1 พงศ์กษัตริย์ 1:1-30
1 พงศ์กษัตริย์ 1:1-30 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
เมื่อกษัตริย์ดาวิดแก่ตัวมากแล้ว แม้จะห่มผ้าให้หลายผืนก็ยังไม่หายหนาว พวกคนรับใช้ของท่านจึงพูดกับท่านว่า “ให้พวกข้าพเจ้าไปหาหญิงสาวบริสุทธิ์สักคนมาอยู่ดูแลท่านผู้เป็นกษัตริย์เถิด นางจะได้นอนอยู่ข้างๆท่านเพื่อคอยทำให้ท่าน กษัตริย์ผู้เป็นเจ้านายของข้าพเจ้าอบอุ่น” แล้วพวกเขาก็ไปเสาะหาหญิงงามจากทั่วทั้งอิสราเอล และได้พบนางอาบีชาก ชาวชูเนม พวกเขาพานางมาเฝ้ากษัตริย์ หญิงสาวคนนั้นสวยงามมาก นางดูแลกษัตริย์และอยู่กับเขาตลอดเวลา แต่กษัตริย์ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์กับนาง ในเวลานั้นอาโดนียาห์ลูกของนางฮักกีทยกตัวเองขึ้นและพูดว่า “เราจะเป็นกษัตริย์” เขาก็เลยเตรียมรถรบไว้หลายคันและม้า อีกหลายตัว พร้อมกับชายห้าสิบคน เอาไว้วิ่งนำหน้าเขา (ดาวิดพ่อของเขาไม่เคยต่อว่าเขา หรือแม้แต่จะถามว่า “ทำไมลูกถึงทำเรื่องอย่างนี้” อาโดนียาห์เป็นผู้ชายที่รูปหล่อมากและเกิดถัดจากอับซาโลม) อาโดนียาห์ได้ปรึกษาหารือกับโยอาบลูกชายนางเศรุยาห์และนักบวชอาบียาธาร์ และพวกนั้นก็ให้การสนับสนุนเขา แต่นักบวชศาโดก รวมทั้งเบไนยาห์ลูกชายเยโฮยาดา นาธันผู้พูดแทนพระเจ้า ชิเมอี เรอี และพวกองครักษ์ของดาวิด ไม่ยอมเข้าร่วมกับอาโดนียาห์ วันหนึ่ง อาโดนียาห์ถวาย แกะ วัวและลูกวัวอ้วนหลายตัวที่ศิลาโศเฮเลทใกล้เอนโรเกล เขาเชิญพวกน้องชายของเขา คือพวกลูกชายคนอื่นๆของกษัตริย์ดาวิด และเชิญข้าราชการชั้นสูงทุกคนจากเผ่ายูดาห์มาด้วย แต่เขาไม่ได้เชิญนาธันผู้พูดแทนพระเจ้า หรือเบไนยาห์หรือทหารองครักษ์หรือซาโลมอนน้องชายของเขา นาธันถามนางบัทเชบา แม่ของซาโลมอนว่า “ท่านได้ข่าวแล้วหรือยังว่า อาโดนียาห์ลูกชายนางฮักกีท ตั้งตัวขึ้นเป็นกษัตริย์แล้ว โดยที่ดาวิดเจ้านายของพวกเราไม่รู้เรื่องด้วยเลย ตอนนี้ เพื่อรักษาชีวิตของท่านและซาโลมอนลูกชายท่าน ข้าพเจ้าขอแนะนำให้ท่านทำอย่างนี้ คือ ให้ท่านไปหากษัตริย์เดี๋ยวนี้เลย และพูดกับกษัตริย์ว่า ‘กษัตริย์เจ้านายของข้าพเจ้า ท่านเคยสาบานกับข้าพเจ้าผู้รับใช้ท่านไว้ไม่ใช่หรือ ที่ว่า “ซาโลมอนลูกชายของเจ้า จะได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ต่อจากเราอย่างแน่นอน และเขาจะได้นั่งบนบัลลังก์ของเรา” แล้วทำไมอาโดนียาห์จึงได้ขึ้นเป็นกษัตริย์เล่า’ ในระหว่างที่ท่านกำลังคุยอยู่กับกษัตริย์นั้น ข้าพเจ้าจะเข้าไปหาและยืนยันถึงสิ่งที่ท่านได้พูดไป” แล้วนางบัทเชบาจึงไปเข้าเฝ้ากษัตริย์ดาวิด ที่แก่มากแล้ว ในห้องนอนของพระองค์ ที่มีนางอาบีชากชาวชูเนมคอยดูแลรับใช้อยู่ นางบัทเชบาก้มกราบลงต่อหน้ากษัตริย์ กษัตริย์จึงถามว่า “ท่านต้องการอะไรหรือ” นางพูดกับกษัตริย์ว่า “เจ้านายของข้าพเจ้า ตัวท่านเองเคยสาบานไว้กับข้าพเจ้าผู้รับใช้ของท่าน ต่อหน้าพระยาห์เวห์ พระเจ้าของท่านว่า ‘ซาโลมอนลูกชายของเจ้าจะได้ขึ้นเป็นกษัตริย์สืบต่อจากเราและเขาจะได้นั่งบนบัลลังก์ของเรา’ แต่อยู่ๆอาโดนียาห์ก็ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ และตัวท่านเอง กษัตริย์เจ้านายของข้าพเจ้าก็ไม่รู้เรื่อง อาโดนียาห์ได้ถวาย พวกวัว ลูกวัวตัวอ้วนพีและแกะเป็นจำนวนมาก และยังได้เชิญลูกชายทั้งหมดของท่าน รวมทั้งนักบวชอาบียาธาร์และแม่ทัพโยอาบไปด้วย แต่เขาไม่ได้เชิญซาโลมอนผู้รับใช้ท่านไป กษัตริย์เจ้านายของข้าพเจ้า สายตาทั้งหลายของอิสราเอลกำลังจับจ้องอยู่ที่ท่าน เพื่อจะดูว่าท่านจะให้ใครขึ้นนั่งบนบัลลังก์ต่อจากท่านกษัตริย์เจ้านายของข้าพเจ้า ถ้าท่านไม่ทำอะไรลงไป ทันทีที่ท่าน กษัตริย์เจ้านายของข้าพเจ้า ตายอย่างสงบ และไปอยู่กับบรรพบุรุษของท่านแล้ว อาโดนียาห์คงจะทำกับข้าพเจ้าและซาโลมอนลูกชายของข้าพเจ้าอย่างกับว่าพวกเราเป็นคนร้าย” ขณะที่นางกำลังพูดกับกษัตริย์อยู่นั้น นาธันผู้พูดแทนพระเจ้าก็เข้ามา พวกผู้รับใช้ได้บอกกับกษัตริย์ว่า “นาธันผู้พูดแทนพระเจ้าอยู่ที่นี่” นาธันจึงไปอยู่ต่อหน้ากษัตริย์และก้มหน้ากราบลงถึงพื้น นาธันพูดว่า “กษัตริย์นายของข้าพเจ้า ท่านได้ประกาศหรือว่า ‘อาโดนียาห์จะได้เป็นกษัตริย์ต่อจากเรา และจะนั่งบนบัลลังก์ของเรา’ วันนี้ เขาได้ลงไปถวายพวกวัว ลูกวัวอ้วนพีและแกะเป็นจำนวนมากเป็นเครื่องบูชาเฉลิมฉลอง เขาได้เชิญพวกลูกชายทั้งหมดของท่าน พวกแม่ทัพและนักบวชอาบียาธาร์ไปด้วย ขณะนี้ พวกเขากำลังเลี้ยงฉลองอยู่กับอาโดนียาห์ และพูดว่า ‘กษัตริย์อาโดนียาห์จงเจริญ’ แต่เขาไม่ได้เชิญข้าพเจ้าผู้รับใช้ท่านและนักบวชศาโดกและเบไนยาห์ลูกชายเยโฮยาดา รวมทั้งซาโลมอนผู้รับใช้ของท่านไปด้วย กษัตริย์เจ้านายของข้าพเจ้า นี่คือสิ่งที่ท่านได้ทำลงไป โดยไม่ยอมบอกให้พวกผู้รับใช้ของท่านได้รับรู้หรือ ช่วยบอกด้วยว่าใครจะได้นั่งบนบัลลังก์ต่อจากท่าน กษัตริย์เจ้านายของข้าพเจ้า” กษัตริย์ดาวิดตอบว่า “เรียกตัวนางบัทเชบาเข้ามา” นางบัทเชบาจึงเข้ามายืนอยู่ต่อหน้ากษัตริย์ แล้วกษัตริย์ได้สาบานว่า “พระยาห์เวห์ ผู้ที่ได้ช่วยเหลือเราให้พ้นจากความยากลำบากทุกอย่าง มีชีวิตอยู่แน่ขนาดไหน ก็ให้แน่ใจขนาดนั้นเลยว่า ในวันนี้ เราจะทำตามสิ่งที่เราได้สาบานไว้กับเจ้าต่อหน้าพระยาห์เวห์ พระเจ้าของอิสราเอล ที่ว่า ‘ซาโลมอนลูกชายเจ้าจะได้ขึ้นเป็นกษัตริย์สืบต่อจากเรา และเขาจะได้นั่งบนบัลลังก์ของเราแทนที่เรา’”
1 พงศ์กษัตริย์ 1:1-30 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
กษัตริย์ดาวิดมีพระชนมายุและทรงพระชรามากแล้ว แม้จะห่มผ้าให้หลายผืน พระองค์ก็ยังไม่อบอุ่น ดังนั้นบรรดาข้าราชการของพระองค์จึงกราบทูลว่า “โปรดให้คนไปเสาะหาหญิงสาวพรหมจารีมาถวายพระราชาเจ้านายของข้าพระบาท และให้เธออยู่งานเฉพาะพระพักตร์ฝ่าพระบาท และดูแลฝ่าพระบาท ให้เธอนอนในพระทรวงของฝ่าพระบาท เพื่อพระราชาเจ้านายของข้าพระบาทจะได้ทรงอบอุ่น” พวกเขาจึงเสาะหาสาวงามทั่วทั้งดินแดนอิสราเอล แล้วได้พบอาบีชากหญิงชาวชูเนม จึงได้นำเธอมาเฝ้าพระราชา หญิงสาวคนนั้นงามยิ่งนัก เธอได้เป็นผู้ดูแลพระราชาและอยู่ปรนนิบัติพระองค์ แต่พระราชาไม่ได้ทรงมีเพศสัมพันธ์กับเธอ ส่วนอาโดนียาห์ พระราชโอรสของพระนางฮักกีทได้ยกตัวเองขึ้น กล่าวว่า “เราเองจะเป็นพระราชา” และท่านได้เตรียมรถรบและกองทหารม้า กับคนห้าสิบคนไว้วิ่งนำหน้าตนเอง พระราชบิดาของท่านก็ไม่เคยขัดใจท่านสักครั้งโดยถามว่า “ทำไมเจ้าทำเช่นนี้?” ท่านมีรูปร่างหน้าตาดีด้วย ท่านเกิดถัดจากอับซาโลม ท่านได้คบคิดกับโยอาบบุตรนางเศรุยาห์ และกับอาบียาธาร์ปุโรหิต เขาทั้งสองก็ติดตามและช่วยเหลืออาโดนียาห์ แต่ศาโดกปุโรหิต เบไนยาห์บุตรเยโฮยาดา นาธันผู้เผยพระวจนะ ชิเมอีและเรอี อีกทั้งพวกทหารเอกของดาวิดไม่ได้อยู่ฝ่ายอาโดนียาห์ อาโดนียาห์ได้ฆ่าแกะ วัว และสัตว์อ้วนพีเป็นเครื่องบูชา ณ ศิลาแห่งโศเฮเลท ซึ่งอยู่ข้างๆ น้ำพุเอนโรเกล และท่านได้เชิญพี่น้องทั้งสิ้นของท่าน คือบรรดาพระราชโอรสของพระราชา และประชาชนทั้งสิ้นแห่งยูดาห์ ที่เป็นข้าราชการของพระราชา แต่ท่านไม่ได้เชิญนาธันผู้เผยพระวจนะ หรือเบไนยาห์หรือพวกทหารเอก หรือซาโลมอนพระอนุชาของท่าน แล้วนาธันก็ทูลพระนางบัทเชบาพระราชมารดาของซาโลมอนว่า “พระนางไม่ทรงสดับหรือว่า อาโดนียาห์พระราชโอรสของพระนางฮักกีททรงครองราชย์แล้ว และดาวิดเจ้านายของพวกข้าพระบาทก็ไม่ทรงทราบเรื่อง ดังนั้นโปรดให้ข้าพระบาทถวายคำปรึกษา เพื่อพระนางจะได้ทรงช่วยชีวิตของพระนางเอง และชีวิตของซาโลมอนพระราชโอรสของพระนาง ขอเสด็จเข้าเฝ้าพระราชาดาวิดทันที และกราบทูลพระองค์ว่า ‘พระราชาเจ้านายของหม่อมฉัน ฝ่าพระบาทได้ทรงปฏิญาณกับสาวใช้ของฝ่าพระบาทว่า “ซาโลมอนบุตรของเจ้าจะเป็นกษัตริย์ต่อจากเรา และจะนั่งบนบัลลังก์ของเราไม่ใช่หรือ?” แล้วทำไมอาโดนียาห์จึงเป็นกษัตริย์เล่า เพคะ?’ นี่แน่ะ ขณะที่พระนางกราบทูลพระราชาอยู่ ข้าพระบาทจะตามเข้าไปเฝ้า และสนับสนุนถ้อยคำของพระนาง” แล้วพระนางบัทเชบา ก็เข้าไปเฝ้าพระราชาที่ห้องบรรทม (พระราชาทรงพระชรามาก และอาบีชากชาวชูเนมก็กำลังปรนนิบัติพระราชาอยู่) เมื่อพระนางบัทเชบากราบถวายบังคมพระราชาแล้ว พระราชาก็ตรัสถามว่า “เจ้าต้องการอะไร?” พระนางทูลพระองค์ว่า “เจ้านายของหม่อมฉัน ฝ่าพระบาทได้ทรงปฏิญาณในพระนามของพระยาห์เวห์ พระเจ้าของฝ่าพระบาทต่อสาวใช้ของฝ่าพระบาทว่า ‘ซาโลมอนลูกของเจ้าจะเป็นกษัตริย์ต่อจากเราแน่นอน และเขาจะนั่งบนบัลลังก์ของเรา’ ดูสิ บัดนี้อาโดนียาห์ทรงครองราชย์แล้ว แม้แต่ฝ่าพระบาท คือพระราชาเจ้านายของหม่อมฉัน ก็ไม่ทรงทราบ เขาได้ฆ่าวัว สัตว์อ้วนพี และแกะจำนวนมากเป็นเครื่องบูชา และได้เชิญบรรดาพระราชโอรสของพระราชากับอาบียาธาร์ปุโรหิต กับโยอาบผู้บัญชาการกองทัพ แต่ไม่ได้เชิญซาโลมอนผู้รับใช้ของฝ่าพระบาท ฝ่าพระบาทคือพระราชาเจ้านายของหม่อมฉัน บัดนี้อิสราเอลทั้งสิ้นก็เพ่งดูฝ่าพระบาท เพื่อฝ่าพระบาทจะตรัสแก่พวกเขาว่า จะทรงให้ใครนั่งบนบัลลังก์ของพระราชาเจ้านายของหม่อมฉันแทนฝ่าพระบาท มิฉะนั้นจะเป็นดังนี้คือ เมื่อพระราชาเจ้านายของหม่อมฉันล่วงหลับไปอยู่กับบรรพบุรุษของพระองค์แล้ว หม่อมฉันและซาโลมอนลูกของหม่อมฉันก็จะถูกถือว่าเป็นฝ่ายผิด” ขณะที่พระนางกำลังกราบทูลพระราชาอยู่ นาธันผู้เผยพระวจนะก็เข้ามา เขาทั้งหลายจึงทูลพระราชาว่า “นี่คือนาธันผู้เผยพระวจนะ” เมื่อนาธันเข้ามาเฝ้าเฉพาะพระพักตร์พระราชา เขาก็ซบหน้าลงถึงดินถวายบังคมพระราชา และนาธันกราบทูลว่า “ข้าแต่พระราชาเจ้านายของข้าพระบาท ฝ่าพระบาทรับสั่งไว้หรือว่า ‘อาโดนียาห์จะเป็นกษัตริย์ต่อจากเรา และจะนั่งบนบัลลังก์ของเรา?’ เพราะวันนี้พระโอรสได้ลงไปฆ่าวัว สัตว์อ้วนพีและแกะจำนวนมากเป็นเครื่องบูชา และได้เชิญบรรดาพระราชโอรสของพระราชา ทั้งผู้บัญชาการกองทัพและอาบียาธาร์ปุโรหิต และดูสิ เขาทั้งหลายกำลังกินดื่มต่อหน้าท่าน และกล่าวว่า ‘ขอพระราชาอาโดนียาห์ทรงพระเจริญ’ แต่ส่วนข้าพระบาทผู้รับใช้ของฝ่าพระบาท และศาโดกปุโรหิตกับเบไนยาห์บุตรเยโฮยาดา และซาโลมอนผู้รับใช้ของฝ่าพระบาท ท่านไม่ได้เชิญ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นโดยพระราชาเจ้านายของข้าพระบาทหรือ? และฝ่าพระบาทไม่ได้ตรัสแก่พวกผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทว่า จะทรงให้ใครนั่งบนบัลลังก์ของพระราชาเจ้านายของข้าพระบาท ต่อจากฝ่าพระบาท” แล้วพระราชาดาวิดตรัสตอบว่า “จงเรียกบัทเชบามาหาเรา” พระนางก็เสด็จเข้ามาเฝ้าเฉพาะพระพักตร์พระราชา และทรงยืนอยู่ต่อพระพักตร์พระราชา แล้วพระราชาทรงปฏิญาณว่า “พระยาห์เวห์ผู้ทรงไถ่ชีวิตของเราจากความทุกข์ยากทั้งสิ้น ทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด วันนี้เราก็จะทำอย่างที่ได้ปฏิญาณต่อเจ้า ในพระนามพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลฉันนั้น คือว่า ‘ซาโลมอนลูกของเจ้าจะเป็นกษัตริย์ต่อจากเราแน่นอน และจะนั่งบนบัลลังก์ของเราแทนเรา’ เราจะทำอย่างนั้นวันนี้แหละ”
1 พงศ์กษัตริย์ 1:1-30 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
กษัตริย์ดาวิดมีพระชนมายุและทรงพระชรามากแล้ว แม้เขาจะห่มผ้าให้พระองค์มากก็ยังไม่อบอุ่น เพราะฉะนั้นบรรดาข้าราชการของพระองค์จึงกราบทูลว่า “ขอเสาะหาหญิงสาวพรหมจารีมาถวายกษัตริย์เจ้านายของข้าพระองค์ และขอให้เธออยู่งานเฉพาะพระพักตร์พระองค์ และดูแลพระองค์ ให้เธอนอนในพระทรวงของพระองค์ เพื่อกษัตริย์เจ้านายของข้าพระองค์จะได้ทรงอบอุ่น” เขาจึงได้แสวงหานางสาวที่สวยงามตลอดดินแดนอิสราเอล ได้พบนางสาวอาบีชากหญิงชาวชูเนม จึงได้นำเธอมาเฝ้ากษัตริย์ หญิงสาวคนนั้นงามยิ่งนัก เธอได้ดูแลกษัตริย์และอยู่ปรนนิบัติพระองค์ แต่กษัตริย์หาทรงร่วมกับเธอไม่ ฝ่ายอาโดนียาห์ โอรสของพระนางฮักกีทได้ยกตัวเองขึ้นกล่าวว่า “เราเองจะเป็นกษัตริย์” และท่านได้เตรียมรถรบและพลม้า กับพลวิ่งนำหน้าห้าสิบคนไว้เพื่อตนเอง