1 ซามูเอล 4:4-22
1 ซามูเอล 4:4-22 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
พวกเขาจึงส่งคนไปชิโลห์ เพื่อนำหีบแห่งข้อตกลงของพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นผู้ซึ่งนั่งอยู่บนบัลลังก์ระหว่างทูตสวรรค์เครูบ ลูกชายทั้งสองของเอลี คือโฮฟนี และฟีเนหัสก็อยู่ที่นั่นกับหีบข้อตกลงของพระเจ้า เมื่อหีบข้อตกลงของพระยาห์เวห์มาถึงค่าย คนอิสราเอลทั้งหมดก็ได้โห่ร้องเสียงดังจนแผ่นดินสะเทือน เมื่อชาวฟีลิสเตียได้ยินก็ถามกันว่า “ค่ายคนฮีบรู โห่ร้องตะโกนเรื่องอะไรกัน” เมื่อพวกเขารู้ว่าหีบของพระยาห์เวห์ได้มาอยู่ที่ค่ายแล้ว คนฟีลิสเตียก็รู้สึกกลัว พวกเขาพูดว่า “มีพวกเทพเจ้ามาอยู่ในค่ายนั้นแล้ว พวกเราแย่แล้ว ไม่เคยมีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นมาก่อน ภัยพิบัติกำลังจะเกิดขึ้นกับพวกเรา ใครจะช่วยกู้พวกเราให้พ้นจากมือของพวกเทพเจ้าที่มีฤทธิ์เหล่านี้ได้ เทพเจ้าพวกนี้เคยโจมตีชาวอียิปต์ด้วยพวกภัยพิบัติและโรคระบาดหลายอย่าง กล้าหาญไว้คนฟีลิสเตีย ทำตัวให้สมกับลูกผู้ชาย ไม่อย่างนั้นเจ้าก็จะตกอยู่ภายใต้คนฮีบรูเหมือนที่พวกเขาเคยตกอยู่ภายใต้เจ้ามาก่อน ออกรบให้สมกับลูกผู้ชายเถิด” ดังนั้นคนฟีลิสเตียจึงออกไปสู้รบ และคนอิสราเอลก็พ่ายแพ้ แต่ละคนต่างวิ่งหนีกลับมาที่เต็นท์ของตน มีการฆ่าฟันยิ่งใหญ่เกิดขึ้น ทหารเดินเท้าของอิสราเอลได้ล้มตายไปสามหมื่นคน หีบของพระเจ้าถูกยึดไป และลูกชายทั้งสองของเอลี คือโฮฟนี และฟีเนหัสก็ถูกฆ่าตาย ในวันนั้น มีคนเบนยามินคนหนึ่งวิ่งมาจากสนามรบ กลับไปที่ชิโลห์ เขาได้ฉีกเสื้อผ้าของเขาและมีเศษดินอยู่บนหัวเพื่อแสดงความโศกเศร้า เมื่อเขามาถึง เอลีนั่งคอยดูอยู่บนเก้าอี้ริมถนน เพราะจิตใจของเขากังวลเกี่ยวกับหีบของพระเจ้า เมื่อชายคนนั้นเข้ามาในเมืองและได้เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น คนทั้งเมืองก็ร้องไห้กันเสียงระงม เอลีได้ยินเสียงร้องจึงถามว่า “นั่นเสียงร้องอะไรกัน” ชายคนนั้นจึงรีบเข้ามาหาเอลี ซึ่งมีอายุถึงเก้าสิบแปดปี และมีดวงตาที่ปิดลง มองไม่เห็นแล้ว เขาก็บอกเอลีว่า “ผมเพิ่งกลับมาจากสนามรบ ผมหนีมาจากสนามรบวันนี้เอง” เอลีถามว่า “ลูกเอ๋ย เกิดอะไรขึ้น” ชายผู้นำข่าวมา ตอบว่า “คนอิสราเอลได้หลบหนีจากคนฟีลิสเตีย กองทัพอิสราเอลสูญเสียคนไปเป็นจำนวนมาก ส่วนลูกชายสองคนของท่าน