1 ซามูเอล 14:1-15

1 ซามูเอล 14:1-15 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

วันหนึ่งโยนาธานบุตรของซาอูลกล่าวกับคนหนุ่ม ที่ถือเครื่องอาวุธของท่านว่า <<มาเถิด ให้เราข้ามไปยังค่ายฟีลิสเตียข้างโน้น>> แต่หาได้ทูลพระบิดาของตนให้ทราบไม่ ซาอูลทรงพักอยู่ที่ชานเมืองกิเบอาห์ใต้ต้นทับทิม ซึ่งอยู่ที่ตำบลมิโกรน พลซึ่งอยู่ด้วยมีประมาณหกร้อยคน กับอาหิยาห์บุตรอาหิทูบพี่ชายของอีคาโบด บุตรของฟีเนหัสผู้เป็นบุตรของเอลีปุโรหิตแห่ง พระเจ้าที่เมืองชิโลห์ เขาถือเอโฟดไป และพวกพลไม่ทราบว่าโยนาธานไปแล้ว ตามทางข้ามเขาที่โยนาธานหาช่อง ที่จะข้ามไปยังค่ายของฟีลิสเตียนั้น มียอดหินแหลมอยู่ฟากทางข้างนี้ และฟากทางข้างโน้นยอดหนึ่งมีชื่อว่าโบเซส อีกยอดหนึ่งชื่อเสเนห์ หินแหลมยอดหนึ่งโผล่ขึ้นข้างเหนือหน้ามิคมาช และอีกยอดหนึ่งโผล่ขึ้นข้างใต้หน้าเกบา โยนาธานกล่าวกับคนหนุ่มที่ถือเครื่องอาวุธของท่านว่า <<มาเถิด ให้เราข้ามไปยังกองทหารรักษาการของ คนเหล่านั้นที่มิได้เข้าสุหนัต บางทีพระเจ้าจะทรงประกอบกิจเพื่อเรา เพราะว่าไม่มีสิ่งใดที่ขัดขวางพระเจ้า ได้ในการที่พระองค์จะทรงช่วยกู้ ไม่ว่าโดยคนมากหรือน้อย>> ผู้ถือเครื่องอาวุธของท่านจึงตอบท่านว่า <<จงกระทำทุกสิ่งที่จิตใจของท่านอยากกระทำ หันไปเถิด นี่แน่ะข้าพเจ้าอยู่กับท่าน ตามแต่จิตใจของท่านจะว่าอย่างไร>> แล้วโยนาธานกล่าวว่า <<ดูเถิด เราจะข้ามไปหาคนเหล่านั้น และจะสำแดงตัวของเราให้เขาเห็น ถ้าเขาจะกล่าวแก่เราว่า <จงคอยอยู่จนกว่าเราจะมาหาเจ้า> แล้วเราจะยืนนิ่งอยู่ในที่ของเรา และเราจะไม่ไปหาเขา แต่ถ้าเขาว่า <จงขึ้นมาหาเราเถิด> แล้วเราจึงจะขึ้นไปเพราะพระเจ้าทรงมอบเขาไว้ในมือเรา แล้วจะให้เรื่องนี้เป็นสัญญาณแก่เรา>> ทั้งสองจึงสำแดงตัวให้กองทหาร รักษาการคนฟีลิสเตียเห็น และคนฟีลิสเตียกล่าวว่า <<ดูซิ พวกฮีบรูออกมาจากรูที่ซ่อนตัวอยู่แล้ว>> และคนที่กองทหารรักษาการจึงร้องบอก โยนาธานและผู้ถือเครื่องอาวุธของท่านว่า <<จงขึ้นมาหาเราจะแจ้งให้เจ้าทราบสักเรื่องหนึ่ง>> และโยนาธานบอกผู้ถือเครื่องอาวุธของท่านว่า <<จงตามข้ามา เพราะพระเจ้าได้ทรงมอบเขาไว้ในมืออิสราเอลแล้ว>> แล้วโยนาธานก็คลานขึ้นไปและผู้ถือเครื่องอาวุธ ของท่านก็ตามไปด้วย คนเหล่านั้นก็ล้มตายหน้าโยนาธาน และผู้ถืออาวุธก็ฆ่าเขาทั้งหลายตามท่านไป การฆ่าฟันครั้งแรก ที่โยนาธานและผู้ถืออาวุธของท่านได้กระทำ นั้นมีประมาณยี่สิบคน อย่างในระยะทางครึ่งรอยไถในนาสักสองไร่ และบังเกิดการสั่นสะท้านในค่ายในทุ่งนาและในหมู่ ประชาชน กองทหารนั้นและถึงกองปล้นก็ตกใจตัวสั่นแผ่นดินได้ไหว กระทำให้เกิดการสั่นสะท้านมากยิ่งนัก

