1 พงศ์กษัตริย์ 8:1-66

1 พงศ์กษัตริย์ 8:1-66 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

แล้ว​กษัตริย์​ซาโลมอน​ก็​ได้​เรียก​พวก​ผู้​อาวุโส​ของ​อิสราเอล พวก​หัวหน้า​เผ่า​และ​พวก​หัวหน้า​ครอบครัว​ของ​ชาว​อิสราเอล​ทุกคน ให้​มา​พบ​ที่​เมือง​เยรูซาเล็ม เพื่อ​ให้​มา​เป็น​พยาน​ใน​การ​ย้าย​หีบ​แห่ง​ข้อตกลง​ของ​พระยาห์เวห์​จาก​เมือง​ของ​ดาวิด คือ​เมือง​ศิโยน ขึ้น​ไป​ยัง​วิหาร แล้ว​คน​เหล่านั้น​ทั้งหมด​ของ​อิสราเอล​ก็​ได้​มา​อยู่​ร่วม​กับ​กษัตริย์​ซาโลมอน ใน​ช่วง​งาน​เทศกาล ใน​เดือน​เอธานิม ซึ่ง​เป็น​เดือน​ที่​เจ็ด เมื่อ​พวก​ผู้​อาวุโส​ทั้งหมด​ของ​อิสราเอล​มา​ถึง นักบวช​ทั้งหลาย​ก็​ได้​ยก​หีบ​แห่ง​ข้อตกลงขึ้น และ​พวก​เขา​ได้​นำ​หีบ​ของ​พระยาห์เวห์​ออก​มา รวม​ทั้ง​เต็นท์​นัดพบ และ​เครื่องใช้​ศักดิ์สิทธิ์​ทั้งหมด​ภายใน​เต็นท์ พวก​นักบวช​และ​บรรดา​ชาว​เลวี แบก​ของ​เหล่า​นั้นไว้ และ​กษัตริย์​ซาโลมอน​กับ​ผู้​ร่วม​ชุมนุม​ทั้งหมด​ของ​อิสราเอล​ที่​ได้​มา​รวม​ตัว​อยู่​กับ​เขา​ก็​ไป​อยู่​ต่อหน้า​หีบนั้น และ​ได้​ถวาย​แกะ​และ​วัว​จำนวน​มหาศาล​จน​นับ​ไม่​ถ้วน​เป็น​เครื่อง​บูชา แล้ว​พวก​นักบวช​ก็​นำ​หีบ​แห่ง​ข้อตกลง​ของ​พระยาห์เวห์ เข้าไป​ใน​ที่​ของ​มัน​ใน​ห้อง​ศักดิ์สิทธิ์​ที่สุด ที่​อยู่​ด้านใน​สุด​ของ​วิหาร และ​วาง​หีบ​นั้น​ไว้​ที่​ใต้​ปีก​ของ​ทูตสวรรค์​มี​ปีก​สอง​องค์นั้น ทูตสวรรค์​มี​ปีก​ทั้ง​สอง​องค์​กาง​ปีก​ออก​เหนือ​ที่​วาง​หีบนั้น และ​เงา​ของ​ทูตสวรรค์นั้น​ก็​ทอด​ยาว​ลง​บน​หีบ​และ​ที่​คาน​หาม​ทั้งหมด คาน​หาม​เหล่านั้น​ยาว​มาก จน​ปลาย​ของ​คานนั้น​สามารถ​มองเห็น​ได้​จาก​ห้อง​ศักดิ์สิทธิ์​หน้า​ห้อง​ศักดิ์สิทธิ์​ที่สุดนั้น แต่คน​ที่​อยู่​นอก​ห้อง​ศักดิ์สิทธิ์ ก็​จะ​มอง​ไม่​เห็น และ​คาน​เหล่านี้​ยัง​คง​อยู่​ที่​นั่น​จน​ถึง​ทุก​วันนี้ ใน​หีบนั้น ไม่​มี​สิ่ง​อื่น​ใด นอกจาก​แผ่น​หิน​สอง​แผ่น​ที่​โมเสส​ได้​ใส่​ลง​ไป​ตั้งแต่​เมื่อ​ครั้ง​ที่​เขา​อยู่​ที่​ภูเขา​โฮเรบ ซึ่ง​เป็น​สถานที่​ที่​พระยาห์เวห์​ได้​ทำ​ข้อตกลง​กับ​ชาว​อิสราเอล หลังจาก​ที่​พวก​เขา​ได้​ออก​มา​จาก​ประเทศ​อียิปต์​แล้ว หลังจาก​ที่​พวก​นักบวช​ออก​ไป​จาก​ห้องโถง​ศักดิ์สิทธิ์แล้ว ก็​เกิด​กลุ่ม​เมฆ ขึ้น​ใน​วิหาร​ของ​พระยาห์เวห์ กลุ่ม​เมฆนั้น ทำ​ให้​พวก​นักบวช​ไม่​สามารถ​ทำ​พิธี​ใดๆ​ใน​นั้น​ได้เลย เพราะ​รัศมี​ของ​พระยาห์เวห์ ได้​เข้า​ครอบคลุม​วิหาร​ของ​พระองค์แล้ว แล้ว​ซาโลมอน​ก็​พูดว่า “พระยาห์เวห์​ได้​พูด​ไว้ว่า พระองค์​จะ​อาศัย​อยู่​ใน​เมฆ​ดำ​ทะมึนนั้น เรา​ได้​สร้าง​วิหาร​ที่​งาม​สง่า​อย่าง​ยิ่ง​สำหรับ​พระองค์ เป็น​สถานที่​ที่​พระองค์​จะ​ได้​มา​อาศัย​อยู่​ตลอดไป” แล้ว​กษัตริย์​ก็​ได้​หัน​ไปหา​คน​อิสราเอล​ทั้งหมด​ที่​ยืน​ชุมนุมกัน​อยู่​ที่​นั่น และ​ขอให้​พระเจ้า​อวยพร​พวกเขา แล้ว​ซาโลมอน​ก็​พูด​ว่า “ขอ​สรรเสริญ​องค์พระยาห์เวห์ พระเจ้า​ของ​อิสราเอล มือ​ของ​พระองค์นั้น​ได้​ทำ​ให้​เกิด​ความสำเร็จลุล่วง ตาม​ที่​พระองค์​ได้​สัญญาไว้​ด้วย​ปาก​ของ​พระองค์เอง​กับ​ดาวิด​พ่อ​ของ​ข้าพเจ้า​ว่า ‘ตั้งแต่​วัน​ที่​เรา​ได้​พา​อิสราเอล​ชนชาติ​ของ​เรา​ออก​จาก​แผ่นดิน​อียิปต์ เรา​ยัง​ไม่​เคย​เลือก​เมืองหนึ่ง​เมืองใด​จาก​เผ่า​ต่างๆ​ของ​อิสราเอล เพื่อ​ที่​จะ​ใช้​สร้าง​วิหาร​เป็น​เกียรติ​ให้​กับ​ชื่อ​ของ​เรา​เลย แต่​ตอน​นี้​เรา​ได้​เลือก​ดาวิด​มา เพื่อ​ให้​เขา​มา​ปกครอง​อิสราเอล​ชนชาติ​ของ​เรานั้น’ ดาวิด​พ่อ​ของ​ข้าพเจ้า​เคย​คิด​อยู่​ใน​ใจ​ว่า เขา​จะ​สร้าง​วิหาร​ขึ้น​หลังหนึ่ง​ให้​เป็น​เกียรติ​กับ​ชื่อ​ของ​พระยาห์เวห์ พระเจ้า​ของ​อิสราเอล แต่​พระยาห์เวห์​ได้​พูด​กับ​ดาวิด​พ่อ​ของ​ข้าพเจ้า​ว่า ‘ที่​เจ้า​คิด​อยู่​ใน​ใจ​ว่า​จะ​สร้าง​วิหาร​ขึ้น​หลัง​หนึ่ง​สำหรับ​ชื่อ​ของ​เรานั้น นับเป็น​สิ่ง​ที่ดี แต่​อย่างไร​ก็ตาม เจ้า​จะ​ไม่ใช่​คน​ที่​จะ​ได้​สร้าง​วิหารนั้น ลูกชาย​ของ​เจ้า​ต่างหาก​จะ​เป็น​คน​สร้าง​วิหารนั้น​ให้​กับ​ชื่อ​ของ​เรา ลูกชาย​ที่​เป็น​เลือดเนื้อเชื้อไข​ของ​เจ้าเอง’ พระยาห์เวห์​ได้​รักษา​สัญญา​ที่​พระองค์​ได้​ให้​ไว้ เรา​ได้​สืบทอด​บัลลังก์​ต่อ​จาก​ดาวิด​พ่อ​ของ​เรา และ​ตอนนี้ เรา​ก็​ได้​นั่ง​อยู่​บน​บัลลังก์​ของ​อิสราเอล​เหมือน​กับ​ที่​พระยาห์เวห์​ได้​สัญญาไว้ และ​เรา​ก็​ได้​สร้าง​วิหาร​หลังนั้น​สำหรับ​ชื่อ​ของ​พระยาห์เวห์ พระเจ้า​ของ​อิสราเอลแล้ว เรา​ได้​จัด​สถานที่​ขึ้น​แห่ง​หนึ่ง​ภายใน​วิหารนั้น​เพื่อ​ใช้​วางหีบ ซึ่ง​ใน​หีบ​นั้น​มี​ข้อตกลง​ของ​พระยาห์เวห์​ใส่อยู่ เป็น​ข้อตกลง​ที่​พระองค์​ได้​ทำ​ไว้​กับ​บรรพบุรุษ​ของ​พวกเรา ตอน​ที่​พระองค์​ได้​นำ​พวก​เขา​ออก​จาก​แผ่นดิน​อียิปต์” แล้ว​ซาโลมอน​ก็​ไป​ยืน​อยู่​ต่อหน้า​แท่นบูชา​ของ​พระยาห์เวห์ ที่​อยู่​ตรงหน้า​ที่​ชุมนุม​อิสราเอล​ทั้งหมด เขา​กาง​แขน​ออก​และ​ชู​ขึ้น​บน​ฟ้าสวรรค์ และ​เขา​ก็​พูด​ว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้า​ของ​อิสราเอล ไม่​มี​พระเจ้า​อื่น​ใด​ที่​จะ​เหมือน​กับ​พระองค์ ไม่​ว่า​บน​สวรรค์​หรือ​ใน​แผ่นดิน​โลก พระองค์​เป็น​ผู้ที่​รักษา​ข้อตกลง​แห่ง​ความรัก​อันมั่นคง​กับ​พวก​ผู้รับใช้​ของ​พระองค์​ที่​เชื่อฟัง​พระองค์​อย่าง​สุดจิตสุดใจ​ของเขา พระองค์​ได้​รักษา​ข้อตกลง​กับ​ดาวิด​พ่อ​ของ​ข้าพเจ้า​ที่​เป็น​ผู้รับใช้​ของ​พระองค์ พระองค์​ได้​สัญญา​ไว้​ด้วย​ปาก​ของ​พระองค์​และ​ใน​วันนี้​พระองค์​ก็​ได้​ทำให้​คำ​สัญญานั้น​สำเร็จลุล่วง​ไป​ด้วย​ดี​ด้วย​มือ​ของ​พระองค์ ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้า​ของ​อิสราเอล ขอ​รักษา​สัญญา​อื่นๆ​ที่​พระองค์​ได้​ทำ​ไว้​กับ​ดาวิด​พ่อ​ของ​ข้าพเจ้า​ผู้รับใช้​พระองค์​ด้วยเถิด พระองค์​พูด​ว่า ‘ดาวิด ถ้า​ลูกหลาน​ของ​เจ้า​ระมัดระวัง​ใน​ทุกๆ​สิ่ง​ที่​พวก​เขา​ทำ เพื่อ​ที่​จะ​เดิน​อยู่​ต่อหน้า​เรา​เหมือน​กับ​ที่​เจ้า​ได้​ทำ​ไว้ เจ้า​จะ​ไม่​มี​วัน​ขาด​คน​ที่​จะ​มา​นั่ง​บน​บัลลังก์​ของ​อิสราเอล​ต่อหน้า​เราเลย’ ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้า​ของ​อิสราเอล ใน​ตอนนี้​ขอให้​พระองค์​ทำให้​คำพูด​ของ​พระองค์​ที่​ได้​สัญญา​ไว้​กับ​ดาวิด​พ่อ​ของ​ข้าพเจ้า ผู้รับใช้​ของ​พระองค์ เป็น​ความจริง​ด้วย​เถิด แต่ พระเจ้า พระองค์​จะ​อาศัย​อยู่​กับ​พวก​เรา​บน​โลกนี้​จริงๆ​หรือ แม้แต่​ฟ้าสวรรค์​และ​สวรรค์​ชั้น​สูงสุดนั้น​ยัง​ไม่​สามารถ​รองรับ​พระองค์ได้ แล้ว​นับประสา​อะไรกับ​วิหาร​ที่​เรา​ได้​สร้าง​ขึ้น​หลังนี้เล่า แต่​โปรด​ฟัง​คำ​อธิษฐาน​และ​คำอ้อนวอน​ของ​ผู้รับใช้​คนนี้​ของ​พระองค์​ด้วย​เถิด ข้า​แต่​พระยาห์เวห์ พระเจ้า​ของ​ข้าพเจ้า โปรด​ฟังเสียง​ร่ำร้อง​และ​คำ​อธิษฐาน​ที่​ผู้รับใช้​ของ​พระองค์ กำลัง​อธิษฐาน​อยู่​ต่อหน้า​พระองค์​ใน​วันนี้ ใน​อดีต พระองค์​พูด​ว่า ‘ชื่อ​ของ​เรา​จะ​สถิต​อยู่​ที่​นั่น’ ขอให้​ดวงตา​ของ​พระองค์​เฝ้ามอง​วิหาร​หลังนี้​ทั้งกลางวัน​และ​กลางคืน ขอ​พระองค์​ฟัง​คำ​อธิษฐาน​ที่​ข้าพเจ้า​ผู้รับใช้​ของ​พระองค์​ได้​อธิษฐาน​ตอน​หัน​หน้า​เข้า​หา​สถานที่นี้​ด้วยเถิด ข้า​แต่​พระยาห์เวห์ ขอให้​พระองค์​ฟัง​คำ​อธิษฐาน​ของ​ข้าพเจ้า ผู้รับใช้​ของ​พระองค์ และ​ของ​อิสราเอล​ชนชาติ​ของ​พระองค์ เมื่อ​พวก​เขา​อธิษฐาน​หันหน้า​มา​ยัง​สถานที่​นี้​ด้วยเถิด ขอ​พระองค์​ฟัง​คำ​อธิษฐาน​จาก​บน​ฟ้าสวรรค์ ซึ่ง​เป็น​ที่อาศัย​ของ​พระองค์ และ​เมื่อ​พระองค์​ได้ยิน​แล้ว ขอ​โปรด​ยกโทษ​ให้​กับ​พวก​เรา​ด้วยเถิด เมื่อ​คน​หนึ่ง​คน​ใด​ทำ​ผิด​ต่อ​เพื่อน​บ้าน​ของ​เขา และ​ต้อง​สาบาน เมื่อ​เขา​มา​สาบาน​ต่อหน้า​แท่นบูชา​ของ​พระองค์​ใน​วิหาร​แห่งนี้ ขอ​โปรด​รับฟัง​จาก​บน​ฟ้าสวรรค์​และ​ตัดสิน​พวก​ผู้รับใช้​ของ​พระองค์​ด้วยเถิด ขอ​พระองค์​ตัดสิน​โทษ​คน​ที่​ทำผิด โดย​ให้​ความผิด​ของ​เขา​ตกลง​บน​หัว​ของ​เขาเอง และ​ประกาศ​ความ​บริสุทธิ์​ของ​คน​ที่บริสุทธิ์ โดย​ให้​รางวัล​กับ​เขา​ตาม​ความ​บริสุทธิ์​ของเขา เมื่อ​ประชาชน​ชาว​อิสราเอล​ของ​พระองค์​พ่ายแพ้​ต่อ​ศัตรู เพราะ​ทำ​ความผิดบาป​ต่อ​พระองค์ และ​เมื่อ​พวก​เขา​หันกลับ​มาหา​พระองค์ และ​สรรเสริญ​ชื่อ​ของ​พระองค์ และ​มา​อธิษฐาน​ร้องขอ​ต่อ​พระองค์​ใน​วิหาร​แห่งนี้ โปรด​ฟัง​พวก​เขา​จาก​ฟ้าสวรรค์ และ​อภัย​ให้​กับ​ความบาป​ของ​อิสราเอล​ชนชาติ​ของ​พระองค์ และ​นำ​พวก​เขา​กลับ​สู่​แผ่นดิน​ที่​พระองค์​ได้​ให้​ไว้​กับ​บรรพบุรุษ​ของ​พวกเขา​ด้วยเถิด หรือ​เมื่อ​พระองค์​ปิด​สวรรค์​ไม่ให้​ฝน​ตกลง​มา เพราะ​ประชาชน​ของ​พระองค์​ได้​ทำ​บาป​ต่อ​พระองค์ ถ้า​พวก​เขา​หัน​หน้า​มา​ทาง​วิหาร​อธิษฐาน และ​สรรเสริญ​ชื่อ​ของ​พระองค์ และ​หัน​จาก​บาป​ของ​พวก​เขา เพราะ​พระองค์​ได้​ลงโทษ​พวกเขา ก็​ขอ​โปรด​ฟัง​จาก​สวรรค์​และ​ให้อภัย​บาป​ของ​พวก​ผู้รับใช้​พระองค์​คือ​อิสราเอล​ชนชาติ​ของ​พระองค์ โปรด​สอน​พวก​เขา​ให้​ใช้​ชีวิต​ใน​ทาง​ที่​ถูกต้อง และ​ขอ​พระองค์​ช่วย​ส่ง​ฝน​ให้​ตกลง​มา​บน​แผ่นดิน​ที่​พระองค์​ได้​ให้​ไว้​เป็น​มรดก​กับ​ประชาชน​ของ​พระองค์​ด้วยเถิด เมื่อ​เกิด​ภาวะ​อดอยาก หรือ​มี​โรคระบาด​บน​แผ่นดิน หรือ​เกิด​โรคซีด​ใน​พืช หรือ​เกิด​เชื้อรา​ทำลาย​พืช หรือ​มี​ตั๊กแตน​วัยบิน​หรือ​วัยคลาน​มา​ทำลาย​พืชผล หรือ​มี​ศัตรู​มา​ล้อม​พวกเขา​ไว้​ใน​เมือง​ของ​พวกเขา ไม่ว่า​จะ​เป็น​ความ​หายนะ​หรือ​โรค​ร้าย​อะไร ที่​เกิด​ขึ้น​ก็ตาม แล้ว​อิสราเอล​ชนชาติ​ของ​พระองค์ หรือ​คน​หนึ่ง​คน​ใด ได้​สำนึกผิด เพราะ​ได้รับ​ความ​ทุกข์ทรมานนั้น และ​ได้​ยื่น​มือ​ไป​ยัง​วิหาร​แห่งนี้ และ​อธิษฐาน​หรือ​อ้อนวอน​ต่อ​พระองค์ ขอ​พระองค์​ได้​โปรด​ฟัง​จาก​สวรรค์​ซึ่ง​เป็น​ที่อาศัย​ของ​พระองค์ และ​โปรด​ยกโทษ​และ​ช่วย​พวก​เขา​ด้วย มี​แต่​พระองค์​เท่านั้น​ที่​รู้​จิตใจ​ของ​มนุษย์​ทุกคน อย่าง​นั้น​ได้​โปรด​ตอบแทน​พวกเขา​ตาม​การกระทำ​ของ​พวก​เขา​ด้วยเถิด เพื่อ​ว่า​พวก​เขา​จะ​ได้​ยำเกรง​พระองค์​ตลอด​วัน​เวลา​ที่​พวก​เขา​มี​ชีวิต​อยู่​ใน​แผ่นดิน​ที่​พระองค์​ได้​ยก​ให้​กับ​บรรพบุรุษ​ของ​พวกเรา ส่วน​คน​ต่าง​ชาติ​ที่​ไม่​ใช่​อิสราเอล​ชนชาติ​ของ​พระองค์ เมื่อ​พวก​เขา​ได้​เดินทาง​มา​จาก​แดนไกล เพราะ​ชื่อ​เสียง​ของ​พระองค์ เพราะ​พวก​เขา​ได้ยิน​ชื่อเสียง​อัน​ยิ่งใหญ่​ของ​พระองค์ และ​มือ​อัน​ทรง​พลัง และ​แขน​ที่​ยื่น​ออก​มา​พร้อม​ที่​จะ​ช่วย เมื่อ​คน​ต่าง​ชาตินั้น​หันหน้า​มา​ทาง​วิหารนี้​และ​อธิษฐาน ขอ​พระองค์​ได้​โปรด​ฟัง​จาก​สวรรค์​ซึ่ง​เป็น​ที่​อาศัย​ของ​พระองค์ และ​โปรด​ทำ​ทุกอย่าง​ตาม​ที่​คน​ต่าง​ชาติ​คนนั้น​ขอ​จาก​พระองค์​ด้วย​เถิด เพื่อ​ชน​ทุกชาติ​บน​โลกนี้​จะ​ได้​รู้จัก​ชื่อเสียง​ของ​พระองค์ และ​ยำเกรง​พระองค์ เหมือน​กับ​ที่​อิสราเอล​ชนชาติ​ของ​พระองค์​ทำ และ​เพื่อ​พวก​เขา​จะ​ได้​รู้​ว่า​วิหาร​หลังนี้​ที่​ข้าพเจ้า​ได้​สร้าง​ขึ้น​มา​เป็น​ของพระองค์ เมื่อ​ประชาชน​ของ​พระองค์​ไป​รบ​กับ​ศัตรู​ของ​พวก​เขา ไม่ว่า​จะ​เป็น​สถานที่​ใด​ก็​ตาม​ที่​พระองค์​ส่ง​พวกเขา​ไป และ​เมื่อ​พวก​เขา​อธิษฐาน​ต่อ​พระยาห์เวห์ โดย​หันหน้า​ไป​ทาง​เมือง​ที่​พระองค์​ได้​เลือกไว้​และ​หัน​ไป​ทาง​วิหาร​ที่​ข้าพเจ้า​ได้​สร้าง​ไว้เพื่อ​เป็น​เกียรติ​แก่​ชื่อ​ของ​พระองค์ ก็​ขอให้​พระองค์​ฟัง​คำ​อธิษฐาน​และ​คำอ้อนวอน​ของ​พวก​เขา​จาก​บน​สวรรค์ และ​ช่วย​เหลือ​พวก​เขา​ด้วยเถิด เมื่อ​พวก​เขา​ทำ​บาป​ต่อ​พระองค์ เพราะ​ไม่​มี​ใคร​หรอก​ที่​ไม่​ทำ​บาปเลย และ​พระองค์​โกรธ​พวก​เขา​และ​ส่ง​พวก​เขา​ให้​ตก​ไป​อยู่​ใน​กำมือ​ของ​ศัตรู​ที่​เข้า​มา​จับ​พวก​เขา​ไป​เป็น​เชลย และ​พา​ไป​อยู่​ใน​แผ่นดิน​ของ​ศัตรู​ไม่ว่า​จะ​อยู่​ใกล้​หรือ​ไกล​ก็ตาม ถ้า​พวก​เขา​สำนึก​ผิด​ตอน​อยู่​ใน​แผ่นดิน​ที่​พวก​เขา​ถูก​จับ​ไปนั้น และ​พวก​เขา​ได้​กลับตัว​กลับใจ แล้ว​ได้​อ้อนวอน​ต่อ​พระองค์​ใน​แผ่นดิน​ของ​ผู้ที่​จับ​พวก​เขา​ไปนั้น และ​พวก​เขา​พูด​ว่า ‘พวก​เรา​ได้​ทำ​บาป และ​ทำ​ผิด​ไปแล้ว พวก​เรา​ได้​ทำ​ตัว​เลวมาก’ และ​ถ้า​พวก​เขา​หันกลับ​มาหา​พระองค์​อย่าง​สุดจิตสุดใจ​ของ​พวกเขา​ใน​แผ่นดิน​ของ​ศัตรู​ที่​ได้​จับ​ตัว​พวก​เขาไป และ​ได้​อธิษฐาน​ต่อ​พระองค์​โดย​หันหน้า​มา​ทาง​แผ่นดิน​ของ​ตัวเอง ที่​พระองค์​ได้​ยก​ให้​กับ​บรรพบุรุษ​ของ​พวกเขา และ​ได้​หัน​ไป​ทาง​เมือง​ที่​พระองค์​ได้​เลือกไว้ และ​หัน​ไป​ทาง​วิหาร​ที่​ข้าพเจ้า​ได้​สร้าง​ไว้เพื่อ​เป็น​เกียรติ​แก่​ชื่อ​ของ​พระองค์ ก็​ขอให้​พระองค์​ฟัง​คำ​อธิษฐาน​และ​คำอ้อนวอน​ของ​พวก​เขา​จาก​บน​สวรรค์ ซึ่ง​เป็น​ที่​อาศัย​ของ​พระองค์นั้น และ​ช่วยเหลือ​พวก​เขา​ด้วยเถิด และ​โปรด​ยกโทษ​ให้​กับ​ชนชาติ​ของ​พระองค์ ที่​ได้​ทำ​บาป​ต่อ​พระองค์​ไป แล้ว​โปรด​ให้อภัย​ต่อ​การทรยศ​ทั้งสิ้น​ที่​พวก​เขา​ทำ​ต่อ​พระองค์ และ​โปรด​ทำ​ให้​ผู้ที่​จับ​พวก​เขา​ไป สงสาร​พวก​เขา​ด้วย​เถิด เพราะ​พวก​เขา​เป็น​ชนชาติ​ของ​พระองค์​และ​เป็น​สมบัติ​ของ​พระองค์ เป็น​คน​ที่​พระองค์​ได้​พา​ออก​มา​จาก​แผ่นดิน​อียิปต์ ออก​มา​จาก​เตาหลอม​เหล็กนั้น ขอให้​ดวงตา​ของ​พระองค์ มองดู​การอ้อนวอน​ของ​ผู้รับใช้​ของ​พระองค์​คนนี้ และ​ของ​อิสราเอล​ชนชาติ​ของ​พระองค์ และ​เมื่อใด​ก็​ตาม​ที่​พวก​เขา​ร้องเรียก​หา​พระองค์ ขอให้​พระองค์​ฟัง​พวก​เขา เพราะ​พระองค์​ได้​แยก​พวก​เขา​ออก​มา​จาก​ชนชาติ​ทั้งหลาย​ใน​โลกนี้ เพื่อ​ที่​จะ​ให้​พวก​เขา​มา​เป็น​สมบัติ​ของ​พระองค์เอง เหมือน​กับ​ที่​พระองค์​เคย​สัญญา​ไว้​ผ่าน​โมเสส​ผู้รับใช้​พระองค์ เมื่อ​ครั้ง​ที่​พระองค์ พระยาห์เวห์​องค์เจ้าชีวิต ได้​นำ​บรรพบุรุษ​ของ​พวก​ข้าพเจ้า​ออก​จาก​แผ่นดิน​อียิปต์” เมื่อ​ซาโลมอน​อธิษฐาน​และ​อ้อนวอน​ต่อ​พระยาห์เวห์​เสร็จ​แล้ว เขา​ก็​ลุก​ไป​จาก​หน้า​แท่นบูชา​ของ​พระยาห์เวห์​ตรงที่​เขา​ได้​คุกเข่าลง​และ​ยก​มือ​ขึ้น​สู่​ฟ้า เขา​ได้​ยืน​ขึ้น​และ​อวยพร​คน​อิสราเอล​ทั้งหมด​ที่​มา​ชุมนุมกัน​อยู่​ที่​นั่น ด้วย​เสียง​อันดัง​ว่า “ขอ​สรรเสริญ​องค์พระยาห์เวห์ ผู้ที่​ได้​ให้​อิสราเอล​ชนชาติ​ของ​พระองค์​ได้​หยุดพัก ตาม​ที่​พระองค์​เคย​ให้​สัญญาไว้ ไม่​มี​คำ​สัญญา​ดีๆ​สัก​เรื่อง​ของ​พระองค์​ที่​ได้​ให้​ไว้​ผ่าน​ทาง​โมเสส​ผู้รับใช้​พระองค์ ได้​ล้มเหลวไป ขอให้​พระยาห์เวห์ พระเจ้า​ของ​พวก​เรา​อยู่​กับ​พวก​เรา​เหมือน​ที่​พระองค์​เคย​อยู่​กับ​บรรพบุรุษ​ของ​พวกเรา ขอให้​พระองค์​อย่า​ได้​ละทิ้ง​พวก​เรา​ไปเลย ขอให้​พระองค์​หันเห​จิตใจ​ของ​พวก​เรา​ให้​มา​อยู่​กับ​พระองค์ เพื่อ​เรา​จะ​ได้​ใช้​ชีวิต​ตาม​วิถีทาง​ทั้งสิ้น​ของ​พระองค์ และ​เพื่อ​เรา​จะ​ได้​รักษา​พวก​คำสั่ง กฎ​และ​ข้อบังคับ​ทั้งหลาย​ของ​พระองค์ ที่​พระองค์​ได้​สั่ง​ไว้​กับ​บรรพบุรุษ​ของ​พวกเรา และ​ขอให้​คำพูด​เหล่านี้​ของ​ข้าพเจ้า ซึ่ง​ข้าพเจ้า​ได้​อ้อนวอน​ต่อหน้า​พระยาห์เวห์ อยู่​ใกล้​กับ​พระยาห์เวห์​พระเจ้า​ของ​พวกเรา​ทั้งกลางวัน​และ​กลางคืน และ​ขอให้​พระองค์​ช่วยเหลือ​ผู้รับใช้​คนนี้​ของ​พระองค์ และ​ช่วยเหลือ​อิสราเอล​ชนชาติ​ของ​พระองค์ ตาม​ความ​จำเป็น​ใน​แต่​ละวัน เพื่อ​ว่า​ทุก​ชนชาติ​บน​โลกนี้ จะ​ได้​รู้​ว่า​พระยาห์เวห์​คือ​พระเจ้า ไม่​มี​พระเจ้า​องค์​อื่นอีก อย่างนั้น ขอให้​ทุ่มเท​ตัวเอง​อย่าง​เต็มที่​ให้​กับ​พระยาห์เวห์​พระเจ้า​ของ​พวกเรา และ​ใช้ชีวิต​ตาม​กฎ​ทั้งหลาย​ของ​พระองค์ และ​รักษา​คำสั่ง​ทั้งหลาย​ของ​พระองค์ อย่าง​ที่​ทำ​ใน​วันนี้” แล้ว​กษัตริย์​และ​ประชาชน​อิสราเอล​ทั้งหมด​ที่​อยู่​กับ​เขา​ก็​ถวาย​เครื่อง​สัตวบูชา​ต่อหน้า​พระยาห์เวห์ ซาโลมอน​ได้​ถวาย​สัตว์​เหล่านี้​เพื่อ​เป็น​เครื่อง​สังสรรค์​บูชา​ให้​แก่​พระยาห์เวห์ คือ​วัว​สองหมื่น​สองพัน​ตัว แกะ​หนึ่งแสน​สองหมื่น​ตัว แล้ว​กษัตริย์​กับ​ชาว​อิสราเอล​ทั้งหมด​ก็​ได้​อุทิศ​วิหาร​ให้​กับ​พระยาห์เวห์ ใน​วัน​เดียวกันนั้น กษัตริย์​ได้​ทำการ​อุทิศ​ส่วน​กลาง​ของ​ลาน​ที่​อยู่​ด้านหน้า​วิหาร​ของ​พระยาห์เวห์นั้น​ให้​เป็น​ที่​ศักดิ์สิทธิ์ เพื่อ​ว่า​เขา​จะ​ได้​ใช้​ที่นั่น​เป็น​ที่​ถวาย​เครื่อง​เผา​บูชา เครื่อง​บูชา​จาก​เมล็ด​พืช และ​ส่วน​ไขมัน​สัตว์​ของ​เครื่อง​สังสรรค์​บูชา เพราะ​แท่นบูชา​ที่​ทำ​จาก​ทอง​สัมฤทธิ์​ที่​ตั้ง​ไว้​ตรง​หน้า​พระยาห์เวห์นั้น​เล็ก​เกินไป​สำหรับ​เครื่อง​บูชา​ทั้งหมดนี้ แล้ว​ซาโลมอน​ก็​ได้​จัด​งาน​เลี้ยงฉลอง ขึ้น​ใน​เวลานั้น และ​ชาว​อิสราเอล​ทั้งหมด​ก็​มา​ร่วม​งาน​กับ​เขา​ด้วย เป็น​การ​ชุมนุม​ที่​ยิ่งใหญ่​มาก มี​ประชาชน​มา​กัน​ตั้งแต่​ทาง​เข้า​เมือง​ฮามัท​ไป​ไกล​จนถึง​ลำธาร​อียิปต์ พวก​เขา​ได้​เฉลิม​ฉลอง​กัน​ต่อหน้า​พระยาห์เวห์ พระเจ้า​ของ​พวก​เรา เป็น​เวลา​เจ็ดวัน แล้ว​ใน​วัน​ที่​แปด ซาโลมอน​ก็​ไป​ส่ง​ประชาชน​กลับ​บ้าน พวก​เขา​ได้​อวยพร​ให้​กับ​กษัตริย์ และ​ก็​กลับ​บ้าน​ไป​ด้วย​จิตใจ​ร่าเริงยินดี เนื่อง​จาก​สิ่ง​ดีๆ​ทั้งหมด​ที่​พระยาห์เวห์​ได้​ทำให้​กับ​ดาวิด​ผู้รับใช้​พระองค์​และ​ให้​กับ​อิสราเอล​ชนชาติ​ของพระองค์

1 พงศ์กษัตริย์ 8:1-66 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

แล้วซาโลมอนทรงเรียกพวกผู้ใหญ่ของอิสราเอล และบรรดาหัวหน้าของเผ่าต่างๆ คือพวกเจ้านายของตระกูลคนอิสราเอลมาประชุมในกรุงเยรูซาเล็ม เพื่อจะนำหีบพันธสัญญาของพระยาห์เวห์ขึ้นมาจากนครดาวิด คือศิโยน และผู้ชายทั้งหมดของอิสราเอลก็ประชุมกับพระราชาซาโลมอน ณ การเลี้ยงในเดือนเอธานิม คือเดือนที่เจ็ด พวกผู้ใหญ่ทั้งสิ้นของอิสราเอลมา และพวกปุโรหิตก็ยกหีบ และเขาทั้งหลายนำหีบของพระยาห์เวห์ และเต็นท์นัดพบ อีกทั้งข้าวของเครื่องใช้ที่บริสุทธิ์ทุกอย่าง ซึ่งอยู่ในเต็นท์ขึ้นมา พวกปุโรหิตและพวกเลวีได้นำของเหล่านี้ขึ้นมา และพระราชาซาโลมอน และชุมนุมชนอิสราเอลทั้งสิ้นที่ได้ประชุมกันกับพระองค์ อยู่กับพระองค์ต่อหน้าหีบ ได้ถวายแกะและวัวมากมาย จนไม่สามารถนับจำนวนหรือคิดคำนวณได้ แล้วปุโรหิตก็นำหีบพันธสัญญาของพระยาห์เวห์มายังที่ตั้งของหีบ ในห้องชั้นในสุดของพระนิเวศ คือในอภิสุทธิสถาน ภายใต้ปีกของเครูบ เพราะเครูบนั้นกางปีกทั้งคู่ออกเหนือที่ตั้งของหีบ เครูบจึงคลุมอยู่เหนือหีบ และไม้คานของหีบ คานหามของหีบนั้นยาวมาก จึงเห็นปลายคานหามได้จากวิสุทธิสถาน ซึ่งอยู่หน้าห้องชั้นในสุด แต่ไม่อาจมองเห็นจากภายนอก และคานหามก็ยังอยู่ที่นั่นจนทุกวันนี้ ไม่มีสิ่งใดในหีบนอกจากศิลาสองแผ่น ซึ่งโมเสสใส่ไว้ ณ ภูเขาโฮเรบ เมื่อพระยาห์เวห์ทรงทำพันธสัญญากับคนอิสราเอล เมื่อเขาทั้งหลายออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ และต่อมาเมื่อพวกปุโรหิตออกมาจากวิสุทธิสถาน เมฆก็เต็มพระนิเวศของพระยาห์เวห์ จนพวกปุโรหิตไม่อาจยืนปรนนิบัติอยู่ได้เพราะเมฆนั้น เพราะพระสิริของพระยาห์เวห์เต็มพระนิเวศของพระยาห์เวห์ แล้วซาโลมอนตรัสว่า “พระยาห์เวห์ตรัสว่า พระองค์จะประทับในความมืดทึบ แท้จริง ข้าพระองค์ได้สร้างพระนิเวศที่โอ่อ่าตระการตาสำหรับพระองค์ เป็นสถานที่เพื่อพระองค์จะสถิตอยู่เป็นนิตย์” แล้วพระราชาทรงหันมา และทรงอวยพรชุมนุมชนอิสราเอลทั้งหมด ขณะที่ชุมนุมชนอิสราเอลทั้งหมดยืนอยู่ พระองค์ตรัสว่า “สาธุการแด่พระยาห์เวห์ พระเจ้าแห่งอิสราเอล ผู้ทรงสัญญากับดาวิดพระราชบิดาของข้าพเจ้าด้วยพระโอษฐ์ และทรงให้สำเร็จด้วยพระหัตถ์ พระองค์ตรัสว่า ‘ตั้งแต่วันที่เราได้นำอิสราเอลประชากรของเราออกจากอียิปต์ เราไม่ได้เลือกเมืองไหนจากเผ่าใดในอิสราเอลเพื่อจะสร้างนิเวศ เพื่อนามของเราจะอยู่ที่นั่น แต่เราได้เลือกดาวิด ให้อยู่เหนืออิสราเอลประชากรของเรา’ ดาวิดพระราชบิดาของข้าพเจ้าจึงตั้งพระทัยที่จะสร้างพระนิเวศ สำหรับพระนามแห่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอล แต่พระยาห์เวห์ตรัสกับดาวิดพระราชบิดาของข้าพเจ้าว่า ‘ที่เจ้าตั้งใจสร้างนิเวศสำหรับนามของเรานั้น เจ้าก็ทำดีอยู่แล้ว ในเรื่องความตั้งใจของเจ้า อย่างไรก็ตาม เจ้าจะไม่ได้สร้างนิเวศ แต่บุตรชายผู้เกิดจากเจ้าจะสร้างนิเวศสำหรับนามของเรา’ บัดนี้พระยาห์เวห์ทรงให้พระสัญญาของพระองค์ที่ตรัสนั้นสำเร็จ เพราะข้าพเจ้าได้ขึ้นมาแทนดาวิดพระราชบิดาของข้าพเจ้า และนั่งอยู่บนบัลลังก์ของอิสราเอล ดังที่พระยาห์เวห์ได้ทรงสัญญาไว้ และข้าพเจ้าได้สร้างพระนิเวศสำหรับพระนามของพระยาห์เวห์ พระเจ้าแห่งอิสราเอล ที่นั่นข้าพเจ้าได้กำหนดที่วางหีบ และภายในหีบบรรจุพันธสัญญาที่พระยาห์เวห์ทรงทำกับบรรพบุรุษของเรา เมื่อทรงนำพวกเขาออกจากแผ่นดินอียิปต์” แล้วซาโลมอนทรงยืนอยู่หน้าแท่นบูชาของพระยาห์เวห์ ต่อหน้าชุมนุมชนอิสราเอลทั้งหมด และกางพระหัตถ์ของพระองค์ออกสู่ฟ้าสวรรค์ และทูลว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าแห่งอิสราเอล ไม่มีพระเจ้าองค์ไหนเหมือนพระองค์ ในฟ้าสวรรค์เบื้องบน หรือที่แผ่นดินเบื้องล่าง ผู้ทรงรักษาพันธสัญญา และสำแดงความรักมั่นคงแก่ผู้รับใช้ของพระองค์ ผู้ดำเนินอยู่เฉพาะพระพักตร์พระองค์ด้วยสุดใจ พระองค์ทรงรักษาพระสัญญาที่ทรงให้ไว้กับดาวิดพระราชบิดาของข้าพระองค์ ผู้รับใช้ของพระองค์ และพระองค์ทรงทำให้พระสัญญาด้วยพระโอษฐ์นั้นสำเร็จด้วยพระหัตถ์ในวันนี้ ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าแห่งอิสราเอล เพราะฉะนั้นขอทรงรักษาพระสัญญาที่ให้ไว้กับผู้รับใช้ของพระองค์ คือให้กับดาวิดพระราชบิดาของข้าพระองค์ โดยตรัสว่า ‘ถ้าเพียงแต่ลูกหลานของเจ้าจะรักษาทางของเขา ที่จะดำเนินไปต่อหน้าเรา อย่างที่เจ้าได้ดำเนินต่อหน้าเรานั้น เจ้าจะไม่ขาดทายาทที่จะนั่งบนบัลลังก์ของอิสราเอลต่อหน้าเรา’ เพราะฉะนั้น ข้าแต่พระเจ้าแห่งอิสราเอล ขอให้พระสัญญาที่พระองค์ได้ตรัสกับผู้รับใช้ของพระองค์ คือดาวิดพระราชบิดาของข้าพระองค์เป็นจริง” “แต่แท้จริงพระเจ้าจะประทับบนแผ่นดินโลกหรือ? ดูสิ ฟ้าสวรรค์และฟ้าสวรรค์อันสูงสุดยังรับพระองค์อยู่ไม่ได้ แล้วพระนิเวศนี้ซึ่งข้าพระองค์ได้สร้างขึ้นจะรับพระองค์ได้อย่างไร? แต่ขอพระองค์สนพระทัยในคำอธิษฐานของผู้รับใช้ของพระองค์ และในคำวิงวอนของเขา ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอทรงสดับเสียงร้องและคำอธิษฐาน ซึ่งผู้รับใช้ของพระองค์ อธิษฐานต่อพระองค์ในวันนี้ เพื่อพระเนตรของพระองค์จะทรงเฝ้าดูพระนิเวศนี้ทั้งวันและคืน คือสถานที่ซึ่งพระองค์ตรัสว่า ‘นามของเราจะอยู่ที่นั่น’ เพื่อพระองค์จะทรงสดับคำอธิษฐาน ซึ่งผู้รับใช้ของพระองค์จะอธิษฐานต่อสถานที่นี้ และขอพระองค์ทรงสดับคำวิงวอนของผู้รับใช้ของพระองค์ และของอิสราเอลประชากรของพระองค์ เมื่อเขาทั้งหลายอธิษฐานต่อสถานที่นี้ ขอพระองค์เองทรงสดับจากสถานที่ประทับของพระองค์คือจากฟ้าสวรรค์ และเมื่อทรงสดับแล้ว ก็ขอทรงอภัย “เมื่อชายใดทำบาปต่อเพื่อนบ้านของเขา และถูกบังคับให้สาบาน และเขามาสาบานต่อหน้าแท่นบูชาของพระองค์ในพระนิเวศนี้ ขอพระองค์ทรงสดับในฟ้าสวรรค์ และขอทรงกระทำ และขอทรงพิพากษาเหล่าผู้รับใช้ของพระองค์ โดยลงโทษผู้ทำผิด และให้การกระทำของเขาตกบนศีรษะของเขา และตัดสินว่าผู้ชอบธรรมนั้นบริสุทธิ์ โดยให้กับเขาตามความชอบธรรมของเขา “เมื่ออิสราเอลประชากรของพระองค์พ่ายแพ้ศัตรู เพราะได้ทำบาปต่อพระองค์ แล้วพวกเขาหันกลับมาหาพระองค์ และยอมรับพระนามของพระองค์ อธิษฐานและขอพระเมตตาต่อพระองค์ในพระนิเวศนี้ ก็ขอพระองค์ทรงสดับในฟ้าสวรรค์ และทรงอภัยบาปของอิสราเอลประชากรของพระองค์ และขอทรงนำพวกเขากลับมายังแผ่นดิน ซึ่งพระองค์ได้ประทานแก่บรรพบุรุษของเขาทั้งหลาย “เมื่อฟ้าสวรรค์ปิดอยู่และไม่มีฝน เพราะเขาทั้งหลายได้ทำบาปต่อพระองค์ แล้วพวกเขาได้อธิษฐานต่อสถานที่นี้ และยอมรับพระนามของพระองค์ และหันกลับจากบาปของเขา เนื่องจากพระองค์ทรงลงโทษพวกเขา ก็ขอทรงสดับในฟ้าสวรรค์ และทรงอภัยบาปของอิสราเอลซึ่งเป็นผู้รับใช้และประชากรของพระองค์ แล้วขอทรงสอนทางดีที่ควรจะดำเนินแก่พวกเขา และขอประทานฝนตกบนแผ่นดินของพระองค์ ซึ่งพระองค์ประทานให้เป็นมรดกแก่ประชากรของพระองค์ “ถ้ามีการกันดารอาหารในแผ่นดิน ถ้ามีโรคระบาด ถ้ามีข้าวลีบ ข้าวขึ้นรา หรือภัยจากตั๊กแตนปาทังก้า และตั๊กแตนตัวอ่อน หรือถ้าศัตรูล้อมเมืองใดๆ ของเขาในแผ่นดิน หรือมีภัยพิบัติใด หรือเกิดความเจ็บไข้ใดก็ดี แล้วหากคนหนึ่งคนใด หรืออิสราเอลประชากรทั้งหมดของพระองค์ ได้สำนึกในใจของเขาเรื่องภัยพิบัติ จะอธิษฐานหรือวิงวอนประการใด โดยกางมือของเขาสู่พระนิเวศนี้ ก็ขอพระองค์ทรงสดับในฟ้าสวรรค์ อันเป็นที่ประทับของพระองค์ และขอทรงอภัย และทรงกระทำการ และประทานแก่แต่ละคนตามการประพฤติทั้งสิ้นของเขา ซึ่งพระองค์ทรงทราบจิตใจ (เพราะพระองค์เท่านั้นทรงทราบจิตใจของมนุษย์ทุกคน) เพื่อเขาทั้งหลายจะได้ยำเกรงพระองค์ ตลอดวันเวลาที่มีชีวิตบนแผ่นดิน ซึ่งพระองค์ประทานแก่บรรพบุรุษของพวกข้าพระองค์ “ยิ่งกว่านั้นอีก เกี่ยวกับคนต่างด้าว ผู้ซึ่งไม่ใช่อิสราเอลประชากรของพระองค์ แต่มาจากแดนไกลเนื่องจากพระนามของพระองค์ (เพราะเขาทั้งหลายจะได้ยินถึงพระนามยิ่งใหญ่ และถึงพระหัตถ์อันทรงฤทธิ์ และถึงพระกรที่เหยียดออกของพระองค์) เมื่อเขามาอธิษฐานต่อพระนิเวศนี้ ก็ขอพระองค์ทรงสดับในฟ้าสวรรค์ อันเป็นที่ประทับของพระองค์ และขอทรงทำตามทุกสิ่ง ซึ่งคนต่างด้าวได้ทูลขอพระองค์ เพื่อชนทุกชาติแห่งแผ่นดินโลกจะรู้จักพระนามของพระองค์ และยำเกรงพระองค์ เหมือนอย่างอิสราเอลประชากรของพระองค์ และเพื่อเขาทั้งหลายจะทราบว่า เขาเรียกพระนิเวศนี้ ซึ่งข้าพระองค์ได้สร้างไว้ด้วยพระนามของพระองค์ “ถ้าประชากรของพระองค์ออกไปต่อสู้กับศัตรู โดยทางใดๆ ที่พระองค์ทรงใช้พวกเขาออกไปก็ตาม และเขาทั้งหลายได้อธิษฐานต่อพระยาห์เวห์ ตรงไปยังเมืองซึ่งพระองค์ทรงเลือกสรรไว้ และตรงไปยังพระนิเวศที่ข้าพระองค์ได้สร้างเพื่อพระนามของพระองค์แล้ว ก็ขอพระองค์ทรงสดับคำอธิษฐาน และคำวิงวอนของพวกเขาในฟ้าสวรรค์ และขอประทานความยุติธรรมแก่พวกเขา “ถ้าเขาทั้งหลายทำบาปต่อพระองค์ (เพราะไม่มีมนุษย์คนใดไม่ได้ทำบาป) และพระองค์กริ้วพวกเขา และทรงมอบเขาไว้กับศัตรู ผู้จับเขาไปเป็นเชลยยังแผ่นดินของศัตรูนั้น ไม่ว่าไกลหรือใกล้ แต่ถ้าเขาสำนึกผิดในแผ่นดินที่เขาถูกจับไปเป็นเชลย และได้กลับใจ แล้วได้วิงวอนต่อพระองค์ในแผ่นดินของผู้จับเขาไปเป็นเชลย ทูลว่า ‘ข้าพระองค์ทั้งหลายได้ทำบาป และได้ประพฤติชั่วร้ายและได้ทำการอธรรม’ ถ้าเขาทั้งหลายกลับมาหาพระองค์ด้วยสุดจิตสุดใจ ในแผ่นดินแห่งศัตรูผู้จับเขาไปเป็นเชลย และอธิษฐานต่อพระองค์ตรงไปยังแผ่นดิน ซึ่งพระองค์ประทานแก่บรรพบุรุษของเขาทั้งหลาย คือเมืองซึ่งพระองค์ทรงเลือกสรรไว้ และพระนิเวศซึ่งข้าพระองค์ได้สร้างไว้เพื่อพระนามของพระองค์แล้ว ก็ขอพระองค์ทรงสดับคำอธิษฐานและคำวิงวอนของพวกเขาในฟ้าสวรรค์ อันเป็นที่ประทับของพระองค์ และขอประทานความยุติธรรมแก่พวกเขา และขอทรงอภัยประชากรของพระองค์ผู้ทำบาปต่อพระองค์ และทรงอภัยต่อการทรยศที่เขาทั้งหลายได้ทำต่อพระองค์ และขอให้พวกเขาได้รับความกรุณาจากผู้ที่จับเขาไปเป็นเชลย เพื่อศัตรูจะเมตตาเขาทั้งหลาย (เพราะพวกเขาเป็นประชากรของพระองค์และเป็นมรดกของพระองค์ ซึ่งทรงนำออกมาจากอียิปต์ จากท่ามกลางเตาเหล็ก) ขอลืมพระเนตรของพระองค์อยู่ต่อคำวิงวอนของผู้รับใช้ของพระองค์ และต่อคำวิงวอนของอิสราเอลประชากรของพระองค์ ขอทรงฟังเมื่อเขาทั้งหลายร้องต่อพระองค์ เพราะพระองค์ทรงแยกพวกเขาจากท่ามกลางชนทุกชาติแห่งแผ่นดินโลก ให้เป็นมรดกของพระองค์ ตามซึ่งพระองค์ตรัสทางโมเสสผู้รับใช้ของพระองค์ ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้านาย เมื่อพระองค์ทรงนำบรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายออกจากอียิปต์” เมื่อซาโลมอนทรงจบคำอธิษฐาน และคำวิงวอนทั้งสิ้นนี้ต่อพระยาห์เวห์แล้ว ก็ทรงลุกขึ้นจากหน้าแท่นบูชาของพระยาห์เวห์ ที่ที่ทรงคุกเข่าพร้อมกับกางพระหัตถ์สู่ฟ้าสวรรค์ และพระองค์ทรงยืน และทรงอวยพรแก่ชุมนุมชนอิสราเอลด้วยเสียงดังว่า “สาธุการแด่พระยาห์เวห์ ผู้ประทานการหยุดพักแก่อิสราเอลประชากรของพระองค์ ตามที่ทรงสัญญาไว้ทุกประการ พระสัญญาอันดีทั้งสิ้นของพระองค์ซึ่งทรงสัญญาทางโมเสสผู้รับใช้ของพระองค์นั้นไม่ล้มเหลวสักคำเดียว ขอพระยาห์เวห์พระเจ้าของเราทั้งหลายสถิตกับพวกเรา เหมือนอย่างที่ได้สถิตกับบรรพบุรุษของเรา ขออย่าทรงละเราหรือทอดทิ้งเราเลย แต่ขอทรงโน้มจิตใจของพวกเราให้มาหาพระองค์ เพื่อดำเนินในทางทั้งสิ้นของพระองค์ และรักษาพระบัญญัติ กฎเกณฑ์ และกฎหมายของพระองค์ ซึ่งทรงบัญญัติไว้แก่บรรพบุรุษของเรา ขอให้ถ้อยคำเหล่านี้ ที่ข้าพเจ้าได้วิงวอนเฉพาะพระยาห์เวห์ อยู่ใกล้พระยาห์เวห์พระเจ้าของเราทั้งวันและคืน และขอให้ความยุติธรรมแก่ผู้รับใช้ของพระองค์ และแก่อิสราเอลประชากรของพระองค์ ตามความต้องการในแต่ละวัน เพื่อชนทุกชาติแห่งแผ่นดินโลกจะทราบว่า พระยาห์เวห์นั้นทรงเป็นพระเจ้า ไม่มีพระอื่นเลย เพราะฉะนั้นขอให้จิตใจของท่านทั้งหลายภักดีต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา คือดำเนินอยู่ในกฎเกณฑ์ของพระองค์ และรักษาพระบัญญัติของพระองค์ดังในวันนี้” แล้วพระราชาและคนอิสราเอลทั้งสิ้นที่อยู่กับพระองค์ ได้ถวายเครื่องสัตวบูชาแด่พระยาห์เวห์ และซาโลมอนได้ถวายสัตว์ต่อไปนี้ เป็นเครื่องศานติบูชาแด่พระยาห์เวห์ คือวัว 22,000 ตัว และแกะ 120,000 ตัว พระราชาและคนอิสราเอลทั้งสิ้น จึงอุทิศถวายพระนิเวศของพระยาห์เวห์ ในวันเดียวกันนั้น พระราชาทรงทำพิธีชำระส่วนกลางของลาน ซึ่งอยู่หน้าพระนิเวศของพระยาห์เวห์ เพราะว่าพระองค์ทรงใช้ที่นั่นถวายเครื่องบูชาเผาทั้งตัว ธัญบูชา และไขมันของศานติบูชา เพราะว่าแท่นทองสัมฤทธิ์ซึ่งอยู่เฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์นั้น เล็กเกินกว่าจะรับเครื่องบูชาเผาทั้งตัว ธัญบูชา และไขมันของศานติบูชาได้ ซาโลมอนจึงทรงฉลองเทศกาลเลี้ยงในเวลานั้น พร้อมกับอิสราเอลทั้งสิ้น เป็นการชุมนุมใหญ่ เฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา ทั้งเจ็ดวันและต่ออีกเจ็ดวัน รวมสิบสี่วัน มีคนมาตั้งแต่ทางเข้าเมืองฮามัทจนถึงลำธารอียิปต์ ในวันที่แปด พระองค์ทรงให้ประชาชนกลับ เขาทั้งหลายก็ถวายพระพรแด่พระราชา และกลับไปยังเต็นท์ของตนด้วยจิตใจชื่นบานและยินดี เนื่องด้วยความดีทั้งสิ้น ซึ่งพระยาห์เวห์ทรงสำแดงแก่ดาวิดผู้รับใช้ของพระองค์ และแก่อิสราเอลประชากรของพระองค์

1 พงศ์กษัตริย์ 8:1-66 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

แล​้วซาโลมอนทรงประชุมพวกผู้​ใหญ่​ของอิสราเอล และบรรดาหัวหน้าของตระกูล คือประมุขของบรรพบุรุษคนอิสราเอล ต่อพระพักตร์​กษัตริย์​ซาโลมอนในกรุงเยรูซาเล็ม เพื่อจะนำหีบพันธสัญญาของพระเยโฮวาห์ขึ้นมาจากนครดาวิด คือเมืองศิ​โยน และผู้ชายทั้งสิ้นของอิสราเอลก็ประชุมต่อพระพักตร์​กษัตริย์​ซาโลมอน ณ การเลี้ยงในเดือนเอธานิม ซึ่งเป็นเดือนที่​เจ็ด พวกผู้​ใหญ่​ทั้งสิ้นของอิสราเอลมา และพวกปุโรหิ​ตก​็ยกหีบ และเขาทั้งหลายนำหีบของพระเยโฮวาห์ และพลับพลาแห่งชุ​มนุ​ม และเครื่องใช้​บริสุทธิ์​ทั้งสิ้นซึ่งอยู่ในพลับพลาขึ้นมา ของเหล่านี้บรรดาปุโรหิตและคนเลวีหามขึ้นมา และกษั​ตริ​ย์ซาโลมอน และชุ​มนุ​มชนอิสราเอลทั้งสิ้​นที​่​ได้​ประชุมกันต่อพระองค์ อยู่​กับพระองค์ต่อหน้าหีบ ได้​ถวายแกะและวัวมากมาย ซึ่งเขาจะนับหรือเอาจำนวนก็​ไม่ได้ แล​้วปุโรหิ​ตก​็นำหีบพันธสัญญาของพระเยโฮวาห์​มาย​ังที่ของหีบ ที่อยู่​ในห้องหลังของพระนิเวศ คือในที่​บริสุทธิ์​ที่สุด ภายใต้​ปี​กเครูบ เพราะว่าเครู​บน​ั้นกางปีกออกเหนือที่ของหีบ เครูบจึงเป็นเครื่องคลุมเหนือหีบ และไม้คานของหีบ พวกเขาดึงคานหามของหี​บน​ั้นออกบ้าง จึงเห็นปลายคานหามได้จากที่​บริสุทธิ์​ที่สุด ซึ่งอยู่ข้างหน้าห้องหลัง แต่​เขาจะเห็นจากข้างนอกไม่​ได้ และคานหามก็ยังอยู่​ที่​นั่นจนทุกวันนี้ ไม่มี​สิ​่งใดในหีบนอกจากศิลาสองแผ่น ซึ่งโมเสสเก็บไว้ ณ โฮเรบ เมื่อพระเยโฮวาห์ทรงกระทำพันธสัญญากับชนอิสราเอล เมื่อเขาทั้งหลายออกมาจากแผ่นดิ​นอ​ียิปต์ และอยู่มาเมื่อปุโรหิตออกมาจากที่​บริสุทธิ์​ที่สุด เมฆมาเต็มพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ ปุ​โรหิตจึงยืนปรนนิบั​ติ​อยู่​ไม่ได้​เพราะเมฆนั้น เพราะสง่าราศีของพระเยโฮวาห์เต็มพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ แล​้วซาโลมอนตรั​สว​่า “พระเยโฮวาห์​ได้​ตรั​สว​่า พระองค์​จะประทับในความมืดทึบ ข้าพระองค์​ได้​สร้างพระนิเวศอันเป็​นที​่ประทับสำหรับพระองค์ เป็นสถานที่ถาวรเพื่อพระองค์จะทรงสถิตอยู่​เป็นนิตย์​” แล​้วกษั​ตริ​ย์​ก็​หันมาและทรงให้พรแก่ชุ​มนุ​มชนอิสราเอลทั้งปวง (​ขณะที่​ชุ​มนุ​มชนอิสราเอลทั้งปวงยืนอยู่) พระองค์​ตรั​สว​่า “​สาธุ​การแด่พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่​งอ​ิสราเอล ผู้​ทรงกระทำให้สำเร็​จด​้วยพระหัตถ์ของพระองค์ ตามที่​พระองค์​ตรัสไว้ด้วยพระโอษฐ์ต่อดาวิดราชบิดาของข้าพเจ้าว่า ‘​ตั้งแต่​วันที่​เราได้นำอิสราเอลชนชาติของเราออกจากอียิปต์ เรามิ​ได้​เลือกเมืองหนึ่งเมืองใดในตระกูลอิสราเอลทั้งสิ้นเพื่อจะสร้างพระนิเวศ เพื่อนามของเราจะอยู่​ที่นั่น แต่​เราได้เลือกดาวิดให้​อยู่​เหนื​ออ​ิสราเอลชนชาติของเรา’ ดาว​ิดราชบิดาของข้าพเจ้าทรงตั้งพระทัยแล้​วท​ี่จะสร้างพระนิเวศสำหรับพระนามแห่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของอิสราเอล แต่​พระเยโฮวาห์ตรัสกับดาวิดราชบิดาของข้าพเจ้าว่า ‘​ที่​เจ้​าตั้งใจสร้างพระนิเวศสำหรับนามของเรานั้น เจ้​าก็​ทำดี​อยู่​แล้ว ในเรื่องความตั้งใจของเจ้า อย่างไรก็ตาม เจ้​าจะไม่สร้างพระนิเวศ แต่​บุ​ตรชายของเจ้าผู้ซึ่งจะออกมาจากบั้นเอวของเจ้าจะสร้างพระนิเวศเพื่อนามของเรา’ บัดนี้​พระเยโฮวาห์ทรงให้พระดำรัสของพระองค์ ซึ่งพระองค์ตรั​สน​ั้นสำเร็จ เพราะข้าพเจ้าได้ขึ้นมาแทนดาวิดราชบิดาของข้าพเจ้า