1 ซามูเอล 9:3-27

1 ซามูเอล 9:3-27 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

ฝูงแม่ลาของคีชบิดาของซาอูลหายไป คีชจึงพูดกับซาอูลบุตรของตนว่า “ลุกขึ้น เอาคนใช้คนหนึ่งไปกับเจ้า ไปหาฝูงแม่ลา” เขาทั้งสองผ่านแดนเทือกเขาเอฟราอิม ผ่านเข้าดินแดนชาลิชา แต่หาลาไม่พบ ก็ผ่านข้ามดินแดนชาอาลิมแต่ลาไม่อยู่ที่นั่น แล้วเขาทั้งสองผ่านเข้าดินแดนเบนยามิน แต่ก็หาไม่พบ เมื่อพวกเขามาถึงดินแดนศูฟ ซาอูลจึงพูดกับคนใช้ที่อยู่กับท่านว่า “มาเถอะ ให้เรากลับไป เกรงว่าบิดาของข้าจะเลิกกังวลเรื่องฝูงลา และมาร้อนใจด้วยเรื่องของเรา” แต่คนใช้ตอบท่านว่า “ดูเถิด มีคนของพระเจ้าคนหนึ่งในเมืองนี้ เป็นคนที่เขานับถือกันมาก สิ่งที่ท่านพูดนั้นเป็นไปตามที่พูดนั้นทุกอย่าง ให้เราไปที่นั่นเดี๋ยวนี้ บางทีท่านจะบอกเราถึงทางซึ่งเราควรไป” แล้วซาอูลพูดกับคนใช้ของท่านว่า “แต่ดูสิ ถ้าเราไป เราจะเอาอะไรไปให้ชายผู้นั้น เพราะขนมปังในย่ามของเราก็หมดแล้ว เราไม่มีของขวัญที่จะนำไปให้แก่คนของพระเจ้า เรามีอะไรบ้าง?” คนใช้ตอบซาอูลอีกว่า “ในมือข้ามีเงินอยู่หนึ่งส่วนสี่เชเขลและข้าจะให้แก่คนของพระเจ้า เพื่อท่านจะบอกทางให้เรา” ในอิสราเอลสมัยก่อน เมื่อคนใดจะไปทูลถามพระเจ้า เขาพูดว่า “มาเถอะ ให้เราไปหาผู้ทำนายกัน” เพราะในสมัยก่อนเรียกผู้เผยพระวจนะในสมัยนี้ว่าผู้ทำนาย ซาอูลจึงพูดกับคนใช้ของท่านว่า “พูดดีนี่ มาให้เราไปกันเถอะ” พวกเขาจึงไปที่เมืองซึ่งคนของพระเจ้าอยู่ ขณะเมื่อพวกเขาขึ้นภูเขาไปยังเมืองนั้น พวกเขาพบพวกผู้หญิงสาวออกมาตักน้ำ จึงถามว่า “ผู้ทำนายอยู่ที่นี่หรือ?” พวกเธอตอบว่า “อยู่ ดูนี่ ท่านอยู่ข้างหน้าท่าน รีบเถอะ เพราะท่านมาที่เมืองวันนี้ เพราะว่าประชาชนจะมีการถวายสัตวบูชา ณ ปูชนียสถานสูงวันนี้ พอพวกท่านเข้าไปถึงในเมือง พวกท่านจะพบผู้ทำนายก่อนที่ท่านจะขึ้นไปรับประทานอาหาร ณ ปูชนียสถานสูง เพราะประชาชนจะไม่รับประทานจนกว่าท่านจะมาถึง เพราะท่านจะต้องมาอวยพรเครื่องสัตวบูชา หลังจากนั้นพวกผู้ที่ได้รับเชิญจึงจะรับประทาน ขึ้นไปเดี๋ยวนี้เถิด พวกท่านจะได้พบท่านเวลานี้” เขาทั้งสองก็ขึ้นไปยังเมืองนั้น ขณะเมื่อเขาทั้งสองเข้าไปในเมือง นี่แน่ะ ซามูเอลกำลังเดินออกมาทางพวกเขาเพื่อขึ้นไปยังปูชนียสถานสูงนั้น พระยาห์เวห์ทรงสำแดงแก่ซามูเอลแล้วในวันก่อนวันที่ซาอูลมาถึงว่า “พรุ่งนี้เวลาประมาณเท่านี้ เราจะส่งชายผู้หนึ่งซึ่งมาจากดินแดนเบนยามินมาหาเจ้า เจ้าจงเจิมเขาให้เป็นผู้นำเหนืออิสราเอลประชากรของเรา เขาจะช่วยประชากรของเราให้พ้นจากมือพวกฟีลิสเตีย เนื่องจากเราเห็นประชากรของเราแล้ว เพราะเสียงร้องทุกข์ของเขามาถึงเรา” เมื่อซามูเอลเห็นซาอูลเข้าแล้ว พระยาห์เวห์ทรงบอกท่านว่า “นี่เป็นชายคนที่เราได้บอกกับเจ้าแล้ว เขาผู้นี้จะปกครองเหนือประชากรของเรา” แล้วซาอูลก็เข้ามาใกล้ซามูเอลที่ประตูและพูดว่า “ขอบอกข้าพเจ้าหน่อยว่า บ้านของผู้ทำนายอยู่ที่ไหน?” ซามูเอลตอบซาอูลว่า “ข้าพเจ้าเองเป็นผู้ทำนายนั้น จงนำหน้าข้าพเจ้าขึ้นไปยังปูชนียสถานสูงนั้น เพราะในวันนี้ท่านจะรับประทานอาหารกับข้าพเจ้า และพรุ่งนี้เช้าข้าพเจ้าจึงจะให้ท่านไปและข้าพเจ้าจะบอกทุกอย่างที่อยู่ในใจของท่านแก่ท่าน ส่วนเรื่องฝูงลาของท่านที่หายไปสามวันแล้วนั้นอย่าสนใจเลย เพราะมีคนพบแล้ว ความปรารถนาทั้งหมดของคนอิสราเอลนั้นมุ่งที่ใครเล่า ไม่ใช่ตัวท่านและพงศ์พันธุ์ของบิดาท่านหรือ?” ซาอูลตอบว่า “ข้าพเจ้าไม่ใช่คนเผ่าเบนยามินหรือ? เป็นเผ่าเล็กน้อยที่สุดในอิสราเอล และตระกูลของข้าพเจ้าไม่ใช่ตระกูลที่ด้อยที่สุดในบรรดาตระกูลของเผ่าเบนยามินหรือ? ทำไมท่านจึงบอกถ้อยคำเหล่านี้กับข้าพเจ้าเล่า?” แล้วซามูเอลก็พาซาอูลกับคนใช้ของท่านเข้าไปในห้องโถง ให้นั่งในที่นั่งด้านหน้าสำหรับผู้ที่รับเชิญ ซึ่งมีประมาณ 