โฮฟนีกับฟีเนหัสก็ถูกฆ่าตาย และหีบของพระเจ้าก็ถูกยึดไปแล้ว” เมื่อพูดถึงหีบข้อตกลงของพระเจ้า เอลีก็ล้มหงายหลังลงที่ข้างประตูและคอหักตาย เพราะเขาแก่แล้วและอ้วนมาก รวมเวลาที่เขาเป็นผู้นำอิสราเอลได้ยี่สิบปี ลูกสะใภ้ของเอลีซึ่งเป็นเมียของฟีเนหัสนั้นท้องแก่ใกล้คลอด เมื่อนางได้ยินข่าวว่าหีบของพระเจ้าถูกยึด แล้วพ่อผัวและผัวของนางก็ตายแล้ว นางก็เริ่มเจ็บท้องและได้คลอดลูกชาย แต่เนื่องจากนางทนความเจ็บปวดไม่ไหว ในขณะที่กำลังจะตาย พวกผู้หญิงที่เฝ้านางอยู่ก็พูดว่า “อย่าสิ้นหวังเลย เพราะเธอได้คลอดลูกชาย” แต่นางไม่ได้ตอบหรือสนใจเลย นางตั้งชื่อลูกว่าอีคาโบด และพูดว่า “อิสราเอลหมดศักดิ์ศรีแล้ว” นางทำอย่างนี้ก็เพราะหีบของพระเจ้าได้ถูกยึดไปแล้ว และพ่อผัวกับผัวเธอก็ได้ตายเสียแล้ว แล้วนางก็พูดว่า “อิสราเอลหมดศักดิ์ศรีแล้ว เพราะหีบของพระเจ้าได้ถูกยึดไปแล้ว”
1 ซามูเอล 4:4-22 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
ประชาชนจึงใช้คนไปที่เมืองชิโลห์ และพวกเขานำหีบพันธสัญญาแห่งพระยาห์เวห์จอมทัพ ผู้ประทับเหนือเครูบมาจากที่นั่น บุตรทั้งสองของเอลี คือโฮฟนีและฟีเนหัส ก็อยู่กับหีบพันธสัญญาของพระเจ้าที่นั่น เมื่อหีบพันธสัญญาของพระยาห์เวห์มาที่ค่าย แล้วคนอิสราเอลทั้งสิ้นก็โห่ร้องเสียงดังจนแผ่นดินก้องไปด้วยเสียงนั้น และเมื่อพวกฟีลิสเตียได้ยินเสียงโห่ร้องเช่นนั้น เขาก็กล่าวว่า “เสียงโห่ร้องอึกทึกครึกโครมในค่ายของพวกฮีบรูนั้นหมายความว่าอะไรกัน” พอพวกเขาทราบว่าหีบพระยาห์เวห์มาที่ค่ายแล้ว พวกฟีลิสเตียก็กลัวเพราะพวกเขากล่าวว่า “พระเจ้าได้เสด็จมาที่ค่ายแล้ว” และพวกเขากล่าวว่า “วิบัติแก่พวกเราเพราะแต่ก่อนไม่เคยเกิดเรื่องอย่างนี้เลย วิบัติแก่พวกเรา ใครจะช่วยกู้พวกเราจากพระอันทรงฤทธานุภาพเหล่านี้ได้ พระเหล่านี้เป็นผู้ที่ฆ่าฟันชาวอียิปต์ด้วยภัยพิบัติทุกชนิดในถิ่นทุรกันดาร โอ พวกฟีลิสเตียเอ๋ยจงกล้าหาญเถิด จงเป็นลูกผู้ชาย เพื่อพวกเจ้าจะไม่เป็นทาสของพวกฮีบรูดังที่พวกเขาเคยเป็นทาสพวกเจ้า จงเป็นลูกผู้ชายและเข้ารบ” เพราะฉะนั้นพวกฟีลิสเตียจึงสู้รบและอิสราเอลก็พ่ายแพ้ ต่างก็หนีไปยังเต็นท์ของเขา ครั้งนั้นมีการฆ่าฟันกันหนักมาก เพราะทหารราบของอิสราเอลตายเสีย 30,000 คน และหีบของพระเจ้าถูกยึดไป และบุตรทั้งสองของเอลี คือโฮฟนีและฟีเนหัสก็ตายด้วย ผู้ชายเผ่าเบนยามินคนหนึ่งวิ่งไปจากแนวรบมาถึงชิโลห์ ในวันเดียวกัน เสื้อผ้าขาดและดินก็อยู่บนศีรษะของเขา เมื่อเขามาถึงนั้น นี่แน่ะ เอลีอยู่บนที่นั่งข้างถนนคอยเฝ้าอยู่ เพราะจิตใจของท่านหวาดกลัวเกี่ยวกับเรื่องหีบของพระเจ้า เมื่อชายคนนั้นเข้ามาในเมืองและบอกข่าว ชาวเมืองทั้งสิ้นก็ร้องลั่น เมื่อเอลีได้ยินเสียงร้องดังลั่นเช่นนั้นก็ถามว่า “เสียงอึกทึกครึกโครมนี้เป็นเสียงอะไรกัน?” แล้วชายคนนั้นก็รีบเข้ามาบอกเอลี เอลีมีอายุ 98 ปี ตาของท่านมัวมองอะไรไม่เห็น ชายคนนั้นบอกเอลีว่า “ข้าพเจ้าเป็นคนที่มาจากแนวรบ ข้าพเจ้าเองหนีมาจากแนวรบวันนี้” เอลีก็ถามว่า “ลูกเอ๋ยเป็นอย่างไรบ้าง?” ผู้ส่งข่าวนั้นก็ตอบว่า “อิสราเอลหนีต่อหน้าพวกฟีลิสเตียไปแล้ว มีการฆ่าฟันกันมากท่ามกลางประชาชน ยิ่งกว่านั้นบุตรทั้งสองของท่าน คือโฮฟนีและฟีเนหัสก็ตาย และหีบของพระเจ้าถูกยึดไปแล้ว” เมื่อเขากล่าวถึงหีบของพระเจ้า เอลีก็หงายหลังตกจากที่นั่งที่อยู่ข้างประตู ท่านก็คอหักตาย เพราะท่านชรามากและตัวก็หนัก ท่านได้วินิจฉัยคนอิสราเอลอยู่ 40 ปี บุตรสะใภ้ของท่าน คือภรรยาของฟีเนหัสมีครรภ์ใกล้คลอดบุตร และเมื่อนางได้ยินข่าวว่าหีบของพระเจ้าถูกยึดไป และพ่อสามีและสามีของนางก็ตายไป นางก็โน้มตัวลงและคลอดบุตร เพราะความเจ็บปวดเกิดขึ้นแก่นาง เมื่อนางกำลังจะตายนั้น พวกผู้หญิงที่เฝ้านางอยู่ได้บอกนางว่า “อย่ากลัวเลย เพราะเจ้ามีลูกผู้ชายคนหนึ่ง” แต่นางไม่ตอบไม่สนใจ นางให้ชื่อเด็กนั้นว่า อีคาโบดกล่าวว่า “พระสิริพรากไปจากอิสราเอลแล้ว” เพราะหีบของพระเจ้าถูกยึดไป และเพราะเรื่องพ่อสามีและสามีของนาง และนางกล่าวว่า “พระสิริพรากจากอิสราเอลแล้ว เพราะหีบของพระเจ้าถูกยึดไป”
1 ซามูเอล 4:4-22 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
เขาจึงใช้คนไปที่เมืองชีโลห์ เพื่อนำหีบพันธสัญญาแห่งพระเยโฮวาห์จอมโยธา ผู้ประทับระหว่างพวกเครูบ มาจากชีโลห์ บุตรชายทั้งสองของเอลี คือโฮฟนีและฟีเนหัส ก็อยู่กับหีบพันธสัญญาแห่งพระเจ้าที่นั่น เมื่อหีบพันธสัญญาแห่งพระเยโฮวาห์เข้ามาในค่ายแล้ว คนอิสราเอลทั้งสิ้นก็โห่ร้องเสียงดังจนแผ่นดินก้องไปด้วยเสียงนั้น และเมื่อคนฟีลิสเตียได้ยินเสียงโห่ร้องดังเช่นนั้น เขาก็กล่าวว่า “เสียงโห่ร้องอึกทึกครึกโครมในค่ายของคนฮีบรูนั้นหมายความว่าอะไรกัน” และเขาทราบว่าหีบแห่งพระเยโฮวาห์เข้ามาในค่ายแล้ว คนฟีลิสเตียก็กลัวเพราะเขากล่าวว่า “พระเจ้าได้เสด็จมาในค่ายแล้ว” และเขากล่าวว่า “วิบัติแก่เราทั้งหลาย เพราะแต่ก่อนไม่เคยเกิดเรื่องอย่างนี้เลย วิบัติแก่เราทั้งหลาย ใครจะช่วยเราให้พ้นจากพระหัตถ์ของบรรดาพระอันทรงฤทธานุภาพนี้ได้ พระเหล่านี้เป็นผู้ที่ฆ่าฟันชาวอียิปต์ด้วยภัยพิบัตินานาชนิดในถิ่นทุรกันดาร โอ คนฟีลิสเตียเอ๋ย จงกล้าหาญเถิด จงกระทำตัวเป็นลูกผู้ชาย เพื่อว่าเจ้าจะไม่เป็นทาสของคนฮีบรู ดังที่เขาเคยเป็นทาสเจ้า จงกระทำตัวให้เป็นลูกผู้ชายและเข้ารบ” เพราะฉะนั้นคนฟีลิสเตียจึงสู้รบและอิสราเอลก็พ่ายแพ้ ต่างก็หนีไปยังเต็นท์ของตน ครั้งนั้นมีการฆ่าฟันกันมาก เพราะทหารราบของอิสราเอลตายเสียสามหมื่นคน และหีบแห่งพระเจ้าก็ถูกยึดไป และบุตรชายทั้งสองของเอลี คือโฮฟนีและฟีเนหัสก็ถูกฆ่าตาย ผู้ชายคนเบนยามินคนหนึ่งวิ่งไปจากแนวรบมาถึงชีโลห์ในวันเดียวกัน เสื้อผ้าขาดและดินก็อยู่บนศีรษะของเขา เมื่อเขามาถึงนั้น ดูเถิด เอลีอยู่บนที่นั่งข้างถนนคอยเฝ้าอยู่ เพราะจิตใจของท่านหวั่นด้วยเรื่องหีบแห่งพระเจ้า และเมื่อชายคนนั้นเข้ามาในเมืองและบอกข่าว ชาวเมืองทั้งสิ้นก็ร้องขึ้น เมื่อเอลีได้ยินเสียงร้องเช่นนั้นก็ถามว่า “นั่นเสียงอะไรกันโกลาหล” แล้วชายคนนั้นก็รีบเข้ามาบอกเอลี ฝ่ายเอลีมีอายุเก้าสิบแปดปี ตาของท่านมืดมัว มองอะไรไม่เห็น ชายคนนั้นบอกเอลีว่า “ข้าพเจ้าเป็นคนที่มาจากแนวรบ ข้าพเจ้าหนีมาจากแนวรบวันนี้” เอลีก็ถามว่า “ลูกเอ๋ย เป็นอย่างไรบ้าง” ผู้ที่ส่งข่าวนั้นก็ตอบว่า “อิสราเอลได้หนีไปต่อหน้าต่อตาคนฟีลิสเตียไปแล้ว มีการฆ่าฟันกันมากท่ามกลางประชาชน บุตรชายทั้งสองของท่าน คือโฮฟนีและฟีเนหัสก็ตาย และหีบแห่งพระเจ้าถูกยึดไปเสีย” ต่อมาเมื่อเขากล่าวถึงหีบแห่งพระเจ้า เอลีก็หงายหลังจากที่นั่งที่อยู่ข้างประตู คอของท่านก็หัก และท่านสิ้นชีวิตแล้ว เพราะท่านชรามากและตัวก็หนัก ท่านได้วินิจฉัยคนอิสราเอลอยู่สี่สิบปี ฝ่ายบุตรสะใภ้ของท่าน คือภรรยาของฟีเนหัสมีครรภ์กำลังจะคลอดบุตร และเมื่อนางได้ยินข่าวว่า เขายึดหีบแห่งพระเจ้าไป และพ่อสามีและสามีของนางก็สิ้นชีวิต นางก็โน้มตัวลงและคลอดบุตร เพราะความเจ็บปวดบังเกิดขึ้นแก่นาง เมื่อนางกำลังจะตายนั้น พวกผู้หญิงที่เฝ้านางอยู่ได้บอกนางว่า “อย่ากลัวเลย เพราะเจ้าคลอดลูกผู้ชายคนหนึ่ง” แต่นางไม่ตอบไม่ฟัง นางให้ชื่อเด็กนั้นว่า อีคาโบด กล่าวว่า “สง่าราศีพรากไปจากอิสราเอลแล้ว” เพราะเขายึดหีบแห่งพระเจ้าไป และเพราะเรื่องพ่อสามีและสามีของนาง และนางกล่าวว่า “สง่าราศีได้พรากจากอิสราเอลแล้ว เพราะเขายึดหีบแห่งพระเจ้าไป”