1 ซามูเอล 14:1-15 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

วันหนึ่งโยนาธานราชโอรสของซาอูลกล่าวกับคนหนุ่มที่ถือเครื่องอาวุธของท่านว่า “มาเถอะ ให้เราข้ามไปที่กองทหารฟีลิสเตียข้างโน้น” แต่ไม่ได้ทูลพระบิดาให้ทรงทราบ ซาอูลทรงพำนักอยู่ที่ชานเมืองกิเบอาห์ใต้ต้นทับทิม ซึ่งอยู่ที่ตำบลมิโกรน ทหารซึ่งอยู่กับพระองค์มีชายประมาณ 600 คน กับอาหิยาห์บุตรอาหิทูบพี่ชายของอีคาโบด บุตรของฟีเนหัสผู้เป็นบุตรของเอลีปุโรหิตของพระยาห์เวห์ที่เมืองชิโลห์ เป็นผู้สวมเอโฟด และพวกทหารไม่ทราบว่าโยนาธานไปแล้ว ตามทางข้ามเขาที่โยนาธานหาช่องที่จะข้ามไปยังกองทหารฟีลิสเตียนั้น มียอดหินแหลมอยู่ฟากทางข้างนี้ และฟากทางข้างโน้นยอดหินแหลมมีชื่อว่าโบเซส อีกยอดหนึ่งชื่อเสเนห์ หินแหลมยอดหนึ่งอยู่ทางเหนือหน้ามิคมาช และอีกยอดหนึ่งอยู่ทางใต้หน้าเกบา โยนาธานพูดกับคนหนุ่มที่ถือเครื่องอาวุธของท่านว่า “มาเถิด ให้เราข้ามไปยังกองทหารของพวกนี้ที่ไม่ได้เข้าสุหนัต บางทีพระยาห์เวห์จะทรงทำเพื่อเรา เพราะว่าไม่มีสิ่งใดที่ขัดขวางพระยาห์เวห์ได้ในการที่พระองค์จะทรงช่วยกู้ ไม่ว่าโดยคนมากหรือน้อย” ผู้ถือเครื่องอาวุธของท่านจึงตอบท่านว่า “จงทำทุกสิ่งที่ใจของท่านอยากทำ มุ่งไปเถิด นี่แน่ะ ข้าพเจ้าพร้อมร่วมกับท่าน แล้วแต่ใจของท่าน” แล้วโยนาธานพูดว่า “นี่แน่ะ เราจะข้ามไปหาพวกนั้นและจะให้พวกเขาเห็นตัว ดังนั้นถ้าพวกเขาจะพูดกับเราว่า ‘จงอยู่นิ่งๆ จนกว่าพวกเราจะมาถึงตัวพวกเจ้า’ แล้วเราจะยืนในที่ของเรา จะไม่ขึ้นไปหาพวกเขา แต่ถ้าพวกเขาว่า ‘จงขึ้นมาหาพวกเรา’ แล้วเราจะขึ้นไปเพราะพระยาห์เวห์ทรงมอบพวกเขาไว้ในมือเรา แล้วเรื่องนี้จะเป็นสัญญาณแก่เรา” ทั้งสองจึงให้กองทหารพวกฟีลิสเตียเห็นตัว และพวกฟีลิสเตียกล่าวว่า “นี่แน่ะ พวกฮีบรูออกมาจากรูที่พวกเขาซ่อนตัวอยู่แล้ว” พวกกองทหารจึงร้องบอกโยนาธานและผู้ถือเครื่องอาวุธของท่านว่า “จงขึ้นมาหาเรา แล้วเราจะบอกให้เจ้ารู้เรื่องสักเรื่องหนึ่ง” และโยนาธานจึงบอกผู้ถือเครื่องอาวุธของท่านว่า “จงขึ้นตามข้ามา เพราะพระยาห์เวห์ได้ทรงมอบพวกเขาไว้ในมืออิสราเอลแล้ว” แล้วโยนาธานก็คลานขึ้นไปและผู้ถือเครื่องอาวุธของท่านก็ตามไปด้วย พวกนั้นก็ล้มลงต่อหน้าโยนาธาน แล้วผู้ถืออาวุธก็ฆ่าพวกเขาตามท่านไป การฆ่าฟันครั้งแรก ที่โยนาธานและผู้ถืออาวุธของท่านฆ่านั้นมีประมาณ 20 คน ในระยะทางประมาณครึ่งรอยไถในนาสักสองไร่ครึ่ง และเกิดการสั่นสะท้านในค่ายในทุ่งนาและในพวกทหารทั้งหมด กองทหารนั้นและแม้แต่กองปล้นพวกนี้ก็หวาดกลัวตัวสั่นและแผ่นดินก็ไหว คือการสั่นสะท้านที่มาจากพระเจ้า