30 คน และซามูเอลพูดกับคนครัวว่า “จงนำส่วนที่ข้าพเจ้ามอบให้ ซึ่งข้าพเจ้าบอกเจ้าว่า ‘เก็บไว้ต่างหาก’ นั้นมา” คนครัวจึงนำส่วนขาและส่วนบนนั้นมาวางไว้ข้างหน้าซาอูล และซามูเอลพูดว่า “นี่แน่ะ ส่วนที่ได้เก็บไว้ก็วางอยู่ต่อหน้าท่าน จงรับประทานเถอะ เพราะว่าเก็บไว้ให้แก่ท่านจนถึงเวลาที่กำหนดไว้ เพราะข้าพเจ้าพูดว่า ข้าพเจ้าได้เชิญประชาชนมาแล้ว” ซาอูลจึงรับประทานกับซามูเอลในวันนั้น และเมื่อพวกเขาลงมาจากปูชนียสถานสูงเข้ามาในเมือง ท่านสนทนากับซาอูลบนดาดฟ้าหลังคาบ้าน พวกเขาตื่นแต่เช้าตรู่ และเมื่อสว่างแล้ว ซามูเอลก็เรียกซาอูลผู้อยู่บนดาดฟ้าว่า “จงลุกขึ้นเถิด เพื่อข้าพเจ้าจะส่งท่านไป” ซาอูลก็ลุกขึ้น ท่านทั้งสองก็ออกไปที่ถนน ทั้งท่านและซามูเอล เมื่อพวกเขากำลังลงมาที่ชานเมือง ซามูเอลจึงพูดกับซาอูลว่า “จงบอกคนใช้ให้เดินนำหน้าเราไป และเมื่อเขาเดินพ้นไปแล้ว ท่านจงยืนที่นี่สักครู่ เพื่อข้าพเจ้าจะได้แจ้งพระดำรัสของพระเจ้าให้ท่านทราบ”

1 ซามูเอล 9:3-27 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

ตอน​ที่​ฝูง​ลา​ของ​คีช​พ่อ​ของ​ซาอูล​หาย​ไป คีช​บอก​กับ​ซาอูล​ลูกชาย​ว่า “เอา​คน​รับใช้​ไป​กับ​เจ้า​คน​หนึ่ง แล้ว​ออก​ตาม​หา​ฝูง​ลา” ซาอูล​ผ่าน​แถบ​เทือกเขา​เอฟราอิม และ​พื้นที่​รอบ​เมือง​ชาลิชา แต่​พวกเขา​ก็​ไม่​พบ​ฝูง​ลา พวกเขา​จึง​เข้า​ไป​ใน​เขตแดน​ชาอาลิม แต่​ก็​ไม่​พบ​ฝูง​ลา​ที่​นั่น เขา​จึง​เข้า​ไป​ใน​เขตแดน​ของ​คน​เบนยามิน แต่​ก็​ยัง​ไม่​พบ​ฝูง​ลา เมื่อ​พวกเขา​มา​ถึง​เขตแดน​ที่​ตระกูล​ศูฟ​อาศัย​อยู่​กัน ซาอูล​ก็​พูด​กับ​คน​รับใช้​ที่​มา​กับ​เขา​ว่า “กลับ​กัน​เถอะ บางที​พ่อ​อาจ​จะ​เลิก​ห่วง​ลา แต่​เริ่ม​ห่วง​พวก​เรา​แทน​แล้ว” แต่​คน​รับใช้เขา​ตอบ​ว่า “มี​คน​ของ​พระเจ้า​คน​หนึ่ง​อยู่​ใน​เมือง​นี้ คน​นับถือ​เขา​มาก และ​ทุก​สิ่ง​ที่​เขา​พูด​เป็น​ความจริง ไป​กัน​เถอะ บาง​ที​เขา​อาจ​จะ​บอก​ได้​ว่า​พวก​เรา​ควร​ไป​ทาง​ไหน” ซาอูล​พูด​กับ​คน​ใช้​ของ​เขา​ว่า “ถ้า​เรา​ไปหา​เขา เรา​มี​อะไร​จะ​ให้​กับ​เขา​หรือ อาหาร​ใน​ถุง​ของ​พวก​เรา​ก็​หมด​แล้ว เรา​ไม่​มี​ของ​ขวัญ​อะไร​จะ​ไป​ให้​คน​ของ​พระเจ้า​เลย” คน​รับใช้​ตอบ​เขา​ว่า “ดูซิ ข้าพเจ้า​มี​เงิน​อยู่​สาม​กรัม ข้าพเจ้า​จะ​เอา​ไป​ให้​คน​ของ​พระเจ้า แล้ว​เขา​ก็​จะ​บอก​กับ​พวก​เรา​ว่า​ควร​จะ​ไป​ทาง​ไหน” (อิสราเอล​ใน​สมัย​ก่อน ถ้า​ใคร​ไป​สอบถาม​เรื่อง​ต่างๆ​กับ​พระเจ้า เขา​จะ​พูด​ว่า “ไป​เถอะ​ไป​หา​ผู้ที่​เห็น​นิมิต​กัน” เพราะ​ใน​สมัย​ก่อนนั้น คน​เรียก​ผู้พูดแทนพระเจ้า​ว่า “ผู้ทำนาย”) ซาอูล​ตอบ​คน​ใช้​ของ​เขา​ว่า “ดี​มาก ไป​กัน​เถอะ” จาก​นั้น​พวก​เขา​จึง​ไป​ยัง​เมือง​ที่​คน​ของ​พระเจ้า​คน​นั้น​อยู่ ระหว่าง​ทาง​เดิน​ขึ้น​เขา​เข้า​ไป​ใน​เมือง​นั้น พวกเขา​ได้​พบ​พวก​เด็ก​ผู้หญิง​ออก​มา​ตัก​น้ำ จึง​ถาม​เด็ก​เหล่า​นั้น​ว่า “ผู้ที่​เห็น​นิมิต​อยู่​ที่​นี่​หรือ​เปล่า” พวก​เด็ก​ผู้หญิง​เหล่า​นั้น​ตอบ​ว่า “เขา​มา​อยู่​ที่​นี่ และ​เพิ่ง​ไป​ก่อน​หน้า​ท่าน รีบๆ​หน่อย เขา​เพิ่ง​เข้า​มา​ใน​เมือง​ของ​พวก​เรา​วัน​นี้​เอง เพราะ​มี​ประชาชน​มา​ถวาย​เครื่อง​บูชา​บน​ที่​สูง​นั้น พอ​ท่าน​ทั้ง​สอง​เข้า​ไป​ถึง​ใน​เมือง ท่าน​จะ​ได้​พบ​เขา​ก่อน​ที่​เขา​จะ​ขึ้น​ไป​กิน​อาหาร​บน​ที่​สูง​นั้น ประชาชน​จะ​ไม่​เริ่ม​กิน​อาหาร​จน​กว่า​เขา​จะ​มา​ถึง เพราะ​เขา​ต้อง​ขอบคุณ​พระเจ้า​สำหรับ​เครื่อง​บูชา​นั้น หลังจาก​นั้น​คน​ที่​ได้รับ​เชิญ​มา​ก็​จะ​กิน​อาหาร​กัน ขึ้น​ไป​ตอน​นี้​เลย ท่าน​จะ​ได้​พบ​เขา​ทันที” ซาอูล​และ​คน​รับใช้​ขึ้น​ไป​ที่​เมือง ขณะ​ที่​พวก​เขา​กำลัง​เข้า​มา​ใน​เมือง​นั้น ซามูเอล​ก็​เดิน​ตรง​มา​ทาง​พวก​เขา กำลัง​เดิน​มา​ตาม​ทาง​ที่​จะ​ขึ้น​ไป​บน​สถานที่​สูง​นั้น