ชื่นชมยินดี (เฉลิมฉลองเทศกาลต้อนรับคริสต์มาส)Sample
สัปดาห์ที่ 4 : วันที่ 3 "พระสิริจงมีแด่พระเจ้า"
ลงลึกในพระคำ
พระสิริของพระเจ้ามักถูกกล่าวถึงในพระคัมภีร์ ซึ่งหมายถึง การแสดงให้เห็นถึงความดีเลิศ และความบริสุทธิ์ของพระเจ้า ผ่านการประสูติของพระเยซู ทูตสวรรค์สามารถเห็นพระสิริของพระเจ้าได้อย่างชัดเจน พวกเขาตระหนักว่า แผนการแห่งความรอดนี้แสดงให้เห็นถึงพระสิริของพระเจ้ามากกว่าสิ่งใดๆ ที่พระองค์เคยทำมาก่อน
ทุกคุณลักษณะของพระเจ้าปรากฏอย่างสมบูรณ์แบบและได้รับการสรรเสริญในชีวิตของพระเยซู เราเห็นฤทธิ์เดชของพระเจ้าได้อย่างชัดเจน เพราะพระเยซูรวมธรรมชาติของพระเจ้าและมนุษย์ไว้ในบุคคลเดียวกันอย่างสมบูรณ์แบบ พระเยซูยังสำแดงให้เราเห็นอีกว่า พระองค์เท่านั้นที่สามารถช่วยกู้มนุษย์และเปลี่ยนแปลงธรรมชาติบาปของพวกเขาได้ เราสามารถเห็นความยุติธรรมของพระเจ้าได้ว่า พระองค์จะไม่ปล่อยให้บาปใดๆ (ไม่ว่าเล็กน้อยเพียงใด) รอดพ้นจากการลงโทษ เมื่อพระเจ้าประทานพระบุตรที่รักของพระองค์ให้ต้องประสบกับความตายอันน่าสยดสยอง และเราเห็นได้ว่า ทุกถ้อยคำของพระเจ้าเกิดขึ้นจริง ทุกสิ่งที่พระเยซูทำนั้นเป็นการทำให้พระสัญญาของพระเจ้าสำเร็จ
พระเจ้าแสดงให้เห็นถึงความรักและความเมตตาของพระองค์ โดยการมอบพระเยซูให้กับเรา พระองค์สำแดงให้เหล่าทูตสวรรค์และมนุษยชาติทั้งโลกเห็นว่า พระองค์มีหัวใจแห่งความรัก แม้กระทั่งต่อคนที่ทำบาปต่อพระองค์ โดยการทำเช่นนี้ พระเจ้าได้ประทานของขวัญอันประเสริฐที่สุดให้แก่เรา คือ การประทานตัวของพระองค์เอง เหล่าทูตสวรรค์ต่างชื่นชมยินดีในการรับใช้พระเจ้าผู้เปี่ยมด้วยความรักและความเมตตากรุณาเช่นนี้
พระเจ้าทรงชื่นชมยินที่จะแสดงพระสิริของพระองค์ให้เราเห็นเหมือนกับที่เหล่าทูตสวรรค์ได้เห็น ความชื่นชมยินดีของเราขึ้นอยู่กับว่าเราสามารถมองเห็นพระสิริของพระเจ้าได้มากแค่ไหน พระเจ้าสร้างเรามาเพื่อถวายพระสิริแด่พระองค์ และเพื่อมีความสุขกับพระองค์ตลอดไป เมื่อพระเจ้าถวายพระสิริแด่พระองค์เอง นั่นก็เพื่อความสุขและประโยชน์สูงสุดของเรา ความสุขของเหล่าทูตสวรรค์ รวมถึงความสุขของเรามาจากการเห็นพระสิริของพระเจ้า
อธิษฐาน
พระเจ้า ขอให้ข้าพระองค์ได้เห็นพระสิริของพระองค์มากขึ้นเรื่อยๆ ขอให้ชีวิตทั้งหมดของข้าพระองค์ได้ถวายเกียรติแด่พระนามของพระองค์ อาเมน
*ในการศึกษาพระคัมภีร์ เราใช้วิธีศึกษาแบบ SOAP ซึ่งย่อมาจาก S (Scripture) พระคัมภีร์, O (Observation) สังเกต, A (Application) ประยุกต์ใช้ และ P (Prayer) อธิษฐาน
1.S - scripture (พระคัมภีร์) เขียนข้อพระคัมภีร์ลงไป คุณจะประหลาดใจกับสิ่งที่พระเจ้าเปิดเผยแก่คุณเพียงแค่ใช้เวลาช้าลงและเขียนสิ่งที่คุณกำลังอ่าน
2.O - observation (สังเกต) คุณเห็นอะไรในข้อที่คุณกำลังอ่าน? เป้าหมายคือใคร? มีคำซ้ำกันมั้ย? คำไหนที่โดดเด่นสำหรับคุณ?
