พี่น้องเอ๋ย ข้าพเจ้าปรารถนาอย่างยิ่ง และอธิษฐานต่อพระเจ้าเพื่อชาวอิสราเอล คือให้พวกเขาได้รอดพ้น เพราะข้าพเจ้าสามารถเป็นพยานให้พวกเขาได้ว่า เขาเอาจริงเอาจังต่อพระเจ้า แต่ความปรารถนาอันแรงกล้าของเขามิได้มีพื้นฐานอยู่บนความรู้ที่แท้จริง ด้วยว่า พวกเขาขาดความรู้เรื่องความชอบธรรมที่มาจากพระเจ้า และพยายามก่อตั้งความชอบธรรมแบบของตนเองขึ้น พวกเขาไม่ได้ยอมอยู่ในความชอบธรรมของพระเจ้า พระคริสต์เป็นจุดจบของกฎบัญญัติ เพื่อทุกคนที่เชื่อจะได้มีความชอบธรรม โมเสสเขียนไว้ว่า ความชอบธรรมที่ถือตามกฎบัญญัติคือ “คนที่ถือตามพระบัญญัติจะมีชีวิตได้โดยการปฏิบัติตามนั้น” แต่ความชอบธรรมที่ได้มาโดยความเชื่อกล่าวว่า “อย่านึกในใจว่า ‘ใครจะขึ้นไปสวรรค์’ (หมายถึงขึ้นไปเพื่อพาพระคริสต์ลงมา) หรือ ‘ใครจะลงไปถึงขุมนรก’ (หมายถึงลงไปเพื่อพาพระคริสต์ขึ้นมาจากความตาย)” แต่พระคัมภีร์ระบุว่าอย่างไร “คำกล่าวอยู่ใกล้ท่าน คืออยู่ในปากและในจิตใจของท่าน” นั่นคือคำกล่าวแห่งความเชื่อซึ่งเรากำลังประกาศอยู่ ด้วยว่าถ้าท่านยอมรับด้วยปากของท่านว่า พระเยซูเป็นพระผู้เป็นเจ้า และเชื่อในจิตใจของท่านว่า พระเจ้าได้ให้พระองค์ฟื้นคืนชีวิตจากความตายแล้ว ท่านก็จะรอดพ้น เพราะผลที่ได้จากการเชื่อด้วยใจคือการพ้นผิด และผลที่ได้จากการสารภาพจากปากคือความรอดพ้น ตามที่พระคัมภีร์ระบุว่า “ใครก็ตามที่เชื่อพระองค์ จะไม่ได้รับความอับอาย”
อ่าน โรม 10
แบ่งปัน
เปรียบเทียบฉบับแปลทั้งหมด: โรม 10:1-11
บันทึกข้อพระคำ อ่านแบบออฟไลน์ ดูคลิปการสอน และอื่น ๆ อีกมากมาย!
หน้าหลัก
พระคัมภีร์
แผนการอ่าน
วิดีโอ