1 ซามูเอล 13:5-23
1 ซามูเอล 13:5-23 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
และคนฟีลิสเตียรวมพลเพื่อต่อสู้คนอิสราเอล มีรถรบ 30,000 และพลม้า 6,000 และกองทหารนั้นก็มากมายเหมือนทรายที่ฝั่งทะเล พวกเขาก็ยกขึ้นมาตั้งค่ายอยู่ที่มิคมาชทางตะวันออกของเบธอาเวน เมื่อคนอิสราเอลเห็นว่าตกอยู่ในที่คับขัน (เพราะพวกทหารถูกกดดัน) แล้วประชาชนก็ซ่อนตัวอยู่ในถ้ำและในร่อง ในซอกหิน ในอุโมงค์และในบ่อ พวกฮีบรูบางคนได้ข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปยังดินแดนกาดและกิเลอาด แต่ซาอูลยังประทับอยู่ที่กิลกาลและประชาชนทั้งหมดติดตามพระองค์ไปอย่างหวาดกลัว พระองค์ทรงคอยอยู่ 7 วันตามเวลาที่ซามูเอลกำหนดไว้ แต่ซามูเอลไม่ได้มาที่กิลกาล พวกทหารก็กระจัดกระจายไปจากพระองค์ ดังนั้นซาอูลจึงตรัสว่า “จงนำเครื่องบูชาเผาทั้งตัวมาให้เราที่นี่และเครื่องศานติบูชาด้วย” และพระองค์ก็ถวายเครื่องบูชาเผาทั้งตัว พอพระองค์ถวายเครื่องบูชาเผาทั้งตัวนั้นเสร็จ นี่แน่ะ ซามูเอลก็มาถึง ซาอูลก็เสด็จออกไปต้อนรับและทรงคำนับท่าน ซามูเอลทูลว่า “ท่านได้ทำอะไรไปแล้วนี่?” และซาอูลตรัสตอบว่า “เมื่อข้าพเจ้าเห็นประชาชนแตกกระจายไปจากข้าพเจ้า และท่านก็ไม่ได้มาภายในวันที่กำหนดไว้ และพวกฟีลิสเตียก็ชุมนุมกันที่มิคมาช ข้าพเจ้าจึงว่า ‘บัดนี้ พวกฟีลิสเตียจะยกมารบกับข้าพเจ้าที่กิลกาล และข้าพเจ้ายังไม่ได้ทูลวิงวอนเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์’ ข้าพเจ้าจึงบังคับตัวเองขึ้นไปถวายเครื่องบูชาเผาทั้งตัว” และซามูเอลทูลซาอูลว่า “ท่านได้ทำการที่โง่เขลา ท่านไม่ได้รักษาพระบัญชาของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ซึ่งพระองค์ทรงบัญชาท่านไว้ เพราะพระยาห์เวห์จะได้ทรงสถาปนาราชอาณาจักรของท่านเหนืออิสราเอลตลอดไป แต่บัดนี้ราชอาณาจักรของท่านจะไม่ยั่งยืน พระยาห์เวห์ทรงหาชายอีกคนหนึ่งตามชอบพระทัยพระองค์แล้ว และพระยาห์เวห์ทรงแต่งตั้งชายผู้นั้นให้เป็นเจ้านายเหนือชนชาติของพระองค์ เพราะท่านไม่ได้รักษาสิ่งซึ่งพระเจ้าทรงบัญชาท่านไว้” และซามูเอลก็ลุกขึ้นไปจากกิลกาลถึงกิเบอาห์แห่งเผ่าเบนยามิน และซาอูลทรงนับพลซึ่งอยู่กับพระองค์ได้ชายประมาณ 600 คน ซาอูลกับโยนาธานราชโอรสของพระองค์ และทหารที่อยู่กับทั้งสองพระองค์ก็อยู่ในเกบาแห่งเผ่าเบนยามิน แต่พวกฟีลิสเตียตั้งค่ายอยู่ที่มิคมาช มีกองปล้นออกมาจากค่ายพวกฟีลิสเตียสามกอง กองหนึ่งหันไปทางโอฟราห์สู่แผ่นดินชูอัล อีกกองหนึ่งหันไปทางเบธโฮโรน และอีกกองหนึ่งหันไปทางพรมแดนซึ่งอยู่เหนือหุบเขาเศโบยิมตรงถิ่นทุรกันดาร คราวนั้นจะหาช่างเหล็กทั่วแผ่นดินอิสราเอลก็ไม่มี เพราะพวกฟีลิสเตียกล่าวว่า “เกรงว่าพวกฮีบรูจะทำดาบหรือหอก” แต่คนอิสราเอลทั้งปวงลงไปหาพวกฟีลิสเตียเพื่อลับผาล พลั่ว ขวานและเคียวของเขา ค่าลับนั้นสองส่วนสามเชเขลสำหรับลับผาล และพลั่ว และหนึ่งส่วนสามเชเขลสำหรับสามง่าม ขวานและติดประตัก เพราะฉะนั้น เมื่อถึงวันทำศึกจะหาดาบหรือหอกในมือของทหารที่อยู่กับซาอูลและโยนาธานก็ไม่ได้ แต่ซาอูลกับโยนาธานราชโอรสของพระองค์มี และกองทหารรักษาการของพวกฟีลิสเตียยกไปถึงทางที่ข้ามไปเมืองมิคมาช
1 ซามูเอล 13:5-23 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
ชาวฟีลิสเตียรวมตัวกันมาสู้กับอิสราเอล มีรถม้าศึกสามพันคัน พลรถรบหกพันคน และมีทหารมากมายดุจเม็ดทรายที่ชายทะเล พวกเขายกมาตั้งค่ายอยู่ที่มิคมาชทางตะวันออกของเบธอาเวน เมื่อชาวอิสราเอลเห็นว่าสถานการณ์คับขันและกองทัพของตนถูกตีอย่างหนักก็ซ่อนตัวตามถ้ำ ตามสุมทุมพุ่มไม้ ตามซอกหิน และในหลุมในบ่อ บางคนก็ข้ามแม่น้ำจอร์แดนหนีไปยังดินแดนของกาดและกิเลอาด ฝ่ายซาอูลยังคงอยู่ที่กิลกาล กองทหารทั้งหมดที่อยู่ด้วยพากันขวัญหนีดีฝ่อ ซาอูลรออยู่เจ็ดวันตามที่ซามูเอลกำหนดไว้ แต่เมื่อซามูเอลยังไม่มาที่กิลกาลและคนของซาอูลเริ่มแตกทัพ ซาอูลจึงสั่งว่า “จงนำเครื่องเผาบูชาและเครื่องสันติบูชามา” แล้วซาอูลก็ถวายเครื่องเผาบูชา ทันทีที่ถวายเสร็จ ซามูเอลก็มาถึง ซาอูลจึงออกไปต้อนรับ ซามูเอลถามว่า “ท่านทำอะไรลงไป?” ซาอูลตอบว่า “ข้าพเจ้าเห็นไพร่พลกระจัดกระจายไป และท่านไม่ได้มาตามเวลาที่กำหนดไว้ ฝ่ายชาวฟีลิสเตียก็มาชุมนุมกันอยู่ที่มิคมาช ข้าพเจ้าคิดว่า ‘ชาวฟีลิสเตียจะลงมาถล่มเราที่กิลกาลแล้ว เราเองก็ยังไม่ได้ขอความช่วยเหลือจากองค์พระผู้เป็นเจ้าเลย’ ฉะนั้นข้าพเจ้าจึงจำต้องถวายเครื่องเผาบูชา” ซามูเอลตำหนิว่า “ท่านทำตัวโง่เขลา ท่านไม่ได้ปฏิบัติตามพระบัญชาของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน หากท่านได้ปฏิบัติตาม พระองค์คงจะสถาปนาอาณาจักรของท่านเหนืออิสราเอลตลอดไป แต่บัดนี้อาณาจักรของท่านจะไม่ยืนยง องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงเลือกคนที่พระองค์ทรงชอบพระทัยยิ่งนัก และทรงแต่งตั้งเขาให้เป็นผู้นำประชากรของพระองค์ เนื่องจากท่านไม่ได้ปฏิบัติตามพระบัญชาขององค์พระผู้เป็นเจ้า” แล้วซามูเอลจึงไปจากกิลกาลสู่กิเบอาห์ในเขตเบนยามิน เมื่อซาอูลนับจำนวนพลที่ยังอยู่พบว่ามีเหลือเพียงหกร้อยคน ซาอูลกับโยนาธานราชโอรสและทหารที่อยู่ด้วยพักที่เมืองกิเบอาห์ในเขตเบนยามิน ส่วนชาวฟีลิสเตียตั้งค่ายอยู่ที่มิคมาช มีโจรสามกลุ่มจากค่ายฟีลิสเตีย กองหนึ่งไปยังโอฟราห์ในแดนชูอัล อีกกองหนึ่งไปยังเบธโฮโรน ส่วนกองที่สามเคลื่อนไปยังชายแดนเหนือหุบเขาเศโบอิมตรงข้ามถิ่นกันดาร ครั้งนั้นทั่วแดนอิสราเอลไม่มีช่างตีเหล็กเลย เพราะชาวฟีลิสเตียกล่าวว่า “เกรงว่าชาวฮีบรูจะตีดาบหรือหอกใช้!” ฉะนั้นเมื่อชาวอิสราเอลจะลับผาล คราด ขวาน หรือเคียว ก็ต้องไปหาชาวฟีลิสเตีย อัตราค่าจ้างคือเงินหนักสองในสามเชเขลเป็นค่าลับผาลและจอบ เงินหนักหนึ่งในสามเชเขลเป็นค่าลับคราด ขวาน และประตัก ฉะนั้นในวันสงคราม ทหารที่อยู่กับซาอูลและโยนาธานไม่มีหอกหรือดาบสักคนเดียว เว้นแต่ซาอูลและโยนาธานเท่านั้นที่มี ขณะเดียวกันนั้นช่องเขาที่มิคมาชมีกองทหารของฟีลิสเตียรักษาการณ์อยู่
1 ซามูเอล 13:5-23 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
คนฟีลิสเตียได้รวมพลกันเพื่อสู้รบกับอิสราเอล พวกเขามีรถรบสามพัน คัน และทหารม้าหกพันคน และมีทหารมากมายเหมือนกับทรายที่ชายฝั่งทะเล พวกเขาขึ้นไปตั้งค่ายอยู่ที่มิคมาช ทางทิศตะวันออกของเบธาเวน เมื่อคนอิสราเอลเห็นว่า พวกเขาอยู่ในสถานการณ์ที่คับขัน และกองทัพของพวกเขาก็ถูกกดดันอย่างหนัก พวกเขาจึงซ่อนตัวอยู่ตามถ้ำ ตามพงไม้ ตามซอกหิน ตามอุโมงค์ และตามบ่อเก็บน้ำ คนฮีบรูบางคนถึงกับข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปที่เมืองกาดและกิเลอาด ส่วนซาอูลยังคงอยู่ที่กิลกาลและกองทหารทั้งหมดที่อยู่กับเขาต่างกลัวจนตัวสั่น ซาอูลได้เฝ้าคอยอยู่เจ็ดวัน ตามเวลาที่ซามูเอลได้กำหนดไว้ แต่ซามูเอลก็ไม่ได้มาที่กิลกาล และประชาชนที่อยู่กับซาอูลก็เริ่มกระจัดกระจายไป