1 ซามูเอล 14:1-15 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

วัน​หนึ่ง​โยนาธาน​ลูกชาย​ของ​ซาอูล​ได้​พูด​กับ​เด็ก​หนุ่ม​ผู้​ถือ​อาวุธ​ของ​เขา​ว่า “มา​เถอะ ให้​พวก​เรา​ไป​ที่​ค่าย​ของ​คน​ฟีลิสเตีย​ที่​อยู่​ฝั่ง​โน้น​กัน” แต่​เขา​ไม่​ได้​บอก​ซาอูล​พ่อ​ของ​เขา (ขณะนั้น​ซาอูล​กำลัง​พักผ่อน​อยู่​ที่​ชาน​เมือง​กิเบอาห์​ใต้​ต้นทับทิม​ใน​มิโกรน กับ​คน​ประมาณ​หกร้อย​คน ซึ่ง​ใน​จำนวน​นั้น​มี​อาหิยาห์​ผู้​ที่​ใส่​เอโฟด​อยู่​ด้วย เขา​เป็น​ลูกชาย​ของ​อาหิทูบ​ซึ่ง​เป็น​พี่ชาย​ของ​อีคาโบด อีคาโบด​และ​อาหิทูบ​เป็น​ลูกชาย​ของ​ฟีเนหัส ฟีเนหัส​เป็น​ลูกชาย​ของ​เอลี เอลี​เคยเป็น​นักบวช​ของ​พระยาห์เวห์​อยู่​ที่​เมือง​ชิโลห์ ไม่​มี​ใคร​รู้​ว่า​โยนาธาน​ได้​ออก​ไป​แล้ว ทาง​ข้าม​ทั้ง​สอง​ข้าง​ที่​โยนาธาน​จะ​ใช้​ข้าม​เข้า​ไป​ยัง​ค่าย​ของ​ฟีลิสเตีย​นั้น​เป็น​หน้า​ผา หน้าผา​ทั้ง​สอง​ด้าน​นี้ ข้าง​หนึ่ง​เรียกว่า​โบเซส และ​อีก​ข้าง​หนึ่ง​เรียกว่า​เสเนห์ หน้าผา​ด้าน​หนึ่ง​อยู่​ทาง​เหนือ​ตรง​ฝั่ง​เมือง​มิคมาช ส่วน​หน้า​ผา​อีก​ด้าน​อยู่​ทาง​ใต้​ตรง​ฝั่ง​เมือง​เกบา) โยนาธาน​พูด​กับ​เด็ก​หนุ่ม​ผู้​ถือ​อาวุธ​ของ​เขา​ว่า “ไป​กัน​เถอะ พวก​เรา​ข้าม​ไป​ยัง​ป้อม​ทหาร​ของ​ไอ้​พวก​ผู้ชาย​ที่​ยัง​ไม่​ได้​ทำ​พิธีขลิบ​พวก​นั้น บางที​พระยาห์เวห์​อาจ​จะ​มา​ช่วย​เรา​ทำ​สิ่งนี้​ก็​ได้ ไม่​มี​อะไร​จะ​มา​ขัดขวาง​ไม่​ให้​พระยาห์เวห์​มา​ช่วย​กู้​ได้ ไม่​ว่า​พระองค์​จะ​ใช้​คน​มาก​หรือ​น้อย​ก็​ตาม” คน​ถือ​อาวุธ​ของ​เขา​พูด​ว่า “ทำ​อะไร​ก็​ได้​ตาม​ใจ​ท่าน ลุย​ไป​เลย ข้าพเจ้า​จะ​อยู่​เคียง​ข้าง​ท่าน​ตลอด​ไป” โยนาธาน​พูด​ว่า “ถ้า​อย่าง​นั้น​ไป​กัน​เถอะ พวก​เรา​จะ​ข้าม​ไป​หา​คน​ฟีลิสเตีย และ​ปล่อย​ให้​พวก​เขา​เห็น​พวก​เรา ถ้า​พวก​เขา​พูด​กับ​พวก​เรา​ว่า ‘คอย​อยู่​ที่​นั่น​จน​กว่า​พวก​เรา​จะ​ลง​ไป​หา​เจ้า’ พวก​เรา​ก็​จะ​หยุด​ใน​ที่​ที่​พวก​เรา​อยู่​และ​จะ​ไม่​ไป​หา​พวก​เขา แต่​ถ้า​พวก​เขา​พูด​ว่า ‘ขึ้น​มา​หา​พวก​เรา​สิ’ พวก​เรา​ก็​จะ​ปีน​ขึ้น​ไป เพราะ​นั่น​จะ​เป็น​สัญญาณ​ให้​กับ​เรา ว่า​พระยาห์เวห์​ได้​มอบ​พวก​เขา​ไว้​ใน​กำ​มือ​ของ​พวก​เรา​แล้ว” โยนาธาน​และ​คน​ถือ​อาวุธ​ของ​เขา​จึง​แสดง​ตัว​ให้​คน​ฟีลิสเตีย​ที่​ค่าย​ได้​เห็น พวก​เขา​ก็​พูด​ว่า “ดูซิ พวก​ฮีบรู​กำลัง​คลาน​ออก​จาก​รู​ที่​พวก​มัน​ใช้​หลบซ่อน” ชาย​คน​หนึ่ง​ใน​ค่าย​ก็​ตะโกน​ใส่​โยนาธาน​และ​คน​ถือ​อาวุธ​ของ​เขา​ว่า “ขึ้น​มา​หา​พวก​เรา​สิ แล้ว​พวก​เรา​จะ​ให้​บท​เรียน​กับ​พวก​เจ้า” ดังนั้น​โยนาธาน​จึง​พูด​กับ​คน​ถือ​อาวุธ​ของ​เขา​ว่า “ปีน​ตาม​เรา​มา พระยาห์เวห์​ได้​มอบ​พวก​เขา​ให้​อยู่​ใน​กำ​มือ​ของ​คน​อิสราเอล​แล้ว” โยนาธาน​ปีน​ขึ้น​ไป​ด้วย​มือ​และ​เท้า​ของ​เขา คน​ถือ​อาวุธ​ของ​เขา​ปีน​ตาม​มา​อย่าง​ติดๆ โยนาธาน​สู้รบ​กับ​คน​ฟีลิสเตีย และ​คน​ฟีลิสเตีย​ก็​ล้ม​ลง​ต่อหน้า​โยนาธาน คน​ถือ​อาวุธ​ของ​เขา​ก็​ตาม​มา​ติดๆ​และ​ได้​ฆ่า​ฟัน​พวก​นั้น​อยู่​ข้างหลัง​เขา ใน​การ​ปะทะ​กัน​ครั้ง​แรก พวก​เขา​สอง​คน​ฆ่า​คน​ฟีลิสเตีย​ตาย​ประมาณ​ยี่สิบ​คน​ใน​พื้นที่​ประมาณ​สอง​ไร่ จาก​นั้น​ทหาร​ทั้ง​กองทัพ​ของ​ฟีลิสเตีย​ก็​ตกใจ​กลัว​จน​ตัว​สั่น คือ​พวก​ที่​อยู่​ใน​ค่าย ใน​สนามรบ พวก​ที่​อยู่​ตาม​ป้อม​ต่างๆ​และ​พวก​ที่​อยู่​ใน​กอง​กำลัง​ย่อย ได้​เกิด​แผ่นดิน​ไหว​ขึ้น มัน​เป็น​ความ​หวาดกลัว​ที่​พระเจ้า​ส่ง​มา

