1 พงศ์กษัตริย์ 22:29-37

1 พงศ์กษัตริย์ 22:29-37 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

ดังนั้นกษัตริย์อาหับแห่งอิสราเอลและกษัตริย์เยโฮชาฟัทแห่งยูดาห์จึงเสด็จไปยังราโมทกิเลอาด กษัตริย์อิสราเอลตรัสกับเยโฮชาฟัทว่า “ข้าพเจ้าจะปลอมตัวไปออกรบ ส่วนท่านแต่งเครื่องทรงกษัตริย์ของท่านเถิด” แล้วกษัตริย์อิสราเอลก็ทรงปลอมพระองค์และเสด็จออกรบ ฝ่ายกษัตริย์อารัมได้ทรงบัญชาผู้บัญชาการรถรบ 32 คนของพระองค์ว่า “อย่าต่อสู้กับใคร ไม่ว่าผู้ใหญ่หรือผู้น้อย แต่จงต่อสู้กับกษัตริย์อิสราเอลเพียงองค์เดียวเท่านั้น” เมื่อผู้บัญชาการรถรบเหล่านั้นเห็นเยโฮชาฟัท พวกเขาก็คิดว่า “นี่เป็นกษัตริย์อิสราเอลแน่ๆ” จึงหันมาโจมตี แต่เมื่อเยโฮชาฟัทร้องตะโกนออกมา ผู้บัญชาการรถรบเหล่านั้นเห็นว่าไม่ใช่กษัตริย์อิสราเอล ก็เลิกไล่ล่าพระองค์ แต่มีคนหนึ่งยิงธนูสุ่มไปถูกกษัตริย์อิสราเอลตรงช่วงรอยต่อของเสื้อเกราะ พระองค์จึงตรัสกับพลขับว่า “จงกลับรถพาเราออกจากสนามรบ เราบาดเจ็บแล้ว” สงครามดำเนินไปอย่างดุเดือดตลอดทั้งวัน กษัตริย์ทรงประคองตัวไว้ในรถม้าศึกให้ประจันหน้ากับชาวอารัม พระโลหิตจากบาดแผลไหลนองพื้นรถ ครั้นตกเย็นก็สิ้นพระชนม์ ขณะที่ดวงอาทิตย์กำลังลับไป มีเสียงร้องบอกไปทั่วกองทัพว่า “ทุกคนกลับบ้านเมืองของตนเถิด!” ดังนั้นกษัตริย์อาหับก็สิ้นพระชนม์ และพระศพถูกนำกลับมาฝังไว้ที่สะมาเรีย