1 ซามูเอล 4:4-22 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
เขาจึงใช้คนไปที่เมืองชิโลห์ และเขานำหีบพันธสัญญาแห่งพระเจ้าจอมโยธา ผู้ประทับที่บัลลังก์พวกเครูบ บุตรทั้งสองของเอลี คือโฮฟนีและฟีเนหัส ก็อยู่กับหีบพันธสัญญาแห่งพระเจ้าที่นั่น เมื่อหีบพันธสัญญาแห่งพระเจ้าเข้ามาในค่าย แล้วคนอิสราเอลทั้งสิ้นก็โห่ร้องเสียงดัง จนแผ่นดินก้องไปด้วยเสียงนั้น และเมื่อคนฟีลิสเตียได้ยินเสียงโห่ร้องดังเช่นนั้น เขาก็กล่าวว่า <<เสียงโห่ร้องอึกทึกครึกโครมในค่ายของคนฮีบรู นั้นหมายความว่าอะไรกัน>> และเขาทราบว่าหีบแห่งพระเจ้าเข้ามาในค่ายแล้ว คนฟีลิสเตียก็กลัวเพราะเขากล่าวว่า <<พระเจ้าได้เสด็จมาในค่ายแล้ว>> และเขากล่าวว่า <<วิบัติแก่เราทั้งหลายเพราะแต่ก่อนไม่เคยเกิดเรื่องอย่างนี้เลย วิบัติแก่เราทั้งหลาย ใครจะช่วยกู้เราจากบรรดาพระอันทรงฤทธานุภาพนี้ได้ พระเหล่านี้เป็นผู้ที่ฆ่าฟันชาวอียิปต์ด้วยภัยพิบัตินานา ชนิดในถิ่นทุรกันดาร โอ คนฟีลิสเตียเอ๋ยจงกล้าหาญเถิด จงกระทำตัว เป็นลูกผู้ชาย เพื่อว่าเจ้าจะไม่เป็นทาสของคนฮีบรูดังที่เขา เคยเป็นทาสเจ้า จงกระทำตัวให้เป็นลูกผู้ชายและเข้ารบ>> เพราะฉะนั้นคนฟีลิสเตียจึงสู้รบและอิสราเอลก็พ่ายแพ้ ต่างก็หนีไปยังเต็นท์ของตน ครั้งนั้นมีการฆ่าฟันกันมาก เพราะทหารราบของอิสราเอลตายเสียสามหมื่นคน และหีบแห่งพระเจ้าก็ถูกยึดไป และบุตรทั้งสองของเอลี คือโฮฟนีและฟีเนหัสก็ถูกฆ่าตาย ผู้ชายเผ่าเบนยามินคนหนึ่งวิ่งไปจากแนวรบมาถึงชิโลห์ ในวันเดียวกัน เสื้อผ้าขาดและดินก็อยู่บนศีรษะของเขา เมื่อเขามาถึงนั้น ดูซี เอลีอยู่บนที่นั่งข้างถนนคอยเฝ้าอยู่ เพราะจิตใจของท่านหวั่นด้วยเรื่องหีบแห่งพระเจ้า และเมื่อชายคนนั้นเข้ามาในเมืองและบอกข่าว ชาวเมืองทั้งสิ้นก็ร้องขึ้น เมื่อเอลีได้ยินเสียงร้องเช่นนั้นก็ถามว่า <<นั่นเสียงอะไรกันโกลาหล>> แล้วชายคนนั้นก็รีบเข้ามาบอกเอลี ฝ่ายเอลีมีอายุเก้าสิบแปดปี ตาของท่านแข็งมองอะไรไม่เห็น ชายคนนั้นบอกเอลีว่า <<ข้าพเจ้าเป็นคนที่มาจากแนวรบ ข้าพเจ้าหนีมาจากแนวรบวันนี้>> เอลีก็ถามว่า <<ลูกเอ๋ยเป็นอย่างไรบ้าง>> ผู้ที่ส่งข่าวนั้นก็ตอบว่า <<อิสราเอลได้หนีพวกฟีลิสเตียไปแล้ว มีการฆ่าฟันกันมากท่ามกลางประชาชน บุตรทั้งสองของท่าน