1 ซามูเอล 14:1-15 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

วันหนึ่งโยนาธานราชโอรสของซาอูลกล่าวกับคนหนุ่มที่ถือเครื่องอาวุธของท่านว่า “มาเถอะ ให้เราข้ามไปที่กองทหารฟีลิสเตียข้างโน้น” แต่ไม่ได้ทูลพระบิดาให้ทรงทราบ ซาอูลทรงพำนักอยู่ที่ชานเมืองกิเบอาห์ใต้ต้นทับทิม ซึ่งอยู่ที่ตำบลมิโกรน ทหารซึ่งอยู่กับพระองค์มีชายประมาณ 600 คน กับอาหิยาห์บุตรอาหิทูบพี่ชายของอีคาโบด บุตรของฟีเนหัสผู้เป็นบุตรของเอลีปุโรหิตของพระยาห์เวห์ที่เมืองชิโลห์ เป็นผู้สวมเอโฟด และพวกทหารไม่ทราบว่าโยนาธานไปแล้ว ตามทางข้ามเขาที่โยนาธานหาช่องที่จะข้ามไปยังกองทหารฟีลิสเตียนั้น มียอดหินแหลมอยู่ฟากทางข้างนี้ และฟากทางข้างโน้นยอดหินแหลมมีชื่อว่าโบเซส อีกยอดหนึ่งชื่อเสเนห์ หินแหลมยอดหนึ่งอยู่ทางเหนือหน้ามิคมาช และอีกยอดหนึ่งอยู่ทางใต้หน้าเกบา โยนาธานพูดกับคนหนุ่มที่ถือเครื่องอาวุธของท่านว่า “มาเถิด ให้เราข้ามไปยังกองทหารของพวกนี้ที่ไม่ได้เข้าสุหนัต บางทีพระยาห์เวห์จะทรงทำเพื่อเรา เพราะว่าไม่มีสิ่งใดที่ขัดขวางพระยาห์เวห์ได้ในการที่พระองค์จะทรงช่วยกู้ ไม่ว่าโดยคนมากหรือน้อย” ผู้ถือเครื่องอาวุธของท่านจึงตอบท่านว่า “จงทำทุกสิ่งที่ใจของท่านอยากทำ มุ่งไปเถิด นี่แน่ะ ข้าพเจ้าพร้อมร่วมกับท่าน แล้วแต่ใจของท่าน” แล้วโยนาธานพูดว่า “นี่แน่ะ เราจะข้ามไปหาพวกนั้นและจะให้พวกเขาเห็นตัว ดังนั้นถ้าพวกเขาจะพูดกับเราว่า ‘จงอยู่นิ่งๆ จนกว่าพวกเราจะมาถึงตัวพวกเจ้า’ แล้วเราจะยืนในที่ของเรา จะไม่ขึ้นไปหาพวกเขา แต่ถ้าพวกเขาว่า ‘จงขึ้นมาหาพวกเรา’ แล้วเราจะขึ้นไปเพราะพระยาห์เวห์ทรงมอบพวกเขาไว้ในมือเรา แล้วเรื่องนี้จะเป็นสัญญาณแก่เรา” ทั้งสองจึงให้กองทหารพวกฟีลิสเตียเห็นตัว และพวกฟีลิสเตียกล่าวว่า “นี่แน่ะ พวกฮีบรูออกมาจากรูที่พวกเขาซ่อนตัวอยู่แล้ว” พวกกองทหารจึงร้องบอกโยนาธานและผู้ถือเครื่องอาวุธของท่านว่า “จงขึ้นมาหาเรา แล้วเราจะบอกให้เจ้ารู้เรื่องสักเรื่องหนึ่ง” และโยนาธานจึงบอกผู้ถือเครื่องอาวุธของท่านว่า “จงขึ้นตามข้ามา เพราะพระยาห์เวห์ได้ทรงมอบพวกเขาไว้ในมืออิสราเอลแล้ว” แล้วโยนาธานก็คลานขึ้นไปและผู้ถือเครื่องอาวุธของท่านก็ตามไปด้วย พวกนั้นก็ล้มลงต่อหน้าโยนาธาน แล้วผู้ถืออาวุธก็ฆ่าพวกเขาตามท่านไป การฆ่าฟันครั้งแรก ที่โยนาธานและผู้ถืออาวุธของท่านฆ่านั้นมีประมาณ 20 คน ในระยะทางประมาณครึ่งรอยไถในนาสักสองไร่ครึ่ง และเกิดการสั่นสะท้านในค่ายในทุ่งนาและในพวกทหารทั้งหมด กองทหารนั้นและแม้แต่กองปล้นพวกนี้ก็หวาดกลัวตัวสั่นและแผ่นดินก็ไหว คือการสั่นสะท้านที่มาจากพระเจ้า