1 พงศ์กษัตริย์ 22:29-37 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

กษัตริย์​อาหับ​ของ​อิสราเอล​และ​กษัตริย์​เยโฮชาฟัท​ของ​ยูดาห์​จึง​ยก​ขึ้น​ไป​สู้รบ​กับ​ชาว​อารัม​ที่​เมือง​ราโมท-กิเลอาด กษัตริย์​อาหับ​ของ​อิสราเอล​พูด​กับ​กษัตริย์​เยโฮชาฟัท​ว่า “เรา​จะ​ปลอมตัว​เข้า​ไป​รบ แต่​ท่าน​สวม​เสื้อ​กษัตริย์​ของ​ท่าน” กษัตริย์​อาหับ​ของ​อิสราเอล​จึง​ปลอมตัว​เป็น​ทหาร​ธรรมดา​และ​เข้า​ไป​สู้รบ ใน​ขณะนั้น​กษัตริย์​ของ​ชาว​อารัม​สั่ง​พวก​ผู้​บัญชาการ​กองทัพ​รถรบ​ทั้ง​สามสิบสอง​คัน​ของเขา​ว่า “อย่า​ไล่​ตาม​ใครไป ไม่​ว่า​จะ​เล็ก​หรือ​ใหญ่ ยกเว้น​กษัตริย์​ของ​อิสราเอล​เท่านั้น” เมื่อ​พวก​ผู้​บัญชาการ​กองทัพ​รถรบ​เห็น​เยโฮชาฟัท พวก​เขา​พูด​ว่า “เขา​ต้อง​เป็น​กษัตริย์​ของ​อิสราเอล​แน่ๆ” พวก​เขา​จึง​ได้​หัน​ไป​สู้​กับ​เยโฮชาฟัท แต่​เมื่อ​เยโอชาฟัท​ร้อง​ออก​มา พวก​ผู้​บัญชาการ​กองทัพ​รถรบ​จึง​รู้​ว่า​เขา​ไม่ใช่​กษัตริย์​ของ​อิสราเอล จึง​หยุด​ไล่ตาม​เขา​ไป แต่​มี​คน​หนึ่ง​โก่ง​คัน​ธนู​ของ​เขา​ยิง​ออก​ไป​แบบ​สุ่มๆ ลูกธนู​ไป​ถูก​กษัตริย์​ของ​อิสราเอล​เข้า​ตรง​ช่อง​ว่าง​ของ​เสื้อ​เกราะ กษัตริย์​บอก​กับ​คน​ขับ​รถรบ​ของ​เขา​ว่า “กลับ​รถ​ไป​และ​พา​เรา​ออก​จาก​สนาม​รบ เรา​ได้รับ​บาดเจ็บ” การ​ต่อสู้นั้น​ดุเดือด​และ​กิน​เวลา​ยาวนาน กษัตริย์​ยืน​พิง​อยู่​ใน​รถรบ​และ​เผชิญหน้า​กับ​ชาว​อารัม เลือด​ของ​เขา​ไหล​จาก​บาดแผล​ลง​ที่​พื้น​รถรบ และ​ใน​ตอน​เย็น​วันนั้นเอง​เขา​ก็ตาย เมื่อ​อาทิตย์​กำลัง​จะ​ตก​ดิน ก็​มี​เสียง​ร้อง​ไป​ทั่ว​กองทัพ​ว่า “ให้​ทุก​คน​กลับ​เข้า​เมือง​ของ​ตัวเอง ทุกคน​กลับ​สู่​แผ่นดิน​ของ​ตัวเอง​ให้​หมด” กษัตริย์​อาหับ​จึง​ตายไป​และ​ถูก​นำ​ศพ​มา​ที่​เมือง​สะมาเรีย และ​พวก​เขา​ก็​ฝังศพ​เขา​ไว้​ที่​นั่น

1 พงศ์กษัตริย์ 22:29-37 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

พระราชาแห่งอิสราเอลกับเยโฮชาฟัท พระราชาแห่งยูดาห์จึงเสด็จขึ้นไปยังราโมทกิเลอาด และพระราชาแห่งอิสราเอลตรัสกับเยโฮชาฟัทว่า “เราจะปลอมตัวเข้าทำศึก แต่ท่านจงสวมเครื่องทรงของท่าน” และพระราชาแห่งอิสราเอลก็ทรงปลอมพระองค์เข้าทำศึก พระราชาแห่งซีเรียทรงบัญชาบรรดาแม่ทัพรถรบของพระองค์ทั้ง 32 คนว่า “อย่ารบกับทหารใหญ่น้อย แต่มุ่งเฉพาะพระราชาแห่งอิสราเอล” เมื่อบรรดาแม่ทัพรถรบเห็นเยโฮชาฟัท เขาทั้งหลายก็ว่า “เป็นพระราชาอิสราเอลแน่แล้ว” พวกเขาจึงหันไปสู้รบกับพระองค์ และเยโฮชาฟัททรงร้องขึ้น เมื่อบรรดาแม่ทัพรถรบเห็นว่าไม่ใช่พระราชาอิสราเอล ก็หันรถกลับ ไม่ไล่ตามพระองค์ แต่มีชายคนหนึ่งโก่งธนูยิงสุ่มไปถูกพระราชาแห่งอิสราเอลเข้า ระหว่างเกล็ดเกราะและแผ่นบังพระอุระ พระองค์จึงรับสั่งคนขับรถรบว่า “หันกลับเถอะ พาเราออกจากการรบ เพราะเราบาดเจ็บแล้ว” วันนั้นการรบก็ดุเดือดขึ้น เขาก็พยุงพระราชาขึ้นในรถรบ ให้หันพระพักตร์ไปทางพวกซีเรีย จนเวลาเย็นพระองค์ก็สิ้นพระชนม์ และพระโลหิตที่บาดแผลก็ไหลออกนองทั่วท้องรถรบ ประมาณเวลาดวงอาทิตย์ตก มีเสียงร้องทั่วกองทัพว่า “ให้ทุกคนกลับไปเมืองของตัว และภูมิลำเนาของตัว” เมื่อพระราชาสิ้นพระชนม์แล้ว เขาก็นำมายังกรุงสะมาเรีย และเขาฝังพระราชาในกรุงสะมาเรีย

