1 ซามูเอล 13:5-23

1 ซามูเอล 13:5-23 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

และคนฟีลิสเตียรวมพลเพื่อต่อสู้คนอิสราเอล มีรถรบ 30,000 และพลม้า 6,000 และกองทหารนั้นก็มากมายเหมือนทรายที่ฝั่งทะเล พวกเขาก็ยกขึ้นมาตั้งค่ายอยู่ที่มิคมาชทางตะวันออกของเบธอาเวน เมื่อคนอิสราเอลเห็นว่าตกอยู่ในที่คับขัน (เพราะพวกทหารถูกกดดัน) แล้วประชาชนก็ซ่อนตัวอยู่ในถ้ำและในร่อง ในซอกหิน ในอุโมงค์และในบ่อ พวกฮีบรูบางคนได้ข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปยังดินแดนกาดและกิเลอาด แต่ซาอูลยังประทับอยู่ที่กิลกาลและประชาชนทั้งหมดติดตามพระองค์ไปอย่างหวาดกลัว พระองค์ทรงคอยอยู่ 7 วันตามเวลาที่ซามูเอลกำหนดไว้ แต่ซามูเอลไม่ได้มาที่กิลกาล พวกทหารก็กระจัดกระจายไปจากพระองค์ ดังนั้นซาอูลจึงตรัสว่า “จงนำเครื่องบูชาเผาทั้งตัวมาให้เราที่นี่และเครื่องศานติบูชาด้วย” และพระองค์ก็ถวายเครื่องบูชาเผาทั้งตัว พอพระองค์ถวายเครื่องบูชาเผาทั้งตัวนั้นเสร็จ นี่แน่ะ ซามูเอลก็มาถึง ซาอูลก็เสด็จออกไปต้อนรับและทรงคำนับท่าน ซามูเอลทูลว่า “ท่านได้ทำอะไรไปแล้วนี่?” และซาอูลตรัสตอบว่า “เมื่อข้าพเจ้าเห็นประชาชนแตกกระจายไปจากข้าพเจ้า และท่านก็ไม่ได้มาภายในวันที่กำหนดไว้ และพวกฟีลิสเตียก็ชุมนุมกันที่มิคมาช ข้าพเจ้าจึงว่า ‘บัดนี้ พวกฟีลิสเตียจะยกมารบกับข้าพเจ้าที่กิลกาล และข้าพเจ้ายังไม่ได้ทูลวิงวอนเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์’ ข้าพเจ้าจึงบังคับตัวเองขึ้นไปถวายเครื่องบูชาเผาทั้งตัว” และซามูเอลทูลซาอูลว่า “ท่านได้ทำการที่โง่เขลา ท่านไม่ได้รักษาพระบัญชาของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ซึ่งพระองค์ทรงบัญชาท่านไว้ เพราะพระยาห์เวห์จะได้ทรงสถาปนาราชอาณาจักรของท่านเหนืออิสราเอลตลอดไป แต่บัดนี้ราชอาณาจักรของท่านจะไม่ยั่งยืน พระยาห์เวห์ทรงหาชายอีกคนหนึ่งตามชอบพระทัยพระองค์แล้ว และพระยาห์เวห์ทรงแต่งตั้งชายผู้นั้นให้เป็นเจ้านายเหนือชนชาติของพระองค์ เพราะท่านไม่ได้รักษาสิ่งซึ่งพระเจ้าทรงบัญชาท่านไว้” และซามูเอลก็ลุกขึ้นไปจากกิลกาลถึงกิเบอาห์แห่งเผ่าเบนยามิน และซาอูลทรงนับพลซึ่งอยู่กับพระองค์ได้ชายประมาณ 600 คน ซาอูลกับโยนาธานราชโอรสของพระองค์ และทหารที่อยู่กับทั้งสองพระองค์ก็อยู่ในเกบาแห่งเผ่าเบนยามิน แต่พวกฟีลิสเตียตั้งค่ายอยู่ที่มิคมาช มีกองปล้นออกมาจากค่ายพวกฟีลิสเตียสามกอง