1 ซามูเอล 14:1-15 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

อยู่​มาวันหนึ่งโยนาธานราชโอรสของซาอูลกล่าวกับคนหนุ่​มท​ี่ถือเครื่องอาวุธของท่านว่า “มาเถิด ให้​เราข้ามไปยังกองทหารรักษาการของคนฟีลิสเตียข้างโน้น” แต่​หาได้ทูลพระบิดาของตนให้ทราบไม่ ซาอูลทรงพักอยู่​ที่​ชานเมืองกิเบอาห์​ใต้​ต้นทั​บท​ิม ซึ่งอยู่​ที่​ตำบลมิโกรน พลซึ่งอยู่ด้วยมีประมาณหกร้อยคน กับอาหิยาห์​บุ​ตรชายอาหิทูบพี่ชายของอีคาโบด บุ​ตรชายของฟีเนหั​สผ​ู้เป็นบุตรชายของเอลี​ปุ​โรหิตแห่งพระเยโฮวาห์​ที่​เมืองชีโลห์ เขาถือเอโฟดไป และพวกพลไม่ทราบว่าโยนาธานไปแล้ว ตามทางข้ามเขาที่โยนาธานหาช่องที่จะข้ามไปยังค่ายของฟีลิสเตียนั้น มี​ยอดหินแหลมอยู่ฟากทางข้างนี้ และมียอดหินแหลมอยู่ฟากทางข้างโน้น ยอดหนึ่​งม​ีชื่อว่าโบเซส อี​กยอดหนึ่งชื่อเสเนห์ หินแหลมยอดหนึ่งโผล่ขึ้นข้างเหนือหน้ามิคมาช และอีกยอดหนึ่งโผล่ขึ้นข้างใต้​หน​้ากิเบอาห์ โยนาธานกล่าวกับคนหนุ่​มท​ี่ถือเครื่องอาวุธของท่านว่า “มาเถิด ให้​เราข้ามไปยังกองทหารรักษาการของคนเหล่านั้​นที​่​มิได้​เข้าสุหนัต บางที​พระเยโฮวาห์จะทรงประกอบกิจเพื่อเรา เพราะว่าไม่​มี​สิ​่งใดที่ขัดขวางพระเยโฮวาห์​ได้​ในการที่​พระองค์​จะทรงช่วยให้พ้นไม่ว่าโดยคนมากหรือน้อย” ผู้​ถือเครื่องอาวุธของท่านจึงตอบท่านว่า “จงกระทำทุกสิ่งที่​จิ​ตใจของท่านอยากกระทำ หันไปเถิด ดู​เถิด ข้าพเจ้าอยู่กั​บท​่าน ตามแต่​จิ​ตใจของท่านจะว่าอย่างไร” แล​้วโยนาธานกล่าวว่า “​ดู​เถิด เราจะข้ามไปหาคนเหล่านั้น และจะสำแดงตัวของเราให้เขาเห็น ถ้าเขาจะกล่าวแก่เราว่า ‘จงคอยอยู่จนกว่าเราจะมาหาเจ้า’ แล​้วเราจะยืนนิ่งอยู่ในที่ของเรา และเราจะไม่ไปหาเขา แต่​ถ้าเขาว่า ‘จงขึ้นมาหาเราเถิด’ แล​้วเราจึงจะขึ้นไป เพราะพระเยโฮวาห์ทรงมอบเขาไว้ในมือเราแล้ว จะให้เรื่องนี้เป็นสัญญาณแก่​เรา​” ทั้งสองจึงสำแดงตัวให้กองทหารรักษาการคนฟีลิสเตียเห็น และคนฟีลิสเตียกล่าวว่า “​ดู​เถิด พวกฮีบรูออกมาจากรู​ที่​ซ่อนตัวอยู่​แล้ว​” และคนที่กองทหารรักษาการจึงร้องบอกโยนาธานและผู้ถือเครื่องอาวุธของท่านว่า “จงขึ้นมาหาเรา แล​้วเราจะแจ้งให้​เจ้​าทราบสักเรื่องหนึ่ง” และโยนาธานบอกผู้ถือเครื่องอาวุธของท่านว่า “จงตามข้าขึ้นมา เพราะพระเยโฮวาห์​ได้​ทรงมอบเขาไว้ในมื​ออ​ิสราเอลแล้ว” แล​้วโยนาธานก็คลานขึ้นไปและผู้ถือเครื่องอาวุธของท่านก็ตามไปด้วย คนเหล่านั้​นก​็ล้มตายหน้าโยนาธาน และผู้ถือเครื่องอาวุธก็ฆ่าเขาทั้งหลายตามท่านไป การฆ่าฟั​นคร​ั้งแรกที่โยนาธานและผู้ถือเครื่องอาวุธของท่านได้กระทำนั้น มี​ประมาณยี่​สิ​บคน อย่างในระยะทางครึ่งรอยไถในนาสักสองไร่ และบังเกิดการสั่นสะท้านในค่าย ในทุ่งนาและในหมู่ประชาชนทั้งหมด กองทหารนั้นและถึงกองปล้​นก​็ตกใจตัวสั่น แผ่​นดินได้​ไหว กระทำให้​เก​ิดการสั่นสะท้านมากยิ่งนัก