1 พงศ์กษัตริย์ 22:29-37 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

กษัตริย์​แห่​งอ​ิสราเอลกับเยโฮชาฟัทกษั​ตริ​ย์​แห่​งยูดาห์จึงเสด็จขึ้นไปยังราโมทกิเลอาด และกษั​ตริ​ย์​แห่​งอ​ิสราเอลตรัสกับเยโฮชาฟั​ทว่า “ข้าพเจ้าจะปลอมตัวเข้าทำศึก แต่​ท่านจงสวมเครื่องทรงของท่าน” และกษั​ตริ​ย์​แห่​งอ​ิสราเอลก็ทรงปลอมพระองค์​เข​้าทำสงคราม ฝ่ายกษั​ตริ​ย์ประเทศซีเรียทรงบัญชาแม่ทัพรถรบทั้งสามสิบสองคนว่า “อย่ารบกับทหารน้อยหรือใหญ่ แต่​มุ​่งเฉพาะกษั​ตริ​ย์​แห่​งอ​ิสราเอล” และอยู่มาเมื่อผู้บัญชาการรถรบแลเห็นเยโฮชาฟัท เขาทั้งหลายก็​ว่า “เป็นกษั​ตริ​ย์อิสราเอลแน่​แล้ว​” เขาจึงหันเข้าไปสู้รบกับพระองค์และเยโฮชาฟัททรงร้องขึ้น และอยู่มาเมื่อผู้บัญชาการรถรบเห็​นว​่าไม่​ใช่​กษัตริย์​แห่​งอ​ิสราเอล ก็​หันกลับจากไล่ตามพระองค์ แต่​มี​ชายคนหนึ่งโก่งธนูยิงเดาไป ถู​กกษั​ตริ​ย์​แห่​งอ​ิสราเอลเข้าระหว่างเกล็ดเกราะและแผ่นบังพระอุระ พระองค์​จึงรับสั่งคนขับรถรบว่า “หันกลับเถอะ พาเราออกจากการรบ เพราะเราบาดเจ็บแล้ว” วันนั้นการรบก็​ดุ​เดือดขึ้น เขาก็​หน​ุนกษั​ตริ​ย์​ไว้​ในราชรถให้หันพระพักตร์​เข้าสู่​ชนซีเรีย จนเวลาเย็นพระองค์​ก็​สิ้นพระชนม์ และโลหิตที่บาดแผลก็ไหลออกนองท้องรถรบ ประมาณดวงอาทิตย์ตกก็​มี​เสียงร้องทั่วกองทัพว่า “​ทุ​กคนจงกลับไปเมืองของตัว และทุกคนจงกลับไปภู​มิ​ลำเนาของตัว” ครั้นกษั​ตริ​ย์​สิ้นพระชนม์​แล​้วเขาก็นำมายังกรุงสะมาเรีย และฝังพระศพกษั​ตริ​ย์​ไว้​ในสะมาเรีย

