เลือดจะเป็นหมายสำคัญของพวกเจ้า เวลาเราเห็นเลือดติดบ้านที่เจ้าอยู่ เราจะผ่านเลยไป โดยจะไม่มีภัยพิบัติเกิดแก่เจ้าในเวลาที่เรากำราบแผ่นดินอียิปต์ วันนี้จะเป็นวันที่เจ้าควรรำลึก และฉลองเพื่อเป็นวาระเทศกาลแด่พระผู้เป็นเจ้าโดยทั่วทุกชาติพันธุ์ของเจ้า เจ้าจงรักษากฎเกณฑ์นี้ไปตลอดกาล จงรับประทานขนมปังไร้เชื้อในระยะ 7 วัน วันแรกจงกำจัดเชื้อยีสต์ไม่ให้ตกค้างอยู่ในบ้านเจ้า เพราะถ้าใครรับประทานสิ่งที่มีเชื้อยีสต์ในระยะตั้งแต่วันแรกจนถึงวันที่เจ็ด คนนั้นจะถูกตัดขาดจากอิสราเอล ในวันแรกจงมีการประชุมอันบริสุทธิ์ และวันที่เจ็ดก็เช่นกัน อย่าทำงานใน 2 วันนั้น แต่เตรียมทำอาหารได้สำหรับทุกคนที่ต้องรับประทาน จงฉลองเทศกาลขนมปังไร้เชื้อ เพราะในวันนี้ เราได้นำเผ่าพันธุ์ของเจ้าออกจากแผ่นดินอียิปต์ ฉะนั้น เจ้าจงรักษาวันนี้ให้เป็นกฎเกณฑ์ของทุกชาติพันธุ์ของเจ้าไปตลอดกาล เย็นวันที่สิบสี่ของเดือนแรกนี้ เจ้าจะต้องรับประทานขนมปังไร้เชื้อจนถึงเย็นวันที่ยี่สิบเอ็ดของเดือน อย่าให้มีเชื้อยีสต์หลงเหลืออยู่ในบ้านพวกเจ้าตลอดระยะเวลา 7 วัน เพราะถ้าใครรับประทานสิ่งที่มีเชื้อยีสต์ คนนั้นจะถูกตัดขาดจากมวลชนชาวอิสราเอล ไม่ว่าเขาจะเป็นคนต่างด้าวหรือชาวอิสราเอลโดยกำเนิด อย่ารับประทานสิ่งใดที่มีเชื้อยีสต์ผสมอยู่ ทุกๆ บ้านต้องรับประทานขนมปังไร้เชื้อ” ครั้นแล้ว โมเสสจึงเรียกบรรดาหัวหน้าชั้นผู้ใหญ่ของอิสราเอลมาและกล่าวว่า “จงเลือกลูกแกะเองตามขนาดครอบครัวของท่าน และฆ่าลูกแกะปัสกา ใช้ก้านหุสบจุ่มเลือดที่อยู่ในอ่าง และทาเลือดไว้ที่รอบวงกบประตู และอย่าให้ใครก้าวพ้นประตูบ้านไปจนกว่าจะรุ่งเช้า เพราะพระผู้เป็นเจ้าจะผ่านเข้ามาเพื่อสังหารชาวอียิปต์ เมื่อพระองค์เห็นเลือดที่รอบวงกบประตู พระผู้เป็นเจ้าจะผ่านเลยประตูนั้นไป และจะไม่ปล่อยให้ผู้สังหารเข้าไปในบ้านเพื่อสังหารท่าน จงฉลองพิธีที่ระบุไว้และถือเป็นกฎเกณฑ์ของท่านและลูกหลานตลอดไป เมื่อท่านก้าวเข้าไปถึงดินแดนที่พระผู้เป็นเจ้าจะมอบให้ท่านดังที่พระองค์ได้สัญญาไว้ ท่านจะต้องรักษาพิธีนี้ไว้ และยามที่ลูกหลานของท่านถามว่า ‘พิธีนี้มีความหมายอย่างไรสำหรับท่าน’ จงบอกไปว่า ‘เป็นการถวายเครื่องสักการะแด่พระผู้เป็นเจ้าเนื่องในวันปัสกา เพราะที่อียิปต์พระองค์ได้ผ่านเลยบ้านของชาวอิสราเอลไป ขณะที่พระองค์สังหารชาวอียิปต์ แต่ไว้ชีวิตครอบครัวของพวกเรา’” แล้วชาวอิสราเอลก็ก้มศีรษะลงกราบนมัสการ ชาวอิสราเอลก็ไปปฏิบัติตามคำสั่งของพระผู้เป็นเจ้าที่ให้ไว้กับโมเสสและอาโรน ในเวลาเที่ยงคืน พระผู้เป็นเจ้าพรากชีวิตบุตรหัวปีของชาวอียิปต์ทุกคนทั่วทั้งแผ่นดิน นับจากบุตรหัวปีของฟาโรห์ผู้นั่งบนบัลลังก์จนถึงบุตรหัวปีของเชลยที่อยู่ในคุกใต้ดินรวมถึงลูกสัตว์เลี้ยงตัวแรกทุกตัวด้วย ในคืนนั้นฟาโรห์ ข้าราชบริพารทั้งหลายของท่าน และชาวอียิปต์ทุกคนตื่นขึ้น มีเสียงร้องระงมสนั่นทั่วแผ่นดินอียิปต์ เพราะไม่มีบ้านใดที่ปราศจากคนตาย ท่านจึงเรียกตัวโมเสสและอาโรนมาพบในคืนนั้นและกล่าวว่า “ไปได้แล้ว จงไปให้พ้นจากประชาชนของเรา ทั้งพวกเจ้าและชาวอิสราเอล ไปนมัสการพระผู้เป็นเจ้าตามที่เจ้าพูดไว้ แล้วก็พาฝูงแพะแกะ และโคของเจ้าไปตามที่เคยพูดไว้ ไปให้พ้นๆ แล้วพวกเจ้าก็จงให้พรเราด้วย” ชาวอียิปต์สนับสนุนให้ผู้คนเร่งออกไปจากแผ่นดินโดยเร็ว พวกเขาพูดกันว่า “ถ้าหากท่านไม่ไป พวกเราก็จะต้องตายกันหมด” ดังนั้นพวกเขาจึงเอาแป้งนวดแล้วใส่ไว้ในภาชนะโดยไม่ได้ผสมเชื้อยีสต์ให้แป้งฟู แล้วห่อด้วยเสื้อคลุมแบกไว้บนบ่า ชาวอิสราเอลก็ได้ทำตามที่โมเสสสั่งพวกเขาไว้ คือพวกเขาได้ขอสิ่งที่ทำด้วยเงินและทองคำ และเสื้อผ้าจากชาวอียิปต์ และพระผู้เป็นเจ้าได้ทำให้ผู้คนของพระองค์เป็นที่พอใจของชาวอียิปต์ และพวกเขาก็ได้ให้สิ่งที่ชาวอิสราเอลขอ นี่เป็นวิธีที่ชาวอิสราเอลริบเอาความมั่งคั่งของชาวอียิปต์ไป ชาวอิสราเอลเดินทางจากเมืองราเมเสสไปถึงเมืองสุคคท นอกจากผู้หญิงและเด็กแล้ว ก็มีชายฉกรรจ์ประมาณ 600,000 คน มีคนชาติอื่นจำนวนมากที่เดินทางขึ้นไปกับพวกเขา และมีฝูงปศุสัตว์ขนาดใหญ่ ฝูงแพะแกะ และโคอีกมากมาย เขาเหล่านั้นใช้แป้งที่นำออกมาจากอียิปต์มาอบเป็นขนมปังไร้เชื้อ เพราะถูกขับไล่ออกจากอียิปต์ทันควัน พวกเขาไม่มีเวลาเตรียมอาหารให้พร้อม ชาวอิสราเอลอาศัยอยู่ในอียิปต์อย่างคนต่างด้าวเป็นเวลา 430 ปี ในวันสุดท้ายของปีที่สี่ร้อยสามสิบ เผ่าพันธุ์ของพระผู้เป็นเจ้าได้ไปพ้นจากแผ่นดินอียิปต์ คืนนั้นเป็นคืนที่พระผู้เป็นเจ้าคอยปกป้องดูแล เพื่อพาพวกเขาออกไปจากแผ่นดินอียิปต์ ดังนั้นเวลาค่ำวันนี้ของทุกปีชาวอิสราเอลจึงถือรักษาไว้ไปจนถึงทุกชั่วอายุคนเพื่อเป็นเกียรติแด่พระผู้เป็นเจ้า พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับโมเสสและอาโรนว่า “กฎเทศกาลปัสกาเป็นดังนี้คือ อย่าให้ชนชาติอื่นร่วมรับประทานในพิธีปัสกา แต่ทาสทุกคนที่เจ้าซื้อมาได้ด้วยเงินสามารถรับประทานได้ต่อเมื่อเขาได้เข้าสุหนัตแล้ว ผู้มาเยือนชั่วคราวหรือคนรับจ้างก็อย่าให้รับประทานด้วย จะต้องรับประทานในบ้าน อย่านำเอาเนื้อออกไปนอกบ้าน อย่าหักกระดูกสักชิ้นเดียว ชาวอิสราเอลทั้งมวลจะถือรักษากฎนี้ไว้ เวลาชาวต่างด้าวมาอาศัยอยู่กับเจ้าและอยากจะฉลองปัสกาให้เกียรติแด่พระผู้เป็นเจ้า ก็ให้ชายทุกคนของพวกเขาเข้าสุหนัตก่อน แล้วจึงจะเข้าใกล้และร่วมพิธีด้วยได้ และเขาจะเป็นเหมือนกับทุกคนที่เป็นชาวอิสราเอลแต่กำเนิด ส่วนคนที่ไม่ได้เข้าสุหนัตก็อย่าให้รับประทาน กฎเกณฑ์เดียวกันนี้ใช้สำหรับคนที่เป็นชาวอิสราเอลโดยกำเนิดและชาวต่างด้าวที่อพยพมาอาศัยอยู่ท่ามกลางพวกเจ้า” ชาวอิสราเอลทุกคนจึงทำตามที่พระผู้เป็นเจ้าสั่งไว้กับโมเสสและอาโรน และในวันเดียวกันนั้นเอง พระผู้เป็นเจ้านำชาวอิสราเอลออกจากแผ่นดินอียิปต์โดยแยกกองเหมือนกองทัพตามเผ่าพันธุ์
อ่าน อพยพ 12
แบ่งปัน
เปรียบเทียบฉบับแปลทั้งหมด: อพยพ 12:13-51
บันทึกข้อพระคำ อ่านแบบออฟไลน์ ดูคลิปการสอน และอื่น ๆ อีกมากมาย!
หน้าหลัก
พระคัมภีร์
แผนการอ่าน
วิดีโอ