กองหนึ่งหันไปทางโอฟราห์สู่แผ่นดินชูอัล อีกกองหนึ่งหันไปทางเบธโฮโรน และอีกกองหนึ่งหันไปทางพรมแดนซึ่งอยู่เหนือหุบเขาเศโบยิมตรงถิ่นทุรกันดาร คราวนั้นจะหาช่างเหล็กทั่วแผ่นดินอิสราเอลก็ไม่มี เพราะพวกฟีลิสเตียกล่าวว่า “เกรงว่าพวกฮีบรูจะทำดาบหรือหอก” แต่คนอิสราเอลทั้งปวงลงไปหาพวกฟีลิสเตียเพื่อลับผาล พลั่ว ขวานและเคียวของเขา ค่าลับนั้นสองส่วนสามเชเขลสำหรับลับผาล และพลั่ว และหนึ่งส่วนสามเชเขลสำหรับสามง่าม ขวานและติดประตัก เพราะฉะนั้น เมื่อถึงวันทำศึกจะหาดาบหรือหอกในมือของทหารที่อยู่กับซาอูลและโยนาธานก็ไม่ได้ แต่ซาอูลกับโยนาธานราชโอรสของพระองค์มี และกองทหารรักษาการของพวกฟีลิสเตียยกไปถึงทางที่ข้ามไปเมืองมิคมาช

1 ซามูเอล 13:5-23 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

ชาวฟีลิสเตียรวมตัวกันมาสู้กับอิสราเอล มีรถม้าศึกสามพันคัน พลรถรบหกพันคน และมีทหารมากมายดุจเม็ดทรายที่ชายทะเล พวกเขายกมาตั้งค่ายอยู่ที่มิคมาชทางตะวันออกของเบธอาเวน เมื่อชาวอิสราเอลเห็นว่าสถานการณ์คับขันและกองทัพของตนถูกตีอย่างหนักก็ซ่อนตัวตามถ้ำ ตามสุมทุมพุ่มไม้ ตามซอกหิน และในหลุมในบ่อ บางคนก็ข้ามแม่น้ำจอร์แดนหนีไปยังดินแดนของกาดและกิเลอาด ฝ่ายซาอูลยังคงอยู่ที่กิลกาล กองทหารทั้งหมดที่อยู่ด้วยพากันขวัญหนีดีฝ่อ ซาอูลรออยู่เจ็ดวันตามที่ซามูเอลกำหนดไว้ แต่เมื่อซามูเอลยังไม่มาที่กิลกาลและคนของซาอูลเริ่มแตกทัพ ซาอูลจึงสั่งว่า “จงนำเครื่องเผาบูชาและเครื่องสันติบูชามา” แล้วซาอูลก็ถวายเครื่องเผาบูชา ทันทีที่ถวายเสร็จ ซามูเอลก็มาถึง ซาอูลจึงออกไปต้อนรับ ซามูเอลถามว่า “ท่านทำอะไรลงไป?” ซาอูลตอบว่า “ข้าพเจ้าเห็นไพร่พลกระจัดกระจายไป และท่านไม่ได้มาตามเวลาที่กำหนดไว้ ฝ่ายชาวฟีลิสเตียก็มาชุมนุมกันอยู่ที่มิคมาช ข้าพเจ้าคิดว่า ‘ชาวฟีลิสเตียจะลงมาถล่มเราที่กิลกาลแล้ว เราเองก็ยังไม่ได้ขอความช่วยเหลือจากองค์พระผู้เป็นเจ้าเลย’ ฉะนั้นข้าพเจ้าจึงจำต้องถวายเครื่องเผาบูชา” ซามูเอลตำหนิว่า “ท่านทำตัวโง่เขลา ท่านไม่ได้ปฏิบัติตามพระบัญชาของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน หากท่านได้ปฏิบัติตาม พระองค์คงจะสถาปนาอาณาจักรของท่านเหนืออิสราเอลตลอดไป แต่บัดนี้อาณาจักรของท่านจะไม่ยืนยง องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงเลือกคนที่พระองค์ทรงชอบพระทัยยิ่งนัก และทรงแต่งตั้งเขาให้เป็นผู้นำประชากรของพระองค์ เนื่องจากท่านไม่ได้ปฏิบัติตามพระบัญชาขององค์พระผู้เป็นเจ้า” แล้วซามูเอลจึงไปจากกิลกาลสู่กิเบอาห์ในเขตเบนยามิน เมื่อซาอูลนับจำนวนพลที่ยังอยู่พบว่ามีเหลือเพียงหกร้อยคน ซาอูลกับโยนาธานราชโอรสและทหารที่อยู่ด้วยพักที่เมืองกิเบอาห์ในเขตเบนยามิน ส่วนชาวฟีลิสเตียตั้งค่ายอยู่ที่มิคมาช มีโจรสามกลุ่มจากค่ายฟีลิสเตีย กองหนึ่งไปยังโอฟราห์ในแดนชูอัล อีกกองหนึ่งไปยังเบธโฮโรน ส่วนกองที่สามเคลื่อนไปยังชายแดนเหนือหุบเขาเศโบอิมตรงข้ามถิ่นกันดาร ครั้งนั้นทั่วแดนอิสราเอลไม่มีช่างตีเหล็กเลย เพราะชาวฟีลิสเตียกล่าวว่า “เกรงว่าชาวฮีบรูจะตีดาบหรือหอกใช้!” ฉะนั้นเมื่อชาวอิสราเอลจะลับผาล คราด ขวาน หรือเคียว ก็ต้องไปหาชาวฟีลิสเตีย อัตราค่าจ้างคือเงินหนักสองในสามเชเขลเป็นค่าลับผาลและจอบ เงินหนักหนึ่งในสามเชเขลเป็นค่าลับคราด ขวาน และประตัก ฉะนั้นในวันสงคราม ทหารที่อยู่กับซาอูลและโยนาธานไม่มีหอกหรือดาบสักคนเดียว เว้นแต่ซาอูลและโยนาธานเท่านั้นที่มี ขณะเดียวกันนั้นช่องเขาที่มิคมาชมีกองทหารของฟีลิสเตียรักษาการณ์อยู่

1 ซามูเอล 13:5-23 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

คน​ฟีลิสเตีย​ได้​รวมพล​กัน​เพื่อ​สู้รบ​กับ​อิสราเอล พวก​เขา​มี​รถรบ​สาม​พัน คัน และ​ทหาร​ม้า​หก​พัน​คน และ​มี​ทหาร​มากมาย​เหมือน​กับ​ทราย​ที่​ชาย​ฝั่ง​ทะเล พวก​เขา​ขึ้น​ไป​ตั้ง​ค่าย​อยู่​ที่​มิคมาช ทาง​ทิศ​ตะวันออก​ของ​เบธาเวน เมื่อ​คน​อิสราเอล​เห็น​ว่า พวก​เขา​อยู่​ใน​สถานการณ์​ที่​คับขัน และ​กองทัพ​ของ​พวก​เขา​ก็​ถูก​กดดัน​อย่าง​หนัก พวก​เขา​จึง​ซ่อน​ตัว​อยู่​ตาม​ถ้ำ ตาม​พงไม้ ตาม​ซอกหิน ตาม​อุโมงค์ และ​ตาม​บ่อ​เก็บ​น้ำ คน​ฮีบรู​บางคน​ถึง​กับ​ข้าม​แม่น้ำ​จอร์แดน​ไป​ที่​เมือง​กาด​และ​กิเลอาด ส่วน​ซาอูล​ยัง​คง​อยู่​ที่​กิลกาล​และ​กอง​ทหาร​ทั้งหมด​ที่​อยู่​กับ​เขา​ต่าง​กลัว​จน​ตัว​สั่น ซาอูล​ได้​เฝ้า​คอย​อยู่​เจ็ด​วัน ตาม​เวลา​ที่​ซามูเอล​ได้​กำหนด​ไว้ แต่​ซามูเอล​ก็​ไม่​ได้​มา​ที่​กิลกาล และ​ประชาชน​ที่​อยู่​กับ​ซาอูล​ก็​เริ่ม​กระจัด​กระจาย​ไป ดังนั้น​เขา​จึง​พูด​ว่า “เอา​เครื่อง​เผา​บูชา และ​เครื่อง​สังสรรค์​บูชา​มา​ให้​เรา” และ​ซาอูล​ก็​ได้​ถวาย​เครื่อง​เผา​บูชา ทันที​ที่​ซาอูล​ถวาย​เครื่อง​เผา​บูชา​เสร็จสิ้น​ลง ซามูเอล​ก็​มา​ถึง ซาอูล​จึง​ออก​ไป​ต้อนรับ​เขา ซามูเอล​ถาม​ว่า “ท่าน​ได้​ทำ​อะไร​ลง​ไป” ซาอูล​ตอบ​ว่า “เมื่อ​เรา​เห็น​ว่า​ประชาชน​เริ่ม​กระจัด​กระจาย​ไป