พระราชบิดาของท่านก็ไม่เคยขัดใจท่านด้วยถามว่า “ทำไมเจ้ากระทำเช่นนี้เช่นนั้น” ท่านเป็นชายงามด้วย ท่านเกิดมาถัดอับซาโลม ท่านได้ปรึกษากับโยอาบบุตรชายนางเศรุยาห์และกับอาบียาธาร์ปุโรหิต เขาทั้งสองก็ติดตามและช่วยเหลืออาโดนียาห์ แต่ศาโดกปุโรหิต และเบไนยาห์บุตรชายเยโฮยาดา และนาธันผู้พยากรณ์กับชิเมอีและเรอี และพวกทแกล้วทหารของดาวิดมิได้อยู่ฝ่ายอาโดนียาห์ อาโดนียาห์ได้ถวายแกะ วัว และสัตว์อ้วนพีเป็นเครื่องบูชา ณ ศิลาแห่งโศเฮเลทซึ่งอยู่ข้างๆเอนโรเกล และท่านได้เชิญพี่น้องทั้งสิ้นของท่าน คือราชโอรสของกษัตริย์ และประชาชนทั้งสิ้นแห่งยูดาห์ที่เป็นข้าราชการของกษัตริย์ แต่ท่านมิได้เชิญนาธันผู้พยากรณ์ หรือเบไนยาห์ หรือพวกทแกล้วทหาร หรือซาโลมอนอนุชาของท่าน แล้วนาธันก็ทูลพระนางบัทเชบาพระชนนีของซาโลมอนว่า “พระองค์ไม่ทรงได้ยินหรือว่า อาโดนียาห์ โอรสของพระนางฮักกีทได้ทรงราชย์แล้ว และดาวิดเจ้านายของข้าพระองค์ก็มิได้ทรงทราบเรื่อง เพราะฉะนั้นบัดนี้ขอข้าพระองค์ถวายคำปรึกษา เพื่อพระองค์จะได้ทรงช่วยชีวิตของพระองค์ และชีวิตของซาโลมอนโอรสของพระองค์ไว้ ขอเสด็จเข้าเฝ้ากษัตริย์ดาวิด และกราบทูลพระองค์ว่า ‘โอ กษัตริย์เจ้านายของหม่อมฉัน พระองค์ได้ทรงปฏิญาณกับสาวใช้ของพระองค์ไว้มิใช่หรือว่า “ซาโลมอนบุตรของเจ้าจะครองสมบัติต่อจากเราแน่นอน และจะนั่งบนบัลลังก์ของเรา” มิใช่หรือ ไฉนอาโดนียาห์จึงทรงครองเล่าเพคะ’ ดูเถิด ขณะที่พระองค์กราบทูลกษัตริย์อยู่ ข้าพระองค์จะตามเข้าไปเฝ้า และสนับสนุนพระเสาวนีย์ของพระองค์” แล้วพระนางบัทเชบาก็เข้าไปเฝ้ากษัตริย์ที่ห้องบรรทม กษัตริย์ทรงพระชรามาก และอาบีชากชาวชูเนมก็กำลังอยู่ปรนนิบัติกษัตริย์ เมื่อพระนางบัทเชบากราบถวายบังคมกษัตริย์แล้ว กษัตริย์ก็ตรัสถามว่า “เจ้าประสงค์สิ่งใด” พระนางทูลพระองค์ว่า “ข้าแต่เจ้านายของข้าพระองค์ พระองค์ได้ทรงปฏิญาณในพระนามของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพระองค์ต่อสาวใช้ของพระองค์ว่า ‘ซาโลมอนบุตรของเจ้าจะครองสมบัติต่อจากเราแน่นอน และเขาจะนั่งบนบัลลังก์ของเรา’ ดูเถิด บัดนี้อาโดนียาห์ทรงราชย์แล้ว แม้ว่าพระองค์คือกษัตริย์เจ้านายของหม่อมฉันก็หาทรงทราบไม่ เธอได้ถวายวัว สัตว์อ้วนพีและแกะเป็นอันมาก และได้เชิญบรรดาโอรสของกษัตริย์ กับอาบียาธาร์ปุโรหิต กับโยอาบผู้บัญชาการกองทัพ แต่ซาโลมอนผู้รับใช้ของพระองค์ เธอหาได้เชิญไม่ โอ ข้าแต่กษัตริย์เจ้านายของหม่อมฉัน อิสราเอลทั้งสิ้นก็เพ่งดูพระองค์ เพื่อพระองค์จะตรัสแก่เขาว่า จะทรงให้ผู้ใดนั่งบนบัลลังก์ของกษัตริย์เจ้านายของหม่อมฉันแทนพระองค์ มิฉะนั้นจะเป็นดังนี้ คือเมื่อกษัตริย์เจ้านายของหม่อมฉันล่วงลับไปอยู่กับบรรพบุรุษของพระองค์แล้ว หม่อมฉันและซาโลมอนบุตรของหม่อมฉันก็จะตกเป็นฝ่ายผิด” ดูเถิด ขณะเมื่อพระนางกำลังกราบทูลกษัตริย์อยู่ นาธันผู้พยากรณ์ก็เข้ามา เขาทั้งหลายจึงกราบทูลกษัตริย์ว่า “ดูเถิด นาธันผู้พยากรณ์” เมื่อนาธันเข้ามาต่อพระพักตร์กษัตริย์ เขาก็ซบหน้าลงถึงพื้นถวายคำนับกษัตริย์ และนาธันกราบทูลว่า “โอ ข้าแต่กษัตริย์เจ้านายของข้าพระองค์ พระองค์รับสั่งไว้หรือว่า ‘อาโดนียาห์จะครองต่อจากเรา และจะนั่งบนบัลลังก์ของเรา’ เพราะวันนี้เธอได้ลงไปถวายวัว สัตว์อ้วนพีและแกะเป็นอันมาก และได้เชื้อเชิญบรรดาโอรสของกษัตริย์ ทั้งผู้บัญชาการกองทัพ และอาบียาธาร์ปุโรหิต และดูเถิด เขาทั้งหลายกำลังกินดื่มต่อหน้าเธอและกล่าวว่า ‘ขอกษัตริย์อาโดนียาห์ทรงพระเจริญ’ แต่ส่วนข้าพระองค์ผู้รับใช้ของพระองค์ และศาโดกปุโรหิต กับเบไนยาห์บุตรชายเยโฮยาดา และซาโลมอนผู้รับใช้ของพระองค์เธอหาได้เชิญไม่ เหตุการณ์ทั้งนี้บังเกิดขึ้นโดยกษัตริย์เจ้านายของข้าพระองค์หรือ และพระองค์มิได้ตรัสบอกแก่ผู้รับใช้ของพระองค์ว่า จะทรงให้ผู้ใดนั่งบนบัลลังก์ของกษัตริย์เจ้านายของข้าพระองค์ต่อจากพระองค์” แล้วกษัตริย์ดาวิดตรัสตอบว่า “จงเรียกบัทเชบาให้มาหาเรา” พระนางก็เสด็จเข้ามาเฝ้าต่อพระพักตร์กษัตริย์ และประทับยืนอยู่ต่อพระพักตร์กษัตริย์ แล้วกษัตริย์ทรงปฏิญาณว่า “พระเยโฮวาห์ทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด คือพระองค์ผู้ทรงไถ่ชีวิตของเราจากบรรดาความทุกข์ยาก เราได้ปฏิญาณต่อเจ้าในพระนามพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลว่า ‘ซาโลมอนบุตรของเจ้าจะครองสมบัติต่อจากเราแน่นอน และเธอจะนั่งบนบัลลังก์ของเราแทนเรา’ เราก็จะกระทำอย่างนั้นวันนี้แหละ”