3.A - application (ประยุกต์ใช้) วันนี้พระเจ้ากำลังพูดอะไรกับคุณ? คุณจะนำสิ่งที่คุณเพิ่งอ่านไปประยุกต์ใช้กับชีวิตส่วนตัวของคุณได้อย่างไร? คุณต้องเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง? คุณต้องลงมือทำสิ่งใดหรือไม่?
4.P - prayer (อธิษฐาน) อธิษฐานพระวจนะของพระเจ้าใช้เวลาขอบคุณพระองค์ หากพระองค์ทรงเปิดเผยบางสิ่งแก่คุณในช่วงเวลานี้ผ่านพระคำของพระองค์ อธิษฐานเกี่ยวกับสิ่งนั้น หากพระองค์ทรงเปิดเผยความบาปบางอย่างในชีวิตของคุณ สารภาพมัน และจำไว้ว่าพระองค์ทรงรักคุณอย่างสุดซึ้ง
Scripture
About this Plan
คุณเคยสงสัยไหมว่า ทำไมเราถึงมีการเฉลิมฉลองและร้องเพลงมากมายในช่วงเทศกาลต้อนรับคริสต์มาส? ในคริสตจักรทั่วโลก ในหลายภาษาและตลอดหลายศตวรรษ มีการร้องเพลงคริสต์มาสมากมายนับไม่ถ้วน ความจริงแล้ว ไม่มีใครในประวัติศาสตร์ที่ได้รับการแต่งเพลงเกี่ยวกับวันเกิดของเขามากเท่ากับพระเยซูชาวนาซาเร็ธ ไม่มีใครสามารถเทียบเคียงพระองค์ได้เลย เรารู้ว่าทำไมเราจึงร้องเพลงในช่วงคริสต์มาส เพราะพระเจ้าได้เสด็จลงมาหาเรา! พระองค์ละทิ้งสวรรค์และมาตามหามนุษย์ผู้หลงหายทุกคน เพราะพระองค์รักเรา เพลงคริสต์มาสที่เก่าแก่ที่สุดไม่ได้แต่งโดยบาคหรือแฮนเดล และไม่ได้มีชื่อว่า “ยามราตรี ศรีหรรษา” หรือ “พระทรงบังเกิด โลกจงยินดี” เพลงแรกๆ เกี่ยวกับการเกิดของพระผู้ช่วยให้รอดของเรา ถูกบันทึกไว้ในพระกิตติคุณลูกา ซึ่งขับร้องโดยชาวยิวในศตวรรษที่ 1 ได้แก่ มารีย์, เศคาริยาห์, สิเมโอน รวมถึงคณะนักร้องจากสวรรค์อันน่าทึ่ง ซึ่งเสียงของบทเพลงนั้นต้องมหัศจรรย์และวิเศษมากแน่ๆ! เราจะใช้เวลา 4 สัปดาห์ ในการฟังชาวยิวผู้ศรัทธาและเหล่าทูตสวรรค์ แสดงความยินดีกับการเกิดของพระเมสสิยาห์ที่พวกเขารอคอยมานาน คุณสามารถค้นเนื้อหาของ “ชื่นชมยินดี” เพิ่มเติมได้ที่โพสต์บล็อกและกลุ่มชุมชนออนไลน์ ในขณะที่เราขุดลึกลงไปในพระวจนะของพระเจ้าด้วยกัน และเรียนรู้วิธีสรรเสริญพระผู้ช่วยให้รอดของเราในช่วงเทศกาลต้อนรับคริสต์มาสนี้และตลอดทั้งปี
More