ดังนั้นเขาจึงพูดว่า “เอาเครื่องเผาบูชา และเครื่องสังสรรค์บูชามาให้เรา” และซาอูลก็ได้ถวายเครื่องเผาบูชา ทันทีที่ซาอูลถวายเครื่องเผาบูชาเสร็จสิ้นลง ซามูเอลก็มาถึง ซาอูลจึงออกไปต้อนรับเขา ซามูเอลถามว่า “ท่านได้ทำอะไรลงไป” ซาอูลตอบว่า “เมื่อเราเห็นว่าประชาชนเริ่มกระจัดกระจายไป และท่านก็ไม่มาตามเวลาที่นัดไว้ และคนฟีลิสเตียก็ได้รวมพลกันที่มิคมาช เราคิดว่า ‘ตอนนี้คนฟีลิสเตียจะลงมาต่อสู้กับเราที่กิลกาล และเราก็ยังไม่ได้ขอให้พระยาห์เวห์ช่วยเหลือ ดังนั้นเราจึงฝืนใจถวายเครื่องเผาบูชาเอง’” ซามูเอลพูดว่า “ท่านได้ทำสิ่งที่โง่ๆลงไปแล้ว ท่านไม่ได้ทำตามคำสั่งที่พระยาห์เวห์ พระเจ้าของท่านได้สั่งท่านไว้ ถ้าท่านได้ทำตาม พระองค์จะก่อตั้งอาณาจักรของท่านเหนือคนอิสราเอลตลอดไป แต่ ตอนนี้ อาณาจักรของท่านจะไม่ยั่งยืนอีกแล้ว พระยาห์เวห์ได้ค้นหาผู้ชายอีกคนหนึ่งที่จะทำตามใจพระองค์ และได้แต่งตั้งเขาให้เป็นผู้นำประชาชนของพระองค์แล้ว เพราะท่านไม่ได้รักษาคำสั่งของพระยาห์เวห์” จากนั้นซามูเอลก็ลุกขึ้นไปจากกิลกาล ซาอูลและกองทัพที่เหลือของเขาได้จากกิลกาล ไปยังเมืองกิเบอาห์ในเขตแดนเบนยามิน ซาอูลนับคนที่เหลืออยู่กับเขาได้ประมาณหกร้อยคน ซาอูลและโยนาธานลูกชายของเขากับคนที่อยู่กับเขา ได้ไปพักอยู่ที่เกบาในเขตแดนเบนยามิน ในขณะที่คนฟีลิสเตียตั้งค่ายอยู่ที่มิคมาช คนฟีลิสเตียได้แบ่งกำลังสำหรับโจมตีออกเป็นสามกอง กองที่หนึ่งมุ่งตรงไปโอฟราห์ที่อยู่ใกล้กับชูอัล กองที่สองตรงไปเบธโฮโรน และกองที่สามตรงไปที่เขตแดนเหนือหุบเขาเศโบอิมที่หันไปทางทะเลทราย คนฟีลิสเตียไม่ยอมให้มีช่างตีเหล็กเหลืออยู่ในแผ่นดินอิสราเอลแม้แต่คนเดียว เพราะคนฟีลิสเตียพูดกันว่า “ไม่อย่างนั้นคนฮีบรูจะทำดาบ ทำหอกใช้กัน” ดังนั้นคนอิสราเอลทั้งหมดจึงต้องลงไปหาคนฟีลิสเตียเพื่อลับคราด พลั่ว ขวาน และเคียวของพวกเขาให้คม คนฟีลีสเตียคิดค่าลับคราดและพลั่ว เป็นเงินแปดกรัม และคิดค่าลับสามง่าม ขวาน และปฏัก เป็นเงินสี่กรัม ดังนั้น ในวันที่สู้รบกันนั้น กองทหารของซาอูลและโยนาธาน จึงไม่มีดาบหรือหอกอยู่ในมือ มีแต่ซาอูลและโยนาธานลูกชายเท่านั้นที่มี ตอนนี้กองกำลังกองหนึ่งของฟีลิสเตียได้เดินทางมาถึงทางข้ามที่จะไปเมืองมิคมาชแล้ว