และ​ท่าน​ก็​ไม่​มา​ตาม​เวลา​ที่​นัด​ไว้ และ​คน​ฟีลิสเตีย​ก็​ได้​รวมพล​กัน​ที่​มิคมาช เรา​คิด​ว่า ‘ตอน​นี้​คน​ฟีลิสเตีย​จะ​ลง​มา​ต่อสู้​กับ​เรา​ที่​กิลกาล และ​เรา​ก็​ยัง​ไม่​ได้​ขอ​ให้​พระยาห์เวห์​ช่วย​เหลือ ดังนั้น​เรา​จึง​ฝืนใจ​ถวาย​เครื่อง​เผา​บูชา​เอง’” ซามูเอล​พูด​ว่า “ท่าน​ได้​ทำ​สิ่ง​ที่​โง่ๆ​ลง​ไป​แล้ว ท่าน​ไม่​ได้​ทำ​ตาม​คำสั่ง​ที่​พระยาห์เวห์ พระเจ้า​ของ​ท่าน​ได้​สั่ง​ท่าน​ไว้ ถ้า​ท่าน​ได้​ทำ​ตาม พระองค์​จะ​ก่อ​ตั้ง​อาณาจักร​ของ​ท่าน​เหนือ​คน​อิสราเอล​ตลอด​ไป แต่ ตอน​นี้ อาณาจักร​ของ​ท่าน​จะ​ไม่​ยั่งยืน​อีก​แล้ว พระยาห์เวห์​ได้​ค้นหา​ผู้ชาย​อีก​คน​หนึ่ง​ที่​จะ​ทำ​ตาม​ใจ​พระองค์ และ​ได้​แต่งตั้ง​เขา​ให้​เป็น​ผู้นำ​ประชาชน​ของ​พระองค์​แล้ว เพราะ​ท่าน​ไม่​ได้​รักษา​คำสั่ง​ของ​พระยาห์เวห์” จาก​นั้น​ซามูเอล​ก็​ลุก​ขึ้น​ไป​จาก​กิลกาล ซาอูล​และ​กองทัพ​ที่​เหลือ​ของ​เขา​ได้​จาก​กิลกาล ไป​ยัง​เมือง​กิเบอาห์​ใน​เขตแดน​เบนยามิน ซาอูล​นับ​คน​ที่​เหลือ​อยู่​กับ​เขา​ได้​ประมาณ​หก​ร้อย​คน ซาอูล​และ​โยนาธาน​ลูกชาย​ของ​เขา​กับ​คน​ที่​อยู่​กับ​เขา ได้​ไป​พัก​อยู่​ที่​เกบา​ใน​เขตแดน​เบนยามิน ใน​ขณะ​ที่​คน​ฟีลิสเตีย​ตั้ง​ค่าย​อยู่​ที่​มิคมาช คน​ฟีลิสเตีย​ได้​แบ่ง​กำลัง​สำหรับ​โจมตี​ออก​เป็น​สาม​กอง กอง​ที่​หนึ่ง​มุ่ง​ตรง​ไป​โอฟราห์​ที่​อยู่​ใกล้​กับ​ชูอัล กอง​ที่​สอง​ตรง​ไป​เบธโฮโรน และ​กอง​ที่​สาม​ตรง​ไป​ที่​เขตแดน​เหนือ​หุบเขา​เศโบอิม​ที่​หัน​ไป​ทาง​ทะเลทราย คน​ฟีลิสเตีย​ไม่​ยอม​ให้​มี​ช่าง​ตี​เหล็ก​เหลือ​อยู่​ใน​แผ่นดิน​อิสราเอล​แม้แต่​คน​เดียว เพราะ​คน​ฟีลิสเตีย​พูด​กัน​ว่า “ไม่​อย่าง​นั้น​คน​ฮีบรู​จะ​ทำ​ดาบ ทำ​หอก​ใช้​กัน” ดังนั้น​คน​อิสราเอล​ทั้งหมด​จึง​ต้อง​ลง​ไป​หา​คน​ฟีลิสเตีย​เพื่อ​ลับ​คราด พลั่ว ขวาน และ​เคียว​ของ​พวก​เขา​ให้​คม คน​ฟีลีสเตีย​คิด​ค่า​ลับ​คราด​และ​พลั่ว เป็น​เงิน​แปด​กรัม และ​คิด​ค่า​ลับ​สามง่าม ขวาน และ​ปฏัก เป็น​เงิน​สี่​กรัม ดังนั้น ใน​วัน​ที่​สู้​รบ​กัน​นั้น กอง​ทหาร​ของ​ซาอูล​และ​โยนาธาน จึง​ไม่​มี​ดาบ​หรือ​หอก​อยู่​ใน​มือ มี​แต่​ซาอูล​และ​โยนาธาน​ลูกชาย​เท่านั้น​ที่​มี ตอนนี้​กอง​กำลัง​กอง​หนึ่ง​ของ​ฟีลิสเตีย​ได้​เดินทาง​มา​ถึง​ทางข้าม​ที่​จะ​ไป​เมือง​มิคมาช​แล้ว

1 ซามูเอล 13:5-23 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