และนั่งอยู่บนบัลลั​งก​์ของอิสราเอล ดังที่​พระเยโฮวาห์​ได้​ทรงสัญญาไว้ และข้าพเจ้าได้สร้างพระนิเวศสำหรับพระนามของพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่​งอ​ิสราเอล ข้าพเจ้าได้กำหนดที่​ไว้​สำหรับหี​บท​ี่นั่นแล้ว ซึ่งพันธสัญญาของพระเยโฮวาห์​อยู่​ในนั้น ซึ่งพระองค์​ได้​ทรงกระทำไว้กับบรรพบุรุษของเรา เมื่อพระองค์ทรงนำเขาทั้งหลายออกมาจากแผ่นดิ​นอ​ียิปต์” แล​้วซาโลมอนประทับยืนหน้าแท่นบูชาของพระเยโฮวาห์ต่อหน้าชุ​มนุ​มชนอิสราเอลทั้งปวง และกางพระหัตถ์ของพระองค์ออกสู่ฟ้าสวรรค์ และทูลว่า “ข้าแต่พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่​งอ​ิสราเอล ไม่มี​พระเจ้าองค์ใดเหมือนพระองค์ ในฟ้าสวรรค์​เบื้องบน หรือที่​แผ่​นดินเบื้องล่าง ผู้​ทรงรักษาพันธสัญญา และทรงสำแดงความเมตตาแก่​ผู้รับใช้​ของพระองค์ ซึ่งดำเนินอยู่ต่อพระพักตร์​พระองค์​ด้วยสิ้นสุดใจของเขา พระองค์​ได้​ทรงกระทำกับดาวิดบิดาของข้าพระองค์ ผู้รับใช้​ของพระองค์ ตามบรรดาสิ่งซึ่งพระองค์ทรงสัญญาไว้​แก่​ท่าน พระองค์​ตรั​สด​้วยพระโอษฐ์ของพระองค์ และพระองค์​ได้​ทรงกระทำให้สำเร็จในวันนี้ด้วยพระหัตถ์ของพระองค์ ข้าแต่พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่​งอ​ิสราเอล เพราะฉะนั้นบัดนี้ขอทรงรักษาสิ่งที่​พระองค์​ทรงสัญญาไว้กับดาวิดผู้​รับใช้​ของพระองค์ราชบิดาของข้าพระองค์​ว่า ‘​เจ้​าจะไม่ขาดชายผู้​หน​ึ่งในสายตาของเราที่จะนั่งบนบัลลั​งก​์​แห่​งอ​ิสราเอล เพื่อว่าลูกหลานทั้งหลายของเจ้าจะระมัดระวังในวิถีทางของเขา ที่​เขาจะดำเนินไปต่อหน้าเราอย่างที่​เจ้​าได้ดำเนินต่อหน้าเรานั้น’ เพราะฉะนั้นบัดนี้ โอ ข้าแต่พระเจ้าแห่​งอ​ิสราเอล ขอพระวจนะของพระองค์จงดำรงอยู่ ซึ่งพระองค์​ได้​ตรัสกับผู้​รับใช้​ของพระองค์ คือดาวิดบิดาของข้าพระองค์ แต่​พระเจ้าจะทรงประทั​บท​ี่​แผ่​นดินโลกหรือ ดู​เถิด ฟ้าสวรรค์และฟ้าสวรรค์อันสูงที่สุดยังรับพระองค์​อยู่​ไม่ได้ พระนิเวศซึ่งข้าพระองค์​ได้​สร้างขึ้นจะรับพระองค์​ไม่ได้​ยิ่งกว่านั้นสักเท่าใด แต่​ขอพระองค์สนพระทัยในคำอธิษฐานของผู้​รับใช้​ของพระองค์ และในคำวิงวอนนี้ โอ ข้าแต่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอทรงสดับเสียงร้องและคำอธิษฐานซึ่งผู้​รับใช้​ของพระองค์อธิษฐานต่อพระพักตร์​พระองค์​ในวันนี้ เพื่อว่าพระเนตรของพระองค์จะทรงลืมอยู่เหนือพระนิเวศนี้ ทั้งกลางคืนและกลางวัน คือสถานที่ซึ่งพระองค์​ได้​ตรั​สว​่า ‘นามของเราจะอยู่​ที่นั่น​’ เพื่อว่าพระองค์จะทรงสดับคำอธิษฐาน ซึ่งผู้​รับใช้​ของพระองค์จะได้อธิษฐานตรงต่อสถานที่​นี้ และขอพระองค์ทรงสดับคำวิงวอนของผู้​รับใช้​ของพระองค์ และของอิสราเอลชนชาติของพระองค์ เมื่อเขาอธิษฐานตรงต่อสถานที่​นี้ ขอพระองค์ทรงสดั​บอย​ู่ในฟ้าสวรรค์ อันเป็​นที​่ประทับของพระองค์ และเมื่อพระองค์ทรงสดับแล้ว ก็​ขอพระองค์ทรงประทานอภัย เมื่อชายคนใดกระทำการละเมิดต่อเพื่อนบ้านของเขา และถู​กบ​ังคับให้ทำสัตย์​ปฏิญาณ และเขามาให้คำปฏิญาณต่อหน้าแท่นบูชาของพระองค์ในพระนิเวศนี้ ขอพระองค์ทรงสดับในฟ้าสวรรค์ และขอทรงกระทำและทรงพิพากษาผู้​รับใช้​ทั้งหลายของพระองค์ กล​่าวโทษผู้​กระทำความผิด และทรงนำความประพฤติของเขาให้​กล​ับตกบนศีรษะของตัวเขาเอง และขอทรงประกาศความบริ​สุทธิ​์ของผู้ชอบธรรมสนองแก่เขาตามความชอบธรรมของเขา เมื่​ออ​ิสราเอลชนชาติของพระองค์​พ่ายแพ้​ต่อหน้าศั​ตรู เพราะเขาได้กระทำบาปต่อพระองค์ ถ้าเขาหันกลับมาหาพระองค์​อีก และยอมรับพระนามของพระองค์ และอธิษฐานและกระทำการวิงวอนต่อพระองค์ในพระนิเวศนี้ ก็​ขอพระองค์ทรงสดับในฟ้าสวรรค์ และประทานอภัยแก่บาปของอิสราเอลชนชาติของพระองค์ และขอทรงนำเขากลับมายังแผ่นดินซึ่งพระองค์​ได้​ทรงพระราชทานแก่บรรพบุรุษของเขาทั้งหลาย เมื่อฟ้าสวรรค์ปิ​ดอย​ู่ และไม่​มี​ฝน เพราะเขาทั้งหลายได้กระทำบาปต่อพระองค์ ถ้าเขาทั้งหลายได้อธิษฐานต่อสถานที่​นี้ และยอมรับพระนามของพระองค์ และหันกลับเสียจากบาปของเขาทั้งหลาย เมื่อพระองค์ทรงให้เขาทั้งหลายรับความทุกข์​ใจ ก็​ขอพระองค์ทรงสดับในฟ้าสวรรค์ และขอทรงประทานอภัยบาปของผู้​รับใช้​ของพระองค์ และของอิสราเอลประชาชนของพระองค์ เมื่อพระองค์ทรงสอนทางดี​แก่​เขา ซึ่งเขาควรจะดำเนิน และขอทรงประทานฝนบนแผ่นดินของพระองค์ ซึ่งพระองค์​ได้​ทรงพระราชทานแก่​ชนชาติ​ของพระองค์เป็นมรดกนั้น ถ้ามี​การก​ันดารอาหารในแผ่นดิน ถ้ามี​โรคระบาด ข้าวม้าน ราก​ินข้าว หรือตั๊กแตนวัยบิน หรือตั๊กแตนวัยคลาน หรือถ้าศั​ตรู​ของเขาทั้งหลายล้อมเมืองของเขาไว้​รอบด้าน จะเป็นภัยพิบั​ติ​อย่างใด หรือความเจ็บไข้​อย่างใด มี​ขึ้​นก​็​ดี ไม่​ว่าคำอธิษฐานอย่างใด หรือคำวิงวอนประการใดซึ่งประชาชนคนใด หรื​ออ​ิสราเอลประชาชนของพระองค์ทั้งสิ้นทูล ต่างก็สำนึกถึงเรื่องภัยพิบั​ติ​แห่​งจิตใจของเขาเอง และได้กางมือของเขาสู่พระนิเวศนี้ ขอพระองค์ทรงสดับในฟ้าสวรรค์ อันเป็​นที​่ประทับของพระองค์ และพระราชทานอภัยและทรงกระทำ และทรงประทานแก่​ทุ​กคนซึ่งพระองค์ทรงทราบจิตใจตามการประพฤติทั้งสิ้นของเขา (เพราะพระองค์คือพระองค์​เท่​านั้​นที​่ทรงทราบจิตใจแห่​งบ​ุตรทั้งหลายของมนุษย์) เพื่อว่าเขาทั้งหลายจะได้ยำเกรงพระองค์ตลอดวันเวลาที่เขาทั้งหลายอาศัยในแผ่นดิน ซึ่งพระองค์ทรงประทานแก่บรรพบุรุษของข้าพระองค์​ทั้งหลาย ยิ่งกว่านั้​นอ​ีกเกี่ยวกับชนต่างด้าว ผู้​ซึ่งไม่​ใช่​อิสราเอลประชาชนของพระองค์ เมื่อเขามาจากประเทศเมืองไกล เพราะเห็นแก่พระนามของพระองค์ (เพราะเขาทั้งหลายจะได้ยินถึงพระนามใหญ่ยิ่งของพระองค์ และถึงพระหัตถ์อันมหิทธิ​ฤทธิ์​ของพระองค์ และถึงพระกรที่​เหย​ียดออกของพระองค์) เมื่อเขามาอธิษฐานตรงต่อพระนิเวศนี้ ก็​ขอพระองค์ทรงสดับในฟ้าสวรรค์อันเป็​นที​่ประทับของพระองค์ และขอทรงกระทำตามทุกสิ่งซึ่งชนต่างด้าวได้ทูลขอต่อพระองค์ เพื่อว่าชนชาติทั้งหลายแห่งแผ่นดินโลกจะรู้จักพระนามของพระองค์และเกรงกลัวพระองค์ ดั​งอ​ิสราเอลประชาชนของพระองค์ยำเกรงพระองค์​อยู่​นั้น และเพื่อเขาทั้งหลายจะทราบว่า พระนิเวศนี้ซึ่งข้าพระองค์​ได้​สร้างไว้เขาเรียกกันด้วยพระนามของพระองค์ ถ้าประชาชนของพระองค์ออกไปทำสงครามต่อสู้​ศัตรู​ของเขาทั้งหลาย จะเป็นโดยทางใดๆที่​พระองค์​ทรงใช้เขาออกไปก็​ตาม และเขาทั้งหลายได้อธิษฐานต่อพระเยโฮวาห์ตรงต่อเมืองซึ่งพระองค์ทรงเลือกสรรไว้ และตรงต่อพระนิเวศซึ่งข้าพระองค์​ได้​สร้างสำหรับพระนามของพระองค์ ขอพระองค์ทรงสดับคำอธิษฐานของเขาและคำวิงวอนของเขาในฟ้าสวรรค์ และขอทรงให้​สิทธิ​อันชอบธรรมของเขาคงอยู่ ถ้าเขาทั้งหลายกระทำบาปต่อพระองค์ (เพราะไม่​มี​มนุษย์​สักคนหนึ่งซึ่​งม​ิ​ได้​กระทำบาป) และพระองค์ทรงกริ้วต่อเขา และทรงมอบเขาไว้กับศั​ตรู เขาจึงถูกจับไปเป็นเชลยยังแผ่นดินของศั​ตรู​นั้น ไม่​ว่าไกลหรือใกล้ แต่​ถ้าเขาสำนึกผิดในใจในแผ่นดินซึ่งเขาได้​ถู​กจับไปเป็นเชลยและได้​กลับใจ และได้ทำการวิงวอนต่อพระองค์ในแผ่นดินของผู้จับเขาไปเป็นเชลย ทูลว่า ‘ข้าพระองค์ทั้งหลายได้กระทำบาป และได้​ประพฤติ​ชั่วร้ายและได้กระทำความชั่ว’ ถ้าเขาทั้งหลายกลับมาหาพระองค์ด้วยสุดจิตสุดใจของเขาในแผ่นดินแห่งศั​ตรู​ทั้งหลายของเขา ผู้​ซึ่งจับเขาไปเป็นเชลย และอธิษฐานต่อพระองค์ตรงต่อแผ่นดินของเขา ซึ่งพระองค์ทรงประทานแก่บรรพบุรุษของเขาทั้งหลาย คือเมืองซึ่งพระองค์​ได้​ทรงเลือกสรรไว้ และพระนิเวศซึ่งข้าพระองค์​ได้​สร้างไว้เพื่อพระนามของพระองค์ ขอพระองค์ทรงสดับคำอธิษฐานและคำวิงวอนของเขาในฟ้าสวรรค์ อันเป็​นที​่ประทับของพระองค์ และขอทรงให้​สิทธิ​อันชอบธรรมของเขาคงอยู่ และขอทรงประทานอภัยแก่ประชาชนของพระองค์​ผู้​ได้​กระทำบาปต่อพระองค์ และทรงประทานอภัยต่อการละเมิดทั้งหลายของเขา ซึ่งเขาได้กระทำต่อพระองค์ และให้เขาเป็​นที​่เมตตาของคนเหล่านั้​นที​่จับเขาทั้งหลายไปเป็นเชลย เพื่อเขาทั้งหลายจะได้รับความเมตตาจากเขา เพราะว่าเขาทั้งหลายเป็นประชาชนของพระองค์ และเป็นมรดกของพระองค์ ซึ่งพระองค์ทรงนำออกมาจากอียิปต์ จากท่ามกลางเตาเหล็ก ขอพระเนตรของพระองค์จงลืมอยู่ต่อคำวิงวอนของผู้​รับใช้​ของพระองค์ และต่อคำวิงวอนของอิสราเอลประชาชนของพระองค์ ขอทรงสดับบรรดาเรื่องที่เขาทั้งหลายร้องต่อพระองค์ เพราะพระองค์ทรงแยกเขาจากท่ามกลางชนชาติทั้งหลายของแผ่นดินโลก ให้​เป็นมรดกของพระองค์ ตามซึ่งพระองค์ตรัสทางโมเสส ผู้รับใช้​ของพระองค์ โอ ข้าแต่​องค์​พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้า ในเมื่อพระองค์ทรงนำบรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายออกจากอียิปต์” ครั้นซาโลมอนทรงจบคำอธิษฐาน และคำวิงวอนทั้งสิ้นนี้ต่อพระเยโฮวาห์​แล้ว ก็​ทรงลุกขึ้นจากหน้าแท่นบูชาของพระเยโฮวาห์ ที่​ซึ่งทรงคุกเข่าพร้อมกับกางพระหัตถ์​สู่​ฟ้าสวรรค์ และพระองค์ทรงประทับยืน และทรงให้พรแก่ชุ​มนุ​มชนอิสราเอลทั้งสิ้นด้วยเสียงดังว่า “​สาธุ​การแด่พระเยโฮวาห์ ผู้​ทรงพระราชทานการหยุดพักแก่อิสราเอลประชาชนของพระองค์ ตามซึ่งพระองค์ทรงสัญญาไว้​ทุ​กประการ พระสัญญาอันดีทั้งสิ้นของพระองค์ ซึ่งพระองค์ทรงสัญญาทางโมเสสผู้​รับใช้​ของพระองค์นั้นไม่ล้มเหลวสักคำเดียว ขอพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราทั้งหลายสถิ​ตก​ับเราดังที่​พระองค์​ได้​สถิ​ตก​ับบรรพบุรุษของเรา ขอพระองค์อย่าทรงละเราหรือทอดทิ้งเราเสีย เพื่อพระองค์ทรงโน้มจิตใจของเราให้มาหาพระองค์ ที่​จะดำเนินในทางทั้งสิ้นของพระองค์ และรักษาบรรดาพระบัญญั​ติ​ของพระองค์ กฎเกณฑ์​ของพระองค์ และคำตัดสินของพระองค์ ซึ่งพระองค์ทรงบัญญั​ติ​ไว้​แก่​บรรพบุรุษของเรา ขอให้​ถ้อยคำเหล่านี้ของข้าพเจ้า ซึ่งข้าพเจ้าได้วิงวอนขอต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์ ให้​อยู่​ใกล้​พระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกเราทั้งวันและคืน และขอให้​สิทธิ​อันชอบธรรมของผู้​รับใช้​ของพระองค์​คงอยู่ และให้​สิทธิ​อันชอบธรรมของอิสราเอลประชาชนของพระองค์​คงอยู่ ตามต้องการแต่ละวัน เพื่อบรรดาชนชาติทั้งหลายแห่งแผ่นดินโลกจะทราบว่าพระเยโฮวาห์นั้นเป็นพระเจ้า ไม่มี​องค์​อื่นเลย เพราะฉะนั้นขอให้​จิ​ตใจของท่านทั้งหลายบริ​สุทธิ​์ต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเรา คือที่จะดำเนินอยู่ในกฎเกณฑ์ของพระองค์ และรักษาพระบัญญั​ติ​ของพระองค์ ดังในเวลานี้” แล​้วกษั​ตริ​ย์และชนอิสราเอลทั้งปวงที่​อยู่​กับพระองค์​ได้​ถวายเครื่องสัตวบู​ชาต​่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์ และซาโลมอนได้ถวายเครื่องสันติ​บูชา ซึ่งพระองค์ทรงถวายแด่พระเยโฮวาห์ คือวัวสองหมื่นสองพันตัว และแกะหนึ่งแสนสองหมื่นตัว กษัตริย์​และคนอิสราเอลทั้งปวงจึ​งอ​ุทิศถวายพระนิเวศแห่งพระเยโฮวาห์ ในวันเดียวกันนั้นกษั​ตริ​ย์ทรงทำพิธีชำระส่วนกลางของลาน ซึ่งอยู่​หน​้าพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ เพราะว่าที่นั่นพระองค์​ได้​ถวายเครื่องเผาบู​ชา และธัญญบู​ชา และส่วนไขมันของสันติ​บูชา เพราะว่าแท่นทองสัมฤทธิ์ซึ่งอยู่ต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์นั้นเล็กเกินไป ไม่​พอรับเครื่องเผาบูชาและธัญญบู​ชา และส่วนไขมันของสันติ​บูชา ซาโลมอนจึงทรงฉลองเทศกาลในเวลานั้น พร​้อมกับอิสราเอลทั้งปวง เป็นชุ​มนุ​มมโหฬาร มี​คนมาตั้งแต่ทางเข้าเมืองฮามัทจนถึงแม่น้ำแห่​งอ​ียิปต์ ต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเรา เป็นเจ็ดวันและเจ็ดวันคือสิบสี่​วัน ในวั​นที​่แปดพระองค์ทรงให้ประชาชนกลับ เขาทั้งหลายก็ถวายพระพรแด่​กษัตริย์ และกลับไปสู่​เต็นท์​ของตน ด้วยจิตใจชื่นบานและยินดี เนื่องด้วยความดีทั้งสิ้นซึ่งพระเยโฮวาห์ทรงกระทำแก่​ดาว​ิดผู้​รับใช้​ของพระองค์ และแก่อิสราเอลประชาชนของพระองค์