1 ซามูเอล 14:1-15 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

วันหนึ่งโยนาธานบุตรของซาอูลกล่าวกับคนหนุ่ม ที่ถือเครื่องอาวุธของท่านว่า <<มาเถิด ให้เราข้ามไปยังค่ายฟีลิสเตียข้างโน้น>> แต่หาได้ทูลพระบิดาของตนให้ทราบไม่ ซาอูลทรงพักอยู่ที่ชานเมืองกิเบอาห์ใต้ต้นทับทิม ซึ่งอยู่ที่ตำบลมิโกรน พลซึ่งอยู่ด้วยมีประมาณหกร้อยคน กับอาหิยาห์บุตรอาหิทูบพี่ชายของอีคาโบด บุตรของฟีเนหัสผู้เป็นบุตรของเอลีปุโรหิตแห่ง พระเจ้าที่เมืองชิโลห์ เขาถือเอโฟดไป และพวกพลไม่ทราบว่าโยนาธานไปแล้ว ตามทางข้ามเขาที่โยนาธานหาช่อง ที่จะข้ามไปยังค่ายของฟีลิสเตียนั้น มียอดหินแหลมอยู่ฟากทางข้างนี้ และฟากทางข้างโน้นยอดหนึ่งมีชื่อว่าโบเซส อีกยอดหนึ่งชื่อเสเนห์ หินแหลมยอดหนึ่งโผล่ขึ้นข้างเหนือหน้ามิคมาช และอีกยอดหนึ่งโผล่ขึ้นข้างใต้หน้าเกบา โยนาธานกล่าวกับคนหนุ่มที่ถือเครื่องอาวุธของท่านว่า <<มาเถิด ให้เราข้ามไปยังกองทหารรักษาการของ คนเหล่านั้นที่มิได้เข้าสุหนัต บางทีพระเจ้าจะทรงประกอบกิจเพื่อเรา เพราะว่าไม่มีสิ่งใดที่ขัดขวางพระเจ้า ได้ในการที่พระองค์จะทรงช่วยกู้ ไม่ว่าโดยคนมากหรือน้อย>> ผู้ถือเครื่องอาวุธของท่านจึงตอบท่านว่า <<จงกระทำทุกสิ่งที่จิตใจของท่านอยากกระทำ หันไปเถิด นี่แน่ะข้าพเจ้าอยู่กับท่าน ตามแต่จิตใจของท่านจะว่าอย่างไร>> แล้วโยนาธานกล่าวว่า <<ดูเถิด เราจะข้ามไปหาคนเหล่านั้น และจะสำแดงตัวของเราให้เขาเห็น ถ้าเขาจะกล่าวแก่เราว่า <จงคอยอยู่จนกว่าเราจะมาหาเจ้า> แล้วเราจะยืนนิ่งอยู่ในที่ของเรา และเราจะไม่ไปหาเขา แต่ถ้าเขาว่า <จงขึ้นมาหาเราเถิด> แล้วเราจึงจะขึ้นไปเพราะพระเจ้าทรงมอบเขาไว้ในมือเรา แล้วจะให้เรื่องนี้เป็นสัญญาณแก่เรา>> ทั้งสองจึงสำแดงตัวให้กองทหาร รักษาการคนฟีลิสเตียเห็น และคนฟีลิสเตียกล่าวว่า <<ดูซิ พวกฮีบรูออกมาจากรูที่ซ่อนตัวอยู่แล้ว>> และคนที่กองทหารรักษาการจึงร้องบอก โยนาธานและผู้ถือเครื่องอาวุธของท่านว่า <<จงขึ้นมาหาเราจะแจ้งให้เจ้าทราบสักเรื่องหนึ่ง>> และโยนาธานบอกผู้ถือเครื่องอาวุธของท่านว่า <<จงตามข้ามา เพราะพระเจ้าได้ทรงมอบเขาไว้ในมืออิสราเอลแล้ว>> แล้วโยนาธานก็คลานขึ้นไปและผู้ถือเครื่องอาวุธ ของท่านก็ตามไปด้วย คนเหล่านั้นก็ล้มตายหน้าโยนาธาน และผู้ถืออาวุธก็ฆ่าเขาทั้งหลายตามท่านไป การฆ่าฟันครั้งแรก ที่โยนาธานและผู้ถืออาวุธของท่านได้กระทำ นั้นมีประมาณยี่สิบคน อย่างในระยะทางครึ่งรอยไถในนาสักสองไร่ และบังเกิดการสั่นสะท้านในค่ายในทุ่งนาและในหมู่ ประชาชน กองทหารนั้นและถึงกองปล้นก็ตกใจตัวสั่นแผ่นดินได้ไหว กระทำให้เกิดการสั่นสะท้านมากยิ่งนัก