คือโฮฟนีและฟีเนหัสก็ตาย และหีบแห่งพระเจ้าถูกยึดไปเสีย>> เมื่อเขากล่าวถึงหีบแห่งพระเจ้า เอลีก็หงายหลังจากที่นั่งที่อยู่ข้างประตู คอของท่านก็หัก และท่านสิ้นชีวิตแล้ว เพราะท่านชรามากและตัวก็หนัก ท่านได้วินิจฉัยคนอิสราเอลอยู่สี่สิบปี ฝ่ายบุตรสะใภ้ของท่าน คือภรรยาของฟีเนหัสมีครรภ์กำลังจะคลอดบุตร และเมื่อนางได้ยินข่าวว่าเขายึดหีบแห่งพระเจ้าไป และพ่อผัวและสามีของนางก็สิ้นชีวิต นางก็โน้มตัวลงและคลอดบุตร เพราะความเจ็บปวดบังเกิดขึ้นแก่นาง เมื่อนางกำลังจะตายนั้น พวกผู้หญิงที่เฝ้านางอยู่ได้บอกนางว่า <<อย่ากลัวเลย เพราะเจ้ามีลูกผู้ชายคนหนึ่ง>> แต่นางไม่ตอบไม่ฟัง นางให้ชื่อเด็กนั้นว่า อีคาโบด กล่าวว่า <<พระสิริพรากไปจากอิสราเอลแล้ว>> เพราะเขายึดหีบแห่งพระเจ้าไป และเพราะเรื่องพ่อผัวและสามีของนาง และนางกล่าวว่า <<พระสิริได้พรากจากอิสราเอลแล้ว เพราะเขายึดหีบแห่งพระเจ้าไป>>
1 ซามูเอล 4:4-22 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
ฉะนั้นประชาชนจึงส่งคนไปที่ชิโลห์ เพื่ออัญเชิญหีบพันธสัญญาของพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ผู้ประทับระหว่างเครูบ โฮฟนีและฟีเนหัสบุตรของเอลีได้มาที่สนามรบพร้อมหีบพันธสัญญาของพระเจ้าด้วย เมื่อหีบพันธสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงค่ายพัก อิสราเอลทั้งปวงก็ตะโกนโห่ร้องเสียงดังปานแผ่นดินจะถล่มทลาย ชาวฟีลิสเตียได้ยินเสียงอึกทึกครึกโครมก็ถามกันว่า “เกิดอะไรขึ้นจึงมีเสียงตะโกนโห่ร้องทั่วค่ายพวกฮีบรู?” เมื่อรู้ว่าเป็นเพราะหีบพันธสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงค่ายพัก ชาวฟีลิสเตียก็พากันขวัญหนีดีฝ่อและร้องว่า “พระเจ้าเข้ามาในค่ายของพวกนั้น ลำบากแล้วเรา! เราไม่เคยพบอะไรอย่างนี้มาก่อนเลย พินาศแน่! ใครจะช่วยเราจากมือเทพเจ้าผู้ทรงฤทธิ์เหล่านี้ได้? พระเหล่านี้แหละที่ทำลายล้างชาวอียิปต์ด้วยภัยพิบัติทั้งปวงในถิ่นกันดาร พี่น้องฟีลิสเตียทั้งหลาย! จงเข้มแข็งสมเป็นลูกผู้ชาย มิฉะนั้นเราจะต้องก้มหัวให้พวกฮีบรูเหมือนที่พวกเขาเคยก้มหัวให้เรา จงสู้อย่างลูกผู้ชาย!” ฉะนั้นพวกฟีลิสเตียจึงสู้รบ และคนอิสราเอลก็พ่ายแพ้และทุกคนหนีไปยังเต็นท์ของตน มีการฆ่าฟันกันครั้งใหญ่ ทหารราบของอิสราเอลตายไปสามหมื่นคน หีบพันธสัญญาของพระเจ้าถูกยึดไป โฮฟนีและฟีเนหัส บุตรทั้งสองของเอลีถูกฆ่าตาย