1 พงศ์กษัตริย์ 1:1-30 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
กษัตริย์ดาวิดมีพระชนมายุและทรงพระชรามากแล้ว แม้เขาจะห่มผ้าให้พระองค์มากก็ยังไม่อบอุ่น เพราะฉะนั้นบรรดาข้าราชการของพระองค์จึงกราบทูลว่า <<ขอเสาะหาหญิงพรหมจารีมาถวายพระราชาเจ้านายของ ข้าพระบาท และขอให้เธออยู่งานเฉพาะฝ่าพระบาท และดูแลฝ่าพระบาท ให้เธอนอนในพระทรวงของฝ่าพระบาท เพื่อพระราชาเจ้านายของข้าพระบาทจะได้ทรงอบอุ่น>> เขาจึงได้แสวงหานางสาวที่สวยงามตลอดดินแดนอิสราเอล ได้พบนางสาวอาบีชากหญิงชาวชูเนม จึงได้นำเธอมาเฝ้าพระราชา หญิงสาวคนนั้นงามยิ่งนัก เธอได้ดูแลพระราชาและอยู่ปรนนิบัติพระองค์ แต่พระราชาหาทรงร่วมกับเธอไม่ ฝ่ายอาโดนียาห์ โอรสของพระนางฮักกีทได้ยกตัวเองขึ้นกล่าวว่า <<เราเองจะเป็นพระราชา>> และท่านได้เตรียมรถรบและพลม้า กับพลวิ่งนำหน้าห้าสิบคนไว้เพื่อตนเอง พระราชบิดาของท่านก็ไม่เคยขัดใจท่านด้วยถามว่า <<ทำไมเจ้ากระทำเช่นนี้เช่นนั้น>> ท่านเป็นชายงามด้วย ท่านเกิดมาถัดอับซาโลม ท่านได้ปรึกษากับโยอาบบุตรนางเศรุยาห์ และกับอาบียาธาร์ปุโรหิต เขาทั้งสองก็ติดตามและช่วยเหลืออาโดนียาห์ แต่ศาโดกปุโรหิต และเบไนยาห์บุตรเยโฮยาดา และนาธันผู้เผยพระวจนะกับชิเมอี และเรอี และพวกทแกล้วทหารของดาวิดมิได้อยู่ฝ่ายอาโดนียาห์ อาโดนียาห์ได้ถวายแกะ วัว และสัตว์อ้วนพีเป็นเครื่องบูชา ณ โศเฮเลท ซึ่งอยู่ข้างๆเอนโรเกล และท่านได้เชิญพี่น้องทั้งสิ้นของท่าน คือราชโอรสของพระราชา และประชาชนทั้งสิ้นแห่งยูดาห์ ที่เป็นข้าราชการของพระราชา แต่ท่านมิได้เชิญนาธันผู้เผยพระวจนะ หรือเบไนยาห์หรือพวกทแกล้วทหาร หรือซาโลมอนอนุชาของท่าน แล้วนาธันก็ทูลพระนางบัทเชบาพระชนนีของซาโลมอน ว่า <<ฝ่าพระบาทไม่ทรงทราบหรือว่า อาโดนียาห์โอรสของพระนางฮักกีทได้ทรงราชย์แล้ว และดาวิดเจ้านายของข้าพระบาทก็มิได้ทรงทราบเรื่อง เพราะฉะนั้นขอข้าพระบาทถวายคำปรึกษา เพื่อฝ่าพระบาทจะได้ทรงช่วยชีวิตของฝ่าพระบาท และชีวิตของซาโลมอนโอรสของฝ่าพระบาทไว้ ขอเสด็จเข้าเฝ้าพระราชาดาวิดทันที และกราบทูลพระองค์ว่า <พระราชาเจ้านายของหม่อมฉัน ฝ่าพระบาทได้ทรงปฏิญาณกับสาวใช้ของฝ่า พระบาทไว้มิใช่หรือว่า <<ซาโลมอนบุตรของเจ้าจะครองสมบัติต่อจากเรา และจะนั่งบนบัลลังก์ของเรา มิใช่หรือ>> ไฉน อาโดนียาห์จึงทรงครองเล่าเพคะ> ดูเถิด ขณะที่ฝ่าพระบาทกราบทูลพระราชาอยู่ ข้าพระบาทจะตามเข้าไปเฝ้า และสนับสนุนพระเสาวนีย์ของฝ่าพระบาท>> แล้วพระนางบัทเชบา ก็เข้าไปเฝ้าพระราชาที่ห้องบรรทม (พระราชาทรงพระชรามาก และอาบีชากชาวชูเนมก็กำลังอยู่ปรนนิบัติพระราชา) เมื่อพระนางบัทเชบากราบถวายบังคมแล้ว พระราชาก็ตรัสถามว่า <<เจ้าประสงค์สิ่งใด>> พระนางทูลพระองค์ว่า <<ข้าแต่เจ้านายของข้าพระบาท ฝ่าพระบาทได้ทรงปฏิญาณในพระนามของพระเยโฮวาห์ พระเจ้าของฝ่าพระบาทต่อสาวใช้ของฝ่าพระบาทว่า <ซาโลมอนบุตรของเจ้าจะครองสมบัติต่อจากเราแน่นอน และเขาจะนั่งบนบัลลังก์ของเรา> ดูเถิด บัดนี้อาโดนียาห์ทรงราชย์แล้ว แม้ว่าพระองค์คือพระราชาเจ้านายของหม่อมฉัน ก็หาทรงทราบไม่ เธอได้ถวายวัวสัตว์อ้วนพีและแกะเป็นอันมาก และได้เชิญบรรดาโอรสของพระราชากับอาบียาธาร์ปุโรหิต กับโยอาบผู้บัญชาการกองทัพ แต่ซาโลมอนผู้รับใช้ของพระองค์ เธอหาได้เชิญไม่ ข้าแต่พระราชาเจ้านายของหม่อมฉัน บัดนี้อิสราเอลทั้งสิ้นก็เพ่งดูฝ่าพระบาท