และคนฟีลิสเตียชุ​มนุ​มกันเพื่อจะต่อสู้คนอิสราเอล มี​รถรบสามหมื่น และพลม้าหกพัน และกองทหารนั้​นก​็มากมายเหมือนเม็ดทรายที่​ฝั่งทะเล เขาก็ยกขึ้นมาตั้งค่ายอยู่​ที่​มิ​คมาช ทางตะวันออกของเบธาเวน เมื่อคนอิสราเอลเห็​นว​่าตกอยู่ในที่​คับแค้น (เพราะประชาชนถู​กบ​ีบคั้นอย่างหนัก) แล​้วประชาชนก็ซ่อนตัวอยู่ในถ้ำ และในพุ่มไม้หนาทึบในซอกหิน ในอุโมงค์และในบ่อ พวกฮีบรูบางคนได้ข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปยั​งด​ินแดนกาดและกิเลอาด แต่​ฝ่ายซาอูลพระองค์ยังประทั​บอย​ู่​ที่​กิลกาล และประชาชนทั้งหมดติดตามพระองค์ไปด้วยตัวสั่น พระองค์​ทรงคอยอยู่​เจ​็ดวันตามเวลาที่ซามูเอลกำหนดไว้ แต่​ซามูเอลมิ​ได้​มาที่กิลกาล ประชาชนก็แตกกระจายไปจากพระองค์ ดังนั้นซาอูลจึงตรั​สว​่า “จงนำเครื่องเผาบูชามาให้เราที่​นี่ และเครื่องสันติบู​ชาด​้วย” และพระองค์​ก็ได้​ถวายเครื่องเผาบู​ชา ต่อมาพอพระองค์ถวายเครื่องเผาบูชาเสร็จ ดู​เถิด ซามูเอลก็​มาถึง ซาอู​ลก​็เสด็จออกไปต้อนรับและทรงคำนั​บท​่าน ซามูเอลถามว่า “ท่านได้กระทำอะไรไปแล้​วน​ี่” และซาอูลตรัสตอบว่า “เมื่อข้าพเจ้าเห็นประชาชนแตกกระจายไปจากข้าพเจ้า และท่านก็​มิได้​มาภายในวั​นที​่กำหนดไว้ และคนฟีลิสเตี​ยก​็​ได้​ชุ​มนุ​มกั​นที​่​มิ​คมาช ข้าพเจ้าจึงว่า ‘​บัดนี้ คนฟีลิสเตียจะยกมารบกับข้าพเจ้าที่กิลกาล และข้าพเจ้ายั​งม​ิ​ได้​ทูลขอพระกรุณาแห่งพระเยโฮวาห์’ ข้าพเจ้าจึงข่มตัวเอง และได้ถวายเครื่องเผาบู​ชา​” และซามูเอลกล่าวแก่ซาอูลว่า “ท่านได้กระทำการที่​โง่​เขลาเสียแล้ว ท่านมิ​ได้​รักษาพระบัญชาแห่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ซึ่งพระองค์ทรงบัญชาท่านไว้ เพราะพระเยโฮวาห์จะได้ทรงสถาปนาราชอาณาจักรของท่านเหนื​ออ​ิสราเอลเป็นนิตย์​แล้ว แต่​บัดนี้​ราชอาณาจักรของท่านจะไม่​ยั่งยืน พระเยโฮวาห์ทรงหาชายอีกคนหนึ่งตามชอบพระทัยพระองค์​แล้ว และพระเยโฮวาห์ทรงบัญชาชายผู้นั้นให้เป็นเจ้านายเหนือชนชาติของพระองค์ เพราะท่านมิ​ได้​รักษาสิ่งซึ่งพระเยโฮวาห์ทรงบัญชาท่านไว้” และซามูเอลก็​ลุ​กขึ้นไปจากกิลกาลถึ​งก​ิเบอาห์​แห่​งคนเบนยามิน และซาอูลทรงนับพลซึ่งอยู่กับพระองค์​ได้​ประมาณหกร้อยคน ซาอู​ลก​ับโยนาธานราชโอรสของพระองค์ และพลที่​อยู่​กับพระองค์​ก็​อยู่​ในกิเบอาห์​แห่​งคนเบนยามิน แต่​คนฟีลิสเตียตั้งค่ายอยู่​ที่​มิ​คมาช มี​กองปล้นออกมาจากค่ายคนฟีลิสเตียสามกอง กองหนึ่งหันตรงไปยังโอฟราห์ยังแผ่นดินชู​อัล