1 ซามูเอล 14:1-15 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

วันหนึ่งโยนาธานราชโอรสของซาอูลตรัสกับมหาดเล็กหนุ่มผู้เชิญอาวุธว่า “ให้เราข้ามไปยังกองทหารรักษาการณ์ของฟีลิสเตียข้างโน้นกันเถิด” แต่โยนาธานไม่ได้ทูลราชบิดา ซาอูลตั้งค่ายอยู่ที่ชายแดนเมืองกิเบอาห์ ใต้ต้นทับทิมที่มิโกรน ทหารทั้งหกร้อยคนอยู่กับพระองค์ด้วย ในจำนวนนี้มีอาหิยาห์ผู้สวมเอโฟดอยู่ด้วย เขาเป็นบุตรของอาหิทูบ พี่ชายของอีคาโบด อาหิทูบเป็นบุตรของฟีเนหัส บุตรเอลีซึ่งเป็นปุโรหิตขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่ชิโลห์ ไม่มีผู้ใดทราบว่าโยนาธานไปแล้ว โยนาธานต้องข้ามช่องเขาซึ่งอยู่ระหว่างหน้าผาโบเซสและเสเนห์เพื่อไปยังกองทหารรักษาการณ์ของฟีลิสเตีย หน้าผาทางด้านเหนืออยู่ตรงหน้ามิคมาช ส่วนทางใต้อยู่ตรงหน้าเกบา โยนาธานกล่าวกับมหาดเล็กหนุ่มผู้เชิญอาวุธของเขาว่า “มาเถิด ให้เราไปยังกองทหารรักษาการณ์ด้านนอกของพวกที่ไม่เข้าสุหนัตเหล่านั้น บางทีองค์พระผู้เป็นเจ้าอาจจะทรงกระทำการเพื่อเรา ไม่มีสิ่งใดขัดขวางไม่ให้องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงช่วย ไม่ว่าคนจะมากหรือน้อย” ผู้เชิญอาวุธทูลว่า “ขอจงทำตามที่ท่านเห็นชอบเถิด ข้าพเจ้าสนับสนุนท่านเต็มที่” โยนาธานกล่าวว่า “ถ้าเช่นนั้นมาเถิด เราจะข้ามไปหาพวกนั้นและให้เขาเห็นเรา ถ้าเขาพูดว่า ‘หยุดอยู่ตรงนั้น เดี๋ยวเราจะไปหาพวกเจ้า’ เราก็จะหยุดอยู่ ไม่บุกเข้าไป แต่ถ้าเขาพูดว่า ‘ขึ้นมาสิ’ เราก็จะปีนขึ้นไป เพราะนั่นจะเป็นหมายสำคัญแก่เราว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงมอบพวกเขาไว้ในมือของเราแล้ว” ดังนั้นทั้งสองจึงแสดงตัวให้กองรักษาการณ์ฟีลิสเตียเห็น ชาวฟีลิสเตียก็ตะโกนว่า “ดูแน่ะ! พวกฮีบรูคลานออกมาจากรูที่ซ่อนตัวแล้ว” พวกเขาก็ตะโกนบอกโยนาธานและผู้ติดตามว่า “ขึ้นมาสิ จะสอนบทเรียนให้” โยนาธานร้องบอกผู้เชิญอาวุธว่า “ปีนตามหลังเรามาเลย องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงมอบพวกเขาไว้ในมือของอิสราเอลแล้ว” โยนาธานปีนขึ้นไป ผู้เชิญอาวุธปีนตามหลัง ชาวฟีลิสเตียล้มตายต่อหน้าโยนาธาน และผู้เชิญอาวุธของโยนาธานฆ่าฟันตามหลังมา ในการบุกโจมตีครั้งแรกนี้ โยนาธานกับผู้เชิญอาวุธฆ่าคนตายไปยี่สิบคนในเนื้อที่ราวหนึ่งไร่ ความหวาดผวาแผ่ไปทั่วกองทัพฟีลิสเตีย ทั้งพวกที่อยู่ในค่ายและในท้องทุ่ง ทั้งพวกที่อยู่ในกองทหารรักษาการณ์และกองโจร และเกิดแผ่นดินไหว เป็นความหวาดผวาที่พระเจ้าส่งมา

