2 พงศ์กษัตริย์ 6:8-23

2 พงศ์กษัตริย์ 6:8-23 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

ครั้งนั้นกษัตริย์อารัมรบกับอิสราเอล เมื่อใดที่พระองค์ตรัสกับทหารว่า “เราจะยกกำลังไปตั้งค่ายที่นั่นที่นี่” คนของพระเจ้าก็จะเตือนกษัตริย์อิสราเอลว่า “อย่าไปใกล้ที่นั่นเพราะพวกอารัมกำลังจะยกทัพมา” กษัตริย์อิสราเอลก็ส่งคนไปตรวจดูสถานที่ซึ่งคนของพระเจ้าระบุไว้ เอลีชาเตือนกษัตริย์ครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อจะทรงระแวดระวังที่เหล่านั้น เรื่องนี้ทำให้กษัตริย์อารัมกริ้วนัก จึงทรงเรียกประชุมนายทหารและตรัสสั่งว่า “พวกท่านจะไม่ยอมบอกหรือว่าใครในพวกเราที่เป็นสายให้กษัตริย์อิสราเอล?” ทหารคนหนึ่งทูลว่า “ข้าแต่องค์กษัตริย์ ไม่ใช่พวกข้าพระบาท แต่ผู้เผยพระวจนะเอลีชาในอิสราเอลต่างหากเป็นผู้ทูลกษัตริย์อิสราเอล แม้กระทั่งเนื้อความที่ฝ่าพระบาทตรัสในห้องบรรทม” กษัตริย์จึงตรัสสั่งว่า “จงไปสืบดูว่าเขาอยู่ที่ไหน เราจะส่งทหารไปจับตัวมา” มีผู้มาทูลว่า “เอลีชาอยู่ที่โดธาน” พระองค์จึงทรงส่งม้า รถม้าศึก และกองกำลังใหญ่มาในเวลากลางคืน และล้อมเมืองนั้นไว้ รุ่งขึ้นเมื่อคนรับใช้ของผู้เผยพระวจนะตื่นขึ้น และออกไปข้างนอกก็เห็นกองทัพม้าและรถม้าศึกล้อมเมืองอยู่ จึงบอกเอลีชาว่า “แย่แล้วนายท่าน เราจะทำอย่างไรกันดี?” เอลีชากล่าวว่า “อย่าตกใจกลัวไปเลย ฝ่ายเรามีมากกว่าฝ่ายเขา” แล้วเอลีชาอธิษฐานว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอทรงเบิกตาให้เขาเห็น” องค์พระผู้เป็นเจ้าก็ทรงเบิกตาให้คนรับใช้นั้นเห็นรอบเนินเขาเต็มไปด้วยม้าและรถม้าศึกเพลิงรายรอบเอลีชา ขณะที่ฝ่ายศัตรูตรงเข้ามา เอลีชาอธิษฐานต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า “ขอให้คนเหล่านี้ตาพร่ามัวให้หมด” พระเจ้าก็ให้พวกเขาตาพร่ามัวเหมือนที่เอลีชาทูลขอ เอลีชาบอกพวกเขาว่า “นี่ไม่ใช่เส้นทางและเมืองที่พวกท่านจะไป ตามเรามาสิ เราจะพาท่านไปหาคนที่ท่านต้องการ” แล้วเอลีชาก็พาพวกเขาไปยังสะมาเรีย เมื่อพวกเขาเข้ามาในเมืองแล้ว เอลีชาก็อธิษฐานว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอทรงเบิกตาของพวกเขาให้มองเห็น” องค์พระผู้เป็นเจ้าก็ทรงเบิกตาของพวกเขา พวกเขามองดูก็เห็นว่าตนมาอยู่ในสะมาเรีย เมื่อกษัตริย์อิสราเอลทอดพระเนตรเห็นพวกเขา พระองค์ก็ถามเอลีชาว่า “บิดาเจ้าข้า