1 พงศ์กษัตริย์ 8:1-66 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

แล้วซาโลมอนทรงประชุมพวกผู้ใหญ่ของอิสราเอล และหัวหน้าของเผ่า คือบรรดาประมุขของตระกูลคนอิสราเอล ต่อพระพักตร์พระราชาซาโลมอนในกรุงเยรูซาเล็ม เพื่อจะนำหีบพันธสัญญาของพระเจ้าขึ้นมาจากนครดาวิด คือเมืองศิโยน และผู้ชายทั้งสิ้นของอิสราเอลก็ประชุมต่อ พระพักตร์พระราชาซาโลมอน ณ การเลี้ยงในเดือนเอธานิม ซึ่งเป็นเดือนที่เจ็ด พวกผู้ใหญ่ทั้งสิ้นของอิสราเอลมา และพวกปุโรหิตก็ยกหีบ และเขาทั้งหลายนำหีบของพระเจ้า และเต็นท์นัดพบ และเครื่องใช้บริสุทธิ์ทั้งสิ้น ซึ่งอยู่ในเต็นท์ขึ้นมา ของเหล่านี้ บรรดาปุโรหิต และชนเลวีหามขึ้นมา และพระราชาซาโลมอน และชุมนุมชนอิสราเอลทั้งสิ้นที่ได้ประชุมกันต่อพระองค์ อยู่กับพระองค์ต่อหน้าหีบได้ถวายแกะและวัวมากมาย ซึ่งเขาจะนับหรือเอาจำนวนก็ไม่ได้ แล้วปุโรหิตก็นำหีบพันธสัญญาของพระเจ้ามายังที่ของหีบ ที่อยู่ในห้องหลังของพระนิเวศ คือในอภิสุทธิสถาน ภายใต้ปีกเครูบ เพราะว่าเครูบนั้นกางปีกออกเหนือที่ของหีบ เครูบจึงเป็นเครื่องคลุมเหนือหีบ และไม้คานของหีบ คานหามของหีบนั้นยาวมาก จึงเห็นปลายคานหามได้จากวิสุทธิสถาน ซึ่งอยู่ข้างหน้าห้องหลัง แต่เขาจะเห็นจากข้างนอกไม่ได้ และคานหามก็ยังอยู่ที่นั่นจนทุกวันนี้ ไม่มีสิ่งใดในหีบนอกจากศิลาสองแผ่น ซึ่งโมเสสเก็บไว้ ณ โฮเรบ เมื่อพระเจ้าทรงกระทำพันธสัญญากับชนอิสราเอล เมื่อเขาทั้งหลายออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ และอยู่มาเมื่อปุโรหิตออกมาจากวิสุทธิสถาน เมฆมาเต็มพระนิเวศของพระเจ้า ปุโรหิตจึงยืนปรนนิบัติอยู่ไม่ได้ เพราะเมฆนั้น เพราะพระสิริของพระเจ้า เต็มพระนิเวศของพระเจ้า แล้วซาโลมอนตรัสว่า <<พระเจ้าได้ตรัสว่า พระองค์จะประทับในความมืดทึบ ข้าพระองค์ได้สร้างพระนิเวศ อันเป็นที่ประทับสำหรับพระองค์ เป็นสถานที่เพื่อพระองค์จะทรงสถิตอยู่เป็นนิตย์>> แล้วพระราชาก็หันมาและทรงให้พรแก่ ชุมนุมชนอิสราเอลทั้งปวง ขณะที่ชุมนุมชนอิสราเอลทั้งปวงยืนอยู่ พระองค์ตรัสว่า <<สาธุการแด่พระเยโฮวาห์ พระเจ้าแห่งอิสราเอล ผู้ทรงกระทำให้สำเร็จด้วยพระหัตถ์ของพระองค์ ตามที่พระองค์ทรงสัญญาไว้ด้วยพระโอษฐ์ต่อดาวิดราชบิดาของข้าพเจ้าว่า <ตั้งแต่วันที่เราได้นำอิสราเอลชนชาติ ของเราออกจากอียิปต์ เรามิได้เลือกเมืองหนึ่งเมืองใดในเผ่า อิสราเอลทั้งสิ้นเพื่อจะสร้างพระนิเวศ เพื่อนามของเราจะอยู่ที่นั่น แต่เราได้เลือกดาวิด ให้อยู่เหนืออิสราเอลชนชาติของเรา> ดาวิดราชบิดาของข้าพเจ้าทรงตั้งพระทัยแล้ว ที่จะสร้างพระนิเวศ สำหรับพระนามแห่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของอิสราเอล แต่พระเจ้าตรัสกับดาวิดราชบิดาของข้าพเจ้าว่า <ที่เจ้าตั้งใจสร้างพระนิเวศสำหรับนามของเรานั้น เจ้าก็ทำดีอยู่แล้ว เพราะเรื่องความตั้งใจของเจ้า อย่างไรก็ตาม เจ้าจะไม่สร้างพระนิเวศ แต่บุตรชายของเจ้าผู้ซึ่งจะเกิดแก่เจ้าจะสร้าง พระนิเวศเพื่อนามของเรา> บัดนี้พระเจ้าทรงให้พระสัญญาของพระองค์ ซึ่งพระองค์ทรงกระทำนั้นสำเร็จ เพราะข้าพเจ้าได้ขึ้นมาแทนดาวิด ราชบิดาของข้าพเจ้า และนั่งอยู่บนบัลลังก์ของอิสราเอล ดังที่พระเจ้าได้ทรงสัญญาไว้และข้าพเจ้าได้สร้างพระนิเวศ สำหรับพระนามของพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล ข้าพเจ้าได้กำหนดที่ไว้สำหรับหีบที่นั่นแล้ว ซึ่งพันธสัญญาของพระเจ้าอยู่ในนั้น ซึ่งพระองค์ได้ทรง กระทำไว้กับบรรพบุรุษของเรา เมื่อพระองค์ทรงนำเขาทั้งหลายออกมาจากแผ่นดินอียิปต์>> แล้วซาโลมอนประทับยืนหน้าแท่นบูชาของพระเจ้า ต่อหน้าชุมนุมชนอิสราเอลทั้งปวง และกางพระหัตถ์ของพระองค์ออกสู่ฟ้าสวรรค์ และทูลว่า <<ข้าแต่พระเยโฮวาห์ พระเจ้าแห่งอิสราเอล ไม่มีพระเจ้าองค์ใดเหมือนพระองค์ ในฟ้าสวรรค์เบื้องบน หรือที่แผ่นดินเบื้องล่าง ผู้ทรงรักษาพันธสัญญา และทรงสำแดงความรักมั่นคงแก่ผู้รับใช้ของพระองค์ ซึ่งดำเนินอยู่ต่อพระพักตร์พระองค์ด้วยสิ้นสุดใจของเขา พระองค์ได้ทรงกระทำกับดาวิดบิดาของข้าพระองค์ ผู้รับใช้ของพระองค์ ตามบรรดาสิ่งซึ่งพระองค์ทรงสัญญาไว้แก่ท่าน พระองค์ตรัสด้วยพระโอษฐ์ของพระองค์ และพระองค์ได้ทรงกระทำให้สำเร็จในวันนี้ ด้วยพระหัตถ์ของพระองค์ ข้าแต่พระเยโฮวาห์ พระเจ้าแห่งอิสราเอล เพราะฉะนั้นขอทรงธำรงอยู่กับผู้รับใช้ของพระองค์ คือดาวิดราชบิดาของข้าพระองค์ ตามซึ่งพระองค์ทรงสัญญาไว้กับท่านว่า <ถ้าเพียงแต่ลูกหลานทั้งหลายของเจ้าระมัดระวังในทาง ดำเนินของเขาที่จะดำเนินไปต่อหน้าเรา อย่างที่เจ้าได้ดำเนินต่อหน้าเรานั้น เจ้าจะไม่ขาดชายผู้หนึ่งต่อหน้าเราที่จะนั่งบน บัลลังก์ของอิสราเอล> เพราะฉะนั้น ข้าแต่พระเจ้าแห่งอิสราเอล ขอพระวจนะของพระองค์จงดำรงอยู่ ซึ่งพระองค์ได้ตรัสกับผู้รับใช้ของพระองค์ คือดาวิดบิดาของข้าพระองค์ <<แต่พระเจ้าจะทรงประทับที่แผ่นดินโลกหรือ ดูเถิด ฟ้าสวรรค์และฟ้าสวรรค์อันสูงที่สุดยังรับพระองค์อยู่ไม่ได้ พระนิเวศซึ่งข้าพระองค์ได้สร้างขึ้น จะรับพระองค์ไม่ได้ยิ่งกว่านั้นสักเท่าใด แต่ขอพระองค์สนพระทัยในคำอธิษฐาน ของผู้รับใช้ของพระองค์ และในคำวิงวอนนี้ ข้าแต่พระเยโฮวาห์ พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอทรงสดับเสียงร้องและคำอธิษฐานซึ่งผู้รับใช้ของพระองค์ อธิษฐานต่อพระองค์ในวันนี้ เพื่อว่าพระเนตรของพระองค์ จะทรงลืมอยู่เหนือพระนิเวศนี้ทั้งกลางคืนและกลางวัน คือสถานที่ซึ่งพระองค์ได้ตรัสว่า <นามของเราจะอยู่ที่นั่น> เพื่อว่าพระองค์จะทรงสดับคำอธิษฐาน ซึ่งผู้รับใช้ของพระองค์จะได้อธิษฐานตรงต่อสถานที่นี้ และขอพระองค์ทรงสดับคำวิงวอนของผู้รับใช้ของ พระองค์ และของอิสราเอลชนชาติของพระองค์ เมื่อเขาอธิษฐานตรงต่อสถานที่นี้ ขอพระองค์ทรงสดับอยู่ในฟ้าสวรรค์ อันเป็นที่ประทับของพระองค์ และเมื่อพระองค์ทรงสดับแล้ว ก็ขอพระองค์ทรงประทานอภัย <<เมื่อชายคนใดกระทำบาปต่อเพื่อนบ้านของเขา และถูกบังคับให้ทำสัตย์สาบาน และเขามาให้คำสาบานต่อหน้าแท่นบูชาของพระองค์ ในพระนิเวศนี้ ขอพระองค์ทรงสดับในฟ้าสวรรค์ และขอทรงกระทำและทรงพิพากษาผู้รับใช้ทั้งหลายของพระองค์ กล่าวโทษผู้กระทำความผิด และทรงนำความประพฤติของเขาให้กลับตกบนศีรษะของตัวเขาเอง และขอทรงประกาศความบริสุทธิ์ของผู้ชอบธรรม สนองแก่เขาตามความชอบธรรมของเขา <<เมื่ออิสราเอลชนชาติของพระองค์พ่ายแพ้ต่อศัตรู เพราะเขาได้กระทำบาปต่อพระองค์ ถ้าเขาหันกลับมาหาพระองค์อีก และยอมรับพระนามของพระองค์ และอธิษฐานและกระทำการวิงวอนต่อพระองค์ในพระนิเวศนี้ ก็ขอพระองค์ทรงสดับในฟ้าสวรรค์ และประทานอภัยแก่บาปของอิสราเอลชนชาติของพระองค์ และขอทรงนำเขากลับมายังแผ่นดิน ซึ่งพระองค์ได้ทรงพระราชทานแก่บรรพบุรุษของเขาทั้งหลาย <<เมื่อฟ้าสวรรค์ปิดอยู่ และไม่มีฝน เพราะเขาทั้งหลายได้กระทำบาปต่อพระองค์ ถ้าเขาทั้งหลายได้อธิษฐานต่อสถานที่นี้ และยอมรับพระนามของพระองค์ และหันกลับเสียจากบาปของเขาทั้งหลาย เมื่อพระองค์ทรงให้เขาทั้งหลายรับความทุกข์ใจ ก็ขอพระองค์ทรงสดับในฟ้าสวรรค์ และขอทรงประทานอภัยบาปของผู้รับใช้ของพระองค์ และของอิสราเอลประชากรของพระองค์ เมื่อพระองค์ทรงสอนทางดีแก่เขา ซึ่งเขาควรจะดำเนิน และขอทรงประทานฝนบนแผ่นดินของพระองค์ ซึ่งพระองค์ได้ทรงพระราชทานแก่ชนชาติของ พระองค์เป็นมรดกนั้น <<ถ้ามีการกันดารอาหารในแผ่นดิน ถ้ามีโรคระบาด ข้าวม้านรากินข้าว หรือตั๊กแตนวัยบิน หรือตั๊กแตนวัยคลาน หรือถ้าศัตรูของเขาทั้งหลายล้อมเมืองของเขาไว้รอบด้าน จะเป็นภัยพิบัติอย่างใด หรือความเจ็บไข้อย่างใด มีขึ้นก็ดี ไม่ว่าคำอธิษฐานอย่างใด หรือคำวิงวอนประการใดซึ่งประชาชนคนใด หรืออิสราเอลประชากรของพระองค์ทั้งสิ้นทูล ต่างก็สำนึกในใจของเขาในเรื่องภัยพิบัติอันจะตกแก่เขา และได้กางมือของเขาสู่พระนิเวศนี้ ขอพระองค์ทรงสดับในฟ้าสวรรค์ อันเป็นที่ประทับของพระองค์ และพระราชทานอภัย และทรงกระทำ และทรงประทานแก่ทุกคน ซึ่งพระองค์ทรงทราบจิตใจตามการประพฤติทั้งสิ้นของเขา (เพราะพระองค์คือพระองค์เท่านั้นที่ทรงทราบจิตใจของ มนุษยชาติทั้งสิ้น) เพื่อว่าเขาทั้งหลายจะได้ยำเกรงพระองค์ตลอดวันเวลาที่เขาทั้งหลายอาศัยในแผ่นดิน ซึ่งพระองค์ทรงประทานแก่บรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลาย <<ยิ่งกว่านั้นอีกเกี่ยวกับชนต่างด้าว ผู้ซึ่งไม่ใช่อิสราเอลประชากรของพระองค์ เมื่อเขามาจากประเทศเมืองไกล เพราะเห็นแก่พระนามของพระองค์ (เพราะเขาทั้งหลายจะได้ยินถึง พระนามใหญ่ยิ่งของพระองค์ และถึงพระหัตถ์อันมหิทธิฤทธิ์ของพระองค์ และถึงพระกรที่เหยียดออกของพระองค์) เมื่อเขามาอธิษฐานตรงต่อพระนิเวศนี้ ก็ขอพระองค์ทรงสดับในฟ้าสวรรค์ อันเป็นที่ประทับของพระองค์ และขอทรงกระทำตามทุกสิ่งซึ่งชนต่างด้าวได้ ทูลขอต่อพระองค์ เพื่อว่าชนชาติทั้งหลายแห่งแผ่นดินโลกจะรู้จัก พระนามของพระองค์ และเกรงกลัวพระองค์ ดังอิสราเอลประชากรของพระองค์ยำเกรงพระองค์อยู่นั้น และเพื่อเขาทั้งหลายจะทราบว่าพระนิเวศนี้ ซึ่งข้าพระองค์ได้สร้างไว้เขาเรียกกันด้วยพระนามของพระองค์ <<ถ้าประชากรของพระองค์ออกไปทำสงครามต่อสู้ศัตรู ของเขาทั้งหลาย จะเป็นโดยทางใดๆ ที่พระองค์ทรงใช้เขาออกไปก็ตาม และเขาทั้งหลายได้อธิษฐานต่อพระเจ้า ตรงต่อเมืองซึ่งพระองค์ทรงเลือกสรรไว้ และตรงต่อพระนิเวศ ซึ่งข้าพระองค์ได้สร้างสำหรับพระนามของพระองค์ ขอพระองค์ทรงสดับคำอธิษฐานของเขาและคำ วิงวอนของเขาในฟ้าสวรรค์ และขอทรงให้สิทธิอันชอบธรรมของเขาคงอยู่ <<ถ้าเขาทั้งหลายกระทำบาปต่อพระองค์ (เพราะไม่มีมนุษย์สักคนหนึ่งซึ่งมิได้กระทำบาป) และพระองค์ทรงกริ้วต่อเขา และทรงมอบเขาไว้กับศัตรู เขาจึงถูกจับไปเป็นเชลยยังแผ่นดินของศัตรูนั้น ไม่ว่าไกลหรือใกล้ แต่ถ้าเขาสำนึกผิดในใจในแผ่นดิน ซึ่งเขาได้ถูกจับไปเป็นเชลยและได้กลับใจ และได้ทำการวิงวอนต่อพระองค์ใน แผ่นดินของผู้จับเขาไปเป็นเชลย ทูลว่า <ข้าพระองค์ทั้งหลายได้กระทำบาป และได้ประพฤติชั่วร้ายและอย่างอธรรม> ถ้าเขาทั้งหลายกลับมาหาพระองค์ ด้วยสุดจิตสุดใจของเขาในแผ่นดินแห่งศัตรู ทั้งหลายของเขาผู้ซึ่งจับเขาไปเป็นเชลย และอธิษฐานต่อพระองค์ตรงต่อแผ่นดินของเขา ซึ่งพระองค์ทรงประทานแก่บรรพบุรุษของเขาทั้งหลาย คือเมืองซึ่งพระองค์ได้ทรงเลือกสรรไว้ และพระนิเวศซึ่งข้าพระองค์ได้สร้างไว้ เพื่อพระนามของพระองค์ ขอพระองค์ทรงสดับคำ อธิษฐานและคำวิงวอนของเขาในฟ้าสวรรค์ อันเป็นที่ประทับของพระองค์ และขอทรงให้สิทธิอันชอบธรรมของเขาคงอยู่ และขอทรงประทานอภัยแก่ประชากรของ พระองค์ผู้ได้กระทำบาปต่อพระองค์ และทรงประทานอภัยต่อการทรยศของเขาทั้งหลาย ซึ่งเขาได้กระทำต่อพระองค์และให้เขาเป็นที่ เมตตาของคนเหล่านั้นที่จับเขาทั้งหลายไปเป็นเชลย