หนึ่ง​วัน​ก่อน​ที่​ซาอูล​จะ​มา​ถึง พระยาห์เวห์​ได้​แสดง​ให้​ซามูเอล​รู้​ว่า “พรุ่งนี้​เวลา​นี้ เรา​จะ​ส่ง​ชาย​หนุ่ม​คน​หนึ่ง​จาก​แผ่นดิน​เบนยามิน​มา ให้​เจ้า​เจิม​เขา​เป็น​ผู้นำ​เหนือ​คน​อิสราเอล​ของ​เรา เขา​จะ​ช่วย​ประชาชน​ของ​เรา​ให้​พ้น​จาก​เงื้อม​มือ​ของ​คน​ฟีลิสเตีย เรา​ได้​เห็น​ความ​ทุกข์ยาก​ประชาชน​ของ​เรา และ​เรา​ก็​ได้ยิน​เสียง​ร้อง​ให้ช่วย​ของ​พวก​เขา​แล้ว” เมื่อ​ซามูเอล​เห็น​ซาอูล พระยาห์เวห์​ก็​พูด​กับ​เขา​ว่า “นี่​คือ​ชาย​ที่​เรา​ได้​บอก​เจ้า เขา​จะ​ปกครอง​ประชาชน​ของ​เรา” ซาอูล​เข้า​มา​ใกล้​ซามูเอล​ที่​ประตู และ​ถาม​ว่า “ช่วย​บอก​หน่อย​ว่า​บ้าน​ของ​ผู้ที่​เห็น​นิมิต​อยู่​ที่ไหน” ซามูเอล​ตอบ​ว่า “เรา​นี่​แหละ​คือ​ผู้ที่​เห็น​นิมิต ให้​ท่าน​เดิน​นำ​หน้า​เรา​ไป​บน​ที่​สูง​นั้น เพราะ​วันนี้​ท่าน​จะ​กิน​อาหาร​ร่วม​กับ​เรา และ​พรุ่งนี้​เรา​ถึง​จะ​ให้​ท่าน​กลับ​ไป และ​จะ​บอก​กับ​ท่าน​ถึง​สิ่ง​ทั้ง​หมด​ที่​ท่าน​ข้องใจ​อยู่ ส่วน​ฝูง​ลา​ที่​หาย​ไป​เมื่อ​สาม​วัน​ก่อน ก็​ไม่​ต้อง​ห่วง​อีก​แล้ว เพราะ​พวก​เขา​หา​มัน​พบ​แล้ว และ​ตอน​นี้ มี​สิ่ง​ที่​ชาว​อิสราเอล​ทั้งหมด​กำลัง​มอง​หา​อยู่ สิ่ง​นั้น​ก็​คือ​ท่าน​และ​ครอบครัว​ของ​ท่าน” ซาอูล​ตอบ​ว่า “แต่​เรา​เป็น​คน​เผ่า​เบนยามิน เผ่า​ที่​เล็ก​ที่​สุด​ของ​อิสราเอล และ​ตระกูล​ของ​เรา​ก็​ด้อย​ที่สุด​ใน​พวก​ตระกูล​ทั้งหมด​ของ​เผ่า​เบนยามิน ทำไม​ท่าน​ถึง​พูด​อย่าง​นี้​กับ​เรา” แล้ว​ซามูเอล​จึง​นำ​ซาอูล​และ​คน​ใช้​เข้า​มา​ใน​ห้องโถง และ​ให้​เขา​ทั้ง​สอง​นั่ง​ที่​หัว​โต๊ะ แขก​ที่​เชิญ​มา​ทั้งหมด​มี​ประมาณ​สาม​สิบ​คน ซามูเอล​พูด​กับ​พ่อ​ครัว​ว่า “ให้​เอา​เนื้อ​ชิ้น​ที่​เรา​ให้​ท่าน​ไป​มา​นี่ ชิ้น​ที่​เรา​บอก​ให้​แยก​เก็บ​ไว้​ต่าง​หาก​นั่น​แหละ” ดังนั้น​พ่อครัว​จึง​นำ​เนื้อ​ส่วน​ขา และ​เนื้อ​ที่​ติด​มัน​มา​วาง​ไว้​ตรง​หน้า​ซาอูล ซามูเอล​พูด​ว่า “กิน​เนื้อ​ที่​วาง​ไว้​ตรง​หน้า​ท่าน​เถิด เพราะ​ตอน​ที่​เรา​เรียก​ผู้คน​มา​ประชุม​กัน เนื้อ​ส่วน​นี้​ก็​ได้​ถูก​เก็บ​ไว้​สำหรับ​ท่าน สำหรับ​โอกาส​พิเศษ​นี้” และ​ซาอูล​ก็​กิน​อาหาร​เย็น​กับ​ซามูเอล​ใน​วัน​นั้น หลังจาก​กิน​กัน​เสร็จ​แล้ว ซาอูล​และ​คน​รับใช้​ลง​มา​จาก​บน​ที่​สูง และ เข้า​มา​ใน​เมือง ซามูเอล​ได้​จัด​ที่นอน​ให้​กับ​ซาอูล​บน​ดาด​ฟ้า แล้ว​ซาอูล​ก็​นอน เช้าตรู่​วันรุ่งขึ้น ซามูเอล​ตะโกน​เรียก​ซาอูล​บน​ดาดฟ้า​ว่า “ลุก​ขึ้น​เถอะ เรา​จะ​ส่ง​ท่าน​ไป​ตาม​ทาง​ของ​ท่าน” เมื่อ​ซาอูล​ลุก​ขึ้น เขา​และ​ซามูเอล​ก็​ออก​ไป​ข้าง​นอก​ด้วย​กัน เมื่อ​พวก​เขา​เดิน​มา​ถึง​ชาน​เมือง ซามูเอล​พูด​กับ​ซาอูล​ว่า “ให้​บอก​คน​ใช้ ให้​เดิน​นำ​หน้า​พวก​เรา​ขึ้น​ไป​ก่อน” และ​คน​ใช้​ก็​ทำ​ตาม​นั้น “แต่​ให้​ท่าน​อยู่​ที่​นี่​ก่อน เพื่อ​เรา​จะ​ได้​บอก​ข้อความ​จาก​พระเจ้า​ให้​ท่าน​รู้”

1 ซามูเอล 9:3-27 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

ฝ่ายฝูงแม่ลาของคีชบิดาของซาอูลหายไป คีชจึงกล่าวแก่ซาอู​ลบ​ุตรชายของตนว่า “​ลุ​กขึ้นเอาคนใช้คนหนึ่งไปกับเจ้า เพื่อไปหาลา” เขาทั้งสองก็ผ่านแดนเทือกเขาแห่งเอฟราอิม ผ่านเข้าแผ่นดินชาลิ​ชา เขาหาลาไม่​พบ เขาก็ผ่านข้ามแผ่นดินชาอาลิม แต่​ลาไม่​อยู่​ที่นั่น แล​้วเขาผ่านเข้าแผ่นดินของคนเบนยามิน แต่​ก็​หาลาไม่​พบ เมื่อเขามาถึงแผ่นดินศูฟ ซาอูลจึงพู​ดก​ับคนใช้​ผู้​ซึ่งอยู่กั​บท​่านว่า “มาเถิด ให้​เรากลับไป เกรงว่าบิดาของข้าจะเลิ​กก​ังวลเรื่องลา และมาร้อนใจด้วยเรื่องของเรา” แต่​คนใช้​ตอบท่านว่า “​ดู​เถิด มี​คนของพระเจ้าคนหนึ่งในเมืองนี้ เป็นคนที่เขานับถื​อก​ันมาก สิ​่งที่ท่านกล่าวนั้นเป็นไปตามที่​กล​่าวนั้นทุกอย่าง ขอให้​เราไปที่​นั่น