เพื่อฝ่าพระบาทจะตรัสแก่เขาว่า จะทรงให้ผู้ใดนั่งบนบัลลังก์ของ พระราชาเจ้านายของหม่อมฉันแทนฝ่าพระบาท มิฉะนั้นจะเป็นดังนี้ คือเมื่อพระราชาเจ้านายของหม่อมฉันล่วงลับไปอยู่กับ บรรพบุรุษของพระองค์แล้ว หม่อมฉันและซาโลมอนบุตรของหม่อมฉันก็จะตกเป็นฝ่ายผิด>> ขณะเมื่อพระนางกำลังกราบทูลพระราชาอยู่ นาธันผู้เผยพระวจนะก็เข้ามา เขาทั้งหลายจึงกราบทูลพระราชาว่า <<ดูเถิด นาธันผู้เผยพระวจนะ>> เมื่อนาธันเข้ามาต่อพระพักตร์พระราชา เขาก็ซบหน้าลงถึงพื้นถวายคำนับพระราชา และนาธันกราบทูลว่า <<ข้าแต่พระราชาเจ้านายของข้าพระบาท ฝ่าพระบาทรับสั่งไว้หรือว่า <อาโดนียาห์จะครองต่อจากเรา และจะนั่งบนบัลลังก์ของเรา> เพราะวันนี้เธอได้ลงไปถวายวัว สัตว์อ้วนพีและแกะเป็นอันมาก และได้เชื้อเชิญบรรดาโอรสของพระราชา ทั้งผู้บัญชาการกองทัพและอาบียาธาร์ปุโรหิต และดูเถิด เขาทั้งหลายกำลังกินดื่มต่อหน้าเธอและกล่าวว่า <ขอพระราชาอาโดนียาห์ทรงพระเจริญ> แต่ส่วนข้าพระบาทผู้รับใช้ของฝ่าพระบาท และศาโดกปุโรหิตกับเบไนยาห์บุตรเยโฮยาดา และซาโลมอนผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทเธอหาได้เชิญไม่ เหตุการณ์ทั้งนี้บังเกิดขึ้นโดยพระราชาเจ้านาย ของข้าพระบาทหรือ และฝ่าพระบาทมิได้ตรัสบอกแก่ผู้รับใช้ของฝ่า พระบาทว่า จะทรงให้ผู้ใดนั่งบนบัลลังก์ของพระราชาเจ้านาย ของฝ่าพระบาท ต่อจากฝ่าพระบาท>> แล้วพระราชาดาวิดตรัสตอบว่า <<จงเรียกบัทเชบาให้มาหาเรา>> พระนางก็เสด็จเข้ามาเฝ้าต่อพระพักตร์พระราชา และประทับยืนอยู่ต่อพระพักตร์พระราชา แล้วพระราชาทรงปฏิญาณว่า <<พระเจ้าทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด คือพระองค์ผู้ทรงไถ่ชีวิตของเราจากบรรดาความทุกข์ยาก เราได้ปฏิญาณต่อเจ้าในพระนามพระเยโฮวาห์ พระเจ้าแห่งอิสราเอลว่า <ซาโลมอนบุตรของเจ้าจะครองสมบัติต่อจากเราแน่นอน และเธอจะนั่งบนบัลลังก์ของเราแทนเรา> เราก็จะกระทำอย่างนั้นวันนี้แหละ>>
1 พงศ์กษัตริย์ 1:1-30 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
เมื่อกษัตริย์ดาวิดทรงชรามากแล้ว แม้จะห่มผ้าสักกี่ผืนก็ไม่อุ่น ข้าราชบริพารจึงกราบทูลว่า “ควรหาสาวพรหมจารีมาอยู่งานถวายการปรนนิบัติให้ นอนแนบเคียงพระวรกายเพื่อฝ่าพระบาทจะทรงอบอุ่น” พวกเขาจึงเฟ้นหาหญิงงามทั่วอิสราเอล ในที่สุดก็เลือกอาบีชากชาวชูเนม จึงนำตัวนางมาเข้าเฝ้า หญิงสาวนั้นงดงามมาก คอยดูแลถวายการปรนนิบัติ แต่กษัตริย์ไม่ได้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนาง ฝ่ายอาโดนียาห์ราชโอรสของพระนางฮักกีท กำเริบเสิบสานและกล่าวว่า “เราจะเป็นกษัตริย์” ดังนั้นจึงจัดรถม้าศึก พลขับและเกณฑ์คนห้าสิบคนให้วิ่งนำขบวน (ราชบิดาของเขาไม่เคยห้ามปรามหรือถามว่า “เหตุใดเจ้าจึงทำเช่นนั้น?” เขายังเป็นคนหล่อเหลา เกิดถัดจากอับซาโลม) อาโดนียาห์คบคิดกับโยอาบบุตรนางเศรุยาห์และปุโรหิตอาบียาธาร์ซึ่งสนับสนุนตน แต่ปุโรหิตศาโดก เบไนยาห์บุตรเยโฮยาดา ผู้เผยพระวจนะนาธัน ชิเมอี เรอี และราชองครักษ์ของดาวิดไม่ได้ร่วมอยู่ฝ่ายอาโดนียาห์ อาโดนียาห์ถวายแกะ วัว กับลูกวัวขุนที่ศิลาแห่งโศเฮเลทใกล้เอนโรเกล เขาได้เชิญโอรสทั้งปวงของดาวิดและบรรดาข้าราชบริพารของยูดาห์มาร่วมพิธี แต่ไม่เชิญผู้เผยพระวจนะนาธัน เบไนยาห์ราชองครักษ์ และโซโลมอนพระอนุชา ผู้เผยพระวจนะนาธันจึงไปทูลถามพระนางบัทเชบาพระมารดาของโซโลมอนว่า “พระนางทรงทราบหรือไม่ว่าอาโดนียาห์โอรสของพระนางฮักกีทตั้งตนเป็นกษัตริย์แล้ว โดยที่กษัตริย์ดาวิดไม่ทรงทราบเรื่องเลย? ข้าพระบาทขอถวายคำปรึกษาเพื่อพระนางจะทรงสงวนชีวิตของพระนางกับโอรสโซโลมอนไว้ได้ คือโปรดเสด็จไปเข้าเฝ้ากษัตริย์และทูลถามว่า ‘ฝ่าพระบาททรงปฏิญาณกับหม่อมฉันแล้วไม่ใช่หรือว่า “โซโลมอนลูกของเจ้า จะได้เป็นกษัตริย์ครองราชบัลลังก์สืบต่อจากเรา” แล้วทำไมอาโดนียาห์จึงขึ้นเป็นกษัตริย์?’ แล้วขณะที่พระนางกำลังทูลกษัตริย์อยู่ ข้าพระบาทจะเข้าไปกราบทูลยืนยัน” พระนางบัทเชบาจึงเสด็จเข้าไปในห้องประทับของกษัตริย์ซึ่งทรงชรามากแล้ว อาบีชากชาวชูเนมกำลังอยู่งานถวายการปรนนิบัติ บัทเชบาคุกเข่าแล้วกราบลงต่อหน้ากษัตริย์ กษัตริย์ตรัสถามว่า “เจ้าประสงค์สิ่งใด?” พระนางทูลว่า “ฝ่าพระบาททรงปฏิญาณไว้กับหม่อมฉันผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทในพระนามของพระยาห์เวห์พระเจ้าของฝ่าพระบาทว่า ‘โซโลมอนลูกของเจ้าจะได้เป็นกษัตริย์ครองราชบัลลังก์สืบต่อจากเรา’ แต่บัดนี้กลับกลายเป็นว่าอาโดนียาห์ขึ้นเป็นกษัตริย์องค์ใหม่โดยที่ฝ่าพระบาทผู้ทรงเป็นกษัตริย์ไม่ได้ทรงทราบเรื่องเลย อาโดนียาห์ได้ถวายวัว ลูกวัวขุน กับแกะมากมาย ทั้งได้เชิญโอรสทั้งปวงของฝ่าพระบาท ปุโรหิตอาบียาธาร์ แม่ทัพโยอาบ แต่ไม่เชิญโซโลมอนผู้รับใช้ของฝ่าพระบาท ข้าแต่กษัตริย์ อิสราเอลทั้งปวงกำลังจับตาดูว่าจะทรงเลือกใครขึ้นครองราชย์สืบต่อจากฝ่าพระบาท มิฉะนั้นแล้วทันทีที่ฝ่าพระบาททรงล่วงลับไปอยู่กับบรรพบุรุษ พวกเขาจะปฏิบัติต่อหม่อมฉันกับลูกโซโลมอนเหมือนเป็นอาชญากร” ขณะที่พระนางกำลังทูลกษัตริย์ ผู้เผยพระวจนะนาธันก็มาถึง พวกเขาจึงทูลกษัตริย์ว่า “ผู้เผยพระวจนะนาธันมารอเข้าเฝ้า” นาธันจึงเข้ามาหมอบกราบลงต่อหน้ากษัตริย์ และกราบทูลว่า “ฝ่าพระบาททรงแต่งตั้งอาโดนียาห์เป็นกษัตริย์ครองราชบัลลังก์สืบต่อจากฝ่าพระบาทแล้วหรือ? วันนี้เขาได้ถวายวัว ลูกวัวขุน กับแกะมากมาย และเชิญโอรสทุกพระองค์ของฝ่าพระบาท แม่ทัพนายกอง และปุโรหิตอาบียาธาร์ ขณะนี้พวกเขากำลังเลี้ยงฉลองและโห่ร้องว่า ‘กษัตริย์อาโดนียาห์ จงทรงพระเจริญ!’ แต่ข้าพระองค์ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาท ปุโรหิตศาโดก เบไนยาห์บุตรเยโฮยาดา และโซโลมอนผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทไม่ได้รับเชิญ ฝ่าพระบาททรงกระทำการครั้งนี้ไปโดยไม่ทรงอนุญาตให้เหล่าข้าพระบาททราบหรือว่าใครคือผู้ที่จะครองราชย์สืบต่อจากฝ่าพระบาท?” กษัตริย์ดาวิดตรัสว่า “เรียกบัทเชบามานี่สิ” พระนางจึงเข้ามายืนอยู่ต่อหน้า แล้วกษัตริย์ตรัสปฏิญาณว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงช่วยเหลือเราให้พ้นจากความยากลำบากทั้งปวงนั้นทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด วันนี้เราจะทำตามที่ได้ปฏิญาณไว้กับเจ้าในพระนามของพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลฉันนั้น คือโซโลมอนลูกของเจ้าจะได้เป็นกษัตริย์สืบต่อจากเรา และจะครองบัลลังก์แทนเรา”
1 พงศ์กษัตริย์ 1:1-30 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
ในยามที่กษัตริย์ดาวิดชรามากแล้ว แม้ว่าจะมีคนช่วยท่านสวมเสื้อผ้าหลายตัว แต่ท่านก็ไม่รู้สึกอุ่นขึ้น ฉะนั้นบรรดาผู้รับใช้ของท่านจึงทูลว่า “ให้เสาะหาหญิงสาวสักคนหนึ่งมาให้เจ้านายผู้เป็นกษัตริย์เถิด และให้เธออยู่ปรนนิบัติกษัตริย์ และคอยรับใช้ท่าน ให้เธออยู่ในอ้อมกอดของท่าน เพื่อเจ้านายผู้เป็นกษัตริย์จะได้อุ่นขึ้น” ดังนั้น พวกเขาจึงเฟ้นหาสาวงามทั่วแผ่นดินอิสราเอล และได้พบอาบีชากชาวชูเนม พวกเขาจึงนำเธอมาเข้าเฝ้ากษัตริย์ หญิงสาวผู้นี้งดงามมาก คอยรับใช้และปรนนิบัติท่าน แต่กษัตริย์ไม่มีเพศสัมพันธ์กับเธอ ฝ่ายอาโดนียาห์บุตรของนางฮักกีทตั้งตัวขึ้นด้วยการกล่าวว่า “เรานี่แหละจะเป็นกษัตริย์” เขาจึงหารถศึกและทหารม้า อีกทั้งชาย 50 คนวิ่งนำหน้าเขาไป บิดาของเขาไม่เคยตั้งคำถามที่จะทำให้เขาไม่พอใจ ดังเช่นว่า “ทำไมเจ้าจึงกระทำเช่นนี้เช่นนั้น” เขาเป็นคนรูปงามมาก เป็นลูกลำดับต่อจากอับซาโลม เขาปรึกษากับโยอาบบุตรของนางเศรุยาห์ และกับอาบียาธาร์ปุโรหิต พวกเขาจึงปฏิบัติตามอาโดนียาห์ และช่วยเหลือเขา แต่ศาโดกปุโรหิต เบไนยาห์บุตรของเยโฮยาดา นาธานผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า ชิเมอี เรอี และเหล่าทหารกล้าของดาวิดไม่ได้เป็นฝ่ายอาโดนียาห์ อาโดนียาห์ถวายแกะ โค