เราจะฆ่าพวกเขาได้ไหม? จะฆ่าเขาดีไหม?” เอลีชาตอบว่า “อย่าเลย ท่านจะฆ่าเชลยศึกด้วยดาบและธนูของท่านหรือ จงให้อาหารเขากิน และให้น้ำเขาดื่ม แล้วปล่อยเขากลับไปหาเจ้านายของเขาเถิด” ดังนั้นกษัตริย์จึงทรงจัดงานเลี้ยงใหญ่ให้พวกเขา หลังจากกินดื่มแล้ว พระองค์ก็ทรงส่งพวกเขากลับไปเข้าเฝ้ากษัตริย์ของตน ตั้งแต่นั้นมากองโจรจากอารัมก็ไม่มากล้ำกรายดินแดนอิสราเอลอีกเลย

2 พงศ์กษัตริย์ 6:8-23 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

ใน​เวลานั้น​กษัตริย์​ของ​ชาว​อารัม​กำลัง​ทำ​สงคราม​อยู่​กับ​อิสราเอล หลังจาก​ที่​กษัตริย์​ของ​ชาว​อารัม​ได้​ปรึกษา​กับ​พวกผู้นำ​ทหาร​ของ​เขาแล้ว เขา​พูด​ว่า “เรา​จะ​จัดตั้ง​ค่าย​ของ​เรา​ขึ้น​ที่​ตรงนั้น” คน​ของ​พระเจ้า​ได้​ส่งข่าว​มา​ถึง​กษัตริย์​ของ​อิสราเอล​ว่า “ระวัง อย่า​ผ่าน​ไป​ทางนั้น เพราะ​พวกอารัม​กำลัง​ลง​ไป​ที่นั่น” กษัตริย์​ของ​อิสราเอล​จึง​ส่งข่าว​ไป​เตือน​คน​ของ​พระองค์​ที่​อยู่​ตรง​แถวนั้น ตามที่​คน​ของ​พระเจ้า​ได้​เตือน​พระองค์มา เรื่องนี้​เกิด​ขึ้น​หลายครั้ง พวกเขา​จึง​ระมัด​ระวัง​ตัว​มากขึ้น​ใน​ที่​เหล่านั้น สิ่ง​นี้​ทำ​ให้​กษัตริย์​ของ​อารัม​โกรธ​มาก เขา​เรียก​ตัว​พวก​ผู้นำ​ทหาร​ของ​เขา​เข้า​มา​และ​ถาม​พวกเขา​ว่า “บอก​เราสิ​ว่า มี​ใคร​ใน​พวก​เรา​ที่​ไป​เข้าข้าง​กษัตริย์​ของ​อิสราเอล” ผู้นำ​ทหาร​คนหนึ่ง​ตอบ​ว่า “กษัตริย์​เจ้านาย​ของ​ข้าพเจ้า ไม่​มี​ใคร​ไป​ทำ​อย่างนั้นหรอก แต่​เอลีชา​ผู้พูดแทนพระเจ้า​ที่​อยู่​ใน​อิสราเอล เป็น​ผู้​บอก​กษัตริย์​ของ​อิสราเอล ถึง​ทุกสิ่ง​ที่​ท่าน​พูด​ไป​ใน​ห้อง​นอน​ของ​ท่าน” กษัตริย์​จึง​สั่ง​ไป​ว่า “ไป​ค้นหา​มา​ว่า​คน​ผู้นี้​อยู่​ที่ไหน เรา​จะ​ได้​ส่ง​คน​ไป​จับตัว​เขา​มา” แล้วก็​มี​รายงาน​กลับ​มา​ว่า “เขา​อยู่​ใน​เมือง​โดธาน” กษัตริย์​จึง​ส่ง​กอง​ทหาร​ม้า​และ​พวก​รถรบ​พร้อม​กับ​กองทัพ​ที่​แข็งแกร่ง​ไป​ที่นั่น พวกเขา​ไป​ใน​เวลา​กลางคืน​และ​ไป​ล้อม​เมือง​เอาไว้ เมื่อ​คน​รับใช้​ของ​เอลีชา​คน​ของ​พระเจ้า​ตื่น​ขึ้น​มา และ​ออก​ไป​ข้างนอก​แต่​เช้าตรู่ มี​กองทัพ​ทหาร​ม้า​กอง​หนึ่ง​และ​พวกรถรบ​กำลัง​ล้อม​เมืองอยู่ คนใช้คนนั้น​จึง​ถาม​ว่า “แย่​แล้ว นายท่าน พวกเรา​จะ​ทำ​ยังไงดี” ผู้พูดแทนพระเจ้า​คนนั้น​ตอบ​ว่า “ไม่​ต้อง​กลัว พวก​ที่​อยู่​ฝ่ายเรา​มี​มากกว่า​พวก​ที่​อยู่​ฝ่ายนั้น​เสียอีก” เอลีชา​อธิษฐาน​ว่า “ข้า​แต่ พระยาห์เวห์ ได้​โปรด​เปิดตา​ของ​เขา​เพื่อ​เขา​จะ​ได้เห็น” แล้ว​พระยาห์เวห์​ก็​ได้​เปิดตา​ของ​คน​รับใช้​คนนั้น และ​เขา​เห็น​ว่า​เนินเขา​เหล่านั้น​เต็มไปด้วย​ทหาร​ม้า​และ​รถรบ​ที่​ลุก​เป็น​ไฟ​อยู่​รอบๆ​ตัว​เอลีชา เมื่อ​ศัตรู​ตรง​มา​ที่​ตัว​เอลีชา เขา​ก็​อธิษฐาน​กับ​พระยาห์เวห์​ว่า “ช่วย​โจมตี​คน​พวกนี้​ให้​ตาบอด​ด้วยเถิด” พระองค์​จึง​โจมตี​คน​พวกนั้น​ให้​ตาบอด​ตาม​ที่​เอลีชา​ขอ เอลีชา​บอก​กับ​พวกเขา​ว่า “ไม่ใช่​ทางนี้ ไม่ใช่​เมืองนี้ ตาม​เรา​มา เรา​จะ​นำ​พวกเจ้า​ไป​หา​คนนั้น​ที่​พวกเจ้า​กำลัง​ตาม​หา​อยู่” และ​เขา​ก็​นำ​คน​เหล่านั้น​ไป​ที่​เมือง​สะมาเรีย หลังจาก​ที่​พวกเขา​เข้าไป​ใน​เมือง​แล้ว เอลีชา​พูด​ว่า “ข้าแต่​พระยาห์เวห์ ช่วย​เปิดตา​ของ​คนเหล่านี้​ด้วยเถิด เพื่อ​พวกเขา​จะ​ได้​มองเห็น” แล้ว​พระยาห์เวห์​ก็​เปิดตา​ของ​พวกเขา และ​พวกเขา​ก็​มองเห็น​และ​พบ​ว่า​พวกเขา​อยู่​ใน​เมือง​สะมาเรีย เมื่อ​กษัตริย์​ของ​อิสราเอล​เห็น​พวกเขา ก็​ถาม​เอลีชา​ว่า “ท่านพ่อ​ของ​เรา จะ​ให้​เรา​ฆ่า​พวกมัน​หรือเปล่า ฆ่า​พวกมันเลย​ดีไหม” เอลีชา​ตอบ​ว่า “อย่า​เลย คน​พวกนี้​ที่​ท่าน​กะ​จะ​ฆ่า​นั้น ท่าน​จับ​มา​ได้​ด้วย​ดาบ​หรือ​ธนู​ของ​ท่านเอง​หรือยังไง จัดหา​อาหาร​และ​น้ำ​มา​ให้​พวกเขา​กิน​และ​ดื่ม​เถิด แล้ว​ปล่อย​ให้​พวกเขา​กลับ​ไปหา​เจ้านาย​ของ​พวกเขา” กษัตริย์​ของ​อิสราเอล​จึง​ได้​จัด​เตรียม​อาหาร​มื้อใหญ่ ให้​กับ​คนเหล่านั้น และ​หลังจาก​ที่​พวกเขา​กิน​และ​ดื่ม​เสร็จ​แล้ว กษัตริย์​ก็​ส่ง​คน​เหล่านั้น​กลับ​ไป และ​พวกเขา​ก็​กลับ​ไป​หา​เจ้านาย​ของ​พวกเขา แล้ว​กองโจร​จาก​อารัม​ก็​ไม่​มา​ปล้น​แผ่นดิน​ของ​อิสราเอล​อีก

2 พงศ์กษัตริย์ 6:8-23 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

พระราชาแห่งซีเรียรบกับอิสราเอล พระองค์ทรงปรึกษากับข้าราชการของพระองค์ว่า “เราจะตั้งค่ายของเราที่นั่น แต่คนของพระเจ้าส่งข่าวไปยังพระราชาแห่งอิสราเอลว่า ‘ขอพระองค์ทรงระวัง อย่าผ่านมาทางนั้น เพราะคนซีเรียกำลังยกลงไปที่นั่น’ ” และพระราชาแห่งอิสราเอลทรงใช้ให้ไปยังสถานที่ซึ่งคนของพระเจ้าบอก ท่านเคยเตือนพระองค์ดังนี้แหละ พระองค์จึงทรงระวังตัวได้ที่นั่นไม่ใช่เพียงครั้งสองครั้ง พระทัยของพระราชาแห่งซีเรียก็เดือดดาลเพราะเรื่องนี้ จึงทรงเรียกข้าราชการมาตรัสว่า “พวกท่านจะไม่บอกเราหรือว่า คนไหนในพวกเราที่อยู่ฝ่ายพระราชาแห่งอิสราเอล?” ข้าราชการคนหนึ่งของพระองค์ทูลว่า “ข้าแต่พระราชา เจ้านายของข้าพระบาท ไม่มีใคร พ่ะย่ะค่ะ แต่เอลีชาผู้เผยพระวจนะซึ่งอยู่ในอิสราเอล เขาได้ทูลถ้อยคำ ซึ่งพระองค์ตรัสในห้องบรรทมของพระองค์แก่พระราชาแห่งอิสราเอล” พระราชาแห่งซีเรียจึงตรัสว่า “จงไปหาดูว่าเขาอยู่ที่ไหน เพื่อเราจะใช้คนไปจับเขามา” มีคนทูลพระองค์ว่า “ดูสิ เขาอยู่ในโดธาน” พระองค์จึงทรงส่งม้า รถรบ และกองทัพใหญ่ไปที่นั่น พวกเขาไปกันในเวลากลางคืน และล้อมเมืองนั้นไว้ เมื่อผู้รับใช้ของคนของพระเจ้าตื่นขึ้นเวลาเช้าตรู่ และออกไป นี่แน่ะ กองทัพพร้อมกับม้าและรถรบก็ล้อมเมืองไว้ และคนใช้นั้นบอกท่านว่า “แย่แล้ว นายข้า เราจะทำอย่างไรดี?” ท่านตอบว่า “อย่ากลัวเลย เพราะฝ่ายเรามีมากกว่าฝ่ายเขา” แล้วเอลีชาก็อธิษฐานว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอทรงเปิดตาของเขาเพื่อเขาจะได้เห็น” และพระยาห์เวห์ทรงเปิดตาของชายหนุ่มคนนั้น และเขาก็มองและเห็นภูเขาเต็มไปด้วยม้า และรถรบเพลิงรอบเอลีชา และเมื่อคนซีเรียลงมารบกับท่าน เอลีชาก็อธิษฐานต่อพระยาห์เวห์ว่า “ขอทรงให้คนเหล่านี้ตาบอด” พระองค์จึงทรงให้เขาทั้งหลายตาบอดไปตามคำอธิษฐานของเอลีชา และเอลีชาบอกคนเหล่านั้นว่า “ไม่ใช่ทางนี้ และไม่ใช่เมืองนี้ จงตามข้ามา และข้าจะพาไปยังคนนั้นซึ่งพวกท่านแสวงหา” และท่านก็พาเขาไปกรุงสะมาเรีย ต่อมาพอเข้าไปในกรุงสะมาเรีย เอลีชาก็ทูลว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอทรงเปิดตาของคนเหล่านี้เพื่อเขาจะเห็นได้” พระยาห์เวห์จึงทรงเปิดตาของพวกเขาและเขาก็เห็น และนี่แน่ะ เขามาอยู่กลางกรุงสะมาเรีย และเมื่อพระราชาแห่งอิสราเอลเห็นพวกเขา จึงตรัสแก่เอลีชาว่า “บิดาของเรา จะให้เราฆ่าเขาเสียหรือ? จะให้เราฆ่าเขาเสียหรือ?” ท่านทูลตอบว่า “ขอฝ่าพระบาทอย่าทรงประหารเขาเสีย ฝ่าพระบาทไม่ได้จับคนพวกนี้มาด้วยดาบ และธนู แล้วฝ่าพระบาทจะประหารพวกเขาหรือ? ขอทรงจัดอาหารและน้ำให้เขารับประทานและดื่ม แล้วปล่อยให้เขาไปหาเจ้านายของเขาเถิด” พระองค์จึงทรงจัดการเลี้ยงใหญ่ให้เขา และเมื่อเขาได้กินและดื่มแล้วก็ทรงปล่อยเขาไป และเขาทั้งหลายได้กลับไปหาเจ้านายของตน และพวกซีเรียไม่ได้มาปล้นในแผ่นดินอิสราเอลอีกเลย

2 พงศ์กษัตริย์ 6:8-23 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

