2 เปโตร 2:17-22
2 เปโตร 2:17-22 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
พวกครูสอนผิดนี้ เป็นตาน้ำที่แห้งขอด และเป็นเมฆที่ถูกพายุพัดพาไป ขุมนรกมืดถูกเตรียมไว้แล้วสำหรับคนพวกนี้ พวกนี้ดีแต่โม้เรื่องไร้สาระของตน และใช้ราคะตัณหาของร่างกายมายั่วคนที่เพิ่งจะหลุดพ้นมาจากการใช้ชีวิตผิดๆ ครูพวกนี้ได้สัญญาว่าจะให้เสรีภาพกับคนพวกนั้น ทั้งๆที่ตัวเองยังตกเป็นทาสของนิสัยชั่วๆอยู่เลย คนที่พ่ายแพ้กับอะไร เขาก็เป็นทาสของสิ่งนั้น ดังนั้นคนไหนที่หลุดพ้นออกมาจากความสกปรกโสมมของโลกนี้ได้แล้ว เพราะได้รู้จักพระเยซูคริสต์องค์เจ้าชีวิตและพระผู้ช่วยให้รอดของเรา แต่กลับพ่ายแพ้ และกลับไปพัวพันกับสิ่งเหล่านั้นอีก สภาพของเขาตอนหลังนี้จะเลวร้ายยิ่งกว่าตอนแรกเสียอีก เพราะถ้าคนนี้ไม่ได้รู้จักทางที่ถูกต้องนี้ตั้งแต่แรก ก็ยังดีกว่าได้รู้จัก แล้วหันหน้าหนีไปจากคำสั่งสอนอันศักดิ์สิทธิ์ที่ให้เขาไว้ สิ่งที่เกิดขึ้นกับคนพวกนี้ก็เป็นไปตามคำสุภาษิตที่ว่า “หมาก็หันกลับไปกินอ้วกของมัน” หรือที่ว่า “หมูที่ล้างสะอาดแล้ว ก็กลับไปเกลือกกลิ้งอยู่ในโคลนตมอีก”
2 เปโตร 2:17-22 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
คนเหล่านี้คือบ่อแล้งน้ำ คือหมอกที่ถูกพายุพัดไป นรกมืดมิดรอพวกเขาอยู่ เพราะเขาพูดจาโอ้อวดลมๆ แล้งๆ และใช้ราคะตัณหาตามวิสัยมนุษย์บาปหนามาล่อลวงคนทั้งหลายที่เพิ่งหนีพ้นจากบรรดาผู้ที่ดำเนินชีวิตในทางที่ผิด พวกเขาสัญญาว่าจะให้คนเหล่านั้นเป็นอิสระ แต่ตัวเขาเองยังเป็นทาสของความเสื่อมทราม เพราะคนเราถูกสิ่งใดครอบงำย่อมเป็นทาสของสิ่งนั้น ถ้าพวกเขาได้หนีพ้นมลทินโลกมาแล้วโดยการรู้จักพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าและพระผู้ช่วยให้รอดของเรา แล้วยังหวนกลับไปข้องเกี่ยวและพ่ายแพ้แก่มัน บั้นปลายของพวกเขาก็กลับเลวร้ายยิ่งกว่าเริ่มแรก ถ้าพวกเขาไม่รู้จักทางแห่งความชอบธรรมเสียเลยก็ยังดีกว่าได้รู้จักแล้วหันหลังให้พระบัญชาศักดิ์สิทธิ์ซึ่งสืบทอดมาถึงพวกเขา พวกเขาก็เป็นไปตามสุภาษิตที่ว่า “สุนัขหวนกลับไปหาสิ่งที่มันสำรอกออกมา” และที่ว่า “สุกรที่อาบน้ำแล้วย้อนกลับไปเกลือกกลั้วในปลักโคลน”
2 เปโตร 2:17-22 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
พวกครูสอนผิดนี้ เป็นตาน้ำที่แห้งขอด และเป็นเมฆที่ถูกพายุพัดพาไป ขุมนรกมืดถูกเตรียมไว้แล้วสำหรับคนพวกนี้ พวกนี้ดีแต่โม้เรื่องไร้สาระของตน และใช้ราคะตัณหาของร่างกายมายั่วคนที่เพิ่งจะหลุดพ้นมาจากการใช้ชีวิตผิดๆ ครูพวกนี้ได้สัญญาว่าจะให้เสรีภาพกับคนพวกนั้น ทั้งๆที่ตัวเองยังตกเป็นทาสของนิสัยชั่วๆอยู่เลย คนที่พ่ายแพ้กับอะไร เขาก็เป็นทาสของสิ่งนั้น ดังนั้นคนไหนที่หลุดพ้นออกมาจากความสกปรกโสมมของโลกนี้ได้แล้ว เพราะได้รู้จักพระเยซูคริสต์องค์เจ้าชีวิตและพระผู้ช่วยให้รอดของเรา แต่กลับพ่ายแพ้ และกลับไปพัวพันกับสิ่งเหล่านั้นอีก สภาพของเขาตอนหลังนี้จะเลวร้ายยิ่งกว่าตอนแรกเสียอีก เพราะถ้าคนนี้ไม่ได้รู้จักทางที่ถูกต้องนี้ตั้งแต่แรก ก็ยังดีกว่าได้รู้จัก แล้วหันหน้าหนีไปจากคำสั่งสอนอันศักดิ์สิทธิ์ที่ให้เขาไว้ สิ่งที่เกิดขึ้นกับคนพวกนี้ก็เป็นไปตามคำสุภาษิตที่ว่า “หมาก็หันกลับไปกินอ้วกของมัน” หรือที่ว่า “หมูที่ล้างสะอาดแล้ว ก็กลับไปเกลือกกลิ้งอยู่ในโคลนตมอีก”