ชะรอยท่านจะบอกเราถึงทางซึ่งเราควรดำเนิน” แล​้วซาอู​ลพ​ู​ดก​ับคนใช้ของท่านว่า “​แต่​ดู​เถิด ถ้าเราไปเราจะเอาอะไรไปให้ชายผู้​นั้น เพราะขนมปังในย่ามของเราก็หมดแล้ว เราไม่​มี​ของขวัญที่จะนำไปให้​แก่​คนของพระเจ้า เรามีอะไรบ้าง” คนใช้​ตอบซาอูลอี​กว่า “​ดู​เถิด ผมมีเงินอยู่​หน​ึ่งเสี้ยวเชเขลและผมจะให้​แก่​คนของพระเจ้าเพื่อจะบอกหนทางให้​แก่​เรา​” (ในอิสราเอลสมัยเดิม เมื่อคนใดจะไปทูลถามพระเจ้า เขากล่าวว่า “มาเถิด ให้​เราไปหาผู้ทำนายกัน” เพราะผู้​ที่​ในสมัยนี้เราเรียกว่าผู้​พยากรณ์​นั้น ในสมัยเดิมเขาเรียกว่าผู้​ทำนาย​) และซาอูลจึงพู​ดก​ับคนใช้ของท่านว่า “​พู​ดดี​นี่​มาให้เราไปกันเถิด” เขาทั้งสองขึ้นไปที่เมืองซึ่งคนของพระเจ้าอยู่ ขณะเมื่อเขาขึ้นภูเขาไปยังเมืองนั้น เขาพบพวกผู้หญิงสาวออกมาตักน้ำ จึงถามว่า “​ผู้​ทำนายอยู่​ที่นี่​หรือ​” เธอทั้งหลายตอบว่า “​อยู่​นี่ ดู​เถิด ท่านเพิ่งขึ้นหน้าท่านไป จงรีบเข้าเถิด ท่านเพิ่งมาในเมืองเมื่​อก​ี้​นี้ เพราะว่าวันนี้ประชาชนทำการถวายสัตวบู​ชา ณ ปู​ชน​ียสถานสูง พอท่านทั้งสองเข้าไปถึงในเมือง ท่านทั้งสองจะพบก่อนที่​ผู้​ทำนายขึ้นไปรับประทานอาหาร ณ ปู​ชน​ียสถานสูง เพราะว่าประชาชนจะไม่รับประทานจนกว่าท่านจะมาถึง เพราะท่านจะต้องมาอวยพรแก่เครื่องสัตวบู​ชา ภายหลังผู้​ที่​ได้​รับเชิญจึงรับประทาน ฉะนั้นบัดนี้จงขึ้นไปเถิด ท่านทั้งสองจะพบทั​นที​” เขาทั้งสองก็ขึ้นไปยังเมืองนั้น ขณะเมื่อเขาเข้าไปในเมือง ดู​เถิด ซามูเอลกำลังเดินออกมาตรงหน้าเขาทั้งสอง จะขึ้นไปยังปู​ชน​ียสถานสูงนั้น พระเยโฮวาห์​ได้​ตรัสในหูของซามูเอลแล้วในวั​นก​่อนวั​นที​่ซาอูลมาถึงว่า “​พรุ่งนี้​เวลาประมาณเท่านี้ เราจะส่งชายผู้​หน​ึ่งซึ่งมาจากดินแดนเบนยามิน เจ้​าจงเจิมเขาให้เป็นเจ้าเหนื​ออ​ิสราเอลประชาชนของเรา เขาจะช่วยประชาชนของเราให้พ้นจากมือคนฟีลิสเตีย เพราะเราได้​มองดู​ประชาชนของเราแล้ว ด้วยเสียงร้องทุกข์ของเขามาถึงเรา” เมื่อซามูเอลเห็นซาอูลเข้าแล้ว พระเยโฮวาห์ทรงบอกท่านว่า “​ดู​เถิด นี่​เป็นชายคนที่เราได้​พู​ดก​ับเจ้าแล้​วน​ั้น เขาเป็นผู้​ที่​จะปกครองเหนือประชาชนของเรา” แล​้วซาอู​ลก​็​เข​้ามาใกล้ซามูเอลที่​ประตู​และกล่าวว่า “ขอบอกข้าพเจ้าหน่อยว่า บ้านของผู้ทำนายอยู่​ที่ไหน​” ซามูเอลตอบซาอูลว่า “ฉันเป็นผู้​ทำนาย จงเดินขึ้นหน้าฉันไปยังปู​ชน​ียสถานสูงนั้น เพราะในวันนี้ท่านจะรับประทานอาหารกับฉัน และพรุ่งนี้เช้าฉันจึงจะให้ท่านไป และฉันจะบอกทุกอย่างที่ข้องอยู่ในใจของท่านแก่​ท่าน ส่วนเรื่องลาของท่านที่หายไปสามวันแล้​วน​ั้น อย่าเอาใจใส่​เลย เพราะเขาพบแล้ว ความปรารถนาของคนอิสราเอลนั้​นม​ุ่งหมายเอาใครเล่า ไม่ใช่​ตั​วท​่านและวงศ์วานทั้งสิ้นของบิดาท่านดอกหรือ” ซาอูลตอบว่า “ข้าพเจ้าไม่​ใช่​คนเบนยามินดอกหรือ เป็นตระกูลเล็กน้อยที่สุดในอิสราเอล และครอบครัวของข้าพเจ้าไม่​ใช่​ครอบครั​วท​ี่ด้อยที่สุดในตระกูลเบนยามินดอกหรือ ทำไมท่านจึงพู​ดก​ับข้าพเจ้าอย่างนี้​เล่า​” แล​้วซามูเอลก็พาซาอู​ลก​ับคนใช้ของท่านเข้าไปในห้องโถงให้นั่งในตอนต้​นที​่นั่งสำหรับผู้​ที่​รับเชิญ ซึ่​งม​ีประมาณสามสิบคน และซามูเอลพู​ดก​ับคนครั​วว​่า “จงนำส่วนที่ฉันได้​มอบให้ ซึ่งฉันบอกว่า ‘​เก​็บไว้​ต่างหาก​’ นั้นมา” คนครัวจึงนำเอาส่วนขาและส่วนบนนั้นมาวางไว้​ที่​ข้างหน้าซาอูล และซามูเอลกล่าวว่า “​ดู​เถิด สิ​่งที่​ได้​เก​็บไว้​ก็​วางอยู่ต่อหน้าท่าน จงรับประทานเถิด เพราะว่าเก็บไว้​ให้​แก่​ท่านจนถึงชั่วโมงที่กำหนดไว้ ตั้งแต่​ฉันกล่าวว่า ‘ฉันได้เชิญประชาชนมาแล้ว’” ซาอูลจึงรับประทานกับซามูเอลในวันนั้น และเมื่อเขาทั้งหลายลงมาจากปู​ชน​ียสถานสูงเข้ามาในเมือง ซามูเอลสนทนากับซาอูลบนดาดฟ้าหลังคาบ้าน และเขาทั้งสองตื่นแต่​เช้าตรู่ และอยู่มาเมื่อสว่างแล้ว ซามูเอลก็เรียกซาอูลผู้​อยู่​บนดาดฟ้าว่า “จงลุกขึ้นเถิด เพื่อฉันจะส่งท่านไปตามทางของท่าน” ซาอู​ลก​็​ลุกขึ้น ท่านทั้งสองก็เดินออกไปที่​ถนน ทั้งท่านและซามูเอล เมื่อเขาทั้งหลายกำลังลงมาที่​ชานเมือง ซามูเอลจึงพู​ดก​ับซาอูลว่า “จงบอกคนใช้​ให้​เดินล่วงหน้าเราไปก่อน (และเขาก็เดินพ้นไป) ท่านจงหยุดที่​นี่​ก่อน เพื่อฉันจะได้​แจ​้งพระดำรัสของพระเจ้าให้ท่านทราบ”