ฝ่ายกษั​ตริ​ย์​แห่​งซีเรียรบพุ่​งก​ับอิสราเอล พระองค์​ปรึกษากับข้าราชการของพระองค์​ว่า “เราจะตั้งค่ายของเราที่นั่นๆ” แต่​คนแห่งพระเจ้าส่งข่าวไปยังกษั​ตริ​ย์​แห่​งอ​ิสราเอลว่า “ขอพระองค์ทรงระวังอย่าผ่านมาทางนั้น เพราะคนซีเรียกำลังยกลงไปที่​นั่น​” และกษั​ตริ​ย์​แห่​งอ​ิสราเอลทรงใช้​ให้​ไปยังสถานที่ซึ่งคนแห่งพระเจ้าบอกและเตือนให้ พระองค์​จึงทรงระวังตัวได้​ที่​นั่​นม​ิ​ใช่​เพียงครั้งสองครั้ง กษัตริย์​แห่​งซี​เรียก​็​ไม่​สบายพระทัยมากเพราะเรื่องนี้ พระองค์​จึงทรงเรียกข้าราชการมาตรั​สว​่า “พวกท่านจะไม่บอกเราหรือว่า คนใดในพวกเราที่​อยู่​ฝ่ายกษั​ตริ​ย์​แห่​งอ​ิสราเอล” ข้าราชการคนหนึ่งของพระองค์ทูลว่า “​โอ ข้าแต่​กษัตริย์ เจ้​านายของข้าพระองค์ ไม่มี​ผู้​ใดพระเจ้าข้า แต่​เอลีชาผู้​พยากรณ์​ซึ่งอยู่ในอิสราเอลทูลบรรดาถ้อยคำซึ่งพระองค์ตรัสในห้องบรรทมของพระองค์​แก่​กษัตริย์​แห่​งอ​ิสราเอล” พระองค์​จึงตรั​สว​่า “จงไปหาดู​ว่า เขาอยู่​ที่ไหน เพื่อเราจะใช้คนไปจับเขามา” มี​คนทูลพระองค์​ว่า “​ดู​เถิด เขาอยู่ในโดธาน” พระองค์​จึงทรงส่​งม​้า รถรบ และกองทัพใหญ่ เขาไปกันในกลางคืนและล้อมเมืองนั้นไว้ เมื่อคนใช้ของคนแห่งพระเจ้าตื่นขึ้นเวลาเช้าตรู่และออกไป ดู​เถิด กองทัพพร้อมกับม้าและรถรบก็ล้อมเมืองไว้ และคนใช้นั้นบอกท่านว่า “​อนิจจา นายของข้าพเจ้า เราจะทำอย่างไรดี” ท่านตอบว่า “อย่ากลัวเลย เพราะฝ่ายเรามีมากกว่าฝ่ายเขา” แล​้วเอลีชาก็อธิษฐานว่า “ข้าแต่พระเยโฮวาห์ ขอทรงเบิกตาของเขาเพื่อเขาจะได้​เห็น​” และพระเยโฮวาห์ทรงเบิกตาของชายหนุ่มคนนั้น และเขาก็​ได้​เห​็นและดู​เถิด ที่​ภู​เขาก็เต็มไปด้วยม้า และรถรบเพลิงอยู่รอบเอลี​ชา และเมื่อคนซีเรียลงมารบกั​บท​่าน เอลีชาก็อธิษฐานต่อพระเยโฮวาห์​ว่า “ขอทรงโปรดให้คนเหล่านี้ตาบอดไปเสีย” พระองค์​จึงทรงให้เขาทั้งหลายตาบอดไปตามคำของเอลี​ชา และเอลีชาบอกคนเหล่านั้​นว​่า “​ไม่ใช่​ทางนี้ และไม่​ใช่​เมืองนี้ จงตามข้ามา และข้าจะพาไปยังคนนั้นซึ่งเจ้าแสวงหา” และท่านก็พาเขาไปกรุงสะมาเรีย และอยู่มาพอเข้าไปในกรุงสะมาเรีย เอลีชาก็ทูลว่า “ข้าแต่พระเยโฮวาห์ ขอทรงเบิกตาของคนเหล่านี้ เพื่อเขาจะเห็นได้” พระเยโฮวาห์จึงทรงเบิกตาของเขาทั้งหลายและเขาทั้งหลายก็​เห็น และดู​เถิด เขามาอยู่กลางกรุงสะมาเรีย และเมื่อกษั​ตริ​ย์​แห่​งอ​ิสราเอลเห็นเขาเข้า จึงตรัสแก่เอลี​ชาว​่า “​บิ​ดาของข้าพเจ้า จะให้ข้าพเจ้าฆ่าเขาเสียหรือ จะให้ข้าพเจ้าฆ่าเขาเสียหรือ” ท่านก็ทูลตอบว่า “ขอพระองค์อย่าทรงประหารเขาเสีย พระองค์​จะประหารคนที่จับมาเป็นเชลยเสียด้วยดาบและด้วยธนูของพระองค์​หรือ ขอทรงโปรดจัดอาหารและน้ำต่อหน้าเขา เพื่อให้​เขารับประทานและดื่ม แล​้วปล่อยให้เขาไปหาเจ้านายของเขาเถิด” พระองค์​จึงทรงจัดการเลี้ยงใหญ่​ให้​เขา และเมื่อเขาได้กินและดื่มแล้​วก​็ทรงปล่อยเขาไป และเขาทั้งหลายได้​กล​ับไปหาเจ้านายของตน และพวกซีเรี​ยม​ิ​ได้​มาปล้นในแผ่นดิ​นอ​ิสราเอลอีกเลย

2 พงศ์กษัตริย์ 6:8-23 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

ฝ่ายพระราชาแห่งซีเรียรบพุ่งกับอิสราเอล พระองค์ตรัสปรึกษากับข้าราชการของพระองค์ว่า <<เราจะตั้งค่ายของเราที่นั่นๆ แต่คนแห่งพระเจ้าส่งข่าวไปยังพระราชา แห่งอิสราเอลว่า <ขอพระองค์ทรงระวังอย่าผ่านมาทางนั้น เพราะคนซีเรียกำลังยกลงไปที่นั่น> >> และพระราชาแห่งอิสราเอล ทรงใช้ให้ไปยังสถานที่ซึ่งคนแห่งพระเจ้าบอกให้ ท่านเคยเตือนพระองค์ดังนี้แหละ พระองค์จึงทรงระวังตัวได้ที่นั่นมิใช่เพียงครั้งสองครั้ง พระราชาแห่งซีเรียก็ไม่สบายพระทัยมากเพราะเรื่องนี้ พระองค์จึงทรงเรียกข้าราชการมาตรัสว่า <<พวกท่านจะไม่บอกเราหรือว่าคนใดใน พวกเราที่อยู่ฝ่ายพระราชาแห่งอิสราเอล>> ข้าราชการคนหนึ่งของพระองค์ทูลว่า <<ข้าแต่พระราชา เจ้านายของข้าพระบาท ไม่มีผู้ใดพระเจ้าข้า แต่เอลีชาผู้เผยพระวจนะซึ่งอยู่ในอิสราเอล ทูลบรรดาถ้อยคำ ซึ่งพระองค์ตรัสในห้องบรรทมของพระองค์แก่ พระราชาแห่งอิสราเอล>> พระองค์จึงตรัสว่า <<จงไปหาดูว่า เขาอยู่ที่ไหน เพื่อเราจะใช้คนไปจับเขามา>> มีคนทูลพระองค์ว่า <<ดูเถิด เขาอยู่ในโดธาน>> พระองค์จึงทรงส่งม้า รถรบ และกองทัพใหญ่ เขาไปกันในกลางคืนและล้อมเมืองนั้นไว้ เมื่อคนใช้ของคนแห่งพระเจ้าตื่นขึ้นเวลาเช้าตรู่ และออกไป ดูเถิด กองทัพพร้อมกับม้าและรถรบก็ล้อมเมืองไว้ และคนใช้นั้นบอกท่านว่า <<อนิจจา นายของข้าพเจ้า เราจะทำอย่างไรดี>> ท่านตอบว่า <<อย่ากลัวเลย เพราะฝ่ายเรามีมากกว่าฝ่ายเขา>> แล้วเอลีชาก็อธิษฐานว่า <<ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงเบิกตาของเขาเพื่อเขาจะได้เห็น>> และพระเจ้าทรงเบิกตาของชายหนุ่มคนนั้น และเขาก็ได้เห็นและดูเถิด ที่ภูเขาก็เต็มไปด้วยม้า และรถรบเพลิงอยู่รอบเอลีชา และเมื่อคนซีเรียลงมารบกับท่าน