1 ซามูเอล 14:1-15 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

วัน​หนึ่ง​โยนาธาน​บุตร​ของ​ซาอูล​พูด​กับ​ชาย​หนุ่ม​ที่​ถือ​อาวุธ​ของ​ท่าน​ว่า “มา​เถิด เรา​ไป​ที่​ด่าน​ทหาร​ชั้น​นอก​อีก​ฟาก​ของ​ชาว​ฟีลิสเตีย​กัน​เถิด” แต่​ท่าน​ไม่​ได้​บอก​บิดา​ของ​ท่าน​ให้​ทราบ ขณะ​นั้น​ซาอูล​อยู่​ที่​ชาย​เมือง​กิเบอาห์ ใน​ถ้ำ​ทับทิม​ที่​มิโกรน มี​ทหาร​อยู่​ด้วย​ประมาณ 600 คน คน​ที่​อยู่​ด้วย​คือ​อาหิยาห์​บุตร​ของ​อาหิทูบ​ผู้​เป็น​พี่ชาย​ของ​อีคาโบด อาหิทูบ​เป็น​บุตร​ของ​ฟีเนหัส​บุตร​ของ​เอลี​ปุโรหิต​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ที่​เมือง​ชิโลห์ อาหิยาห์​สวม​ชุด​คลุม​ด้วย และ​ไม่​มี​ใคร​ทราบ​ว่า​โยนาธาน​ไป​แล้ว ทั้ง​สอง​ฟาก​ของ​ทาง​ข้าม​ที่​เนิน​เขา ที่​โยนาธาน​ตั้งใจ​จะ​ข้าม​ไป​ยัง​ด่าน​ทหาร​ชั้น​นอก​ของ​ฟีลิสเตีย​เป็น​หน้า​ผา ผา​หนึ่ง​มี​ชื่อ​ว่า โบเซส อีก​ผา​หนึ่ง​ชื่อ เสเนห์ ผา​หนึ่ง​หัน​ไป​ด้าน​เหนือ​ทาง​ไป​มิคมาช และ​อีก​ผา​หัน​ไป​ด้าน​ใต้​ทาง​ไป​เก-บา โยนาธาน​พูด​กับ​ชาย​หนุ่ม​ที่​ถือ​อาวุธ​ของ​ท่าน​ว่า “มา​เถิด เรา​ไป​ที่​ด่าน​ทหาร​ชั้น​นอก​ของ​คน​ที่​ไม่​ได้​เข้า​สุหนัต​พวก​นั้น​กัน​เถิด พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​อาจจะ​กระทำ​บาง​สิ่ง​เพื่อ​เรา​ก็​ได้ ไม่​มี​สิ่ง​ใด​ที่​จะ​ขวาง​กั้น​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ไม่​ให้​ช่วย​เรา ไม่​ว่า​จะ​เป็น​คน​จำนวน​มาก​หรือ​น้อย​ก็​ตาม” คน​ถือ​อาวุธ​ของ​ท่าน​พูด​ว่า “ท่าน​ประสงค์​สิ่ง​ใด ท่าน​ก็​ดำเนิน​การ​ไป ข้าพเจ้า​ขอ​อยู่​ติดตาม​ท่าน​จน​ชีวิต​จะ​หา​ไม่” โยนาธาน​พูด​ว่า “ถ้า​ฉะนั้น​ก็​ตาม​มา เรา​จะ​ข้าม​ไป​ทาง​ที่​พวก​ทหาร​อยู่ ให้​เขา​เห็น​พวก​เรา ถ้า​พวก​เขา​พูด​กับ​เรา​ว่า ‘รอ​อยู่​ที่​นั่น​จนกว่า​พวก​เรา​จะ​มา​หา​เจ้า’ เรา​ก็​จะ​อยู่​กับ​ที่ และ​ไม่​ขึ้น​ไป​ถึง​ตัว​พวก​เขา แต่​ถ้า​พวก​เขา​พูด​ว่า ‘ขึ้น​มา​หา​เรา​ได้’ เรา​ก็​จะ​ปีน​ขึ้น​ไป เพราะ​เป็น​สัญลักษณ์​ให้​เรา​รู้​ว่า​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ได้​มอบ​พวก​เขา​ไว้​ใน​มือ​ของ​พวก​เรา​แล้ว” ดังนั้น​ทั้ง​สอง​คน​จึง​ไป​แสดง​ตน​ให้​ชาว​ฟีลิสเตีย​เห็น​ที่​ด่าน​ทหาร​ชั้น​นอก พวก​ฟีลิสเตีย​พูด​ว่า “ดู​สิ ชาว​ฮีบรู​กำลัง​คลาน​ออก​มา​จาก​รู​ที่​ซ่อน​ตัว” พวก​ทหาร​ที่​ด่าน​ชั้น​นอก​ตะโกน​บอก​โยนาธาน​และ​คน​ถือ​อาวุธ​ว่า “ขึ้น​มา​ยัง​ที่​ของ​เรา​สิ แล้ว​เรา​จะ​สอน​บท​เรียน​ให้​กับ​เจ้า” โยนาธาน​จึง​พูด​กับ​คน​ถือ​อาวุธ​ว่า “ปีน​ตาม​เรา​ขึ้น​มา พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ได้​มอบ​พวก​เขา​ไว้​ใน​มือ​ของ​อิสราเอล​แล้ว” โยนาธาน​ใช้​เท้า​และ​มือ​ปีน​ขึ้น​ไป คน​ถือ​อาวุธ​ก็​ตาม​หลัง​ท่าน​อย่าง​ใกล้​ชิด พวก​ฟีลิสเตีย​ถูก​ฆ่า​และ​ล้ม​ตาย​อยู่​เบื้อง​หน้า​โยนาธาน และ​คน​ถือ​อาวุธ​ของ​ท่าน​ตาม​อยู่​ข้าง​หลัง​ก็​ได้​ฆ่า​ทหาร​ไป​ด้วย การ​โจมตี​ครั้ง​แรก​นั้น โยนาธาน​และ​คน​ถือ​อาวุธ​ของ​ท่าน​ฆ่า​ทหาร​ได้​ประมาณ 20 คน​ที่​อยู่​ใน​เขต​เนื้อ​ที่​ประมาณ​หนึ่ง​ไร่​เศษ เป็น​เหตุ​ให้​ทหาร​ทั้ง​กอง​ที่​อยู่​ทั้ง​ใน​ค่าย​และ​ใน​ทุ่ง​นา​กลัว ด่าน​ทหาร​ชั้น​นอก​และ​แม้​แต่​ทหาร​กอง​ปล้น​ก็​ยัง​กลัว​จน​ตัว​สั่น เกิด​แผ่นดิน​ไหว ทำ​ให้​สถานการณ์​เป็น​ที่​น่า​ตกใจ​ยิ่ง​นัก