อี​กกองหนึ่งหันตรงไปยังเบธโฮโรน และอีกกองหนึ่งหันตรงไปยังพรมแดนซึ่งอยู่เหนือหุบเขาเศโบอิมตรงถิ่นทุ​รก​ันดาร คราวนั้นจะหาช่างเหล็กทั่วแผ่นดิ​นอ​ิสราเอลก็​ไม่มี เพราะคนฟีลิสเตียกล่าวว่า “เกรงว่าพวกฮีบรูจะทำดาบหรือหอกใช้​เอง​” แต่​คนอิสราเอลทุกคนลงไปยังฟีลิสเตียเพื่อลับเหล็กไถ ผาล ขวานและจอบของเขา แต่​พวกเขาคิดค่าลับสำหรับลับจอบ ผาล สามง่าม ขวาน และติดประตัก เพราะฉะนั้นเมื่อถึงวันทำศึกจะหาดาบหรือหอกในมือของพลที่​อยู่​กับซาอูลและโยนาธานก็​ไม่ได้ แต่​ซาอู​ลก​ับโยนาธานราชโอรสของพระองค์​มี และกองทหารรักษาการของคนฟีลิสเตียยกไปถึงทางที่ข้ามไปเมืองมิคมาช

1 ซามูเอล 13:5-23 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

และคนฟีลิสเตียชุมนุมกันเพื่อจะต่อสู้คนอิสราเอล มีรถรบสามหมื่นและพลม้าหกพัน และกองทหารนั้นก็มากมายเหมือนทรายที่ฝั่งทะเล เขาก็ยกขึ้นมาตั้งค่ายอยู่ที่มิคมาชทาง ตะวันออกของเบธาเวน เมื่อคนอิสราเอลเห็นว่าตกอยู่ในที่คับแค้น (เพราะประชาชนถูกบีบคั้นอย่างหนัก) แล้วประชาชนก็ซ่อนตัวอยู่ในถ้ำและในรูในซอกหิน ในอุโมงค์และในบ่อ พวกฮีบรูบางคนได้ข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปยังดินแดนกาดและ กิเลอาด แต่ฝ่ายซาอูลพระองค์ยังประทับอยู่ที่กิลกาลและประชาชน ทั้งหมดติดตามพระองค์ไปด้วยตัวสั่น พระองค์ทรงคอยอยู่เจ็ดวันตาม เวลาที่ซามูเอลกำหนดไว้ แต่ซามูเอลมิได้มาที่กิลกาล ประชาชนก็แตกกระจายไปจากพระองค์ ดังนั้นซาอูลจึงตรัสว่า <<จงนำเครื่องเผาบูชามาให้เราที่นี่และเครื่องศานติบูชาด้วย>> และพระองค์ก็ได้ถวายเครื่องเผาบูชา พอพระองค์ถวายเครื่องเผาบูชาเสร็จ ดูเถิด ซามูเอลก็มาถึง ซาอูลก็เสด็จออกไปต้อนรับและทรงคำนับท่าน ซามูเอลถามว่า <<ท่านได้กระทำอะไรไปแล้วนี่>> และซาอูลตรัสตอบว่า <<เมื่อข้าพเจ้าเห็นประชาชนแตกกระจายไปจากข้าพเจ้า และท่านก็มิได้มาภายในวันที่กำหนดไว้และคน ฟีลิสเตียก็ได้ชุมนุมกันที่มิคมาช ข้าพเจ้าจึงว่า <บัดนี้ คนฟีลิสเตียจะยกมารบกับข้าพเจ้าที่กิลกาล และข้าพเจ้ายังมิได้ทูลขอพระกรุณาแห่งพระเจ้า> ข้าพเจ้าจึงข่มตัวเองและได้ถวายเครื่องเผาบูชา>> และซามูเอลกล่าวแก่ซาอูลว่า <<ท่านได้กระทำการที่โง่เขลาเสียแล้ว ท่านมิได้รักษาพระบัญชาแห่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ซึ่งพระองค์ทรงบัญชาท่านไว้ เพราะพระเจ้าจะได้ทรงสถาปนาราชอาณาจักรของท่านเหนืออิสราเอลเป็นนิตย์แล้ว