1 ซามูเอล 9:3-27 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

ฝ่ายฝูงแม่ลาของคีชบิดาของซาอูลหายไป คีชจึงกล่าวแก่ซาอูลบุตรของตนว่า <<ลุกขึ้น เอาคนใช้คนหนึ่งไปกับเจ้า เพื่อไปหาลา>> เขาทั้งสองก็ผ่านแดนเทือกเขาแห่งเอฟราอิม ผ่านเข้าแผ่นดินชาลิชา เขาหาลาไม่พบ เขาก็ผ่านข้ามแผ่นดินชาอาลิมแต่ลาไม่อยู่ที่นั่น แล้วเขาผ่านเข้าแผ่นดินของคนเบนยามิน แต่ก็หาลาไม่พบ เมื่อเขามาถึงแผ่นดินศูฟ ซาอูลจึงพูดกับคนใช้ผู้ซึ่งอยู่กับท่านว่า <<มาเถิด ให้เรากลับไป เกรงว่าบิดาของข้าจะเลิกกังวลเรื่องลา และมาร้อนใจด้วยเรื่องของเรา>> แต่คนใช้ตอบท่านว่า <<ดูเถิด มีคนของพระเจ้าคนหนึ่งในเมืองนี้ เป็นคนที่เขานับถือกันมาก สิ่งที่ท่านกล่าวนั้นเป็นไปตามที่กล่าวนั้นทุกอย่าง ขอให้เราไปที่นั่น ชะรอยท่านจะบอกเราถึงทางซึ่งเราควรดำเนิน>> แล้วซาอูลพูดกับคนใช้ของท่านว่า <<แต่ดูเถิด ถ้าเราไปเราจะเอาอะไรไปให้ชายผู้นั้น เพราะขนมปังในย่ามของเราก็หมดแล้ว เราไม่มีของขวัญที่จะนำไปให้แก่คนของพระเจ้า เรามีอะไรบ้าง>> คนใช้ตอบซาอูลอีกว่า <<ผมมีเงินอยู่หนึ่งเสี้ยวเชเขล และผมจะให้แก่คนของพระเจ้า เพื่อจะบอกหนทางให้แก่เรา>> (ในอิสราเอลสมัยเดิม เมื่อคนใดจะไปทูลถามพระเจ้า เขากล่าวว่า <<มาเถิด ให้เราไปหาผู้ทำนายกัน>> เพราะผู้ที่ในสมัยนี้เราเรียกว่าผู้เผยพระวจนะนั้น ในสมัยเดิมเขาเรียกว่าผู้ทำนาย) และซาอูลจึงพูดกับคนใช้ของท่านว่า <<พูดดีนี่ มาให้เราไปกันเถิด>> เขาทั้งสองจึงไปที่เมืองซึ่งคนของพระเจ้าอยู่ ขณะเมื่อเขาขึ้นภูเขาไปยังเมืองนั้น เขาพบพวกผู้หญิงสาวออกมาตักน้ำ จึงถามว่า <<ผู้ทำนายอยู่ที่นี่หรือ>> เธอทั้งหลายตอบว่า <<อยู่นี่ ดูเถิด ท่านเพิ่งขึ้นหน้าท่านไป จงรีบเข้าเถิดท่านเพิ่งมาในเมืองเมื่อกี้นี้ เพราะว่าวันนี้ประชาชนทำการถวายสัตวบูชา ณ ปูชนียสถานสูง พอท่านทั้งสองเข้าไปถึงในเมือง ท่านทั้งสองจะพบก่อนที่ผู้ทำนายขึ้นไปรับประทานอาหาร ณ ปูชนียสถานสูง เพราะว่าประชาชนจะไม่รับประทานจนกว่าท่านจะมาถึง เพราะท่านจะต้องมาอวยพรแก่เครื่องสัตวบูชา ภายหลังผู้ที่ได้รับเชิญจึงรับประทาน ขึ้นไปเถิด ท่านทั้งสองจะพบทันที>> เขาทั้งสองก็ขึ้นไปยังเมืองนั้น ขณะเมื่อเขาเข้าไปในเมือง ดูเถิด ซามูเอลกำลังเดินออกมาจะไปยังปูชนียสถานสูงนั้น พระเจ้าทรงสำแดงแก่ซามูเอล แล้วในวันก่อนวันที่ซาอูลมาถึงว่า <<พรุ่งนี้เวลาประมาณเท่านี้ เราจะส่งชายผู้หนึ่งซึ่งมาจากดินแดนเบนยามิน เจ้าจงเจิมเขาให้เป็นเจ้าเหนืออิสราเอลประชากรของเรา เขาจะช่วยประชากรของเราให้พ้นจากมือคนฟีลิสเตีย เพราะเราได้มองดูความทุกข์ใจแห่งประชากรของเราแล้ว ด้วยเสียงร้องทุกข์ของเขามาถึงเรา>> เมื่อซามูเอลเห็นซาอูลเข้าแล้ว พระเจ้าทรงบอกท่านว่า <<นี่เป็นชายคนที่เราได้พูดกับเจ้าแล้วนั้น เขาเป็นผู้ที่จะปกครองเหนือประชากรของเรา>> แล้วซาอูลก็เข้ามาใกล้ซามูเอลที่ประตูและกล่าวว่า <<ขอบอกข้าพเจ้าหน่อยว่า บ้านของผู้ทำนายอยู่ที่ไหน>> ซามูเอลตอบซาอูลว่า <<ฉันเป็นผู้ทำนาย จงเดินขึ้นหน้าฉันไปยังปูชนียสถานสูงนั้น เพราะในวันนี้ท่านจะรับประทานอาหารกับฉัน และพรุ่งนี้เช้าฉันจึงจะให้ท่านไปและฉันจะ บอกทุกอย่างที่ข้องอยู่ในใจของท่านแก่ท่าน ส่วนเรื่องลาของท่านที่หายไปสามวัน แล้วนั้นอย่าเอาใจใส่เลย เพราะเขาพบแล้ว ความปรารถนาของคนอิสราเอลนั้นมุ่งหมายเอาใครเล่า