ชายตระกูลเบนยามินคนหนึ่งหนีจากสนามรบมาถึงชิโลห์ในวันนั้นด้วยเสื้อผ้าขาดวิ่นและมีฝุ่นบนศีรษะ เอลีนั่งอยู่ริมทางคอยฟังข่าว เพราะจิตใจของเขาเป็นห่วงหีบพันธสัญญาของพระเจ้า เมื่อชายผู้นั้นมาถึงเมืองและเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คนทั้งเมืองก็พากันร้องไห้ระงม เอลีได้ยินเสียงร้องก็ถามว่า “เอะอะอึกทึกอะไรกันหรือ?” ชายผู้นั้นตรงเข้ามาหาเอลี เอลีมีอายุ 98 ปี ตามองอะไรไม่เห็น เขาบอกเอลีว่า “ข้าพเจ้าเพิ่งหนีมาจากสนามรบวันนี้เอง” เอลีถามว่า “ลูกเอ๋ย เกิดอะไรขึ้น?” ชายผู้นำข่าวมานั้นตอบว่า “อิสราเอลพ่ายแพ้ฟีลิสเตีย กองทัพของเราเสียหายมาก โฮฟนีและฟีเนหัสบุตรทั้งสองของท่านตายแล้ว และหีบพันธสัญญาของพระเจ้าก็ถูกยึดไป” เมื่อเขาเอ่ยถึงหีบพันธสัญญาของพระเจ้า เอลีก็ผงะหงายหลัง ล้มจากที่นั่งริมประตู คอหักเสียชีวิต เพราะเขาชรามากและอ้วน เขาได้นำอิสราเอลมาสี่สิบปี เมื่อลูกสะใภ้ของเอลีคือภรรยาของฟีเนหัสซึ่งกำลังตั้งครรภ์ใกล้คลอด ได้ยินว่าหีบพันธสัญญาถูกยึดไป และสามีกับพ่อสามีสิ้นชีวิต นางก็รู้สึกเจ็บครรภ์เป็นอย่างยิ่งและคลอดบุตร ก่อนที่นางจะเสียชีวิต ผู้หญิงที่คอยดูแลอยู่ปลอบนางว่า “อย่าหมดหวัง เธอได้ลูกชาย” แต่นางไม่ได้สนใจหรือโต้ตอบประการใด นางตั้งชื่อทารกนั้นว่าอีคาโบด นางกล่าวว่า “พระเกียรติสิริถูกพรากไปจากอิสราเอลแล้ว” เพราะหีบพันธสัญญาของพระเจ้าถูกยึดไปแล้ว สามีของนางและพ่อสามีก็สิ้นชีวิตไปด้วย นางกล่าวว่า “พระเกียรติสิริพรากไปจากอิสราเอลแล้ว เพราะหีบพันธสัญญาของพระเจ้าถูกยึดไป”
1 ซามูเอล 4:4-22 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
ดังนั้นประชาชนจึงให้คนไปยังชิโลห์ เพื่อนำหีบพันธสัญญาของพระผู้เป็นเจ้าจอมโยธา องค์ผู้สถิตบนบัลลังก์เหนือตัวเครูบมาจากที่นั่น โฮฟนีและฟีเนหัสบุตร 2 คนของเอลีอยู่กับหีบพันธสัญญาของพระเจ้าที่นั่น ทันทีที่หีบพันธสัญญาของพระผู้เป็นเจ้ามาถึงค่าย ชาวอิสราเอลทั้งปวงก็ตะโกนร้องเสียงดังจนพื้นดินสะท้าน เมื่อชาวฟีลิสเตียได้ยินเสียงตะโกน พวกเขาพูดว่า “เสียงดังสนั่นเช่นนี้ที่ค่ายของชาวฮีบรูหมายความว่าอย่างไร” และเมื่อพวกเขาทราบว่าหีบของพระผู้เป็นเจ้าได้มาถึงค่ายแล้ว ชาวฟีลิสเตียจึงหวาดกลัว เพราะพวกเขาพูดว่า “เทพเจ้าได้เข้ามาในค่ายแล้ว” และพูดอีกว่า “วิบัติเกิดกับเรา