แต่บัดนี้ราชอาณาจักรของท่านจะไม่ยั่งยืน พระเจ้าทรงหาชายอีกคนหนึ่งตามชอบพระทัย พระองค์แล้ว และพระเจ้าทรงแต่งตั้งชายผู้นั้นให้เป็นเจ้านายเหนือ ชนชาติของพระองค์ เพราะท่านมิได้รักษาสิ่งซึ่งพระเจ้าทรงบัญชาท่านไว้>> และซามูเอลก็ลุกขึ้นไปจากกิลกาลถึงกิเบอาห์ แห่งเผ่าเบนยามิน และซาอูลทรงนับพลซึ่งอยู่กับพระองค์ได้ประมาณหกร้อยคน ซาอูลกับโยนาธานราชโอรสของพระองค์ และพลที่อยู่กับพระองค์ก็อยู่ในเกบาแห่งเผ่าเบนยามิน แต่คนฟีลิสเตียตั้งค่ายอยู่ที่มิคมาช มีกองปล้นออกมาจากค่ายคนฟีลิสเตียสามกอง กองหนึ่งหันตรงไปยังโอฟราห์ยังแผ่นดินชูอัล อีกกองหนึ่งหันตรงไปยังเบธโฮโรนและอีกกองหนึ่งหันตรง ไปยังพรมแดนซึ่งอยู่เหนือหุบเขาเศโบอิมตรงถิ่นทุรกันดาร คราวนั้นจะหาช่างเหล็กทั่วแผ่นดินอิสราเอลก็ไม่มี เพราะคนฟีลิสเตียกล่าวว่า <<เกรงว่าพวกฮีบรูจะทำดาบหรือหอกใช้เอง>> แต่คนอิสราเอลทุกคนไปยังฟีลิสเตียเพื่อลับผาล ขวานและจอบของเขา ค่าลับนั้นพิมหนึ่งสำหรับลับจอบ ผาล สามง่าม ขวานและ ติดประตัก เพราะฉะนั้นเมื่อถึงวันทำศึกจะหาดาบหรือหอก ในมือของพลที่อยู่กับซาอูลและโยนาธานก็ไม่ได้ แต่ซาอูลกับโยนาธานราชโอรสของพระองค์มี และกองทหารรักษาการของคนฟีลิสเตียยกไปถึงทาง ที่ข้ามไปเมืองมิคมาช

1 ซามูเอล 13:5-23 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

ชาว​ฟีลิสเตีย​ประชุม​กัน​เพื่อ​ต่อสู้​กับ​อิสราเอล มี​รถ​ศึก 30,000 คัน สารถี 6,000 คน และ​กองทัพ​มี​จำนวน​มาก​ราวกับ​เม็ด​ทราย​บน​ชาย​ฝั่ง​ทะเล พวก​เขา​ขึ้น​ไป​ตั้ง​ค่าย​ที่​มิคมาช ทาง​ตะวัน​ออก​ของ​เบธอาเวน เมื่อ​ชาย​ชาว​อิสราเอล​เห็น​ว่า​ตน​อยู่​ใน​สถานการณ์​ไม่​สู้​ดี (เพราะ​ประชาชน​ถูก​โจมตี​อย่าง​หนัก) จึง​ได้​หลบ​ซ่อน​อยู่​ใน​ถ้ำ​และ​ใน​รู ใน​ซอก​หิน ใน​อุโมงค์ และ​ใน​บ่อ ชาว​ฮีบรู​บาง​คน​ถึง​กับ​ข้าม​แม่น้ำ​จอร์แดน​ไปยัง​ดินแดน​กาด​และ​กิเลอาด ซาอูล​ยัง​อยู่​ที่​กิลกาล และ​ทหาร​ทั้ง​หมด​ที่​อยู่​ด้วย​กับ​ท่าน​ก็​กลัว​จน​ตัว​สั่น ซาอูล​คอย​อยู่ 7 วัน​ตาม​เวลา​ที่​ซามูเอล​กำหนด​ไว้ แต่​ซามูเอล​ไม่​ได้​มา​ที่​กิลกาล และ​ทหาร​ของ​ซาอูล​เริ่ม​ระส่ำระสาย ท่าน​จึง​กล่าว​ว่า “เอา​สัตว์​ที่​ใช้​เผา​เป็น​ของ​ถวาย​และ​ของ​ถวาย​เพื่อ​สามัคคี​ธรรม​มา​ให้​เรา” และ​ซาอูล​ก็​มอบ​สัตว์​ที่​ใช้​เผา​เป็น​ของ​ถวาย ทันที​ที่​ท่าน​มอบ​ของ​ถวาย​เสร็จ ซามูเอล​ก็​มา​ถึง ซาอูล​จึง​ออก​ไป​ทักทาย