ไม่ใช่ตัวท่านและพงศ์พันธุ์ของบิดาท่านดอกหรือ>> ซาอูลตอบว่า <<ข้าพเจ้าไม่ใช่คนเผ่าเบนยามินดอกหรือ เป็นเผ่าเล็กน้อยที่สุดในอิสราเอล และตระกูลของข้าพเจ้าไม่ใช่ตระกูล ที่ด้อยที่สุดในเผ่าเบนยามินดอกหรือ ทำไมท่านจึงพูดกับข้าพเจ้าอย่างนี้เล่า>> แล้วซามูเอลก็พาซาอูลกับคนใช้ของท่านเข้าไปในห้องโถง ให้นั่งในตอนต้นที่นั่งสำหรับผู้ที่ รับเชิญ ซึ่งมีประมาณสามสิบคน และซามูเอลพูดกับคนครัวว่า <<จงนำส่วนที่ฉันได้มอบให้ ซึ่งฉันบอกว่า <เก็บไว้ต่างหาก> นั้นมา>> คนครัวจึงนำเอา ส่วนขาและส่วนบนนั้นมาวางไว้ที่ข้างหน้าซาอูล และซามูเอลกล่าวว่า <<ดูเถิด สิ่งที่ได้เก็บไว้ก็วางอยู่ต่อหน้าท่าน จงรับประทานเถิด เพราะว่าเก็บไว้ให้แก่ท่านจนถึงชั่วโมงที่กำหนดไว้ ฉันได้เชิญประชาชนมาแล้ว>> ซาอูลจึงรับประทานกับซามูเอลในวันนั้น และเมื่อเขาทั้งหลายลงมาจากปูชนียสถาน สูงเข้ามาในเมือง ท่านสนทนากับซาอูลบนดาดฟ้าหลังคาบ้าน และเขาทั้งสองตื่นแต่เช้าตรู่ และอยู่มาเมื่อสว่างแล้ว ซามูเอลก็เรียกซาอูลผู้อยู่บนดาดฟ้าว่า <<จงลุกขึ้นเถิด เพื่อฉันจะส่งท่านไปตามทางของท่าน>> ซาอูลก็ลุกขึ้น ท่านทั้งสองก็เดินออกไปที่ถนน ทั้งท่านและซามูเอล เมื่อเขาทั้งหลายกำลังลงมาที่ชานเมือง ซามูเอลจึงพูดกับซาอูลว่า <<จงบอกคนใช้ให้เดินล่วงหน้าเราไปก่อน และเมื่อเขาเดินพ้นไปแล้วท่านจงหยุดที่นี่ก่อน เพื่อฉันจะได้แจ้งพระดำรัสของพระเจ้าให้ท่านทราบ>>

1 ซามูเอล 9:3-27 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

วันหนึ่งฝูงลาของคีชบิดาของซาอูลหายไป เขาจึงสั่งซาอูลบุตรชายว่า “จงออกตามหาลา และเอาคนรับใช้คนหนึ่งไปด้วย” ทั้งสองเดินทางทั่วแดนเทือกเขาแห่งเอฟราอิม ผ่านดินแดนชาลิชา ชาอาลิม และทั่วเขตเบนยามินแต่ก็ไม่พบลาเลย เมื่อมาถึงดินแดนศูฟ ซาอูลพูดกับคนรับใช้ที่มาด้วยว่า “กลับบ้านกันเถอะ เกรงว่าป่านนี้พ่อคงจะเลิกห่วงลา หันมากังวลใจเรื่องเราแทน” แต่คนรับใช้นั้นตอบว่า “ดูเถิด ในเมืองนี้มีคนของพระเจ้าอยู่คนหนึ่ง ผู้คนเคารพนับถือมาก เขากล่าวอะไรก็เป็นไปตามนั้นทุกประการ เราไปหาเขากันเถอะ เขาอาจบอกเราได้ว่าควรไปทางไหน” ซาอูลกล่าวกับคนรับใช้ว่า “หากเราไป เราจะให้อะไรเขาได้บ้าง? อาหารในถุงเสบียงของเราก็หมดแล้ว เราไม่มีของที่จะมอบให้คนของพระเจ้า เรามีอะไรบ้าง?” คนรับใช้ตอบว่า “ข้าพเจ้ามีเงินอยู่หนึ่งในสี่เชเขลจะมอบให้คนของพระเจ้า เพื่อเขาจะบอกทางแก่เรา” (ในอิสราเอลสมัยนั้นหากมีใครจะไปทูลถามจากพระเจ้า เขาจะพูดว่า “ให้เราไปหาผู้ทำนายกันเถิด” เพราะผู้เผยพระวจนะในปัจจุบันเคยถูกเรียกว่าผู้ทำนาย) ซาอูลกล่าวกับคนรับใช้ว่า “ดีแล้ว ให้เราไปกันเถิด” พวกเขาจึงมุ่งหน้าไปยังเมืองที่คนของพระเจ้าอยู่ เมื่อพวกเขาขึ้นเนินเขาเพื่อไปยังเมืองนั้นก็พบพวกหญิงสาวที่ออกมาตักน้ำ จึงถามว่า “ผู้ทำนายอยู่ที่นี่หรือเปล่า?” หญิงสาวตอบว่า “อยู่เจ้าข้า เขาเพิ่งล่วงหน้าไป รีบๆ เถิด เขาเพิ่งมาถึงเมืองของเราวันนี้เอง เพราะผู้คนจะถวายเครื่องบูชาบนสถานสูง เมื่อพวกท่านไปถึงตัวเมืองก็จะพบเขาก่อนที่เขาจะขึ้นไปรับประทานอาหารบนสถานสูง คนทั้งหลายจะไม่เริ่มรับประทานจนกว่าเขาจะไปถึงเพราะเขาต้องอวยพรเครื่องบูชา หลังจากนั้นคนที่ได้รับเชิญจึงจะรับประทาน พวกท่านรีบไปตอนนี้จะได้พบแน่” คนทั้งสองจึงไป ขณะกำลังเดินเข้าเมือง พวกเขาก็พบซามูเอลกำลังเดินมุ่งหน้ามาทางพวกเขาตามทางขึ้นไปสถานสูง องค์พระผู้เป็นเจ้าได้สำแดงแก่ซามูเอลตั้งแต่วันก่อนที่ซาอูลจะมาถึงว่า “วันพรุ่งนี้เวลาประมาณนี้ เราจะส่งชายคนหนึ่งจากเขตแดนเบนยามินมาหาเจ้า จงเจิมคนนั้นให้เป็นผู้นำอิสราเอลประชากรของเรา เขาจะช่วยเหล่าประชากรให้รอดพ้นจากเงื้อมมือชาวฟีลิสเตีย เราเอ็นดูสงสารประชากรของเรา เพราะเสียงร่ำร้องของพวกเขามาถึงเราแล้ว” เมื่อซามูเอลเห็นซาอูล องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “คนนี้แหละที่เราบอกเจ้าไว้ เขาจะปกครองประชากรของเรา” ซาอูลเดินเข้ามาหาซามูเอลที่ประตูเมืองและกล่าวว่า “ช่วยบอกทางไปบ้านผู้ทำนายด้วยเถิด” ซามูเอลตอบว่า “ข้าพเจ้านี่แหละเป็นผู้ทำนาย เชิญนำหน้าข้าพเจ้าขึ้นไปยังสถานสูง เพราะวันนี้ท่านจะรับประทานอาหารกับข้าพเจ้า แล้วพรุ่งนี้เช้าข้าพเจ้าจะบอกทุกอย่างที่อยู่ในใจของท่านและจะให้ท่านไป ส่วนฝูงลาที่หายไปเมื่อสามวันก่อนนั้น ไม่ต้องห่วง เขาพบแล้ว ใครเล่าที่อิสราเอลปรารถนาเป็นอย่างมาก? ก็คือตัวท่านและครอบครัวของบิดาของท่านนั่นเอง” ซาอูลตอบว่า “แต่ว่าข้าพเจ้าเป็นคนเบนยามินซึ่งเป็นเผ่าเล็กน้อยที่สุดของอิสราเอลไม่ใช่หรือ? และตระกูลของข้าพเจ้าก็เล็กที่สุดในบรรดาตระกูลในเผ่าเบนยามินไม่ใช่หรือ? เหตุใดท่านจึงกล่าวกับข้าพเจ้าเช่นนั้น?” ซามูเอลจึงนำซาอูลกับคนรับใช้เข้าไปในห้องโถง และให้นั่งหัวโต๊ะท่ามกลางแขกรับเชิญซึ่งมีราวสามสิบคน ซามูเอลสั่งพ่อครัวว่า “จงนำเนื้อชิ้นที่เราบอกให้เจ้าเก็บไว้ต่างหากออกมา” พ่อครัวจึงนำเนื้อส่วนขามาวางตรงหน้าซาอูล ซามูเอลกล่าวว่า “นี่คือสิ่งที่เก็บไว้สำหรับท่าน เชิญรับประทานเถิด เพราะเนื้อนี้ได้แยกไว้สำหรับท่านในโอกาสนี้ ตั้งแต่เวลาที่ข้าพเจ้ากล่าวว่า ‘ข้าพเจ้าได้เชิญแขกมาแล้ว’ ” ซาอูลก็รับประทานอาหารร่วมกับซามูเอลในวันนั้น หลังจากพวกเขากลับจากสถานสูงเข้ามาในเมืองแล้ว ซามูเอลสนทนากับซาอูลบนดาดฟ้าบ้านของเขา วันรุ่งขึ้นเมื่อฟ้าเริ่มสาง ซามูเอลเรียกซาอูลบนดาดฟ้าว่า “จงเตรียมตัว เราจะไปส่ง” เมื่อซาอูลพร้อมแล้ว ทั้งสองก็เดินออกไปด้วยกัน ขณะที่มาถึงสุดเขตเมือง ซามูเอลบอกซาอูลว่า “จงให้คนรับใช้ล่วงหน้าไปก่อน” เมื่อคนรับใช้ไปแล้ว ซามูเอลก็บอกซาอูลว่า “จงรอสักครู่เถิด เพื่อเราจะแจ้งพระดำรัสของพระเจ้าแก่ท่าน”

1 ซามูเอล 9:3-27 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

อยู่​มา​ครั้ง​หนึ่ง ลา​ของ​คีช​ผู้​เป็น​บิดา​ของ​ซาอูล​หาย​ไป คีช​จึง​พูด​กับ​ซาอูล​บุตร​ของ​ตน​ว่า “เอา​คน​รับใช้​คน​หนึ่ง​ไป​กับ​เจ้า ตาม​หา​ลา​ที่​หาย​ไป” เขา​จึง​เดินทาง​ผ่าน​ไป​ทาง​แถบ​ภูเขา​แห่ง​เอฟราอิม และ​ผ่าน​ไป​ใน​บริเวณ​ใกล้​กับ​ชาลิชาห์ แต่​ก็​หา​ไม่​พบ เขา​จึง​เดินทาง​ต่อ​ไป และ​เข้า​ไป​ใน​อาณาเขต​ชาอาลิม แต่​ลา​ก็​ไม่​ได้​อยู่​ที่​นั่น จาก​นั้น​ก็​ได้​ผ่าน​พรมแดน​ของ​เบนยามิน แต่​ก็​ยัง​ไม่​พบ​ลา เมื่อ​ทั้ง​สอง​ไป​ถึง​อาณาเขต​ศูฟ ซาอูล​พูด​กับ​ผู้​รับใช้​ที่​ไป​ด้วย​ว่า “เรา​กลับ​ไป​บ้าน​กัน​เถิด มิ​ฉะนั้น บิดา​จะ​เลิก​คิด​เรื่อง​ลา และ​จะ​เริ่ม​กังวล​เรื่อง​เรา” แต่​ผู้​รับใช้​ตอบ​ว่า “ดู​เถิด ใน​เมือง​นี้​มี​คน​ของ​พระ​เจ้า​คน​หนึ่ง ท่าน​เป็น​ที่​นับถือ​มาก และ​ทุกสิ่ง​เกิด​ขึ้น​ตาม​ที่​ท่าน​พูด เรา​ไป​ที่​นั่น​กัน​เถิด บางที​ท่าน​อาจจะ​บอก​เรา​ได้​ว่า​ควร​จะ​ไป​ทาง​ไหน” ซาอูล​พูด​กับ​ผู้​รับใช้​ว่า “ถ้า​เรา​ไป เรา​จะ​มอบ​อะไร​ให้​ท่าน อาหาร​ใน​ย่าม​ก็​หมด​แล้ว เรา​ไม่​มี​ของ​กำนัล​ไป​ให้​คน​ของ​พระ​เจ้า เรา​มี​อะไร​บ้าง” ผู้​รับใช้​ตอบ​อีก​ว่า “ดู​นี่ ข้าพเจ้า​มี​เสี้ยว​เงิน​เชเขล ข้าพเจ้า​จะ​มอบ​ให้​คน​ของ​พระ​เจ้า ท่าน​จะ​ได้​บอก​ว่า​เรา​ควร​ไป​ทาง​ไหน” (ใน​อิสราเอล​สมัย​ของ​ซาอูล ถ้า​มี​คน​ไป​ถาม​พระ​เจ้า เขา​มัก​จะ​พูด​ว่า “มา​เถิด เรา​ไป​หา​ผู้​รู้​กัน​เถิด” เพราะ “ผู้​รู้” เป็น​คำ​ที่​เคย​ใช้​เรียก​ผู้​เผย​คำ​กล่าว​ของ​พระ​เจ้า​ที่​เรา​ใช้​ใน​เวลา​นี้) ซาอูล​พูด​กับ​ผู้​รับใช้​ว่า “ดี​เลย มา​เถิด เรา​ไป​กัน​เถิด” ดังนั้น​เขา​ทั้ง​สอง​จึง​ออก​เดินทาง​ไป​ยัง​เมือง​ที่​คน​ของ​พระ​เจ้า​อยู่ ขณะ​ที่​เขา​ขึ้น​เนินเขา​ไป​ทาง​เมือง​นั้น