2 เปโตร 2:17-22 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
ผู้สอนเท็จเหล่านี้เป็นบ่อที่ไร้น้ำ เป็นหมอกที่ถูกพายุพัดไป พระองค์ทรงเตรียมที่มืดมิดสำหรับคนเหล่านั้นแล้ว เพราะว่าพวกเขาพูดโอ้อวดอย่างเลื่อนลอย และใช้กิเลสตัณหาของเนื้อหนัง ดักจับคนทั้งหลายที่กำลังหนีไปจากพวกที่ดำเนินชีวิตในความหลงผิด พวกเขาสัญญาว่าจะให้เสรีภาพกับคนเหล่านั้น แต่ตัวเองยังเป็นทาสของความเสื่อมทราม เพราะว่าผู้ใดพ่ายแพ้แก่สิ่งใด เขาก็เป็นทาสของสิ่งนั้น เพราะว่าถ้าหลังจากพวกเขาหลีกหนีจากมลทินทั้งหลายของโลกแล้ว โดยการรู้จักพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าและผู้ช่วยให้รอดของเรา แต่พวกเขากลับเกี่ยวข้องและพ่ายแพ้แก่มลทินชั่วเหล่านั้นอีก บั้นปลายของพวกเขาก็กลับเลวร้ายยิ่งกว่าตอนต้น เพราะว่าถ้าพวกเขาไม่ได้รู้จักทางชอบธรรมนั้นเสียเลย ก็ยังจะดีกว่าที่พวกเขาได้รู้แล้ว แต่กลับหันหลังให้วิสุทธิบัญญัติที่ทรงมอบแก่พวกเขานั้น สิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเขาก็เป็นไปตามสุภาษิตซึ่งเป็นความจริงที่ว่า “สุนัขเลียกิน สิ่งที่มันสำรอกออกมา” และ “สุกรที่คนล้างมันให้สะอาดแล้ว กลับลุยลงไปนอนในโคลนอีก”
2 เปโตร 2:17-22 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
คนเหล่านี้เป็นบ่อที่ไร้น้ำ เป็นเมฆที่ถูกพายุพัดไป ทรงเตรียมหมอกแห่งความมืดทึบไว้แล้วสำหรับคนเหล่านั้นเป็นนิตย์ เพราะว่าเขาพูดเย่อหยิ่งอวดตัว และเขาใช้ความปรารถนาแห่งเนื้อหนังกับความกำหนัด เพื่อจะล่อลวงคนทั้งหลายที่กำลังหนีไปจากคนเหล่านั้นที่หลงประพฤติผิด เขาสัญญาว่าจะให้คนเหล่านั้นพ้นจากการเป็นทาส แต่ตัวเขาเองยังเป็นทาสของความหายนะ เพราะว่ามนุษย์พ่ายแพ้แก่สิ่งใด เขาก็เป็นทาสของสิ่งนั้น เพราะว่าถ้าหลังจากที่เขาพ้นจากสรรพมลทินของโลกนี้แล้ว ด้วยการที่เขารู้เกี่ยวกับพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้า และพระผู้ช่วยให้รอด เขากลับเกี่ยวข้องและพ่ายแพ้แก่การชั่วนั้นอีก บั้นปลายของเขาก็กลับชั่วร้ายยิ่งกว่าตอนต้น เพราะว่าถ้าเขาไม่ได้รู้จักทางชอบธรรมนั้นเสียเลยก็ยังจะดีกว่าที่เขาได้รู้แล้ว แต่กลับหันหลังให้พระบัญญัติอันบริสุทธิ์ที่ได้ทรงโปรดประทานให้แก่เขานั้น พฤติกรรมได้เกิดกับเขาตามสุภาษิตซึ่งเป็นความจริงว่า “สุนัขได้กลับกินสิ่งที่มันสำรอกออกมาแล้ว และสุกรที่ได้ชำระล้างตัวแล้วก็กลับลุยลงไปนอนในปลักอีก”
2 เปโตร 2:17-22 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