1 ซามูเอล 13:5-23 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
และคนฟีลิสเตียชุมนุมกันเพื่อจะต่อสู้คนอิสราเอล มีรถรบสามหมื่น และพลม้าหกพัน และกองทหารนั้นก็มากมายเหมือนเม็ดทรายที่ฝั่งทะเล เขาก็ยกขึ้นมาตั้งค่ายอยู่ที่มิคมาช ทางตะวันออกของเบธาเวน เมื่อคนอิสราเอลเห็นว่าตกอยู่ในที่คับแค้น (เพราะประชาชนถูกบีบคั้นอย่างหนัก) แล้วประชาชนก็ซ่อนตัวอยู่ในถ้ำ และในพุ่มไม้หนาทึบในซอกหิน ในอุโมงค์และในบ่อ พวกฮีบรูบางคนได้ข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปยังดินแดนกาดและกิเลอาด แต่ฝ่ายซาอูลพระองค์ยังประทับอยู่ที่กิลกาล และประชาชนทั้งหมดติดตามพระองค์ไปด้วยตัวสั่น พระองค์ทรงคอยอยู่เจ็ดวันตามเวลาที่ซามูเอลกำหนดไว้ แต่ซามูเอลมิได้มาที่กิลกาล ประชาชนก็แตกกระจายไปจากพระองค์ ดังนั้นซาอูลจึงตรัสว่า “จงนำเครื่องเผาบูชามาให้เราที่นี่ และเครื่องสันติบูชาด้วย” และพระองค์ก็ได้ถวายเครื่องเผาบูชา ต่อมาพอพระองค์ถวายเครื่องเผาบูชาเสร็จ ดูเถิด ซามูเอลก็มาถึง ซาอูลก็เสด็จออกไปต้อนรับและทรงคำนับท่าน ซามูเอลถามว่า “ท่านได้กระทำอะไรไปแล้วนี่” และซาอูลตรัสตอบว่า “เมื่อข้าพเจ้าเห็นประชาชนแตกกระจายไปจากข้าพเจ้า และท่านก็มิได้มาภายในวันที่กำหนดไว้ และคนฟีลิสเตียก็ได้ชุมนุมกันที่มิคมาช ข้าพเจ้าจึงว่า ‘บัดนี้ คนฟีลิสเตียจะยกมารบกับข้าพเจ้าที่กิลกาล และข้าพเจ้ายังมิได้ทูลขอพระกรุณาแห่งพระเยโฮวาห์’ ข้าพเจ้าจึงข่มตัวเอง และได้ถวายเครื่องเผาบูชา” และซามูเอลกล่าวแก่ซาอูลว่า “ท่านได้กระทำการที่โง่เขลาเสียแล้ว ท่านมิได้รักษาพระบัญชาแห่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ซึ่งพระองค์ทรงบัญชาท่านไว้ เพราะพระเยโฮวาห์จะได้ทรงสถาปนาราชอาณาจักรของท่านเหนืออิสราเอลเป็นนิตย์แล้ว แต่บัดนี้ราชอาณาจักรของท่านจะไม่ยั่งยืน พระเยโฮวาห์ทรงหาชายอีกคนหนึ่งตามชอบพระทัยพระองค์แล้ว และพระเยโฮวาห์ทรงบัญชาชายผู้นั้นให้เป็นเจ้านายเหนือชนชาติของพระองค์ เพราะท่านมิได้รักษาสิ่งซึ่งพระเยโฮวาห์ทรงบัญชาท่านไว้” และซามูเอลก็ลุกขึ้นไปจากกิลกาลถึงกิเบอาห์แห่งคนเบนยามิน และซาอูลทรงนับพลซึ่งอยู่กับพระองค์ได้ประมาณหกร้อยคน ซาอูลกับโยนาธานราชโอรสของพระองค์ และพลที่อยู่กับพระองค์ก็อยู่ในกิเบอาห์แห่งคนเบนยามิน