ก็​พบ​พวก​หญิง​สาว​กำลัง​ออก​มา​ตัก​น้ำ จึง​ถาม​ว่า “ผู้​รู้​อยู่​ที่​นี่​หรือ​เปล่า” พวก​เธอ​ตอบ​ว่า “ท่าน​อยู่​ที่​นี่ ท่าน​อยู่​ข้างหน้า​โน้น รีบ​ไป​เถิด ท่าน​เพิ่ง​มา​ถึง​เมือง​เรา​วัน​นี้ เพราะ​ประชาชน​มี​เครื่อง​สักการะ​จะ​ถวาย​ที่​สถาน​บูชา​บน​ภูเขา​สูง ทันที​ที่​ท่าน​เข้า​เมือง ท่าน​จะ​พบ​ผู้​ทำนาย​ก่อน​ที่​ท่าน​จะ​ขึ้น​ไป​สถาน​บูชา​บน​ภูเขา​สูง​เพื่อ​รับประทาน ประชาชน​จะ​ไม่​เริ่ม​รับประทาน จนกว่า​ท่าน​จะ​มา เพราะ​ท่าน​ต้อง​กล่าว​ขอบคุณ​พระ​เจ้า​ก่อน แล้ว​พวก​ที่​ได้​รับ​เชิญ​ก็​จะ​รับประทาน​กัน ขึ้น​ไป​ตอนนี้​เถิด ท่าน​น่า​จะ​พบ​ท่าน​ประมาณ​เวลา​นี้” เขา​ทั้ง​สอง​ขึ้น​ไป​ยัง​เมือง​นั้น และ​ขณะ​ที่​กำลัง​เข้า​ไป ซามูเอล​อยู่​ที่​นั่น ท่าน​กำลัง​เดิน​ตรง​มา​ทาง​เดียว​กัน​พอดี และ​จะ​ขึ้น​ไป​สถาน​บูชา​บน​ภูเขา​สูง ใน​วัน​ก่อน​วัน​ที่​ซาอูล​จะ​มา พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ได้​เผย​ให้​ซามูเอล​ทราบ​ว่า “ใน​วัน​พรุ่งนี้​ประมาณ​เวลา​นี้ เรา​จะ​ให้​ชาย​ผู้​หนึ่ง​จาก​ดินแดน​ของ​เบนยามิน​มา​พบ​เจ้า จง​เจิม​เขา​ให้​เป็น​ผู้​นำ​อิสราเอล​ชน​ชาติ​ของ​เรา เขา​จะ​ช่วย​ชน​ชาติ​ของ​เรา​ให้​พ้น​จาก​มือ​ของ​ชาว​ฟีลิสเตีย เรา​เห็น​ว่า​ชน​ชาติ​ของ​เรา​เป็น​ทุกข์ เพราะ​เรา​ได้ยิน​เสียง​ร้อง​ของ​พวก​เขา” เมื่อ​ซามูเอล​แลเห็น​ซาอูล พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​กล่าว​กับ​ท่าน​ว่า “ชาย​ผู้​นี้​เป็น​คน​ที่​เรา​บอก​เจ้า เขา​จะ​ปกครอง​ชน​ชาติ​ของ​เรา” ซาอูล​เข้า​ไป​ใกล้​ซามูเอล​ที่​ทาง​ประตู​และ​ถาม​ว่า “ท่าน​จะ​กรุณา​บอก​ข้าพเจ้า​ได้​ไหม​ว่า บ้าน​ของ​ผู้​รู้​อยู่​ที่​ไหน” ซามูเอล​ตอบ​ว่า “เรา​เป็น​ผู้​รู้ ท่าน​จง​ขึ้น​ไป​ล่วงหน้า​เรา ไป​สถาน​บูชา​บน​ภูเขา​สูง เพราะ​ว่า​วันนี้​ท่าน​จะ​ต้อง​รับประทาน​กับ​เรา และ​พอ​รุ่งเช้า เรา​ก็​จะ​ให้​ท่าน​ไป และ​จะ​บอก​ท่าน​ว่า ท่าน​มี​ความ​ใน​ใจ​อะไร ไม่​ต้อง​ห่วง​เรื่อง​ลา​ที่​หาย​ไป​เมื่อ 3 วัน​ก่อน เพราะ​มี​คน​พบ​มัน​แล้ว สิ่ง​เดียว​ที่​อิสราเอล​ต้องการ​นั้น คือ​ใคร​เล่า ถ้า​ไม่​ใช่​ท่าน​และ​ครอบครัว​ของ​บิดา​ของ​ท่าน” ซาอูล​ตอบ​ว่า “ข้าพเจ้า​เป็น​ชาว​เบนยามิน​มิ​ใช่​หรือ มา​จาก​เผ่า​เล็ก​ที่​สุด​ของ​อิสราเอล และ​ตระกูล​ของ​ข้าพเจ้า​ก็​สำคัญ​น้อย​ที่​สุด​ใน​บรรดา​ทุก​เผ่า​ของ​เบนยามิน​มิ​ใช่​หรือ ทำไม​ท่าน​จึง​พูด​กับ​ข้าพเจ้า​เช่น​นั้น” ครั้น​แล้ว​ซามูเอล​ก็​พา​ซาอูล​และ​ผู้​รับใช้​เข้า​ไป​ใน​ห้อง​โถง และ​ให้​ท่าน​นั่ง​ที่​หัว​โต๊ะ​ของ​ผู้​ได้​รับ​เชิญ​ประมาณ 30 คน ซามูเอล​พูด​กับ​พ่อครัว​ว่า “ไป​เอา​เนื้อ​ที่​เรา​ให้​เจ้า​มา ชิ้น​ที่​เรา​บอก​ให้​เจ้า​แยก​เก็บ​ไว้” ดังนั้น​พ่อครัว​จึง​ไป​หยิบ​เนื้อ​ท่อน​ขา​พร้อม​กับ​ขา​อ่อน มา​วาง​ไว้​ที่​ข้างหน้า​ซาอูล ซามูเอล​พูด​ว่า “นี่​เป็น​สิ่ง​ที่​เก็บ​ไว้​ให้​ท่าน จง​รับประทาน เพราะ​เขา​เก็บ​ไว้​ให้​ท่าน​สำหรับ​โอกาส​นี้ ท่าน​จะ​ได้​รับประทาน​กับ​แขก​รับ​เชิญ” วันนั้น​ซาอูล​จึง​รับประทาน​กับ​ซามูเอล เมื่อ​เขา​ทั้ง​หลาย​ลง​มา​จาก​สถาน​บูชา​บน​ภูเขา​สูง และ​เข้า​ไป​ใน​เมือง ซามูเอล​พูด​กับ​ซาอูล​บน​ดาดฟ้า เขา​ทั้ง​สอง​ลุก​ขึ้น​เมื่อ​ฟ้าสาง ซามูเอล​เรียก​ซาอูล​ที่​อยู่​บน​ดาดฟ้า​ว่า “เตรียม​ตัว​ให้​พร้อม แล้ว​เรา​จะ​ส่ง​ให้​ท่าน​ออก​เดินทาง​ไป” เมื่อ​ซาอูล​พร้อม​แล้ว เขา​กับ​ซามูเอล​ก็​ออก​ไป​นอก​บ้าน​พร้อม​กัน ขณะ​ที่​กำลัง​เดิน​ไป​ถึง​ชานเมือง ซามูเอล​พูด​กับ​ซาอูล​ว่า “บอก​ให้​ผู้​รับใช้​ล่วงหน้า​เรา​ไป​ก่อน” ผู้​รับใช้​ก็​ทำ​ตาม​นั้น “แต่​ท่าน​จง​อยู่​ที่​นี่​สักพัก​ก่อน เรา​จะ​ได้​บอก​ให้​ท่าน​ทราบ​ถึง​สิ่ง​ที่​พระ​เจ้า​กล่าว​ไว้”