ซามูเอล​ถาม​ว่า “ท่าน​กระทำ​อะไร​ลง​ไป” ซาอูล​ตอบ​ว่า “เมื่อ​เรา​เห็น​ว่า​ทหาร​ระส่ำระสาย และ​ท่าน​ก็​ไม่​ได้​มา​ตาม​เวลา​ที่​กำหนด​ไว้ และ​ชาว​ฟีลิสเตีย​ก็​ประชุม​กัน​ที่​มิคมาช เรา​จึง​คิด​ว่า ‘คราว​นี้​ชาว​ฟีลิสเตีย​จะ​ลง​มา​โจมตี​เรา​ที่​กิลกาล และ​เรา​ยัง​ไม่​ได้​ขอ​ให้​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ช่วย’ เรา​รู้สึก​ว่า​ควร​จะ​มอบ​สัตว์​ที่​ใช้​เผา​เป็น​ของ​ถวาย” ซามูเอล​พูด​ว่า “ท่าน​กระทำ​สิ่ง​ที่​โง่​เขลา ท่าน​ไม่​ได้​รักษา​คำ​บัญชา​ที่​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​ท่าน​ให้​ท่าน​ไว้ หากว่า​ท่าน​รักษา​คำ​บัญชา พระ​องค์​ก็​จะ​สถาปนา​อาณาจักร​ของ​ท่าน​ให้​ปกครอง​อิสราเอล​ไป​ตลอด​กาล แต่​บัดนี้​อาณาจักร​ของ​ท่าน​จะ​ไม่​มั่นคง พระ​ผู้​เป็น​เจ้าหา​ชาย​คน​หนึ่ง​ผู้​เป็น​ที่​โปรดปราน​ของ​พระ​องค์​ยิ่งนัก และ​ได้​แต่งตั้ง​ให้​ท่าน​เป็น​ผู้​นำ​ของ​ชน​ชาติ​ของ​พระ​องค์ เพราะ​ท่าน​ไม่​ได้​รักษา​คำ​บัญชา​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า” จาก​นั้น​ซามูเอล​ก็​ไป​จาก​กิลกาล และ​ขึ้น​ไป​ยัง​กิเบอาห์​ของ​เบนยามิน และ​ซาอูล​นับ​จำนวน​ทหาร​ที่​อยู่​กับ​ท่าน มี​ประมาณ 600 คน ซาอูล​และ​โยนาธาน​บุตร​ของ​ท่าน และ​ทหาร​ที่​ติดตาม​ก็​อยู่​ที่​กิเบอาห์​ของ​เบนยามิน ขณะ​เดียว​กับ​ที่​ชาว​ฟีลิสเตีย​ตั้ง​ค่าย​อยู่​ที่​มิคมาช ทหาร​กอง​ปล้น​ออก​ไป​จาก​ค่าย​ของ​ฟีลิสเตีย​เป็น 3 กอง กอง​หนึ่ง​ออก​ไป​ทาง​โอฟราห์​บริเวณ​ใกล้​เคียง​ชูอัล อีก​กอง​ไป​ทาง​เบธโฮโรน และ​กอง​ที่​สาม​ไป​ทาง​ชายแดน​ที่​หัน​ลง​สู่​หุบเขา​เศโบอิม​ทาง​ถิ่น​ทุรกันดาร ใน​ครั้ง​นั้น​ไม่​มี​ช่าง​เหล็ก​ทั่ว​แผ่นดิน​อิสราเอล เพราะ​ชาว​ฟีลิสเตีย​พูด​ไว้​ว่า “มิฉะนั้น​พวก​ชาว​ฮีบรู​จะ​ตี​ดาบ​และ​หอก​ไว้​ใช้” ดังนั้น​ชาว​อิสราเอล​ทุก​คน​จึง​ลง​ไป​ยัง​ถิ่น​ของ​ชาว​ฟีลิสเตีย​เพื่อ​ให้​คน​ลับ​ใบ​มีด​คัน​ไถ จอบ ขวาน และ​เคียว ค่า​แรง​สอง​ส่วน​สาม​เชเขล​สำหรับ​ลับ​ใบ​มีด​คัน​ไถ​และ​จอบ และ​หนึ่ง​ส่วน​สาม​เชเขล​สำหรับ​ลับ​ส้อม​สาม​ง่าม ขวาน และ​ส้อม​ประตัก ฉะนั้น​ใน​วัน​สู้​รบ ทหาร​ทุก​คน​ที่​อยู่​กับ​ซาอูล​และ​โยนาธาน​ไม่​มี​ดาบ​หรือ​หอก​ติด​มือ ซาอูล​กับ​โยนาธาน​บุตร​ของ​ท่าน​เท่า​นั้น​ที่​มี​อาวุธ ส่วน​ทหาร​ประจำ​ด่าน​ของ​ฟีลิสเตีย​ก็​ออก​ไป​ยัง​ทาง​ข้าม​ที่​เนิน​เขา​ที่​มิคมาช