คนเหล่านี้เป็นบ่อที่ไร้น้ำ เป็นหมอกที่ถูกพายุพัดไป พระองค์ทรงเตรียมขุมนรกมืดไว้แล้วสำหรับคนเหล่านั้น เพราะว่าเขาได้พูดโอ้อวดตัว และเขาใช้ความปรารถนาชั่วทางกาย ล่อลวงคนทั้งหลายที่กำลังหนีไปจากผู้ที่หลงประพฤติผิด เขาสัญญาว่าจะให้คนเหล่านั้นพ้นจากการเป็นทาส แต่ตัวเขาเองยังเป็นทาสของความเสื่อมทราม เพราะว่ามนุษย์พ่ายแพ้แก่สิ่งใด เขาก็เป็นทาสของสิ่งนั้น เพราะว่าถ้าหลังจากที่เขาพ้นจากสรรพมลทินของโลกนี้แล้ว ด้วยการที่เขาได้รู้จักพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าและผู้ช่วยให้รอด เขากลับเกี่ยวข้องและพ่ายแพ้แก่การชั่วนั้นอีก บั้นปลายของเขาก็กลับชั่วร้ายยิ่งกว่าตอนต้น เพราะว่าถ้าเขาไม่ได้รู้จักทางชอบธรรมนั้นเสียเลย ก็ยังจะดีกว่าที่เขาได้รู้แล้ว แต่กลับหันหลังให้พระบัญญัติอันบริสุทธิ์ที่ได้ทรงโปรดมอบให้แก่เขานั้น พฤติกรรมได้เกิดกับเขาตามสุภาษิตซึ่งเป็นความจริงที่ว่า สุนัขเลียกินสิ่งที่มันสำรอกออกมา และสุกรที่คนล้างมันให้สะอาด แล้วกลับลุยลงไปนอนในปลักอีก
2 เปโตร 2:17-22 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
คนเหล่านี้คือบ่อแล้งน้ำ คือหมอกที่ถูกพายุพัดไป นรกมืดมิดรอพวกเขาอยู่ เพราะเขาพูดจาโอ้อวดลมๆ แล้งๆ และใช้ราคะตัณหาตามวิสัยมนุษย์บาปหนามาล่อลวงคนทั้งหลายที่เพิ่งหนีพ้นจากบรรดาผู้ที่ดำเนินชีวิตในทางที่ผิด พวกเขาสัญญาว่าจะให้คนเหล่านั้นเป็นอิสระ แต่ตัวเขาเองยังเป็นทาสของความเสื่อมทราม เพราะคนเราถูกสิ่งใดครอบงำย่อมเป็นทาสของสิ่งนั้น ถ้าพวกเขาได้หนีพ้นมลทินโลกมาแล้วโดยการรู้จักพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าและพระผู้ช่วยให้รอดของเรา แล้วยังหวนกลับไปข้องเกี่ยวและพ่ายแพ้แก่มัน บั้นปลายของพวกเขาก็กลับเลวร้ายยิ่งกว่าเริ่มแรก ถ้าพวกเขาไม่รู้จักทางแห่งความชอบธรรมเสียเลยก็ยังดีกว่าได้รู้จักแล้วหันหลังให้พระบัญชาศักดิ์สิทธิ์ซึ่งสืบทอดมาถึงพวกเขา พวกเขาก็เป็นไปตามสุภาษิตที่ว่า “สุนัขหวนกลับไปหาสิ่งที่มันสำรอกออกมา” และที่ว่า “สุกรที่อาบน้ำแล้วย้อนกลับไปเกลือกกลั้วในปลักโคลน”
2 เปโตร 2:17-22 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
คนเหล่านี้เป็นเสมือนน้ำพุที่ปราศจากน้ำ และเป็นเมฆหมอกที่ถูกพายุพัดพา ความมืดมิดกำลังรอรับพวกเขาอยู่ เพราะเขาพูดเรื่องไร้สาระอย่างหยิ่งยโส และใช้เนื้อหนังเป็นเครื่องชักจูงบรรดาผู้ที่เพิ่งหลุดพ้นจากชีวิตเดิม พวกเขาสัญญากับคนเหล่านั้นว่าจะมีอิสระ แต่ตนเองยังเป็นทาสของความเสื่อมทราม เพราะคนที่พ่ายแพ้แก่สิ่งใดย่อมเป็นทาสของสิ่งนั้น ถ้าเขาได้หลุดพ้นจากมลทินของโลกด้วยการรู้จักพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าและผู้ช่วยให้รอดพ้นของเราแล้ว แต่กลับไปติดกับดักอีกจนพ่ายแพ้ ในบั้นปลายเขาย่อมเสื่อมทรามยิ่งกว่าตอนต้น หากว่าพวกเขาไม่รู้ทางไปสู่ความชอบธรรม ก็จะดีกว่ารู้แล้วหันหลังให้กับพระบัญญัติอันบริสุทธิ์ซึ่งเขาเคยยอมรับ เขาก็เป็นจริงตามสุภาษิตที่ว่า “สุนัขกลับไปกินสิ่งที่มันสำรอกออกมา” และ “สุกรที่ถูกทำความสะอาดแล้วกลับไปลุยลงในเลนอีก”