เพราะว่าไม่เคยมีอะไรเช่นนี้เกิดขึ้นมาก่อน วิบัติเกิดกับเรา ใครจะช่วยพวกเราให้รอดจากอำนาจของเทพเจ้าผู้มีอานุภาพเหล่านี้ได้ เทพเจ้าเหล่านี้แหละที่ฆ่าชาวอียิปต์ด้วยภัยพิบัติทุกชนิดในถิ่นทุรกันดาร โอ ชาวฟีลิสเตียเอ๋ย จงกล้าหาญ และทำตัวเป็นลูกผู้ชายเถิด มิฉะนั้นเจ้าจะต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของชาวฮีบรู เหมือนกับที่พวกเขาอยู่ภายใต้การควบคุมของเจ้า จงทำตัวเป็นลูกผู้ชายและสู้พวกเขา” ดังนั้นชาวฟีลิสเตียจึงต่อสู้ และชาวอิสราเอลก็พ่ายแพ้ ทุกคนจึงได้หนีกลับกระโจมไป นับว่าเป็นการฆ่าฟันที่รุนแรงมาก เพราะทหารราบ 30,000 คนล้มตายที่นั่น หีบของพระเจ้าถูกยึดไป โฮฟนีและฟีเนหัสบุตรทั้งสองคนของเอลีก็เสียชีวิต ชายชาวเบนยามินวิ่งออกจากสนามรบไปที่ชิโลห์ในวันเดียวกัน เสื้อผ้าของเขาฉีกขาดและหัวเปื้อนดิน เมื่อเขามาถึง เอลีก็กำลังนั่งเฝ้าอยู่ที่ริมถนน เนื่องจากว่าใจของเขาหวาดหวั่นถึงหีบของพระเจ้า เมื่อชายคนนั้นเข้าไปส่งข่าวในเมือง คนทั้งเมืองก็ส่งเสียงร้อง ครั้นเอลีได้ยินเสียงร้อง เขาพูดว่า “นั่นเสียงอลหม่านเรื่องอะไรกัน” ชายคนนั้นจึงรีบมาบอกเอลี ขณะนั้นเอลีมีอายุ 98 ปี ตาของเขามัวจนมองไม่เห็น และชายคนนั้นพูดกับเอลีว่า “ข้าพเจ้าเป็นคนที่มาจากสนามรบ วันนี้ข้าพเจ้าหนีสงครามมา” เขาถามว่า “ลูกเอ๋ย สงครามเป็นอย่างไรบ้าง” คนที่นำข่าวมาตอบว่า “ชาวอิสราเอลได้หนีเตลิดไปต่อหน้าชาวฟีลิสเตีย มีการฆ่าฟันครั้งใหญ่ในหมู่ชน โฮฟนีและฟีเนหัสบุตร 2 คนของท่านก็ตาย และหีบของพระเจ้าถูกยึดไป” ทันทีที่เขาพูดถึงหีบของพระเจ้า เอลีก็หงายหลังตกเก้าอี้ที่ข้างประตูเมืองลงมาคอหักตาย เพราะว่าเขาชรามากและตัวก็หนัก เขาได้วินิจฉัยอิสราเอลเป็นเวลา 40 ปี ขณะนั้นบุตรสะใภ้ของเขา คือภรรยาของฟีเนหัสกำลังตั้งครรภ์จวนใกล้คลอด เมื่อนางได้ยินข่าวว่าหีบของพระเจ้าถูกยึด อีกทั้งบิดาของสามีและสามีของนางเองก็เสียชีวิตแล้ว นางจึงก้มตัวลงและคลอดบุตร เพราะนางเจ็บครรภ์ขึ้นทันที เมื่อใกล้เวลาที่นางจะตาย หญิงรับใช้นางพูดกับนางว่า “อย่ากลัวเลย เพราะท่านได้บุตรชาย” แต่นางไม่ตอบและไม่ได้ใส่ใจฟัง และนางตั้งชื่อเด็กว่า อีคาโบด และพูดว่า “พระบารมีได้ไปจากอิสราเอลแล้ว” เพราะหีบของพระเจ้าถูกยึด และเป็นเพราะความตายของบิดาของสามีและสามีของนางด้วย และนางพูดว่า “พระบารมีได้จากอิสราเอลไปแล้ว เพราะหีบของพระเจ้าถูกยึด”