1 พงศ์กษัตริย์ 22:29-37 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

พระราชาแห่งอิสราเอลกับเยโฮชาฟัท พระราชาแห่งยูดาห์จึงเสด็จไปยังราโมทกิเลอาด และพระราชาแห่งอิสราเอลตรัสกับเยโฮชาฟัทว่า <<ข้าพเจ้าจะปลอมตัวเข้าทำศึก แต่ท่านจงสวมเครื่องทรงของท่าน>> และพระราชาแห่งอิสราเอลก็ ทรงปลอมพระองค์เข้าทำสงคราม ฝ่ายพระราชาประเทศซีเรีย ทรงบัญชาแม่ทัพรถรบทั้งสามสิบสองคนว่า <<อย่ารบกับทหารใหญ่น้อย แต่มุ่งเฉพาะพระราชาแห่งอิสราเอล>> และอยู่มาเมื่อผู้บัญชาการรถรบแลเห็นเยโฮชาฟัท เขาทั้งหลายก็ว่า <<เป็นพระราชาอิสราเอลแน่แล้ว>> เขาจึงหันเข้าไปสู้รบกับพระองค์ และเยโฮชาฟัททรงร้องขึ้น และอยู่มาเมื่อผู้บัญชาการ รถรบเห็นว่าไม่ใช่พระราชาอิสราเอล ก็หันรถกลับจากไล่ตามพระองค์ แต่มีชายคนหนึ่งโก่งธนูยิงเดาไป ถูกพระราชาแห่งอิสราเอลเข้า ระหว่างเกล็ดเกราะและแผ่นบังพระอุระ พระองค์จึงรับสั่งคนขับรถรบว่า <<หันกลับเถอะ พาเราออกจากการรบ เพราะเราบาดเจ็บแล้ว>> วันนั้นการรบก็ดุเดือดขึ้น เขาก็หนุนพระราชาไว้ในราชรถ ให้หันพระพักตร์เข้าสู่ชนซีเรีย จนเวลาเย็นพระองค์ก็สิ้นพระชนม์ และโลหิตที่บาดแผลก็ไหลออกนองท้องรถรบ ประมาณดวงอาทิตย์ตกก็มีเสียงร้องทั่วกองทัพว่า <<ทุกคนจงกลับไปเมืองของตัว และทุกคนจงกลับไปภูมิลำเนาของตัว>> ครั้นพระราชาสิ้นพระชนม์แล้ว เขาก็ นำมายังกรุงสะมาเรีย และฝังพระศพพระราชาไว้ในสะมาเรีย

1 พงศ์กษัตริย์ 22:29-37 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

ดังนั้นกษัตริย์อาหับแห่งอิสราเอลและกษัตริย์เยโฮชาฟัทแห่งยูดาห์จึงเสด็จไปยังราโมทกิเลอาด กษัตริย์อิสราเอลตรัสกับเยโฮชาฟัทว่า “ข้าพเจ้าจะปลอมตัวไปออกรบ ส่วนท่านแต่งเครื่องทรงกษัตริย์ของท่านเถิด” แล้วกษัตริย์อิสราเอลก็ทรงปลอมพระองค์และเสด็จออกรบ ฝ่ายกษัตริย์อารัมได้ทรงบัญชาผู้บัญชาการรถรบ 32 คนของพระองค์ว่า “อย่าต่อสู้กับใคร ไม่ว่าผู้ใหญ่หรือผู้น้อย แต่จงต่อสู้กับกษัตริย์อิสราเอลเพียงองค์เดียวเท่านั้น” เมื่อผู้บัญชาการรถรบเหล่านั้นเห็นเยโฮชาฟัท พวกเขาก็คิดว่า “นี่เป็นกษัตริย์อิสราเอลแน่ๆ” จึงหันมาโจมตี แต่เมื่อเยโฮชาฟัทร้องตะโกนออกมา ผู้บัญชาการรถรบเหล่านั้นเห็นว่าไม่ใช่กษัตริย์อิสราเอล ก็เลิกไล่ล่าพระองค์ แต่มีคนหนึ่งยิงธนูสุ่มไปถูกกษัตริย์อิสราเอลตรงช่วงรอยต่อของเสื้อเกราะ พระองค์จึงตรัสกับพลขับว่า “จงกลับรถพาเราออกจากสนามรบ เราบาดเจ็บแล้ว” สงครามดำเนินไปอย่างดุเดือดตลอดทั้งวัน กษัตริย์ทรงประคองตัวไว้ในรถม้าศึกให้ประจันหน้ากับชาวอารัม พระโลหิตจากบาดแผลไหลนองพื้นรถ ครั้นตกเย็นก็สิ้นพระชนม์ ขณะที่ดวงอาทิตย์กำลังลับไป มีเสียงร้องบอกไปทั่วกองทัพว่า “ทุกคนกลับบ้านเมืองของตนเถิด!” ดังนั้นกษัตริย์อาหับก็สิ้นพระชนม์ และพระศพถูกนำกลับมาฝังไว้ที่สะมาเรีย