แต่คนฟีลิสเตียตั้งค่ายอยู่ที่มิคมาช มีกองปล้นออกมาจากค่ายคนฟีลิสเตียสามกอง กองหนึ่งหันตรงไปยังโอฟราห์ยังแผ่นดินชูอัล อีกกองหนึ่งหันตรงไปยังเบธโฮโรน และอีกกองหนึ่งหันตรงไปยังพรมแดนซึ่งอยู่เหนือหุบเขาเศโบอิมตรงถิ่นทุรกันดาร คราวนั้นจะหาช่างเหล็กทั่วแผ่นดินอิสราเอลก็ไม่มี เพราะคนฟีลิสเตียกล่าวว่า “เกรงว่าพวกฮีบรูจะทำดาบหรือหอกใช้เอง” แต่คนอิสราเอลทุกคนลงไปยังฟีลิสเตียเพื่อลับเหล็กไถ ผาล ขวานและจอบของเขา แต่พวกเขาคิดค่าลับสำหรับลับจอบ ผาล สามง่าม ขวาน และติดประตัก เพราะฉะนั้นเมื่อถึงวันทำศึกจะหาดาบหรือหอกในมือของพลที่อยู่กับซาอูลและโยนาธานก็ไม่ได้ แต่ซาอูลกับโยนาธานราชโอรสของพระองค์มี และกองทหารรักษาการของคนฟีลิสเตียยกไปถึงทางที่ข้ามไปเมืองมิคมาช
1 ซามูเอล 13:5-23 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
และคนฟีลิสเตียชุมนุมกันเพื่อจะต่อสู้คนอิสราเอล มีรถรบสามหมื่นและพลม้าหกพัน และกองทหารนั้นก็มากมายเหมือนทรายที่ฝั่งทะเล เขาก็ยกขึ้นมาตั้งค่ายอยู่ที่มิคมาชทาง ตะวันออกของเบธาเวน เมื่อคนอิสราเอลเห็นว่าตกอยู่ในที่คับแค้น (เพราะประชาชนถูกบีบคั้นอย่างหนัก) แล้วประชาชนก็ซ่อนตัวอยู่ในถ้ำและในรูในซอกหิน ในอุโมงค์และในบ่อ พวกฮีบรูบางคนได้ข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปยังดินแดนกาดและ กิเลอาด แต่ฝ่ายซาอูลพระองค์ยังประทับอยู่ที่กิลกาลและประชาชน ทั้งหมดติดตามพระองค์ไปด้วยตัวสั่น พระองค์ทรงคอยอยู่เจ็ดวันตาม เวลาที่ซามูเอลกำหนดไว้ แต่ซามูเอลมิได้มาที่กิลกาล ประชาชนก็แตกกระจายไปจากพระองค์ ดังนั้นซาอูลจึงตรัสว่า <<จงนำเครื่องเผาบูชามาให้เราที่นี่และเครื่องศานติบูชาด้วย>> และพระองค์ก็ได้ถวายเครื่องเผาบูชา พอพระองค์ถวายเครื่องเผาบูชาเสร็จ ดูเถิด ซามูเอลก็มาถึง ซาอูลก็เสด็จออกไปต้อนรับและทรงคำนับท่าน ซามูเอลถามว่า <<ท่านได้กระทำอะไรไปแล้วนี่>> และซาอูลตรัสตอบว่า <<เมื่อข้าพเจ้าเห็นประชาชนแตกกระจายไปจากข้าพเจ้า และท่านก็มิได้มาภายในวันที่กำหนดไว้และคน ฟีลิสเตียก็ได้ชุมนุมกันที่มิคมาช ข้าพเจ้าจึงว่า <บัดนี้ คนฟีลิสเตียจะยกมารบกับข้าพเจ้าที่กิลกาล และข้าพเจ้ายังมิได้ทูลขอพระกรุณาแห่งพระเจ้า> ข้าพเจ้าจึงข่มตัวเองและได้ถวายเครื่องเผาบูชา>> และซามูเอลกล่าวแก่ซาอูลว่า <<ท่านได้กระทำการที่โง่เขลาเสียแล้ว ท่านมิได้รักษาพระบัญชาแห่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ซึ่งพระองค์ทรงบัญชาท่านไว้ เพราะพระเจ้าจะได้ทรงสถาปนาราชอาณาจักรของท่านเหนืออิสราเอลเป็นนิตย์แล้ว แต่บัดนี้ราชอาณาจักรของท่านจะไม่ยั่งยืน พระเจ้าทรงหาชายอีกคนหนึ่งตามชอบพระทัย พระองค์แล้ว และพระเจ้าทรงแต่งตั้งชายผู้นั้นให้เป็นเจ้านายเหนือ ชนชาติของพระองค์ เพราะท่านมิได้รักษาสิ่งซึ่งพระเจ้าทรงบัญชาท่านไว้>> และซามูเอลก็ลุกขึ้นไปจากกิลกาลถึงกิเบอาห์ แห่งเผ่าเบนยามิน และซาอูลทรงนับพลซึ่งอยู่กับพระองค์ได้ประมาณหกร้อยคน ซาอูลกับโยนาธานราชโอรสของพระองค์ และพลที่อยู่กับพระองค์ก็อยู่ในเกบาแห่งเผ่าเบนยามิน แต่คนฟีลิสเตียตั้งค่ายอยู่ที่มิคมาช มีกองปล้นออกมาจากค่ายคนฟีลิสเตียสามกอง กองหนึ่งหันตรงไปยังโอฟราห์ยังแผ่นดินชูอัล อีกกองหนึ่งหันตรงไปยังเบธโฮโรนและอีกกองหนึ่งหันตรง ไปยังพรมแดนซึ่งอยู่เหนือหุบเขาเศโบอิมตรงถิ่นทุรกันดาร คราวนั้นจะหาช่างเหล็กทั่วแผ่นดินอิสราเอลก็ไม่มี เพราะคนฟีลิสเตียกล่าวว่า <<เกรงว่าพวกฮีบรูจะทำดาบหรือหอกใช้เอง>> แต่คนอิสราเอลทุกคนไปยังฟีลิสเตียเพื่อลับผาล ขวานและจอบของเขา ค่าลับนั้นพิมหนึ่งสำหรับลับจอบ ผาล สามง่าม ขวานและ ติดประตัก เพราะฉะนั้นเมื่อถึงวันทำศึกจะหาดาบหรือหอก ในมือของพลที่อยู่กับซาอูลและโยนาธานก็ไม่ได้ แต่ซาอูลกับโยนาธานราชโอรสของพระองค์มี และกองทหารรักษาการของคนฟีลิสเตียยกไปถึงทาง ที่ข้ามไปเมืองมิคมาช
1 ซามูเอล 13:5-23 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
ชาวฟีลิสเตียประชุมกันเพื่อต่อสู้กับอิสราเอล มีรถศึก 30,000 คัน สารถี 6,000 คน และกองทัพมีจำนวนมากราวกับเม็ดทรายบนชายฝั่งทะเล พวกเขาขึ้นไปตั้งค่ายที่มิคมาช ทางตะวันออกของเบธอาเวน เมื่อชายชาวอิสราเอลเห็นว่าตนอยู่ในสถานการณ์ไม่สู้ดี (เพราะประชาชนถูกโจมตีอย่างหนัก) จึงได้หลบซ่อนอยู่ในถ้ำและในรู ในซอกหิน ในอุโมงค์ และในบ่อ ชาวฮีบรูบางคนถึงกับข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปยังดินแดนกาดและกิเลอาด ซาอูลยังอยู่ที่กิลกาล และทหารทั้งหมดที่อยู่ด้วยกับท่านก็กลัวจนตัวสั่น ซาอูลคอยอยู่ 