเชทบุตรของซาอูล ออกจากมาหะนาอิมไปยังเมืองกิเบโอน โยอาบบุตรของนางเศรุยาห์ กับบรรดาทหารรับใช้ของดาวิด ออกไปพบกับเขาที่สระน้ำของเมืองกิเบโอน ทุกคนนั่งลงที่นั่น พวกหนึ่งอยู่ที่ข้างหนึ่งของสระ และอีกพวกหนึ่งก็อยู่ที่ฝั่งตรงกันข้าม อับเนอร์พูดกับโยอาบว่า “ให้พวกคนหนุ่มๆ ลุกขึ้นแข่งขันต่อหน้าเราเถิด” โยอาบพูดว่า “ให้พวกเขาลุกขึ้นก็ได้” พวกเขาก็ลุกขึ้น จำนวนคนเท่ากัน จากเผ่าเบนยามิน 12 คนเป็นฝ่ายอิชโบเชท และทหารรับใช้จากดาวิด 12 คน แต่ละคนดึงผมของคู่ต่อสู้ของตน และใช้ดาบแทงสีข้างของคู่ต่อสู้ ทุกคนต่างก็ล้มลงด้วยกันหมด สถานที่นั้นจึงชื่อว่า เฮลขัทฮัสซูริม ซึ่งอยู่ที่กิเบโอน สงครามในวันนั้นอยู่ในขั้นรุนแรงมาก อับเนอร์และพวกผู้ชายของอิสราเอลพ่ายแพ้พวกทหารรับใช้ของดาวิด โยอาบ อาบีชัย และอาสาเฮลบุตรสามคนของนางเศรุยาห์อยู่ที่นั่น อาสาเฮลฝีเท้าเร็วราวกับละองละมั่งป่า อาสาเฮลไล่ล่าอับเนอร์ และขณะที่ตามไป ก็มุ่งมั่นถึงเป้าหมายโดยไม่หันขวาหรือซ้าย และอับเนอร์หันหลังดูและพูดว่า “นั่นเจ้าเองหรือ อาสาเฮล” เขาตอบว่า “ใช่ ข้าเอง” อับเนอร์พูดกับเขาว่า “เจ้าหันไปทางขวาหรือซ้ายก็ได้ ไปจับคนหนุ่มๆ คนใดคนหนึ่ง และริบของจากเขาเสีย” แต่อาสาเฮลไม่ยอมหยุดตามล่าเขา อับเนอร์พูดกับอาสาเฮลอีกว่า “หยุดตามข้า และหันไปที่อื่นได้แล้ว เจ้าอยากให้ข้าฟันเจ้าล้มลงตายอยู่กับดินหรือ ข้าจะมองหน้าโยอาบพี่ชายของเจ้าได้ยังไง” แต่เขาไม่ยอมหันไปทางอื่น อับเนอร์จึงทิ่มท้องเขาด้วยปลายหอกจนทะลุหลัง และเขาก็ล้มลงและตายอยู่ที่นั่น และเมื่อใดที่ทุกคนผ่านมาที่ที่อาสาเฮลได้ล้มตาย ก็ยืนนิ่งอยู่ที่นั่น แต่โยอาบและอาบีชัยไล่ล่าอับเนอร์ ในขณะที่ดวงตะวันกำลังจะลับไป พวกเขาก็มาถึงเนินเขาอัมมาห์ ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกของกียาห์ ตามทางที่จะไปถิ่นทุรกันดารของกิเบโอน ชาวเบนยามินรวมตัวเข้าด้วยกัน ตามหลังอับเนอร์ และเข้าเป็นกลุ่มเดียวกัน ยืนตั้งหลักอยู่ที่ยอดเนินเขาแห่งหนึ่ง อับเนอร์ร้องถามโยอาบว่า “จะใช้ดาบห้ำหั่นไปตลอดกาลหรือ ท่านไม่ทราบหรือว่าบั้นปลายจะขมขื่น จะนานอีกแค่ไหนกว่าท่านจะบอกคนของท่านให้หยุดไล่ล่าพี่น้องของพวกเขา” โยอาบพูดว่า “ตราบที่พระเจ้ามีชีวิตอยู่ฉันใด ถ้าท่านไม่พูดขึ้น คนเหล่านี้ก็คงไม่เลิกไล่ล่าพี่น้องของเขาจนกว่าจะรุ่งเช้า” ดังนั้นโยอาบจึงเป่าแตรงอน ทุกคนก็หยุด ไม่ไล่ล่าอิสราเอล หรือต่อสู้อีก ฝ่ายอับเนอร์และพรรคพวกก็เดินทางตลอดคืนผ่านอาราบาห์ ข้ามแม่น้ำจอร์แดน และเดินตลอดทั้งเช้าจนถึงมาหะนาอิม โยอาบกลับจากไล่ล่าอับเนอร์ เมื่อเขารวบรวมทุกคนเข้าด้วยกันแล้ว ปรากฏว่านอกจากอาสาเฮลแล้ว มีทหารผู้รับใช้ของดาวิดขาดไป 19 คน แต่บรรดาผู้รับใช้ของดาวิดได้ฆ่าชาวเบนยามิน 360 คนที่เป็นฝ่ายอับเนอร์ และเขาทั้งหลายยกศพอาสาเฮลไปบรรจุในถ้ำเก็บศพของบิดาของเขาที่เบธเลเฮม โยอาบและพรรคพวกเดินตลอดทั้งคืน พอถึงเฮโบรนก็รุ่งเช้าแล้ว