1 พงศ์กษัตริย์ 22:29-37 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

ดังนั้น กษัตริย์​แห่ง​อิสราเอล​และ​เยโฮชาฟัท​กษัตริย์​แห่ง​ยูดาห์​ก็​ไป​โจมตี​เมือง​ราโมทกิเลอาด กษัตริย์​แห่ง​อิสราเอล​กล่าว​กับ​เยโฮชาฟัท​ว่า “เรา​จะ​ปลอม​ตัว​เข้า​ไป​ใน​สนาม​รบ ส่วน​ท่าน​ก็​สวม​เสื้อ​คลุม​ของ​กษัตริย์​ไป” ดังนั้น​กษัตริย์​แห่ง​อิสราเอล​จึง​ปลอม​ตัว​เข้า​ไป​ใน​สนาม​รบ ฝ่าย​กษัตริย์​แห่ง​อารัม​ได้​สั่ง​ผู้​บัญชา​การ​รถ​ศึก 32 คน​ว่า “ไม่​ต้อง​ต่อสู้​กับ​ผู้​ใด​เลย นอกจาก​กษัตริย์​แห่ง​อิสราเอล​เท่า​นั้น” เมื่อ​บรรดา​ผู้​บัญชา​การ​รถ​ศึก​เห็น​เยโฮชาฟัท ก็​พูด​ว่า “นั่น​ต้อง​เป็น​กษัตริย์​แห่ง​อิสราเอล​แน่” และ​พวก​เขา​จึง​หัน​ไป​โจมตี​ท่าน และ​เยโฮชาฟัท​ก็​ส่ง​เสียง​ร้อง ครั้น​ผู้​บัญชา​การ​รถ​ศึก​ทราบ​ว่า ท่าน​ไม่​ใช่​กษัตริย์​แห่ง​อิสราเอล จึง​ได้​ถอย​กลับ และ​หยุด​ตาม​ไล่​ฆ่า​ท่าน แต่​ชาย​ผู้​หนึ่ง​สุ่ม​ยิง​ธนู​ออก​ไป ลูก​ธนู​เจาะ​ระหว่าง​เกราะ​ป้องกัน​ตัว​กับ​เกราะ​หุ้ม​หน้าอก​กษัตริย์​แห่ง​อิสราเอล ดังนั้น​ท่าน​สั่ง​สารถี​ของ​ท่าน​ว่า “หัน​กลับ​ไป พา​เรา​ออก​จาก​สนาม​รบ เพราะ​เรา​บาด​เจ็บ” การ​สู้​รบ​ใน​วัน​นั้น​ก็​ดำเนิน​ต่อ​ไป และ​กษัตริย์​ถูก​พยุง​ตัว​ขึ้น​ใน​รถ​ศึก​โดย​หัน​หน้า​ไป​ทาง​ชาว​อารัม พอ​ตก​เย็น​ท่าน​ก็​เสีย​ชีวิต เลือด​จาก​บาดแผล​ไหล​ลง​บน​พื้น​รถ​ศึก ประมาณ​เวลา​ตะวัน​ตก​ดิน​ก็​มี​เสียง​ร้อง​ไป​ทั่ว​กอง​ทัพ​ว่า “ให้​ต่าง​คน​ต่าง​กลับ​ไป​เมือง​ของ​ตน และ​ให้​ต่าง​คน​ต่าง​กลับ​ไป​ประเทศ​ของ​ตน” ดังนั้น​กษัตริย์​สิ้น​ชีวิต และ​ถูก​นำ​ร่าง​ไป​ที่​สะมาเรีย และ​ศพ​ถูก​บรรจุ​ไว้​ใน​สะมาเรีย