เนหะมีย์ 13:6-31

เนหะมีย์ 13:6-31 THSV11

เมื่อเกิดเรื่องนี้ข้าพเจ้าไม่ได้อยู่ในเยรูซาเล็ม เพราะข้าพเจ้าได้ไปเฝ้ากษัตริย์อารทาเซอร์ซีสแห่งบาบิโลนในปีที่สามสิบสองแห่งรัชกาลของพระองค์ และต่อมาข้าพเจ้าก็ทูลลากษัตริย์ และมายังเยรูซาเล็ม แล้วข้าพเจ้าจึงทราบความชั่วร้ายซึ่งเอลียาชีบได้ทำเพื่อโทบีอาห์ คือ จัดห้องภายในบริเวณพระนิเวศของพระเจ้าให้เขา ข้าพเจ้าโกรธมาก และข้าพเจ้าก็โยนเครื่องแต่งบ้านทั้งสิ้นของโทบีอาห์ออกเสียจากห้อง แล้วข้าพเจ้าสั่งให้เขาชำระห้อง และข้าพเจ้าก็นำเครื่องใช้ประจำพระนิเวศของพระเจ้า ทั้งธัญบูชากับกำยานกลับมาไว้ที่นั่นอีก และข้าพเจ้ายังทราบอีกว่า ส่วนของคนเลวีนั้นเขาก็ไม่ได้มอบให้ เพราะฉะนั้น คนเลวีและนักร้องผู้ปฏิบัติการงาน ต่างก็หนีกลับไปยังไร่นาของตน ข้าพเจ้าจึงต่อว่าเจ้าหน้าที่และพูดว่า “ทำไมจึงทอดทิ้งพระนิเวศของพระเจ้าเสีย?” ข้าพเจ้าจึงรวบรวมพวกเขากลับมา และตั้งเขาไว้ตามตำแหน่งของเขาอีก และคนยูดาห์ทั้งปวงได้นำทศางค์ที่เป็นข้าว เหล้าองุ่นใหม่ และน้ำมันเข้ามายังโรงพัสดุ ข้าพเจ้าได้แต่งตั้งคนให้ดูแลโรงพัสดุ คือเชเลมิยาห์ปุโรหิต ศาโดกธรรมาจารย์และเปดายาห์คนเลวี และผู้ช่วยของเขา คือ ฮานันบุตรศักเกอร์ผู้เป็นบุตรมัทธานิยาห์ เพราะนับว่าพวกเขาซื่อสัตย์ และหน้าที่ของเขา คือ แจกจ่ายแก่พวกพี่น้อง ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ เกี่ยวกับเรื่องนี้ขอทรงระลึกถึงข้าพระองค์ และขออย่าทรงลบล้างการดีทั้งหลายของข้าพระองค์ที่ข้าพระองค์ได้ทำเพื่อพระนิเวศของพระเจ้าของข้าพระองค์ และเพื่อการปรนนิบัติในที่นั้น ครั้งนั้นในยูดาห์ ข้าพเจ้าเห็นคนย่ำเหล้าองุ่นในวันสะบาโต และนำฟ่อนข้าวบรรทุกหลังลาเข้ามา ทั้งเหล้าองุ่น ผลองุ่น มะเดื่อ และภาระทุกอย่าง ซึ่งเขานำมายังเยรูซาเล็มในวันสะบาโต ข้าพเจ้าได้ตักเตือนเขาทั้งหลายในวันที่เขาขายอาหาร และมีคนชาวไทระอาศัยอยู่ในเมืองได้นำปลาและสินค้าทุกอย่างเข้ามาขายในวันสะบาโตแก่ประชาชนยูดาห์ และในเยรูซาเล็ม แล้วข้าพเจ้าได้ต่อว่าพวกขุนนางแห่งยูดาห์ และพูดกับเขาว่า “ทำไมท่านทั้งหลายทำความชั่วร้ายเช่นนี้ ทำให้วันสะบาโตเป็นมลทิน บรรพบุรุษของท่านไม่ได้ทำเช่นนี้หรือ และพระเจ้าของเราไม่ได้ทรงนำเหตุร้ายนี้ทั้งสิ้นให้ตกอยู่บนเราและบนเมืองนี้หรือ? ท่านยังจะนำพระพิโรธยิ่งกว่านั้นมาเหนืออิสราเอลด้วยการทำให้วันสะบาโตเป็นมลทิน” และต่อมาพอเริ่มมืดที่ประตูเมืองเยรูซาเล็มก่อนวันสะบาโต ข้าพเจ้าสั่งให้ปิดประตูเมือง