เพื่อเขาทั้งหลายจะได้รับความเมตตาจากเขา (เพราะว่าเขาทั้งหลายเป็น ประชากรของพระองค์และเป็นมรดกของพระองค์ ซึ่งพระองค์ทรงนำออกมาจากอียิปต์ จากท่ามกลางเตาเหล็ก) ขอพระเนตรของพระองค์จงลืมอยู่ต่อคำวิงวอน ของผู้รับใช้ของพระองค์ และต่อคำวิงวอนของอิสราเอลประชากรของพระองค์ ขอทรงเงี่ยพระกรรณฟังเมื่อเขาทั้งหลายร้องต่อพระองค์ เพราะพระองค์ทรงแยกเขาจากท่ามกลางชนชาติ ทั้งหลายของแผ่นดินโลกให้เป็นมรดกของพระองค์ ตามซึ่งพระองค์ตรัสทางโมเสส ผู้รับใช้ของพระองค์ ข้าแต่พระเยโฮวาห์พระเจ้า ในเมื่อพระองค์ทรงนำบรรพบุรุษ ของข้าพระองค์ทั้งหลายออกจากอียิปต์>> ครั้นซาโลมอนทรงจบคำอธิษฐาน และคำวิงวอนทั้งสิ้นนี้ต่อพระเจ้าแล้ว ก็ทรงลุกขึ้นจากหน้าแท่นบูชาของพระเจ้า ที่ซึ่งทรงคุกเข่าพร้อมกับกางพระหัตถ์สู่ฟ้าสวรรค์ และพระองค์ทรงประทับยืน และทรงให้พรแก่ชุมนุมชนอิสราเอลด้วยเสียงดังว่า <<สาธุการแด่พระเจ้า ผู้ทรงพระราชทานการหยุดพักแก่อิสราเอล ประชากรของพระองค์ ตามซึ่งพระองค์ทรงสัญญาไว้ทุกประการ พระสัญญาอันดีทั้งสิ้นของพระองค์ซึ่งพระองค์ทรงสัญญาทาง โมเสสผู้รับใช้ของพระองค์นั้นไม่ล้มเหลวสักคำเดียว ขอพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราทั้งหลายสถิตกับเรา ดังที่พระองค์ได้สถิตกับบรรพบุรุษของเรา ขอพระองค์อย่าทรงละเราหรือทอดทิ้งเราเสีย เพื่อพระองค์ทรงโน้มจิตใจของเราให้มาหาพระองค์ ที่จะดำเนินในทางทั้งสิ้นของพระองค์ และรักษาบรรดา พระบัญญัติของพระองค์ กฎเกณฑ์ของพระองค์ และกฎหมายของพระองค์ ซึ่งพระองค์ทรงบัญญัติไว้แก่บรรพบุรุษของเรา ขอให้ถ้อยคำเหล่านี้ของข้าพเจ้า ซึ่งข้าพเจ้าได้วิงวอนขอต่อพระเจ้าให้อยู่ใกล้ พระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกเราทั้งวันและคืน และขอให้สิทธิอันชอบธรรมของผู้รับใช้ของพระองค์คงอยู่ และให้สิทธิอันชอบธรรมของอิสราเอลประชากรของ พระองค์คงอยู่ ตามต้องการแต่ละวัน เพื่อบรรดาชนชาติทั้งหลายแห่งแผ่นดินโลก จะทราบว่าพระเยโฮวาห์นั้นเป็นพระเจ้า ไม่มีองค์อื่นเลย เพราะฉะนั้นขอให้จิตใจของท่านทั้งหลายบริสุทธิ์ต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเรา คือที่จะดำเนินอยู่ในกฎเกณฑ์ของพระองค์ และรักษาพระบัญญัติของพระองค์ดังในเวลานี้>> แล้วพระราชาและชนอิสราเอล ทั้งปวงที่อยู่กับพระองค์ได้ถวายเครื่องสัตวบูชาแด่พระเจ้า และซาโลมอนได้ถวายสัตว์ต่อไปนี้ ซึ่งพระองค์ทรงถวายเป็นเครื่องศานติบูชาแด่พระเจ้า คือวัวสองหมื่นสองพันตัว และแกะหนึ่งแสนสองหมื่นตัว พระราชาและคนอิสราเอลทั้งปวง จึงอุทิศถวายพระนิเวศแห่งพระเจ้า ในวันเดียวกันนั้นพระราชา ทรงทำพิธีชำระส่วนกลางของลาน ซึ่งอยู่หน้าพระนิเวศของพระเจ้า เพราะว่าที่นั่นพระองค์ได้ถวายเครื่องเผาบูชาและธัญญบูชา และส่วนไขมันของศานติบูชา เพราะว่าแท่นทองสัมฤทธิ์ซึ่งอยู่ต่อ พระพักตร์พระเจ้านั้นเล็กเกินไป ไม่พอรับเครื่องเผาบูชาและธัญญบูชา และส่วนไขมันของศานติบูชา ซาโลมอนจึงทรงฉลองเทศกาลในเวลานั้น พร้อมกับอิสราเอลทั้งปวงเป็นชุมนุมมโหฬาร มีคนมาตั้งแต่ทางเข้าเมืองฮามัทจนถึงลำธารอียิปต์ ต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราเป็นเจ็ด และเจ็ดวันคือสิบสี่วัน ในวันที่แปดพระองค์ทรงให้ประชาชนกลับ เขาทั้งหลายก็ถวายพระพรแด่พระราชา และกลับไปสู่บ้านของตนด้วยจิตใจชื่นบานและยินดี เนื่องด้วยความดีทั้งสิ้น ซึ่งพระเจ้าทรงสำแดงแก่ดาวิดผู้รับใช้ของพระองค์ และแก่อิสราเอลประชากรของพระองค์

1 พงศ์กษัตริย์ 8:1-66 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

จากนั้นกษัตริย์โซโลมอนทรงเรียกบรรดาผู้อาวุโสของอิสราเอล หัวหน้าเผ่าต่างๆ และหัวหน้าครอบครัวทั้งหมดของชนอิสราเอลมาเข้าเฝ้าที่กรุงเยรูซาเล็ม เพื่ออัญเชิญหีบพันธสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาจากศิโยนเมืองดาวิด ผู้ชายอิสราเอลทุกคนก็พากันมาเข้าเฝ้าโซโลมอนในช่วงเทศกาลของเดือนเอธานิมซึ่งเป็นเดือนที่เจ็ด เมื่อผู้อาวุโสทั้งปวงของอิสราเอลมาถึงแล้ว ปุโรหิตก็ยกหีบพันธสัญญาขึ้น และหามหีบพันธสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้าไป ส่วนเต็นท์นัดพบกับเครื่องใช้บริสุทธิ์ทั้งปวงในนั้น ปุโรหิตและชนเลวีช่วยกันนำไปยังพระวิหาร กษัตริย์โซโลมอนและชุมนุมประชากรอิสราเอลทั้งปวงที่มาชุมนุมกันหน้าหีบพันธสัญญาได้ถวายแกะและวัวเป็นเครื่องบูชาจำนวนมากจนนับไม่ถ้วน จากนั้นปุโรหิตอัญเชิญหีบพันธสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้าเข้าสู่สถานนมัสการชั้นในของพระวิหารคืออภิสุทธิสถาน และตั้งไว้ใต้ปีกของเครูบ เครูบทั้งสองกางปีกเหนือที่ตั้งหีบพันธสัญญาและปกเหนือหีบกับคานหาม คานหามนี้ยาวมากจนมองเห็นปลายได้จากด้านในของวิสุทธิสถานซึ่งอยู่หน้าสถานนมัสการชั้นใน แต่มองไม่เห็นจากด้านนอกของวิสุทธิสถาน และคานนั้นก็ยังคงอยู่ที่นั่นจนถึงทุกวันนี้ ในหีบนั้นไม่มีสิ่งใดนอกจากศิลาสองแผ่นซึ่งโมเสสได้ใส่ไว้เมื่ออยู่ที่ภูเขาโฮเรบ ที่ซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกระทำพันธสัญญากับชนอิสราเอลหลังจากพวกเขาออกมาจากอียิปต์ เมื่อปุโรหิตออกมาจากวิสุทธิสถาน ก็มีเมฆมาปกคลุมทั่วพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า บรรดาปุโรหิตไม่อาจปฏิบัติหน้าที่เพราะเมฆนั้น เนื่องจากพระเกียรติสิริขององค์พระผู้เป็นเจ้าปกคลุมอยู่ทั่วทั้งพระวิหารของพระองค์ แล้วโซโลมอนตรัสว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ตรัสไว้ว่าพระองค์จะประทับในเมฆทึบ ข้าพระองค์ได้สร้างพระวิหารอันสง่างามถวาย เพื่อพระองค์จะประทับอยู่นิรันดร์” กษัตริย์ทรงหันกลับมาตรัสอวยพรแก่ประชากรอิสราเอลทั้งปวงซึ่งชุมนุมอยู่ที่นั่น แล้วตรัสว่า “สรรเสริญพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล ผู้ทรงกระทำตามพระสัญญาที่ได้ตรัสไว้กับดาวิดราชบิดาของข้าพเจ้าด้วยพระหัตถ์ของพระองค์เอง เพราะพระองค์ได้ตรัสว่า ‘นับแต่วันที่เรานำอิสราเอลประชากรของเราออกมาจากอียิปต์ เราไม่ได้เลือกเมืองของเผ่าใดเผ่าหนึ่งของอิสราเอล เพื่อสร้างวิหารขึ้นสถาปนานามของเรา แต่เราได้เลือกดาวิดให้ปกครองอิสราเอลประชากรของเรา’ “ดาวิดราชบิดาของข้าพเจ้าตั้งพระทัยจะสร้างพระวิหารถวายแด่พระนามพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับดาวิดราชบิดาว่า ‘ที่เจ้ามีใจจะสร้างวิหารเพื่อนามของเรานั้นก็ดีอยู่ ถึงกระนั้นเจ้าจะไม่ได้เป็นผู้สร้างวิหาร แต่บุตรชายผู้เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเจ้าจะเป็นผู้สร้างวิหารเพื่อนามของเรา’ “องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกระทำตามพระสัญญา คือให้ข้าพเจ้าได้ครองราชบัลลังก์แห่งอิสราเอลสืบต่อจากดาวิดราชบิดาตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงสัญญาไว้ และข้าพเจ้าได้สร้างพระวิหารนี้เพื่อพระนามของพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล ข้าพเจ้าได้จัดเตรียมที่แห่งหนึ่งในพระวิหารสำหรับหีบพันธสัญญา ซึ่งภายในบรรจุพันธสัญญาที่องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงให้ไว้กับบรรพบุรุษของเรา เมื่อทรงนำพวกเขาออกมาจากอียิปต์” จากนั้นโซโลมอนประทับยืนอยู่หน้าแท่นบูชาขององค์พระผู้เป็นเจ้า ต่อหน้าชุมนุมประชากรอิสราเอลทั้งหมด และทรงชูพระหัตถ์ขึ้นฟ้าสวรรค์ และตรัสว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล ทั่วฟ้าสวรรค์เบื้องบนและแผ่นดินโลกเบื้องล่างไม่มีพระอื่นใดเสมอเหมือน พระองค์ผู้ทรงรักษาพันธสัญญาแห่งความรักต่อเหล่าผู้รับใช้ของพระองค์ซึ่งยังคงดำเนินในทางของพระองค์อย่างสุดใจ พระองค์ทรงรักษาคำมั่นสัญญาต่อดาวิดผู้รับใช้ของพระองค์ผู้เป็นราชบิดาของข้าพระองค์ พระองค์ทรงสัญญาด้วยพระโอษฐ์และทรงกระทำให้สำเร็จด้วยพระหัตถ์ดังเช่นทุกวันนี้ “และบัดนี้ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล ขอทรงรักษาคำมั่นสัญญาที่ทรงมีต่อดาวิดผู้รับใช้ของพระองค์ ผู้เป็นราชบิดาของข้าพระองค์ที่ว่า ‘หากวงศ์วานของเจ้าใส่ใจที่จะทำทุกอย่างและดำเนินอยู่ต่อหน้าเราเหมือนอย่างที่เจ้าได้ทำ เจ้าก็จะไม่ขาดคนที่จะขึ้นครองบัลลังก์แห่งอิสราเอลต่อหน้าเรา’ ข้าแต่พระเจ้าแห่งอิสราเอล บัดนี้ขอทรงโปรดให้เป็นไปตามคำมั่นสัญญาที่ทรงให้ไว้แก่ดาวิดผู้รับใช้ของพระองค์ ผู้เป็นราชบิดาของข้าพระองค์ด้วยเถิด “แต่พระเจ้าจะประทับในโลกนี้จริงๆ หรือ? ในเมื่อฟ้าสวรรค์สูงสุดยังไม่อาจรับพระองค์ไว้ได้ พระวิหารแห่งนี้ซึ่งข้าพระองค์สร้างขึ้นจะยิ่งเล็กน้อยกว่านั้นสักเท่าใด! ถึงกระนั้นข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอทรงสดับฟังคำอธิษฐานและตอบคำวิงวอนขอพระเมตตา ซึ่งผู้รับใช้กำลังกราบทูลอยู่ต่อหน้าพระองค์ในวันนี้ ขอพระองค์ทอดพระเนตรพระวิหารแห่งนี้ทั้งกลางวันและกลางคืน พระวิหารซึ่งพระองค์ตรัสว่า ‘นามของเราจะอยู่ที่นั่น’ เพื่อจะได้ทรงกรุณาสดับฟังเมื่อผู้รับใช้ของพระองค์อธิษฐานตรงต่อที่แห่งนี้ เมื่อผู้รับใช้และประชากรอิสราเอลของพระองค์อธิษฐานวิงวอนตรงต่อที่แห่งนี้ ขอทรงสดับฟังจากฟ้าสวรรค์อันเป็นที่ประทับของพระองค์ และเมื่อทรงสดับแล้ว ขอทรงโปรดยกโทษ “เมื่อผู้ใดทำผิดต่อเพื่อนบ้านและต้องสาบาน และเขามาสาบานหน้าแท่นบูชาในพระวิหารนี้ ขอทรงสดับฟังจากฟ้าสวรรค์และวินิจฉัย ขอทรงตัดสินความระหว่างผู้รับใช้ทั้งหลายของพระองค์ ขอทรงลงโทษคนผิดและให้สิ่งที่เขาทำตกแก่ตัวเขาเอง ส่วนผู้บริสุทธิ์ขอทรงประกาศว่าเขาไม่ผิด เป็นอันพิสูจน์ว่าเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ “เมื่ออิสราเอลประชากรของพระองค์ทำบาปต่อพระองค์และถูกศัตรูพิชิต หากเขาหันกลับมาหาพระองค์ ร้องทูลออกพระนามของพระองค์ อธิษฐานและทูลวิงวอนต่อพระองค์ในวิหารแห่งนี้ ขอทรงสดับฟังจากฟ้าสวรรค์และอภัยบาปของเหล่าประชากรอิสราเอลของพระองค์ และนำเขากลับมายังดินแดนซึ่งพระองค์ประทานแก่บรรพบุรุษของเขา “เมื่อท้องฟ้าถูกปิดและไม่มีฝนเพราะประชากรของพระองค์ได้ทำบาปต่อพระองค์ เมื่อเขาอธิษฐานตรงต่อที่แห่งนี้ ร้องทูลออกพระนามของพระองค์ และหันจากบาปของตนเพราะพระองค์ได้ทรงลงโทษเขาแล้ว ขอทรงสดับฟังจากฟ้าสวรรค์และอภัยบาปของประชากรอิสราเอลผู้รับใช้ของพระองค์ ขอทรงสอนหนทางดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง และประทานฝนแก่ดินแดนซึ่งทรงยกให้เป็นมรดกของเหล่าประชากร “หากเกิดการกันดารอาหาร หรือโรคระบาดในดินแดน หรือโรคพืช หรือโรคราน้ำค้าง หรือตั๊กแตนบุกมาทำลาย หรือเหล่าศัตรูมาล้อมเมือง ไม่ว่าจะเป็นโรคหรือภัยพิบัติใดๆ ก็ตามที่เกิดขึ้น เมื่อมีคำอธิษฐานหรือคำทูลวิงวอนจากผู้ใดผู้หนึ่งในหมู่ประชากรอิสราเอลของพระองค์ ซึ่งแต่ละคนย่อมรู้ถึงความทุกข์ใจของตนดี และชูมือขึ้นตรงต่อพระวิหารแห่งนี้ ขอทรงสดับฟังจากฟ้าสวรรค์ที่ประทับของพระองค์ ขอทรงอภัยโทษและทรงจัดการกับแต่ละคนตามการกระทำของเขา เนื่องจากพระองค์ทรงรู้จักจิตใจของเขา (เพราะพระองค์เท่านั้นทรงทราบจิตใจของมนุษย์ทั้งปวง) เพื่อเขาจะยำเกรงพระองค์ตลอดเวลาที่เขาอาศัยอยู่ในแผ่นดินซึ่งพระองค์ประทานแก่บรรพบุรุษของเรา “ส่วนคนต่างชาติซึ่งไม่ใช่อิสราเอลประชากรของพระองค์ แต่ได้มาจากแดนไกลเนื่องด้วยพระนามของพระองค์ เพราะผู้คนจะได้ยินถึงพระนามอันยิ่งใหญ่ พระหัตถ์อันทรงฤทธิ์ และพระกรที่เหยียดออกของพระองค์ เมื่อเขามาอธิษฐานตรงต่อพระวิหารนี้ ขอทรงสดับฟังจากฟ้าสวรรค์ที่ประทับของพระองค์และขอทรงตอบคำอธิษฐานที่คนต่างชาติผู้นั้นได้ทูลขอพระองค์ เพื่อมวลประชาชาติในโลกจะรู้จักพระนามของพระองค์ และยำเกรงพระองค์เช่นเดียวกับอิสราเอลประชากรของพระองค์เอง และรู้ว่าข้าพระองค์ได้สร้างพระนิเวศแห่งนี้เพื่อพระนามของพระองค์ “เมื่อพระองค์ทรงใช้ประชากรของพระองค์ออกไปรบกับศัตรูไม่ว่าที่ใด และเขาอธิษฐานต่อองค์พระผู้เป็นเจ้ามุ่งตรงมายังนครนี้ที่ทรงเลือกสรรไว้ และยังพระวิหารแห่งนี้ซึ่งข้าพระองค์สร้างขึ้นเพื่อพระนามของพระองค์ ขอทรงสดับฟังคำอธิษฐานและคำทูลวิงวอนของเขาจากฟ้าสวรรค์และขอทรงช่วยเหลือเขา “เมื่อพวกเขาทำบาปต่อพระองค์ (เพราะมีใครบ้างที่ไม่ทำบาปเลย) แล้วพระองค์ทรงพระพิโรธเขาและยอมให้ศัตรูพิชิตเขา นำเขาไปเป็นเชลยในต่างแดน ไม่ว่าใกล้หรือไกล และถ้าเขากลับใจได้ในแดนเชลย สำนึกผิด ทูลวิงวอนต่อพระองค์ในดินแดนนั้นและทูลว่า ‘ข้าพระองค์ทั้งหลายได้ทำบาป ข้าพระองค์ทั้งหลายผิดไปแล้ว และข้าพระองค์ทั้งหลายได้ประพฤติชั่ว’ และหากเขาหันกลับมาหาพระองค์ด้วยสุดจิตสุดใจในแดนเชลย และอธิษฐานตรงมายังดินแดนแห่งนี้ซึ่งพระองค์ประทานแก่บรรพบุรุษ ตรงมายังนครซึ่งพระองค์ทรงเลือกสรรและยังพระวิหารแห่งนี้ซึ่งข้าพระองค์ได้สร้างขึ้นเพื่อพระนามของพระองค์ ก็ขอทรงสดับฟังคำอธิษฐานและคำวิงวอนของเขาจากฟ้าสวรรค์อันเป็นที่ประทับของพระองค์และขอทรงช่วยเหลือเขา แล้วขอทรงอภัยโทษแก่ประชากรผู้ได้ทำบาปต่อพระองค์และยกโทษการล่วงละเมิดของพวกเขา ขอทรงกระทำให้ผู้ที่มีชัยเหนือเขานั้นเมตตาเขา เพราะเขาเป็นประชากรของพระองค์และเป็นกรรมสิทธิ์ของพระองค์ ซึ่งพระองค์ทรงนำเขาออกมาจากอียิปต์ออกจากเตาหลอมเหล็ก “ขอให้พระเนตรของพระองค์เปิดอยู่ และพระกรรณของพระองค์สดับฟังคำทูลวิงวอนของผู้รับใช้ของพระองค์ และอิสราเอลประชากรของพระองค์ ขอทรงสดับฟังทุกเมื่อที่เขาร้องทูลต่อพระองค์ เพราะพระองค์ทรงแยกเขาออกมาจากประชาชาติทั้งปวงในโลก เพื่อเป็นกรรมสิทธิ์ของพระองค์ ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต ตามที่ทรงประกาศไว้ผ่านทางโมเสสผู้รับใช้ของพระองค์ เมื่อพระองค์ทรงนำบรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายออกมาจากอียิปต์” เมื่อโซโลมอนทรงอธิษฐานทูลวิงวอนต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าดังนี้แล้ว ก็ทรงลุกขึ้นจากหน้าแท่นบูชาขององค์พระผู้เป็นเจ้า ที่ทรงคุกเข่าและชูพระหัตถ์ขึ้นสู่ฟ้าสวรรค์ พระองค์ประทับยืนและอวยพรประชากรอิสราเอลทั้งปวงด้วยพระสุรเสียงอันดังว่า “สรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ประทานการหยุดพักแก่อิสราเอลประชากรของพระองค์ตามที่ทรงสัญญาไว้ คำมั่นสัญญาล้ำเลิศซึ่งประทานผ่านทางโมเสสผู้รับใช้ของพระองค์นั้น ไม่มีสักคำเดียวที่ล้มเหลวไป ขอให้พระยาห์เวห์พระเจ้าของเราสถิตกับเราเหมือนที่สถิตกับเหล่าบรรพบุรุษของเรา ขออย่าได้ทรงทอดทิ้งหรือละจากเราเลย ขอทรงหันใจของเรามาหาพระองค์ให้ดำเนินในทางทั้งปวงของพระองค์ และปฏิบัติตามคำบัญชา กฎหมาย และกฎระเบียบที่ทรงให้ไว้แก่เหล่าบรรพบุรุษของเรา และขอให้คำอธิษฐานที่ข้าพเจ้าได้กล่าวต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้านี้อยู่ใกล้พระยาห์เวห์พระเจ้าของเราเสมอไปทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อพระองค์จะทรงช่วยเหลือผู้รับใช้ของพระองค์และอิสราเอลประชากรของพระองค์ตามความจำเป็นในแต่ละวันของเรา เพื่อชนชาติทั้งหลายทั่วโลกจะได้ทราบว่าพระยาห์เวห์ทรงเป็นพระเจ้าและไม่มีพระเจ้าอื่นใดเลย แต่จิตใจของท่านจะต้องยอมจำนนอย่างสิ้นเชิงต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา ที่จะดำเนินชีวิตตามกฎหมายและเชื่อฟังพระบัญชาของพระองค์ดังเช่นขณะนี้” จากนั้นกษัตริย์และอิสราเอลทั้งปวงที่อยู่กับพระองค์ถวายเครื่องบูชาต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า โซโลมอนทรงถวายเครื่องสันติบูชาแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า คือวัวผู้ 22,000 ตัว แกะและแพะ 120,000 ตัว เป็นอันว่ากษัตริย์และปวงชนอิสราเอลได้ถวายพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า ในวันนั้นกษัตริย์ทรงประกอบพิธีชำระส่วนกลางของลานหน้าพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้าและถวายเครื่องเผาบูชา ธัญบูชา และไขมันของเครื่องสันติบูชาที่นั่น เพราะแท่นทองสัมฤทธิ์ต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้านั้นเล็กเกินไปสำหรับเครื่องเผาบูชา ธัญบูชา และไขมันของเครื่องสันติบูชา โซโลมอนทรงร่วมพิธีฉลองกับประชากรอิสราเอลทั้งหมดที่นั่น ซึ่งเป็นการชุมนุมประชากรครั้งใหญ่ ผู้คนจากเลโบฮามัทจดลำน้ำแห่งอียิปต์พากันมาเฉลิมฉลองต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าของเราตลอดเจ็ดวัน แล้วฉลองต่ออีกเจ็ดวัน รวมเป็นสิบสี่วัน ในวันรุ่งขึ้น โซโลมอนทรงอำลาเหล่าประชากร พวกเขากล่าวถวายพระพร แล้วกลับบ้านด้วยจิตใจเบิกบานยินดีในสิ่งดีงามทั้งปวง ซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงกระทำเพื่อดาวิดผู้รับใช้ของพระองค์และอิสราเอลประชากรของพระองค์

1 พงศ์กษัตริย์ 8:1-66 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

จาก​นั้น​ซาโลมอน​ก็​เรียก​ประชุม​ที่​เยรูซาเล็ม เพื่อ​ให้​บรรดา​หัวหน้า​ชั้น​ผู้​ใหญ่​ของ​อิสราเอล หัวหน้า​เผ่า​ทุก​คน และ​บรรดา​หัวหน้า​ตระกูล​ของ​ชาว​อิสราเอล เป็น​ผู้​นำ​หีบ​พันธ​สัญญา​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า ขึ้น​มา​จาก​เมือง​ของ​ดาวิด คือ​ศิโยน ชาว​อิสราเอล​ทั้ง​ปวง​รวม​ตัว​กัน​เข้า​มา​เฝ้า​กษัตริย์​ซาโลมอน​ระหว่าง​งาน​เทศกาล​ใน​เดือน​เอธานิม ซึ่ง​เป็น​เดือน​ที่​เจ็ด เมื่อ​บรรดา​หัวหน้า​ชั้น​ผู้​ใหญ่​ของ​อิสราเอล​มา​ถึง พวก​ปุโรหิต​ก็​ยก​หีบ และ​พวก​เขา​ได้​นำ​หีบ​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า กระโจม​ที่​นัด​หมาย และ​ภาชนะ​อัน​บริสุทธิ์​ทั้ง​หมด​ใน​กระโจม​ขึ้น​มา พวก​ปุโรหิต​และ​ชาว​เลวี​หาม​สิ่ง​เหล่า​นั้น กษัตริย์​ซาโลมอน​และ​ชาว​อิสราเอล​ทั้ง​มวล​ที่​รวม​ตัว​อยู่​ด้วย​กัน​กับ​ท่าน ณ เบื้อง​หน้า​หีบ ได้​ถวาย​แกะ​และ​โค​มากมาย​จน​นับ​ไม่​ถ้วน แล้ว​เหล่า​ปุโรหิต​ก็​ได้​นำ​หีบ​พันธ​สัญญา​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​มา​ยัง​พระ​ตำหนัก​ชั้น​ใน​ของ​พระ​วิหาร คือ​ใน​อภิสุทธิ​สถาน โดย​วาง​ไว้​ที่​ใต้​ปีก​เครูบ​ทั้ง​สอง ด้วย​ว่า​เครูบ​กาง​ปีก​ขึ้น​ปก​เหนือ​ที่​วาง​หีบ เพื่อ​โอบ​หีบ​และ​คาน​หาม คาน​หาม​นั้น​ยาว​มาก​จน​มอง​เห็น​ปลาย​ทั้ง​สอง​ข้าง​ได้​จาก​วิสุทธิ​สถาน​ซึ่ง​อยู่​ด้าน​หน้า​พระ​ตำหนัก​ชั้น​ใน แต่​มอง​ไม่​เห็น​จาก​ลาน​ด้าน​นอก และ​คาน​หาม​ก็​ยัง​อยู่​ที่​นั่น​มา​จน​ถึง​ทุก​วัน​นี้ ใน​หีบ​ไม่​มี​สิ่ง​ใด​นอก​จาก​แผ่น​ศิลา 2 แผ่น​ที่​โมเสส​บรรจุ​ไว้​เมื่อ​อยู่​ที่​โฮเรบ ที่​ซึ่ง​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ได้​ทำ​พันธ​สัญญา​กับ​บรรดา​ผู้​สืบ​เชื้อสาย​ของ​อิสราเอล ใน​ช่วง​เวลา​ที่​พวก​เขา​ออก​จาก​แผ่นดิน​อียิปต์ และ​เมื่อ​ปุโรหิต​ออก​จาก​วิสุทธิ​สถาน เมฆ​ก้อน​หนึ่ง​ก็​ปรากฏ​ขึ้น​ใน​พระ​ตำหนัก​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า ทำ​ให้​บรรดา​ปุโรหิต​ไม่​สามารถ​ยืน​ปฏิบัติ​หน้าที่​ได้​เนื่องจาก​เมฆ​ก้อน​นั้น เพราะ​พระ​บารมี​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ได้​ปรากฏ​ขึ้น​ใน​พระ​ตำหนัก​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า ครั้น​แล้ว​ซาโลมอน​กล่าว​ว่า “พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ได้​กล่าว​ว่า พระ​องค์​จะ​พำนัก​อยู่​ใน​เมฆ​อัน​มืด​ทึบ ข้าพเจ้า​ได้​สร้าง​พระ​ตำหนัก​อัน​งาม​ตระการ​ถวาย​แด่​พระ​องค์ เพื่อ​เป็น​สถาน​ที่​ให้​พระ​องค์​พำนัก​ตลอด​ไป” แล้ว​กษัตริย์​ก็​หัน​มา​ยัง​ที่​ประชุม​ของ​อิสราเอล​ซึ่ง​กำลัง​ยืน​อยู่ และ​ให้​พร​แก่​พวก​เขา ท่าน​กล่าว​ว่า “สรรเสริญ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​อิสราเอล พระ​องค์​ได้​กระทำ​ตาม​สัญญา​ด้วย​วาจา​ที่​ได้​ให้​แก่​ดาวิด​บิดา​ของ​เรา​ด้วย​ฤทธานุภาพ​ของ​พระ​องค์ พระ​องค์​กล่าว​ว่า ‘นับ​ตั้งแต่​วัน​ที่​เรา​นำ​อิสราเอล​ชน​ชาติ​ของ​เรา​ออก​จาก​แผ่นดิน​อียิปต์ เรา​ไม่​ได้​เลือก​เมือง​ใด​จาก​เผ่า​ต่างๆ ของ​อิสราเอล เพื่อ​สร้าง​ตำหนัก​ให้​เป็น​ที่​ยกย่อง​นาม​ของ​เรา แต่​เรา​เลือก​ดาวิด​มา​เป็น​ผู้​ปกครอง​อิสราเอล​ชน​ชาติ​ของ​เรา’ ดาวิด​บิดา​ของ​เรา​ตั้งใจ​จะ​สร้าง​พระ​ตำหนัก​เพื่อ​ยกย่อง​พระ​นาม​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​อิสราเอล แต่​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​กล่าว​กับ​ดาวิด​บิดา​ของ​เรา​ว่า ‘เพราะ​ว่า​เจ้า​ตั้งใจ​จะ​สร้าง​ตำหนัก​เพื่อ​ยกย่อง​นาม​ของ​เรา ความ​ตั้งใจ​ของ​เจ้า​นั้น​ดี อย่าง​ไร​ก็​ตาม ไม่​ใช่​เจ้า​ที่​จะ​เป็น​ผู้​สร้าง​ตำหนัก แต่​บุตร​ของ​เจ้า​ที่​จะ​เกิด​แก่​เจ้า จะ​เป็น​ผู้​สร้าง​ตำหนัก​เพื่อ​ยกย่อง​นาม​ของ​เรา’ บัดนี้​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ก็​ได้​กระทำ​ตาม​สัญญา เพราะ​ว่า​เรา​ได้​ขึ้น​มา​อยู่​ใน​ตำแหน่ง​ของ​ดาวิด​บิดา​ของ​เรา และ​นั่ง​ครอง​บัลลังก์​ของ​อิสราเอล อย่าง​ที่​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ได้​สัญญา​ไว้ และ​เรา​ได้​สร้าง​พระ​ตำหนัก​เพื่อ​ยกย่อง​พระ​นาม​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​อิสราเอล และ​เรา​ได้​จัด​ที่​ไว้​ใน​นั้น​สำหรับ​หีบ​พันธ​สัญญา​ซึ่ง​มี​แผ่น​พันธ​สัญญา​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า ซึ่ง​พระ​องค์​ทำ​ไว้​กับ​บิดา​ทั้ง​หลาย​ของ​พวก​เรา เมื่อ​ครั้ง​ที่​พระ​องค์​นำ​พวก​เขา​ออก​จาก​แผ่นดิน​อียิปต์” ครั้น​แล้ว​ซาโลมอน​ก็​ยืน ณ เบื้อง​หน้า​แท่น​บูชา​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า ต่อ​หน้า​ที่​ประชุม​ของ​อิสราเอล และ​ยก​มือ​ขึ้น​สู่​สวรรค์ และ​กล่าว​ว่า “โอ พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​อิสราเอล ไม่​มี​พระ​เจ้า​อื่น​ใด​ที่​เหมือน​พระ​องค์ ทั้ง​ใน​สวรรค์​เบื้อง​บน​หรือ​ใน​โลก​เบื้อง​ล่าง พระ​องค์​รักษา​พันธ​สัญญา และ​แสดง​ความ​รัก​อัน​มั่นคง​ต่อ​บรรดา​ผู้​รับใช้​ของ​พระ​องค์ ที่​ดำเนิน​ชีวิต​ใน​วิถี​ทาง​ของ​พระ​องค์​ด้วย​ใจ​จริง พระ​องค์​ได้​รักษา​สัญญา​กับ​ดาวิด​บิดา​ของ​ข้าพเจ้า ผู้​รับใช้​ของ​พระ​องค์ พระ​องค์​ได้​สัญญา​ด้วย​วาจา​ของ​พระ​องค์ และ​กระทำ​ตาม​สัญญา​ด้วย​ฤทธานุภาพ​ของ​พระ​องค์​ใน​วัน​นี้ ฉะนั้น บัดนี้ โอ พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​อิสราเอล โปรด​รักษา​สัญญา​ที่​พระ​องค์​ได้​ให้​แก่​ดาวิด​ผู้​รับใช้​ของ​พระ​องค์ บิดา​ของ​ข้าพเจ้า ดัง​คำ​ของ​พระ​องค์​ที่​ว่า ‘เจ้า​จะ​ไม่​ขาด​คน​ที่​จะ​นั่ง​ครอง​บัลลังก์​ของ​อิสราเอล ณ เบื้อง​หน้า​เรา หาก​บรรดา​บุตร​ของ​เจ้า​ใส่​ใจ​ใน​วิถี​ทาง​ของ​เขา ให้​ดำเนิน​ชีวิต ณ เบื้อง​หน้า​เรา เหมือน​กับ​ที่​เจ้า​ได้​กระทำ​มา’ ฉะนั้น โอ พระ​เจ้า​ของ​อิสราเอล ขอ​พระ​องค์​ยืนยัน​คำ​ที่​พระ​องค์​ได้​กล่าว​กับ​ดาวิด​ผู้​รับใช้​ของ​พระ​องค์ ผู้​เป็น​บิดา​ของ​ข้าพเจ้า​ด้วย​เถิด แต่​พระ​เจ้า​จะ​พำนัก​อยู่​ใน​โลก​หรือ ดู​เถิด สวรรค์​เบื้อง​บน​และ​ฟ้า​สวรรค์​ที่​อยู่​เกิน​เอื้อม​ยัง​จำกัด​พระ​องค์​ไม่​ได้ แล้ว​พระ​ตำหนัก​ที่​ข้าพเจ้า​สร้าง​ขึ้น​มา​หลัง​นี้​จะ​เล็ก​น้อย​กว่า​นั้น​เพียง​ไร แต่​กระนั้น​พระ​องค์​ยัง​สนใจ​คำ​อธิษฐาน​และ​คำ​วิงวอน​ของ​ผู้​รับใช้​ของ​พระ​องค์ โอ พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​ข้าพเจ้า ขอ​โปรด​ฟัง​เสียง​ร้อง​และ​คำ​อธิษฐาน​ที่​ผู้​รับใช้​ของ​พระ​องค์​อธิษฐาน ณ เบื้อง​หน้า​พระ​องค์​ใน​วัน​นี้ ขอ​พระ​องค์​เฝ้า​ดู​พระ​ตำหนัก​หลัง​นี้​ตลอด​ทั้ง​วัน​และ​คืน​เถิด นี่​เป็น​สถาน​ที่​ซึ่ง​พระ​องค์​กล่าว​ถึง​ว่า ‘นาม​ของ​เรา​จะ​เป็น​ที่​ยกย่อง​ที่​นั่น’ ขอ​พระ​องค์​ฟัง​คำ​อธิษฐาน​ของ​ผู้​รับใช้​ของ​พระ​องค์ เวลา​ที่​เรา​หัน​หน้า​อธิษฐาน​มา​ทาง​สถาน​ที่​แห่ง​นี้ และ​ขอ​พระ​องค์​ฟัง​คำ​ขอ​ร้อง​ของ​ผู้​รับใช้​ของ​พระ​องค์ และ​ของ​อิสราเอล​ชน​ชาติ​ของ​พระ​องค์​เมื่อ​เขา​หัน​หน้า​อธิษฐาน​มา​ทาง​สถาน​ที่​แห่ง​นี้ และ​เมื่อ​พระ​องค์​ได้ยิน​ใน​สวรรค์​ซึ่ง​เป็น​ที่​พระ​องค์​พำนัก ก็​โปรด​ให้​อภัย​ด้วย​เถิด ถ้า​หาก​ว่า​ผู้​ใด​กระทำ​บาป​ต่อ​เพื่อน​บ้าน​ของ​ตน และ​ต้อง​ให้​คำ​สาบาน เวลา​ที่​เขา​มา​และ​สาบาน ณ เบื้อง​หน้า​แท่น​บูชา​ใน​พระ​ตำหนัก​นี้ ก็​ขอ​พระ​องค์​ได้ยิน​ใน​สวรรค์ ขอ​โปรด​ตอบ​และ​พิพากษา​บรรดา​ผู้​รับใช้​ของ​พระ​องค์ ลงโทษ​ผู้​ที่​ทำ​ผิด​ตาม​ความ​ผิด​ของ​เขา และ​โปรด​ช่วย​ให้​ผู้​บริสุทธิ์​พิสูจน์​ได้​ว่า​เขา​ไม่​มี​ความ​ผิด และ​พ้น​ข้อหา​ตาม​ความ​บริสุทธิ์​ของ​เขา เวลา​ที่​อิสราเอล​ชน​ชาติ​ของ​พระ​องค์​พ่าย​แพ้​ศัตรู เพราะ​พวก​เขา​กระทำ​บาป​ต่อ​พระ​องค์ และ​หัน​กลับ​มา​หา​พระ​องค์ และ​ยอม​รับ​พระ​นาม​ของ​พระ​องค์ เขา​จะ​อธิษฐาน​และ​วิงวอน​ต่อ​พระ​องค์​ใน​พระ​ตำหนัก​นี้ ก็​ขอ​พระ​องค์​โปรด​ฟัง​จาก​สวรรค์ และ​ให้​อภัย​บาป​ของ​อิสราเอล​ชน​ชาติ​ของ​พระ​องค์ และ​นำ​พวก​เขา​มา​ยัง​แผ่นดิน​ซึ่ง​พระ​องค์​ได้​มอบ​ให้​แก่​บรรพบุรุษ​ของ​พวก​เขา​อีก เมื่อ​ฟ้า​สวรรค์​ปิด​และ​ไม่​เอื้อ​ฝน​เนื่องจาก​พวก​เขา​ได้​กระทำ​บาป​ต่อ​พระ​องค์ ถ้า​หาก​ว่า​พวก​เขา​อธิษฐาน​โดย​หัน​มา​ทาง​สถาน​ที่​นี้ และ​ยอม​รับ​พระ​นาม​ของ​พระ​องค์ และ​หยุด​กระทำ​บาป หลัง​จาก​ที่​พระ​องค์​ให้​พวก​เขา​รับ​ทุกข์​ทรมาน ก็​ขอ​พระ​องค์​โปรด​ฟัง​จาก​สวรรค์ และ​ให้​อภัย​บาป​ของ​บรรดา​ผู้​รับใช้​ของ​พระ​องค์ คือ​อิสราเอล​ชน​ชาติ​ของ​พระ​องค์ เมื่อ​พระ​องค์​สอน​ใน​วิถี​ทาง​ที่​ดี​ซึ่ง​พวก​เขา​ควร​ดำเนิน แล้ว​พระ​องค์​โปรด​ให้​ฝน​โปรย​ลง​บน​แผ่นดิน​ซึ่ง​พระ​องค์​ได้​มอบ​ให้​แก่​ชน​ชาติ​ของ​พระ​องค์​เป็น​มรดก ถ้า​หาก​ว่า​เกิด​ทุพภิกขภัย​ใน​แผ่นดิน หรือ​เกิด​ภัย​พิบัติ ลม​ร้อน​แห้ง หรือ​เชื้อรา ตั๊กแตน หรือ​ตัว​บุ้ง ถ้า​หาก​ว่า​ศัตรู​ใช้​กำลัง​ล้อม​พวก​เขา​ใน​แผ่นดิน ที่​ตาม​ประตู​เมือง ไม่​ว่า​จะ​เป็น​ภัย​พิบัติ​หรือ​การ​เจ็บ​ไข้​ได้​ป่วย​ใดๆ ก็​ตาม ถ้า​หาก​ว่า​ผู้​ใด​หรือ​อิสราเอล​ชน​ชาติ​ของ​พระ​องค์​อธิษฐาน​หรือ​วิงวอน​ใน​เรื่อง​ใด​ก็​ตาม เมื่อ​แต่​ละ​คน​ทราบ​ความ​ทุกข์​ใจ​ของ​ตน และ​เขา​เหยียด​มือ​ออก​มา​ทาง​พระ​ตำหนัก​นี้ ก็​ขอ​พระ​องค์​ฟัง​จาก​สวรรค์​ซึ่ง​เป็น​ที่​พำนัก​ของ​พระ​องค์ และ​โปรด​ให้​อภัย และ​ตอบ​สนอง และ​กระทำ​ต่อ​พวก​เขา​ตาม​ความ​ประพฤติ​ของ​แต่​ละ​คน (เพราะ​ว่า​พระ​องค์​ผู้​เดียว พระ​องค์​ทราบ​ถึง​จิตใจ​ของ​มนุษย์​ทั้ง​ปวง) เพื่อ​พวก​เขา​จะ​เกรง​กลัว​พระ​องค์ ตลอด​เวลา​ที่​พวก​เขา​อาศัย​อยู่​ใน​แผ่นดิน​ซึ่ง​พระ​องค์​มอบ​ให้​แก่​บรรพบุรุษ​ของ​พวก​เรา ใน​ทำนอง​เดียว​กัน เมื่อ​ชาว​ต่าง​แดน​ซึ่ง​ไม่​ใช่​อิสราเอล​ชน​ชาติ​ของ​พระ​องค์​มา​จาก​ดินแดน​แสน​ไกล เพราะ​พระ​นาม​ของ​พระ​องค์ (เพราะ​เขา​จะ​ได้ยิน​ถึง​พระ​นาม​อัน​ยิ่ง​ใหญ่​ของ​พระ​องค์ อานุภาพ​และ​พลานุภาพ​ของ​พระ​องค์ และ​สิ่ง​ที่​พระ​องค์​กระทำ) เมื่อ​เขา​มา​และ​อธิษฐาน​มา​ทาง​พระ​ตำหนัก​นี้ ขอ​พระ​องค์​ฟัง​จาก​สวรรค์​ซึ่ง​เป็น​ที่​พำนัก​ของ​พระ​องค์ และ​โปรด​ทำ​ตาม​ที่​ชาว​ต่าง​แดน​ทั้ง​ปวง​ร้อง​ขอ​ต่อ​พระ​องค์ เพื่อ​ชน​ชาติ​ทั้ง​ปวง​บน​โลก​จะ​ได้​รู้จัก​พระ​นาม​ของ​พระ​องค์ และ​เกรง​กลัว​พระ​องค์ อย่าง​ที่​อิสราเอล​ชน​ชาติ​ของ​พระ​องค์​รู้จัก และ​พวก​เขา​จะ​ทราบ​ว่า​พระ​ตำหนัก​ที่​ข้าพเจ้า​สร้าง​หลัง​นี้​ได้​รับ​เรียก​ว่า​เป็น​ของ​พระ​องค์ ถ้า​หาก​ว่า​ชน​ชาติ​ของ​พระ​องค์​ออก​ศึก​สู้​กับ​ศัตรู ไม่​ว่า​ที่​ใด​ก็​ตาม และ​พวก​เขา​อธิษฐาน​ต่อ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า โดย​หัน​มา​ทาง​เมือง​ที่​พระ​องค์​ได้​เลือก และ​พระ​ตำหนัก​ที่​ข้าพเจ้า​ได้​สร้าง​เพื่อ​พระ​นาม​ของ​พระ​องค์ ก็​ขอ​พระ​องค์​ฟัง​คำ​อธิษฐาน​และ​คำ​วิงวอน​ของ​พวก​เขา​ใน​สวรรค์ และ​ช่วย​เหลือ​พวก​เขา ถ้า​หาก​ว่า​พวก​เขา​ทำ​บาป​ต่อ​พระ​องค์ เนื่องจาก​ว่า​ไม่​มี​ผู้​ใด​ที่​ไม่​ทำ​บาป พระ​องค์​จะ​โกรธ​กริ้ว​พวก​เขา และ​ให้​ศัตรู​จับ​ตัว​พวก​เขา​ไป​เป็น​เชลย​ใน​ดินแดน​ของ​ศัตรู​ที่​อยู่​ไกล​หรือ​ใกล้ แต่​ถ้า​พวก​เขา​มี​ใจ​สำนึก​ได้​เมื่อ​อยู่​ใน​ดินแดน​ที่​ตน​ถูก​จับ​ไป​เป็น​เชลย โดย​การ​กลับ​ใจ​และ​ขอร้อง​พระ​องค์​จาก​ดินแดน​นั้น กล่าว​ว่า ‘พวก​เรา​ได้​กระทำ​บาป ประพฤติ​ผิด และ​กระทำ​ตัว​เลว​ทราม’ ถ้า​หาก​ว่า​พวก​เขา​กลับใจ​อย่าง​สุด​ดวงใจ​และ​สุด​ดวงจิต ใน​ดินแดน​ของ​ศัตรู​ที่​จับ​พวก​เขา​ไป​เป็น​เชลย และ​อธิษฐาน​ต่อ​พระ​องค์​โดย​หัน​มา​ทาง​แผ่นดิน​ของ​พวก​เขา ซึ่ง​พระ​องค์​มอบ​ให้​แก่​บรรพบุรุษ เมือง​ที่​พระ​องค์​ได้​เลือก และ​พระ​ตำหนัก​ที่​ข้าพเจ้า​สร้าง​ไว้​เพื่อ​พระ​นาม​ของ​พระ​องค์ ก็​ขอ​พระ​องค์​โปรด​ฟัง​คำ​อธิษฐาน​และ​คำ​วิงวอน​ใน​สวรรค์​ซึ่ง​เป็น​ที่​พำนัก​ของ​พระ​องค์ และ​ช่วย​เหลือ​พวก​เขา และ​ให้​อภัย​ชน​ชาติ​ของ​พระ​องค์ ที่​ได้​ทำ​บาป​ต่อ​พระ​องค์ และ​ละเมิด​กฎ​ใน​ทุก​ข้อ​ซึ่ง​ขัด​ต่อ​พระ​องค์ โปรด​เมตตา​พวก​เขา​ต่อ​หน้า​ศัตรู​ที่​จับ​ไป​เป็น​เชลย เพื่อ​ศัตรู​จะ​ได้​เมตตา​พวก​เขา​ด้วย (เพราะ​ว่า​พวก​เขา​เป็น​ชน​ชาติ​ของ​พระ​องค์ และ​เป็น​บรรดา​ผู้​สืบ​มรดก​ของ​พระ​องค์ ที่​พระ​องค์​นำ​ออก​จาก​ประเทศ​อียิปต์ จาก​ท่าม​กลาง​เตา​ผิง​เหล็ก) ขอ​พระ​องค์​เฝ้า​ดู​คำ​วิงวอน​ของ​ผู้​รับใช้​ของ​พระ​องค์ และ​คำ​วิงวอน​ของ​อิสราเอล​ชน​ชาติ​ของ​พระ​องค์ เมื่อ​ใด​ที่​พวก​เขา​ร้อง​ขอ​พระ​องค์ ก็​โปรด​ฟัง​พวก​เขา​เถิด เพราะ​ว่า​พระ​องค์​แยก​พวก​เขา​ออก​จาก​ชน​ชาติ​ทั้ง​หลาย​ใน​โลก เพื่อ​เป็น​ผู้​สืบ​มรดก​ของ​พระ​องค์ ตาม​ที่​พระ​องค์​ประกาศ​ผ่าน​โมเสส​ผู้​รับใช้​ของ​พระ​องค์ ใน​คราว​ที่​พระ​องค์​นำ​บรรพบุรุษ​ของ​เรา​ออก​จาก​อียิปต์ โอ พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ผู้​ยิ่ง​ใหญ่” ครั้น​ซาโลมอน​อธิษฐาน​วิงวอน​ต่อ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​เสร็จ​สิ้น​แล้ว ท่าน​จึง​ลุก​ขึ้น​จาก​บริเวณ​แท่น​บูชา​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า ที่​ที่​ท่าน​ได้​คุกเข่า​พร้อม​กับ​เหยียด​แขน​ขึ้น​สู่​สวรรค์ และ​ท่าน​ยืน​ให้​พร​ที่​ประชุม​ทั้ง​หมด​ของ​อิสราเอล​ด้วย​เสียง​อัน​ดัง​ว่า “สรรเสริญ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า ผู้​ให้​อิสราเอล​ชน​ชาติ​ของ​พระ​องค์​ได้​รับ​ความ​สงบ​สุข ตาม​คำ​สัญญา​ที่​พระ​องค์​ให้​ไว้​ทุก​ประการ พระ​องค์​มิ​ได้​ผิด​คำ​พูด​ไป​จาก​สิ่ง​ดี​ทุก​สิ่ง​ใน​สัญญา​ของ​พระ​องค์ ที่​กล่าว​ผ่าน​โมเสส​ผู้​รับใช้​ของ​พระ​องค์ ขอ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​พวก​เรา สถิต​กับ​พวก​เรา​เหมือน​ที่​พระ​องค์​ได้​สถิต​กับ​บรรพบุรุษ​ของ​เรา​เถิด ขอ​พระ​องค์​อย่า​จาก​เรา​ไป​หรือ​ทอดทิ้ง​พวก​เรา​ไป​เลย พระ​องค์​จะ​ได้​โน้ม​จิตใจ​ของ​เรา​เข้า​หา​พระ​องค์ เพื่อ​ดำเนิน​ตาม​วิถี​ทาง​ของ​พระ​องค์ และ​รักษา​พระ​บัญญัติ กฎ​เกณฑ์ และ​คำ​บัญชา ดัง​ที่​พระ​องค์​บัญชา​แก่​บรรพบุรุษ​ของ​พวก​เรา ขอ​ให้​คำ​อธิษฐาน​ของ​เรา​ที่​ได้​วิงวอน​ขอ​ต่อ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า จง​อยู่​กับ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​เรา​ตลอด​วัน​และ​คืน และ​ขอ​ให้​พระ​องค์​ช่วยเหลือ​ผู้​รับใช้​ของ​พระ​องค์ และ​ช่วยเหลือ​อิสราเอล​ชน​ชาติ​ของ​พระ​องค์ ตาม​ความ​จำเป็น​ของ​แต่​ละ​วัน เพื่อ​ว่า​ชน​ชาติ​ทั้ง​ปวง​ใน​โลก​จะ​ได้​ทราบ​ว่า​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​เป็น​พระ​เจ้า และ​ไม่​มี​พระ​เจ้า​อื่น​ใด​ทั้ง​สิ้น ฉะนั้น ขอ​ให้​ใจ​ของ​พวก​ท่าน​ภักดี​ต่อ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​เรา ดำเนิน​ตาม​กฎ​เกณฑ์ และ​รักษา​พระ​บัญญัติ​ของ​พระ​องค์ เหมือน​ที่​กำลัง​ปฏิบัติ​อยู่​ใน​วัน​นี้” จาก​นั้น​กษัตริย์​และ​ชาว​อิสราเอล​ทั้ง​ปวง​ก็​ได้​พร้อม​กัน​ถวาย​เครื่อง​สักการะ ณ เบื้อง​หน้า​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า ซาโลมอน​ถวาย​โค 22,000 ตัว แกะ 120,000 ตัว​แด่​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า เพื่อ​เป็น​ของ​ถวาย​เพื่อ​สามัคคี​ธรรม เท่า​กับ​ว่า​กษัตริย์​และ​ชาว​อิสราเอล​ได้​ถวาย​พระ​ตำหนัก​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​แล้ว ใน​วัน​เดียว​กัน​นั้น กษัตริย์​ก็​ได้​ทำ​พิธี​ชำระ​ส่วน​กลาง​ของ​ลาน​ที่​อยู่​หน้า​พระ​ตำหนัก​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ให้​บริสุทธิ์ เพราะ​ท่าน​ได้​มอบ​สัตว์​ที่​เผา​เป็น​ของ​ถวาย เครื่อง​ธัญญ​บูชา และ​ไขมัน​จาก​ของ​ถวาย​เพื่อ​สามัคคี​ธรรม​ที่​นั่น เนื่องจาก​แท่น​บูชา​ทอง​สัมฤทธิ์​ที่​อยู่ ณ เบื้อง​หน้า​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​นั้น​เล็ก​เกิน​ไป​สำหรับ​สัตว์​ที่​เผา​เป็น​ของ​ถวาย เครื่อง​ธัญญ​บูชา และ​ไขมัน​จาก​ของ​ถวาย​เพื่อ​สามัคคี​ธรรม ใน​เวลา​นั้น​ซาโลมอน​ฉลอง​เทศกาล​นาน​ถึง 7 วัน​กับ​อีก 7 วัน รวม​เป็น 14 วัน​ร่วม​กับ​อิสราเอล​ทั้ง​ปวง ณ เบื้อง​หน้า​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​พวก​เรา มี​ผู้​ร่วม​งาน​ด้วย​เป็น​จำนวน​มาก​จาก​บริเวณ​ใกล้​เลโบฮามัท​ไป​จน​ถึง​ธารน้ำ​ของ​อียิปต์ ใน​วัน​ที่​แปด ท่าน​ให้​ประชาชน​กลับ​บ้าน​ไป เขา​เหล่า​นั้น​ก็​อวยพร​กษัตริย์ และ​กลับ​บ้าน​ของ​ตน​ด้วย​ความ​ยินดี​และ​ใจ​เปรมปรีดิ์​ที่​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ได้​กระทำ​สิ่ง​ดีๆ ทั้ง​ปวง​แก่​ดาวิด​ผู้​รับใช้​ของ​พระ​องค์​และ​แก่​อิสราเอล​ชน​ชาติ​ของ​พระ​องค์