ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์ได้สำรวจข้าพเจ้า และรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะนั่งลงหรือลุกขึ้น พระองค์ก็รู้ ข้าพเจ้าคิดอะไรอยู่ พระองค์ก็เข้าใจแม้พระองค์จะอยู่ห่างไกล ไม่ว่าข้าพเจ้าจะไปที่ไหนหรือนอนที่ไหน พระองค์ก็เฝ้ามองอยู่ ข้าพเจ้าทำอะไร พระองค์ก็รับรู้หมด ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์รู้ว่าข้าพเจ้าจะพูดอะไรก่อนที่ลิ้นของข้าพเจ้าจะพูดเสียอีก พระองค์อยู่รอบตัวข้าพเจ้าทั้งหน้าหลัง พระองค์วางมืออยู่บนข้าพเจ้า ความรู้ของพระองค์น่าทึ่งเหลือเกินสำหรับข้าพเจ้า สูงส่งเกินกว่าที่ข้าพเจ้าจะเข้าใจได้ ข้าพเจ้าจะหนีพระวิญญาณของพระองค์ไปไหนพ้น ข้าพเจ้าหนีหน้าพระองค์ไปไหนได้ ถ้าข้าพเจ้าจะขึ้นไปบนสวรรค์พระองค์ก็อยู่ที่นั่น ถ้าข้าพเจ้านอนลงที่แดนคนตายพระองค์ก็อยู่ที่นั่น ถ้าข้าพเจ้าจะขึ้นมาพร้อมกับดวงอาทิตย์ทางตะวันออก และข้ามขอบฟ้าไปตกอีกฝากหนึ่งของทะเล แม้แต่ที่นั่น มือของพระองค์ก็ยังนำข้าพเจ้า และมือขวาของพระองค์พยุงข้าพเจ้าไว้ ถ้าข้าพเจ้าขอให้ความมืดซ่อนตัวข้าพเจ้าไว้ และขอให้กลางวันกลายเป็นกลางคืนรอบตัวข้าพเจ้า มันก็ยังไม่มืดเกินไปสำหรับพระองค์ สำหรับพระองค์แล้วกลางคืนก็สว่างเหมือนกลางวัน สำหรับพระองค์แล้วกลางคืนและกลางวันไม่แตกต่างกันเลย พระองค์สร้างทั้งจิตและใจของข้าพเจ้า พระองค์ทอข้าพเจ้าเข้าด้วยกันในท้องแม่ ข้าพเจ้าจึงขอบคุณพระองค์เพราะงานของพระองค์นั้นช่างน่าเกรงขามและน่าทึ่ง พระองค์รู้จักข้าพเจ้าอย่างทะลุปรุโปร่ง ตอนที่ข้าพเจ้าถูกก่อขึ้นมาในที่ลึกลับในท้องแม่ ตอนนั้นที่ข้าพเจ้าประกอบเข้าด้วยกันในสถานที่ที่มองไม่เห็น ไม่มีกระดูกสักชิ้นหนึ่งของข้าพเจ้าที่รอดพ้นสายตาของพระองค์ไปได้ ดวงตาของพระองค์มองดูข้าพเจ้าก่อนที่ข้าพเจ้าจะเป็นรูปเป็นร่าง ทุกวันคืนที่พระองค์ให้ข้าพเจ้ามีชีวิตอยู่ พระองค์ได้จดบันทึกไว้แล้วในสมุดของพระองค์ก่อนที่มันจะเกิดขึ้นเสียอีก ข้าแต่พระเจ้า ความคิดทั้งหลายของพระองค์นั้นยากเกินกว่าที่ข้าพเจ้าจะเข้าใจได้ รวมเข้าด้วยกันแล้วมันมากมายจนนับไม่ถ้วน ถ้าข้าพเจ้านับความคิดเหล่านั้นได้ก็คงมีมากกว่าเม็ดทราย ถ้าจะให้ข้าพเจ้านับหมด ข้าพเจ้าคงจะต้องมีชีวิตยืนยาวเท่ากับพระองค์
อ่าน สดุดี 139
แบ่งปัน
เปรียบเทียบฉบับแปลทั้งหมด: สดุดี 139:1-18
บันทึกข้อพระคำ อ่านแบบออฟไลน์ ดูคลิปการสอน และอื่น ๆ อีกมากมาย!
หน้าหลัก
พระคัมภีร์
แผนการอ่าน
วิดีโอ