และสั่งว่า ไม่ให้เปิดจนกว่าจะพ้นวันสะบาโตแล้ว และข้าพเจ้าก็ตั้งข้าราชการบางคนของข้าพเจ้าให้ดูแลประตูเมือง เพื่อไม่ให้นำภาระสิ่งใดเข้ามาในวันสะบาโต แล้วพวกพ่อค้าและพวกขายสินค้าทุกชนิดได้ค้างอยู่นอกเยรูซาเล็มหนสองหน ข้าพเจ้าได้ตักเตือนพวกเขา และพูดกับเขาว่า “ทำไม ท่านมานอนอยู่ข้างกำแพงเมือง ถ้าท่านทำอีกข้าพเจ้าจะจับท่าน” ตั้งแต่นั้นมาเขาก็ไม่มาอีกในวันสะบาโต และข้าพเจ้าสั่งคนเลวีให้ชำระตัวและมาเฝ้าประตูเมือง เพื่อรักษาวันสะบาโตให้บริสุทธิ์ ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอพระองค์ทรงระลึกถึงข้าพระองค์ในเรื่องนี้ และขอทรงพระกรุณาข้าพระองค์ตามความยิ่งใหญ่แห่งความรักมั่นคงของพระองค์ ในสมัยนั้นข้าพเจ้าเห็นพวกยิว ผู้แต่งงานกับหญิงชาวอัชโดด อัมโมน และโมอับ และเด็กของเขาครึ่งหนึ่งพูดภาษาอัชโดด เขาพูดภาษายูดาห์ไม่ได้ แต่พูดภาษาของแต่ละชนชาติ ข้าพเจ้าได้โต้แย้งกับพวกเขา และแช่งเขา และตีเขาบางคน และดึงผมของเขาออก และข้าพเจ้าทำให้เขาปฏิญาณในพระนามของพระเจ้า ข้าพเจ้ากล่าวว่า “เจ้าทั้งหลายอย่ายกลูกสาวของเจ้าให้แก่ลูกชายของเขา หรือรับลูกสาวของเขาให้แก่ลูกชายของเจ้า หรือตัวเจ้าเอง ซาโลมอนกษัตริย์แห่งอิสราเอล ไม่ได้ทำบาปด้วยเรื่องหญิงอย่างนี้หรือ ท่ามกลางบรรดาประชาชาติ ไม่มีกษัตริย์พระองค์ใดเหมือนพระองค์ และพระเจ้าของพระองค์ก็ทรงรักพระองค์ และพระเจ้าทรงกระทำให้พระองค์เป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอลทั้งปวง แม้กระนั้น บรรดาหญิงต่างชาติก็เป็นเหตุให้พระองค์ทรงทำบาป ควรหรือที่เราจะฟังเจ้าและทำความชั่วร้ายใหญ่ยิ่งนี้ทั้งสิ้น และประพฤติทรยศต่อพระเจ้าของเราด้วยการแต่งงานกับหญิงต่างชาติ?” บุตรชายคนหนึ่งของโยยาดา ผู้เป็นบุตรเอลียาชีบมหาปุโรหิต เป็นบุตรเขยของสันบาลลัทชาวโฮโรนาอิม เพราะฉะนั้นข้าพเจ้าจึงขับไล่เขาไปเสียจากข้าพเจ้า ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอทรงระลึกถึงเขาทั้งหลาย เพราะว่าเขาทั้งหลายได้ทำให้การเป็นปุโรหิต และพันธสัญญาของพวกปุโรหิตและคนเลวีเป็นมลทิน ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงชำระพวกเขาจากทุกสิ่งที่เป็นของคนต่างชาติ และข้าพเจ้าได้กำหนดหน้าที่ของบรรดาปุโรหิตและคนเลวี ต่างก็ประจำงานของตน ข้าพเจ้าได้จัดให้หาฟืนถวายตามเวลากำหนดและสำหรับผลรุ่นแรกด้วย ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอทรงระลึกถึงข้าพระองค์ให้เกิดผลดีเถิด