องค์ผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ พระเจ้าตรัสและทรงเรียกแผ่นดินโลก ตั้งแต่ที่ดวงอาทิตย์ขึ้นจนถึงที่ดวงอาทิตย์ตก พระเจ้าทรงทอแสงออกมา จากศิโยนนครแห่งความงามหมดจด พระเจ้าของเราเสด็จมา พระองค์มิได้ทรงเงียบอยู่ เพลิงเผาผลาญมาข้างหน้าพระองค์ รอบพระองค์คือวาตะอันทรงมหิทธิฤทธิ์ พระองค์ทรงเรียกถึงฟ้าสวรรค์เบื้องบน และถึงแผ่นดินโลก เพื่อพระองค์จะทรงพิพากษาประชากรของพระองค์ว่า <<จงรวบรวมบรรดาธรรมิกชนของเรามาให้เรา ผู้กระทำพันธสัญญากับเราด้วยเครื่องสัตวบูชา>> ฟ้าสวรรค์ประกาศความชอบธรรมของพระองค์ เพราะพระเจ้านั่นแหละทรงเป็นผู้พิพากษา <<ประชากรของเราเอ๋ย จงฟัง และเราจะพูด อิสราเอลเอ๋ย เราจะเป็นพยานปรักปรำเจ้า เราเป็นพระเจ้า พระเจ้าของเจ้า เรามิได้ตักเตือนเจ้าเรื่องเครื่องสัตวบูชาของเจ้า เครื่องเผาบูชาของเจ้ามีอยู่ต่อหน้าเราเสมอ เราจะไม่รับวัวผู้จากเรือนของเจ้า หรือแพะผู้จากคอกของเจ้า เพราะสัตว์ทุกตัวในป่าเป็นของเรา ทั้งสัตว์เลี้ยงบนภูเขาตั้งพันยอด เรารู้จักบรรดานกแห่งภูเขาทั้งหลาย และบรรดาสัตว์ในนาเป็นของเรา ถ้าเราหิว เราจะไม่บอกเจ้า เพราะพิภพและสารพัดที่อยู่ในนั้นเป็นของเรา เรากินเนื้อวัวผู้หรือ หรือ ดื่มเลือดแพะหรือ จงนำเครื่องการโมทนาพระคุณมาเป็นเครื่อง สักการบูชาแด่พระเจ้า และแก้บนของเจ้าต่อองค์ผู้สูงสุด และจงร้องทูลเราในวันทุกข์ยากลำบาก เราจะช่วยกู้เจ้า และเจ้าจะถวายพระสิริแก่เรา>>
อ่าน สดุดี 50
แบ่งปัน
เปรียบเทียบฉบับแปลทั้งหมด: สดุดี 50:1-15
บันทึกข้อพระคำ อ่านแบบออฟไลน์ ดูคลิปการสอน และอื่น ๆ อีกมากมาย!
หน้าหลัก
พระคัมภีร์
แผนการอ่าน
วิดีโอ