7 วันตามเวลาที่ซามูเอลกำหนดไว้ แต่ซามูเอลไม่ได้มาที่กิลกาล และทหารของซาอูลเริ่มระส่ำระสาย ท่านจึงกล่าวว่า “เอาสัตว์ที่ใช้เผาเป็นของถวายและของถวายเพื่อสามัคคีธรรมมาให้เรา” และซาอูลก็มอบสัตว์ที่ใช้เผาเป็นของถวาย ทันทีที่ท่านมอบของถวายเสร็จ ซามูเอลก็มาถึง ซาอูลจึงออกไปทักทาย ซามูเอลถามว่า “ท่านกระทำอะไรลงไป” ซาอูลตอบว่า “เมื่อเราเห็นว่าทหารระส่ำระสาย และท่านก็ไม่ได้มาตามเวลาที่กำหนดไว้ และชาวฟีลิสเตียก็ประชุมกันที่มิคมาช เราจึงคิดว่า ‘คราวนี้ชาวฟีลิสเตียจะลงมาโจมตีเราที่กิลกาล และเรายังไม่ได้ขอให้พระผู้เป็นเจ้าช่วย’ เรารู้สึกว่าควรจะมอบสัตว์ที่ใช้เผาเป็นของถวาย” ซามูเอลพูดว่า “ท่านกระทำสิ่งที่โง่เขลา ท่านไม่ได้รักษาคำบัญชาที่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านให้ท่านไว้ หากว่าท่านรักษาคำบัญชา พระองค์ก็จะสถาปนาอาณาจักรของท่านให้ปกครองอิสราเอลไปตลอดกาล แต่บัดนี้อาณาจักรของท่านจะไม่มั่นคง พระผู้เป็นเจ้าหาชายคนหนึ่งผู้เป็นที่โปรดปรานของพระองค์ยิ่งนัก และได้แต่งตั้งให้ท่านเป็นผู้นำของชนชาติของพระองค์ เพราะท่านไม่ได้รักษาคำบัญชาของพระผู้เป็นเจ้า” จากนั้นซามูเอลก็ไปจากกิลกาล และขึ้นไปยังกิเบอาห์ของเบนยามิน และซาอูลนับจำนวนทหารที่อยู่กับท่าน มีประมาณ 600 คน ซาอูลและโยนาธานบุตรของท่าน และทหารที่ติดตามก็อยู่ที่กิเบอาห์ของเบนยามิน ขณะเดียวกับที่ชาวฟีลิสเตียตั้งค่ายอยู่ที่มิคมาช ทหารกองปล้นออกไปจากค่ายของฟีลิสเตียเป็น 3 กอง กองหนึ่งออกไปทางโอฟราห์บริเวณใกล้เคียงชูอัล อีกกองไปทางเบธโฮโรน และกองที่สามไปทางชายแดนที่หันลงสู่หุบเขาเศโบอิมทางถิ่นทุรกันดาร ในครั้งนั้นไม่มีช่างเหล็กทั่วแผ่นดินอิสราเอล เพราะชาวฟีลิสเตียพูดไว้ว่า “มิฉะนั้นพวกชาวฮีบรูจะตีดาบและหอกไว้ใช้” ดังนั้นชาวอิสราเอลทุกคนจึงลงไปยังถิ่นของชาวฟีลิสเตียเพื่อให้คนลับใบมีดคันไถ จอบ ขวาน และเคียว ค่าแรงสองส่วนสามเชเขลสำหรับลับใบมีดคันไถและจอบ และหนึ่งส่วนสามเชเขลสำหรับลับส้อมสามง่าม ขวาน และส้อมประตัก ฉะนั้นในวันสู้รบ ทหารทุกคนที่อยู่กับซาอูลและโยนาธานไม่มีดาบหรือหอกติดมือ ซาอูลกับโยนาธานบุตรของท่านเท่านั้นที่มีอาวุธ ส่วนทหารประจำด่านของฟีลิสเตียก็ออกไปยังทางข้ามที่เนินเขาที่มิคมาช