เอลีชาก็อธิษฐานพระเจ้าว่า <<ขอทรงโปรดให้คนเหล่านี้ตาบอดไปเสีย>> พระองค์จึงทรงให้เขาทั้งหลายตาบอดไป ตามคำอธิษฐานของเอลีชา และเอลีชาบอกคนเหล่านั้นว่า <<ไม่ใช่ทางนี้ และไม่ใช่เมืองนี้ จงตามข้ามา และข้าจะพาไปยังคนนั้น ซึ่งเจ้าแสวงหา>> และท่านก็พาเขาไปกรุงสะมาเรีย และอยู่มาพอเข้าไปในกรุงสะมาเรีย เอลีชาก็ทูลว่า <<ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงเบิกตาของคนเหล่านี้ เพื่อเขาจะเห็นได้>> พระเจ้าจึงทรงเบิกตาของเขาทั้งหลายและเขาทั้งหลายก็เห็น และนี่แน่ะ เขามาอยู่กลางกรุงสะมาเรีย และเมื่อพระราชาแห่งอิสราเอลเห็นเขาเข้า จึงตรัสแก่เอลีชาว่า <<บิดาของข้าพเจ้าจะให้ข้าพเจ้าฆ่าเขาเสียหรือ จะให้ข้าพเจ้าฆ่าเขาเสียหรือ>> ท่านก็ทูลตอบว่า <<ขอพระองค์อย่าทรงประหารเขาเสีย พระองค์จะประหารคนที่จับมาเป็นเชลยเสียด้วยดาบ และด้วยธนูของพระองค์หรือ ขอทรงโปรดจัดอาหารและน้ำให้เขารับประทานและดื่ม แล้วปล่อยให้เขาไปหาเจ้านายของเขาเถิด>> พระองค์จึงทรงจัดการเลี้ยงใหญ่ให้เขา และเมื่อเขาได้กินและดื่มแล้วก็ทรงปล่อยเขาไป และเขาทั้งหลายได้กลับไปหาเจ้านายของตน และพวกซีเรียมิได้มาปล้นในแผ่นดินอิสราเอลอีกเลย

2 พงศ์กษัตริย์ 6:8-23 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

เมื่อ​กษัตริย์​แห่ง​อารัม​โจมตี​อิสราเอล ท่าน​ได้​ปรึกษา​หารือ​กับ​บรรดา​ข้าราชการ และ​กล่าว​ว่า “เรา​จะ​ตั้ง​ค่าย​ของ​เรา​ที่​นี่​ที่​นั่น” แต่​คน​ของ​พระ​เจ้า​ใช้​คน​ไป​แจ้ง​กษัตริย์​แห่ง​อิสราเอล​ว่า “ท่าน​ควร​ระวัง​ที่​จะ​ไม่​ผ่าน​ไป​ทาง​นี้ เพราะ​ว่า​ชาว​อารัม​กำลัง​จะ​ไป​ที่​นั่น” กษัตริย์​แห่ง​อิสราเอล​จึง​เตือน​ประชา​ชน​ที่​อาศัย​อยู่​ใน​ที่​แห่ง​นั้น คน​ของ​พระ​เจ้า​เตือน​กษัตริย์​อยู่​เป็น​ประจำ และ​กษัตริย์​ได้​รับ​ความ​ปลอดภัย​เสมอ เรื่อง​นี้​ทำ​ให้​กษัตริย์​แห่ง​อารัม​วุ่นวาย​ใจ​มาก จึง​เรียก​ข้าราชการ​มา และ​พูด​กับ​พวก​เขา​ว่า “บอก​ได้​ไหม​ว่า​ใคร​ใน​พวก​ของ​เรา​ที่​เป็น​ฝ่าย​กษัตริย์​แห่ง​อิสราเอล” หนึ่ง​ใน​กลุ่ม​ข้าราชการ​ตอบ​ว่า “โอ เจ้านาย​ผู้​เป็น​กษัตริย์ ไม่​มี​ผู้​ใด​หรอก นอก​จาก​เอลีชา ผู้เผย​คำกล่าว​ของ​พระ​เจ้า​ที่​อยู่​ใน​อิสราเอล เป็น​ผู้​ทูล​กษัตริย์​แห่ง​อิสราเอล​ให้​ทราบ​ว่า ท่าน​กล่าว​สิ่ง​ใด​บ้าง แม้​จะ​เป็น​คำ​ที่​กล่าว​ใน​ห้อง​นอน​ของ​ท่าน” ท่าน​พูด​ว่า “ไป​ดู​ซิ​ว่า เขา​อยู่​ที่​ไหน เรา​จะ​ได้​ให้​คน​ไป​จับ​ตัว​เขา​มา” มี​คน​ทูล​ท่าน​ว่า “ดู​เถิด เขา​อยู่​ใน​โดธาน” ดัง​นั้น ท่าน​จึง​ส่ง​กองทัพ​ใหญ่​ไป​กับ​ม้า​และ​รถ​ศึก ไป​ถึง​ใน​เวลา​กลาง​คืน แล้ว​พวก​เขา​ก็​ล้อม​เมือง​ไว้ เมื่อ​คน​รับใช้​ของ​คน​ของ​พระ​เจ้า​ลุก​ขึ้น​แต่​เช้า​ตรู่ เขา​ก็​ออก​ไป​ข้าง​นอก ดู​เถิด กองทัพ​ทหาร​กับ​ม้า​และ​รถ​ศึก​ล้อม​เมือง​ไว้ คน​รับใช้​พูด​ว่า “แย่​แล้ว เจ้านาย​ของ​ข้าพเจ้า เรา​จะ​ทำ​อย่าง​ไร​ดี” ท่าน​ตอบ​ว่า “อย่า​กลัว​เลย เพราะ​ว่า​คน​ของ​พวก​เรา​มี​มาก​กว่า​คน​ของ​พวก​เขา” เอลีชา​จึง​อธิษฐาน​ว่า “โอ พระ​ผู้​เป็น​เจ้า ขอ​โปรด​เปิด​ตา​ให้​เขา​มอง​เห็น​ด้วย​เถิด” ดัง​นั้น พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​จึง​เปิด​ตา​ของ​คน​รับใช้​หนุ่ม และ​เขา​ก็​เห็น ดู​เถิด ภูเขา​เต็ม​ไป​ด้วย​ม้า​และ​รถ​ศึก​เพลิง​ล้อม​รอบ​เอลีชา เมื่อ​ชาว​อารัม​ลง​มา​โจมตี เอลีชา​อธิษฐาน​ต่อ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ว่า “ขอ​พระ​องค์​ทำ​ให้​คน​เหล่า​นี้​ตา​บอด​ไป​เถิด” ดัง​นั้น​พระ​องค์​ทำ​ให้​คน​เหล่า​นั้น​ตา​บอด​ไป ดัง​ที่​เอลีชา​อธิษฐาน​ขอ และ​เอลีชา​พูด​กับ​พวก​เขา​ว่า “พวก​เจ้า​มา​ผิด​ทาง​แล้ว ที่​นี่​ไม่​ใช่​เมือง จง​ตาม​ข้า​ไป และ​ข้า​จะ​พา​พวก​เจ้า​ไป​พบ​คน​ที่​เจ้า​กำลัง​ตาม​หา” และ​ท่าน​ก็​นำ​พวก​เขา​ไป​สะมาเรีย ทันที​ที่​พวก​เขา​เข้า​ไป​ใน​สะมาเรีย เอลีชา​พูด​ว่า “โอ พระ​ผู้​เป็น​เจ้า ขอ​โปรด​เปิด​ตา​ให้​ชาย​เหล่า​นี้​มอง​เห็น​ด้วย​เถิด” ดัง​นั้น พระ​ผู้​เป็น​เจ้าเปิด​ตา​ของ​พวก​เขา และ​พวก​เขา​ก็​มอง​เห็น ดู​เถิด พวก​เขา​อยู่​ที่​ใจ​กลาง​เมือง​สะมาเรีย ทันที​ที่​กษัตริย์​แห่ง​อิสราเอล​เห็น​พวก​เขา ท่าน​พูด​กับ​เอลีชา​ว่า “บิดา​ของ​เรา ท่าน​จะ​ให้​เรา​ฆ่า​พวก​เขา​ไหม จะ​ให้​เรา​ฆ่า​พวก​เขา​ไหม” ท่าน​ตอบ​ว่า “อย่า​ฆ่า​พวก​เขา ท่าน​จะ​ใช้​ดาบ​และ​ธนู​ฆ่า​คน​ที่​ท่าน​จับ​ตัว​มา​เป็น​เชลย​หรือ เอา​อาหาร​และ​น้ำ​มา​ให้​พวก​เขา​ดื่ม​กิน และ​ปล่อย​เขา​กลับ​ไป​หา​เจ้านาย​ของ​เขา​เถิด” ท่าน​จึง​เตรียม​การ​เลี้ยง​ใหญ่ เมื่อ​พวก​เขา​รับประทาน​และ​ดื่ม​จน​เมามาย​แล้ว ท่าน​ก็​ปล่อย​พวก​เขา​กลับ​ไป​หา​นาย​ของ​พวก​เขา ต่อ​จาก​นั้น​ชาว​อารัม​ก็​ไม่​ได้​มา​โจมตี​แผ่นดิน​อิสราเอล​อีก​เลย