และสัตว์อ้วนพีเป็นเครื่องสักการะที่ข้างหินโศเฮเลท ซึ่งอยู่ใกล้เอนโรเกล เขาเชิญพี่น้องผู้ชาย บรรดาบุตรของกษัตริย์ และข้าราชสำนักของยูดาห์ทั้งปวงมา แต่เขาไม่ได้เชิญทั้งนาธานผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า หรือเบไนยาห์ หรือเหล่าทหารกล้า และซาโลมอนน้องชายของเขา ครั้นแล้วนาธานพูดกับบัทเช-บามารดาของซาโลมอนว่า “ท่านไม่ทราบหรือว่าอาโดนียาห์บุตรของนางฮักกีทได้ตั้งตนเป็นกษัตริย์ และดาวิดเจ้านายของเราไม่ทราบเรื่องนี้ ฉะนั้น กรุณามาเถิด ข้าพเจ้าขอแนะนำท่าน เพื่อท่านจะได้รักษาชีวิตของตัวเองและชีวิตของซาโลมอนบุตรของท่านให้รอด จงไปเข้าเฝ้ากษัตริย์ดาวิดทันที และถามว่า ‘เจ้านายผู้เป็นกษัตริย์ไม่ได้สัญญากับผู้รับใช้ของท่านดังนี้หรือว่า “ซาโลมอนบุตรของเจ้าจะครองราชย์ต่อจากเรา และเขาจะนั่งบนบัลลังก์ของเรา” แล้วเหตุใดอาโดนียาห์จึงได้เป็นกษัตริย์เล่า’ และขณะที่ท่านกำลังพูดกับกษัตริย์ ข้าพเจ้าจะตามหลังท่านเข้ามา เพื่อสนับสนุนสิ่งที่ท่านพูด” ดังนั้นบัทเช-บาจึงไปเข้าเฝ้ากษัตริย์ที่ห้องส่วนตัว (ในเวลานั้นกษัตริย์ชรามากแล้ว และอาบีชากชาวชูเนมกำลังปรนนิบัติกษัตริย์อยู่) บัทเช-บาก้มแสดงความเคารพต่อกษัตริย์ และกษัตริย์กล่าวว่า “เจ้าต้องการสิ่งใด” นางพูดว่า “เจ้านายของข้าพเจ้า ท่านสัญญากับผู้รับใช้ของท่านในพระนามของพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านดังนี้ว่า ‘ซาโลมอนบุตรของเจ้าจะครองราชย์ต่อจากเรา และเขาจะนั่งบนบัลลังก์ของเรา’ แต่มาบัดนี้ ดูเถิด อาโดนียาห์ได้เป็นกษัตริย์ แม้กระทั่งเจ้านายผู้เป็นกษัตริย์ก็ไม่ทราบเรื่องนี้ เขาได้ถวายโค สัตว์อ้วนพี และแกะมากมาย และได้เชิญบรรดาบุตรของกษัตริย์ทุกคน อาบียาธาร์ปุโรหิต และโยอาบผู้บังคับกองพันทหาร แต่เขาไม่ได้เชิญซาโลมอนผู้รับใช้ของท่าน และบัดนี้เจ้านายผู้เป็นกษัตริย์ ชาวอิสราเอลทั้งปวงกำลังมองท่านอยู่ เพื่อให้บอกพวกเขาว่า ใครเป็นคนต่อไปหลังจากท่าน ที่จะนั่งบนบัลลังก์ของเจ้านายผู้เป็นกษัตริย์ มิฉะนั้นสิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือ เมื่อเจ้านายผู้เป็นกษัตริย์สิ้นชีวิตและถูกนำไปวางรวมกับบรรพบุรุษของท่านแล้ว ข้าพเจ้ากับซาโลมอนบุตรของข้าพเจ้าก็จะกลายเป็นฝ่ายกบฏ” ขณะที่นางกำลังพูดกับกษัตริย์ นาธานผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าก็เข้ามา มีคนแจ้งกษัตริย์ว่า “นาธานผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าอยู่ที่นี่แล้ว” เมื่อนาธานเข้ามาอยู่ ณ เบื้องหน้ากษัตริย์ ท่านก้มหน้าลงซบพื้น นาธานพูดว่า “เจ้านายผู้เป็นกษัตริย์ ท่านเคยกล่าวไว้หรือว่า ‘อาโดนียาห์จะครองราชย์ต่อจากเรา และเขาจะนั่งบนบัลลังก์ของเรา’ เพราะวันนี้เขาได้ลงไปถวายโค สัตว์อ้วนพี และแกะจำนวนมากเป็นเครื่องสักการะ และได้เชิญบรรดาบุตรของกษัตริย์ทุกคน ผู้บัญชากองทัพทั้งหลาย และอาบียาธาร์ปุโรหิต และดูเถิด พวกเขากำลังดื่มกินอยู่เบื้องหน้าอาโดนียาห์ และพูดกันว่า ‘ขอกษัตริย์อาโดนียาห์มีอายุยืนนาน’ แต่เขาไม่ได้เชิญข้าพเจ้าผู้รับใช้ของท่าน ศาโดกปุโรหิต เบไนยาห์บุตรของเยโฮยาดา และซาโลมอนผู้รับใช้ของท่าน เจ้านายผู้เป็นกษัตริย์ได้จัดการเรื่องดังกล่าว โดยท่านยังไม่ได้บอกให้บรรดาผู้รับใช้ของท่านให้รู้หรือว่า ใครควรจะนั่งบนบัลลังก์ของเจ้านายผู้เป็นกษัตริย์เป็นคนต่อไป” ครั้นแล้วกษัตริย์ดาวิดจึงตอบว่า “จงเรียกบัทเช-บาให้มาหาเรา” นางจึงเข้ามาเฝ้ากษัตริย์ และยืน ณ เบื้องหน้าท่าน จากนั้นกษัตริย์ก็สาบานว่า “พระผู้เป็นเจ้าช่วยให้เราได้มีชีวิตพ้นจากศัตรูทุกคน ฉะนั้น ตราบที่พระองค์มีชีวิตอยู่ฉันใด เราขอสาบานกับเจ้าด้วยพระนามของพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของอิสราเอลว่า ‘ซาโลมอนบุตรของเจ้าจะครองราชย์ต่อจากเรา และเขาจะนั่งบนบัลลังก์ของเราแทนที่เรา’ ในวันนี้เราจะกระทำตามคำกล่าวที่ว่านั้น”