แต่วิบัติจงเกิดแก่ผู้มั่งมี เพราะว่าท่านได้รับความสบายแล้ว วิบัติจงเกิดแก่ผู้ที่อิ่มหนำเวลานี้ เพราะว่าท่านจะมีความอดอยาก วิบัติจงเกิดแก่ผู้ที่หัวเราะเวลานี้ เพราะว่าท่านจะมีความเศร้าโศกและร้องไห้ วิบัติจงเกิดแก่ผู้ที่เวลาคนทั่วไปพูดยกยอท่าน เพราะว่าบรรพบุรุษของเขาทั้งหลายได้กระทำเช่นเดียวกัน ต่อบรรดาผู้เผยคำกล่าวจอมปลอม เราขอบอกท่านที่ฟังเราว่า จงรักศัตรูของท่าน จงทำดีต่อผู้ที่เกลียดชังท่าน จงอวยพรผู้ที่สาปแช่งท่าน จงอธิษฐานให้แก่คนที่กระทำผิดต่อท่าน ถ้าใครตบแก้มของท่านข้างหนึ่ง จงหันอีกข้างหนึ่งให้เขาด้วย ถ้าใครเอาเสื้อตัวนอกของท่านไป และจะเอาเสื้อตัวในไปด้วยก็อย่าห้ามเขา จงให้แก่ทุกคนที่ขอจากท่าน และถ้าผู้ใดเอาสิ่งของที่เป็นของท่านไปก็อย่าทวงกลับคืน จงปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างที่ท่านต้องการให้ผู้อื่นปฏิบัติต่อท่าน ถ้าท่านรักบรรดาผู้ที่รักท่าน แล้วท่านจะได้คุณประโยชน์อะไร เพราะแม้แต่คนบาปก็ยังรักผู้ที่รักเขา ถ้าท่านทำดีแก่ผู้ที่ทำดีแก่ท่าน แล้วท่านจะได้คุณประโยชน์อะไร เพราะคนบาปก็ทำเช่นนั้น ถ้าท่านให้ยืมแก่ผู้ที่ท่านหวังว่าจะได้รับคืน แล้วท่านจะได้คุณประโยชน์อะไร เพราะคนบาปก็ให้ยืมแก่คนบาป ด้วยหวังว่าจะได้รับคืนทั้งหมด แต่จงรักศัตรูของท่าน จงทำดีต่อเขาเหล่านั้น และให้ยืมโดยไม่หวังเลยว่าจะได้รับสิ่งใดคืน แล้วท่านจะได้รับรางวัลอันเลิศ ท่านทั้งหลายก็จะได้เป็นบุตรของผู้สูงสุด ด้วยว่าพระองค์มีความกรุณาต่อคนอกตัญญูและคนชั่ว จงมีความเมตตา เหมือนกับพระบิดาของท่านผู้มีความเมตตา อย่าตำหนิติเตียนผู้อื่น แล้วท่านจะไม่ถูกตำหนิ อย่ากล่าวโทษ แล้วท่านจะไม่ถูกกล่าวโทษ จงยกโทษให้ผู้อื่น แล้วท่านจะได้รับการยกโทษ จงให้แก่ผู้อื่น และท่านจะได้รับในจำนวนที่อัดเขย่าให้แน่นจนล้นบนตัก ด้วยว่าท่านตวงให้ไปเท่าใด ท่านก็จะได้รับกลับในจำนวนเท่านั้น” พระองค์กล่าวเป็นอุปมาแก่เขาว่า “คนตาบอดสามารถนำทางให้คนตาบอดได้หรือไม่ ทั้งสองจะไม่พากันตกลงในบ่อหรือ ศิษย์จะไม่เหนือไปกว่าอาจารย์ แต่ทุกคนที่ได้รับการอบรมฝึกฝนครบถ้วนจะเป็นดังเช่นอาจารย์ของเขา เหตุใดท่านจึงมองเห็นผงในดวงตาของพี่น้องของท่าน แต่ไม่สังเกตเห็นไม้ท่อนใหญ่ในดวงตาของท่านเอง ท่านพูดกับพี่น้องของท่านได้อย่างไรว่า ‘พี่น้องเอ๋ย ให้เราเขี่ยผงออกจากดวงตาของท่านเถิด’ ทั้งๆ ที่ตัวท่านไม่สามารถเห็นไม้ท่อนใหญ่ในดวงตาของท่านเอง คนหน้าไหว้หลังหลอกเอ๋ย ท่านต้องเอาไม้ท่อนใหญ่ออกจากดวงตาของท่านเสียก่อน จึงจะเห็นอย่างชัดเจน แล้วจะได้เขี่ยผงออกจากดวงตาของพี่น้องของท่านได้ ไม้ดีย่อมไม่ให้ผลเลว ไม้เลวจะให้ผลดีก็ไม่ได้เช่นกัน ด้วยว่า เราดูชนิดของต้นไม้ได้จากผลของมัน เราไม่สามารถเก็บผลมะเดื่อจากพืชพันธุ์ไม้มีหนาม หรือองุ่นจากพุ่มไม้ประเภทหนามได้ คนดีย่อมแสดงสิ่งดีที่สะสมอยู่ในใจของเขาออกมา และคนชั่วย่อมแสดงสิ่งชั่วที่สะสมอยู่ในใจของเขาออกมาเช่นกัน เพราะว่าปากย่อมพูดแต่สิ่งที่อยู่ในใจ ทำไมท่านจึงเรียกเราว่า ‘พระองค์ท่าน พระองค์ท่าน’ แต่ไม่ทำตามที่เราพูด เราจะชี้แจงให้ท่านเข้าใจว่า ทุกคนที่มาหาเรา ได้ยินคำของเราและปฏิบัติตาม เขาจะเป็นเช่นไร เขาเหมือนกับคนที่กำลังสร้างบ้านหลังหนึ่ง และขุดลึกลงไปเพื่อวางฐานรากบนหิน เมื่อน้ำท่วม กระแสน้ำก็ซัดสาดขึ้นมา แต่ก็มิอาจขยับบ้านได้ เพราะว่าเป็นบ้านที่สร้างไว้อย่างดี แต่ผู้ที่ได้ยินคำของเราและไม่ปฏิบัติตาม ก็เปรียบเสมือนคนที่สร้างบ้านบนพื้นซึ่งไม่มีฐานราก เมื่อกระแสน้ำซัดมาบ้านก็พังทลายลงได้ และความเสียหายนั้นยิ่งใหญ่นัก”
อ่าน ลูกา 6
แบ่งปัน
เปรียบเทียบพระคัมภีร์ทั้งหมด: ลูกา 6:24-49
บันทึกข้อพระคำ อ่านแบบออฟไลน์ ดูคลิปการสอน และอื่น ๆ อีกมากมาย!
หน้าหลัก
พระคัมภีร์
แผนการอ่านต่างๆ
วิดีโอ